ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

สามสิบปีของการทำงานแปลแบบใต้ดิน

สามสิบปีของการทำงานแปลแบบใต้ดิน

สาม​สิบ​ปี​ของ​การ​ทำ​งาน​แปล​แบบ​ใต้​ดิน

เล่า​โดย โอนา มอตสคูเต

ใน​เดือน​เมษายน 1962 ฉัน​ถูก​พิจารณา​คดี​ใน​ห้อง​ที่​แออัด​ยัดเยียด​ของ​ศาล​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เมือง​ไคลเพดา ลิทัวเนีย ด้วย​ข้อ​หา​อาชญากรรม​ต่อ​สังคม. เดือน​ตุลาคม​ก่อน​หน้า​นี้ ฉัน​ถูก​จับ​กุม​ด้วย​ข้อ​หา​ปฏิบัติ​กิจ​ทาง​ศาสนา​ที่​ถือ​เป็น​อาชญากรรม​ต่อ​ประเทศ​โซเวียต. ฉัน​จะ​เล่า​ให้​ฟัง​ถึง​ความ​เป็น​มา​ของ​การ​ถูก​จับ​กุม​และ​ถูก​คุม​ขัง​เพราะ​การ​ทำ​งาน​แปล​หนังสือ​ต่าง ๆ ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แบบ​ใต้​ดิน.

ฉัน​เกิด​ใน​ภาค​ตะวัน​ตก​ของ​ลิทัวเนีย​เมื่อ​ปี 1930 ไม่​ไกล​จาก​ทะเล​บอลติก. คุณ​แม่​ได้​อธิษฐาน​ก่อน​จะ​คลอด​ฉัน​ว่า​ขอ​ให้​ลูก​ที่​เกิด​มา​โต​ขึ้น​เป็น​แม่ชี. กระนั้น ครั้ง​หนึ่ง​คุณ​แม่​เคย​บอก​ฉัน​ว่า “แม่​จะ​ไม่​มี​วัน​อธิษฐาน​ต่อ​รูป​นัก​บุญ​เปโตร หรือ​รูป​เคารพ​อื่น​ใด​ที่​ไม่​มี​ชีวิต.” เมื่อ​นึก​ถึง​สิ่ง​นี้ ฉัน​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​คุกเข่า​ใน​โบสถ์ แต่​ฉัน​ก็​ยัง​คุกเข่า​ต่อ​หน้า​รูป​ปั้น​พระ​เยซู​บน​ไม้กางเขน​ขณะ​เดิน​กลับ​บ้าน​จาก​โรง​เรียน.

ต่อ​มา ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง จาก​ปี 1939 ถึง 1945 ฉัน​ได้​เห็น​ความ​โหด​ร้าย​ทารุณ​สุด​จะ​พรรณนา​ได้ และ​สิ่ง​นี้​ทำ​ให้​ฉัน​ทุกข์​ใจ​อย่าง​ยิ่ง. วัน​หนึ่ง ระหว่าง​การ​ยึด​ครอง​ของ​พวก​เยอรมัน ฉัน​ได้​ออก​ไป​เก็บ​ลูก​เบอร์รี​ใน​ป่า​กับ​น้า​สาว. เรา​เห็น​หลุม​ที่​ถูก​กลบ​ขนาด​ใหญ่​สอง​หลุม​มี​รอย​เลือด​ใหม่ ๆ เปรอะ​ไป​ทั่ว. เมื่อ​รู้​ว่า​เพิ่ง​มี​ชาว​ยิว​กลุ่ม​หนึ่ง​รวม​ทั้ง​เท​เซ​และ​ซารา​เพื่อน​นัก​เรียน​ของ​ฉัน​ถูก​สังหาร เรา​จึง​ลง​ความ​เห็น​ว่า​สิ่ง​ที่​เรา​พบ​นั้น​คือ​หลุม​ฝัง​ศพ​รวม​ของ​พวก​เขา​นั่น​เอง. ด้วย​ความ​ตะลึงงัน ฉัน​ร้อง​ออก​มา​ว่า “โอ้​พระเจ้า พระองค์​ทรง​ดี​ประเสริฐ! แต่​ทำไม​พระองค์​ยอม​ให้​มี​การ​เข่น​ฆ่า​อย่าง​น่า​สยดสยอง​เช่น​นี้?”

ปี 1949 ฉัน​ได้​จบ​การ​ศึกษา​มัธยม​ปลาย​จาก​โรง​เรียน​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ไคลเพดา​ใกล้​บ้าน​ของ​เรา และ​จาก​นั้น​ฉัน​ก็​ศึกษา​ต่อ​ทาง​ด้าน​ดนตรี. ใน​ปี 1950 ฉัน​เข้า​ร่วม​กลุ่ม​กับ​นัก​ศึกษา​เพื่อ​ทำ​การ​เคลื่อน​ไหว​ทาง​การ​เมือง​แบบ​ใต้​ดิน แต่​ไม่​นาน​ก็​ถูก​หัก​หลัง​และ​ถูก​จับ​พร้อม​กับ​คน​อื่น ๆ อีก 12 คน. ฉัน​ถูก​คุม​ขัง​ใน​ไคลเพดา และ​ที่​นี่​เอง​ที่​ฉัน​ได้​พบ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ครั้ง​แรก.

การ​รู้​จัก​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล

สตรี​วัย​กลาง​คน​คน​หนึ่ง​ถูก​ผลัก​เข้า​มา​ใน​ห้อง​ขัง​ที่​ฉัน​อยู่. เธอ​ยิ้ม​ให้​พวก​เรา​ที่​เป็น​สาว ๆ ทั้ง​เจ็ด​คน​ด้วย​ความ​กรุณา. ฉัน​ถาม​เธอ​ว่า “คุณ​น้า​คะ ปกติ​นัก​โทษ​จะ​มี​ใบ​หน้า​ที่​เศร้า​สร้อย​เมื่อ​ถูก​จับ​เข้า​คุก แต่​คุณ​น้า​กลับ​ยิ้ม! คุณ​น้า​ถูก​จับ​เพราะ​อะไร​คะ?”

เธอ​ตอบ​ว่า “เพราะ​ความ​จริง.”

ฉัน​ถาม​ต่อ​ไป​ว่า “ความ​จริง​อะไร​คะ?”

สตรี​คน​นั้น​ชื่อ​ลิเดีย เพลด์ซูส. เธอ​เป็น​ชาว​เยอรมัน ถูก​จับ​เพราะ​ความ​เชื่อ​ฐานะ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เรา​คุย​เรื่อง​คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​ต่อ​หลาย​เรื่อง. ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ปลอบ​ประโลม​ใจ​ซึ่ง​ลิเดีย​สอน​พวก​เรา​ไม่​เพียง​เปลี่ยน​วิถี​ชีวิต​ของ​ฉัน​เท่า​นั้น แต่​ยัง​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​นัก​โทษ​อีก​สาม​คน​ที่​อยู่​กับ​เรา​ด้วย.

วิธี​ที่​ฉัน​มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​เพิ่ม​มาก​ขึ้น

เนื่อง​จาก​การ​เคลื่อน​ไหว​ทาง​การ​เมือง​แบบ​ใต้​ดิน​เพื่อ​ต่อ​ต้าน​การ​ยึด​ครอง​ของ​โซเวียต ฉัน​จึง​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก 25 ปี และ​ถูก​เนรเทศ​อีก 5 ปี. พวก​พยาน​ฯ ที่​ฉัน​พบ​ขณะ​อยู่​ใน​คุก​และ​ขณะ​ทำ​งาน​ใน​ค่าย​แรงงาน​ที่​ไซบีเรีย​ช่วย​ให้​ความ​รู้​ของ​ฉัน​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​เพิ่ม​พูน​มาก​ขึ้น. พยาน​ฯ เหล่า​นี้​รวม​ทั้ง​ลิเดีย​ถูก​จำ​คุก​เพราะ​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา.

นอก​จาก​มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​เพิ่ม​ขึ้น​ใน​ช่วง​ดัง​กล่าว​แล้ว​ฉัน​ยัง​เผยแพร่​ความ​เชื่อ​ให้​กับ​คน​อื่น ๆ ด้วย. แม้​ฉัน​ไม่​มี​โอกาส​รับ​บัพติสมา​เพื่อ​เป็น​เครื่องหมาย​แสดง​การ​อุทิศ​ตัว​ต่อ​พระเจ้า แต่​นัก​โทษ​คน​อื่น ๆ รวม​ทั้ง​เจ้าหน้าที่​เรือน​จำ​ก็​มอง​ว่า​ฉัน​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง. หลัง​จาก​รับ​โทษ​ได้​แปด​ปี​ฉัน​ก็​ถูก​ปล่อย​ใน​ปี 1958. ฉัน​กลับ​ไป​ลิทัวเนีย​ด้วย​สุขภาพ​ที่​ย่ำแย่ แต่​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​ยะโฮวา​ยัง​เข้มแข็ง​เสมอ.

งาน​แปล​แบบ​ใต้​ดิน​เริ่ม​ต้น

ตอน​นั้น มี​พยาน​ฯ เหลือ​อยู่​ใน​ลิทัวเนีย​เพียง​ไม่​กี่​คน. คน​อื่น ๆ ถูก​จำ​คุก​หรือ​ไม่​ก็​ถูก​เนรเทศ​ไป​ไซบีเรีย. ใน​ปี 1959 มี​พยาน​ฯ สอง​คน​กลับ​มา​จาก​ไซบีเรีย เขา​แนะ​ให้​ฉัน​แปล​หนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ของ​เรา​เป็น​ภาษา​ลิทัวเนีย. ฉัน​ตอบรับ​ข้อ​ท้าทาย​นี้​ด้วย​ความ​ยินดี​โดย​มอง​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ใหญ่​หลวง.

ฉัน​เริ่ม​งาน​แปล​ใน​เดือน​มีนาคม 1960 และ​รับ​บัพติสมา​อย่าง​ลับ ๆ ใน​เดือน​กรกฎาคม​ที่​แม่น้ำ​ดูบี​ซา. เนื่อง​จาก​การ​ต่อ​ต้าน​จาก​พวก​เค​จี​บี (คณะ​กรรมการ​ความ​มั่นคง​แห่ง​โซเวียต) ฉัน​ก็​เลย​ไม่​สามารถ​หา​งาน​เลี้ยง​ตัว​เอง​ได้ ดัง​นั้น​ฉัน​จึง​อาศัย​อยู่​กับ​พ่อ​แม่​ซึ่ง​ทั้ง​สอง​ก็​สนับสนุน​ความ​เชื่อ​ของ​ฉัน. ฉัน​คอย​ดู​แล​ฝูง​วัว​ของ​พ่อ​และ​ของ​เพื่อน​บ้าน​คน​อื่น ๆ. ขณะ​เลี้ยง​วัว ฉัน​ก็​ทำ​งาน​แปล​ไป​ด้วย. ฉัน​มี​ห้อง​ทำ​งาน​ที่​สวย​งาม มี​ตอ​ไม้​เป็น​เก้าอี้​อยู่​กลาง​ผืน​พรม​ที่​เป็น​หญ้า​เขียว​ชอุ่ม. มี​ท้องฟ้า​สี​คราม​เป็น​เพดาน​ห้อง และ​ใช้​ตัก​เป็น​โต๊ะ​เขียน​หนังสือ.

แต่​ฉัน​รู้สึก​ว่า​การ​ทำ​งาน​แปล​ใน​ทุ่ง​โล่ง​ไม่​ปลอด​ภัย เพราะ​เจ้าหน้าที่​เค​จี​บี​หรือ​สาย​สืบ​ของ​พวก​เขา​อาจ​เห็น​ฉัน​ได้​อย่าง​ง่าย​ดาย. ดัง​นั้น เมื่อ​หา​ที่​ที่​ปลอด​ภัย​ซึ่ง​สามารถ​ทำ​งาน​แปล​ได้ ฉัน​จึง​ย้าย​ออก​จาก​บ้าน​คุณ​พ่อ. บาง​ครั้ง ฉัน​ทำ​งาน​ใน​โรง​นา​ที่​มี​สัตว์​เลี้ยง​อยู่​ด้าน​หนึ่ง และ​ฉัน​ก็​พิมพ์ดีด​อยู่​อีก​ด้าน​หนึ่ง.

ฉัน​ต้อง​ทำ​งาน​ตอน​กลางวัน​เพราะ​ไม่​มี​ไฟฟ้า​ใช้. กังหัน​ลม​ที่​สร้าง​ขึ้น​เป็น​พิเศษ​ส่ง​เสียง​ดัง​หึ่ง ๆ ด้าน​นอก​โรง​นา​เพื่อ​กลบ​เสียง​พิมพ์ดีด. พอ​พลบ​ค่ำ ฉัน​จะ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​เย็น. แล้ว​ฉัน​ก็​กลับ​ไป​ที่​โรง​นา​อีก​และ​นอน​หลับ​บน​กอง​หญ้า​แห้ง.

ใน​เดือน​ตุลาคม 1961 ฉัน​ถูก​จับ​พร้อม​ด้วย​พยาน​ฯ อีก​สอง​คน​เมื่อ​งาน​ส่ง​เสริม​กิจกรรม​ทาง​ศาสนา​ที่​ฉัน​ทำ​ถูก​เจ้าหน้าที่​ค้น​หา​จน​พบ. เหตุ​การณ์​นี้​นำ​ไป​สู่​การ​พิจารณา​คดี​ใน​ศาล​เมื่อ​ปี 1962 ซึ่ง​ฉัน​ได้​เอ่ย​ใน​ตอน​ต้น​ของ​บทความ​นี้. เจ้าหน้าที่​อนุญาต​ให้​พิจารณา​คดี​ของ​เรา​อย่าง​เปิด​เผย ซึ่ง​ทำ​ให้​เรา​ดีใจ​ที่​มี​โอกาส​ให้​คำ​พยาน​แก่​ผู้​สังเกตการณ์​หลาย​คน. (มาระโก 13:9) ฉัน​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​สาม​ปี และ​ถูก​ส่ง​ไป​ขัง​ใน​เรือน​จำ​ที่​เมือง​ทาลลินน์ เอสโตเนีย. ตาม​ที่​ฉัน​รู้ ฉัน​เป็น​คน​เดียว​ใน​ตอน​นั้น​ที่​ถูก​คุม​ขัง​ที่​นั่น​เพราะ​ความ​เชื่อ. เจ้าหน้าที่​ฝ่าย​ปกครอง​ใน​เมือง​นั้น​มา​เยี่ยม​ฉัน และ​ฉัน​ได้​เล่า​ให้​พวก​เขา​ฟัง​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ของ​ตน​เอง.

เริ่ม​งาน​แปล​อีก

พอ​ถูก​ปล่อย​จาก​เรือน​จำ​ใน​เอสโตเนีย​เมื่อ​ปี 1964 ฉัน​ก็​กลับ​ไป​ลิทัวเนีย และ​ดำเนิน​การ​แปล​หนังสือ​ของ​เรา​ต่อ​ไป ซึ่ง​ส่วน​ใหญ่​เป็น​การ​แปล​จาก​ภาษา​รัสเซีย​เป็น​ลิทัวเนีย. งาน​แปล​มี​มาก​มาย. แม้​มี​คน​อื่น​ช่วย แต่​ฉัน​ก็​เป็น​คน​เดียว​ที่​เป็น​ผู้​แปล​เต็ม​เวลา​สำหรับ​ภาษา​ลิทัวเนีย. ฉัน​มัก​จะ​ทำ​งาน​สัปดาห์​ละ​เจ็ด​วัน ตั้ง​แต่​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​จน​กระทั่ง​ดวง​อาทิตย์​ตก. หาก​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ช่วยเหลือ ฉัน​คง​ไม่​มี​แรง​ทำ​อย่าง​นั้น​แน่.

เมื่อ​ตระหนัก​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​งาน​นี้ ฉัน​จึง​ต้อง​ระวัง​ตัว​อยู่​เสมอ. พี่​น้อง​คริสเตียน​ทั้ง​ชาย​และ​หญิง​พยายาม​ซ่อน​ฉัน, ให้​สิ่ง​ค้ำจุน​ด้าน​ร่าง​กาย, และ​ปก​ป้อง​ฉัน แม้​การ​ทำ​อย่าง​นั้น​มัก​จะ​เสี่ยง​ต่อ​ความ​ปลอด​ภัย​ของ​ตน​เอง​และ​ครอบครัว. ความ​ร่วม​มือ​ดัง​กล่าว​ทำ​ให้​พวก​เรา​ใกล้​ชิด​กัน​ยิ่ง​ขึ้น. ขณะ​ทำ​งาน ครอบครัว​ที่​ฉัน​พัก​อยู่​ด้วย​จะ​คอย​ระวัง​ดู​คน​ที่​อาจ​รายงาน​เรื่อง​ฉัน. คน​หนึ่ง​จะ​เอา​แท่ง​เหล็ก​ตี​ท่อ​ความ​ร้อน​สอง​ครั้ง​เพื่อ​เป็น​สัญญาณ​เตือน. เมื่อ​ได้​ยิน​เสียง​เตือน ฉัน​จะ​รีบ​ซ่อน​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​บอก​ได้​ว่า​ฉัน​กำลัง​ทำ​อะไร.

ถ้า​รู้สึก​ว่า​บ้าน​ที่​ฉัน​ทำ​งาน​อยู่​กำลัง​ถูก​จับตา​มอง ฉัน​จะ​ย้าย​ไป​อีก​ที่​หนึ่ง​อย่าง​รวด​เร็ว. ตอน​นั้น​การ​มี​เครื่อง​พิมพ์ดีด​โดย​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​จาก​เจ้าหน้าที่​ถือ​เป็น​อาชญากรรม​ร้ายแรง ดัง​นั้น อีก​คน​หนึ่ง​จะ​เอา​เครื่อง​พิมพ์ดีด​ของ​ฉัน​ไป​ยัง​ที่​ทำ​งาน​แห่ง​ใหม่. แล้ว​ฉัน​ก็​จะ​ออก​จาก​ที่​นั่น​ไป​ยัง​ที่​ใหม่ ซึ่ง​มัก​จะ​เป็น​ตอน​กลางคืน.

พระ​ยะโฮวา​ทรง​ปก​ป้อง​ฉัน​อย่าง​แท้​จริง. พวก​เจ้าหน้าที่​แม้​จะ​หา​หลักฐาน​ไม่​พบ​ก็​รู้​ว่า​ฉัน​กำลัง​ทำ​อะไร. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ใน​ปี 1973 เมื่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แปด​คน​ถูก​พิจารณา​คดี อัยการ​ได้​เรียก​ตัว​ฉัน​ไป​ให้​การ. เขา​ถาม​ฉัน​อย่าง​ไม่​อ้อม​ค้อม​ว่า “มอตสคูเต หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา​นี้​คุณ​พิมพ์​หนังสือ​ไป​มาก​น้อย​เท่า​ไร​แล้ว?”

ฉัน​บอก​ว่า​ฉัน​ตอบ​คำ​ถาม​นี้​ไม่​ได้. เขา​ก็​ถาม​อีก​ว่า “แล้ว​คำ​ถาม​แบบ​ไหน​ล่ะ​ที่​คุณ​จะ​ตอบ​ได้?”

“ก็​คำ​ถาม​ที่​ไม่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​งาน​นี้” ฉัน​ตอบ.

สถานการณ์​เปลี่ยน

ช่วง​ปลาย​ทศวรรษ 1980 สถานการณ์​ใน​ลิทัวเนีย​เริ่ม​เปลี่ยน. ไม่​จำเป็น​ต้อง​หลบ​ซ่อน​เจ้าหน้าที่​รัฐบาล​อีก​ต่อ​ไป. ดัง​นั้น ใน​ปี 1990 คน​อื่น ๆ เริ่ม​เข้า​มา​ทำ​งาน​แปล. ครั้น​แล้ว ใน​วัน​ที่ 1 กันยายน 1992 ก็​ได้​มี​การ​จัด​ตั้ง​สำนักงาน​แปล​เล็ก ๆ ขึ้น​ใน​ไคลเพดา เมือง​ที่​ฉัน​อาศัย​อยู่​ใน​ปัจจุบัน.

รวม​ทั้ง​หมด​แล้ว ฉัน​ทำ​งาน​แปล​ได้ 30 ปี และ​อยู่​ใน​ที่​ต่าง ๆ 16 แห่ง. ฉัน​ไม่​มี​บ้าน​เป็น​ของ​ตัว​เอง. แต่​ฉัน​ดีใจ​เหลือ​ล้น​ที่​เห็น​ผล​จาก​งาน​ของ​เรา! ปัจจุบัน มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ลิทัวเนีย​ประมาณ 3,000 คน. และ​งาน​แปล​ที่​ฉัน​เคย​ทำ​ขณะ​หลบ​ซ่อน​อยู่​ใน​โรง​นา​และ​ห้อง​ใต้​หลังคา บัด​นี้​กำลัง​ดำเนิน​อยู่​ใน​สำนักงาน​สาขา​ลิทัวเนีย​ที่​สะดวก​สบาย​ใกล้ ๆ เมือง​คาอูนัส.

ฉัน​ยัง​จำ​การ​พบ​ปะ​ครั้ง​พิเศษ​ใน​ห้อง​ขัง​อัน​หนาว​เย็น​ที่​เมือง​ไคลเพดา​ได้​อย่าง​ดี​เมื่อ​เกือบ 60 ปี​มา​แล้ว. การ​พบ​ครั้ง​นั้น​ได้​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​ฉัน! ฉัน​จะ​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​พระ​ผู้​สร้าง​องค์​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​เรา​เสมอ​ที่​ฉัน​ได้​พบ​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​พระองค์​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์ และ​ที่​ได้​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระองค์​เพื่อ​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​นั้น.

[คำ​โปรย​หน้า 13]

ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล ที่​ปลอบ​ประโลม​ใจ​ซึ่ง​ลิเดีย​ได้​สอน​พวก​เรา​ทั้ง​สี่​คน​ขณะ​อยู่​ใน​คุก​ได้​เปลี่ยน​ชีวิต​พวก​เรา

[ภาพ​หน้า 12]

การ​พิจารณา​คดี​ของ​ฉัน​ถูก​ตี​พิมพ์​เป็น​ข่าว​ใน​หนังสือ​พิมพ์​ของ​โซเวียต​เมื่อ​ปี 1962

[ภาพ​หน้า 14, 15]

หนังสือ​บาง​เล่ม​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ฉัน​แปล​แม้​จะ​เสี่ยง​ต่อ​อิสรภาพ​ของ​ตัว​เอง

[ภาพ​หน้า 15]

ลิเดีย​ช่วย​ฉัน​ให้​รู้​จัก​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ขณะ​อยู่​ใน​คุก

[ภาพ​หน้า 15]

พยาน​ฯ สอง​คน (ด้าน​ซ้าย) สอน​ฉัน​ให้​รู้​จัก​พระเจ้า​มาก​ขึ้น​ขณะ​อยู่​ใน​ค่าย​คุม​ขัง​ที่​เขต​ฮาบารอฟสค์ รัสเซีย ปี 1956

[ภาพ​หน้า 15]

เครื่อง​พิมพ์ดีด​ที่​ฉัน​ใช้​ขณะ​ทำ​งาน​ภาย​ใต้​การ​สั่ง​ห้าม