ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บท 22

“สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน” มี​ผล​กับ​ชีวิต​ของ​คุณ​ไหม?

“สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน” มี​ผล​กับ​ชีวิต​ของ​คุณ​ไหม?

1-3. (ก) โซโลมอน​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มี​สติ​ปัญญา​ยังไง​ตอน​ที่​เขา​ตัดสิน​คดี​ระหว่าง​ผู้​หญิง​สอง​คน? (ข) พระ​ยะโฮวา​สัญญา​ว่า​จะ​ให้​อะไร​กับ​เรา และ​เรา​จะ​คุย​อะไร​กัน​บ้าง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้?

 มี​ผู้​หญิง​สอง​คน​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​เดียว​กัน ทั้ง​สอง​คลอด​ลูก​ชาย​ใน​เวลา​ใกล้​เคียง​กัน​แต่​เด็ก​คน​หนึ่ง​ตาย ผู้​หญิง​สอง​คน​นี้​ต่าง​ก็​อ้าง​ว่า​เป็น​แม่​ของ​เด็ก​ที่​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ a ไม่​มี​ใคร​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​จริง ๆ ผู้​พิพากษา​พยายาม​ค้น​หา​ความ​จริง​แต่​ก็​ทำ​ไม่​ได้ ใน​ที่​สุด​ผู้​หญิง​สอง​คน​นี้​ก็​มา​ขอ​ให้​โซโลมอน​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​ช่วย​ตัดสิน​คดี​นี้ แล้ว​เขา​จะ​บอก​ได้​ไหม​ว่า​ใคร​เป็น​แม่​จริง ๆ?

2 หลัง​จาก​ฟัง​ผู้​หญิง​ทั้ง​สอง​คน​เถียง​กัน​สัก​พัก​หนึ่ง โซโลมอน​บอก​ให้​เอา​ดาบ​มา เขา​สั่ง​ให้​ผ่า​เด็ก​เป็น​สอง​ส่วน​แล้ว​แบ่ง​ให้​พวก​เธอ​คน​ละ​ครึ่ง ผู้​หญิง​ที่​เป็น​แม่​ของ​เด็ก​ขอร้อง​ให้​กษัตริย์​ยก​เด็ก​ให้​กับ​ผู้​หญิง​อีก​คน แต่​ผู้​หญิง​คน​นั้น​บอก​ให้​ผ่า​เด็ก​เป็น​สอง​ส่วน นี่​ทำ​ให้​โซโลมอน​รู้​เลย​ว่า​ใคร​เป็น​แม่​ของ​เด็ก​จริง ๆ เขา​รู้​ว่า​คน​ที่​เป็น​แม่​จะ​รัก​ลูก​ของ​ตัว​เอง​มาก นี่​ทำ​ให้​เขา​ตัดสิน​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง ลอง​คิด​ดู​สิ​ว่า​คน​ที่​เป็น​แม่​จะ​ดีใจ​มาก​ขนาด​ไหน​ตอน​ที่​โซโลมอน​อุ้ม​เด็ก​มา​ให้​และ​บอก​ว่า “เธอ​เป็น​แม่​ของ​เด็ก”—1 พงศ์กษัตริย์ 3:16-27

3 นั่น​เป็น​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​ฉลาด​จริง ๆ เมื่อ​ประชาชน​ได้​ยิน​ว่า​โซโลมอน​ตัดสิน​คดี​นั้น​ยังไง พวก​เขา​ก็​รู้สึก​ประทับใจ​มาก “เพราะ​เห็น​ว่า​โซโลมอน​ได้​รับ​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า” จน​ตัดสิน​ได้​อย่าง​ยุติธรรม สติ​ปัญญา​ของ​โซโลมอน​เป็น​ของ​ขวัญ​จาก​พระ​ยะโฮวา พระองค์​ให้​เขา​มี “ปัญญา​และ​มี​ความ​เข้าใจ” (1 พงศ์กษัตริย์ 3:12, 28) แล้ว​พวก​เรา​ล่ะ? พระองค์​จะ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​พวก​เรา​ด้วย​ไหม? แน่นอน เพราะ​โซโลมอน​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ให้​เขียน​ว่า “พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​ให้​สติ​ปัญญา” (สุภาษิต 2:6) พระองค์​สัญญา​ว่า​จะ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​ทุก​คน​ที่​ขอ แต่​เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา? และ​เรา​จะ​ใช้​สติ​ปัญญา​นั้น​ใน​ชีวิต​ยังไง?

เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา

4-7. มี 4 อย่าง​อะไร​บ้าง​ที่​เรา​ต้อง​ทำ​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า?

4 เรา​ต้อง​เป็น​คน​ฉลาด​มาก​หรือ​มี​การ​ศึกษา​สูง​ไหม​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า? ไม่ พระ​ยะโฮวา​เต็ม​ใจ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​เรา​ทุก​คน​ไม่​ว่า​เป็น​ใคร​หรือ​มี​ความ​รู้​มาก​น้อย​แค่​ไหน (1 โครินธ์ 1:26-29) แต่​เรา​ก็​ต้อง​ทำ​บาง​อย่าง​ด้วย​เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ให้ “เสาะ​หา​สติ​ปัญญา” (สุภาษิต 4:7) แล้ว​เรา​จะ​ทำ​แบบ​นั้น​ได้​ยังไง?

5 อย่าง​แรก เรา​ต้อง​เกรง​กลัว​พระเจ้า สุภาษิต 9:10 บอก​ว่า “ความ​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา​เป็น​จุด​เริ่ม​ต้น​ของ​สติ​ปัญญา” ดังนั้น เพื่อ​จะ​มี​สติ​ปัญญา​แท้​เรา​ต้อง​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น? ก่อน​หน้า​นี้​เรา​ได้​เรียน​แล้ว​ว่า​เพื่อ​จะ​เป็น​คน​ฉลาด​จริง ๆ เรา​ต้อง​ใช้​ความ​รู้​และ​ความ​เข้าใจ​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ดี ความ​เกรง​กลัว​พระเจ้า​หมาย​ถึง​การ​เชื่อ​ฟัง​และ​ไว้​วางใจ​พระองค์​สุด​หัวใจ ไม่​ใช่​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​พระเจ้า​ลง​โทษ ความ​เกรง​กลัว​พระเจ้า​มี​ประโยชน์​และ​ช่วย​ให้​เรา​ใช้​ชีวิต​สอดคล้อง​กับ​สิ่ง​ที่​พระองค์​อยาก​ให้​เรา​ทำ การ​ใช้​ชีวิต​แบบ​นี้​ดี​ที่​สุด​เพราะ​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​เรา​ทำ​มี​ประโยชน์​กับ​เรา​เสมอ

6 อย่าง​ที่​สอง เรา​ต้อง​เป็น​คน​ถ่อม​และ​เจียม​ตัว มี​แต่​คน​ถ่อม​เท่า​นั้น​ที่​จะ​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​ได้ (สุภาษิต 11:2) ทำไม​ถึง​เป็น​แบบ​นั้น? ถ้า​เรา​ถ่อม​และ​เจียม​ตัว​เรา​ก็​จะ​ยอม​รับ​ว่า​เรา​ไม่​ได้​รู้​ทุก​อย่าง ความ​คิด​ของ​เรา​อาจ​ไม่​ถูก​ต้อง​เสมอ​ไป และ​ยอม​รับ​ว่า​เรา​ต้อง​เรียน​รู้​ที่​จะ​มอง​เรื่อง​ต่าง ๆ แบบ​พระ​ยะโฮวา คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา “ต่อต้าน​คน​หยิ่ง” แต่​พระองค์​ยินดี​ที่​จะ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​คน​ที่​มี​หัวใจ​ถ่อม—ยากอบ 4:6

7 สิ่ง​สำคัญ​อย่าง​ที่​สาม​คือ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​เรา​รู้​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล เพื่อ​จะ​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​เรา​ต้อง​พยายาม​ค้น​หา​สติ​ปัญญา​นั้น (สุภาษิต 2:1-5) อย่าง​ที่​สี่​คือ​การ​อธิษฐาน ถ้า​เรา​อธิษฐาน​ขอ​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​อย่าง​จริง​ใจ พระองค์​ก็​จะ​เต็ม​ใจ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​เรา (ยากอบ 1:5) พระองค์​จะ​ให้​พลัง​บริสุทธิ์​กับ​เรา​ด้วย​ถ้า​เรา​อธิษฐาน​ขอ​จาก​พระองค์ และ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์​จะ​ช่วย​ให้​เรา​พบ​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​จะ​ช่วย​เรา​รับมือ​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ หลีก​เลี่ยง​อันตราย และ​ตัดสิน​ใจ​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง—ลูกา 11:13

เพื่อ​เรา​จะ​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​ต้อง​พยายาม​ค้น​หา​สติ​ปัญญา​นั้น

8. ถ้า​เรา​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​คน​อื่น​จะ​สังเกต​เห็น​อะไร​บ้าง?

8 ใน​บท 17 เรา​ได้​เรียน​ว่า​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ประโยชน์​กับ​เรา​เสมอ คน​อื่น​จะ​สังเกต​เห็น​ได้​ว่า​เรา​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​จาก​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ ยากอบ​ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​อธิบาย​ว่า​คน​ที่​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​จะ​เป็น​คน​แบบ​ไหน เขา​เขียน​ว่า “สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​นั้น อย่าง​แรก​คือ​บริสุทธิ์ แล้ว​ก็​ทำ​ให้​มี​สันติ​สุข มี​เหตุ​ผล พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เมตตา ทำ​ให้​เกิด​ผล​ดี​มาก​มาย ไม่​ลำเอียง และ​ไม่​เสแสร้ง” (ยากอบ 3:17) ตอน​ที่​เรา​ดู​แต่​ละ​แง่​มุม​ของ​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​อาจ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​มี​ผล​ยังไง​บ้าง​กับ​ชีวิต​ของ​ฉัน?’

“บริสุทธิ์ แล้ว​ก็​ทำ​ให้​มี​สันติ​สุข”

9. ความ​บริสุทธิ์​หมายความ​ว่า​ยังไง และ​ทำไม​ถึง​บอก​ได้​ว่า​ความ​บริสุทธิ์​เป็น​คุณลักษณะ​แรก​ของ​สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน?

9 “อย่าง​แรก​คือ​บริสุทธิ์” เพื่อ​จะ​เป็น​คน​บริสุทธิ์​เรา​ต้อง​สะอาด​ทั้ง​ด้าน​การ​กระทำ ความ​คิด และ​ความ​รู้สึก​ด้วย คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​สติ​ปัญญา “เข้า​มา” ใน​หัวใจ แต่​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ให้​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​กับ​คน​ที่​มี​ความ​คิด ความ​ต้องการ และ​เจตนา​ที่​ชั่ว​ร้าย (สุภาษิต 2:10; มัทธิว 15:19, 20) แต่​ถ้า​หัวใจ​เรา​บริสุทธิ์​เท่า​ที่​จะ​เป็น​ไป​ได้​สำหรับ​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ เรา​ก็​จะ ‘เลิก​ทำ​ชั่ว และ​ทำ​ดี’ (สดุดี 37:27; สุภาษิต 3:7) คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เข้าใจ​ชัดเจน​ว่า​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​เรา​ต้อง​เป็น​คน​สะอาด​ใน​ทุก​ด้าน​ก่อน เรา​ถึง​จะ​มี​คุณลักษณะ​อื่น ๆ ของ​สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​ได้

10, 11. (ก) ทำไม​ถึง​สำคัญ​ที่​เรา​จะ​มี​สันติ​สุข​กับ​คน​อื่น? (ข) ถ้า​คุณ​รู้สึก​ว่า​ทำ​ให้​พี่​น้อง​โกรธ​คุณ​จะ​ทำ​ยังไง​เพื่อ​จะ​คืน​ดี​กับ​เขา? (ดู​เชิงอรรถ)

10 “สันติ​สุข” ถ้า​เรา​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา​เรา​จะ​พยายาม​เต็ม​ที่​เพื่อ​จะ​มี​สันติ​สุข​กับ​คน​อื่น ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​การ​ชี้​นำ​จาก​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า (กาลาเทีย 5:22) เรา​พยายาม​ที่​จะ​ไม่​ทำลาย “สันติ​สุข​ที่​ผูก​พัน” คน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน (เอเฟซัส 4:3) เรา​ยัง​พยายาม​ที่​จะ​ได้​สันติ​สุข​กลับ​คืน​มา​ถ้า​เรา​มี​ปัญหา​กับ​พี่​น้อง ทำไม​เรื่อง​นี้​ถึง​สำคัญ? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา “ใช้​ชีวิต​อย่าง​สงบ​สุข​ต่อ ๆ ไป แล้ว​พระเจ้า​ผู้​มี​ความ​รัก​และ​เป็น​ผู้​ให้​สันติ​สุข​จะ​อยู่​กับ​พวก​คุณ” (2 โครินธ์ 13:11) ดังนั้น ถ้า​เรา​ใช้​ชีวิต​อย่าง​มี​สันติ​สุข​ต่อ ๆ ไป​พระเจ้า​ผู้​ให้​สันติ​สุข​จะ​อยู่​กับ​เรา สิ่ง​ที่​เรา​พูด​และ​ทำ​กับ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​มี​ผล​มาก​กับ​ความ​สัมพันธ์​ของ​เรา​กับ​พระ​ยะโฮวา แต่​เรา​จะ​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​เรา​เป็น​คน​ที่​สร้าง​สันติ​ได้​ยังไง? ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ด้วย​กัน

11 คุณ​ควร​ทำ​ยังไง​ถ้า​รู้สึก​ว่า​ทำ​ให้​พี่​น้อง​โกรธ? พระ​เยซู​บอก​ว่า “ดังนั้น ถ้า​คุณ​เอา​ของ​ถวาย​มา​ที่​แท่น​บูชา​และ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​มี​คน​โกรธ​คุณ​อยู่ ให้​วาง​ของ​ถวาย​ไว้​หน้า​แท่น​บูชา​ก่อน​และ​ไป​คืน​ดี​กับ​เขา แล้ว​ค่อย​กลับ​มา​ถวาย​ของ​นั้น” (มัดธาย 5:23, 24) ดังนั้น คุณ​ควร​เข้า​ไป​หา​พี่​น้อง​และ​คุย​กับ​เขา​โดย​มี​เป้าหมาย​ที่​จะ “คืน​ดี” กับ​เขา b แทน​ที่​จะ​บอก​ว่า​เขา​ไม่​มี​เหตุ​ผล​เลย​ที่​รู้สึก​อย่าง​นั้น คุณ​อาจ​ต้อง​ไป​ขอ​โทษ​ที่​ทำ​ให้​เขา​เสียใจ ถ้า​คุณ​เข้า​ไป​หา​เขา​โดย​มี​เป้าหมาย​ที่​จะ​คืน​ดี​และ​พยายาม​ที่​จะ​ได้​สันติ​สุข​กลับ​คืน​มา พวก​คุณ​ก็​จะ​แก้ไข​เรื่อง​ที่​เข้าใจ​ผิด​กัน​ได้ พร้อม​จะ​ขอ​โทษ​และ​ให้​อภัย​กัน เมื่อ​คุณ​พยายาม​เต็ม​ที่​เพื่อ​จะ​คืน​ดี​กับ​พี่​น้อง คุณ​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คุณ​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า

“มี​เหตุ​ผล พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง”

12, 13. (ก) คำ​ว่า “มี​เหตุ​ผล” ที่​ยากอบ 3:17 มี​ความหมาย​ว่า​ยังไง? (ข) เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เรา​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล?

12 “มี​เหตุ​ผล” การ​มี​เหตุ​ผล​หมาย​ถึง​อะไร? นัก​วิชาการ​บอก​ว่า​คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “มี​เหตุ​ผล” ใน​ยากอบ 3:17 เป็น​คำ​ที่​แปล​ยาก คำ​นี้​อาจ​หมาย​ถึง “อ่อนโยน” “อดทน​อด​กลั้น” หรือ “กรุณา” เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล?

13 ฟีลิปปี 4:5 บอก​ว่า “ให้​คน​อื่น​เห็น​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล” ข้อ​นี้​แสดง​ว่า​แค่​เรา​คิด​ว่า​เรา​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ยัง​ไม่​พอ แต่​ที่​สำคัญ​คือ​คน​อื่น​มอง​เรา​ยังไง เรา​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ไหม คน​ที่​มี​เหตุ​ผล​จะ​ไม่​ยืนกราน​ให้​ทุก​อย่าง​เป็น​ไป​ตาม​กฎ​อย่าง​เคร่งครัด​หรือ​เรียก​ร้อง​ให้​คน​อื่น​ทำ​ตาม​ที่​เขา​ต้องการ​เสมอ แต่​เขา​เต็ม​ใจ​รับ​ฟัง​คน​อื่น​และ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เหมาะ​สม​ก็​ยอม​ทำ​ตาม​ที่​คน​อื่น​ต้องการ เขา​จะ​อ่อนโยน​และ​ไม่​หยาบคาย​กับ​คน​อื่น​ด้วย ถึง​แม้​เรื่อง​นี้​สำคัญ​สำหรับ​คริสเตียน​ทุก​คน แต่​สำคัญ​เป็น​พิเศษ​สำหรับ​ผู้​ดู​แล เพราะ​ถ้า​เขา​อ่อนโยน​คน​อื่น​ก็​อยาก​เข้า​มา​หา​และ​คุย​กับ​เขา​ได้​ง่าย​ขึ้น (1 เธสะโลนิกา 2:7, 8) เรา​ทุก​คน​ควร​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘คน​อื่น​คิด​ว่า​ฉัน​เป็น​คน​เห็น​อก​เห็น​ใจ ยอม​คน​อื่น และ​อ่อนโยน​ไหม?’

14. เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ได้​ยังไง​ว่า​เรา “พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง”?

14 “พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง” คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง” มี​อยู่​แค่​ครั้ง​เดียว​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก นัก​วิชาการ​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า คำ​นี้ “ใช้​บ่อย​ครั้ง​กับ​ทหาร​ที่​พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง” คำ​นี้​ยัง​ถ่าย​ทอด​ความ​คิด​เกี่ยว​กับ​การ​เป็น​คน “ว่า​นอน​สอน​ง่าย” ด้วย คน​ที่​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก คน​อื่น​มอง​ว่า​เขา​เป็น​คน​ไม่​เอา​ความ​คิด​เห็น​ของ​ตัว​เอง​เป็น​ใหญ่ และ​ถ้า​มี​หลักฐาน​ชัดเจน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​แสดง​ว่า​เขา​ตัดสิน​ใจ​ผิด​หรือ​ทำ​อะไร​ผิด​ไป เขา​ก็​พร้อม​จะ​เปลี่ยน​ทันที คน​อื่น​มอง​ว่า​คุณ​เป็น​อย่าง​นั้น​ไหม?

“เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เมตตา ทำ​ให้​เกิด​ผล​ดี​มาก​มาย”

15. ความ​เมตตา​คือ​อะไร และ​ทำไม​ถึง​เหมาะ​ที่​ยากอบ 3:17 พูด​ถึง “ความ​เมตตา” และ “เกิด​ผล​ดี” พร้อม​กัน?

15 “เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เมตตา ทำ​ให้​เกิด​ผล​ดี​มาก​มาย” ความ​เมตตา​เป็น​ส่วน​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ของ​สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​สติ​ปัญญา “เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เมตตา” สังเกต​ว่า​มี​การ​พูด​ถึง “ความ​เมตตา” และ “เกิด​ผล​ดี” พร้อม​กัน เรื่อง​นี้​เหมาะ​มาก​เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​มัก​จะ​ใช้​คำ​ว่า “เมตตา” เพื่อ​อธิบาย​เกี่ยว​กับ​คน​ที่​สงสาร​คน​อื่น​และ​อยาก​จะ​ทำ​หลาย​อย่าง​เพื่อ​ช่วย​เขา พจนานุกรม​เล่ม​หนึ่ง​อธิบาย​ความหมาย​ของ​ความ​เมตตา​ว่า​เป็น “ความ​รู้สึก​ทุกข์​ใจ​เมื่อ​เห็น​ใคร​บาง​คน​เจอ​เรื่อง​แย่ ๆ และ​พยายาม​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​เพื่อ​ช่วย​เขา” ดังนั้น คน​ที่​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​จะ​ไม่​สนใจ​ที่​ข้อ​เท็จ​จริง​และ​ข้อมูล​บาง​อย่าง​เท่า​นั้น แต่​เขา​จะ​สนใจ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น เขา​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​และ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​คน​อื่น​ด้วย แล้ว​เรา​จะ​แสดง​ว่า​เรา​เมตตา​คน​อื่น​ได้​ยังไง?

16, 17. (ก) นอกจาก​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​แล้ว อะไร​กระตุ้น​เรา​ให้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ และ​ทำไม? (ข) เรา​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​อีก​ว่า​เรา​มี​ความ​เมตตา?

16 วิธี​หนึ่ง​ที่​สำคัญ​คือ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า อะไร​กระตุ้น​เรา​ให้​ทำ​งาน​นี้? อย่าง​แรก​คือ​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า และ​เรา​ก็​อยาก​ทำ​งาน​นี้​เพราะ​เรา​สงสาร​คน​อื่น​ด้วย (มัทธิว 22:37-39) หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้ “ถูก​ขูดรีด​และ​ถูก​ทอดทิ้ง​เหมือน​แกะ​ที่​ไม่​มี​คน​เลี้ยง” (มัทธิว 9:36) พวก​หัวหน้า​ศาสนา​ไม่​สนใจ​และ​ปิด​หู​ปิด​ตา​พวก​เขา​ไม่​ให้​รู้​ความ​จริง​จาก​คำ​สอน​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​เลย​ไม่​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​จาก​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​และ​ไม่​รู้​สิ่ง​ดี​ต่าง ๆ ที่​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น​บน​โลก​นี้ เมื่อ​เรา​คิด​ถึง​ว่า​มี​หลาย​คน​ที่​ต้อง​ได้​ยิน​ข่าว​ดี เรา​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​สงสาร​พวก​เขา​และ​อยาก​จะ​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​บอก​พวก​เขา​เรื่อง​ความ​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา

เมื่อ​เรา​เมตตา​หรือ​สงสาร​คน​อื่น นั่น​แสดง​ว่า​เรา​มี “สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน”

17 มี​วิธี​อื่น​อีก​ไหม​ที่​เรา​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​ได้? ให้​เรา​นึก​ถึง​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​คน​สะมาเรีย​ที่​เจอ​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​นอน​อยู่​ข้าง​ถนน​เพราะ​ถูก​ปล้น​และ​ถูก​ทำ​ร้าย พอ​คน​สะมาเรีย​เห็น​แบบ​นั้น​ก็​รู้สึก​สงสาร​และ “ช่วยเหลือ​เขา” โดย​พัน​แผล​ให้​คน​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย​และ​ดู​แล​เขา​อย่าง​ดี (ลูกา 10:29-37) เรื่อง​นี้​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ความ​เมตตา​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ลง​มือ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​คน​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา “ทำ​ดี​กับ​ทุก​คน โดย​เฉพาะ​กับ​พี่​น้อง​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา” (กาลาเทีย 6:10) ลอง​คิด​ถึง​บาง​อย่าง​ที่​คุณ​อาจ​ทำ​ได้ เช่น พี่​น้อง​สูง​อายุ​อาจ​จำเป็น​ต้อง​มี​คน​ช่วย​พา​ไป​หอ​ประชุม แม่​ม่าย​ใน​ประชาคม​อาจ​ต้องการ​คน​มา​ช่วย​ซ่อมแซม​บ้าน (ยากอบ 1:27) คน​ที่​ท้อ​ใจ​อาจ​ต้องการ “คำ​พูด​ดี ๆ” เพื่อ​จะ​มี​กำลังใจ (สุภาษิต 12:25) เมื่อ​เรา​แสดง​ความ​เมตตา​ใน​วิธี​ต่าง ๆ แบบ​นี้ เรา​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​จริง ๆ

“ไม่​ลำเอียง และ​ไม่​เสแสร้ง”

18. ถ้า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​เรา​จะ​ขจัด​อะไร​จาก​ใจ​เรา และ​ทำไม?

18 “ไม่​ลำเอียง” สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ช่วย​เรา​ไม่​ให้​คิด​ว่า​เรา​ดี​กว่า​คน​อื่น​ที่​มี​เชื้อชาติ​หรือ​สี​ผิว​ต่าง​จาก​เรา ถ้า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​ก็​จะ​พยายาม​ขจัด​ความ​ลำเอียง​ออก​จาก​ใจ​เรา (ยากอบ 2:9) เรา​ไม่​ทำ​ดี​เฉพาะ​กับ​คน​ที่​มี​การ​ศึกษา คน​รวย หรือ​คน​ที่​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใน​ประชาคม​เท่า​นั้น และ​เรา​จะ​ไม่​ดูถูก​พี่​น้อง​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ถึง​เขา​จะ​ดู​เป็น​คน​ที่​ไม่​สำคัญ​อะไร ถ้า​พระ​ยะโฮวา​เปิด​โอกาส​ให้​พวก​เขา​ได้​มา​รับ​ความ​รัก​ของ​พระองค์​แล้ว เรา​ก็​น่า​จะ​รัก​พวก​เขา​ด้วย​เหมือน​กัน

19, 20. (ก) คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “เสแสร้ง” มี​ที่​มา​ยังไง? (ข) เรา​จะ​แสดง​ว่า​เรา​มี “ความ​รัก​อย่าง​จริง​ใจ​แบบ​พี่​น้อง” ได้​ยังไง และ​ทำไม​เรื่อง​นี้​ถึง​สำคัญ?

19 “ไม่​เสแสร้ง” คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “เสแสร้ง” หมาย​ถึง “นัก​แสดง​บน​เวที” ใน​สมัย​ก่อน นัก​แสดง​กรีก​และ​โรมัน​จะ​สวม​หน้ากาก​ขนาด​ใหญ่​ตอน​แสดง​บน​เวที ดังนั้น คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “เสแสร้ง” เลย​ใช้​กับ​คน​ที่​ไม่​จริง​ใจ หรือ​คน​ที่​พยายาม​หลอก​คน​อื่น ถ้า​เรา​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำ​แบบ​นั้น​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา และ​สติ​ปัญญา​นี้​ยัง​มี​ผล​กับ​ความ​รู้สึก​ที่​เรา​มี​กับ​พี่​น้อง​ด้วย

20 อัครสาวก​เปโตร​บอก​ว่า การ​ที่​เรา “เชื่อ​ฟัง​ความ​จริง” น่า​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี “ความ​รัก​อย่าง​จริง​ใจ​แบบ​พี่​น้อง” (1 เปโตร 1:22) ความ​รัก​ที่​เรา​มี​ต่อ​พี่​น้อง​ต้อง​ไม่​เห็น​ได้​จาก​ภาย​นอก​เท่า​นั้น เรา​จะ​ไม่​ทำ​เป็น​ว่า​รัก​พี่​น้อง​เพื่อ​ทำ​ให้​ตัว​เอง​ดู​ดี ความ​รัก​ของ​เรา​ต้อง​เป็น​แบบ​ที่​ออก​มา​จาก​ใจ​จริง ๆ ถ้า​เรา​ทำ​แบบ​นั้น พี่​น้อง​ก็​จะ​ไว้​ใจ​เรา​เพราะ​พวก​เขา​เห็น​ว่า​เรา​จริง​ใจ​กับ​เขา นี่​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​พี่​น้อง และ​เรา​ก็​จะ​รู้สึก​ปลอด​ภัย​เมื่อ​อยู่​ใน​ประชาคม

“รักษา​สติ​ปัญญา . . . เอา​ไว้”

21, 22. (ก) มี​อะไร​ที่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ว่า​โซโลมอน​ไม่​ได้​รักษา​สติ​ปัญญา​ไว้? (ข) เรา​จะ​รักษา​สติ​ปัญญา​ไว้​ได้​ยังไง และ​การ​ทำ​แบบ​นั้น​มี​ประโยชน์​อะไร?

21 สติ​ปัญญา​เป็น​ของ​ขวัญ​จาก​พระ​ยะโฮวา ดังนั้น เรา​ควร​รักษา​เอา​ไว้ โซโลมอน​บอก​ว่า “ลูก​พ่อ . . . รักษา​สติ​ปัญญา​กับ​ความ​สุขุม​รอบคอบ​เอา​ไว้” (สุภาษิต 3:21) แต่​โซโลมอน​ก็​ไม่​ได้​ทำ​แบบ​นั้น ถ้า​เขา​เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา​เสมอ​เขา​จะ​มี​สติ​ปัญญา ใน​ที่​สุด พวก​ภรรยา​ต่าง​ชาติ​ก็​ทำ​ให้​เขา​ไม่​ได้​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ที่​พระองค์​ยอม​รับ​อีก​ต่อ​ไป (1 พงศ์กษัตริย์ 11:1-8) สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​โซโลมอน​แสดง​ให้​เห็น​ว่าความ​รู้​จะ​ไม่​มี​ประโยชน์​อะไร​เลย​ถ้า​เรา​ไม่​ได้​เอา​มัน​ไป​ใช้

22 เรา​จะ​รักษา​สติ​ปัญญา​เอา​ไว้​ได้​ยังไง? แค่​การ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​หนังสือ​ต่าง ๆ ที่ “ทาส​ที่​ซื่อสัตย์​และ​สุขุม” เตรียม​ให้​นั้น​ยัง​ไม่​พอ เรา​ต้อง​พยายาม​เอา​สิ่ง​ที่​เรียน​ไป​ใช้​ด้วย (มัทธิว 24:45) เรา​มี​เหตุ​ผล​มาก​มาย​ที่​จะ​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​มา​ใช้​ใน​ชีวิต นี่​จะ​ช่วย​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​ใน​ตอน​นี้ และ​ทำ​ให้​เรา “ยึด​ความ​หวัง​เรื่อง​ชีวิต​แท้​ไว้​ให้​มั่น” นั่น​คือ​ชีวิต​ใน​โลก​ใหม่ (1 ทิโมธี 6:19) และ​สำคัญ​ที่​สุด การ​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ไป​ใช้​จะ​ทำ​ให้​เรา​ใกล้​ชิด​มาก​ขึ้น​กับ​พระ​ยะโฮวา​ผู้​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​เรา

a 1 พงศ์กษัตริย์ 3:16 บอก​ว่า​ผู้​หญิง​ทั้ง​สอง​คน​เป็น​โสเภณี หนังสือ​การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) บอก​ว่า “ใน​ภาษา​ฮีบรู ผู้​หญิง​สอง​คน​นี้​ถูก​พูด​ถึง​ว่า​เป็น​โสเภณี ซึ่ง​อาจ​ไม่​ใช่​ใน​แง่​ของ​การ​ค้า​ประเวณี แต่​เป็น​ผู้​หญิง​ที่​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ ทั้ง​สอง​คน​อาจ​เป็น​คน​ยิว​หรือ​อาจ​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ​ก็​ได้”—จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา

b คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “คืน​ดี” หมาย​ถึง “เปลี่ยน​จาก​ศัตรู​มา​เป็น​เพื่อน กลับ​มา​ดี​กัน​เหมือน​เดิม และ​ฟื้นฟู​ความ​สัมพันธ์​ให้​กลับ​เป็น​ปกติ​และ​ปรองดอง​กัน” ดังนั้น คุณ​ควร​มี​เป้าหมาย​ที่​จะ​ทำ​ให้​พี่​น้อง​หาย​โกรธ—โรม 12:18