สรุปการปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วารสารหอสังเกตการณ์ ได้ลงบทความเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนความเข้าใจบางเรื่องในคำพยากรณ์ของเอเสเคียล และหนังสือการนมัสการที่บริสุทธิ์ของพระยะโฮวาได้รับการฟื้นฟู! เล่มนี้ก็อธิบายการปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่หลายเรื่องเช่นกัน ให้มาดูกันว่าคุณตอบคำถามต่อไปนี้ได้ไหม
หน้าทั้งสี่ของสิ่งมีชีวิต 4 ตนหมายถึงอะไร?
ความเข้าใจเดิม แต่ละหน้าของสิ่งมีชีวิต 4 ตนหรือพวกเครูบ หมายถึงคุณลักษณะเด่นแต่ละอย่างของพระยะโฮวา
ความเข้าใจใหม่ ถึงแม้แต่ละหน้าของสิ่งมีชีวิต 4 ตน หมายถึงคุณลักษณะเด่น 4 อย่างของพระยะโฮวา แต่เมื่อหน้าทั้งสี่อยู่รวมกันจะหมายถึงคุณลักษณะทั้งหมดของพระองค์ นอกจากนั้น หน้าทั้งสี่ยังทำให้เราประทับใจในความยิ่งใหญ่ อำนาจ และสง่าราศีของพระยะโฮวาด้วย
เหตุผลที่ปรับเปลี่ยน ในคัมภีร์ไบเบิล เลข 4 มักหมายถึงความสมบูรณ์ครบถ้วนในทุกด้าน ดังนั้น การที่หน้าทั้งสี่อยู่รวมกันจึงไม่ได้หมายถึงคุณลักษณะแค่ 4 อย่าง แต่หน้าทั้งสี่เป็นฐานรากของคุณลักษณะที่น่าเกรงขามทั้งหมดของพระยะโฮวา นอกจากนั้น ถึงแม้ว่าแต่ละหน้าของสิ่งมีชีวิตจะเป็นตัวแทนของความยิ่งใหญ่ พลังอำนาจ และความแข็งแกร่ง แต่สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ ซึ่งแต่ละตนมี 4 หน้านั้นก็อยู่ใต้บัลลังก์ของพระยะโฮวา เรื่องนี้เน้นว่าพระยะโฮวาเป็นผู้ปกครองสูงสุดเหนือทุกสิ่ง
ผู้ชายที่มีกล่องของเลขานุการหมายถึงใคร?
ความเข้าใจเดิม ผู้ชายที่มีกล่องของเลขานุการหมายถึงผู้ถูกเจิมที่มีชีวิตอยู่บนโลก พวกเขาประกาศและสอนคนให้เป็นสาวก ซึ่งเป็นการทำเครื่องหมายที่หน้าผากให้กับคนที่จะเข้ามาเป็น “ชนฝูงใหญ่”—วว. 7:9
ความเข้าใจใหม่ ผู้ชายที่มีกล่องของเลขานุการหมายถึงพระเยซูคริสต์ ท่านจะทำเครื่องหมายให้ชนฝูงใหญ่เมื่อท่านตัดสินว่าพวกเขาเป็นแกะ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วง “ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่”—มธ. 24:21
เหตุผลที่ปรับเปลี่ยน พระยะโฮวามอบหมายให้ลูกชายของพระองค์ทำหน้าที่พิพากษา (ยน. 5:22, 23) เรื่องนี้สอดคล้องกับมัทธิว 25:31-33 ที่บอกว่า พระเยซูจะพิพากษาครั้งสุดท้ายว่าใครเป็น “แกะ” หรือเป็น “แพะ”
สองพี่น้องที่เป็นโสเภณีคือ โอโฮลาห์และโอโฮลีบาห์หมายถึงนิกายใหญ่ 2 นิกายในคริสต์ศาสนจักร คือ คาทอลิกและโปรเตสแตนต์ไหม?
ความเข้าใจเดิม โอโฮลาห์ที่เป็นพี่สาว (สะมาเรีย เมืองหลวงของอิสราเอล) หมายถึง นิกายคาทอลิก และโอโฮลีบาห์ที่เป็นน้องสาว (เยรูซาเล็ม เมืองหลวงของยูดาห์) หมายถึง นิกายโปรเตสแตนต์
ความเข้าใจใหม่ โสเภณีเหล่านี้ไม่ได้หมายถึงส่วนใดส่วนหนึ่งของคริสต์ศาสนจักร แต่เรื่องนี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าพระยะโฮวารู้สึกอย่างไรกับคนที่เคยเป็นประชาชนที่ภักดีของพระองค์แต่หันไปนมัสการเท็จ ความรู้สึกของพระองค์ที่มีต่อศาสนาเท็จทั้งหมดก็เป็นแบบเดียวกัน
เหตุผลที่ปรับเปลี่ยน ไม่มีส่วนไหนในคัมภีร์ไบเบิลที่บอกว่าโอโฮลาห์และโอโฮลีบาห์หมายถึงคริสต์ศาสนจักร ในขณะที่อิสราเอลและยูดาห์เคยเป็นเหมือนภรรยาที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวา แต่คริสต์ศาสนจักรไม่เคยมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับพระยะโฮวามาก่อนเลย ยิ่งกว่านั้น การเปรียบเทียบว่าประชาชนที่ไม่ซื่อสัตย์ของพระเจ้าเป็นเหมือนโสเภณีตามที่บอกไว้ในเอเสเคียลบท 16 และ 23 ยังให้ความหวังว่าจะมีการแก้ไขและฟื้นฟูอีกครั้ง แต่คริสต์ศาสนจักรซึ่งเป็นส่วนของบาบิโลนใหญ่ไม่ได้มีความหวังแบบนั้น
เยรูซาเล็มเป็นภาพหมายถึงคริสต์ศาสนจักรไหม?
ความเข้าใจเดิม เยรูซาเล็มที่ไม่ซื่อสัตย์หมายถึงคริสต์ศาสนจักร ดังนั้น ความพินาศของเยรูซาเล็มจึงเป็นภาพที่บอกล่วงหน้าเกี่ยวกับคริสต์ศาสนจักร
ความเข้าใจใหม่ ความไม่ซื่อสัตย์ที่เกิดขึ้นในเยรูซาเล็ม ทั้งการไหว้รูปเคารพและความเสื่อมทรามที่แพร่ไปทั่ว ทำให้เรานึกถึงคริสต์ศาสนจักร แต่เราไม่ถือว่าเยรูซาเล็มเป็นภาพหมายถึงคริสต์ศาสนจักร
เหตุผลที่ปรับเปลี่ยน ไม่มีการอธิบายที่ชัดเจนในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบนี้ ไม่เคยมีการนมัสการที่บริสุทธิ์ในคริสต์ศาสนจักรเหมือนที่เคยมีในเยรูซาเล็มโบราณ นอกจากนั้น พระยะโฮวาเคยให้อภัยเยรูซาเล็มอยู่ระยะหนึ่ง แต่คริสต์ศาสนจักรจะไม่ได้รับการอภัย
นิมิตเรื่องหุบเขาที่มีกระดูกแห้งเกิดขึ้นจริงอย่างไร?
ความเข้าใจเดิม ในปี 1918 คริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ถูกข่มเหงตกเป็นเชลยของบาบิโลนใหญ่และมีสภาพเหมือนตายแล้ว คืออยู่ในสภาพที่แทบจะทำกิจกรรมของคริสเตียนไม่ได้เลย การเป็นเชลยช่วงสั้น ๆ สิ้นสุดลงในปี 1919 เมื่อพระยะโฮวาทำให้พวกเขากลับมีชีวิตเป็นผู้ประกาศข่าวรัฐบาลของพระองค์อีกครั้ง
ความเข้าใจใหม่ การเป็นเชลยโดยนัยซึ่งทำให้มีสภาพเหมือนตายแล้วเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน และเริ่มขึ้นนานมากก่อนปี 1918 การเป็นเชลยนี้เริ่มในศตวรรษที่ 2 และสิ้นสุดในปี ค.ศ. 1919 สอดคล้องกับตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูเรื่องข้าวสาลีกับวัชพืช ซึ่งพืชทั้งสองชนิดเติบโตไปด้วยกันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน
เหตุผลที่ปรับเปลี่ยน อิสราเอลโบราณเป็นเชลยอยู่นานตั้งแต่ปี 740 ก่อน ค.ศ. จนถึงปี 537 ก่อน ค.ศ. คำพยากรณ์ของเอเสเคียลอธิบายว่ากระดูกมีสภาพ “แห้ง” หรือ “แห้งมาก” ดังนั้น คนที่ถูกเปรียบกับกระดูกเหล่านี้ต้องตายมานานมากแล้ว นอกจากนั้น คัมภีร์ไบเบิลยังบอกด้วยว่ากระดูกเหล่านั้นมาต่อติดกันอย่างค่อยเป็นค่อยไปซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา
การเอาไม้ 2 ท่อนมารวมกันหมายถึงอะไร?
ความเข้าใจเดิม หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 มีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ผู้ถูกเจิมไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ในปี 1919 ผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ก็กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง
ความเข้าใจใหม่ คำพยากรณ์นี้เน้นว่าพระยะโฮวาจะทำให้คนที่นมัสการพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากปี 1919 คนที่มีความหวังจะมีชีวิตอยู่บนโลกที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ก็มาเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ถูกเจิมที่ยังมีชีวิตอยู่ และทั้งสองกลุ่มก็นมัสการพระยะโฮวาร่วมกันเป็นกลุ่มเดียว
เหตุผลที่ปรับเปลี่ยน คำพยากรณ์นี้ไม่ได้บอกว่าตอนแรกไม้หนึ่งท่อนถูกแยกเป็นสอง แล้วตอนหลังกลับมารวมเป็นท่อนเดียว ดังนั้นคำพยากรณ์นี้ไม่ได้อธิบายว่าคนหนึ่งกลุ่มจะถูกแบ่งแยกแล้วตอนหลังกลับมารวมกัน แทนที่จะเป็นอย่างนั้น คำพยากรณ์นี้บอกว่าคนสองกลุ่มที่แตกต่างกันจะมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
ใครคือโกกแห่งมาโกก?
ความเข้าใจเดิม โกกแห่งมาโกกเป็นอีกชื่อหนึ่งของซาตาน มันถูกเรียกด้วยชื่อนี้หลังจากถูกขับไล่ออกจากสวรรค์
ความเข้าใจใหม่ โกกแห่งมาโกกหมายถึงชาติต่าง ๆ ในโลกที่รวมตัวกันต่อต้านคนที่นมัสการแท้ในช่วงความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่
เหตุผลที่ปรับเปลี่ยน คำพยากรณ์อธิบายว่าโกกจะเป็นอาหารของนกล่าเหยื่อและโกกจะมีที่ฝังศพบนโลก แสดงว่าโกกต้องไม่ใช่ทูตสวรรค์ที่เรามองไม่เห็น นอกจากนั้น การโจมตีของโกกยังสอดคล้องกับหนังสือดาเนียลและหนังสือวิวรณ์ ที่บอกว่าชาติต่าง ๆ ในโลกจะมาโจมตีประชาชนของพระยะโฮวา—ดนล. 11:40, 44, 45; วว. 17:14; 19:19
เอเสเคียลได้เห็นและได้เข้าไปในวิหารโดยนัยที่ยิ่งใหญ่ซึ่งอัครสาวกเปาโลอธิบายไว้ไหม?
ความเข้าใจเดิม วิหารในนิมิตของเอเสเคียลเป็นวิหารเดียวกับวิหารโดยนัยที่อัครสาวกเปาโลพูดถึง
ความเข้าใจใหม่ วิหารที่เอเสเคียลเห็นไม่ใช่วิหารโดยนัยซึ่งเริ่มในปี ค.ศ. 29 แต่เป็นภาพนิมิตที่แสดงว่าการนมัสการที่บริสุทธิ์ตามกฎหมายของโมเสสจะได้รับการฟื้นฟูอย่างไรเมื่อการเป็นเชลยสิ้นสุดลง เปาโลได้รับการดลใจให้อธิบายเกี่ยวกับวิหารโดยนัย ซึ่งเน้นงานที่พระเยซูทำในฐานะปุโรหิตที่ยิ่งใหญ่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 29 ถึง 33 ในขณะที่นิมิตของเอเสเคียลไม่ได้พูดถึงมหาปุโรหิตเลย แต่เน้นที่การฟื้นฟูการนมัสการซึ่งเริ่มในปี 1919 ดังนั้น เราจะไม่มองว่ารายละเอียดและการวัดสิ่งต่าง ๆ ของวิหารในนิมิตของเอเสเคียลเป็นภาพเล็งถึงอะไร แต่เราสนใจบทเรียนต่าง ๆ ที่นิมิตของเอเสเคียลสอนเราเกี่ยวกับมาตรฐานของพระยะโฮวาเรื่องการนมัสการที่บริสุทธิ์
เหตุผลที่ปรับเปลี่ยน วิหารในนิมิตของเอเสเคียลต่างจากวิหารโดยนัยหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น วิหารในนิมิตของเอเสเคียลมีการถวายสัตว์มากมายเป็นเครื่องบูชา แต่วิหารโดยนัยมีการถวายเครื่องบูชา “เพียงครั้งเดียว” (ฮบ. 9:11, 12) สมัยของเอเสเคียลยังไม่ใช่เวลาที่พระยะโฮวาจะเปิดเผยความจริงที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับวิหารโดยนัย เพราะยังอีกหลายร้อยปีกว่าพระคริสต์จะมาบนโลก