สิ่งที่ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะทำ
“ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด. พระทัยประสงค์ของพระองค์สำเร็จแล้วในสวรรค์อย่างไร ก็ขอให้สำเร็จบนแผ่นดินโลกอย่างนั้น.”—มัดธาย 6:10, ล.ม.
1. การมาแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าจะหมายถึงอะไร?
เมื่อพระเยซูสอนเหล่าสาวกให้อธิษฐานขอให้ราชอาณาจักรของพระเจ้ามา พระองค์ทรงทราบว่าการมาของราชอาณาจักรจะนำอวสานมาสู่การปกครองหลายพันปีของมนุษย์ซึ่งไม่หมายพึ่งพระเจ้า. ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว พระทัยประสงค์ของพระเจ้าไม่ได้สำเร็จบนแผ่นดินโลกโดยทั่วไป. (บทเพลงสรรเสริญ 147:19, 20) แต่หลังจากการสถาปนาราชอาณาจักรในสวรรค์ พระทัยประสงค์ของพระเจ้าจะสำเร็จในทุกแห่งหน. เวลาสำหรับการเปลี่ยนอย่างที่น่าครั่นคร้ามจากการปกครองของมนุษย์มาเป็นการปกครองแห่งราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้าจวนจะถึงอยู่แล้ว.
2. เหตุการณ์อะไรจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนจากการปกครองของมนุษย์มาเป็นการปกครองของราชอาณาจักร?
2 เหตุการณ์ซึ่งจะบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้แก่ช่วงเวลาที่พระเยซูเรียกว่า “ความทุกข์มัดธาย 24:21, ล.ม.) คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้กล่าวว่าช่วงเวลานั้นจะนานเท่าใด แต่ความหายนะที่จะเกิดขึ้นในช่วงนั้นจะร้ายแรงยิ่งกว่าเหตุการณ์ใด ๆ ที่โลกเคยประสบ. ณ ตอนเริ่มต้นของความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ จะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่บนแผ่นดินโลกอกสั่นขวัญแขวน คือการทำลายศาสนาเท็จทั้งสิ้น. เหตุการณ์นั้นจะไม่ทำให้พยานพระยะโฮวาตระหนกตกใจ เพราะพวกเขาได้คาดหมายเหตุการณ์นี้มานานแล้ว. (วิวรณ์ 17:1, 15-17; 18:1-24) ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่จะสิ้นสุดลง ณ อาร์มาเก็ดดอนเมื่อราชอาณาจักรของพระเจ้าบดขยี้ระบบทั้งสิ้นของซาตาน.—ดานิเอล 2:44; วิวรณ์ 16:14, 16.
ลำบากใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีโลกจนกระทั่งบัดนี้ ใช่ และจะไม่เกิดขึ้นอีก.” (3. ยิระมะยาพรรณนาอย่างไรเกี่ยวกับบั้นปลายของผู้ที่ไม่เชื่อฟัง?
3 ทั้งนี้จะหมายความเช่นไรสำหรับคน “ที่ไม่รู้จักพระเจ้าและคนที่ไม่เชื่อฟังข่าวดี” เรื่องราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ของพระองค์ในพระหัตถ์ของพระคริสต์? (2 เธซะโลนิเก 1:6-9, ล.ม.) คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลบอกเราดังนี้: “นี่แน่ะ! ความหายนะจะออกไปตามชาติต่าง ๆ และพายุร้ายยิ่งจะก่อขึ้นจากส่วนสุดไกลแห่งแผ่นดินโลก. และคนที่ถูกพระยะโฮวาประหารในวันนั้นจะมีตั้งแต่ปลายแผ่นดินโลกข้างหนึ่งจนถึงปลายแผ่นดินโลกอีกข้างหนึ่ง. จะไม่มีใครโศกเศร้าคร่ำครวญเพื่อเขา และพวกเขาจะไม่ถูกเก็บรวบรวมหรือฝัง. พวกเขาจะเป็นเหมือนมูลสัตว์บนพื้นดิน.”—ยิระมะยา 25:32, 33, ล.ม.
อวสานของความชั่ว
4. เหตุใดจึงมีเหตุผลสมควรที่พระยะโฮวาจะทำลายระบบชั่วนี้?
4 พระยะโฮวาพระเจ้าทรงยอมให้ความชั่วมีอยู่เป็นเวลาหลายพันปี นานพอที่ผู้มีหัวใจชอบธรรมจะเห็นได้ว่าการปกครองของมนุษย์นั้นนำมาซึ่งความหายนะ. ยกตัวอย่าง ตามที่ข้อมูลจากแหล่งหนึ่งกล่าวไว้ เฉพาะในศตวรรษที่ 20 มีมากกว่า 150 ล้านคนเสียชีวิตในสงคราม, การปฏิวัติ, และความไม่สงบในบ้านเมือง. ความชั่วร้ายของมนุษย์นั้นเห็นได้ชัดเป็นพิเศษระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อมีประมาณ 50 ล้านคนเสียชีวิต หลายคนในจำนวนนี้ตายอย่างน่าสยดสยองในค่ายกักกันของนาซี. เป็นดังที่คัมภีร์ไบเบิลบอกล่วงหน้าไว้ทีเดียวว่า ในสมัยของเรา ‘คนชั่วและเจ้าเล่ห์กำเริบชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น.’ (2 ติโมเธียว 3:1-5, 13, ล.ม.) ปัจจุบัน การประพฤติผิดศีลธรรม, อาชญากรรม, ความรุนแรง, การทุจริต, และการดูถูกมาตรฐานของพระเจ้ามีอยู่อย่างแพร่หลาย. ด้วยเหตุนั้น การที่พระยะโฮวาจะทรงนำอวสานมาสู่ระบบชั่วนี้จึงมีเหตุผลสมควรอย่างแท้จริง.
5, 6. จงพรรณนาถึงความชั่วช้าที่มีอยู่ในคะนาอันโบราณ.
5 สถานการณ์ในเวลานี้คล้ายคลึงกับสถานการณ์ในคะนาอันเมื่อ 3,500 ปีที่แล้ว. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “บรรดาการชั่วลามกซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงเกลียดชังนั้น, เขาทั้งหลายได้กระทำแก่พระของเขาแล้ว; ด้วยบุตรชายหญิงของเขาเขาได้เผาไฟบูชาแก่พระของเขา.” (พระบัญญัติ 12:31) พระยะโฮวาทรงแจ้งแก่ชาติยิศราเอลว่า “เพราะเหตุความชั่วของชาวประเทศเหล่านั้น, พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจึงได้ขับไล่เขาทั้งหลายออกเสียต่อหน้าเจ้า.” (พระบัญญัติ 9:5) นักประวัติศาสตร์ด้านคัมภีร์ไบเบิล เฮนรี เอช. ฮัลเลย์ ชี้ว่า “การนมัสการพระบาละ, เทพธิดาอัสโทเร็ธ, และพระอื่น ๆ ของชาวคะนาอันประกอบด้วยการเต้นรำอย่างบ้าคลั่งและการดื่มสุราเมามาย; วิหารของพวกเขาเป็นศูนย์รวมของความชั่วร้าย.”
6 ฮัลเลย์ชี้ให้เห็นว่าพวกเขาได้ทำความชั่วร้ายกาจมากเพียงไร เพราะในที่แห่งหนึ่งของบริเวณเช่นนั้นซึ่งมีอยู่มากมาย นักโบราณคดี “พบไหจำนวนมากบรรจุกระดูกทารกซึ่งถูกบูชายัญแก่พระบาละ.” เขากล่าวว่า “ทั่วทั้งบริเวณนี้ปรากฏว่าเป็นสุสานของทารกแรกเกิด. . . . ชาวคะนาอันนมัสการ โดยปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการทำผิดศีลธรรมในพิธีทางศาสนา ต่อหน้าพระของพวกเขา; ครั้นแล้วก็ฆ่าบุตรหัวปีของตนเพื่อบูชายัญแก่พระเหล่านั้น. ดูเหมือนว่า ส่วนใหญ่แล้ว แผ่นดินคะนาอันได้กลายเป็นเช่นเดียวกับเมืองโซโดมและโกโมร์ราห์ในระดับชาติทีเดียว. . . . อารยธรรมอันน่าชิงชังรังเกียจและเหี้ยมโหดเช่นนั้นมีสิทธิ์จะดำรงอยู่ต่อไปไหม? . . . นักโบราณคดีซึ่งขุดค้นซากปรักหักพังของเมืองต่าง ๆ ในคะนาอันรู้สึกแปลกใจที่พระเจ้าไม่ได้ทำลายพวกเขาเร็วกว่านั้น.”
รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก
7, 8. พระเจ้าจะทรงชำระแผ่นดินโลกนี้ให้หมดจดโดยวิธีใด?
7 เช่นเดียวกับที่พระเจ้าทรงชำระล้างคะนาอัน อีกไม่ช้าพระองค์จะทรงชำระแผ่นดินโลกทั้งสิ้นให้หมดจดและประทานแก่คนเหล่านั้นที่ทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์. สุภาษิต 2:21, 22, ล.ม.) และผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญกล่าวว่า “ยังอีกหน่อยหนึ่ง, คนชั่วจะไม่มี . . . แต่คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และเขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์.” (บทเพลงสรรเสริญ 37:10, 11) นอกจากนี้ ซาตานก็จะถูกขจัดด้วย เพื่อ “มันจะไม่ชักนำชาติต่าง ๆ ให้หลงอีกต่อไปจนกว่าพันปีนั้นจะสิ้นสุดลง.” (วิวรณ์ 20:1-3, ล.ม.) ใช่แล้ว “โลกกับความปรารถนาของโลกกำลังผ่านพ้นไป แต่ผู้ที่ทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้าจะดำรงอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์.”—1 โยฮัน 2:17, ล.ม.
“คนซื่อตรงเป็นผู้ที่จะได้อาศัยบนแผ่นดินโลก และคนที่ไร้ข้อตำหนิเป็นผู้ที่จะเหลืออยู่บนแผ่นดิน. ส่วนคนชั่ว พวกเขาจะถูกตัดขาดจากแผ่นดินโลก.” (8 เมื่อสรุปเกี่ยวกับความหวังอันยิ่งใหญ่สำหรับคนที่ต้องการมีชีวิตตลอดไปบนแผ่นดินโลก พระเยซูตรัสว่า “ความสุขมีแก่คนอ่อนโยน เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก.” (มัดธาย 5:5, ล.ม.) เป็นไปได้ทีเดียวว่าพระองค์กำลังตรัสพาดพิงถึงบทเพลงสรรเสริญ 37:29 ซึ่งบอกล่วงหน้าว่า “คนสัตย์ธรรมจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และจะอาศัยอยู่ที่นั่นต่อไปเป็นนิตย์.” พระเยซูทรงทราบว่าเป็นพระประสงค์ของพระยะโฮวาที่ผู้มีหัวใจชอบธรรมจะอาศัยบนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยานตลอดไป. พระยะโฮวาตรัสว่า “เราได้สร้างแผ่นดินโลก, แลมนุษย์แลสัตว์เดียรัจฉานทั้งปวงซึ่งอยู่บนพื้นแผ่นดิน, ด้วยฤทธิ์ใหญ่ของเรา . . . แลเรายกให้แก่ผู้ที่เราเห็นควรจะให้ได้.”—ยิระมะยา 27:5.
โลกใหม่อันยอดเยี่ยม
9. ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะนำมาซึ่งโลกแบบไหน?
9 ภายหลังอาร์มาเก็ดดอน ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะนำมาซึ่ง “แผ่นดินโลกใหม่” อันดียอดเยี่ยม ที่ซึ่ง “ความชอบธรรมจะดำรงอยู่.” (2 เปโตร 3:13) จะเป็นการปลดเปลื้องอันใหญ่หลวงสักเพียงไรที่ผู้รอดชีวิตจากอาร์มาเก็ดดอนจะหลุดพ้นจากระบบอันชั่วช้าและกดขี่นี้! พวกเขาจะยินดีสักเพียงไรที่ได้เข้าสู่โลกใหม่อันชอบธรรมภายใต้รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ พร้อมกับมีโอกาสที่จะได้รับพระพรอันยอดเยี่ยมและชีวิตนิรันดร์!—วิวรณ์ 7:9-17.
10. สิ่งต่าง ๆ ที่เลวร้ายอะไรบ้างจะไม่มีอีกต่อไปภายใต้การปกครองของราชอาณาจักร?
10 ผู้คนจะไม่ถูกคุกคามอีกต่อไปโดยสงคราม, อาชญากรรม, ความหิวโหย, หรือแม้แต่สัตว์ล่าเหยื่อ. “เราจะทำคำสัญญาเป็นมิตรไมตรีแก่ [ไพร่พลของเรา]; และเราจะบันดาลสัตว์ร้ายทั้งหลายให้ไปจากแผ่นดินนั้นจนสิ้น . . . และต้นไม้ในนาจะเกิดผลที่ต้นนั้น, และผลประโยชน์จะเกิดแต่แผ่นดินนั้น; และเขาทั้งหลายจะอยู่ในแผ่นดินแห่งเขาโดยปกติ [“อย่างปลอดภัย,” ล.ม.].” “เขาทั้งหลายจะเอาดาบของเขาตีเป็นผาลไถนา, และเอาหอกตีเป็นขอสำหรับลิดแขนง. ประเทศต่อประเทศจะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กัน, และเขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป. ต่างคนก็จะนั่งอยู่ใต้ซุ้มเถาองุ่นและใต้ต้นมะเดื่อเทศของตน; และจะไม่มีอะไรมาทำให้เขาสะดุ้งกลัว.”—ยะเอศเคล 34:25-28; มีคา 4:3, 4, ล.ม.
11. เหตุใดเราจึงเชื่อมั่นได้ว่าความเจ็บป่วยทางกายจะหมดสิ้นไป?
11 ความเจ็บป่วย, ความเศร้าเสียใจ, และแม้แต่ความตายจะถูกขจัดออกไป. “จะไม่มีใครที่อาศัยอยู่ที่นั่นพูดว่า, ‘ข้าพเจ้าป่วยอยู่.’ เพราะเหตุว่าพลเมืองทั้งหมดจะได้รับการอภัยโทษแล้ว.” (ยะซายา 33:24) “[พระเจ้า] จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาของพวกเขา และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ทั้งความทุกข์โศกหรือเสียงร้องหรือความเจ็บปวดจะไม่มีอีกเลย. สิ่งที่เคยมีอยู่เดิมนั้นผ่านพ้นไปแล้ว. . . . ‘นี่แน่ะ! เรากำลังทำสิ่งทั้งปวงให้ใหม่.’ ” (วิวรณ์ 21:4, 5, ล.ม.) เมื่อพระเยซูอยู่บนแผ่นดินโลก พระองค์ทรงแสดงความสามารถในการทำสิ่งเหล่านั้นด้วยอำนาจที่พระเจ้าได้ประทานแก่พระองค์. ด้วยการสนับสนุนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเยซูทรงดำเนินไปทั่วแผ่นดิน รักษาคนง่อยเปลี้ยเสียขาและคนเจ็บป่วยให้หาย.—มัดธาย 15:30, 31.
12. มีความหวังอะไรสำหรับคนตาย?
12 พระเยซูทรงทำยิ่งกว่านั้นอีก. พระองค์ทรงปลุกคนมาระโก 5:42, ล.ม.) นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสิ่งที่พระเยซูจะทรงทำไปทั่วโลกภายใต้การปกครองแห่งราชอาณาจักร เพราะในตอนนั้น “จะมีการกลับเป็นขึ้นจากตายทั้งของคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรม.” (กิจการ 24:15, ล.ม.) ขอให้นึกภาพถึงความดีใจเป็นล้นพ้นเมื่อคนตายกลุ่มแล้วกลุ่มเล่ากลับมามีชีวิตและอยู่ร่วมกับผู้เป็นที่รักของเขาอีกครั้ง! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีงานให้การศึกษาอย่างใหญ่โตภายใต้การควบคุมดูแลของราชอาณาจักร เพื่อ “แผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้ฝ่ายพระยะโฮวาดุจน้ำท่วมเต็มมหาสมุทร.”—ยะซายา 11:9.
ตายให้กลับมีชีวิต. ประชาชนที่มีใจถ่อมแสดงปฏิกิริยาอย่างไร? เมื่อพระองค์ทรงปลุกเด็กหญิงอายุ 12 ปีให้กลับมีชีวิตอีก บิดามารดาของเธอ “ดีใจเป็นล้นพ้น.” (พระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องชอบธรรม
13. ความถูกต้องชอบธรรมแห่งการปกครองของพระเจ้าจะปรากฏชัดอย่างไร?
13 เมื่อถึงปลายรัชสมัยพันปีของการปกครองแห่งราชอาณาจักร ครอบครัวมนุษย์ก็จะได้รับการกอบกู้ให้มีความคิดจิตใจและร่างกายที่สมบูรณ์. แผ่นดินโลกจะเป็นเช่นสวนเอเดน คือเป็นอุทยานทั่วทั้งโลก. จะมีสันติสุข, ความสุข, ความมั่นคง, และสังคมมนุษย์ที่เปี่ยมด้วยความรัก. ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ก่อนหน้าการปกครองแห่งราชอาณาจักรที่ได้เคยประสบพบเห็นอะไรเช่นนี้. เมื่อถึงตอนนั้น จะเห็นความแตกต่างมากสักเพียงไร ระหว่างช่วงเวลาหลายพันปีก่อนหน้านั้นซึ่งมนุษย์ปกครองด้วยความทุกข์ยากกับการปกครองอันยอดเยี่ยมเป็นเวลาหนึ่งพันปีโดยราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้า! การปกครองของพระเจ้าโดยทางราชอาณาจักรของพระองค์จะปรากฏชัดว่าเหนือกว่าอย่างสิ้นเชิงในทุกด้าน. สิทธิของพระเจ้าที่จะปกครอง พระบรมเดชานุภาพของพระองค์ จะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องชอบธรรมอย่างครบถ้วน.
14. จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่ขืนอำนาจเมื่อพันปีสิ้นสุดลง?
14 เมื่อถึงตอนสิ้นสุดของพันปีนั้น พระยะโฮวาจะทรงเปิดโอกาสให้มนุษย์สมบูรณ์ได้เลือกอย่างเสรีว่าเขาต้องการรับใช้ผู้ใด. คัมภีร์ไบเบิลชี้ว่า “ซาตานจะถูกปล่อยออกมาจากคุกของมัน.” มันจะพยายามชักนำมนุษย์ให้หลงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็จะมีบางคนเลือกไม่หมายพึ่งพระเจ้า. เพื่อไม่ให้ ‘ความทุกข์ร้อนอุบัติขึ้นเป็นคำรบสอง’ พระยะโฮวาจะทรงทำลายซาตาน, ผีปิศาจของมัน, และทุกคนที่ขืนอำนาจต่อพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา. ไม่มีใครจะคัดค้านได้ว่ามนุษย์ที่ถูกทำลายตลอดไปในตอนนั้นไม่ได้รับโอกาส หรือแนวทางของเขาที่ไม่ถูกต้องนั้นเป็นเพราะความไม่สมบูรณ์. พวกเขาจะเป็นเช่นเดียวกับอาดามและฮาวามนุษย์สมบูรณ์ ซึ่งจงใจเลือกที่จะขืนอำนาจต่อการปกครองอันชอบธรรมของพระยะโฮวา.—วิวรณ์ 20:7-10, ล.ม.; นาฮูม 1:9, ล.ม.
15. ผู้ที่ภักดีจะมีสัมพันธภาพเช่นไรกับพระยะโฮวา?
15 ในทางตรงข้าม คงจะมีคนเป็นจำนวนมากซึ่งเลือกที่จะเชิดชูพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา. โดยที่ผู้ขืนอำนาจทุกคนถูกทำลายจนหมดสิ้น ผู้ชอบธรรมจะยืนอยู่จำเพาะพระยะโฮวา หลังจากที่ได้ผ่านการทดสอบความภักดีเป็นครั้งสุดท้าย. จากนั้น ผู้ภักดีเหล่านี้จะได้รับการยอมรับจากพระยะโฮวาในฐานะบุตรชายหญิงของพระองค์. โดยวิธีนี้ พวกเขากลับมามีสัมพันธภาพแบบที่อาดามและฮาวาเคยมีกับพระเจ้าก่อนที่ทั้งสองจะขืนอำนาจ. ดังนั้น โรม 8:21 (ล.ม.) จะสำเร็จเป็นจริง ที่ว่า “สิ่งทรงสร้างนั้น [มนุษยชาติ] จะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสความเสื่อมเสียและมีเสรีภาพอันรุ่งโรจน์แห่งบุตรทั้งหลายของพระเจ้า.” ผู้พยากรณ์ยะซายาบอกล่วงหน้าว่า “[พระเจ้า] จะทรงทำลายความตายให้สาบสูญ และพระยะโฮวาจะทรงเช็ดน้ำตาจากหน้าของคนทั่วไป.”—ยะซายา 25:8.
ความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์
16. เหตุใดจึงเป็นเรื่องถูกต้องที่จะคาดหวังรางวัลชีวิตนิรันดร์?
16 ช่างเป็นความคาดหวังที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ซึ่งคอยท่าผู้ซื่อสัตย์ ที่ได้ทราบว่าพระเจ้าจะประทานผลประโยชน์ฝ่ายวิญญาณและฝ่ายวัตถุแก่พวกเขาตลอดไปอย่างอุดมบริบูรณ์! ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญกล่าวไว้เหมาะทีเดียวว่า “พระองค์ทรงแบพระหัตถ์ของพระองค์ และทรงสนองความปรารถนา [ที่ถูกต้อง] ของทุกสิ่งที่มีชีวิต.” (บทเพลงสรรเสริญ 145:16, ล.ม.) พระยะโฮวาทรงสนับสนุนชนจำพวกที่จะอยู่บนแผ่นดินโลกให้มีความหวังเกี่ยวกับชีวิตในอุทยานในฐานะเป็นส่วนหนึ่งแห่งความเชื่อของพวกเขาในพระองค์. แม้ว่าประเด็นเกี่ยวกับพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวานั้นสำคัญกว่า แต่พระองค์ไม่ทรงเรียก ร้องให้ผู้คนรับใช้พระองค์โดยปราศจากความคาดหวังที่จะได้รับรางวัลตอบแทน. ในคัมภีร์ไบเบิลตลอดทั้งเล่ม ความภักดีต่อพระเจ้ากับความหวังในเรื่องชีวิตนิรันดร์เกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออกในฐานะเป็นส่วนที่จำเป็นแห่งความเชื่อของคริสเตียนในพระเจ้า. “ผู้ที่เข้าเฝ้าพระเจ้าต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่และพระองค์มาเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์อย่างจริงใจ.”—เฮ็บราย 11:6, ล.ม.
17. พระเยซูทรงแสดงให้เห็นอย่างไรว่าเป็นเรื่องถูกต้องที่จะได้รับการค้ำจุนโดยความหวังของเรา?
17 พระเยซูตรัสว่า “นี่แหละหมายถึงชีวิตนิรันดร์ คือการที่เขารับเอาความรู้ต่อ ๆ ไปเกี่ยวกับพระองค์ ผู้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และเกี่ยวกับผู้ที่พระองค์ทรงใช้มา คือพระเยซูคริสต์.” (โยฮัน 17:3, ล.ม.) ในที่นี้ พระองค์ทรงผูกโยงการรู้จักพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์เข้ากับรางวัลซึ่งการรู้จักนี้จะนำมาให้. ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ทำผิดคนหนึ่งขอให้ระลึกถึงเขาหลังจากที่พระเยซูเสด็จเข้าสู่ราชอาณาจักรของพระองค์แล้ว พระเยซูตรัสว่า “เจ้าจะอยู่กับเราในอุทยาน.” (ลูกา 23:43, ล.ม.) พระองค์ไม่ได้บอกชายคนนั้นว่าต้องมีความเชื่อไม่ว่าเขาจะได้รับรางวัลหรือไม่. พระองค์ทรงทราบว่าพระยะโฮวาทรงประสงค์ให้ผู้รับใช้ของพระองค์มีความหวังในเรื่องชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยาน เพื่อช่วยค้ำจุนพวกเขาเมื่อเผชิญกับการทดลองต่าง ๆ นานาในโลกนี้. ดังนั้น การคาดหวังถึงรางวัลที่จะได้รับช่วยได้มากทีเดียวที่จะอดทนในฐานะคริสเตียน.
อนาคตของราชอาณาจักร
18, 19. จะเกิดอะไรขึ้นกับพระมหากษัตริย์และราชอาณาจักรในตอนสิ้นสุดรัชสมัยพันปี?
18 เนื่องจากราชอาณาจักรเป็นรัฐบาลเสริมที่พระยะโฮวาทรงใช้ให้นำแผ่นดินโลกและประชากรมนุษย์เข้าสู่ความสมบูรณ์และให้กลับคืนดีกับพระองค์ พระมหากษัตริย์เยซูคริสต์และ 144,000 คนซึ่งเป็นกษัตริย์และปุโรหิตจะมีบทบาทเช่นไรภายหลังรัชสมัยพันปี? “ถัดไป อวสาน เมื่อพระองค์ทรงมอบราชอาณาจักรให้แก่พระเจ้าและพระบิดาของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงทำให้บรรดารัฐบาลและบรรดาผู้มีอำนาจและอำนาจทั้งมวลสิ้นสูญไป. เพราะพระองค์ต้องปกครองเป็นกษัตริย์ จนกว่าพระเจ้าปราบศัตรูทั้งสิ้นให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์.”—1 โกรินโธ 15:24, 25, ล.ม.
19 เมื่อพระคริสต์ทรงมอบราชอาณาจักรคืนให้แก่พระเจ้าเช่นนี้ แล้วจะเข้าใจอย่างไรสำหรับข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวว่าราชอาณาจักรจะดำรงอยู่ตลอดไปเป็นนิจ? สิ่งต่าง ๆ ซึ่งราชอาณาจักรทำให้สำเร็จจะคงอยู่ตลอดไป. พระคริสต์จะได้รับเกียรติตลอดไปเนื่องด้วยบทบาทของพระองค์ในการพิสูจน์ความถูกต้องชอบธรรมแห่งพระบรมเดชานุภาพของพระเจ้า. แต่เนื่องจากในตอนนั้นบาปและความตายจะถูกขจัดอย่างสิ้นเชิง และมนุษยชาติได้รับการไถ่ถอนจากบาปแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีพระองค์ในฐานะผู้ไถ่อีกต่อไป. การปกครองในรัชสมัยพันปีของราชอาณาจักรจะบรรลุผลสำเร็จอย่างครบถ้วนด้วย; ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีรัฐบาลเสริมซึ่งเชื่อมกลางระหว่างพระยะโฮวากับมนุษยชาติที่เชื่อฟังอีกต่อไป. โดยวิธีนี้ “พระเจ้าจะเป็นสารพัดสิ่งแก่ทุกคน.”—1 โกรินโธ 15:28, ล.ม.
20. เราจะทราบได้อย่างไรว่าพระคริสต์และชน 144,000 คนจะมีอนาคตเช่นไร?
20 พระคริสต์และผู้ร่วมปกครองกับพระองค์จะมีบทบาทอะไรในอนาคตหลังจากที่รัชสมัยพันปีสิ้นสุดลง? คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกไว้. กระนั้น เราอาจแน่ใจได้ว่าพระยะโฮวาจะประทานสิทธิพิเศษแห่งการรับใช้อีกมากมายในทุกส่วนแห่งสิ่งทรงสร้างของพระองค์แก่พวกเขา. ขอให้เราทุกคนในปัจจุบันเชิดชูพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาและได้รับชีวิตนิรันดร์ เพื่อในอนาคต เราจะมีชีวิตอยู่เพื่อเรียนรู้ถึงพระประสงค์ของพระยะโฮวาสำหรับพระมหากษัตริย์และเพื่อนกษัตริย์และปุโรหิตของพระองค์ รวมทั้งพระประสงค์สำหรับเอกภพทั้งสิ้นที่น่าเกรงขาม!