ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วิวัฒนาการ—นิยาย​และ​ข้อ​เท็จ​จริง

วิวัฒนาการ—นิยาย​และ​ข้อ​เท็จ​จริง

ศาสตราจารย์​ริชาร์ด ดอว์กินส์ นัก​วิทยาศาสตร์​ด้าน​วิวัฒนาการ​ที่​มี​ชื่อเสียง​กล่าว​ว่า “วิวัฒนาการ​เป็น​เรื่อง​จริง​เหมือน​กับ​ที่​ดวง​อาทิตย์​ร้อน​จริง.”16 แน่นอน การ​ทดลอง​และ​การ​สังเกต​โดย​ตรง​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​ดวง​อาทิตย์​ร้อน. แต่​มี​การ​ทดลอง​หรือ​การ​สังเกต​โดย​ตรง​ใด ๆ ไหม​ที่​สนับสนุน​คำ​สอน​เรื่อง​วิวัฒนาการ​อย่าง​ที่​ไม่​มี​ข้อ​โต้​แย้ง​ได้​เช่น​นั้น?

ก่อน​จะ​ตอบ​คำ​ถาม​ข้อ​นี้ เรา​ต้อง​ชี้​แจง​เรื่อง​หนึ่ง​ให้​ชัดเจน​เสีย​ก่อน. นัก​วิทยาศาสตร์​หลาย​คน​ได้​สังเกต​ว่า เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป ลูก​หลาน​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​อาจ​เปลี่ยน​แปลง​ไป​บ้าง​เล็ก​น้อย. ตัว​อย่าง​เช่น คน​เรา​อาจ​เลือก​ผสม​พันธุ์​สุนัข​เพื่อ​ให้​ได้​ลูก​สุนัข​ที่​ขา​สั้น​หรือ​มี​ขน​ยาว​กว่า​สุนัข​รุ่น​ก่อน ๆ. a นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​เรียก​การ​เปลี่ยน​แปลง​เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้​ว่า “การ​วิวัฒนาการ​ระดับ​จุลภาค” (microevolution).

อย่าง​ไร​ก็​ตาม นัก​วิวัฒนาการ​สอน​ว่า การ​เปลี่ยน​แปลง​เล็ก ๆ ค่อย ๆ เพิ่ม​ขึ้น​ตลอด​ช่วง​เวลา​หลาย​พัน​ล้าน​ปี​จน​ทำ​ให้​เกิด​การ​เปลี่ยน​แปลง​ขนาน​ใหญ่​ที่​จำเป็น​เพื่อ​ทำ​ให้​ปลา​กลาย​เป็น​สัตว์​ครึ่ง​บก​ครึ่ง​น้ำ และ​ทำ​ให้​สัตว์​คล้าย​ลิง​กลาย​เป็น​คน. สมมุติฐาน​เรื่อง​การ​เปลี่ยน​แปลง​ขนาน​ใหญ่​นี้​ถูก​เรียก​ว่า “การ​วิวัฒนาการ​ระดับ​มหภาค” (macroevolution).

ชาลส์ ดาร์วิน​กับ​หนังสือ​ของ​เขา​ที่​ชื่อ​ต้น​กำเนิด​ของ​เผ่า​พันธุ์

ตัว​อย่าง​เช่น ชาลส์ ดาร์วิน​สอน​ว่า การ​เปลี่ยน​แปลง​เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่​เรา​สังเกต​เห็น​ได้​นั้น​บอก​เป็น​นัย​ว่า การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​ใหญ่​กว่า​ซึ่ง​ไม่​มี​ใคร​เห็น​นั้น​ก็​ย่อม​เกิด​ขึ้น​ได้​ด้วย.17 เขา​คิด​ว่า เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​มาก สิ่ง​ที่​มี​อยู่​ตั้ง​แต่​แรก​เดิม​นี้ หรือ​ที่​เรียก​กัน​ว่า​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​เรียบ​ง่าย ได้​วิวัฒนาการ​ไป​อย่าง​ช้า ๆ โดย “ค่อย ๆ เปลี่ยน​แปลง​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย” จน​กลาย​เป็น​สิ่ง​มี​ชีวิต​หลาย​ล้าน​รูป​แบบ​บน​โลก.18

หลาย​คน​คิด​ว่า ข้อ​อ้าง​นี้​มี​เหตุ​ผล​ดี. พวก​เขา​คิด​ว่า ‘ถ้า​การ​เปลี่ยน​แปลง​เล็ก ๆ เกิด​ขึ้น​ใน​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​เดียว​กัน​ได้ แล้ว​ทำไม​การ​เปลี่ยน​แปลง​ขนาน​ใหญ่​ใน​ช่วง​เวลา​ที่​ยาว​นาน​มาก​จะ​เกิด​ขึ้น​ไม่​ได้​ล่ะ?’ b แต่​จริง ๆ แล้ว คำ​สอน​เรื่อง​วิวัฒนาการ​อาศัย​นิยาย​สาม​เรื่อง. ขอ​พิจารณา​เรื่อง​ต่อ​ไป​นี้.

นิยาย​เรื่อง​ที่ 1. การ​กลาย​พันธุ์​ก่อ​ให้​เกิด​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ต่อ​การ​สร้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่. คำ​สอน​เรื่อง​การ​วิวัฒนาการ​ระดับ​มหภาค​อาศัย​ข้อ​อ้าง​ที่​ว่า การ​กลาย​พันธุ์ หรือ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​บังเอิญ​เกิด​ขึ้น​ใน​รหัส​พันธุกรรม​ของ​พืช​และ​สัตว์ ไม่​เพียง​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่​ได้​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ทำ​ให้​เกิด​พืช​และ​สัตว์​วงศ์​ใหม่​ได้​ด้วย.19

การ​กลาย​พันธุ์​ทำ​ให้​เกิด​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใน​พืช เช่น ทำ​ให้​มี​ดอก​ใหญ่​ขึ้น แต่​ก็​ยัง​เป็น​ดอก​ชนิด​เดิม

ข้อ​เท็จ​จริง. ลักษณะ​เฉพาะ​หลาย​อย่าง​ของ​พืช​หรือ​สัตว์​ถูก​กำหนด​โดย​คำ​สั่ง​ใน​รหัส​พันธุกรรม​หรือ​แบบ​พิมพ์​เขียว ซึ่ง​อยู่​ใน​นิวเคลียส​ของ​เซลล์​แต่​ละ​เซลล์. c นัก​วิจัย​ได้​พบ​ว่า การ​กลาย​พันธุ์​ทำ​ให้​เกิด​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใน​พืช​และ​สัตว์​รุ่น​ต่อ ๆ มา​ได้. แต่​การ​กลาย​พันธุ์​จะ​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่​ขึ้น​มา​ไหม? การ​ศึกษา​ใน​ช่วง​ร้อย​ปี​ที่​ผ่าน​มา​ใน​ทาง​พันธุศาสตร์​ได้​เผย​ให้​ทราบ​อะไร?

ใน​ช่วง​ปลาย​ทศวรรษ 1930 นัก​วิทยาศาสตร์​ยอม​รับ​แนว​คิด​ใหม่​นี้​กัน​อย่าง​เต็ม​อก​เต็ม​ใจ. พวก​เขา​คิด​ไว้​แล้ว​ว่า​การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ—คือ​กระบวนการ​ซึ่ง​ทำ​ให้​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​เหมาะ​กับ​สภาพ​แวด​ล้อม​ของ​มัน​ที่​สุด​อยู่​รอด​และ​เกิด​ลูก​หลาน​ได้—สามารถ​ทำ​ให้​เกิด​พืช​ชนิด​ใหม่​ได้​โดย​การ​กลาย​พันธุ์​ที่​เกิด​ขึ้น​เอง​โดย​บังเอิญ. ดัง​นั้น ตอน​นี้​พวก​เขา​จึง​คิด​ว่า การ​คัดเลือก​โดย​มนุษย์ น่า​จะ​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่​ได้​แต่​แข็งแรง​กว่า​เดิม. โวลฟ์-เอคเคฮาร์ด เลินนิก นัก​วิทยาศาสตร์​จาก​สถาบัน​มักซ์พลังก์​เพื่อ​การ​ค้นคว้า​ด้าน​การ​ผสม​พันธุ์​พืช​ใน​เยอรมนี d กล่าว​ว่า “เหล่า​นัก​ชีววิทยา​ทั่ว​ไป และ​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​นัก​พันธุศาสตร์​และ​นัก​ผสม​พันธุ์​พืช​และ​สัตว์​รู้สึก​ตื่นเต้น​ดีใจ​มาก.” ทำไม​จึง​ตื่นเต้น​ดีใจ​กัน​เช่น​นั้น? เลินนิก ซึ่ง​ใช้​เวลา​ประมาณ 30 ปี​ใน​การ​ศึกษา​พันธุศาสตร์​การ​กลาย​พันธุ์​ใน​พืช​ได้​กล่าว​ว่า “นัก​วิจัย​เหล่า​นั้น​คิด​ว่า ถึง​เวลา​แล้ว​ที่​จะ​ปฏิวัติ​วิธี​ผสม​พันธุ์​พืช​และ​สัตว์​แบบ​ที่​เคย​ทำ​กัน​มา​ก่อน. พวก​เขา​คิด​ว่า โดย​การ​กระตุ้น​และ​เลือก​ตัว​กลาย​พันธุ์​ที่​ดี พวก​เขา​จะ​เพาะ​พืช​และ​สัตว์​สาย​พันธุ์​ใหม่​ที่​ดี​กว่า​เดิม​ได้.”20 ที่​จริง บาง​คน​หวัง​ว่า​จะ​สร้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่​เลย​ที​เดียว.

แมลงวัน​ผลไม้​ที่​กลาย​พันธุ์ แม้​ว่า​จะ​ผิด​รูป​ไป แต่​ก็​เป็น​แมลงวัน​ผลไม้

นัก​วิทยาศาสตร์​ใน​สหรัฐ, เอเชีย, และ​ยุโรป​ได้​ริเริ่ม​โครงการ​วิจัย​ที่​ได้​รับ​ทุน​สนับสนุน​อย่าง​ดี โดย​ใช้​วิธี​การ​ต่าง ๆ ซึ่ง​หวัง​กัน​ว่า​จะ​เร่ง​การ​วิวัฒนาการ​ให้​เร็ว​ขึ้น. กว่า 40 ปี​หลัง​จาก​ที่​มี​การ​วิจัย​อย่าง​จริงจัง ผล​เป็น​อย่าง​ไร? เพเตอร์ ฟอน เซงบุช นัก​วิจัย​คน​หนึ่ง กล่าว​ว่า “ทั้ง ๆ ที่​ทุ่ม​เงิน​ไป​มาก​มาย แต่​ความ​พยายาม​ใน​การ​เพาะ​พันธุ์​พืช​ที่​ให้​ผล​ผลิต​ได้​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ โดย​การ​ฉาย​รังสี [เพื่อ​ทำ​ให้​เกิด​การ​กลาย​พันธุ์] ก็​ปรากฏ​ชัด​แล้ว​ว่า​ล้มเหลว.”21 เลินนิก​กล่าว​ว่า “พอ​ถึง​ทศวรรษ 1980 ความ​หวัง​และ​ความ​ตื่นเต้น​ยินดี​ท่ามกลาง​เหล่า​นัก​วิทยาศาสตร์​ก็​หมด​สิ้น​ไป​เพราะ​ความ​ล้มเหลว​ที่​เกิด​ขึ้น​ทั่ว​โลก. การ​เพาะ​พันธุ์​โดย​วิธี​กระตุ้น​ให้​เกิด​การ​กลาย​พันธุ์​ซึ่ง​เป็น​โครงการ​วิจัย​ที่​แยก​ย่อย​ออก​มา​ก็​ไม่​ได้​รับ​การ​เหลียว​แล​จาก​ประเทศ​แถบ​ตะวัน​ตก​อีก​ต่อ​ไป. ตัว​กลาย​พันธุ์​แทบ​ทั้ง​หมด . . . ตาย​ไป​หรือ​ไม่​ก็​อ่อนแอ​กว่า​พันธุ์​ที่​พบ​ใน​ธรรมชาติ.” e

กระนั้น ข้อมูล​ที่​ตอน​นี้​รวบ​รวม​ได้​จาก​การ​วิจัย​ทั่ว​ไป​ด้าน​การ​กลาย​พันธุ์​เป็น​เวลา​ราว ๆ 100 ปี และ​การ​วิจัย​เฉพาะ​การ​ผสม​พันธุ์​ของ​ตัว​กลาย​พันธุ์​เป็น​เวลา 70 ปี​นั้น ทำ​ให้​นัก​วิทยาศาสตร์​ได้​ข้อ​สรุป​เกี่ยว​กับ​ศักยภาพ​ของ​การ​กลาย​พันธุ์​ที่​จะ​ก่อ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่. หลัง​จาก​พิจารณา​หลักฐาน​แล้ว เลินนิก​ได้​สรุป​ว่า “การ​กลาย​พันธุ์​ไม่​สามารถ​ทำ​ให้​ชนิด​ดั้งเดิม [ของ​พืช​หรือ​สัตว์] กลาย​เป็น​ชนิด​ใหม่​ได้. การ​ลง​ความ​เห็น​เช่น​นี้​สอดคล้อง​กับ​ประสบการณ์​และ​ผล​การ​วิจัย​ทั้ง​หมด​ใน​ศตวรรษ​ที่ 20 ที่​เกี่ยว​กับ​การ​กลาย​พันธุ์ รวม​ถึง​หลัก​ความ​น่า​จะ​เป็น​ด้วย.”

ฉะนั้น การ​กลาย​พันธุ์​จะ​ทำ​ให้​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​หนึ่ง​วิวัฒนาการ​เป็น​อีก​ชนิด​หนึ่ง​เลย​ไหม? หลักฐาน​แสดง​ว่า​ไม่​ได้​เป็น​อย่าง​นั้น! เลินนิก​ทำ​การ​ค้นคว้า​จน​ได้​ข้อ​สรุป​ว่า “สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​ต่าง​ชนิด​กัน​อย่าง​ชัดเจน​มี​ขอบ​เขต​ที่​การ​กลาย​พันธุ์​โดย​บังเอิญ​ไม่​อาจ​ขจัด​หรือ​ก้าว​ล้ำ​ได้.”22

ขอ​ให้​พิจารณา​ว่า​ข้อ​เท็จ​จริง​ข้าง​ต้น​นี้​บ่ง​ชี้​ถึง​อะไร. ถ้า​นัก​วิทยาศาสตร์​ที่​มี​ประสบการณ์​สูง​ยัง​ไม่​สามารถ​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่​ได้​โดย​ใช้​วิธี​กระตุ้น​ให้​เกิด​การ​กลาย​พันธุ์​และ​เลือก​ตัว​กลาย​พันธุ์​ที่​ดี แล้ว​เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​กระบวนการ​ที่​ปราศจาก​สติ​ปัญญา​จะ​ทำ​ได้​ดี​กว่า​นัก​วิทยาศาสตร์? ถ้า​การ​วิจัย​แสดง​ว่า การ​กลาย​พันธุ์​ไม่​สามารถ​ทำ​ให้​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ดั้งเดิม​เปลี่ยน​เป็น​ชนิด​ใหม่​จริง ๆ แล้ว​การ​วิวัฒนาการ​ระดับ​มหภาค​จะ​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร?

นิยาย​เรื่อง​ที่ 2. การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่ ๆ. ดาร์วิน​เชื่อ​ว่า สิ่ง​ที่​เขา​เรียก​ว่า​การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ​จะ​เอื้ออำนวย​ให้​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​เหมาะ​สม​กับ​สภาพ​แวด​ล้อม​มาก​ที่​สุด​รอด​ชีวิต​อยู่​ได้ ขณะ​ที่​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​มี​ความ​เหมาะ​สม​น้อย​กว่า​จะ​ค่อย ๆ สูญ​พันธุ์​ไป​ใน​ที่​สุด. นัก​วิวัฒนาการ​สมัย​ใหม่​สอน​ว่า ขณะ​ที่​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ต่าง ๆ แพร่​พันธุ์​ไป​และ​อยู่​โดด​เดี่ยว การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ​จะ​เลือก​ตัว​กลาย​พันธุ์​ที่​มี​พันธุกรรม​ที่​เหมาะ​กับ​การ​อยู่​รอด​ใน​สภาพ​แวด​ล้อม​ใหม่​มาก​ที่​สุด. ผล​ก็​คือ นัก​วิวัฒนาการ​คาด​ว่า กลุ่ม​ที่​อยู่​โดด​เดี่ยว​เหล่า​นี้​ใน​ที่​สุด​จะ​พัฒนา​ไป​เป็น​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่​โดย​สิ้นเชิง.

ข้อ​เท็จ​จริง. ดัง​ที่​กล่าว​ก่อน​หน้า​นี้ หลักฐาน​จาก​การ​วิจัย​บ่ง​ชี้​อย่าง​หนักแน่น​ว่า การ​กลาย​พันธุ์​ไม่​สามารถ​ทำ​ให้​เกิด​พืช​หรือ​สัตว์​ชนิด​ใหม่​โดย​สิ้นเชิง. กระนั้น นัก​วิวัฒนาการ​มี​ข้อ​พิสูจน์​อะไร​ที่​จะ​สนับสนุน​ข้อ​อ้าง​ที่​ว่า การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ​ได้​เลือก​ตัว​กลาย​พันธุ์​ที่​ดี​เพื่อ​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่? จุลสาร​ฉบับ​หนึ่ง​ที่​จัด​พิมพ์​ใน​ปี 1999 โดย​สถาบัน​วิทยาศาสตร์​แห่ง​ชาติ (เอ็น​เอ​เอส) ใน​สหรัฐ อ้าง​ถึง “นก​จาบ​ปีกอ่อน 13 ชนิด​ที่​ดาร์วิน​ศึกษา​บน​หมู่​เกาะ​กาลาปากอส ซึ่ง​ปัจจุบัน​เรียก​กัน​ว่า​นก​จาบ​ปีก​อ่อน​ของ​ดาร์วิน.”23

ใน​ทศวรรษ 1970 นัก​วิจัย​กลุ่ม​หนึ่ง​นำ​โดย​ปีเตอร์ อาร์. และ​บี. โรสแมรี แกรนต์ แห่ง​มหาวิทยาลัย​พรินซ์ตัน เริ่ม​ศึกษา​นก​จาบ​ปีก​อ่อน​เหล่า​นี้​และ​ค้น​พบ​ว่า หลัง​จาก​หนึ่ง​ปี​ที่​หมู่​เกาะ​นั้น​เกิด​ภาวะ​แห้ง​แล้ง นก​จาบ​ปีก​อ่อน​ชนิด​ที่​มี​ปาก​ใหญ่​กว่า​เล็ก​น้อย​อยู่​รอด​ได้​ดี​กว่า​ชนิด​ที่​มี​ปาก​เล็ก​กว่า. เนื่อง​จาก​ขนาด​และ​รูป​ทรง​ของ​ปาก​เป็น​วิธี​หลัก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ใช้​ใน​การ​จำแนก​ชนิด​ของ​นก​จาบ​ทั้ง 13 ชนิด การ​ค้น​พบ​นี้​จึง​ถือ​ว่า​เป็น​เรื่อง​สำคัญ. จุลสาร​ของ​เอ็น​เอ​เอส​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า “ปีเตอร์​และ​โรสแมรี แกรนต์ ประเมิน​ว่า ถ้า​ภาวะ​แห้ง​แล้ง​เกิด​ขึ้น​ประมาณ​หนึ่ง​ครั้ง​ใน​ทุก ๆ 10 ปี​บน​หมู่​เกาะ​นี้ นก​จาบ​ปีก​อ่อน​ชนิด​ใหม่​ก็​อาจ​เกิด​ขึ้น​ภาย​ใน​ระยะ​เวลา​เพียง 200 ปี.”24

อย่าง​ไร​ก็​ตาม จุลสาร​เล่ม​นั้น​กลับ​ไม่​ยอม​กล่าว​ถึง​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​หลัง​จาก​ที่​เกิด​ภาวะ​แห้ง​แล้ง ซึ่ง​ปรากฏ​ว่า​นก​จาบ​ปีก​อ่อน​ที่​มี​ปาก​เล็ก​กว่า​กลับ​มี​ประชากร​นก​มาก​กว่า​ด้วย​ซ้ำ. นัก​วิจัย​พบ​ว่า เมื่อ​สภาพ​ภูมิอากาศ​บน​เกาะ​นี้​เปลี่ยน​ไป นก​จาบ​ปีก​อ่อน​ชนิด​ปาก​ใหญ่​จะ​มี​จำนวน​มาก​ใน​ช่วง​หนึ่ง​ปี แต่​ต่อ​มา​ชนิด​ที่​มี​ปาก​เล็ก​กว่า​กลับ​มี​จำนวน​มาก​กว่า. พวก​เขา​ยัง​สังเกต​ด้วย​ว่า นก​จาบ​ปีก​อ่อน​ที่​ต่าง “ชนิด” กัน​บาง​ชนิด​ผสม​พันธุ์​กัน​และ​เกิด​ลูก​ที่​อยู่​รอด​ได้​ดี​กว่า​พ่อ​แม่. พวก​เขา​ลง​ความ​เห็น​ว่า ถ้า​การ​ผสม​ข้าม​พันธุ์​ยัง​มี​ต่อ​ไป​เรื่อย ๆ ก็​อาจ​ทำ​ให้​นก​สอง “ชนิด” รวม​กัน​กลาย​เป็น​ชนิด​เดียว​กัน.25

นก​จาบ​ปีก​อ่อน​ของ​ดาร์วิน​แสดง​ให้​เห็น​ได้​แค่​ว่า​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​หนึ่ง​สามารถ​ปรับ​ตัว​เข้า​กับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ทาง​สภาพ​ภูมิอากาศ

ดัง​นั้น การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่​จริง ๆ ไหม? เมื่อ​หลาย​สิบ​ปี​ก่อน จอร์จ คริสโตเฟอร์ วิลเลียมส์ นัก​ชีววิทยา​วิวัฒนาการ​เริ่ม​สงสัย​ว่า การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ​สามารถ​ทำ​ได้​ขนาด​นั้น​หรือ​ไม่.26 ใน​ปี 1999 นัก​ทฤษฎี​วิวัฒนาการ​ชื่อ​เจฟฟรีย์ เอช. ชวาทซ์ เขียน​ว่า การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ​อาจ​กำลัง​ช่วย​ให้​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ต่าง ๆ ปรับ​ตัว​เข้า​กับ​ความ​จำเป็น​ที่​เปลี่ยน​ไป​เพื่อ​จะ​อยู่​รอด​ได้ แต่​ไม่​ได้​สร้าง​อะไร​ขึ้น​ใหม่.27

ที่​จริง นก​จาบ​ปีก​อ่อน​ของ​ดาร์วิน​ไม่​ได้​เปลี่ยน​เป็น “อะไร​ใหม่.” มัน​ยัง​เป็น​นก​จาบ​ปีก​อ่อน​เหมือน​เดิม. และ​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​มัน​ยัง​ผสม​ข้าม​พันธุ์​กัน​อยู่​ก็​ทำ​ให้​เกิด​ข้อ​สงสัย​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​นัก​วิวัฒนาการ​บาง​คน​ใช้​ใน​การ​กำหนด​ชนิด​ของ​นก. นอก​จาก​นั้น ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​นก​ชนิด​นี้​ยัง​เปิด​เผย​ความ​จริง​ที่​ว่า แม้​แต่​สถาบัน​ทาง​วิทยาศาสตร์​ที่​มี​ชื่อเสียง​ก็​อาจ​มี​อคติ​ใน​การ​รายงาน​หลักฐาน​ต่าง ๆ.

นิยาย​เรื่อง​ที่ 3. หลักฐาน​ฟอสซิล​แสดง​ว่า​มี​การ​วิวัฒนาการ​ระดับ​มหภาค. จุลสาร​ของ​เอ็นเอเอส​ที่​กล่าว​ถึง​ข้าง​ต้น​ทำ​ให้​ผู้​อ่าน​รู้สึก​ว่า ฟอสซิล​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​ค้น​พบ​เป็น​หลักฐาน​มาก​พอ​ที่​สนับสนุน​เรื่อง​การ​วิวัฒนาการ​ระดับ​มหภาค. จุลสาร​นั้น​ประกาศ​ว่า “มี​การ​ค้น​พบ​สิ่ง​มี​ชีวิต​มาก​มาย​ที่​เป็น​ตัว​เชื่อม​ระหว่าง​ปลา​และ​สัตว์​ครึ่ง​บก​ครึ่ง​น้ำ รวม​ทั้ง​ระหว่าง​สัตว์​ครึ่ง​บก​ครึ่ง​น้ำ​และ​สัตว์​เลื้อยคลาน, ระหว่าง​สัตว์​เลื้อยคลาน​กับ​สัตว์​เลี้ยง​ลูก​ด้วย​นม, และ​ใน​สาย​พันธุ์​ของ​ลิง​ซึ่ง​มัก​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​ระบุ​ให้​แน่ชัด​ว่า​การ​เปลี่ยน​จาก​ชนิด​หนึ่ง​ไป​เป็น​อีก​ชนิด​หนึ่ง​นั้น​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ไร.”28

ข้อ​เท็จ​จริง. คำ​กล่าว​อย่าง​หนักแน่น​ใน​จุลสาร​เล่ม​นั้น​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​แปลก​ใจ​ไม่​น้อย. เพราะ​อะไร? ไนลส์ เอลเดรดจ์ นัก​วิวัฒนาการ​ที่​สนับสนุน​ทฤษฎี​นี้​อย่าง​เต็ม​ที่​กล่าว​ว่า หลักฐาน​ฟอสซิล​แสดง​ว่า​ไม่​ได้​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​แบบ​ค่อย​เป็น​ค่อย​ไป แต่​เป็น​เวลา​นาน​ที​เดียว​ที่ “แทบ​จะ​ไม่​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​ทาง​วิวัฒนาการ​ใด ๆ เลย​ใน​สิ่ง​มี​ชีวิต​ส่วน​ใหญ่.” f29

ตาม​หลักฐาน​ฟอสซิล สัตว์​กลุ่ม​หลัก ๆ ทุก​ชนิด​ปรากฏ​ขึ้น​อย่าง​กะทันหัน และ​แทบ​จะ​ไม่​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใด ๆ เลย

จน​ถึง​ปัจจุบัน นัก​วิทยาศาสตร์​ทั่ว​โลก​ได้​ขุด​ค้น​และ​ทำ​บัญชี​ราย​ชื่อ​ฟอสซิล​ขนาด​ใหญ่​ประมาณ 200 ล้าน​ชิ้น​และ​ฟอสซิล​ขนาด​เล็ก​นับ​พัน​ล้าน​ชิ้น. นัก​วิจัย​หลาย​คน​เห็น​พ้อง​กัน​ว่า หลักฐาน​ที่​มาก​มาย​และ​ละเอียด​นี้​แสดง​ว่า​สัตว์​กลุ่ม​หลัก​ทั้ง​หมด​ดู​เหมือน​ปรากฏ​ขึ้น​อย่าง​กะทันหัน และ​ยัง​แทบ​ไม่​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​อะไร​เลย และ​สัตว์​หลาย​ชนิด​ก็​สูญ​หาย​ไป​อย่าง​กะทันหัน​เช่น​เดียว​กับ​ตอน​ที่​มัน​ปรากฏ​ขึ้น.

การ​ยอม​รับ​วิวัฒนาการ​ต้อง​อาศัย “ความ​เชื่อ”

ทำไม​นัก​วิวัฒนาการ​ที่​มี​ชื่อเสียง​หลาย​คน​ยืนกราน​ว่า​การ​วิวัฒนาการ​ระดับ​มหภาค​เป็น​ข้อ​เท็จ​จริง? นัก​วิวัฒนาการ​ที่​ได้​รับ​ความ​นับถือ​คน​หนึ่ง​ชื่อ ริชาร์ด เลวอนทิน เขียน​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ว่า นัก​วิทยาศาสตร์​หลาย​คน​เต็ม​ใจ​ยอม​รับ​ข้อ​อ้าง​ทาง​วิทยาศาสตร์​ที่​ไม่​มี​ข้อ​พิสูจน์​เพราะ​พวก​เขา “มี​พันธะ​เก่า คือ​พันธะ​ต่อ​สสาร​นิยม.” g นัก​วิทยาศาสตร์​หลาย​คน​ไม่​ยอม​พิจารณา​แม้​แต่​ความ​เป็น​ไป​ได้​ที่​ว่า​มี​ผู้​ออก​แบบ​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา เพราะ​ดัง​ที่​เลวอนทิน​เขียน​ไว้ “เรา​ไม่​อาจ​ยอม​รับ​ได้​แม้​แต่​น้อย​ว่า​มี​พระเจ้า.”30

ใน​เรื่อง​นี้ วารสาร​ไซเยนติฟิก อเมริกัน อ้าง​ถึง​คำ​พูด​ของ​นัก​สังคม​วิทยา​ชื่อ​รอดนีย์ สตาร์ก​ที่​ว่า “มี​การ​โฆษณา​ชวน​เชื่อ​มา 200 ปี​ว่า ถ้า​คุณ​ต้องการ​เป็น​คน​ที่​สนใจ​เรื่อง​วิทยาศาสตร์ คุณ​ก็​ต้อง​กำจัด​โซ่​ตรวน​ของ​ศาสนา​ออก​ไป.” เขา​เสริม​ว่า ใน​มหาวิทยาลัย​ที่​มี​การ​ค้นคว้า​วิจัย “คน​เคร่ง​ศาสนา​จะ​ปิด​ปาก​เงียบ.”31

ถ้า​คุณ​ยอม​รับ​ว่า​คำ​สอน​เรื่อง​การ​วิวัฒนาการ​ระดับ​มหภาค​เป็น​เรื่อง​จริง คุณ​ก็​ต้อง​เชื่อ​ด้วย​ว่า นัก​วิทยาศาสตร์​ที่​ไม่​มี​ศาสนา​หรือ​ที่​เป็น​นัก​อเทวนิยม​จะ​ไม่​ยอม​ให้​ความ​เชื่อ​ส่วน​ตัว​เข้า​มา​มี​อิทธิพล​เหนือ​การ​ตี​ความ​การ​ค้น​พบ​ทาง​วิทยาศาสตร์. คุณ​ก็​ต้อง​เชื่อ​ว่า​การ​กลาย​พันธุ์​และ​การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​ซับซ้อน​ทั้ง​มวล ทั้ง ๆ ที่​การ​วิจัย​ตลอด​หนึ่ง​ศตวรรษ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า การ​กลาย​พันธุ์​ไม่​ได้​เปลี่ยน​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​หนึ่ง​ให้​กลาย​เป็น​ชนิด​ใหม่​เลย​แม้​แต่​ครั้ง​เดียว. แล้ว​คุณ​ต้อง​เชื่อ​ว่า สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​หมด​ค่อย ๆ วิวัฒนาการ​จาก​บรรพบุรุษ​เดียว​กัน​ทั้ง ๆ ที่​หลักฐาน​ทาง​ฟอสซิล​บ่ง​ชี้​อย่าง​หนักแน่น​ว่า พืช​และ​สัตว์​ชนิด​หลัก ๆ ปรากฏ​ขึ้น​อย่าง​กะทันหัน และ​ไม่​ได้​วิวัฒนาการ​เป็น​ชนิด​อื่น แม้​จะ​ผ่าน​ช่วง​เวลา​นาน​ชั่วกัปชั่วกัลป์. ความ​เชื่อ​แบบ​นี้​ดู​เหมือน​อาศัย​ข้อ​เท็จ​จริง​ไหม​หรือ​อาศัย​นิยาย? จริง ๆ แล้ว การ​ยอม​รับ​วิวัฒนาการ​ต้อง​อาศัย “ความ​เชื่อ.”

a การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​ผู้​เพาะ​พันธุ์​สุนัข​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น​มัก​จะ​เกิด​จาก​การ​ทำ​งาน​ที่​บกพร่อง​ทาง​พันธุกรรม. ตัว​อย่าง​เช่น ที่​สุนัข​พันธุ์​ดัชชุนด์​มี​ขนาด​เล็ก​ก็​เพราะ​กระดูก​อ่อน​ไม่​สามารถ​พัฒนา​ได้​ตาม​ปกติ ทำ​ให้​เกิด​ภาวะ​แคระ​แกร็น.

b เยเนซิศ​บท 1 กล่าว​ว่า ทั้ง​พืช​และ​สัตว์​ถูก​สร้าง “ตาม​ชนิด​ของ​มัน.” (เยเนซิศ 1:12, 21, 24, 25) ขอ​สังเกต​ว่า คำ​เดิม​ใน​ภาษา​ฮีบรู​ที่​แปล​ว่า “ชนิด” มี​ความ​หมาย​กว้าง​กว่า​คำ “ชนิด” ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​ใช้. บ่อย​ครั้ง สิ่ง​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​จงใจ​เรียก​ว่า การ​วิวัฒนาการ​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่ ก็​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​ความ​หลาก​หลาย​ภาย​ใน “ชนิด” เดียว​กัน​ตาม​ความ​หมาย​ที่​ใช้​ใน​หนังสือ​เยเนซิศ.

c การ​วิจัย​แสดง​ว่า ไซ​โท​พลา​ซึม​ของ​เซลล์, เยื่อ​หุ้ม​เซลล์, และ​โครง​สร้าง​อื่น ๆ ก็​มี​ส่วน​ใน​การ​กำหนด​ลักษณะ​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ด้วย.

d เลินนิก​เชื่อ​ว่า​สิ่ง​มี​ชีวิต​ถูก​สร้าง​ขึ้น. ความ​เห็น​ของ​เลินนิก​ใน​บทความ​นี้​เป็น​ความ​เห็น​ของ​เขา​เอง และ​ไม่​ได้​เป็น​ความ​เห็น​ของ​สถาบัน​มักซ์พลังก์​เพื่อ​การ​ค้นคว้า​ด้าน​การ​ผสม​พันธุ์​พืช.

e การ​ทดลอง​เกี่ยว​กับ​การ​กลาย​พันธุ์​ปรากฏ​ผล​ออก​มา​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​ว่า จำนวน​ของ​ตัว​กลาย​พันธุ์​ชนิด​ใหม่ ๆ ลด​ลง​อย่าง​ต่อ​เนื่อง ขณะ​ที่​ตัว​กลาย​พันธุ์​ชนิด​เดิม​จะ​มี​ให้​เห็น​อยู่​เป็น​ประจำ. นอก​จาก​นั้น มี​พืช​ที่​กลาย​พันธุ์​ไม่​ถึง 1 เปอร์เซ็นต์​ถูก​เลือก​เพื่อ​ใช้​ใน​การ​วิจัย​ต่อ​ไป และ​มี​ไม่​ถึง 1 เปอร์เซ็นต์​ของ​จำนวน​นี้​ที่​พบ​ว่า​สามารถ​ใช้​เพื่อ​ประโยชน์​ทาง​การ​ค้า​ได้. แต่​ไม่​มี​การ​สร้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ชนิด​ใหม่​ขึ้น​เลย. การ​ผสม​พันธุ์​ของ​สัตว์​ที่​กลาย​พันธุ์​ยิ่ง​ประสบ​ผล​สำเร็จ​น้อย​กว่า​พืช​เสีย​อีก และ​วิธี​ดัง​กล่าว​ก็​ถูก​ล้ม​เลิก​ไป​โดย​สิ้นเชิง.

f แม้​แต่​ตัว​อย่าง​ไม่​กี่​ชิ้น​จาก​หลักฐาน​ฟอสซิล​ที่​พวก​นัก​วิจัย​นำ​มา​ใช้​เป็น​ข้อ​พิสูจน์​เรื่อง​ทฤษฎี​วิวัฒนาการ​ก็​ยัง​เป็น​เรื่อง​ที่​ถกเถียง​กัน​อยู่. โปรด​ดู​จุลสาร “ต้น​กำเนิด​ชีวิต—ห้า​คำ​ถาม​ที่​น่า​คิด” หน้า 22 ถึง 29 ซึ่ง​จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

g “สสาร​นิยม” ใน​ที่​นี้​หมาย​ถึง ทฤษฎี​ที่​ว่า​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ใน​เอกภพ รวม​ทั้ง​ชีวิต​ทั้ง​สิ้น เกิด​ขึ้น​มา​โดย​ไม่​มี​การ​แทรกแซง​ที่​เหนือ​ธรรมชาติ.