บท 13
“รายละเอียดเกี่ยวกับวิหาร”
จุดสำคัญ นิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหารที่สง่างามมีความหมายอย่างไร?
1-3. (ก) ทำไมเอเสเคียลอาจได้กำลังใจเมื่อได้เห็นนิมิตเรื่องวิหารขนาดมหึมา? (ดูภาพแรก) (ข) เราจะพิจารณาอะไรในบทนี้?
ลองนึกภาพเอเสเคียลตอนอายุ 50 ปี เขาอาจนึกถึงช่วงประมาณ 25 ปีที่ผ่านมาที่เขาเป็นเชลย วิหารในกรุงเยรูซาเล็มก็ถูกทำลายไปนานแล้ว ถ้าเอเสเคียลหวังจะรับใช้เป็นปุโรหิตที่นั่น ความฝันของเขาก็คงพังทลายไปพร้อมกับวิหาร ต้องรออีกประมาณ 56 ปีการเป็นเชลยถึงจะสิ้นสุดลง เอเสเคียลจึงรู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีชีวิตยืนยาวจนได้เห็นประชาชนของพระเจ้ากลับบ้านเกิดและได้เห็นการสร้างวิหารขึ้นใหม่ (ยรม. 25:11) ความคิดแบบนั้นทำให้เขาเศร้าใจไหม?
2 พระยะโฮวากรุณาจริง ๆ ที่ให้เอเสเคียลได้เห็นนิมิตที่มีรายละเอียดมากมายในตอนนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ชายที่ซื่อสัตย์คนนี้มีกำลังใจและมีความหวังขึ้นมาอย่างแน่นอน! ในนิมิต เอเสเคียลถูกพากลับไปบ้านเกิด ไปอยู่บนภูเขาที่สูงมากลูกหนึ่งและเขาได้เจอ “ผู้ชายคนหนึ่ง . . . ตัวเขาเหมือนทองแดง” ทูตสวรรค์ที่ตัวเหมือนทองแดงพาเอเสเคียลชมวิหารขนาดมหึมา (อ่านเอเสเคียล 40:1-4) ทุกอย่างเหมือนจริงมาก! ประสบการณ์ครั้งนั้นคงทำให้ เอเสเคียลมีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นแน่ ๆ เขาคงประทับใจมากและอาจแปลกใจบางเรื่อง เพราะถึงแม้วิหารที่เขาเห็นจะมีหลายอย่างที่คุ้นเคย แต่ก็แตกต่างอย่างมากกับวิหารในเยรูซาเล็มที่เขาเคยรู้จัก
3 นิมิตที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้อยู่ใน 9 บทสุดท้ายของหนังสือเอเสเคียล ให้เรามาดูว่าเราควรมีมุมมองอย่างไรเมื่อพิจารณาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับนิมิตเรื่องนี้ จากนั้นเราจะมาดูกันว่าวิหารที่เอเสเคียลเห็น แตกต่างอย่างไรกับวิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ที่อัครสาวกเปาโลพูดถึงหลังจากนี้อีกหลายร้อยปี และสุดท้ายเราจะดูกันว่านิมิตนี้มีความหมายอย่างไรกับเอเสเคียลและเชลยที่เป็นเพื่อนร่วมชาติของเขา
จำเป็นต้องอธิบายด้วยวิธีที่ต่างออกไป
4. เมื่อก่อนมีการใช้วิธีไหนเมื่ออธิบายเกี่ยวกับนิมิตเรื่องวิหาร แต่ตอนนี้อธิบายด้วยวิธีไหน?
4 เมื่อก่อนหนังสือของเราเคยบอกว่าเอเสเคียลเห็นวิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นวิหารเดียวกับที่อัครสาวกเปาโลได้รับการดลใจให้เขียนไว้ในจดหมายถึงคริสเตียนชาวฮีบรู * จากข้อสรุปนี้ ดูเหมือนมีเหตุผลที่เราจะใช้สิ่งที่เปาโลอธิบายเกี่ยวกับเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์เพื่ออธิบายว่ารายละเอียดต่าง ๆ ของวิหารในนิมิตของเอเสเคียลเป็นสัญลักษณ์หรือภาพหมายถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การศึกษา การคิดใคร่ครวญ และการอธิษฐานอย่างดีทำให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีคำอธิบายที่ง่ายกว่านั้นสำหรับนิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหาร
5, 6. (ก) อัครสาวกเปาโลแสดงความถ่อมตัวอย่างไรเมื่อพูดถึงเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์? (ข) เปาโลบอกรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และเราอาจใช้ความคิดของเปาโลเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจนิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหารได้อย่างไร?
5 คงจะดีกว่าที่เราจะไม่มองหาความหมายที่เป็นการพยากรณ์หรือเป็นสัญลักษณ์ของรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับวิหารในนิมิตของเอเสเคียล ทำไมล่ะ? ลองคิดถึงตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ เมื่อเปาโลพูดถึงเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์และวิหารโดยนัย เขาพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์เช่น ภาชนะทองคำสำหรับเผาเครื่องหอม ฝาหีบสัญญา โถทองคำที่ใส่มานา เขาบอกว่าสิ่งเหล่านี้มีความหมายที่เป็นการพยากรณ์ไหม? ชัดเจนว่าพลังบริสุทธิ์ไม่ได้กระตุ้นเขาให้ทำอย่างนั้น เปาโลบอกว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงสิ่งเหล่านี้อย่างละเอียด” (ฮบ. 9:4, 5) เปาโลเต็มใจให้พลังบริสุทธิ์ชี้นำและรอคอยพระยะโฮวาอย่างถ่อมตัว—ฮบ. 9:8
6 เราควรมีความคิดแบบเดียวกันเกี่ยวกับนิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหาร นิมิตนี้มีรายละเอียดมากมาย และถ้าจำเป็นต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนขึ้น ก็คงดีที่สุดที่จะรอให้พระยะโฮวาทำอย่างนั้น (อ่านมีคาห์ 7:7) ถ้าอย่างนั้น เราควรสรุปไหมว่าพลังของพระยะโฮวาไม่ได้ช่วยให้เข้าใจนิมิตนี้ชัดเจนกว่าเมื่อก่อน? เราไม่ควรคิดอย่างนั้น
เอเสเคียลเห็นวิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ไหม?
7, 8. (ก) มีการปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่อย่างไร? (ข) วิหารในนิมิตแตกต่างอย่างไรจากวิหารโดยนัยที่เปาโลพูดถึง?
7 ตามที่บอกก่อนหน้านี้ หลายปีมาแล้วที่หนังสือของเราเคยบอกว่า เอเสเคียลเห็นวิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นวิหารเดียวกับที่อัครสาวกเปาโลได้รับ การดลใจให้เขียนไว้ในจดหมายถึงคริสเตียนชาวฮีบรู อย่างไรก็ตาม เมื่อศึกษาเรื่องนี้เพิ่มขึ้นทำให้เราสรุปได้ว่าวิหารที่เอเสเคียลเห็นไม่ใช่วิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ เพราะอะไร?
8 เหตุผลอย่างแรก วิหารที่เอเสเคียลเห็นไม่เหมือนกับวิหารที่เปาโลได้รับการดลใจให้อธิบาย เพราะอัครสาวกเปาโลบอกชัดเจนว่าเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์เป็นเงาและเค้าโครงของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์มี “ห้องบริสุทธิ์ที่สุด” ซึ่งเป็นรูปแบบพื้นฐานเหมือนวิหารของโซโลมอนและเศรุบบาเบล เปาโลเรียกห้องนั้นว่า “สถานบริสุทธิ์ซึ่งมนุษย์สร้าง” และบอกว่าห้องนั้นเป็น “แบบจำลองจากของจริง” แล้วของจริงคืออะไรล่ะ? เปาโลบอกว่าของจริงคือ “สวรรค์” (ฮีบรู 9:3, 24) แล้วเอเสเคียลได้เห็นสวรรค์ไหม? ไม่มีตรงไหนในนิมิตของเอเสเคียลที่แสดงว่าเขาเห็นสิ่งที่อยู่ในสวรรค์—เทียบกับดาเนียล 7:9, 10, 13, 14
9, 10. เมื่อพูดถึงการถวายเครื่องบูชา วิหารในนิมิตของเอเสเคียลแตกต่างจากวิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ที่เปาโลพูดถึงอย่างไร?
9 อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่านิมิตของเอเสเคียลและวิหารที่เปาโลพูดถึงไม่ใช่อย่างเดียวกันก็คือ การถวายเครื่องบูชา เอเสเคียลได้ยินคำสั่งให้ประชาชน หัวหน้า และปุโรหิตถวายเครื่องบูชา พวกเขาต้องถวายเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตัวเอง และยังต้องถวายเครื่องบูชาผูกมิตรด้วยซึ่งพวกเขาจะมากินร่วมกันในห้องอาหารของวิหาร (อสค. 43:18, 19; 44:11, 15, 27; 45:15-20, 22-25) มีการถวายเครื่องบูชาที่ต้องถวายอยู่เรื่อย ๆ ที่วิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ไหม?
วิหารในนิมิตของเอเสเคียลไม่ใช่วิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่
10 คำตอบชัดเจนและตรงไปตรงมา เปาโลอธิบายว่า “เมื่อพระคริสต์มาในฐานะมหาปุโรหิตที่ทำให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น ท่านเข้าไปในเต็นท์ที่ยิ่งใหญ่กว่าและสมบูรณ์กว่า เป็นเต็นท์ที่มนุษย์ไม่ได้สร้างและไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าสร้างไว้บนโลก ท่านเข้าไปในสถานบริสุทธิ์โดยเอาเลือดของท่านเองเข้าไปด้วย ไม่ใช่เลือดแพะและเลือดวัวหนุ่ม ท่านเข้าไปเพียงครั้งเดียวและรับเอาความรอดตลอดไปมาให้เรา” (ฮบ. 9:11, 12) ดังนั้น วิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่จะมีการถวายเครื่องบูชาเพียงครั้งเดียว เครื่องบูชาที่ถวายคือเครื่องบูชาที่ไถ่บาปซึ่งถวายโดยพระเยซูคริสต์มหาปุโรหิตที่ยิ่งใหญ่ ชัดเจนว่าวิหารในนิมิตของเอเสเคียลที่มีการถวายแพะและวัวจำนวนมากจึงไม่ใช่วิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่
11. ทำไมสมัยเอเสเคียลยังไม่ใช่เวลาที่พระเจ้าจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับวิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่?
11 เรื่องนี้ทำให้เรามีเหตุผลอย่างที่สองที่ทำให้รู้ว่าเอเสเคียลไม่ได้เห็นวิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ ตอนนั้นยังไม่ถึงเวลาที่พระเจ้าจะเปิดเผยความจริง ขอจำไว้ว่าเอเสเคียลประกาศเรื่องนิมิตให้กับเชลยชาวยิวในบาบิโลนเป็นอันดับแรก ซึ่งตอนนั้นพวกเขายังต้องทำตามกฎหมายของโมเสส หลังจากที่การเป็นเชลยสิ้นสุดพวกเขากลับไปเยรูซาเล็มและสร้างวิหารกับแท่นบูชาขึ้นใหม่ตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการนมัสการบริสุทธิ์ จากนั้นพวกเขาก็ถวายเครื่อง บูชาที่นั่น ซึ่งปรากฏว่าพวกเขาทำอย่างนั้นต่อไปอีกเกือบหกร้อยปี คิดดูสิว่าชาวยิวจะเป็นอย่างไรถ้าวิหารในนิมิตของเอเสเคียลหมายถึงวิหารโดยนัยซึ่งมหาปุโรหิตถวายชีวิตตัวเองเป็นเครื่องบูชา และทำให้เครื่องบูชาอื่น ๆ หมดคุณค่า! พวกเขาจะเข้าใจนิมิตแบบนั้นได้อย่างไร? นิมิตแบบนั้นจะทำให้ความตั้งใจของพวกเขาที่จะทำตามกฎหมายของโมเสสอ่อนลงไหม? เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา พระยะโฮวาจะเปิดเผยความจริงเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และเมื่อประชาชนของพระองค์พร้อมเท่านั้น
12-14. วิหารที่เอเสเคียลเห็นกับคำอธิบายของเปาโลเรื่องวิหารโดยนัยเกี่ยวข้องกันอย่างไร? (ดูกรอบ “ต่างวิหาร ต่างบทเรียน”)
12 ถ้าอย่างนั้นมีอะไรเกี่ยวข้องกันระหว่างนิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหารกับคำอธิบายของเปาโลเรื่องวิหารโดยนัย? ขอให้จำไว้ว่าเปาโลไม่ได้อธิบายโดยเชื่อมโยงกับนิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหาร แต่เขาเชื่อมโยงกับเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ในสมัยโมเสส ที่จริงเปาโลพูดถึงหลายสิ่งในวิหารของโซโลมอนและเศรุบบาเบลซึ่งวิหารในนิมิตของเอเสเคียลก็มีด้วย แต่โดยรวมแล้วเอเสเคียลและเปาโลเน้นคนละเรื่องกัน * ถึงแม้พวกเขาไม่ได้อธิบายถึงสิ่งเดียวกันแต่ก็เสริมกันและกัน ในแง่ไหน?
13 เราอาจนึกถึงความเชื่อมโยงของพระคัมภีร์ทั้งสองส่วนได้ว่า ในส่วนที่เปาโลเขียน เราได้เรียนเกี่ยวกับการจัดเตรียมของพระยะโฮวาสำหรับการ นมัสการ แต่ในส่วนที่เอเสเคียลเขียน เราได้เรียนเกี่ยวกับมาตรฐานของพระยะโฮวาในเรื่องการนมัสการ เพื่อจะสอนเราเกี่ยวกับการจัดเตรียมของพระยะโฮวาสำหรับการนมัสการที่บริสุทธิ์ เปาโลอธิบายความหมายของสิ่งต่าง ๆ ในวิหารโดยนัยเช่น มหาปุโรหิต เครื่องบูชา แท่นบูชา และห้องบริสุทธิ์ที่สุด แต่เพื่อจะเน้นมาตรฐานสูงของพระยะโฮวาในเรื่องการนมัสการที่บริสุทธิ์ นิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหารทำให้เราเห็นรายละเอียดที่ทำให้บทเรียนเกี่ยวกับมาตรฐานของพระยะโฮวาอยู่ในความคิดจิตใจของเรา
14 ความเข้าใจที่มีการปรับเปลี่ยนนี้ให้อะไรกับเรา? เรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่านิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหารไม่ค่อยสำคัญสำหรับเราในปัจจุบัน เพื่อจะเห็นว่านิมิตนี้เป็นประโยชน์กับเรา ให้เรามาดูรายละเอียดว่าชาวยิวที่ซื่อสัตย์ในสมัยเอเสเคียลและสมัยหลังจากนั้นได้ประโยชน์อย่างไร
นิมิตนี้มีความหมายอย่างไรกับเชลยชาวยิว?
15. (ก) นิมิตของเอเสเคียลเรื่องนี้พยากรณ์เกี่ยวกับอะไร? (ข) เนื้อหาในเอเสเคียลบท 8 ตรงข้ามกับเอเสเคียลบท 40 ถึง 48 อย่างไร?
15 เพื่อจะได้คำตอบ ก่อนอื่นให้เราพิจารณาคำถามบางข้อที่จะช่วยเราเข้าใจภาพรวมทั้งหมด อย่างแรก นิมิตนี้บอกข่าวสารที่เป็นคำพยากรณ์อะไร? ตอบสั้น ๆ ได้ว่า การนมัสการที่บริสุทธิ์จะได้รับการฟื้นฟู! เอเสเคียลเข้าใจ เรื่องนี้อย่างชัดเจน เขาเคยบันทึกเกี่ยวกับสภาพที่น่ารังเกียจของวิหารที่เยรูซาเล็มตามที่พระยะโฮวาให้เขาเห็น ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในบท 8 ของหนังสือเอเสเคียล และตอนนี้อย่างที่เราอ่านในบท 40 ถึง 48 เอเสเคียลคงดีใจที่ได้เขียนเกี่ยวกับสภาพที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เราจะเห็นว่าการนมัสการที่บริสุทธิ์ไม่ได้ถูกทำให้แปดเปื้อน แต่เป็นแบบที่ควรจะเป็น คือ นมัสการพระยะโฮวาอย่างถูกต้องตามที่บอกไว้ในกฎหมายของโมเสส
16. นิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหารยืนยันสิ่งที่อิสยาห์บอกไว้ล่วงหน้ากว่าหนึ่งร้อยปีอย่างไร?
16 เพื่อฟื้นฟูการนมัสการพระยะโฮวาให้บริสุทธิ์อีกครั้ง การนมัสการนี้จะต้องถูกยกให้สูงขึ้นเสียก่อน มากกว่าหนึ่งร้อยปีก่อนหน้านี้ผู้พยากรณ์อิสยาห์ได้รับการดลใจให้เขียนว่า “ในสมัยสุดท้ายภูเขาที่มีวิหารของพระยะโฮวาตั้งอยู่จะตั้งมั่นคงและสูงกว่าภูเขาอื่น ๆ และจะถูกยกให้สูงเด่นกว่าภูเขาทุกลูก” (อสย. 2:2) อิสยาห์เห็นล่วงหน้าชัดเจนว่าการนมัสการที่บริสุทธิ์ของพระยะโฮวาจะได้รับการฟื้นฟู จะถูกยกให้สูงขึ้น และตั้งไว้บนส่วนที่สูงที่สุดของภูเขา แล้วตอนนี้เอเสเคียลอยู่ที่ไหนในนิมิตที่ได้รับจากพระยะโฮวา? เขา “ยืนบนภูเขาลูกหนึ่งที่สูงมาก” และกำลังมองวิหารของพระยะโฮวา! (อสค. 40:2) นี่แสดงว่านิมิตของเอเสเคียลยืนยันว่าการนมัสการที่บริสุทธิ์จะได้รับการฟื้นฟู
วิหารที่เอเสเคียลเห็นตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สูงมาก (ดูข้อ 16)
17. ขอให้บอกเนื้อหาคร่าว ๆ ของเอเสเคียลบท 40 ถึง 48
17 มาดูกันคร่าว ๆ ว่าเอเสเคียลเห็นและได้ยินอะไรตามที่บอกไว้ในเอเสเคียลบท 40 ถึง 48 เขาเห็นทูตสวรรค์กำลังวัดซุ้มประตู กำแพง ลานวิหาร และที่ศักดิ์สิทธิ์ของวิหาร (อสค. 40-42) จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น พระยะโฮวามาที่วิหารอย่างมีสง่าราศี! พระองค์ให้คำแนะนำกับประชาชนที่ดื้อด้าน กับพวกปุโรหิต และพวกหัวหน้า (อสค. 43:1-12; 44:10-31; 45:9-12) เอเสเคียลเห็นแม่น้ำไหลออกมาจากวิหาร และเมื่อไหลไปที่ทะเลตาย น้ำในทะเลก็กลายเป็นน้ำดีและสิ่งมีชีวิตทุกชนิดก็จะอยู่ที่นั่นได้ (อสค. 47:1-12) เขาเห็นแผ่นดินถูกแบ่งเป็นส่วน ๆ อย่างดี และการนมัสการที่บริสุทธิ์ถูกตั้งขึ้นใกล้กับศูนย์กลางของแผ่นดินนั้น (อสค. 45:1-8; 47:13-48:35) ทั้งหมดนี้บอกอะไรกับเรา? เห็นได้ชัดว่า พระยะโฮวากำลังทำให้ประชาชนมั่นใจว่าการนมัสการที่บริสุทธิ์จะได้รับการฟื้นฟูและได้รับการยกย่อง วิหารนี้จะได้รับการอวยพรเพราะพระองค์อยู่ที่นั่น และพระองค์จะทำให้มีพรมากมายหลั่งไหลออกมาจากวิหารนี้ ส่งผลให้แผ่นดินที่ได้รับการฟื้นฟูมีสภาพดี มีชีวิตชีวา และเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกครั้ง
วิหารที่เอเสเคียลเห็นหมายถึงการที่พระยะโฮวาจะฟื้นฟูการนมัสการที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งใหญ่ (ดูข้อ 17)
18. นิมิตเรื่องวิหารเกิดขึ้นจริงตามตัวอักษรไหม? ขอให้อธิบาย
18 อย่างที่สอง นิมิตนี้เกิดขึ้นจริงตามตัวอักษรไหม? ไม่ ดูเหมือนว่าทั้งเอเสเคียลและเพื่อนเชลยไม่ได้คิดว่านิมิตนี้จะเกิดขึ้นจริงตามตัวอักษร เพราะอะไร? เพราะเอเสเคียลเห็นวิหารอยู่บน “ภูเขาลูกหนึ่งที่สูงมาก” นิมิต นี้สอดคล้องกับคำพยากรณ์ของอิสยาห์แต่ไม่ตรงกับตำแหน่งที่ตั้งจริง ๆ ของวิหาร ที่จริงภูเขาโมริยาห์ในกรุงเยรูซาเล็มเป็นที่ตั้งวิหารของโซโลมอนและตอนหลังวิหารนี้ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ในที่เดิม แต่ “ภูเขาลูกหนึ่งที่สูงมาก” คือภูเขาโมริยาห์ไหม? ไม่ เพราะภูเขาโมริยาห์ถูกล้อมด้วยภูเขาหลายลูกซึ่งสูงใกล้เคียงกันหรือไม่ก็สูงกว่า นอกจากนั้น วิหารที่เอเสเคียลเห็นมีขนาดมหึมา พื้นที่ทั้งหมดของวิหารก็กว้างใหญ่และล้อมรอบด้วยกำแพง ซึ่งทั้งหมดนี้ใหญ่เกินกว่าที่จะอยู่บนภูเขาโมริยาห์ ใหญ่กว่าตัวเมืองเยรูซาเล็มสมัยโซโลมอนด้วยซ้ำ! ยิ่งกว่านั้น พวกเชลยไม่ได้คิดแน่ ๆ ว่าจะมีแม่น้ำจริง ๆ ไหลจากวิหารลงทะเลตายและทำให้น้ำในทะเลกลายเป็นน้ำดี และเหตุผลสุดท้ายคือแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญามีลักษณะเป็นเทือกเขา จึงไม่สามารถแบ่งเขตของแต่ละตระกูลให้แนวพรมแดนเป็นเส้นตรงอย่างที่พูดถึงในนิมิต ดังนั้น นิมิตนี้จึงไม่ได้เกิดขึ้นจริงตามตัวอักษร
19-21. พระยะโฮวาอยากให้นิมิตของเอเสเคียลมีผลอย่างไรกับประชาชน? และทำไมถึงมีผลอย่างนั้น?
19 อย่างที่สาม พระยะโฮวาอยากให้นิมิตนี้มีผลอย่างไรกับประชาชนในสมัยของเอเสเคียล? เมื่อประชาชนใคร่ครวญเกี่ยวกับมาตรฐานสูงของพระยะโฮวาในเรื่องการนมัสการที่บริสุทธิ์ พวกเขาน่าจะรู้สึกอับอาย พระยะโฮวาบอกเอเสเคียลว่า “เจ้าต้องบอกรายละเอียดเกี่ยวกับวิหารนี้ให้ชาวอิสราเอล ฟัง” เอเสเคียลต้องบอกชาวอิสราเอลให้รู้รายละเอียดทั้งหมดของวิหาร เพื่อพวกเขาจะสามารถ “ศึกษาแบบแปลน” ของวิหารได้ ทำไมผู้คนต้องใคร่ครวญเกี่ยวกับวิหาร? แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อพวกเขาจะสร้างวิหาร แต่พระยะโฮวาบอกว่าเพื่อ “พวกเขาจะได้รู้สึกอายที่ทำผิด”—อ่านเอเสเคียล 43:10-12
20 ทำไมนิมิตนี้อาจมีผลต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคนที่มีหัวใจดีและทำให้พวกเขารู้สึกอับอาย? สังเกตที่พระยะโฮวาบอกเอเสเคียลว่า “ลูกมนุษย์ ดูให้ดี สนใจและตั้งใจฟังทุกอย่างที่เราจะบอกเจ้าเรื่องข้อกำหนดและกฎของวิหารของพระยะโฮวา” (อสค. 44:5) เอเสเคียลได้ยินเกี่ยวกับข้อกำหนดและกฎต่าง ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า (อสค. 43:11, 12; 44:24; 46:14) และเอเสเคียลได้รับการเตือนอยู่เสมอเช่นกันเกี่ยวกับมาตรฐานของพระยะโฮวาแม้แต่มาตรฐานของความยาวหนึ่งศอกและมาตรฐานของตุ้มน้ำหนักที่เที่ยงตรง (อสค. 40:5; 45:10-12; เทียบกับสุภาษิต 16:11) เพราะในนิมิตนี้เอเสเคียลบันทึกคำในภาษาเดิมที่มีความหมายว่า “ตวง” “วัด” หรือคำที่มีความหมายคล้าย ๆ กันมากกว่า 50 ครั้ง!
21 ทำไมพระยะโฮวาพูดถึงการชั่งตวงวัด กฎ และข้อกำหนด? พระองค์กำลังบอกอะไรกับประชาชน? ดูเหมือนพระยะโฮวากำลังเตือนพวกเขาอย่างหนักแน่นถึงความจริงสำคัญที่ว่า พระองค์เป็นผู้เดียวที่กำหนดมาตรฐานของการนมัสการบริสุทธิ์ คนที่ไม่ทำตามมาตรฐานเหล่านี้จะต้องอับอาย! แล้วชาวยิวได้เรียนอะไรบ้างจากนิมิตนี้? ในบทต่อไปเราจะดูบางเรื่องจากนิมิตที่โดดเด่นนี้ ซึ่งจะช่วยให้เห็นชัดเจนว่านิมิตนี้มีความหมายกับเราอย่างไร
ทำไมนิมิตเรื่องวิหารถึงทำให้คนที่มีหัวใจดีรู้สึกอับอาย? (ดูข้อ 19-21)
^ วิหารโดยนัยคือ การจัดเตรียมของพระยะโฮวาเพื่อการนมัสการที่บริสุทธิ์ผ่านทางค่าไถ่ของพระเยซูคริสต์ เราเข้าใจว่าการจัดเตรียมนี้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 29