ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ทำไมฉันต้องป่วยอย่างนี้?

ทำไมฉันต้องป่วยอย่างนี้?

บท 8

ทำไม​ฉัน​ต้อง​ป่วย​อย่าง​นี้?

“ตอน​ผม​ยัง​เด็ก ผม​คิด​ว่า​ตัว​เอง​แข็งแรง​และ​จะ​เป็น​อย่าง​นี้​ไป​ตลอด. แต่​แล้ว​จู่ ๆ ผม​ก็​ป่วย​หนัก ผม​เลย​ตื่น​จาก​ฝัน. ผม​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​แก่​ลง​ใน​ชั่ว​ข้าม​คืน.”—เจสัน

ตอน​อายุ 18 เจสัน​รู้​ตัว​ว่า​เป็น​โรค​โครห์น​คือ​ลำไส้​มี​ความ​ผิด​ปกติ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เจ็บ​ปวด​และ​อ่อน​แรง. ตัว​คุณ​ก็​อาจ​ป่วย​เรื้อรัง​หรือ​พิการ. สิ่ง​ที่​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา ๆ เช่น การ​แต่ง​ตัว กิน​ข้าว หรือ​ไป​โรง​เรียน อาจ​กลาย​เป็น​เรื่อง​ที่​ลำบาก​มาก​สำหรับ​คุณ.

ปัญหา​สุขภาพ​ที่​เรื้อรัง​ทำ​ให้​คุณ​รู้สึก​เหมือน​ติด​คุก ไม่​มี​อิสระ ทำ​อะไร​ก็​ไม่​ได้. คุณ​อาจ​รู้สึก​ว้าเหว่ และ​ถึง​กับ​สงสัย​ว่า​คุณ​คง​ทำ​อะไร​ให้​พระเจ้า​ไม่​พอ​พระทัย​หรือ​พระเจ้า​คง​อยาก​ทดสอบ​ว่า​คุณ​รัก​พระองค์​ไหม. แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “ไม่​มี​ใคร​ลอง​ใจ​พระเจ้า​ด้วย​สิ่ง​ชั่ว​ได้​และ​พระองค์​ไม่​ทรง​ลอง​ใจ​ผู้​ใด​ด้วย​สิ่ง​ชั่ว​เลย.” (ยาโกโบ 1:13) ใน​ทุก​วัน​นี้ มนุษย์​ทุก​คน​ต่าง​ต้อง​เจ็บ​ป่วย​และ​ยัง​ต้อง​เจอ​กับ “วาระ​และ​เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​ได้​คาด​ล่วง​หน้า.”—ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:11, ล.ม.

น่า​ดีใจ​ที่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​สัญญา​ว่า​จะ​มี​โลก​ใหม่​ซึ่ง “จะ​ไม่​มี​ใคร​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​พูด​ว่า, ‘ข้าพเจ้า​ป่วย​อยู่.’” (ยะซายา 33:24) แม้​แต่​คน​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​ก็​จะ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​และ​ได้​อยู่​ใน​โลก​ใหม่​ด้วย. (โยฮัน 5:28, 29) ก่อน​จะ​ถึง​เวลา​นั้น คุณ​จะ​ยอม​รับ​สภาพ​ของ​คุณ​และ​อยู่​อย่าง​มี​ความ​สุข​ได้​อย่าง​ไร?

พยายาม​มอง​ใน​แง่​บวก. พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า “จิตใจ​ที่​เป็น​สุข​เป็น​ยา​ขนาน​เอก.” (สุภาษิต 17:22, ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย) บาง​คน​อาจ​รู้สึก​ว่า​เมื่อ​ป่วย​หนัก เขา​ไม่​ควร​หัวเราะ​หรือ​มี​หน้า​ตา​ยิ้ม​แย้ม. แต่​การ​มี​อารมณ์​ขัน​และ​มี​เพื่อน​ที่​ดี​จะ​ช่วย​ให้​คุณ​รู้สึก​สดชื่น​และ​อยาก​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป. ดัง​นั้น ให้​คิด​ว่า​คุณ​จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​ที่​ช่วย​ให้​รู้สึก​ดี​ขึ้น. จำ​ไว้​ว่า ความ​ยินดี​เป็น​ผล​แห่ง​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า. (กาลาเทีย 5:22) พระ​วิญญาณ​นี้​จะ​ช่วย​คุณ​ให้​อด​ทน​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ได้​และ​ยัง​รู้สึก​ยินดี.—บทเพลง​สรรเสริญ 41:3

ตั้ง​เป้า​ที่​ทำ​ได้. พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า “ให้​คน​ทั้ง​ปวง​เห็น​ว่า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล.” (ฟิลิปปอย 4:5) การ​มี​เหตุ​ผล​จะ​ช่วย​คุณ​ไม่​ให้​ประมาท​หรือ​ระวัง​ตัว​เกิน​ไป. การ​ออก​กำลัง​กาย​อย่าง​เหมาะ​สม​จะ​ช่วย​ให้​คุณ​รู้สึก​ดี​ขึ้น. ด้วย​เหตุ​นี้ ทาง​โรง​พยาบาล​จึง​มัก​จัด​ให้​ผู้​ป่วย​ทำ​กายภาพ​บำบัด. การ​ออก​กำลัง​กาย​อย่าง​เหมาะ​สม​ไม่​เพียง​แต่​ช่วย​ให้​คุณ​สุขภาพ​ดี ยัง​ทำ​ให้​คุณ​อารมณ์​ดี​ด้วย. ดัง​นั้น ให้​ตั้ง​เป้า​ที่​เหมาะ​กับ​สภาพ​ร่าง​กาย​ของ​คุณ.

รู้​วิธี​รับมือ​กับ​คำ​พูด​ของ​คน​อื่น. จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ถ้า​บาง​คน​พูด​โดย​ไม่​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​คุณ? พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า “อย่า​ปล่อยใจ​ให้​ไป​ฟัง​บรรดา​ถ้อย​คำ​ที่​ใคร ๆ กล่าว.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 7:21) บาง​ครั้ง​วิธี​ที่​ดี​ที่​สุด​ก็​คือ ไม่​ต้อง​สนใจ. หรือ​คุณ​อาจ​พูด​ถึง​สภาพ​ของ​คุณ​ก่อน เช่น ถ้า​คน​อื่น​ดู​เหมือน​อึดอัด​ที่​เห็น​คุณ​นั่ง​รถ​เข็น คุณ​อาจ​พูด​ให้​เขา​สบาย​ใจ​ว่า “คุณ​คง​อยาก​รู้​ใช่​ไหม​ว่า​ทำไม​ผม​ถึง​นั่ง​รถ​เข็น?”

อย่า​ท้อ​ใจ. ตอน​ที่​พระ​เยซู​ต้อง​ทน​ทุกข์​หนัก พระองค์​ไม่​ได้​หมกมุ่น​อยู่​กับ​ความ​เจ็บ​ปวด แต่​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า ไว้​วางใจ​พระองค์ และ​จด​จ้อง​อยู่​กับ​อนาคต​ที่​น่า​ยินดี. (ฮีบรู 12:2) พระ​เยซู​เรียน​รู้​จาก​ประสบการณ์​ที่​ยาก​ลำบาก. (ฮีบรู 4:15, 16; 5:7-9) พระองค์​ยอม​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​และ​การ​หนุน​ใจ​จาก​คน​อื่น. (ลูกา 22:43) พระองค์​คิด​ถึง​ผล​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​มาก​กว่า​ความ​สุข​สบาย​ของ​ตัว​เอง.—ลูกา 23:39-43; โยฮัน 19:26, 27

พระ​ยะโฮวา ‘ห่วงใย​คุณ’

ไม่​ว่า​คุณ​จะ​ป่วย​เป็น​อะไร​หรือ​หนัก​แค่​ไหน อย่า​คิด​ว่า​พระเจ้า​ไม่​สนใจ​คุณ​หรือ​ถือ​ว่า​คุณ​ไม่​มี​ค่า. ตรง​กัน​ข้าม พระ​ยะโฮวา​ถือ​ว่า​คน​ที่​พยายาม​ทำ​ให้​พระองค์​พอ​พระทัย​มี​ค่า​มาก. (ลูกา 12:7) ‘พระองค์​ห่วงใย​คุณ’ เป็น​ส่วน​ตัว​และ​อยาก​ให้​คุณ​รับใช้​พระองค์​ถึง​แม้​คุณ​จะ​เจ็บ​ป่วย​หรือ​พิการ​ก็​ตาม.—1 เปโตร 5:7, ฉบับ 1971

ดัง​นั้น ถ้า​คุณ​อยาก​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​เลย อย่า​มัว​แต่​กลัว​หรือ​ไม่​มั่น​ใจ. ให้​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา​เสมอ. พระองค์​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​คุณ​และ​รู้​ว่า​คุณ​ต้องการ​อะไร. นอก​จาก​นั้น พระองค์​จะ​ประทาน “กำลัง​ที่​มาก​กว่า​ปกติ” ให้​คุณ​เพื่อ​คุณ​จะ​อด​ทน​ได้. (2 โครินท์ 4:7) คุณ​น่า​จะ​มี​ทัศนะ​ใน​แง่​บวก​เหมือน​ทิโมที​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​วินิจฉัย​ว่า​เป็น​โรค​อ่อน​เพลีย​เรื้อรัง​ตอน​อายุ 17. เขา​บอก​ว่า “ตาม​ที่​บอก​ไว้​ใน 1 โครินท์ 10:13 พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ยอม​ให้​เรา​ถูก​ทดลอง​เกิน​กว่า​ที่​เรา​จะ​ทน​ได้ ผม​จึง​คิด​ว่า​ถ้า​พระ​ผู้​สร้าง​มั่น​ใจ​ว่า​ผม​ทน​ได้ ผม​ก็​ต้อง​ทน​ได้ ผม​จะ​รู้​ดี​กว่า​พระองค์​ได้​อย่าง​ไร.”

ถ้า​คุณ​รู้​จัก​คน​ที่​เจ็บ​ป่วย

ถ้า​คุณ​แข็งแรง​ดี แต่​คุณ​รู้​จัก​บาง​คน​ที่​เจ็บ​ป่วย​หรือ​พิการ​ล่ะ? คุณ​จะ​ช่วย​เขา​อย่าง​ไร? สิ่ง​สำคัญ​คือ​ต้อง​แสดง “ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ” และ “เอ็นดู​สงสาร.” (1 เปโตร 3:8) ให้​พยายาม​เข้าใจ​ว่า​คน​นั้น​ต้อง​ทน​กับ​อะไร​บ้าง. มอง​ปัญหา​ของ​เขา​อย่าง​ที่​เขา มอง. นีนา​ซึ่ง​เกิด​มา​พร้อม​กับ​โรค​กระดูก​สัน​หลัง​ไม่​ปิด เล่า​ว่า “เพราะ​ฉัน​ตัว​เล็ก​และ​นั่ง​รถ​เข็น บาง​คน​เลย​พูด​กับ​ฉัน​เหมือน​ฉัน​เป็น​เด็ก ฉัน​รู้สึก​ไม่​ดี​เลย. แต่​ฉัน​ชอบ​มาก​เมื่อ​มี​คน​พยายาม​ย่อ​ตัว​ลง เพื่อ​พูด​กับ​ฉัน.”

จริง ๆ แล้ว พวก​เขา​ก็​เหมือน​คุณ​นั่น​แหละ​ต่าง​กัน​แค่​เขา​มี​ปัญหา​สุขภาพ. คุณ​พูด​หนุน​ใจ​เขา​ได้​เหมือน​ที่​อัครสาวก​เปาโล​บอก​ว่า​เป็น​การ “ให้​ของ​ประทาน​ฝ่าย​วิญญาณ” แก่​เขา. เมื่อ​ทำ​อย่าง​นั้น คุณ​เอง​จะ​ได้​ประโยชน์​ด้วย​เพราะ​ทั้ง​คุณ​และ​เขา​ต่าง​ก็ “หนุน​กำลังใจ​กัน.”—โรม 1:11, 12

เชิญ​อ่าน​เรื่อง​นี้​เพิ่ม​เติม​ได้​ใน​เล่ม 1 บท 13

ข้อ​คัมภีร์​หลัก

“จะ​ไม่​มี​ใคร​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​พูด​ว่า, ‘ข้าพเจ้า​ป่วย​อยู่.’”—ยะซายา 33:24

ข้อ​แนะ

ให้​ศึกษา​หา​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​พิการ​หรือ​โรค​ที่​คุณ​เป็น. ถ้า​ยัง​ไม่​เข้าใจ คุณ​อาจ​กังวล. ดัง​นั้น ถ้า​เรื่อง​ไหน​ยัง​ไม่​เข้าใจ​ชัดเจน ก็​ให้​ถาม​หมอ​ที่​รักษา​คุณ.

คุณ​รู้​ไหม . . . ?

การ​ที่​คุณ​ป่วย​หรือ​พิการ​ไม่​ใช่​เพราะ​พระเจ้า​ลง​โทษ​คุณ. แต่​เพราะ​เรา​ทุก​คน​ได้​รับ​ความ​ไม่​สมบูรณ์​ตก​ทอด​มา​จาก​อาดาม.—โรม 5:12

แผน​ปฏิบัติการ

ทั้ง ๆ ที่​ป่วย​หรือ​พิการ ฉัน​จะ​มี​ทัศนะ​ใน​แง่​บวก​ได้​โดย ․․․․․

เป้าหมาย​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ฉัน​ทำ​ได้​คือ ․․․․․

เมื่อ​มี​คน​พูด​ถึง​สภาพ​ของ​ฉัน​โดย​ไม่​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก ฉัน​จะ​ไม่​คิด​มาก​ถ้า​ฉัน ․․․․․

สิ่ง​ที่​ฉัน​อยาก​ถาม​พ่อ​แม่​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​คือ ․․․․․

คุณ​คิด​อย่าง​ไร?

คุณ​จะ​ใช้​ความ​รู้​ใน​บท​นี้​ช่วย​คน​ที่​ป่วย​เรื้อรัง​หรือ​พิการ​ได้​อย่าง​ไร?

ถ้า​คุณ​ป่วย​เรื้อรัง คุณ​จะ​คิด​ถึง​สิ่ง​ดี ๆ อะไร​บ้าง​เพื่อ​ช่วย​ให้​รับมือ​กับ​สภาพ​ของ​คุณ​ได้?

คุณ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​การ​ที่​คุณ​เจ็บ​ป่วย​ไม่​ได้​แสดง​ว่า​พระเจ้า​ไม่​พอ​พระทัย​คุณ?

[กรอบ/ภาพ​หน้า 75]

ดัสติน อายุ 22

“ผม​จำ​ได้​ว่า​ผม​ร้องไห้​ใน​อ้อม​กอด​แม่​ตอน​รู้​ว่า​ตัว​เอง​ต้อง​นั่ง​รถ​เข็น​ไป​ตลอด​ชีวิต. ตอน​นั้น​ผม​แค่​แปด​ขวบ.

ผม​เป็น​โรค​กล้ามเนื้อ​ลีบ​และ​อ่อน​แรง. ผม​อาบ​น้ำ​แต่ง​ตัว​และ​กิน​ข้าว​เอง​ไม่​ได้ ต้อง​มี​คน​ช่วย แค่​ยก​แขน​ขึ้น​ผม​ยัง​ทำ​ไม่​ได้. แต่​ผม​ไม่​ได้​อยู่​ไป​วัน ๆ มี​หลาย​อย่าง​ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​สุข. ผม​ออก​ประกาศ​เป็น​ประจำ​และ​เป็น​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้​ใน​ประชาคม. ถาม​ว่า​ผม ‘ลำบาก’ ไหม ไม่​เลย. ผม​มี​ความ​หวัง​เสมอ​และ​มี​งาน​มาก​มาย​ที่​ผม​ทำ​ได้​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า ผม​หวัง​ว่า​จะ ‘เต้น​ได้​ดุจ​ดัง​อีเก้ง.”’—ยะซายา 35:6

[กรอบ/ภาพ​หน้า 75]

โทโมโกะ อายุ 21

“ตอน​ฉัน​สี่​ขวบ หมอ​บอก​ว่า ‘หนู​ต้อง​ฉีด​อินซูลิน​ไป​ตลอด​ชีวิต​นะ.’

สำหรับ​คน​ที่​เป็น​เบาหวาน การ​ควบคุม​ระดับ​น้ำตาล​ใน​เลือด​เป็น​ปัญหา​ใหญ่. บาง​ครั้ง​ฉัน​อยาก​กิน​แต่​กิน​ไม่​ได้ และ​บาง​ครั้ง​ก็​ต้อง​กิน​ทั้ง ๆ ที่​ไม่​อยาก​กิน. ฉัน​ฉีด​อินซูลิน​ไป​แล้ว 25,000 เข็ม ทั้ง​แขน​และ​ขา​จึง​มี​แผล​เป็น​เต็ม​ไป​หมด. พ่อ​แม่​ฉัน​มอง​โลก​ใน​แง่​บวก​และ​ยิ้ม​แย้ม​เสมอ​จึง​ช่วย​ฉัน​ให้​รับมือ​กับ​สภาพ​ของ​ตัว​เอง​ได้. พ่อ​แม่​ยัง​ช่วย​ฉัน​ให้​เห็น​ว่า​สาย​สัมพันธ์​กับ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​สำคัญ. พระ​ยะโฮวา​ดี​ต่อ​ฉัน​เสมอ. ช่วง​ไหน​ที่​แข็งแรง​หน่อย ฉัน​จะ​รับใช้​เต็ม​เวลา​เพื่อ​แสดง​ว่า​ฉัน​ขอบคุณ​พระองค์.”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 76]

เจมส์ อายุ 18

“ผู้​คน​มัก​ไม่​รู้​ว่า​จะ​ปฏิบัติ​กับ​ผม​อย่าง​ไร​เพราะ​ผม​ไม่​เหมือน​คน​อื่น.

ผม​เป็น​โรค​แคระ​ชนิด​ที่​ไม่​ค่อย​มี​คน​เป็น. คน​เรา​มัก​ตัดสิน​คน​อื่น​จาก​สิ่ง​ที่​เห็น เพราะ​ผม​ตัว​เล็ก​หลาย​คน​จึง​คิด​ว่า​ผม​เป็น​เด็ก​ที่​มี​เสียง​ใหญ่ ผม​เลย​ต้อง​พิสูจน์​ว่า​ผม​ไม่​ใช่​เด็ก. แม้​ไม่​เหมือน​คน​อื่น​แต่​ผม​ไม่​คิด​มาก​เพราะ​รู้​ว่า​ตัว​เอง​ก็​มี​อะไร​ดี ๆ เหมือน​กัน. ชีวิต​ผม​มี​ความ​สุข​ดี. ผม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​และ​อธิษฐาน​ขอ​กำลัง​จาก​พระ​ยะโฮวา. ครอบครัว​ให้​กำลังใจ​ผม​เสมอ. ผม​รอ​เวลา​ที่​พระเจ้า​จะ​กำจัด​โรค​ภัย​ทุก​อย่าง​ให้​หมด​ไป. ตอน​นี้​ถึง​ผม​ไม่​เหมือน​คน​อื่น แต่​ผม​ไม่​ยอม​ให้​มัน​มา​ทำลาย​ความ​สุข​ใน​ชีวิต​ผม.”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 76]

ดานิเทรีย อายุ 16

“ตอน​ที่​ฉัน​ยก​แก้ว​น้ำ​ขึ้น​มา​แล้ว​รู้สึก​เจ็บ​มาก ฉัน​รู้​เลย​ว่า​ต้อง​มี​อะไร​ผิด​ปกติ​แน่ ๆ.

การ​เป็น​โรค​ปวด​กล้ามเนื้อ​เรื้อรัง​ทำ​ให้​ฉัน​ลำบาก​และ​เจ็บ​ปวด​มาก. ฉัน​อยาก​ทำ​อะไร​เหมือน​วัยรุ่น​คน​อื่น ๆ แต่​ทำ​ไม่​ได้ ไม่​เหมือน​เมื่อ​ก่อน แค่​จะ​หลับ​ก็​ยัง​ยาก. เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ฉัน​จึง​ทำ​อะไร ๆ ได้. ฉัน​เคย​เป็น​ไพโอเนียร์​สมทบ​ด้วย​ซ้ำ. มัน​ยาก​จริง ๆ แต่​ฉัน​ก็​ทำ​ได้. ตอน​นี้​ฉัน​พยายาม​ทำ​เท่า​ที่​ทำ​ได้. ฉัน​ต้อง​คอย​สังเกต​ตัว​เอง​และ​ไม่​ทำ​อะไร​เกิน​ตัว. ถ้า​ฉัน​ลืม แม่​จะ​คอย​เตือน​ฉัน.”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 77]

อิลิเซีย อายุ 20

“ตอน​เรียน​หนังสือ ฉัน​เคย​ได้ A บวก​มา​ตลอด. แต่​ตอน​นี้​แค่​จะ​อ่าน​หนังสือ​สัก​ประโยค​ก็​ยัง​ยาก บาง​ครั้ง​ฉัน​เลย​รู้สึก​เศร้า.

โรค​อ่อน​เพลีย​เรื้อรัง​ทำ​ให้​ฉัน​แทบ​ทำ​อะไร​ไม่​ได้​เลย​แม้​แต่​เรื่อง​เล็ก ๆ น้อย ๆ. บาง​ครั้ง​แค่​จะ​ลุก​จาก​เตียง​ก็​ยัง​ทำ​ไม่​ได้. แต่​ฉัน​ไม่​ยอม​ให้​มัน​ควบคุม​ชีวิต​ฉัน. ฉัน​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ทุก​วัน​แม้​จะ​อ่าน​ได้​วัน​ละ​ไม่​กี่​ข้อ​หรือ​ต้อง​ให้​คน​ใน​ครอบครัว​มา​อ่าน​ให้​ฟัง​ก็​ตาม. ฉัน​รู้สึก​ขอบคุณ​คน​ใน​ครอบครัว​มาก. พ่อ​ถึง​กับ​ยอม​สละ​สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​ประชุม​ภาค​เพื่อ​ช่วย​ฉัน​ให้​เข้า​ร่วม​ประชุม​ได้. เขา​ไม่​บ่น​สัก​คำ. พ่อ​บอก​ว่า​การ​ดู​แล​ครอบครัว​นี่​แหละ​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่.”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 77]

คัตสึโตชิ อายุ 20

“อยู่ ๆ ผม​ก็​ตกใจ​สุด​ขีด ร้อง​ตะโกน​แล้ว​ก็​ชัก ผม​ทำ​ข้าวของ​กระจัด​กระจาย​เสียหาย​หมด.

ผม​เป็น​โรค​ลม​ชัก​ตั้ง​แต่​อายุ​ห้า​ขวบ. ผม​ชัก​บ่อย​ถึง​เดือน​ละ​เจ็ด​ครั้ง. ผม​ต้อง​กิน​ยา​ทุก​วัน​ทำ​ให้​เพลีย​มาก. แต่​ผม​พยายาม​คิด​ถึง​คน​อื่น​ไม่​คิด​ถึง​แต่​ตัว​เอง. ใน​ประชาคม​มี​พี่​น้อง​ชาย​สอง​คน​อายุ​รุ่น​เดียว​กับ​ผม พวก​เขา​รับใช้​เต็ม​เวลา​และ​ช่วย​ผม​ได้​เยอะ. พอ​เรียน​จบ ผม​ก็​รับใช้​มาก​ขึ้น. ผม​ต้อง​สู้​กับ​โรค​นี้​ทุก​วัน. ถ้า​วัน​ไหน​รู้สึก​ซึมเศร้า ผม​จะ​พักผ่อน​เพื่อ​วัน​ถัด​ไป​จะ​รู้สึก​ดี​ขึ้น.”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 78]

แมทธิว อายุ 19

“ถ้า​เพื่อน ๆ คิด​ว่า​คุณ​ไม่ ‘ปกติ’ เขา​จะ​ไม่​ค่อย​ให้​เกียรติ​คุณ.

ผม​อยาก​เล่น​กีฬา​แต่​เล่น​ไม่​ได้. ผม​เป็น​โรค​สมอง​พิการ แค่​เดิน​ก็​ยัง​ลำบาก. สิ่ง​ไหน​ที่​ทำ​ไม่​ได้ ผม​จะ​ไม่​คิด​ถึง. ผม​จะ​สนใจ​แต่​สิ่ง​ที่​ทำ​ได้ เช่น อ่าน​หนังสือ. ผม​ชอบ​ไป​หอ​ประชุม​เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ดูถูก​ผม. ผม​ดีใจ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ดู​ที่​ภาย​นอก แต่​รัก​ตัว​ผม​จริง ๆ. ผม​ไม่​เคย​มอง​ว่า​ตัว​เอง​พิการ แค่​คิด​ว่า​ต้อง​เอา​ชนะ​อุปสรรค​มาก​กว่า​คน​อื่น.”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 78]

มิกิ อายุ 25

“ฉัน​เคย​เล่น​กีฬา​ได้ แต่​จู่ ๆ ก็​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​แก่​ลง​กะทันหัน ตอน​นั้น​ฉัน​ยัง​วัยรุ่น​อยู่​เลย.

ฉัน​เกิด​มา​มี​รู​ที่​หัวใจ​คือ​เป็น​โรค​ผนัง​กั้น​หัวใจ​รั่ว. ฉัน​เริ่ม​มี​อาการ​ตอน​เป็น​วัยรุ่น เคย​ผ่าตัด​ไป​แล้ว และ​แม้​จะ​ผ่าน​ไป​หก​ปี​แต่​ตอน​นี้​ฉัน​ยัง​เหนื่อย​ง่าย​และ​ปวด​หัว​เป็น​ประจำ. ดัง​นั้น ฉัน​จึง​ตั้ง​เป้า​ระยะ​สั้น​ที่​ตัว​เอง​ทำ​ได้ เช่น รับใช้​เต็ม​เวลา ซึ่ง​ส่วน​ใหญ่​ฉัน​จะ​ใช้​วิธี​เขียน​จดหมาย​และ​โทรศัพท์​ให้​คำ​พยาน. นอก​จาก​นั้น ความ​เจ็บ​ป่วย​ยัง​ช่วย​ฉัน​ให้​มี​คุณลักษณะ​ที่​ขาด​อยู่​คือ​ความ​อด​ทน​และ​ความ​ถ่อม.”

[ภาพ​หน้า 74]

ปัญหา​สุขภาพ​ที่​เรื้อรัง​ทำ​ให้​คุณ​รู้สึก​เหมือน​ติด​คุก แต่​พระ​คัมภีร์​ให้​ความ​หวัง​ว่า​คุณ​จะ​ออก​มา​ได้