ฉันจะหายอกหักได้อย่างไร?
บท 31
ฉันจะหายอกหักได้อย่างไร?
“เราเป็นแฟนกันมาหกเดือนหลังจากเป็นเพื่อนกันห้าปี. เมื่อเขาอยากเลิก เขาไม่กล้าสู้หน้าฉัน ก็เลยเลิกพูดกับฉันไปเฉย ๆ. ฉันรู้สึกท้อแท้มาก. ฉันได้แต่สงสัยและเฝ้าถามตัวเองว่า ‘ฉันผิดตรงไหน?’”—เรเชล
เมื่อคุณกับแฟนเลิกกัน ทำให้คุณซึ่งเป็นคนร่าเริงกลายเป็นคนระทมทุกข์มีแต่น้ำตา. ให้เรามาดูเรื่องของเจฟฟ์กับซูซานซึ่งเป็นแฟนกันมาสองปี. ตลอดสองปีนั้น ความผูกพันทางอารมณ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ. เจฟฟ์ส่งเอสเอ็มเอสหาซูซานทั้งวันเพื่อให้เธอรู้ว่าเขารักเธอ. เขาให้ของขวัญเธอบ่อย ๆ เพื่อแสดงว่าคิดถึงเธอ. ซูซานเล่าว่า “เมื่อฉันพูดอะไร เจฟฟ์จะตั้งใจฟังและพยายามเข้าใจฉัน. เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ.”
จากนั้นไม่นาน เจฟฟ์กับซูซานก็ปรึกษากันเรื่องแต่งงานและคุยกันว่าถ้าแต่งงานแล้วจะอยู่ที่ไหน. เจฟฟ์ยังถามถึงขนาดแหวนของซูซานด้วย. แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็บอกเลิก. ซูซานรู้สึกช็อกและชาด้านไปหมด. เธอหมดอาลัยตายอยากและอยู่ไปวัน ๆ อย่างไร้ความรู้สึก. เธอบอกว่า “ฉันหมดเรี่ยวหมดแรง เป็นเหมือนคนไร้ชีวิตจิตใจ.” *
ทำไมถึงเจ็บปวด?
ถ้าคุณเคยอยู่ในสภาพเดียวกับซูซาน คุณคงสงสัยว่า ‘ฉันจะลืมเขาแล้วกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติไหม?’ ที่คุณเป็นทุกข์นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก. กษัตริย์โซโลมอนเขียนไว้ว่า “ความรักทรงอำนาจประหนึ่งความตาย.” (เพลงไพเราะ 8:6, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) ด้วยเหตุนี้ การอกหักจึงเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณเคยเจอ. บางคนบอกว่า การอกหักเป็นเหมือนตายแล้วครึ่งหนึ่ง. คุณอาจรู้สึกทำนองนั้นและอาจรู้สึกเหมือนมีคนที่คุณรักเสียชีวิต ดังนี้:
ไม่ยอมรับ. ‘เขายังไม่ได้เลิกกับฉัน. อีกสองสามวันเดี๋ยวเขาก็เปลี่ยนใจ.’
โกรธ. ‘เขาทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง. ฉันเกลียดเขา.’
ซึมเศร้า. ‘ฉันมันไม่น่ารัก. คงไม่มีใครมารักฉันหรอก.’
ยอมรับ. ‘เดี๋ยวฉันก็โอเค. แม้มันจะเจ็บปวด แต่ฉันกำลังดีขึ้น.’
ในที่สุดคุณจะยอมรับได้ แต่ต้องใช้เวลา. ส่วนจะนานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น คุณคบกันมานานแค่ไหน และความสัมพันธ์ของพวกคุณลึกซึ้งขนาดไหน. แต่ระหว่างนี้ คุณจะรับมือกับอาการอกหักได้อย่างไร?
เดินหน้าต่อไป
คุณอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า วันเวลาจะช่วยรักษาบาดแผลได้. เมื่อคุณเพิ่งอกหัก คำพูดนี้ฟังดูไม่น่าเชื่อ เพราะวันเวลาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา. เหมือนตอนที่คุณถูกมีดบาด เมื่อเวลาผ่านไป บาดแผลก็จะหายเอง แต่ตอนนี้ คุณยังรู้สึกเจ็บ. คุณต้องห้ามเลือดและบรรเทาความเจ็บปวด. คุณยังต้องดูแลไม่ให้แผลติดเชื้อ. บาดแผลทางอารมณ์ก็
เช่นเดียวกัน. ตอนนี้คุณยังรู้สึกเจ็บ. แต่ก็มีบางอย่างที่คุณทำได้เพื่อจะเจ็บปวดน้อยลงและไม่ต้องทนทุกข์กับความขมขื่น. เวลาจะช่วยรักษาได้ แต่คุณก็ต้องทำส่วนของคุณด้วย. ทำอย่างไรล่ะ? ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้.● ร้องไห้ออกมา. ไม่ผิดที่จะร้องไห้ออกมาเต็มที่. คัมภีร์ไบเบิลบอกว่ามี “เวลาร้องไห้” และ “เวลาคร่ำครวญ.” (ท่านผู้ประกาศ 3:1, 4, ล.ม.) การหลั่งน้ำตาไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนอ่อนแอ. เมื่อมีความทุกข์หนัก แม้แต่ดาวิดซึ่งเป็นนักรบผู้เก่งกล้าก็ยอมรับว่า “ข้าพระองค์ร่ำไห้ตลอดทั้งคืนจนน้ำตาท่วมที่นอน และหมอนของข้าพระองค์ชุ่มด้วยน้ำตา.”—บทเพลงสรรเสริญ 6:6, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย
● ดูแลสุขภาพ. ถ้าการอกหักทำให้คุณรู้สึกห่อเหี่ยว การออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้คุณมีพลังขึ้น. คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “การฝึกทางกายมีประโยชน์.”—1 ติโมเธียว 4:8
คุณต้องทำอะไรบ้างเพื่อจะดูแลสุขภาพ?
․․․․․
● อย่าอยู่ว่าง ๆ ให้หาอะไรทำ. ถ้าคุณชอบทำอะไรก็ให้ทำต่อไป. อย่าอยู่คนเดียว โดยเฉพาะตอนนี้. (สุภาษิต 18:1) การคบกับคนที่แคร์คุณจะช่วยให้คุณคิดแต่สิ่งดี ๆ.
คุณอยากทำอะไรบ้าง?
․․․․․
● อธิษฐานบอกพระเจ้าเรื่องความรู้สึกของคุณ. นี่อาจทำได้ยาก. หลังจากอกหัก บางคนถึงกับรู้สึกว่าพระเจ้าทรยศเขา. เขาหาเหตุผลว่า ‘ฉันอธิษฐานแล้วอธิษฐานอีกขอให้พบ คนที่ใช่ แล้วดูสิตอนนี้ เป็นยังไง.’ (บทเพลงสรรเสริญ 10:1) แต่การถือว่าพระเจ้าเป็นพ่อสื่อนั้นถูกต้องไหม? ไม่ถูก และจะโทษพระองค์ไม่ได้ถ้าคุณกับแฟนเลิกกัน. เราแน่ใจว่าพระยะโฮวาทรง ‘ห่วงใยคุณ.’ (1 เปโตร 5:7, ฉบับ R73) ดังนั้น ให้ระบายความรู้สึกของคุณกับพระองค์ในคำอธิษฐาน. คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “จงทูลทุกสิ่งที่พวกท่านปรารถนาต่อพระเจ้า . . . แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเหนือกว่าความคิดทุกอย่างจะปกป้องหัวใจและจิตใจท่านทั้งหลายไว้โดยทางพระคริสต์เยซู.”—ฟิลิปปอย 4:6, 7
ถ้าคุณพยายามรับมือกับความปวดร้าวที่เกิดจากการอกหัก คุณจะอธิษฐานถึงพระยะโฮวาอย่างเจาะจงในเรื่องใดบ้าง?
․․․․․
มองไปข้างหน้า
เมื่อคุณรู้สึกดีขึ้น คุณน่าจะย้อนกลับไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ที่ผ่านมา และคงจะดีถ้าคุณตอบคำถามในกรอบ “ ฉันได้เรียนรู้อะไรจากการอกหัก?” ที่อยู่ในหน้า 224.
ถึงแม้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองไม่ได้เป็นอย่างที่คุณหวังไว้. แต่จำไว้ว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางพายุ เรามักจะเห็นแต่ท้องฟ้าที่มืดมนและฝนที่เทกระหน่ำ. แล้วในที่สุด เมื่อฝนหยุด ฟ้าก็ใส. หนุ่มสาวที่พูดถึงตอนต้นพบว่า เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็หายอกหักและใช้ชีวิตได้ตามปกติ. ขอให้มั่นใจว่าคุณก็จะเป็นอย่างนั้นด้วย.
คุณจะป้องกันตัวอย่างไรจากผู้ที่ทำร้ายทางเพศ?
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 5 ถึงแม้บทนี้จะพูดถึงผู้หญิง แต่คำแนะนำก็ใช้กับผู้ชายได้.
ข้อคัมภีร์หลัก
“[พระยะโฮวา] ทรงประเล้าประโลมใจที่แตกช้ำแล้วให้หาย, และทรงผูกพันบาดแผลของเขา.”—บทเพลงสรรเสริญ 147:3
ข้อแนะ
ซูซานที่พูดถึงในบทนี้ได้เขียนข้อคัมภีร์ไว้ดูหลายข้อ และเมื่อไรที่รู้สึกหดหู่เธอจะหยิบมาดู. คุณอาจทำแบบเดียวกันโดยเลือกข้อคัมภีร์ที่อยู่ในบทนี้.
คุณรู้ไหม . . . ?
คนที่เป็นแฟนกันตอนเป็นวัยรุ่นมักจะไม่ได้แต่งงานกัน หรือถ้าแต่งก็มีอัตราการหย่าร้างสูง.
แผนปฏิบัติการ
เพื่อจะหายอกหัก ฉันจะ ․․․․․
ถ้าจะมีแฟนอีก ฉันจะปรับปรุงตัวในเรื่อง ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● จากความสัมพันธ์ครั้งนี้ คุณรู้จักตัวเองดีขึ้นอย่างไร?
● คุณรู้จักเพศตรงข้ามดีขึ้นอย่างไร?
[คำโปรยหน้า 227]
“เวลาทำให้คุณเข้าใจอะไรดีขึ้น. อารมณ์ความรู้สึกของคุณจะดีขึ้นทำให้คุณมองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริงและกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ. คุณยังรู้จักตัวเองดีขึ้น รู้ว่าควรจะหาคู่แบบไหน และรู้ว่าควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้างเพื่อจะไม่ต้องอกหักอีก.”—คอร์รีนา
[กรอบหน้า 224]
แบบสอบถาม
ฉันได้เรียนรู้อะไรจากการอกหัก?
แฟนคุณบอกไหมว่าทำไมเขาถึงขอเลิก? ถ้าบอก ให้เขียนเหตุผลนั้นข้างล่างไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่. ․․․․․
คุณคิดว่ามีเหตุผลอื่นไหม? ․․․․․
ถ้าย้อนเวลาได้ คุณคิดว่าคุณน่าจะทำอะไรเพื่อจะไม่ต้องอกหักแบบนี้? ․․․․․
การอกหักครั้งนี้ทำให้คุณรู้ว่า คุณน่าจะปรับปรุงตัวอย่างไรในเรื่องอารมณ์และคุณลักษณะแบบคริสเตียน? ․․․․․
ถ้าคุณจะมีแฟนอีก คุณจะทำอะไรที่ต่างออกไปไหม? ․․․․․
[ภาพหน้า 223]
อกหักเป็นเหมือนบาดแผลที่เจ็บปวด แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะหายได้