พระ​เยซู​และ​คน​ที่​เดิน​ทาง​กับ​ท่าน​มา​ถึง​เมือง​เยรีโค ซึ่ง​ห่าง​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​ประมาณ 1 วัน จริง ๆ แล้ว​เยรีโค​มี 2 เมือง เมือง​เก่า​อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​ใหม่​ซึ่ง​สร้าง​ใน​สมัย​โรมัน​ประมาณ 1.6 กิโลเมตร ตอน​ที่​พระ​เยซู​กับ​ผู้​คน​ออก​จาก​เมือง​หนึ่ง​เพื่อ​จะ​ไป​อีก​เมือง​หนึ่ง ขอ​ทาน​ตา​บอด 2 คน​ก็​ได้​ยิน​เสียง​จอแจ หนึ่ง​ใน​นั้น​ชื่อ​บาร์ทิเมอัส

เมื่อ​ได้​ยิน​ว่า​พระ​เยซู​กำลัง​เดิน​ผ่าน บาร์ทิเมอัส​กับ​เพื่อน​ก็​ตะโกน​ว่า “ท่าน​ผู้​เป็น​ลูก​หลาน​ดาวิด ขอ​เมตตา​พวก​เรา​ด้วย” (มัทธิว 20:30) บาง​คน​บอก​ให้​พวก​เขา​เงียบ แต่​ทั้ง​สอง​คน​กลับ​ยิ่ง​ตะโกน​ดัง​ขึ้น พระ​เยซู​ได้​ยิน​และ​หยุด​เดิน ท่าน​บอก​คน​ที่​เดิน​ทาง​กับ​ท่าน​ให้​ไป​เรียก​คน​ที่​ตะโกน​มา พวก​เขา​จึง​ไป​หา​ขอ​ทาน​ตา​บอด 2 คน​นั้น​และ​บอก​คน​หนึ่ง​ว่า “ดีใจ​ด้วย ลุก​ขึ้น​เถอะ ท่าน​เรียก​แล้ว” (มาระโก 10:49) ผู้​ชาย​ตา​บอด​คน​นั้น​สลัด​เสื้อ​ชั้น​นอก​ทิ้ง​แล้ว​รีบ​ลุก​ไป​หา​พระ​เยซู

พระ​เยซู​ถาม​เขา​ว่า “มี​อะไร​ให้​ผม​ช่วย​ไหม?” ผู้​ชาย​ตา​บอด​ทั้ง 2 คน​ตอบ​ว่า “นาย​ท่าน ช่วย​ทำ​ให้​พวก​เรา​มอง​เห็น​ด้วย​เถอะ” (มัทธิว 20:32, 33) ด้วย​ความ​สงสาร พระ​เยซู​จับ​ดวง​ตา​ของ​พวก​เขา​และ​พูด​กับ​คน​หนึ่ง​ว่า “ไป​เถอะ ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​ทำ​ให้​คุณ​หาย​เป็น​ปกติ​แล้ว” (มาระโก 10:52) ขอ​ทาน​ตา​บอด​ทั้ง​สอง​สรรเสริญ​พระเจ้า​เมื่อ​พวก​เขา​มอง​เห็น คน​ที่​เห็น​เหตุ​การณ์​นั้น​ก็​สรรเสริญ​พระเจ้า​ด้วย และ​เขา​ทั้ง​สอง​ก็​ติด​ตาม​พระ​เยซู​ไป

คน​กลุ่ม​ใหญ่​อยู่​ล้อม​รอบ​พระ​เยซู​ตอน​ที่​ท่าน​เดิน​ผ่าน​กลาง​เมือง​เยรีโค ทุก​คน​อยาก​เห็น​คน​ที่​รักษา​ผู้​ชาย​ตา​บอด พวก​เขา​พา​กัน​ดัน​เข้า​มา​จาก​ทุก​ด้าน แต่​บาง​คน​ก็​ยัง​มอง​ไม่​เห็น​อยู่​ดี ซึ่ง​รวม​ไป​ถึง​ศักเคียส​ด้วย เขา​เป็น​หัวหน้า​คน​เก็บ​ภาษี​ใน​เมือง​และ​รอบ ๆ เมือง​เยรีโค เขา​เป็น​คน​ตัว​เตี้ย​จึง​มอง​ไม่​เห็น​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น ศักเคียส​วิ่ง​ไป​ดัก​ข้าง​หน้า ปีน​ขึ้น​ไป​บน​ต้น​มะเดื่อ​ป่า​ริม​ถนน แล้ว​ก็​เห็น​ทุก​อย่าง​ชัดเจน เมื่อ​พระ​เยซู​เดิน​มา​ใกล้​และ​เห็น​ศักเคียส​บน​ต้น​ไม้ ท่าน​ก็​พูด​ว่า “ศักเคียส รีบ​ลง​มา​เร็ว วัน​นี้​ผม​จะ​ไป​พัก​ที่​บ้าน​คุณ” (ลูกา 19:5) ศักเคียส​รีบ​ลง​จาก​ต้น​ไม้​และ​กลับ​บ้าน​เพื่อ​ต้อนรับ​แขก​คน​พิเศษ

เมื่อ​เห็น​อย่าง​นั้น ผู้​คน​ที่​มอง​ว่า​ศักเคียส​เป็น​คน​บาป ก็​ไม่​พอ​ใจ​ที่​พระ​เยซู​ไป​เป็น​แขก​ของ​เขา ศักเคียส​เป็น​คน​รวย​มาก​เพราะ​เขา​เก็บ​ภาษี​แบบ​ขี้​โกง

พอ​พระ​เยซู​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ของ​ศักเคียส ผู้​คน​ก็​บ่น​ว่า “ทำไม​คน​นี้​เข้า​ไป​พัก​ใน​บ้าน​ของ​คน​บาป​ล่ะ?” แต่​พระ​เยซู​เห็น​ว่า​ศักเคียส​อาจ​กลับ​ใจ และ​ท่าน​ก็​ไม่​ผิด​หวัง ศักเคียส​ยืน​ขึ้น​และ​พูด​กับ​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์​ครับ ผม​จะ​บริจาค​ทรัพย์​สมบัติ​ครึ่ง​หนึ่ง​ให้​คน​จน ส่วน​คน​ที่​ผม​เคย​โกง​เขา​มา ผม​จะ​คืน​ให้​เขา 4 เท่า”—ลูกา 19:7, 8

การ​ทำ​แบบ​นี้​พิสูจน์​ว่า​ศักเคียส​กลับ​ใจ​จริง ๆ! เขา​คง​คำนวณ​ได้​จาก​บันทึก​การ​เก็บ​ภาษี​ว่า​เขา​ได้​รับ​เงิน​จาก​ คน​ยิว​เท่า​ไร​บ้าง และ​เขา​สัญญา​ว่า​จะ​คืน​ให้ 4 เท่า​ซึ่ง​มาก​กว่า​ที่​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​เรียก​ร้อง​ด้วย​ซ้ำ (อพยพ 22:1; เลวีนิติ 6:2-5) นอก​จาก​นั้น ศักเคียส​บอก​ด้วย​ว่า​เขา​จะ​บริจาค​ทรัพย์​สมบัติ​ครึ่ง​หนึ่ง​ให้​คน​จน

พระ​เยซู​ดีใจ​ที่​ศักเคียส​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​เขา​กลับ​ใจ ท่าน​พูด​กับ​เขา​ว่า “วัน​นี้ ความ​รอด​มา​ถึง​บ้าน​นี้​แล้ว เพราะ​เขา​ก็​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​อับราฮัม​ด้วย ‘ลูก​มนุษย์’ มา​ตาม​หา​และ​ช่วย​คน​ที่​หลง​หาย​แบบ​นี้​ให้​รอด”—ลูกา 19:9, 10

ก่อน​หน้า​นี้ พระ​เยซู​เน้น​เรื่อง​การ​หลง​หาย​ด้วย​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​ลูก​ที่​หลง​หาย​ไป (ลูกา 15:11-24) แต่​ตอน​นี้​ท่าน​ชี้​ให้​เห็น​ตัว​อย่าง​ของ​คน​จริง ๆ ที่​หลง​หาย​ไป​และ​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​ให้​กลับ​มา แม้​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​และ​คน​ที่​ติด​ตาม​พวก​เขา​อาจ​บ่น​ที่​พระ​เยซู​ไป​สนใจ​คน​อย่าง​ศักเคียส แต่​ท่าน​ก็​ยัง​คง​ตาม​หา​และ​ช่วย​ลูก​หลาน​ของ​อับราฮัม​ที่​หลง​หาย​ไป​ให้​กลับ​มา