ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บท 21

พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า”

พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า”

1-3. คน​ที่​เคย​เป็น​เพื่อน​บ้าน​ของ​พระ​เยซู​มี​ท่าที​ยังไง​กับ​สิ่ง​ที่​ท่าน​สอน และ​ทำไม?

 ตอน​ที่​พระ​เยซู​สอน​ใน​ที่​ประชุม​ของ​คน​ยิว ผู้​คน​ที่​อยู่​ที่​นั่น​รู้สึก​ทึ่ง​มาก พวก​เขา​รู้​จัก​ท่าน​ดี เพราะ​ท่าน​โต​มา​ใน​เมือง​นั้น และ​ทำ​งาน​เป็น​ช่าง​ไม้​อยู่​หลาย​ปี พวก​เขา​บาง​คน​อาจ​จะ​อยู่​ใน​บ้าน​ที่​พระ​เยซู​ช่วย​สร้าง หรือ​เป็น​ชาว​ไร่​ชาว​นา​ที่​ทำ​งาน​โดย​ใช้​คัน​ไถ​และ​แอก​ที่​ท่าน​ทำ a แต่​พวก​เขา​จะ​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​ได้​ยิน​คน​ที่​เคย​เป็น​ช่าง​ไม้​คน​นี้​สอน?

2 คน​ส่วน​ใหญ่​ที่​ได้​ยิน​ท่าน​สอน​รู้สึก​ประหลาด​ใจ เลย​ถาม​กัน​ว่า “คน​นี้​ไป​ได้​สติ​ปัญญา​มา​จาก​ไหน?” แต่​ก็​มี​บาง​คน​บอก​ว่า “เขา​เป็น​ช่าง​ไม้ ลูก​ชาย​มารีย์” (มัทธิว 13:54-58; มาระโก 6:1-3) น่า​เสียดาย คน​ที่​เคย​เป็น​เพื่อน​บ้าน​ของ​พระ​เยซู​อาจ​จะ​คิด​ว่า ‘คน​นี้​ก็​เป็น​แค่​ช่าง​ไม้​ใน​เมือง​ของ​เรา​และ​เขา​ก็​ไม่​ได้​เป็น​คน​พิเศษ​อะไร’ ถึง​สิ่ง​ที่​ท่าน​สอน​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ถึง​สติ​ปัญญา พวก​เขา​ก็​ปฏิเสธ​ท่าน​อยู่​ดี พวก​เขา​ไม่​รู้​เลย​ว่า​ท่าน​ได้​สติ​ปัญญา​นั้น​จาก​ที่​ไหน

3 แล้ว​พระ​เยซู​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​ที่​ไหน? ท่าน​บอก​ว่า “ผม​ไม่​ได้​สอน​คำ​สอน​ของ​ผม​เอง แต่​เป็น​ของ​พระองค์​ที่​ใช้​ผม​มา” (ยอห์น 7:16) อัครสาวก​เปาโล​บอก​ว่า​พระ​เยซู “ทำ​ให้​เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า” (1 โครินธ์ 1:30) เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​จาก​พระ​เยซู​ลูก​ชาย​ของ​พระองค์ ท่าน​ทำ​ได้​ดี​จน​ถึง​ขนาด​ที่​ท่าน​บอก​ว่า “ผม​กับ​พ่อ​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน” (ยอห์น 10:30) ให้​เรา​มา​ดู 3 อย่าง​ที่​พระ​เยซู​แสดง​ว่า​ท่าน​มี “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า”

เรื่อง​ที่​ท่าน​สอน

4. (ก) อะไร​เป็น​เรื่อง​หลัก​ที่​พระ​เยซู​สอน และ​ทำไม​เรื่อง​นั้น​ถึง​สำคัญ​มาก? (ข) ทำไม​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​เป็น​ประโยชน์​และ​ช่วย​ผู้​คน​ได้​จริง ๆ?

4 ให้​เรา​มา​ดู​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​สอน เรื่อง​หลัก​ที่​ท่าน​สอน​คือ “ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า” (ลูกา 4:43) นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​สำคัญ​มาก​เพราะ​รัฐบาล​นี้​จะ​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​สรรเสริญ​และ​พิสูจน์​ว่า​พระองค์​เป็น​ผู้​ปกครอง​ที่​ดี​ที่​สุด รวม​ถึง​ทำ​ให้​ทั้ง​โลก​กลาย​เป็น​สวน​อุทยาน​และ​ผู้​คน​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ที่​นั่น​ได้​ตลอด​ไป พระ​เยซู​ยัง​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​เกี่ยว​กับ​การ​ใช้​ชีวิต​ประจำ​วัน​ด้วย ท่าน​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ท่าน​เป็น “ที่​ปรึกษา​มหัศจรรย์” ตาม​ที่​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า (อิสยาห์ 9:6) ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​เป็น “ที่​ปรึกษา​มหัศจรรย์” หรือ​เป็น​ครู​ที่​ดี? ก็​เพราะ​ท่าน​รู้​จัก​คำ​สอน​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​อย่าง​ดี​และ​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​รับใช้​พระองค์​ยังไง ท่าน​ยัง​รู้​ด้วย​ว่า​มนุษย์​คิด​และ​รู้สึก​ยังไง และ​ท่าน​รัก​มนุษย์​มาก ดังนั้น คำ​แนะ​นำ​ของ​ท่าน​เลย​เป็น​ประโยชน์​และ​ช่วย​ผู้​คน​ได้​จริง ๆ พระ​เยซู​มี “คำ​สอน​ที่​ให้​ชีวิต​ตลอด​ไป” เมื่อ​เรา​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​ท่าน เรา​ก็​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป—ยอห์น 6:68

5. ใน​คำ​บรรยาย​บน​ภูเขา​พระ​เยซู​สอน​เรื่อง​อะไร​บ้าง?

5 คำ​บรรยาย​บน​ภูเขา​เป็น​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ชัด​ว่า​พระ​เยซู​สอน​ด้วย​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า ถึง​แม้​คำ​บรรยาย​ที่​อยู่​ใน​มัทธิว 5:3–7:27 อาจ​จะ​ใช้​เวลา​บรรยาย​แค่ 20 นาที แต่​คำ​แนะ​นำ​เหล่า​นั้น​ยัง​ใช้​ได้​ใน​ทุก​วัน​นี้ พระ​เยซู​พูด​ถึง​หลาย​เรื่อง​รวม​ทั้ง​วิธี​ที่​เรา​จะ​เข้า​กับ​คน​อื่น​ได้​ดี (5:23-26, 38-42; 7:1-5, 12) วิธี​ที่​จะ​เป็น​คน​สะอาด​ทาง​ด้าน​ศีลธรรม (5:27-32) และ​วิธี​ใช้​ชีวิต​อย่าง​มี​ความ​สุข (6:19-24; 7:24-27) พระ​เยซู​ไม่​ได้​แค่​บอก​ผู้​ฟัง​ว่า​ทำ​ยังไง​ถึง​จะ​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ฉลาด แต่​ท่าน​ยัง​อธิบาย​ว่า​ทำไม​ท่าน​ถึง​บอก​แบบ​นั้น​และ​ทำ​ให้​เห็น​เป็น​ตัวอย่าง​ด้วย

6-8. (ก) พระ​เยซู​บอก​เหตุ​ผล​ที่​ดี​อะไร​ว่า​เรา​ไม่​ควร​กังวล​มาก​เกิน​ไป? (ข) คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ยังไง?

6 ตัวอย่าง​เช่น คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​วิธี​รับมือ​กับ​ความ​กังวล​ใน​ชีวิต ใน​มัทธิว​บท 6 พระ​เยซู​แนะ​นำ​เรา​ว่า “เลิก​กังวล​ได้​แล้ว​กับ​เรื่อง​ชีวิต​ความ​เป็น​อยู่​ว่า​จะ​มี​กิน​มี​ดื่ม​ไหม หรือ​กังวล​ว่า​จะ​มี​เสื้อ​ผ้า​ใส่​หรือ​เปล่า” (ข้อ 25) อาหาร​และ​เสื้อ​ผ้า​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​พื้น​ฐาน เลย​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​ผู้​คน​มัก​จะ​กังวล แต่​ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​บอก​เรา​ให้ “เลิก​กังวล”? b

7 พระ​เยซู​บอก​เหตุ​ผล​ที่​ดี​หลาย​อย่าง​ว่า​ทำไม​ผู้​ฟัง​ของ​ท่าน​ไม่​ควร​กังวล​มาก​เกิน​ไป เช่น พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​สร้าง​เรา ดังนั้น พระองค์​จะ​ให้​เรา​มี​เสื้อ​ผ้า​และ​อาหาร​เพื่อ​เรา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​แน่นอน (ข้อ 25) ถ้า​พระเจ้า​ให้​นก​มี​อาหาร​กิน​และ​ดู​แล​ดอกไม้​ให้​สวย​งาม​ได้ พระองค์​ก็​จะ​ดู​แล​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ด้วย (ข้อ 26, 28-30) จริง ๆ แล้ว​ความ​กังวล​ไม่​มี​ประโยชน์​อะไร​และ​ไม่​ได้​ช่วย​ให้​เรา​มี​ชีวิต​ยืน​ยาว​ขึ้น c (ข้อ 27) แล้ว​เรา​จะ​เลิก​กังวล​ได้​ยังไง? พระ​เยซู​แนะ​นำ​ว่า​เรา​ต้อง​ให้​การ​นมัสการ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​ต่อ ๆ ไป ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​เรา​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พ่อ​ใน​สวรรค์ ‘จะ​ให้​เรา​มี’ สิ่ง​จำเป็น​ใน​ชีวิต (ข้อ 33) พระ​เยซู​ยัง​บอก​ให้​เรา​รับมือ​กับ​ปัญหา​เป็น​วัน ๆ ไป​และ​ไม่​ต้อง​กังวล​เรื่อง​ของ​วัน​พรุ่ง​นี้ (ข้อ 34) เพราะ​บาง​ที​เรื่อง​ที่​เรา​กังวล​อาจ​จะ​ไม่​เกิด​ขึ้น​ด้วย​ซ้ำ การ​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​นี้​จะ​ช่วย​ให้​เรา​ไม่​ต้อง​เจอ​กับ​เรื่อง​เครียด ๆ ที่​ทำ​ให้​เรา​ไม่​มี​ความ​สุข

8 เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​คำ​แนะ​นำ​ของ​มนุษย์​ก็​อาจ​จะ​ต้อง​มี​การ​ปรับ​เปลี่ยน เพราะ​บาง​คำ​แนะ​นำ​ก็​ใช้​ไม่​ได้​แล้ว แต่​เรื่อง​ที่​พระ​เยซู​สอน​ไว้​เมื่อ 2,000 ปี​ที่​แล้ว​ยัง​ใช้​ได้​ใน​ทุก​วัน​นี้ นี่​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​สติ​ปัญญา​ของ​ท่าน​มา​จาก​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ของ​ท่าน เรา​เห็น​ได้​ชัดเจน​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ที่​ปรึกษา​มหัศจรรย์​และ​ท่าน​ถ่ายทอด ‘คำ​พูด​ของ​พระเจ้า’—ยอห์น 3:34

วิธี​ที่​ท่าน​สอน

9. พวก​ทหาร​พูด​ยังไง​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​พระ​เยซู​สอน และ​ทำไม​พวก​เขา​ถึง​ไม่​ได้​พูด​เกิน​จริง?

9 อย่าง​ที่​สอง​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​สอน​ด้วย​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​คือ วิธี​ที่​ท่าน​สอน ครั้ง​หนึ่ง พวก​ผู้​นำศาสนา​ชาว​ยิว​ส่ง​ทหาร​ไป​จับ​พระ​เยซู​แต่​กลับ​มา​มือ​เปล่า พวก​เขา​บอก​ว่า “พวก​เรา​ไม่​เคย​ได้​ยิน​ใคร​พูด​เหมือน​ผู้​ชาย​คน​นี้​มา​ก่อน​เลย” (ยอห์น 7:45, 46) พวก​เขา​ไม่​ได้​พูด​เกิน​จริง เพราะ​พระ​เยซู​มี​ชีวิต​อยู่​บน​สวรรค์​นาน​ก่อน​ที่​ท่าน​จะ​มา​บน​โลก ดังนั้น ท่าน​มี​ความ​รู้​และ​ประสบการณ์​มาก​กว่า​มนุษย์​ทุก​คน (ยอห์น 8:23) ไม่​มี​ใคร​จะ​สอน​ได้​เหมือน​ท่าน ให้​เรา​มา​ดู​วิธี​สอน​สอง​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​ครู​ที่​ฉลาด​ด้วย​กัน

“คน​ที่​มา​ฟัง​ก็​รู้สึก​ทึ่ง​กับ​วิธี​สอน​ของ​ท่าน”

10, 11. (ก) ทำไม​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ให้​เรา​ประทับใจ? (ข) ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​คือ​อะไร และ​พระ​เยซู​ใช้​ตัวอย่าง​อะไร​บ้าง​เพื่อ​สอน​บทเรียน​ที่​สำคัญ?

10 ใช้​ตัวอย่าง​ที่​เข้า​ถึง​หัวใจ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พระ​เยซู​พูด​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้​กับ​ผู้​คน​โดย​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ ที่​จริง ท่าน​สอน​พวก​เขา​โดย​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​เสมอ” (มัทธิว 13:34) พระ​เยซู​ใช้​ตัวอย่าง​ง่าย ๆ ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​เพื่อ​สอน​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​ได้​อย่าง​น่า​ประทับใจ ท่าน​พูด​ถึง​ชาว​นา​ที่​หว่าน​เมล็ด​พืช ผู้​หญิง​ทำ​ขนมปัง เด็ก ๆ ที่​เล่น​กัน​ใน​ตลาด ชาว​ประมง​ลาก​อวน คน​เลี้ยง​แกะ​ตาม​หา​แกะ​ที่​หาย​ไป ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​เรื่อง​ที่​ผู้​ฟัง​ของ​ท่าน​เห็น​อยู่​บ่อย ๆ เมื่อ​ท่าน​ใช้​เรื่อง​ที่​ผู้​คน​คุ้น​เคย​เพื่อ​สอน​ความ​จริง​ที่​สำคัญ พวก​เขา​ก็​จะ​เข้าใจ จด​จำ และ​เอา​คำ​สอน​ที่​สำคัญ​นี้​ไป​ใช้​ได้​ง่าย​ขึ้น—มัทธิว 11:16-19; 13:3-8, 33, 47-50; 18:12-14

11 บ่อย​ครั้ง​พระ​เยซู​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ที่​เป็น​เรื่อง​สั้น ๆ ซึ่ง​สอน​บทเรียน​ที่​สำคัญ ท่าน​ทำ​แบบ​นั้น​เพราะ​อยาก​ให้​ผู้​ฟัง​เข้าใจ​และ​จำ​บทเรียน​ต่าง ๆ ได้ ใน​หลาย​ตัวอย่าง พระ​เยซู​พูด​ถึง​พ่อ​ของ​ท่าน​โดย​ใช้​ภาพ​เปรียบ​เทียบ​ที่​ชัดเจน​และ​จำ​ได้​ง่าย เช่น ตัวอย่าง​เรื่อง​ลูก​ที่​หลง​หาย​สอน​ให้​เรา​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​แบบ​ไหน และ​ยัง​สอน​ว่า​เมื่อ​คน​ที่​ทำ​ผิด​กลับ​ใจ​จริง ๆ พระองค์​ก็​พร้อม​จะ​ให้​อภัย​และ​ต้อนรับ​เขา​กลับ​มา—ลูกา 15:11-32

12. (ก) พระ​เยซู​สอน​โดย​ใช้​คำ​ถาม​แบบ​ไหน​บ้าง? (ข) พระ​เยซู​ถาม​คน​ที่​สงสัย​เรื่อง​อำนาจ​ของ​ท่าน​ยังไง​ที่​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​กล้า​ตอบ?

12 ใช้​คำ​ถาม​ที่​เหมาะ​สม พระ​เยซู​ใช้​คำ​ถาม​เพื่อ​ช่วย​ผู้​ฟัง​ให้​คิด ตรวจ​ดู​แรง​กระตุ้น หรือ​ลง​มือ​ตัดสิน​ใจ (มัทธิว 12:24-30; 17:24-27; 22:41-46) เช่น ตอน​ที่​พวก​ผู้​นำศาสนา​ชาว​ยิว​ถาม​พระ​เยซู​ว่า​ใคร​ให้​อำนาจ​ท่าน ท่าน​เลย​บอก​ว่า “ที่​ยอห์น​ให้​บัพติศมา​นั้น ใคร​ให้​อำนาจ​เขา พระเจ้า​หรือ​มนุษย์?” พวก​เขา​ไม่​ตอบ​และ​คุย​กัน​ว่า “ถ้า​เรา​ตอบ​ว่า ‘พระเจ้า’ เขา​ก็​จะ​ถาม​ว่า ‘ถ้า​อย่าง​นั้น ทำไม​ถึง​ไม่​เชื่อ​ยอห์น?’ แต่​ใคร​จะ​ไป​กล้า​ตอบ​ว่า ‘มนุษย์’ ล่ะ” ที่​พวก​เขา​พูด​กัน​อย่าง​นั้น “เพราะ​กลัว​ประชาชน​จะ​โกรธ​แค้น เพราะ​ประชาชน​ถือ​ว่า​ยอห์น​เป็น​ผู้​พยากรณ์​จริง ๆ” ใน​ที่​สุด​พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ไม่​รู้​สิ” (มาระโก 11:27-33; มัทธิว 21:23-27) พระ​เยซู​ใช้​คำ​ถาม​ง่าย ๆ แต่​พวก​เขา​กลับ​ไม่​กล้า​ตอบ​เพราะ​มี​ความ​คิด​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง

13-15. ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​คน​สะมาเรีย​ทำ​ให้​เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​เยซู​ยังไง?

13 บาง​ครั้ง​พระ​เยซู​ก็​ใช้​ทั้ง​สอง​วิธี​ใน​การ​สอน คือ​ใช้​คำ​ถาม​เพื่อ​ช่วย​ให้​ผู้​ฟัง​คิด​เกี่ยว​กับ​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ที่​ท่าน​ใช้ เช่น มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​เชี่ยวชาญ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ถาม​พระ​เยซู​ว่า​ต้อง​ทำ​อะไร​ถึง​จะ​ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป พระ​เยซู​เลย​บอก​ให้​เขา​คิด​ถึง​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ที่​สอน​ให้​รัก​พระเจ้า​และ​รัก​คน​อื่น แต่​ผู้​ชาย​คน​นี้​อยาก​แสดง​ว่า​เขา​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​อยู่​แล้ว เขา​เลย​ถาม​ว่า “แล้ว​ใคร​คือ​คน​ที่​ผม​จะ​ต้อง​รัก?” พระ​เยซู​ตอบ​โดย​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​หนึ่ง ท่าน​เล่า​ว่า​มี​คน​ยิว​คน​หนึ่ง​เดิน​ทาง​คน​เดียว เขา​ถูก​โจร​ปล้น​และ​ทุบ​ตี​จน​เกือบ​ตาย ต่อ​มา​มี​คน​ยิว​สอง​คน​ผ่าน​มา​เห็น คน​แรก​เป็น​ปุโรหิต ส่วน​อีก​คน​เป็น​คน​เล​วี แต่​พวก​เขา​ทั้ง​สอง​คน​ไม่​สนใจ​ที่​จะ​ช่วย แล้ว​ใน​ที่​สุด​ก็​มี​คน​สะมาเรีย​คน​หนึ่ง​เดิน​ผ่าน​มา​เห็น​ผู้​ชาย​คน​นี้​ก็​รู้สึก​สงสาร เขา​เลย​ค่อย ๆ พัน​แผล​ให้ แล้ว​พา​ผู้​ชาย​ที่​บาดเจ็บ​ไป​พัก​รักษา​ตัว​ที่​โรงแรม เมื่อ​พระ​เยซู​เล่า​เรื่อง​นี้​จบ ท่าน​ถาม​ผู้​ชาย​ที่​เชี่ยวชาญ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​คน​นั้น​ว่า “ใน​สาม​คน​นี้ คุณ​ว่า​คน​ไหน​รัก​คน​ที่​ถูก​ปล้น​เหมือน​รัก​ตัว​เอง?” เขา​ต้อง​จำ​ใจ​ตอบ​ว่า “คน​ที่​ช่วยเหลือ​เขา”—ลูกา 10:25-37

14 ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​นี้​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​เยซู​ยังไง? ใน​สมัย​ของ​พระ​เยซู คน​ยิว​คิด​ว่า “คน​อื่น” ใน​ที่​นี้​หมาย​ถึง​คน​ที่​ทำ​ตาม​ธรรมเนียม​ของ​พวก​เขา​เท่า​นั้น​ซึ่ง​ไม่​ใช่​คน​สะมาเรีย​แน่นอน (ยอห์น 4:9) ดังนั้น ถ้า​พระ​เยซู​เล่า​เรื่อง​โดย​ให้​คน​สะมาเรีย​เป็น​คน​ถูก​ทำ​ร้าย และ​คน​ยิว​เป็น​คน​ช่วย นั่น​จะ​ทำ​ให้​ผู้​ชาย​คน​นี้​เลิก​มี​อคติ​ไหม? พระ​เยซู​ฉลาด​มาก ท่าน​เล่า​เรื่อง​นี้​โดย​ให้​คน​สะมาเรีย​เป็น​ฝ่าย​ดู​แล​คน​ยิว หลัง​จาก​เล่า​จบ​ท่าน​ก็​ถาม​คำ​ถาม​เพื่อ​ช่วย​ให้​ผู้​ชาย​คน​นี้​เข้าใจ​ว่า​การ​รัก “คน​อื่น” หมาย​ถึง​อะไร​จริง ๆ ก่อน​หน้า​นี้​เขา​ถาม​เพราะ​อยาก​รู้​ว่า ‘ใคร​คือ​คน​ที่​ผม​จะ​ต้อง​รัก?’ แต่​เมื่อ​พระ​เยซู​ถาม​ว่า “ใน​สาม​คน​นี้ คุณ​ว่า​คน​ไหน​รัก​คน​ที่​ถูก​ปล้น​เหมือน​รัก​ตัว​เอง?” ท่าน​ไม่​ได้​เน้น​คน​ที่​ได้​รับ​ความ​กรุณา​ซึ่ง​ก็​คือ​คน​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย แต่​ท่าน​เน้น​คน​ที่​แสดง​ความ​กรุณา​ซึ่ง​ก็​คือ​คน​สะมาเรีย​นั่น​เอง คน​ที่​รัก​คน​อื่น​จะ​แสดง​ความ​กรุณา​กับ​ทุก​คน​ไม่​ว่า​จะ​มี​ภูมิหลัง​หรือ​เชื้อชาติ​อะไร​ก็​ตาม พระ​เยซู​สอน​อย่าง​ฉลาด​จริง ๆ

15 ไม่​แปลก​ที่​ผู้​คน​จะ​รู้สึก​ทึ่ง​ใน “วิธี​สอน” ของ​พระ​เยซู​และ​อยาก​ฟัง​ท่าน (มัทธิว 7:28, 29) ครั้ง​หนึ่ง “มี​คน​มาก​มาย” อยู่​กับ​ท่าน​นาน​ถึง 3 วัน​และ​ไม่​ยอม​ไป​กิน​อาหาร—มาระโก 8:1, 2

วิธี​ที่​ท่าน​ใช้​ชีวิต

16. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​ท่าน​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ไป​ใช้​ใน​ชีวิต?

16 อย่าง​ที่​สาม​ที่​พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​คือ​วิธี​ที่​ท่าน​ใช้​ชีวิต สติ​ปัญญา​คือ​การ​เอา​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้​มา​ใช้​แล้ว​เกิด​ผล​ที่​ดี ยากอบ​ถาม​ว่า “ใคร​บ้าง​ใน​พวก​คุณ​มี​สติ​ปัญญา?” แล้ว​เขา​ก็​พูด​ต่อ​ไป​ว่า “ให้​เขา​แสดง​ออก​โดย​ความ​ประพฤติ​ที่​ดี คือ​การ​กระทำ​ด้วย​ความ​อ่อนโยน​ที่​เกิด​จาก​สติ​ปัญญา” (ยากอบ 3:13) ตัวอย่าง​ของ​พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ท่าน​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ไป​ใช้ ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​พระ​เยซู​ใช้​สติ​ปัญญา​ยังไง​ใน​การ​ใช้​ชีวิต​และ​การ​ปฏิบัติ​กับ​คน​อื่น

17. อะไร​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​คน​ที่​สมดุล​อยู่​เสมอ?

17 คุณ​อาจ​เห็น​ว่า​คน​ที่​ไม่​มี​สติ​ปัญญา​จะ​เป็น​คน​ที่​เข้มงวด​และ​มัก​จะ​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​แบบ​ไม่​มี​เหตุ​ผล แต่​พระ​เยซู​เป็น​คน​ที่​สมดุล​เสมอ​เพราะ​ท่าน​เลียน​แบบ​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า นอกจากนั้น ท่าน​มอง​ว่า​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต ท่าน​ขยัน​ทำ​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี พระ​เยซู​บอก​ว่า “ที่​ผม​มา​ก็​เพื่อ​ทำ​งาน​นี้” (มาระโก 1:38) เห็น​ชัด​ว่า​ทรัพย์​สิน​เงิน​ทอง​ไม่​ใช่​เรื่อง​สำคัญ​ที่​สุด​สำหรับ​ท่าน​และ​ดู​เหมือน​ว่า​ท่าน​ไม่​มี​สิ่ง​ของ​อะไร​มาก​มาย (มัทธิว 8:20) แต่​นี่​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​มี​ของ​ดี ๆ ใช้​หรือ​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​สนุก ๆ เลย ท่าน​เป็น​คน​ร่าเริง​และ​ทำ​ให้​คน​อื่น​มี​ความ​สุข​เหมือน​กับ​พ่อ​ของ​ท่าน​ที่​เป็น “พระเจ้า​ผู้​มี​ความ​สุข” (1 ทิโมธี 1:11; 6:15) เมื่อ​พระ​เยซู​ไป​งาน​เลี้ยง​ซึ่ง​มัก​จะ​มี​ดนตรี การ​ร้อง​เพลง และ​บรรยากาศ​ที่​สนุกสนาน ท่าน​ก็​ไม่​ได้​ไป​ทำ​ให้​งาน​นั้น​หมด​สนุก​และ​ตอน​ที่​เหล้า​องุ่น​หมด ท่าน​ก็​เปลี่ยน​น้ำ​ให้​เป็น​เหล้า​องุ่น​อย่าง​ดี​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่ “ทำ​ให้​ใจ​มนุษย์​เบิกบาน” (สดุดี 104:15; ยอห์น 2:1-11) มี​หลาย​ครั้ง​ที่​พระ​เยซู​ถูก​เชิญ​ไป​กิน​อาหาร​และ​ท่าน​ก็​มัก​จะ​ใช้​โอกาส​นั้น​เพื่อ​สอน​ด้วย—ลูกา 10:38-42; 14:1-6

18. พระ​เยซู​แสดง​ว่า​ท่าน​มี​สติ​ปัญญา​ยังไง​ตอน​ที่​ปฏิบัติ​กับ​พวก​สาวก?

18 พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ท่าน​มี​สติ​ปัญญา​มาก​จริง ๆ ตอน​ที่​ท่าน​ปฏิบัติ​กับ​คน​อื่น ท่าน​เข้าใจ​ความ​คิด ความ​รู้สึก​และ​แรง​กระตุ้น​ของ​สาวก​อย่าง​ดี ถึง​แม้​พวก​เขา​จะ​ไม่​สมบูรณ์​แบบ แต่​ท่าน​ก็​ยัง​เห็น​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ของ​พวก​เขา​และ​ท่าน​รู้​ด้วย​ว่า​แต่​ละ​คน​ที่​พระ​ยะโฮวา​ชัก​นำ​เข้า​มา​เป็น​คน​แบบ​ไหน (ยอห์น 6:44) ถึง​บาง​ครั้ง​พวก​สาวก​จะ​ทำ​ผิด​พลาด​แต่​พระ​เยซู​ก็​ยัง​ไว้​ใจ​พวก​เขา​โดย​ให้​พวก​เขา​ทำ​งาน​มอบหมาย​ที่​สำคัญ​คือ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี และ​ท่าน​ก็​มั่น​ใจ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ทำ​งาน​นี้​สำเร็จ (มัทธิว 28:19, 20) เมื่อ​เรา​อ่าน​หนังสือ​กิจการ เรา​เห็น​ว่า​พวก​สาวก​ทำ​งาน​ที่​พระ​เยซู​มอบหมาย​อย่าง​ซื่อสัตย์ (กิจการ 2:41, 42; 4:33; 5:27-32) นี่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​มี​สติ​ปัญญา​จริง ๆ

19. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​ท่าน “เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​ถ่อม​ตัว”?

19 ใน​บท 20 เรา​ได้​เรียน​ว่า​คน​ที่​มี​สติ​ปัญญา​แท้​จะ​เป็น​คน​ถ่อม​และ​อ่อนโยน พระ​ยะโฮวา​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​เรื่อง​ความ​ถ่อม​และ​อ่อนโยน พระ​เยซู​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น​ด้วย​เหมือน​กัน เรา​ประทับใจ​มาก​เมื่อ​เห็น​ว่า​ท่าน​แสดง​ความ​ถ่อม​ตอน​ที่​ปฏิบัติ​กับ​สาวก​ของ​ท่าน ถึง​แม้​จะ​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​แบบ แต่​ท่าน​ก็​ไม่​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ดี​กว่า​พวก​เขา ท่าน​ไม่​อยาก​ให้​พวก​เขา​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​สำคัญ​หรือ​ทำ​อะไร​ก็​ไม่​สำเร็จ แต่​ท่าน​คิด​ถึง​ข้อ​จำกัด​ของ​พวก​เขา​และ​อดทน​ตอน​ที่​พวก​เขา​ทำ​ผิด​พลาด (มาระโก 14:34-38; ยอห์น 16:12) แม้​แต่​เด็ก ๆ ก็​ชอบ​อยู่​กับ​พระ​เยซู ทำไม? พวก​เขา​อยาก​อยู่​ใกล้​ท่าน​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ท่าน “เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​ถ่อม​ตัว”—มัทธิว 11:29; มาระโก 10:13-16

20. พระ​เยซู​แสดง​ว่า​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ยังไง​ตอน​ที่​ปฏิบัติ​กับ​ผู้​หญิง​ต่าง​ชาติ​ที่​ลูก​สาว​ถูก​ผี​สิง?

20 พระ​เยซู​เลียน​แบบ​ความ​ถ่อม​ของ​พระ​ยะโฮวา​โดย​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​และ​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน ท่าน​แสดง​ความ​เมตตา​เมื่อ​เห็น​ว่า​เหมาะ​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น ขอ​คิด​ถึง​ตัวอย่าง​ของ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่​ใช่​คน​ยิว เธอ​ขอ​ให้​พระ​เยซู​รักษา​ลูก​สาว​ที่​ถูก​ผี​สิง แต่​ท่าน​พยายาม​ปฏิเสธ ตอน​แรก ท่าน​ไม่​ตอบ​อะไร​เลย​ตอน​ที่​ผู้​หญิง​คน​นี้​ขอ​ให้​ช่วย หลัง​จาก​นั้น​พระ​เยซู​ก็​บอก​เธอ​ว่า​พระเจ้า​ส่ง​ท่าน​มา​เพื่อ​ช่วย​คน​ยิว​ไม่​ใช่​คน​ต่าง​ชาติ และ​สุด​ท้าย​ท่าน​ก็​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​กรุณา​ว่า​ทำไม​ท่าน​ถึง​ไม่​ช่วย​เธอ แต่​ผู้​หญิง​คน​นี้​มี​ความ​เชื่อ​มาก​เธอ​เลย​ไม่​เลิก​ขอ​ให้​พระ​เยซู​ช่วย แล้ว​พระ​เยซู​ทำ​ยังไง? ท่าน​ช่วย​รักษา​ลูก​สาว​ของ​เธอ​ให้​หาย​ทั้ง ๆ ที่​ตอน​แรก​ท่าน​บอก​ว่า​จะ​ไม่​ช่วย (มัทธิว 15:21-28) พระ​เยซู​ถ่อม​มาก​จริง ๆ และ​คน​ถ่อม​เท่า​นั้น​ที่​จะ​มี​สติ​ปัญญา​แท้

21. ทำไม​เรา​ควร​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ คำ​พูด และ​การ​กระทำ​ของ​พระ​เยซู?

21 เรา​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ ที่​บอก​เรา​หลาย​อย่าง​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​ซึ่ง​เป็น​คน​ฉลาด​ที่​สุด​ใน​โลก คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา​รู้​ว่า​ท่าน​พูด​และ​ทำ​อะไร​บ้าง ให้​เรา​จำ​ไว้​ว่า​พระ​เยซู​เลียน​แบบ​พ่อ​ของ​ท่าน​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ ดังนั้น ถ้า​เรา​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ​ของ​พระ​เยซู​ทั้ง​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ เรา​ก็​กำลัง​เลียน​แบบ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย ใน​บท​ต่อ​ไป​ให้​มา​ดู​กัน​ว่า​เรา​จะ​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​มา​ใช้​ใน​ชีวิต​ได้​ยังไง?

a ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล ช่าง​ไม้​ถูก​จ้าง​ให้​สร้าง​บ้าน ทำ​เฟอร์นิเจอร์ และ​ทำ​เครื่อง​มือ​การ​เกษตร นัก​เขียน​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ประมาณ 100 ปี​หลัง​จาก​พระ​เยซู​เสีย​ชีวิต​ได้​เขียน​เกี่ยว​กับ​ท่าน​ว่า “ตอน​ที่​ท่าน​มี​ชีวิต​อยู่ ท่าน​ทำ​งาน​เป็น​ช่าง​ไม้ งาน​ที่​ท่าน​ทำ​เป็น​ประจำ​คือ ทำ​คัน​ไถ​และ​แอก”

b คำ​กริยา​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “กังวล” หมาย​ถึง “ความ​หนัก​ใจ​ที่​ทำ​ให้​จิตใจ​คน​เรา​แบ่ง​แยก ไขว้เขว” ใน​มัทธิว 6:25 คำ​นี้​ใช้​กับ​คน​ที่​กังวล​มาก​จน​ไม่​คิด​ถึง​เรื่อง​อื่น​และ​ทำ​ให้​เขา​ไม่​มี​ความ​สุข

c แพทย์​หลาย​คน​เห็น​ว่า​การ​เครียด​มาก​เกิน​ไป​อาจ​ทำ​ให้​เรา​เสี่ยง​ต่อ​การ​เป็น​โรค​หัวใจ​และ​อีก​หลาย​โรค​ที่​อาจ​ทำ​ให้​ตาย​เร็ว​ขึ้น