ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บท 29

“รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์”

“รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์”

1-3. (ก) อะไร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​อยาก​เป็น​เหมือน​พ่อ​ของ​ท่าน? (ข) ใน​บท​นี้​เรา​จะ​เรียน​เรื่อง​อะไร​บ้าง?

 คุณ​เคย​เห็น​เด็ก​ผู้​ชาย​ตัว​เล็ก ๆ ที่​พยายาม​เลียน​แบบ​พ่อ​ของ​เขา​ไหม? ลูก​ชาย​อาจ​เลียน​แบบ​ท่า​เดิน วิธี​พูด หรือ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​พ่อ​ทำ พอ​โต​ขึ้น​เขา​ก็​อาจ​มี​ความ​คิด​เหมือน​พ่อ​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด​รวม​ถึง​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ด้วย ความ​รัก​และ​ความ​นับถือ​ที่​ลูก​มี​กับ​พ่อ​ที่​รัก​เขา​มัก​จะ​ทำ​ให้​เขา​อยาก​เป็น​เหมือน​พ่อ

2 แล้ว​พระ​เยซู​รู้สึก​ยังไง​กับ​พระ​ยะโฮวา​พ่อ​ของ​ท่าน​ที่​อยู่​ใน​สวรรค์? มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง​พระ​เยซู​บอก​ว่า ‘ผม​รัก​พ่อ’ (ยอห์น 14:31) ท่าน​เคย​อยู่​กับ​พ่อ​มา​นาน​ก่อน​สร้าง​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​และ​ไม่​มี​ใคร​จะ​รัก​พระ​ยะโฮวา​มาก​เท่า​พระ​เยซู ความ​รัก​แบบ​นี้​กระตุ้น​พระ​เยซู​ลูก​ที่​ภักดี​ให้​อยาก​เป็น​เหมือน​พ่อ​ของ​ท่าน—ยอห์น 14:9

3 ใน​บท​ต้น ๆ ของ​หนังสือ​เล่ม​นี้ เรา​ได้​เห็น​วิธี​ที่​พระ​เยซู​เลียน​แบบ​การ​แสดง​อำนาจ ความ​ยุติธรรม และ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ แต่​พระ​เยซู​เลียน​แบบ​ความ​รัก​ของ​พ่อ​ยังไง? ให้​เรา​มา​ดู​ความ​รัก​ของ​พระ​เยซู​ใน 3 แง่​มุม​คือ น้ำใจ​เสีย​สละ ความ​เมตตา​สงสาร และ​พร้อม​จะ​ให้​อภัย

“ไม่​มี​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​นี้”

4. พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​ยังไง?

4 พระ​เยซู​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​โดด​เด่น​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ การ​เสีย​สละ​ตัว​เอง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ให้​ความ​จำเป็น​และ​เรื่อง​ของ​คน​อื่น​สำคัญ​กว่า​ของ​ตัว​เอง พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​แบบ​นั้น​ยังไง? ท่าน​บอก​ว่า “ไม่​มี​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​นี้ คือ​ที่​คน​หนึ่ง​ยอม​สละ​ชีวิต​เพื่อ​เพื่อน​ของ​เขา” (ยอห์น 15:13) ท่าน​เต็ม​ใจ​สละ​ชีวิต​สมบูรณ์​แบบ​ของ​ท่าน​เพื่อ​เรา นี่​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด แต่​พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ใน​วิธี​อื่น​ด้วย

5. พระ​เยซู​ต้อง​เสีย​สละ​อะไร​บ้าง​เพื่อ​จะ​มา​บน​โลก?

5 ก่อน​ที่​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระเจ้า​จะ​มา​บน​โลก ท่าน​มี​ตำแหน่ง​สูง​ส่ง​ใน​สวรรค์ ท่าน​สนิท​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​ทูตสวรรค์​จำนวน​มาก ถึง​ท่าน​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​ใน​สวรรค์ แต่​ท่าน​ก็ “ยอม​สละ​ทุก​สิ่ง มา​รับ​สภาพ​ทาส และ​เกิด​เป็น​มนุษย์” (ฟีลิปปี 2:7) ท่าน​เต็ม​ใจ​มา​อยู่​กับ​มนุษย์​ผิด​บาป​บน​โลก​ที่ “อยู่​ใน​อำนาจ​ซาตาน​ตัว​ชั่ว​ร้าย” (1 ยอห์น 5:19) นี่​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ของ​พระ​เยซู​ลูก​ของ​พระเจ้า​จริง ๆ

6, 7. (ก) พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ยังไง​บ้าง​ช่วง​ที่​ทำ​งาน​รับใช้​บน​โลก? (ข) ตัวอย่าง​ที่​น่า​ประทับใจ​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​มี​เขียน​ไว้​ที่​ยอห์น 19:25-27?

6 ตลอด​เวลา​ที่​พระ​เยซู​รับใช้​บน​โลก ท่าน​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ใน​หลาย​วิธี​เพื่อ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น ท่าน​ไม่​มี​ความ​เห็น​แก่​ตัว​และ​จดจ่อ​กับ​งาน​รับใช้​โดย​สละ​ความ​สะดวก​สบาย​ของ​ตัว​เอง ท่าน​บอก​ว่า “หมา​จิ้งจอก​ยัง​มี​โพรง​และ​นก​ก็​มี​รัง แต่ ‘ลูก​มนุษย์’ ไม่​มี​ที่​จะ​ซุก​หัว​นอน” (มัทธิว 8:20) พระ​เยซู​เป็น​ช่าง​ไม้​ที่​ชำนาญ ท่าน​สามารถ​ใช้​เวลา​บาง​ส่วน​เพื่อ​สร้าง​บ้าน​ที่​สะดวก​สบาย​สำหรับ​อยู่​เอง​หรือ​ทำ​เฟอร์นิเจอร์​ที่​สวย​งาม​ไว้​ขาย​เพื่อ​จะ​มี​เงิน​เพิ่ม​ขึ้น แต่​ท่าน​ก็​ไม่​ได้​ใช้​ความ​สามารถ​ที่​มี​เพื่อ​จะ​ได้​สิ่ง​ของ​มาก​มาย

7 ตัวอย่าง​ที่​น่า​ประทับใจ​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ของ​พระ​เยซู​มี​เขียน​ไว้​ที่​ยอห์น 19:25-27 ลอง​นึก​ภาพ​ว่า​ตอน​บ่าย​ใน​วัน​ที่​พระ​เยซู​เสีย​ชีวิต ท่าน​คง​ต้อง​คิด​ถึง​หลาย​เรื่อง​แน่ ๆ ตอน​ที่​ทน​ทุกข์​อยู่​บน​เสา​ทรมาน ท่าน​เป็น​ห่วง​สาวก​ของ​ท่าน งาน​ประกาศ และ​โดย​เฉพาะ​การ​รักษา​ความ​ซื่อสัตย์​มั่นคง​และ​การ​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​การ​สรรเสริญ อนาคต​ของ​ทุก​คน​ขึ้น​อยู่​กับ​ท่าน แต่​ก่อน​ที่​ท่าน​จะ​เสีย​ชีวิต ท่าน​แสดง​ความ​ห่วงใย​มารีย์​แม่​ของ​ท่าน​ซึ่ง​ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​แม่​ม่าย​ใน​ตอน​นั้น พระ​เยซู​ขอ​ยอห์น​ให้​ดู​แล​มารีย์ และ​จาก​นั้น​ยอห์น​ก็​รับ​มารีย์​ไป​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​เขา ท่าน​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​จะ​มี​คน​ดู​แล​แม่​ของ​ท่าน​ทั้ง​ทาง​ด้าน​ร่าง​กาย​และ​ทาง​ด้าน​ความ​เชื่อ พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​จริง ๆ

“ท่าน . . . รู้สึก​สงสาร”

8. คำ​ภาษา​กรีก​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​เพื่อ​อธิบาย​ความ​สงสาร​ของ​พระ​เยซู​มี​ความหมาย​ยังไง?

8 พระ​เยซู​มี​ความ​เมตตา​สงสาร​เหมือน​พ่อ​ของ​ท่าน คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​เยซู​รู้สึก​สงสาร​คน​ที่​กำลัง​ทุกข์​และ​พยายาม​หา​วิธี​ช่วย​พวก​เขา คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “รู้สึก​สงสาร” เพื่อ​อธิบาย​ความ​เมตตา​ของ​พระ​เยซู นัก​วิชาการ​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า “คำ​นี้​อธิบาย​ถึง . . . อารมณ์​ที่​ลึกซึ้ง​และ​มี​พลัง​มาก นี่​เป็น​คำ​ภาษา​กรีก​ที่​ถ่ายทอด​ความ​รู้สึก​เมตตา​สงสาร​ได้​ดี​ที่​สุด” ให้​เรา​มา​ดู​บาง​เหตุ​การณ์​ที่​ความ​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ช่วยเหลือ​คน​อื่น

9, 10. (ก) ทำไม​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​ถึง​ออก​ไป​หา​ที่​เงียบ ๆ? (ข) พระ​เยซู​รู้สึก​ยังไง​เมื่อ​ผู้​คน​มา​หา​จน​ท่าน​ไม่​มี​เวลา​ส่วน​ตัว ทำไม​ท่าน​ถึง​รู้สึก​อย่าง​นั้น?

9 ความ​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​สอน​คน​อื่น​เรื่อง​พระเจ้า เรื่อง​ราว​ใน​มาระโก 6:30-34 ช่วย​ให้​เห็น​ว่า​ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​รู้สึก​สงสาร​และ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น ลอง​นึก​ภาพ​ว่า​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ตอน​ที่​พวก​อัครสาวก​เพิ่ง​กลับ​มา​จาก​การ​ประกาศ​และ​กำลัง​เล่า​ให้​พระ​เยซู​ฟัง​อย่าง​ตื่นเต้น​ว่า​พวก​เขา​ได้​เจอ​อะไร​มา​บ้าง ใน​ตอน​นั้น​มี​คน​มาก​มาย​มา​หา​พระ​เยซู​จน​ท่าน​กับ​พวก​อัครสาวก​ไม่​มี​เวลา​ที่​จะ​กิน​อาหาร พระ​เยซู​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต ท่าน​เห็น​ว่า​พวก​อัครสาวก​เหนื่อย ท่าน​เลย​บอก​พวก​เขา​ว่า “ไป​หา​ที่​ส่วน​ตัว​ห่าง​ไกล​ผู้​คน​กัน​เถอะ จะ​ได้​พัก​สัก​หน่อย” พวก​เขา​ก็​ลง​เรือ​ไป​ทาง​เหนือ​สุด​ของ​ทะเล​กาลิลี​เพื่อ​ไป​หา​ที่​เงียบ​สงบ แต่​พอ​ผู้​คน​เห็น​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​นั่ง​เรือ​ไป​และ​หลาย​คน​ได้​ยิน​เรื่อง​นี้ พวก​เขา​ก็​เลย​พา​กัน​วิ่ง​ไป​ตาม​แนว​ชายฝั่ง​และ​ไป​ถึง​ที่​นั่น​ก่อน​ที่​เรือ​จะ​ไป​ถึง​ด้วย​ซ้ำ

10 พระ​เยซู​รู้สึก​หงุดหงิด​ไหม​เมื่อ​เห็น​ว่า​ท่าน​กับ​พวก​อัครสาวก​จะ​ไม่​ได้​พักผ่อน? ไม่​เลย พอ​เห็น​ว่า​มี​หลาย​พัน​คน​กำลัง​รอ​อยู่​ท่าน​ก็​รู้สึก​สงสาร หนังสือ​มาระโก​บอก​ว่า “ท่าน​เห็น​ผู้​คน​มาก​มาย​มา​รอ​อยู่​ก็​รู้สึก​สงสาร เพราะ​พวก​เขา​เป็น​เหมือน​แกะ​ที่​ไม่​มี​คน​เลี้ยง พระ​เยซู​จึง​สอน​พวก​เขา​หลาย​เรื่อง” พระ​เยซู​เข้าใจ​ว่า​ผู้​คน​ต้อง​ฟัง​คำ​สอน​ที่​มา​จาก​พระเจ้า พวก​เขา​เป็น​เหมือน​แกะ​ที่​ไม่​มี​คน​เลี้ยง​หรือ​มี​คน​คอย​ปก​ป้อง พระ​เยซู​รู้​ว่า​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ควร​จะ​ดู​แล​ฝูง​แกะ​อย่าง​ดี แต่​พวก​เขา​กลับ​ไม่​สนใจ​ประชาชน​เลย (ยอห์น 7:47-49) พระ​เยซู​สงสาร​ผู้​คน​และ​เริ่ม​สอน​พวก​เขา “เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า” (ลูกา 9:11) ท่าน​ทำ​อย่าง​นั้น​ทั้ง ๆ ที่​ยัง​ไม่​รู้​ว่า​พวก​เขา​จะ​ตอบรับ​คำ​สอน​ของ​ท่าน​ไหม เห็น​ชัด​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ได้​เริ่ม​รู้สึก​สงสาร​ผู้​คน​หลัง​จาก​ที่​เห็น​ว่า​พวก​เขา​ตอบรับ​สิ่ง​ที่​ท่าน​สอน แต่​เพราะ​รู้สึก​สงสาร​ท่าน​เลย​ถูก​กระตุ้น​ให้​สอน​พวก​เขา

“พระ​เยซู . . . ยื่น​มือ​ออก​สัมผัส​ตัว​เขา”

11, 12. (ก) ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล คน​โรค​เรื้อน​ถูก​มอง​ยังไง แต่​พระ​เยซู​ทำ​ยังไง​เมื่อ​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่ “เป็น​โรค​เรื้อน​ทั่ว​ทั้ง​ตัว” เข้า​มา​หา​ท่าน? (ข) ผู้​ชาย​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​อาจ​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​พระ​เยซู​แตะ​ตัว​เขา และ​ประสบการณ์​ของ​หมอ​คน​หนึ่ง​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ยังไง?

11 ความ​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ช่วย​คน​ที่​มี​ความ​ทุกข์ เมื่อ​หลาย​คน​ที่​เจ็บ​ป่วย​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​คน​ที่​เมตตา พวก​เขา​ก็​เลย​มา​ขอ​ให้​ท่าน​ช่วย เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​ชัดเจน​ตอน​ที่​พระ​เยซู​อยู่​กับ​ผู้​คน​มาก​มาย และ​มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่ “เป็น​โรค​เรื้อน​ทั่ว​ทั้ง​ตัว” เข้า​ไป​หา​ท่าน (ลูกา 5:12) ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล กฎหมาย​ของ​พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​แยก​คน​โรค​เรื้อน​ออก​ไป​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่​ให้​คน​อื่น​ติด​โรค​จาก​เขา (กันดารวิถี 5:1-4) แต่​ต่อ​มา พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ตั้ง​กฎ​ที่​เข้มงวด​ขึ้น​มา และ​กฎ​เหล่า​นั้น​ไม่​ได้​สอน​ผู้​คน​ให้​แสดง​ความ​เมตตา​กับ​คน​โรค​เรื้อน a แต่​พระ​เยซู​ทำ​ยังไง​กับ​คน​โรค​เรื้อน? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “มี​คน​โรค​เรื้อน​คน​หนึ่ง​มา​หา​พระ​เยซู เขา​ถึง​กับ​คุกเข่า​ลง​อ้อน​วอน​ท่าน​ว่า ‘เพียง​แค่​ท่าน​อยาก​ช่วย ท่าน​ก็​จะ​รักษา​ผม​ได้’ พระ​เยซู​รู้สึก​สงสาร​เขา จึง​ยื่น​มือ​ออก​สัมผัส​ตัว​เขา​และ​พูด​ว่า ‘ผม​อยาก​ช่วย หาย​โรค​เถอะ’ แล้ว​เขา​ก็​หาย​จาก​โรค​เรื้อน​ทันที” (มาระโก 1:40-42) พระ​เยซู​รู้​ดี​ว่า​คน​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​ไม่​ควร​มา​อยู่​ใกล้​คน​อื่น แต่​แทน​ที่​จะ​ไล่​เขา​ไป พระ​เยซู​กลับ​สงสาร​เขา​มาก​และ​ลง​มือ​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​ใคร​คาด​คิด พระ​เยซู​แตะ​ตัว​เขา

12 คุณ​พอ​จะ​นึก​ออก​ไหม​ว่า​คน​โรค​เรื้อน​จะ​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​พระ​เยซู​แตะ​ตัว​เขา? หมอ​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​โรค​เรื้อน​ชื่อ​พอล แบรนด์ เล่า​ว่า​เขา​เคย​รักษา​ผู้​ชาย​โรค​เรื้อน​คน​หนึ่ง​ใน​ประเทศ​อินเดีย ตอน​ที่​กำลัง​ตรวจ​โรค เขา​จับ​ไหล่​ของ​ผู้​ชาย​คน​นั้น​พร้อม​กับ​อธิบาย​วิธี​การ​รักษา​ผ่าน​ล่าม แล้ว​จู่ ๆ ผู้​ชาย​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​ก็​เริ่ม​ร้องไห้ เขา​เลย​ถาม​ว่า “ผม​พูด​อะไร​ผิด​ไป​รึ​เปล่า?” ล่าม​ถาม​ผู้​ชาย​คน​นั้น แล้ว​เขา​ตอบ​ว่า “เปล่า​ครับ​หมอ เขา​บอก​ว่า เขา​ร้องไห้​เพราะ​คุณ​หมอ​เอา​มือ​ไป​จับ​ไหล่​เขา ไม่​มี​ใคร​แตะ​ตัว​เขา​มา​นาน​หลาย​ปี​แล้ว” ดังนั้น เมื่อ​พระ​เยซู​แตะ​ตัว​คน​โรค​เรื้อน เขา​คง​ต้อง​รู้สึก​ดี​มาก​แน่ ๆ แต่​ไม่​ใช่​แค่​นั้น เพราะ​ด้วย​การ​แตะ​ครั้ง​เดียว พระ​เยซู​รักษา​เขา​ให้​หาย​จาก​โรค​ที่​ร้ายแรง​และ​ทำ​ให้​เขา​กลับ​ไป​อยู่​กับ​ครอบครัว​และ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​กัน​ได้​อีก​ครั้ง

13, 14. (ก) พระ​เยซู​เจอ​เหตุ​การณ์​อะไร​ตอน​ที่​ใกล้​จะ​ถึง​เมือง​นาอิน และ​ทำไม​เรื่อง​นี้​ถึง​น่า​เศร้า​มาก​จริง ๆ? (ข) ความ​เมตตา​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ลง​มือ​ทำ​อะไร​เพื่อ​แม่​ม่าย​ชาว​เมือง​นาอิน?

13 ความ​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ช่วย​คน​ที่​กำลัง​เศร้า พระ​เยซู​รู้สึก​เสียใจ​มาก​ที่​เห็น​คน​อื่น​กำลัง​เศร้า​เพราะ​เสีย​คน​ที่​รัก​ไป ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ที่​อยู่​ใน​ลูกา 7:11-15 ประมาณ 1 ปี​กับ 9 เดือน​หลัง​จาก​พระ​เยซู​เริ่ม​งาน​รับใช้ พระ​เยซู​เดิน​ทาง​ไป​เมือง​นาอิน แคว้น​กาลิลี พอ​ใกล้​จะ​ถึง​ประตู​เมือง ท่าน​เห็น​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​หาม​ศพ​ออก​มา เหตุ​การณ์​นี้​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​เศร้า​จริง ๆ เพราะ​ศพ​ที่​หาม​ออก​มา​เป็น​ศพ​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ของ​แม่​ม่าย ก่อน​หน้า​นี้ เธอ​คง​ได้​จัด​งาน​ศพ​ของ​สามี​มา​แล้ว และ​ตอน​นี้​เธอ​ยัง​ต้อง​มา​เสีย​ลูก​ชาย​ไป​อีก​ซึ่ง​อาจ​เป็น​คน​เดียว​ที่​คอย​เลี้ยง​ดู​เธอ หลาย​คน​ที่​ตาม​เธอ​มา​คง​ร้อง​เพลง​และ​เล่น​ดนตรี​ไว้​อาลัย​ด้วย (เยเรมีย์ 9:17, 18; มัทธิว 9:23) แต่​พระ​เยซู​สังเกต​แม่​ม่าย​ที่​กำลัง​เศร้า​ซึ่ง​เดิน​อยู่​ใกล้ ๆ แคร่​หาม​ศพ​ของ​ลูก​ชาย

14 พระ​เยซู “สงสาร” แม่​ม่าย​คน​นี้​มาก ท่าน​พูด​ด้วย​น้ำ​เสียง​ที่​อบอุ่น​ว่า “อย่า​ร้องไห้​เลย” แล้ว​ท่าน​ก็​เดิน​เข้า​ไป​ใกล้ ๆ และ​แตะ​แคร่​หาม​ศพ คน​ที่​หาม​แคร่​และ​คน​ที่​อยู่​รอบ ๆ ก็​หยุด พระ​เยซู​พูด​อย่าง​มี​พลัง​ว่า “หนุ่ม​น้อย ผม​ขอ​บอก​ให้​คุณ​ลุก​ขึ้น” หลัง​จาก​นั้น​เกิด​อะไร​ขึ้น? “คน​ตาย​นั้น​ก็​ลุก​ขึ้น​นั่ง​แล้ว​เริ่ม​พูด” เหมือน​กับ​คน​ที่​หลับ​สนิท​แล้ว​ถูก​ปลุก​ให้​ตื่น​ขึ้น​มา แล้ว​พระ​เยซู​ก็ “มอบ​เขา​ให้​แม่” เรื่อง​นี้​น่า​ประทับใจ​จริง ๆ

15. (ก) ตัวอย่าง​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​ความ​เมตตา​สงสาร​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​กระทำ​ยังไง? (ข) เรา​จะ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​ได้​ยังไง?

15 เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​เรื่อง​นี้? จาก​ทั้ง​สอง​เหตุ​การณ์ เรา​สังเกต​ว่า​ความ​เมตตา​สงสาร​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​กระทำ เมื่อไหร่​ที่​พระ​เยซู​เห็น​คน​อื่น​มี​ความ​ทุกข์ ท่าน​ก็​อด​สงสาร​ไม่​ได้ และ​ท่าน​ก็​ทำ​บาง​อย่าง​เพื่อ​ช่วย​พวก​เขา​เสมอ เรา​จะ​เลียน​แบบ​ท่าน​ได้​ยังไง? เรา​ที่​เป็น​คริสเตียน​มี​หน้า​ที่​ที่​จะ​ประกาศ​ข่าว​ดี​และ​ช่วย​คน​ให้​เป็น​สาวก เหตุ​ผล​สำคัญ​ที่​สุด​ที่​เรา​ทำ​แบบ​นี้​เพราะ​เรา​รัก​พระ​ยะโฮวา แต่​อีก​เหตุ​ผล​หนึ่ง​ก็​คือ​เพราะ​เรา​สงสาร​ผู้​คน​ด้วย ถ้า​เรา​สงสาร​ผู้​คน​เหมือน​พระ​เยซู เรา​ก็​จะ​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​ประกาศ​ข่าว​ดี​ให้​คน​อื่น​ฟัง (มัทธิว 22:37-39) แล้ว​เรา​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​พี่​น้อง​ที่​มี​ความ​ทุกข์​และ​เศร้า​ใจ​ได้​ยังไง? ถึง​เรา​จะ​รักษา​โรค​หรือ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​ฟื้น​ไม่​ได้ แต่​เรา​ก็​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ได้​โดย​หา​โอกาส​ที่​จะ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น​ที่​มี​ความ​จำเป็น หรือ​บอก​เขา​ว่า​เรา​รัก​และ​เป็น​ห่วง​เขา​มาก—เอเฟซัส 4:32

“พ่อ​ครับ ยก​โทษ​ให้​พวก​เขา​ด้วย”

16. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เต็ม​ใจ​ให้​อภัย​แม้​แต่​ตอน​ที่​ท่าน​ถูก​ตรึง​บน​เสา​ทรมาน?

16 อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​ช่วย​ให้​เห็น​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก็​คือ​ท่าน “พร้อม​จะ​ให้​อภัย” (สดุดี 86:5) ท่าน​ทำ​อย่าง​นั้น​แม้​แต่​ตอน​ที่​ถูก​ตรึง​บน​เสา ถึง​แม้​ท่าน​กำลัง​จะ​ตาย​อย่าง​น่า​อับอาย​และ​ต้อง​เจ็บ​ปวด​ทรมาน​มาก​เพราะ​ถูก​ตอก​ตะปู​ที่​มือ​และ​เท้า ท่าน​ยัง​พูด​ว่า​อะไร? ท่าน​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ลง​โทษ​คน​ที่​ทรมาน​ท่าน​ไหม? แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น พระ​เยซู​พูด​ว่า “พ่อ​ครับ ยก​โทษ​ให้​พวก​เขา​ด้วย เพราะ​พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่”—ลูกา 23:34 b

17-19. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​ให้​อภัย​เปโตร​ที่​เคย​ปฏิเสธ​ท่าน​ถึง​สาม​ครั้ง?

17 ตัวอย่าง​ที่​น่า​ประทับใจ​เกี่ยว​กับ​การ​ให้​อภัย​ของ​พระ​เยซู​เห็น​ได้​จาก​สิ่ง​ที่​ท่าน​ทำ​และ​พูด​กับ​เปโตร เรา​รู้​ว่า​เปโตร​รัก​พระ​เยซู​มาก ใน​วัน​ที่ 14 เดือน​นิสาน​ซึ่ง​เป็น​คืน​สุด​ท้าย​ที่​พระ​เยซู​มี​ชีวิต​อยู่​บน​โลก เปโตร​บอก​ท่าน​ว่า “อาจารย์​ครับ ผม​พร้อม​จะ​ติด​คุก​และ​ตาย​กับ​ท่าน” แต่​ไม่​กี่​ชั่วโมง​ต่อ​มา เปโตร​ปฏิเสธ​ว่า​ไม่​รู้​จัก​พระ​เยซู​ถึง​สาม​ครั้ง คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ให้​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ตอน​ที่​เปโตร​ปฏิเสธ​ครั้ง​ที่​สาม ตอน​นั้น “พระ​เยซู​ก็​หัน​มา​สบ​ตา​เปโตร” เมื่อ​เปโตร​รู้​ตัว​ว่า​เขา​ได้​ทำ​ผิด​ร้ายแรง เขา​เลย “ออก​ไป​ร้องไห้​เสียใจ​อย่าง​หนัก” และ​ใน​วัน​นั้น​ตอน​ที่​พระ​เยซู​เสีย​ชีวิต​เปโตร​ก็​อาจ​สงสัย​ว่า ‘อาจารย์​จะ​ให้​อภัย​ผม​ไหม?’—ลูกา 22:33, 61, 62

18 เปโตร​ไม่​ต้อง​รอ​นาน​ถึง​จะ​รู้​คำ​ตอบ พระ​เยซู​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​ใน​เช้า​วัน​ที่ 16 เดือน​นิสาน และ​ดู​เหมือน​ว่า​ใน​วัน​เดียว​กัน​นั้น​เอง​ที่​พระ​เยซู​ไป​หา​เปโตร​และ​คุย​กับ​เขา​เป็น​ส่วน​ตัว (ลูกา 24:34; 1 โครินธ์ 15:4-8) ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​อยาก​คุย​กับ​เปโตร​มาก​ทั้ง ๆ ที่​เขา​เคย​ปฏิเสธ​ท่าน​ถึง 3 ครั้ง? พระ​เยซู​อาจ​จะ​อยาก​ให้​เปโตร​ที่​กลับ​ใจ​แล้ว​มั่น​ใจ​ว่า​ท่าน​ยัง​รัก​เขา​อยู่​และ​มอง​ว่า​เขา​เป็น​คน​ที่​มี​ค่า แต่​พระ​เยซู​ทำ​มาก​กว่า​นั้น​อีก​เพื่อ​ให้​เปโตร​มั่น​ใจ​ว่า​ท่าน​ให้​อภัย​เขา​แล้ว

19 ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ไป​เจอ​กับ​พวก​สาวก​ที่​ทะเล​กาลิลี ตอน​นั้น พระ​เยซู​ถาม​เปโตร 3 ครั้ง​ว่า​เขา​รัก​ท่าน​ไหม หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​ถาม​ครั้ง​ที่​สาม เปโตร​ก็​ตอบ​ท่าน​ว่า “นาย​ครับ ท่าน​รู้​ทุก​อย่าง​อยู่​แล้ว ท่าน​ก็​รู้​ว่า​ผม​รัก​ท่าน” ที่​จริง พระ​เยซู​รู้​ว่า​เปโตร​คิด​อะไร​ใน​ใจ​และ​รู้​ว่า​เขา​รัก​ท่าน​มาก แต่​พระ​เยซู​ให้​โอกาส​เปโตร​ที่​เคย​ปฏิเสธ​ท่าน 3 ครั้ง​ให้​ยืน​ยัน​ความ​รัก​ของ​เขา​ที่​มี​ต่อ​ท่าน​ถึง 3 ครั้ง นอกจากนั้น พระ​เยซู​ยัง​มอบหมาย​ให้​เปโตร ‘เลี้ยง​และ​ดู​แล​แกะ​ตัว​เล็ก ๆ’ ของ​ท่าน (ยอห์น 21:15-17) ก่อน​หน้า​นั้น เขา​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​ให้​ประกาศ (ลูกา 5:10) แต่​ตอน​นี้ พระ​เยซู​ให้​เขา​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​สำคัญ​ใน​การ​ดู​แล​คน​ที่​จะ​เข้า​มา​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระ​คริสต์ นั่น​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​ไว้​ใจ​เปโตร​มาก​จริง ๆ หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน พระ​เยซู​ให้​เขา​มี​บทบาท​สำคัญ​ใน​งาน​ของ​พวก​สาวก (กิจการ 2:1-41) เปโตร​คง​รู้สึก​ได้​กำลังใจ​มาก​ที่​รู้​ว่า​พระ​เยซู​ให้​อภัย​และ​ไว้​ใจ​เขา​เหมือน​เดิม

คุณ “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์” ไหม?

20, 21. เรา​จะ​มา “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์” อย่าง​เต็ม​ที่​ได้​ยังไง?

20 คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์​ไว้​อย่าง​ยอด​เยี่ยม แต่​ความ​รัก​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​น่า​จะ​กระตุ้น​เรา​ให้​ทำ​อะไร? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​เรา​ต้อง “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์​ที่​เหนือ​กว่า​ความ​รู้” (เอเฟซัส 3:19) เรา​ได้​เห็น​ว่า​เรื่อง​ราว​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​สอน​เรา​หลาย​อย่าง​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์ แต่​เพื่อ​จะ “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์” จริง ๆ เรา​ต้อง​ทำ​มาก​กว่า​การ​มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​ท่าน

21 คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “รู้​จัก” หมาย​ถึง​รู้​จัก “โดย​ทาง​ประสบการณ์​ของ​เรา​เอง” เมื่อ​เรา​แสดง​ความ​รัก​แบบ​พระ​เยซู คือ​การ​เสีย​สละ​ตัว​เอง​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​โดย​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ที่​จำเป็น และ​ให้​อภัย​เขา​จาก​ใจ ถ้า​เรา​ทำ​แบบ​นี้​ก็​แสดง​ว่า​เรา​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​พระ​เยซู​จริง ๆ แล้ว​เรา​จะ “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์​ที่​เหนือ​กว่า​ความ​รู้” จาก​ประสบการณ์​ของ​เรา​เอง และ​อย่า​ลืม​ว่า​ถ้า​เรา​พยายาม​เลียน​แบบ​พระ​คริสต์ เรา​ก็​จะ​ยิ่ง​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ที่​เรา​รัก ซึ่ง​เป็น​ผู้​ที่​พระ​เยซู​เลียน​แบบ​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ

a พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ตั้ง​กฎ​ว่า​ต้อง​อยู่​ห่าง​จาก​คน​โรค​เรื้อน​ประมาณ 2 เมตร แต่​ถ้า​มี​ลม​พัด คน​โรค​เรื้อน​ต้อง​ออก​ไป​อยู่​ห่าง ๆ อย่าง​น้อย​ประมาณ 45 เมตร หนังสือ​มิดราช รับบาห์​เล่า​ว่า​มี​ผู้​นำ​ศาสนา​คน​หนึ่ง​ไม่​ยอม​เข้า​ใกล้​คน​โรค​เรื้อน​เลย ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​ไล่​คน​โรค​เรื้อน​โดย​เอา​หิน​ขว้าง ดังนั้น คน​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​คง​ต้อง​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​มาก​เพราะ​มี​แต่​คน​รังเกียจ

b สำเนา​เก่าแก่​บาง​ฉบับ มี​การ​ตัด​ส่วน​แรก​ของ​ลูกา 23:34 ที่​บอก​ว่า “พ่อ​ครับ ยก​โทษ​ให้​พวก​เขา​ด้วย เพราะ​พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่” แต่​ข้อ​ความ​นี้​มี​อยู่​ใน​สำเนา​เก่าแก่​ที่​น่า​เชื่อถือ​หลาย​ฉบับ และ​ยัง​มี​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่​และ​ฉบับ​แปล​อื่น ๆ ด้วย ดู​เหมือน​ว่า​พระ​เยซู​พูด​ถึง​ทหาร​โรมัน​ที่​ตรึง​ท่าน พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​ตัว​เอง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​และ​ไม่​รู้​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ใคร​จริง ๆ พระ​เยซู​อาจ​หมาย​ถึง​คน​ยิว​ที่​ต้องการ​ฆ่า​ท่าน​ด้วย แต่​ต่อ​มา​ก็​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​ท่าน (กิจการ 2:36-38) ที่​จริง​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ที่​กระตุ้น​ทหาร​โรมัน​ให้​ฆ่า​พระ​เยซู​มี​ความ​ผิด​มาก​กว่า​เพราะ​เขา​อยาก​ให้​พระ​เยซู​ตาย​ทั้ง ๆ ที่​รู้​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า หลาย​คน​ใน​พวก​เขา​ไม่​สม​ควร​ได้​รับ​การ​ให้​อภัย—ยอห์น 11:45-53