บท 2
‘พระเจ้าพอใจ’ ของถวายของพวกเขา
จุดสำคัญ ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการจัดเตรียมของพระยะโฮวาเพื่อการนมัสการบริสุทธิ์
1-3. (ก) เราจะพิจารณาคำถามอะไรบ้าง? (ข) สิ่งสำคัญ 4 อย่างของการนมัสการบริสุทธิ์มีอะไรบ้าง? (ดูภาพแรก)
อาเบลตรวจดูฝูงสัตว์ของเขาอย่างละเอียด เขาเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ด้วยความรักและทะนุถนอมตั้งแต่พวกมันเกิดมา ตอนนี้เขาเลือกบางตัวมาฆ่าเพื่อจะถวายพระเจ้า พระยะโฮวาจะยอมรับการนมัสการของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์อย่างอาเบลไหม?
2 พระเจ้าดลใจให้อัครสาวกเปาโลเขียนเรื่องของอาเบลว่า “พระเจ้าจึงพอใจของถวายของเขา” แต่พระยะโฮวาไม่ยอมรับของถวายของคาอิน (อ่านฮีบรู 11:4) นี่ทำให้เราต้องหาคำตอบให้ได้ว่า ทำไมพระเจ้ายอมรับการนมัสการของอาเบลแต่ไม่ยอมรับของคาอิน? และเราเรียนอะไรจากเรื่องของคาอิน อาเบล และคนอื่น ๆ จากฮีบรูบท 11? คำตอบที่ได้จะช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าการนมัสการบริสุทธิ์เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง
3 เมื่อเราพิจารณาเรื่องราวคร่าว ๆ ตั้งแต่สมัยอาเบลจนถึงสมัยเอเสเคียล ขอสังเกตสิ่งสำคัญ 4 อย่างที่ทำให้พระเจ้ายอมรับการนมัสการคือ ผู้รับต้อง เป็นพระยะโฮวาเท่านั้น ของถวายต้องคุณภาพดีที่สุด ต้องนมัสการด้วยวิธีที่พระเจ้ายอมรับ และแรงกระตุ้นของผู้นมัสการต้องบริสุทธิ์
ทำไมพระเจ้าไม่ยอมรับการนมัสการของคาอิน?
4, 5. อะไรอาจทำให้คาอินคิดว่าพระยะโฮวาจะเป็นผู้รับเครื่องบูชาจากเขา?
4 อ่านปฐมกาล 4:2-5 คาอินรู้ว่าพระยะโฮวาเป็นผู้รับเครื่องบูชาของเขา คาอินมีเวลาและโอกาสมากมายที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวา เขากับอาเบลน้องชายอาจจะอายุเกือบ 100 ปีแล้วตอนที่พวกเขาถวายเครื่องบูชา * ทั้งสองรู้เรื่องสวนเอเดนตั้งแต่เด็ก ๆ พวกเขาอาจเห็นสวนที่อุดมสมบูรณ์นี้อยู่ไกล ๆ พวกเขาคงเคยเห็นเครูบที่ยืนกั้นทางเข้าสวนด้วย (ปฐก. 3:24) พ่อแม่คงต้องเล่าให้พวกเขาฟังว่าพระยะโฮวาสร้างสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และพระองค์ไม่ได้สร้างพวกเขาให้ค่อย ๆ แก่ลงและตายไปเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ (ปฐก. 1:24-28) การรู้เรื่องนี้อาจทำให้คาอินคิดว่าเขาควรถวายเครื่องบูชาให้พระเจ้า
5 มีอะไรอีกที่อาจกระตุ้นให้คาอินถวายเครื่องบูชา? พระยะโฮวาบอกล่วงหน้าไว้ว่าจะมี “ลูกหลาน” คนหนึ่งเกิดมา ลูกหลานคนนี้จะบดขยี้หัวของ “งู” ที่เคยล่อลวงเอวาให้เลือกทำสิ่งที่เลวร้าย (ปฐก. 3:4-6, 14, 15) คาอินเป็นลูกคนโต เขาอาจคิดว่าตัวเองเป็น “ลูกหลาน” ที่พระเจ้าสัญญาไว้ (ปฐก. 4:1) นอกจากนั้น พระยะโฮวาก็ยังติดต่อพูดคุยกับมนุษย์ที่ผิดบาปอยู่ เพราะหลังจากอาดัมทำบาป พระเจ้าก็ยังพูดกับเขาผ่านทางทูตสวรรค์ (ปฐก. 3:8-10) และพระยะโฮวาก็ยังพูดกับคาอินหลังจากที่เขาถวายเครื่องบูชา (ปฐก. 4:6) เห็นได้ชัดว่าคาอินรู้ว่าพระยะโฮวาสมควรจะได้รับการนมัสการ
6, 7. คาอินถวายของที่คุณภาพไม่ดีหรือถวายผิดวิธีไหม? ขอให้อธิบาย
6 แล้วทำไมพระยะโฮวาถึงไม่พอใจเครื่องบูชาของคาอิน? เขาถวายของที่คุณภาพไม่ดีไหม? คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอก แต่บอกว่าคาอินเอา “พืชผลจากไร่นา” มาถวาย และต่อมาพระยะโฮวาก็บอกไว้ในกฎหมายที่ให้กับโมเสสว่าพระองค์ยอมรับเครื่องบูชาที่เป็นพืชผัก (กดว. 15:8, 9) ที่จริง ในสมัยของคาอิน มนุษย์ก็กินแต่พืชผัก (ปฐก. 1:29) นอกจากนั้น แผ่นดินที่อยู่นอกสวนเอเดนก็ถูกพระเจ้าสาปแช่ง คาอินจึงต้องทำงานหนักเพื่อจะมีพืชผักมาถวาย (ปฐก. 3:17-19) คาอินถวายของที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก ซึ่งเป็นอาหารที่เลี้ยงชีวิตของเขาเอง! แต่พระยะโฮวาก็ยังไม่พอใจเครื่องบูชาของคาอิน
7 แล้ววิธีที่คาอินถวายเครื่องบูชาล่ะมีอะไรผิดพลาดไหม? เขาถวายในวิธีที่พระเจ้าไม่ยอมรับไหม? ดูเหมือนจะไม่ใช่ ทำไม? เพราะตอนที่พระยะโฮวาปฏิเสธเครื่องบูชาของคาอิน พระองค์ไม่ได้ตำหนิวิธีที่เขาถวายเครื่องบูชา ที่จริง ไม่มีการพูดถึงวิธีที่คาอินและอาเบลถวายเครื่องบูชาเลย แล้วปัญหาคืออะไร?
8, 9. (ก) ทำไมพระยะโฮวาไม่พอใจคาอินและเครื่องบูชาของเขา? (ข) มีอะไรที่น่าสังเกตเกี่ยวกับบันทึกเรื่องคาอินและอาเบลในคัมภีร์ไบเบิล?
8 คำพูดของเปาโลที่ได้รับการดลใจในหนังสือฮีบรูทำให้เห็นว่า คาอินถวายเครื่องบูชาด้วยแรงกระตุ้นที่ไม่บริสุทธิ์ คาอินขาดความเชื่อ (ฮบ. 11:4; 1 ยน. 3:11, 12) นี่ทำให้พระยะโฮวาไม่พอใจตัวคาอิน ไม่ใช่แค่เครื่องบูชาของเขา (ปฐก. 4:5-8) พระยะโฮวาเป็นพ่อที่มีความรัก พระองค์จึงพยายามอบรมสั่งสอนลูกชายคนนี้ด้วยความอ่อนโยน แต่คาอินกลับปฏิเสธการช่วยเหลือของพระยะโฮวา ผลคือหัวใจที่มีบาปของคาอินจึงชั่วร้ายมากขึ้น มีแต่ “การเป็นศัตรูกัน การทะเลาะกัน การหวาดระแวงกัน” (กท. 5:19, 20) หัวใจที่ชั่วร้ายของคาอินทำให้สิ่งสำคัญอีก 3 อย่างในการนมัสการของเขาไร้ค่า ตัวอย่างของเขาสอนเราว่า การนมัสการบริสุทธิ์ต้องมีมากกว่าการแสดงว่าเลื่อมใสพระยะโฮวาแค่ภายนอก
9 บันทึกในคัมภีร์ไบเบิลบอกให้รู้หลายอย่างเกี่ยวกับคาอิน เราได้อ่านว่าพระยะโฮวาพูดกับเขาและเขาตอบพระองค์อย่างไร และเรารู้ชื่อลูกหลานของคาอินและสิ่งที่พวกเขาทำ (ปฐก. 4:17-24) ส่วนอาเบล คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกเลยว่าเขามีลูกไหมหรือเขาพูดอะไรบ้าง แต่การกระทำของอาเบลก็ยังสอนเราในทุกวันนี้ ในแง่ไหน?
อาเบลวางแบบอย่างสำหรับการนมัสการบริสุทธิ์
10. อาเบลวางแบบอย่างไว้สำหรับการนมัสการบริสุทธิ์อย่างไร?
10 อาเบลถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวา เขารู้ว่าผู้รับต้องเป็นพระยะโฮวาเท่านั้น อาเบลถวายของที่คุณภาพดีที่สุด เขาเลือก “ลูกแกะตัวแรกบางตัวที่คลอดออกมาจากฝูงของตัวเอง” แม้ว่าคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าเขาถวายแกะบนแท่นบูชาหรือไม่ แต่เห็นได้ชัดว่าวิธีที่เขาถวายเครื่องบูชาเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า และที่สำคัญที่สุดคือ อาเบลถวายเครื่องบูชาด้วยแรงกระตุ้นที่บริสุทธิ์ ผ่านมาประมาณ 6,000 ปีแล้ว ตัวอย่างของเขายังสอนเราในทุกวันนี้ อาเบลถูกกระตุ้นด้วยความเชื่อในพระเจ้าและความรักในมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระยะโฮวา เรารู้ได้อย่างไร?
11. ทำไมพระเยซูถึงบอกว่าอาเบลเป็นคนที่มีความถูกต้องชอบธรรม?
11 เหตุผลแรก ขอสังเกตสิ่งที่พระเยซูพูดถึงอาเบล พระเยซูรู้จักอาเบลดีเพราะท่านอยู่ในสวรรค์ตอนที่อาเบลมีชีวิตอยู่ พระเยซูสนใจลูกชายคนนี้ของอาดัมมาก (สภษ. 8:22, 30, 31; ยน. 8:58; คส. 1:15, 16) พระเยซูเห็นการใช้ชีวิตของอาเบล ท่านจึงบอกได้ว่าเขาเป็นคนที่มีความถูกต้องชอบธรรม (มธ. 23:35, เชิงอรรถ) คนที่มีความถูกต้องชอบธรรมคือคนที่ยอมรับว่าพระยะโฮวาคือผู้ที่ตั้งมาตรฐานว่าอะไรถูกอะไรผิด และเขาจะพิสูจน์ให้เห็นทั้งคำพูดและการกระทำว่าเขาเห็นด้วยกับมาตรฐานนี้ (เทียบกับลูกา 1:5, 6) การที่ใครคนหนึ่งจะเป็นที่ยอมรับว่าถูกต้องชอบธรรมต้องใช้เวลามากทีเดียว ดังนั้น ก่อนที่อาเบลจะถวายเครื่องบูชาให้พระเจ้า เขา ต้องใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระยะโฮวามานานพอสมควรแล้ว แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา เพราะคาอินพี่ชายที่มีหัวใจชั่วไม่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี (1 ยน. 3:12) แม่ของอาเบลไม่เชื่อฟังคำสั่งที่เจาะจงของพระเจ้า พ่อของเขาก็กบฏต่อพระยะโฮวาและอยากตัดสินใจเองว่าอะไรถูกอะไรผิด (ปฐก. 2:16, 17; 3:6) อาเบลกล้าหาญมากที่เลือกแนวทางชีวิตที่แตกต่างจากครอบครัวอย่างสิ้นเชิง!
12. อะไรทำให้อาเบลต่างจากคาอินมาก?
12 อีกเหตุผลหนึ่ง ขอสังเกตว่าอัครสาวกเปาโลเชื่อมโยงความเชื่อกับความถูกต้องชอบธรรมอย่างไร เปาโลเขียนว่า “เพราะความเชื่อ อาเบลถวายเครื่องบูชาที่มีค่ามากกว่าของคาอินให้พระเจ้า และเพราะเขามีความเชื่อ พระเจ้าจึงพอใจของถวายของเขาซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าเขามีความถูกต้องชอบธรรม” (ฮบ. 11:4, เชิงอรรถ) คำพูดของเปาโลแสดงว่าอาเบลต่างจากคาอินมาก อาเบลถูกกระตุ้นโดยความเชื่อที่มาจากหัวใจและเขาแสดงความเชื่อนั้นตลอดชีวิต เขาเชื่อในพระยะโฮวาและเชื่อมั่นว่าพระองค์ทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
13. ตัวอย่างของอาเบลสอนอะไรเรา?
13 ตัวอย่างของอาเบลสอนเราว่าการนมัสการบริสุทธิ์ต้องมาจากหัวใจที่มีแรงกระตุ้นที่บริสุทธิ์ เป็นหัวใจที่เชื่อในพระยะโฮวาและเห็นด้วยอย่างเต็มที่กับมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระองค์ นอกจากนั้น เราได้เรียนด้วยว่าการนมัสการที่บริสุทธิ์ไม่ใช่การแสดงความเชื่อแค่ครั้งเดียว แต่เกี่ยวข้องกับทุกแง่มุมของชีวิตและการกระทำทุกอย่างของเรา
คนซื่อสัตย์สมัยโบราณทำตามแบบอย่างของอาเบล
14. ทำไมพระยะโฮวายอมรับเครื่องบูชาของโนอาห์ อับราฮัม และยาโคบ?
14 อาเบลเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์คนแรกที่นมัสการพระยะโฮวาด้วยแรงกระตุ้นที่บริสุทธิ์ แต่ไม่ใช่คนสุดท้าย อัครสาวกเปาโลพูดถึงคนซื่อสัตย์คนอื่น ๆ ในสมัยโบราณที่พระยะโฮวายอมรับการนมัสการของพวกเขา เช่น โนอาห์ อับราฮัม และยาโคบ (อ่านฮีบรู 11:7, 8, 17-21) พวกเขาทุกคนเคยถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาและพระองค์ก็ยอมรับ เพราะอะไร? เพราะพวกเขาไม่ได้แสดงความเลื่อมใสแค่พอเป็นพิธี แต่การนมัสการของพวกเขามีสิ่งสำคัญครบทั้ง 4 อย่าง ให้เรามาดูตัวอย่างของพวกเขา
15, 16. ทำไมจึงพูดได้ว่าการนมัสการของโนอาห์มีสิ่งสำคัญครบทั้ง 4 อย่าง?
15 โนอาห์เกิดหลังจากอาดัมตายไป 126 ปี เขาเติบโตมาในโลกที่เสื่อมทรามเต็มไปด้วยการนมัสการเท็จ * (ปฐก. 6:11) ก่อนน้ำท่วม ทั่วทั้งโลกมีแต่โนอาห์กับครอบครัวเท่านั้นที่รับใช้พระยะโฮวาในแบบที่พระองค์ยอมรับ (2 ปต. 2:5) หลังจากรอดชีวิตจากน้ำท่วม โนอาห์ก็สร้างแท่นบูชาและถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวา นี่เป็นครั้งแรกที่คัมภีร์ไบเบิลพูดถึงการสร้างแท่นบูชา การทำแบบนี้ทำให้ครอบครัวของเขาและลูกหลานที่จะเกิดมาเห็น ชัดเจนว่า ผู้รับการนมัสการต้องเป็นพระยะโฮวาเท่านั้น โนอาห์ “เลือกสัตว์ที่สะอาดบางตัวกับนกที่สะอาดบางตัว” จากสัตว์ทั้งหมดของเขามาถวายเป็นเครื่องบูชา (ปฐก. 8:20) นี่เป็นเครื่องบูชาที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะพระยะโฮวาบอกว่าสัตว์เหล่านี้สะอาด—ปฐก. 7:2
16 โนอาห์ถวายเครื่องบูชาเผาบนแท่นบูชาที่เขาทำขึ้น นี่เป็นวิธีนมัสการที่พระเจ้ายอมรับไหม? ใช่ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพระยะโฮวาพอใจกลิ่นหอมของเครื่องบูชาและอวยพรโนอาห์กับลูกชายของเขา (ปฐก. 8:21; 9:1) แต่เหตุผลสำคัญที่พระยะโฮวายอมรับเครื่องบูชาของโนอาห์ก็คือแรงกระตุ้นของเขา เครื่องบูชานี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงว่าโนอาห์เชื่อในพระยะโฮวาสุดหัวใจและเชื่อว่าพระองค์ทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เนื่องจากโนอาห์เชื่อฟังพระยะโฮวาและทำตามมาตรฐานของพระองค์ตลอดชีวิต คัมภีร์ไบเบิลจึงบอกว่าเขา “ใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าเที่ยงแท้พอใจ” ผลคือ แม้โนอาห์จะตายไปนานแล้ว เขาก็ยังมีชื่อเสียงว่าเป็นคนที่มีความถูกต้องชอบธรรม—ปฐก. 6:9; อสค. 14:14; ฮบ. 11:7
17, 18. ทำไมจึงพูดได้ว่าการนมัสการของอับราฮัมมีสิ่งสำคัญครบทั้ง 4 อย่าง?
17 อับราฮัมมีชีวิตอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยการนมัสการเท็จ เมืองเออร์ที่อับราฮัมอยู่มีวิหารใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เกียรติเทพเจ้านันนา ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ * แม้แต่พ่อของอับราฮัมก็เคยนมัสการพระเท็จ (ยชว. 24:2) แต่อับราฮัมก็เลือกที่จะนมัสการพระยะโฮวา เป็นไปได้ว่าเขาเรียนเรื่องพระเจ้าเที่ยงแท้จากบรรพบุรุษของเขาคือ เชมลูกชายของโนอาห์ ช่วงชีวิตของพวกเขาคาบเกี่ยวกันนานถึง 150 ปี
18 ตลอดชีวิตของอับราฮัม เขาถวายเครื่องบูชาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งพระยะโฮวาเท่านั้นเป็นผู้รับการนมัสการจากเขา (ปฐก. 12:8; 13:18; 15:8-10) แล้วอับราฮัมถวายเครื่องบูชาที่มีคุณภาพดีที่สุดให้พระยะโฮวาไหม? คำตอบชัดเจนมากเมื่ออับราฮัมเต็มใจถวายอิสอัคลูกชายที่เขารักเป็นเครื่องบูชา ตอนนั้นพระยะโฮวาบอกอับราฮัมอย่างละเอียดให้รู้วิธีถวายเครื่องบูชา (ปฐก. 22:1, 2) และอับราฮัมเต็มใจทำตามที่พระเจ้าสั่งทุกอย่างแม้แต่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่พระยะโฮวาก็ไม่ปล่อยให้เขาฆ่าลูกชาย (ปฐก. 22:9-12) พระยะโฮวายอมรับการนมัสการของอับราฮัมทุกครั้งเพราะแรงกระตุ้นของเขาบริสุทธิ์ เปาโลเขียนว่า “อับราฮัมเชื่อในพระยะโฮวา พระองค์จึงนับว่าเขาเป็นคนที่มีความถูกต้องชอบธรรม”—รม. 4:3, เชิงอรรถ
19, 20. ทำไมจึงพูดได้ว่าการนมัสการของยาโคบมีสิ่งสำคัญครบทั้ง 4 อย่าง?
19 ยาโคบใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในแผ่นดินคานาอันที่พระเจ้าสัญญาว่าจะยกให้อับราฮัมกับลูกหลานของเขา (ปฐก. 17:1, 8) ชาวคานาอันนมัสการพระเท็จมากมายจนพระยะโฮวาบอกว่า “คนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นจะต้องถูกขับไล่ออกไป” (ลนต. 18:24, 25) ตอนยาโคบอายุ 77 ปี เขาออกจากคานาอัน แต่งงาน แล้วกลับมาพร้อมกับครอบครัวใหญ่ (ปฐก. 28:1, 2; 33:18) มีบางคนในครอบครัวของยาโคบยุ่งเกี่ยวกับการนมัสการเท็จ แต่พอพระยะโฮวาบอกให้ยาโคบไปที่เบธเอลและสร้างแท่นบูชาที่นั่น เขาก็สั่งให้คนในครอบครัว “เอารูปเคารพของคนต่างชาติที่มีอยู่มาทิ้งให้หมด” และ “ชำระตัวให้สะอาด” หลังจากนั้นยาโคบก็ทำตามที่พระเจ้าบอกทุกอย่าง—ปฐก. 35:1-7
20 ยาโคบสร้างแท่นบูชาหลายแห่งในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา แต่ผู้รับการนมัสการจากเขาคือพระยะโฮวาเท่านั้น (ปฐก. 35:14; 46:1) คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าทั้งคุณภาพของเครื่องบูชา วิธีนมัสการ และแรงกระตุ้นของเขา “ปราศจากตำหนิ” คำนี้เป็นอีกคำหนึ่งที่คัมภีร์ไบเบิลใช้พูดถึงคนที่พระเจ้ายอมรับ (ปฐก. 25:27, เชิงอรรถ) ตลอดชีวิตของยาโคบ เขาเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมให้ชาติอิสราเอลที่เป็นลูกหลานของเขา—ปฐก. 35:9-12
21. เราเรียนอะไรได้เกี่ยวกับการนมัสการบริสุทธิ์จากตัวอย่างของคนซื่อสัตย์สมัยโบราณ?
21 เราเรียนอะไรได้เกี่ยวกับการนมัสการบริสุทธิ์จากตัวอย่างของคนซื่อสัตย์สมัยโบราณ? เราก็อยู่ท่ามกลางคนที่ไม่นมัสการพระยะโฮวาเหมือนที่พวกเขาเคยอยู่ บางทีคนเหล่านี้อาจเป็นคนในครอบครัวของเราด้วยซ้ำ พวกเขาอาจทำให้เราหลงไปนมัสการสิ่งอื่นนอกเหนือจากพระยะโฮวา เพื่อต้านทานแรงกดดันแบบนี้ เราต้องพัฒนาความเชื่อในพระยะโฮวาให้เข้มแข็งและเชื่อมั่นว่ามาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระยะโฮวาดีที่สุด เราแสดงความเชื่อโดยเชื่อฟังพระยะโฮวา โดยใช้เวลา กำลัง และสิ่งที่เรามีเพื่อรับใช้พระองค์ (มธ. 22:37-40; 1 คร. 10:31) เราได้รับกำลังใจที่รู้ว่าถ้าเรานมัสการพระยะโฮวาอย่างดีที่สุด ทำตามวิธีของพระองค์ และทำด้วยแรงกระตุ้นที่บริสุทธิ์ พระองค์ก็จะมองว่าเราเป็นคนที่มีความถูกต้องชอบธรรม!—อ่านยากอบ 2:18-24
ชาติที่นมัสการบริสุทธิ์
22-24. กฎหมายของโมเสสกำหนดไว้อย่างไรในเรื่องผู้รับ คุณภาพ และวิธีถวายเครื่องบูชา?
22 พระยะโฮวาให้กฎหมายกับลูกหลานของยาโคบ ซึ่งช่วยให้พวกเขารู้ชัดเจนว่าพระองค์ต้องการให้พวกเขาทำอะไร ถ้าพวกเขาเชื่อฟังพระยะโฮวา พวกเขาก็จะเป็น “ชนชาติพิเศษ” และ “เป็นชาติบริสุทธิ์” ของพระองค์ (อพย. 19:5, 6) ขอสังเกตว่ากฎหมายของพระเจ้าเน้นสิ่งสำคัญ 4 อย่างของการนมัสการบริสุทธิ์อย่างไร
23 พระยะโฮวาบอกชาวอิสราเอลอย่างชัดเจนว่าใครควรเป็นผู้รับการนมัสการจากพวกเขา พระยะโฮวาสั่งว่า “อย่ามีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา” (อพย. 20:3-5) พวกเขาต้องถวายเครื่องบูชาที่คุณภาพดีที่สุด ตัวอย่างเช่น สัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาต้องสมบูรณ์แข็งแรง ไม่พิการหรือมีความผิดปกติ (ลนต. 1:3; ฉธบ. 15:21; เทียบกับมาลาคี 1:6-8) คนเลวีได้รับประโยชน์ จากของถวายที่ประชาชนนำมาให้พระยะโฮวา แต่พวกเขาเองก็ต้องถวายเครื่องบูชาด้วย เครื่องบูชาของพวกเขาต้องเป็น “ส่วนที่ดีที่สุดจากของถวายทั้งหมด” ที่พวกเขาได้รับ (กดว. 18:29) สำหรับวิธีนมัสการ ชาวอิสราเอลก็ได้รับคำสั่งที่เจาะจงว่าต้องถวายอะไร ที่ไหน และอย่างไร พวกเขาได้รับกฎหมายทั้งหมดมากกว่า 600 ข้อที่ครอบคลุมความประพฤติของพวกเขา และได้รับคำสั่งว่า “พวกคุณต้องใส่ใจทำตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าสั่ง อย่าออกนอกลู่นอกทาง”—ฉธบ. 5:32
24 ชาวอิสราเอลจะถวายเครื่องบูชาที่ไหนก็ได้อย่างนั้นไหม? ไม่ พระยะโฮวาสั่งให้ประชาชนของพระองค์สร้างเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์และใช้เป็นศูนย์กลางการนมัสการบริสุทธิ์ (อพย. 40:1-3, 29, 34) ในตอนนั้น ถ้าชาวอิสราเอลอยากให้พระยะโฮวายอมรับเครื่องบูชา พวกเขาต้องเอาไปถวายที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ *—ฉธบ. 12:17, 18
25. อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการถวายเครื่องบูชา? ขอให้อธิบาย
25 แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือแรงกระตุ้นในการถวายเครื่องบูชาของชาวอิสราเอล พวกเขาต้องถวายด้วยความรักสุดหัวใจต่อพระยะโฮวาและต่อมาตรฐานของพระองค์ (อ่านเฉลยธรรมบัญญัติ 6:4-6) เมื่อชาวอิสราเอลนมัสการ พระยะโฮวาแบบพอเป็นพิธี พระองค์ก็ไม่ยอมรับเครื่องบูชาของพวกเขา (อสย. 1:10-13) พระยะโฮวาพูดผ่านผู้พยากรณ์อิสยาห์ว่า พระองค์มองออกว่าพวกเขาไม่ได้นมัสการพระองค์จากใจจริง โดยบอกว่า “ชนชาตินี้ . . . นับถือเราแต่ปาก แต่ในใจของเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย”—อสย. 29:13
การนมัสการที่วิหาร
26. วิหารที่โซโลมอนสร้างเกี่ยวข้องอย่างไรกับการนมัสการบริสุทธิ์?
26 หลายร้อยปีหลังจากที่ชาวอิสราเอลเข้ามาอยู่ในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา กษัตริย์โซโลมอนก็สร้างศูนย์กลางการนมัสการบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์มาก (1 พก. 7:51; 2 พศ. 3:1, 6, 7) พระยะโฮวาเพียงผู้เดียวเป็นผู้รับการนมัสการที่วิหารนี้ โซโลมอนกับประชาชนถวายเครื่องบูชาจำนวนมากที่มีคุณภาพดี และตามวิธีที่กฎหมายของพระเจ้ากำหนด (1 พก. 8:63) แต่ไม่ว่าวิหารหลังนี้จะหรูหราแค่ไหนหรือมีคนเอาของมาถวายมากเท่าไร ก็ไม่ได้ทำให้พระยะโฮวายอมรับการนมัสการที่วิหารนี้ สิ่งสำคัญสำหรับพระองค์คือแรงกระตุ้นของคนที่ถวาย โซโลมอนก็เน้นเรื่องนี้ในวันที่อุทิศวิหาร เขาบอกว่า “ขอให้พวกท่านรับใช้พระยะโฮวาพระเจ้าสุดหัวใจ ทำตามกฎหมายและคำสั่งของพระองค์เหมือนที่ทำอยู่ในวันนี้”—1 พก. 8:57-61
27. กษัตริย์อิสราเอลและประชาชนทำอะไร? พระยะโฮวาช่วยพวกเขาอย่างไร?
27 น่าเสียดายที่ชาวอิสราเอลเลิกทำตามคำแนะนำของกษัตริย์โซโลมอน การนมัสการของพวกเขาขาดสิ่งสำคัญบางอย่างของการนมัสการบริสุทธิ์ กษัตริย์หลายองค์ของอิสราเอลและประชาชนปล่อยให้หัวใจที่บริสุทธิ์เสื่อมทรามไป พวกเขาสูญเสียความเชื่อในพระยะโฮวาและทิ้งมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระองค์ แต่พระยะโฮวาก็แสดงความรักต่อพวกเขาโดยส่งผู้พยากรณ์ไปว่ากล่าวแก้ไขหลายครั้งและเตือนถึงผลเสียที่จะตามมา (ยรม. 7:13-15, 23-26) หนึ่งในผู้พยากรณ์ที่พระเจ้าส่งมาก็คือเอเสเคียลผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ เขามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่การนมัสการบริสุทธิ์ถูกทำให้เสื่อมทราม
เอเสเคียลเห็นการนมัสการบริสุทธิ์ถูกทำให้เสื่อมทราม
28, 29. เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเอเสเคียล? (ดูกรอบ “ชีวิตและงานรับใช้ของเอเสเคียล”)
28 เอเสเคียลคุ้นเคยกับการนมัสการในวิหารที่โซโลมอนสร้าง พ่อของเขาเป็นปุโรหิตและคงไปรับใช้ที่วิหารตามเวลาที่ได้รับมอบหมาย (อสค. 1:3) เอเสเคียลคงมีชีวิตวัยเด็กที่มีความสุข พ่อคงจะสอนเขาเรื่องพระยะโฮวาและกฎหมายของพระองค์ ที่จริง ในช่วงที่เขาเกิด มีการค้นพบ “หนังสือกฎหมาย” ในวิหารของพระเจ้า * กษัตริย์โยสิยาห์ที่ปกครองอยู่ในตอนนั้นเป็นกษัตริย์ที่ดี เมื่อมีคนอ่านหนังสือกฎหมายนี้ให้โยสิยาห์ฟัง เขาก็ถูกกระตุ้นให้สนับสนุนการนมัสการบริสุทธิ์มากขึ้น—2 พก. 22:8-13
29 การนมัสการของเอเสเคียลมีสิ่งสำคัญครบทั้ง 4 อย่างเหมือนคนซื่อสัตย์ที่มีชีวิตอยู่ก่อนเขา เมื่อเราอ่านหนังสือเอเสเคียลอย่างละเอียดจะเห็นว่า เขารับใช้พระยะโฮวาผู้เดียว เขาถวายสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ เขาทำทุกอย่างที่พระยะโฮวาสั่งและทำตามวิธีของพระองค์ เอเสเคียลทำทั้งหมดนี้ด้วยความเชื่อสุดหัวใจ คนส่วนใหญ่ในสมัยนั้นไม่เหมือนเขา ตั้งแต่เด็กจนโต เอเสเคียลคงคุ้นเคยกับคำพยากรณ์ของเยเรมีย์ เยเรมีย์เริ่มเป็นผู้พยากรณ์ในปี 647 ก่อน ค.ศ. และเตือนผู้คนอย่างกระตือรือร้นว่าวันพิพากษาของพระยะโฮวาใกล้เข้ามาแล้ว
30. (ก) คำพยากรณ์ของเอเสเคียลทำให้เรารู้อะไร? (ข) คำพยากรณ์คืออะไร และเราควรเข้าใจคำพยากรณ์ของเอเสเคียลอย่างไร? (ดูกรอบ “เข้าใจคำพยากรณ์ของเอเสเคียล”)
30 หนังสือเอเสเคียลทำให้เห็นว่าประชาชนของพระเจ้าหลงไปจากการนมัสการบริสุทธิ์มากแค่ไหน (อ่านเอเสเคียล 8:6) ตอนที่พระยะโฮวาเริ่มลงโทษอาณาจักรยูดาห์ เอเสเคียลก็ถูกจับไปเป็นเชลยที่บาบิโลนด้วย (2 พก. 24:11-17) แม้จะเป็นเชลย แต่เอเสเคียลไม่ได้ถูกลงโทษ พระยะโฮวาให้เขาทำหน้าที่ผู้พยากรณ์อยู่ในกลุ่มเชลยชาวยิว นิมิตและคำพยากรณ์ที่น่าตื่นเต้นของเอเสเคียลบอกให้รู้คร่าว ๆ ว่าการนมัสการบริสุทธิ์จะได้รับการฟื้นฟูอย่างไรในเยรูซาเล็ม ยิ่งกว่านั้นยังทำให้รู้ว่า ในที่สุดการนมัสการบริสุทธิ์จะได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่เพื่อทุกคนที่รักพระยะโฮวา
31. เราจะได้เรียนอะไรในหนังสือนี้?
31 ในตอนต่อ ๆ ไปของหนังสือนี้ เราจะรู้เรื่องสวรรค์ซึ่งเป็นที่อยู่ของพระยะโฮวามากขึ้น จะรู้ว่าการนมัสการบริสุทธิ์ถูกทำให้เสื่อมเสียได้อย่างไร พระยะโฮวาฟื้นฟูและปกป้องประชาชนของพระองค์อย่างไร และจะได้เห็นภาพอนาคตตอนที่มนุษย์ทุกคนนมัสการพระยะโฮวา ในบทต่อไปเราจะพิจารณานิมิตแรกของเอเสเคียล นิมิตนี้จะทำให้ภาพของพระยะโฮวาและองค์การของพระองค์ส่วนที่อยู่ในสวรรค์ชัดเจนยิ่งขึ้นในใจเรา และเราจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมพระยะโฮวาสมควรได้รับการนมัสการบริสุทธิ์แต่เพียงผู้เดียว
^ ดูเหมือนว่า อาเบลเกิดหลังจากอาดัมกับเอวาถูกไล่จากสวนเอเดนไม่นาน (ปฐก. 4:1, 2) หลังจากอาเบลถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด ปฐมกาล 4:25 บอกว่าพระเจ้าให้พวกเขามีลูกอีกคนหนึ่ง “แทนอาเบล” คือเสท ตอนนั้นอาดัมอายุ 130 ปี (ปฐก. 5:3) ดังนั้น อาเบลอาจอายุประมาณ 100 ปีตอนถูกคาอินฆ่า
^ ปฐมกาล 4:26 บอกว่าตั้งแต่สมัยของเอโนชหลานของอาดัม “ผู้คนเริ่มใช้ชื่อพระยะโฮวาผิด ๆ” เป็นไปได้ว่าพวกเขาเรียกรูปเคารพด้วยชื่อของพระยะโฮวา
^ เทพเจ้านันนามีอีกชื่อหนึ่งว่าซิน ถึงแม้ว่าคนที่อยู่ในเมืองเออร์จะนมัสการเทพเจ้าหลายองค์ แต่วิหารและแท่นบูชาส่วนใหญ่สร้างขึ้นสำหรับเทพเจ้านันนา
^ หลังจากที่หีบสัญญาถูกยึดไปจากเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนว่าพระยะโฮวายอมรับการถวายเครื่องบูชาที่อื่นด้วย ไม่ใช่แค่ที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น—1 ซม. 4:3, 11; 7:7-9; 10:8; 11:14, 15; 16:4, 5; 1 พศ. 21:26-30
^ ดูเหมือนว่าเอเสเคียลอายุ 30 ปี ตอนที่เขาเริ่มพยากรณ์ในปี 613 ก่อน ค.ศ. ดังนั้น เขาคงจะเกิดราว ๆ ปี 643 ก่อน ค.ศ. (อสค. 1:1) โยสิยาห์เริ่มปกครองในปี 659 ก่อน ค.ศ. และมีการค้นพบหนังสือกฎหมาย (อาจเป็นต้นฉบับที่โมเสสเขียน) ประมาณปีที่ 18 ที่เขาปกครองหรือราว ๆ ปี 642-641 ก่อน ค.ศ.