ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ดิสเลกเซียไม่อาจขัดขวางผมได้

ดิสเลกเซียไม่อาจขัดขวางผมได้

ดิสเลกเซีย​ไม่​อาจ​ขัด​ขวาง​ผม​ได้

เล่า​โดย​มีคัล เฮนโบ

ผม​มี​ความ​บกพร่อง​ใน​ด้าน​การ​เรียน​รู้​ชนิด​ที่​เรียก​ว่า ดิสเลกเซีย. ความ​บกพร่อง​ดัง​กล่าว​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​กับ​คุณ​พ่อ, คุณ​แม่, และ​น้อง​ชาย​สาม​คน​ด้วย ทำ​ให้​เป็น​เรื่อง​ยาก​สำหรับ​ผม​ที่​จะ​อ่าน​หนังสือ​ภาษา​เดนมาร์ก ซึ่ง​เป็น​ภาษา​ของ​ผม​เอง และ​การ​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ก็​กลาย​เป็น​เรื่อง​ที่​ต้อง​บากบั่น​พยายาม​อย่าง​แท้​จริง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​และ​กำลังใจ​อย่าง​มาก โดย​เฉพาะ​จาก​ครอบครัว​ของ​ผม.

ครอบครัว​ของ​ผม​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มา​สี่​รุ่น​แล้ว และ​การ​อ่าน​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​คัมภีร์​ไบเบิล​รวม​ทั้ง​คู่มือ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​นั้น​เป็น​ส่วน​ที่​สำคัญ​เสมอ​ใน​ชีวิต​ของ​เรา. ผม​และ​เฟลมมิง น้อง​ชาย​ของ​ผม​ยัง​ไป​ทำ​งาน​เผยแพร่​ด้วย​กัน​กับ​คุณ​พ่อ​เป็น​ประจำ ซึ่ง​งาน​นี้​ทำ​ให้​เรา​สำนึก​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​การ​อ่าน​และ​การ​เขียน​ได้​ดี.

เมื่อ​เป็น​เด็ก ผม​อ่าน​วารสาร​หอสังเกตการณ์ และ​ตื่นเถิด! ทุก​ฉบับ โดย​อาจ​ใช้​เวลา​ถึง 15 ชั่วโมง​ใน​การ​อ่าน​วารสาร​ฉบับ​หนึ่ง! นอก​จาก​นี้ ผม​เริ่ม​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทั้ง​เล่ม. ผม​ยัง​เป็น​นัก​เรียน​ใน​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​มี​การ​จัด​ขึ้น​ที่​หอ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทั่ว​โลก. โรง​เรียน​นี้​ฝึก​อบรม​นัก​เรียน​ให้​อ่าน​และ​พูด​ได้​เป็น​อย่าง​ดี ทั้ง​ยัง​ให้​นัก​เรียน​บรรยาย​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง​ด้วย. การ​จัด​เตรียม​ทั้ง​หมด​นี้​ช่วย​ผม​เป็น​อย่าง​มาก​ใน​การ​ต่อ​สู้​กับ​ดิสเลกเซีย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​ไม่​นึก​เลย​ว่า​ผม​จะ​ต้อง​เผชิญ​กับ​ข้อ​ท้าทาย​อีก​หลาย​ประการ. ผม​ขอ​เล่า​ให้​ฟัง.

การ​เรียน​ภาษา​อังกฤษ

ใน​ปี 1988 เมื่อ​ผม​อายุ 24 ปี ผม​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์ หรือ​ผู้​เผยแพร่​ข่าว​ดี​ประเภท​เต็ม​เวลา. เนื่อง​จาก​มี​ผู้​อพยพ​มา​อยู่​ที่​เดนมาร์ก​เป็น​จำนวน​มาก ผม​จึง​ต้องการ​แบ่ง​ปัน​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​แก่​พวก​เขา. แต่​เพื่อ​จะ​ทำ​งาน​นั้น​ได้​อย่าง​บังเกิด​ผล​จริง ๆ ผม​ต้อง​เรียน​ภาษา​อังกฤษ ซึ่ง​เป็น​โครงการ​ที่​ยาก​มาก​สำหรับ​ผม. กระนั้น โดย​ความ​อุตสาหะ​พยายาม​และ​การ​ศึกษา​ที่​ผม​ทำ​เอง​เป็น​ส่วน​ตัว ผม​ก็​ก้าว​หน้า​ขึ้น​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย และ​ใน​ที่​สุด​ผม​สามารถ​แบ่ง​ปัน​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​กับ​ชาว​ต่าง​ชาติ​ที่​ใช้​ภาษา​อังกฤษ​ใน​เมือง​โคเปนเฮเกน​ซึ่ง​เป็น​บ้าน​เกิด​ของ​ผม. แน่​ล่ะ ผม​พูด​ผิด​หลาย​ต่อ​หลาย​ครั้ง แต่​ผม​ไม่​ยอม​ให้​เรื่อง​นี้​มา​หยุด​ยั้ง​ผม.

นอก​จาก​นี้ การ​ที่​ผม​รู้​ภาษา​อังกฤษ​ยัง​ช่วย​ผม​ให้​สามารถ​ทำ​งาน​เป็น​อาสา​สมัคร​ใน​โครงการ​ก่อ​สร้าง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​หลาย​ดินแดน​ด้วย. ที​แรก​ผม​ถูก​ส่ง​ไป​ประเทศ​กรีซ และ​จาก​นั้น​ผม​ได้​ไป​ช่วย​ใน​การ​ก่อ​สร้าง​สำนักงาน​สาขา​ที่​กรุง​มาดริด ประเทศ​สเปน.

เนื่อง​จาก​ผม​ต้องการ​ทำ​งาน​เผยแพร่​ให้​มาก​ขึ้น ผม​จึง​ยื่น​ใบ​สมัคร​เพื่อ​เข้า​โรง​เรียน​ฝึก​อบรม​เพื่อ​งาน​รับใช้ ซึ่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​จัด​ขึ้น. โรง​เรียน​นี้​จัด​การ​อบรม​พิเศษ​เป็น​เวลา​แปด​สัปดาห์​สำหรับ​ผู้​ชาย​คริสเตียน​ที่​เป็น​โสด ซึ่ง​เต็ม​ใจ​รับ​งาน​มอบหมาย​ใน​ที่​ซึ่ง​มี​ความ​ต้องการ​ผู้​เผยแพร่​ข่าว​ดี​มาก​กว่า. (มาระโก 13:10) ผม​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​ร่วม​ใน​ชั้น​เรียน​ที่​จัด​ขึ้น​เป็น​ภาษา​อังกฤษ​ใน​สวีเดน.

ชั้น​เรียน​นี้​เริ่ม​ใน​วัน​ที่ 1 กันยายน 1994. ผม​ต้องการ​จะ​เตรียม​ตัว​เป็น​อย่าง​ดี ผม​จึง​ศึกษา​ภาษา​อังกฤษ​วัน​ละ​สี่​ชั่วโมง​เป็น​เวลา​แปด​เดือน และ​ผม​ไป​สมทบ​กับ​ประชาคม​ที่​ใช้​ภาษา​อังกฤษ. เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​โรง​เรียน​นี้​เริ่ม​เปิด​อบรม ผม​ไม่​ยอม​ให้​ดิสเลกเซีย​มา​เป็น​อุปสรรค​กีด​ขวาง​ความ​ก้าว​หน้า​ของ​ผม. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​ผู้​สอน​ตั้ง​คำ​ถาม ผม​มัก​จะ​ยก​มือ​ตอบ​บ่อย ๆ แม้​ผม​ไม่​แน่​ใจ​เสีย​ที​เดียว​ว่า​จะ​ใช้​คำ​ได้​ถูก​ต้อง​หรือ​ไม่. หลัง​จาก​เสร็จ​สิ้น​การ​อบรม ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​โคเปนเฮเกน. การ​เรียน​ภาษา​อังกฤษ​เป็น​ข้อ​ท้าทาย​ที่​ใหญ่​หลวง แต่​มี​ข้อ​ท้าทาย​ที่​ใหญ่​กว่า​นั้น​รอ​ผม​อยู่.

การ​เรียน​ภาษา​ทมิฬ

ใน​เดือน​ธันวาคม 1995 ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​สมทบ​กับ​ประชาคม​ที่​ใช้​ภาษา​ทมิฬ​ใน​เมือง​เฮอร์นิง​ของ​เดนมาร์ก. ผม​คิด​ว่า​ภาษา​ทมิฬ​เป็น​ภาษา​ที่​ยาก​ที่​สุด​ใน​โลก​ภาษา​หนึ่ง. ภาษา​นี้​มี​ตัว​อักษร 31 ตัว ทั้ง​ยัง​มี​การ​นำ​พยัญชนะ​และ​สระ​มา​ผสม​กัน​จน​กลาย​เป็น​อักษร​แบบ​ผสม ซึ่ง​ทำ​ให้​มี​ตัว​อักษร​ทั้ง​หมด​เกือบ 250 ตัว!

ตอน​แรก ผม​บรรยาย​ต่อ​ประชาคม​เป็น​ภาษา​เดนมาร์ก​และ​มี​การ​แปล​เป็น​ภาษา​ทมิฬ. ใน​ที่​สุด​เมื่อ​ผม​บรรยาย​โดย​ใช้​ภาษา​ทมิฬ ผม​สงสัย​อยู่​ว่า​จะ​มี​ใคร​เข้าใจ​ที่​ผม​พูด​ไหม. กระนั้น ผู้​ฟัง​ก็​ตั้งใจ​ฟัง​ด้วย​ความ​นับถือ​แม้​ว่า​หลาย​คน​ดู​เหมือน​จะ​รู้สึก​ขำ ๆ อยู่​บ้าง. เพื่อ​ผม​จะ​เรียน​รู้​ได้​เร็ว​ขึ้น ผม​จึง​ตัดสิน​ใจ​ไป​ยัง​ประเทศ​ที่​มี​คน​พูด​ภาษา​ทมิฬ​หลาย​ล้าน​คน ซึ่ง​ก็​คือ​ศรีลังกา.

เมื่อ​ผม​มา​ถึง​ศรีลังกา​ใน​เดือน​ตุลาคม 1996 ประเทศ​นี้​กำลัง​เกิด​สงคราม​กลาง​เมือง. ช่วง​หนึ่ง ผม​อาศัย​อยู่​ที่​วาวูนิยา​เมือง​ซึ่ง​อยู่​ตรง​ชายแดน​ระหว่าง​สอง​ฝ่าย​ที่​กำลัง​สู้​รบ​กัน. พยาน​ฯ ใน​ท้องถิ่น​นั้น​ยาก​จน​มาก แต่​ความ​รัก​และ​น้ำใจ​รับรอง​แขก​ของ​พวก​เขา​กลับ​มี​มาก​อย่าง​ล้น​เหลือ และ​พวก​เขา​บากบั่น​พยายาม​ที่​จะ​สอน​ภาษา​ทมิฬ​ให้​ผม. คน​ที่​ไม่​ได้​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ประทับใจ​มาก​ที่​เห็น​ว่า ผม​ซึ่ง​เป็น​ชาว​ตะวัน​ตก​เพียง​คน​เดียว​ใน​เขต​นั้น​ได้​พยายาม​ที่​จะ​พูด​คุย​ใน​ภาษา​ของ​พวก​เขา. ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​และ​ทัศนะ​ที่​ถ่อม​ใจ​ของ​พวก​เขา​ทำ​ให้​เป็น​เรื่อง​ง่าย​ขึ้น​สำหรับ​ผม​ที่​จะ​พูด​คุย​กับ​พวก​เขา​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล.

ใน​เดือน​มกราคม 1997 ผม​ต้อง​กลับ​ไป​ที่​เดนมาร์ก และ​ใน​ปี​ต่อ​มา​ผม​ก็​ได้​แต่งงาน​กับ​คามิลลา ไพโอเนียร์​คน​หนึ่ง. ผม​รู้สึก​อยาก​กลับ​ไป​ที่​ศรีลังกา​เหลือ​เกิน ดัง​นั้น ใน​เดือน​ธันวาคม 1999 ผม​จึง​กลับ​ไป แน่​ล่ะ คราว​นี้​ผม​พา​ภรรยา​ไป​ด้วย. ไม่​นาน เรา​ก็​ได้​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​หลาย​คน​และ​หลาย​ครอบครัว และ​เรา​ก็​ไป​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​เป็น​คน​ท้องถิ่น เพื่อ​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​นัก​ศึกษา​ของ​พวก​เขา. เรา​ทุ่มเท​ตัว​เอง​อย่าง​เต็ม​ที่​ทั้ง​ใน​งาน​เผยแพร่​และ​ใน​เรื่อง​ภาษา.

ใน​เดือน​มีนาคม 2000 เรา​ต้อง​กลับ​ไป​ที่​เดนมาร์ก. เนื่อง​จาก​เรา​รัก​พวก​เขา​มาก​ขึ้น​ทุก​ที การ​แยก​จาก​เพื่อน​พยาน​ฯ และ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​ยาก​ยิ่ง​สำหรับ​เรา. แต่​ยัง​มี​งาน​อีก​มาก​รอ​เรา​อยู่ รวม​ทั้ง​ข้อ​ท้าทาย​ใน​การ​เรียน​อีก​ภาษา​หนึ่ง!

จาก​ภาษา​ทมิฬ​สู่​ภาษา​ลัตเวีย

ใน​เดือน​พฤษภาคม 2002 ผม​กับ​คามิลลา​ซึ่ง​ตอน​นั้น​แต่งงาน​กัน​สี่​ปี​แล้ว ได้​รับ​การ​เชิญ​ให้​ไป​เป็น​มิชชันนารี​ใน​ลัตเวีย ประเทศ​ใน​แถบ​ยุโรป​ที่​ตั้ง​อยู่​ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​เดนมาร์ก. คามิลลา​เรียน​ภาษา​ลัตเวีย​เร็ว​มาก​และ​สามารถ​พูด​คุย​ได้​หลัง​จาก​ที่​เรียน​แค่​หก​สัปดาห์! แต่​ผม​เรียน​ไม่​เก่ง​เลย. ที่​จริง จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้​ผม​ก็​ยัง​รู้สึก​ว่า​ผม​ไป​ได้​ไม่​ถึง​ไหน ทั้ง ๆ ที่​ผม​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​ทุก​อย่าง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​เรียน​ภาษา​นี้​ต่อ​ไป. *

คามิลลา​ยัง​คง​สนับสนุน​ผม​อย่าง​มาก และ​เรา​ทั้ง​สอง​ก็​มี​ความ​สุข​กับ​การ​เป็น​มิชชันนารี. ที่​จริง เรา​ได้​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ชาว​ลัตเวีย​หลาย​คน​ที่​เห็น​คุณค่า​ของ​การ​ศึกษา​เช่น​นี้. เมื่อ​ผม​ลืม​คำ​ศัพท์​หรือ​ใช้​ไวยากรณ์​ไม่​ถูก พยาน​ฯ และ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ท้องถิ่น​ก็​พยายาม​ทำ​ความ​เข้าใจ​ใน​สิ่ง​ที่​ผม​พูด​และ​ช่วย​ผม​ด้วย​ความ​อด​ทน. เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​มั่น​ใจ​มาก​ขึ้น​เมื่อ​ผม​ไป​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่ และ​เมื่อ​ผม​บรรยาย​ใน​การ​ประชุม​ของ​คริสเตียน​ด้วย.

เหตุ​ใด​ผม​จึง​รับ​เอา​ข้อ​ท้าทาย​ใน​การ​เรียน​ภาษา​อื่น ใน​เมื่อ​เรื่อง​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​ผม​ต้อง​บากบั่น​อย่าง​หนัก? คำ​เดียว​ก็​คือ​ความ​รัก ซึ่ง​ไม่​ใช่​รัก​ภาษา แต่​รัก​ผู้​คน​ต่าง​หาก. นับ​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​อัน​ยอด​เยี่ยม​ที่​ได้​ช่วยเหลือ​บาง​คน​ให้​มา​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้ และ​ที่​จะ​เข้า​มา​ใกล้​ชิด​พระองค์. และ​ดัง​ที่​บรรดา​มิชชันนารี​ได้​เห็น​กัน​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​ว่า งาน​นี้​บรรลุ​ผล​สำเร็จ​ได้​ดี​กว่า​เมื่อ​เรา​พูด​กับ​คน​อื่น ๆ ด้วย​ภาษา​ของ​เขา​เอง ภาษา​ที่​เข้า​ถึง​หัวใจ​พวก​เขา.

ตลอด​เวลา​หลาย​ปี ผม​กับ​ภรรยา​สามารถ​ช่วย​หลาย​คน​ให้​ได้​รับ​ความ​รู้​ถ่องแท้​เกี่ยว​กับ​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เรา​ไม่​อาจ​จะ​รับ​เกียรติ​นั้น. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น เรา​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​สำหรับ​ผล​ดี​ที่​เรา​ได้​เห็น. ที่​จริง เรา​ก็​แค่​ปลูก​และ​รด​น้ำ แต่​พระเจ้า​ทรง​ทำ​ให้​เมล็ด​แห่ง​ความ​จริง​เติบโต​ขึ้น.—1 โครินท์ 3:6.

เมื่อ​อุปสรรค​อาจ​กลาย​เป็น​คุณประโยชน์

แม้​ว่า​ดิสเลกเซีย​จะ​เป็น​อุปสรรค​สำหรับ​ผม แต่​ก็​นับ​ว่า​มี​ข้อ​ดี​ด้วย. อย่าง​ไร​ล่ะ? เมื่อ​ผม​บรรยาย​ต่อ​ประชาคม​คริสเตียน ผม​แทบ​จะ​ไม่​ดู​ข้อ​ความ​ที่​ผม​เขียน​ไว้​เลย และ​ด้วย​เหตุ​นี้​ผม​จึง​สบ​สายตา​กับ​ผู้​ฟัง​ได้​ดี​กว่า. นอก​จาก​นี้ ผม​ยัง​ใช้​การ​วาด​ภาพ​เป็น​ส่วน​ใหญ่​ซึ่ง​ทำ​ให้​ผม​จด​จำ​ได้​ง่าย​กว่า. ดัง​นั้น ใน​บาง​แง่​มุม สภาพ​ของ​ผม​ได้​ช่วย​ผม​ให้​มี​ทักษะ​ใน​การ​สอน​มาก​ขึ้น.

คริสเตียน​อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “พระเจ้า​ทรง​เลือก​คน​ที่​โลก​ถือ​ว่า​อ่อนแอ​เพื่อ​จะ​ทรง​ทำ​ให้​คน​ที่​แข็งแรง​อับอาย.” (1 โครินท์ 1:27) ความ​บกพร่อง​ใน​ด้าน​การ​อ่าน​ได้​ทำ​ให้​ผม​เป็น “คน​ที่​โลก​ถือ​ว่า​อ่อนแอ” ใน​บาง​แง่​จริง ๆ. แต่​ก็​เช่น​เดียว​กับ​ที่​ผม​และ​คน​อื่น ๆ อีก​หลาย​คน​ได้​เรียน​รู้ พระ​ยะโฮวา​สามารถ​เติม​สิ่ง​ที่​เรา​ขาด​ให้​เต็ม​ได้. เรา​เพียง​แต่​ต้อง​ตั้ง​เป้าหมาย​ที่​สม​เหตุ​สม​ผล, มี​ความ​คาด​หวัง​แบบ​ที่​เจียม​ตน, อธิษฐาน​ขอ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​จาก​พระเจ้า, และ​พยายาม​ทำ​สิ่ง​ที่​เรา​อยาก​ทำ​ให้​สำเร็จ​ลุ​ล่วง.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 18 หลัง​จาก​รับใช้​ใน​ลัตเวีย​ได้​หก​ปี ทั้ง​คู่​ได้​รับ​มอบหมาย​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​ให้​ไป​รับใช้​ที่​กานา.

[กรอบ​หน้า 22]

ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​ดิสเลกเซีย

ดิสเลกเซีย​คือ​อะไร? คำ “ดิสเลกเซีย” มา​จาก​คำ​ภาษา​กรีก​หมาย​ถึง “การ​พูด​ไม่​คล่อง.” ดิสเลกเซีย​เป็น​สภาวะ​ที่​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ชีวิต เป็น​ความ​บกพร่อง​ใน​ด้าน​ภาษา​อย่าง​หนึ่ง โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ด้าน​การ​อ่าน. คน​ที่​เป็น​ดิสเลกเซีย​มัก​จะ​เข้าใจ​ได้​ยาก​ว่า​ตัว​อักษร​กับ​เสียง​ของ​อักษร​ตัว​นั้น​มี​ความ​เกี่ยว​ข้อง​กัน​อย่าง​ไร. แต่​อาการ​ที่​เฉพาะ​เจาะจง​บาง​อย่าง​ก็​อาจ​แตกต่าง​กัน​ไป​ใน​แต่​ละ​คน.

อะไร​เป็น​สาเหตุ​ของ​ดิสเลกเซีย? แม้​ว่า​กรรมพันธุ์​จะ​เป็น​ปัจจัย​อย่าง​หนึ่ง แต่​สาเหตุ​ที่​แน่นอน​จริง ๆ นั้น​ยัง​ไม่​เป็น​ที่​ทราบ​กัน. ขณะ​ที่​การ​ศึกษา​วิจัย​บ่ง​ชี้​ถึง​การ​พัฒนา​และ​การ​ทำ​งาน​ที่​ผิด​ปกติ​ของ​สมอง แต่​โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​ดิสเลกเซีย​มัก​จะ​ไม่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สติ​ปัญญา​หรือ​การ​ขาด​ความ​ปรารถนา​ที่​จะ​เรียน​รู้. ที่​จริง คน​ที่​เป็น​ดิสเลกเซีย​มัก​จะ​มี​พรสวรรค์​ใน​ด้าน​อื่น​ที่​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ใช้​ทักษะ​ใน​ด้าน​ภาษา​มาก​นัก.

ดิสเลกเซีย​รักษา​ได้​โดย​วิธี​ใด? การ​ที่​สามารถ​สังเกต​อาการ​ดิสเลกเซีย​ได้​ตั้ง​แต่​เนิ่น ๆ นั้น​นับ​ว่า​สำคัญ. การ​ฝึก​ทักษะ​ด้าน​ภาษา​ที่​มี​ประสิทธิภาพ​รวม​ถึง​การ​ใช้​ประสาท​สัมผัส​หลาย ๆ อย่าง โดย​เฉพาะ​การ​ฟัง, การ​มอง, และ​การ​สัมผัส. เพื่อ​จะ​พัฒนา​ความ​ก้าว​หน้า​ตาม​ขีด​ความ​สามารถ​ของ​ตน​ได้ นัก​เรียน​หลาย​คน​จำเป็น​ต้อง​มี​ผู้​ช่วย​แบบ​ตัว​ต่อ​ตัว. พวก​เขา​ยัง​อาจ​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​ทาง​อารมณ์​ด้วย​ใน​กรณี​ที่​เกิด​ปัญหา​ยุ่งยาก​ใน​โรง​เรียน. เมื่อ​มี​ผู้​สอน​ที่​ดี​และ​มี​ความ​ขยัน​ขันแข็ง นัก​เรียน​ที่​เป็น​ดิสเลกเซีย​ก็​สามารถ​เรียน​อ่าน​และ​เขียน​ได้​ดี​ที​เดียว. *

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 31 ข้อ​ความ​ที่​กล่าว​ข้าง​ต้น​นี้​อาศัย​ข้อมูล​ที่​ได้​จาก​สมาคม​ดิสเลกเซีย​ระหว่าง​ประเทศ. นอก​จาก​นี้​โปรด​ดู​บทความ “การ​ช่วย​เด็ก​ที่​มี​ความ​บกพร่อง​ใน​ด้าน​การ​เรียน​รู้” ใน​วารสาร​นี้ ฉบับ​เดือน​มกราคม 2009.

[ภาพ​หน้า 23]

กับ​เพื่อน​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ใน​ศรีลังกา

[ภาพ​หน้า 23]

กับ​คามิลลา​ใน​ลัตเวีย