ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“จงกล้าหาญเถิด! เราชนะโลกแล้ว”

“จงกล้าหาญเถิด! เราชนะโลกแล้ว”

“จง​กล้า​หาญ​เถิด! เรา​ชนะ​โลก​แล้ว”

วัน​ที่​พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์—วัน​ที่ 14 เดือน​ไนซาน​ตาม​ปฏิทิน​ของ​ยิว—ได้​เริ่ม​ต้น​ตอน​ดวง​อาทิตย์​ตก​ใน​วัน​พฤหัสบดี​ที่ 31 มีนาคม ส.ศ. 33. ใน​ตอน​เย็น​วัน​นั้น พระ​เยซู​และ​พวก​อัครสาวก​ของ​พระองค์​มา​ชุมนุม​กัน​ใน​ห้อง​ชั้น​บน​ของ​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​เพื่อ​ฉลอง​ปัศคา. ขณะ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​เตรียม​ตัว “จะ​ออก​จาก​โลก​นี้​ไป​หา​พระ​บิดา” พระองค์​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ทรง​รัก​พวก​อัครสาวก​ของ​พระองค์​จน​ถึง​ที่​สุด. (โยฮัน 13:1, ล.ม.) โดย​วิธี​ใด? โดย​สอน​บทเรียน​ที่​ล้ำ​เลิศ​ให้​พวก​เขา โดย​วิธี​นี้​จึง​เตรียม​พวก​เขา​ไว้​สำหรับ​สิ่ง​ที่​รอ​อยู่​ข้าง​หน้า.

ขณะ​ที่​ราตรี​กาล​คืบ​คลาน​ไป พระ​เยซู​ตรัส​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “จง​กล้า​หาญ​เถิด! เรา​ชนะ​โลก​แล้ว.” (โยฮัน 16:33, ล.ม.) โดย​ถ้อย​คำ​ที่​กล้า​หาญ​นั้น​พระองค์​ทรง​หมายความ​เช่น​ไร? ส่วน​หนึ่ง พระองค์​ทรง​หมายความ​ดัง​นี้: ‘สิ่ง​ชั่ว​ร้าย​ใน​โลก​ไม่​ได้​ทำ​ให้​เรา​ขมขื่น​หรือ​ทำ​ให้​เรา​แก้​เผ็ด. เรา​ไม่​ยอม​ให้​โลก​บีบ​เรา​เข้า​สู่​เบ้า​หลอม​ของ​มัน. เจ้า​ทั้ง​หลาย​ก็​สามารถ​ทำ​อย่าง​นี้​ได้​เช่น​กัน.’ สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สอน​เหล่า​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระองค์​ใน​ช่วง​สุด​ท้าย​แห่ง​ชีวิต​ของ​พระองค์​บน​แผ่นดิน​โลก​จะ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​เอา​ชนะ​โลก​เช่น​กัน.

ความ​เลว​ร้าย​มี​อยู่​ดาษ​ดื่น​ใน​โลก​ทุก​วัน​นี้. เรา​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ต่อ​ความ​อยุติธรรม​และ​การ​กระทำ​ที่​รุนแรง​อย่าง​ไร้​จุด​มุ่ง​หมาย? สิ่ง​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​เรา​อาฆาต​แค้น​หรือ​ชัก​นำ​ให้​เรา​แก้​เผ็ด​ไหม? เรา​ได้​รับ​ผล​กระทบ​อย่าง​ไร​จาก​ความ​เสื่อม​ด้าน​ศีลธรรม​ที่​มี​อยู่​รอบ​ตัว​เรา? นอก​จาก​นี้ ก็​ยัง​มี​สภาพ​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​และ​แนว​โน้ม​ที่​ผิด​บาป​ของ​เรา และ​ผล​ก็​คือ​เรา​มี​การ​ต่อ​สู้​ใน​แนว​รบ​สอง​แนว คือ​ต่อ​สู้​กับ​โลก​ชั่ว​ภาย​นอก​และ​ต่อ​สู้​กับ​แนว​โน้ม​ที่​ไม่​ดี​ภาย​ใน​ตัว​เรา. เรา​หวัง​ได้​จริง ๆ ไหม​ว่า​จะ​มี​ชัย​ชนะ​ใน​ที่​สุด​โดย​ปราศจาก​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระเจ้า? เรา​จะ​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระองค์​ได้​โดย​วิธี​ใด? เรา​ควร​ปลูกฝัง​คุณลักษณะ​อะไร​บ้าง​ที่​จะ​ช่วย​เรา​ต่อ​ต้าน​แนว​โน้ม​ฝ่าย​เนื้อหนัง? เพื่อ​ได้​คำ​ตอบ ขอ​เรา​พิจารณา​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สอน​เหล่า​สาวก​ที่​รัก​ของ​พระองค์​ใน​คืน​สุด​ท้าย​ที่​พระองค์​มี​ชีวิต​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก.

เอา​ชนะ​ความ​หยิ่ง​ด้วย​ความ​ถ่อม​ใจ

ตัว​อย่าง​เช่น ขอ​พิจารณา​ปัญหา​เกี่ยว​กับ​ความ​หยิ่ง​หรือ​ความ​จองหอง. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​ว่า “ความ​เย่อหยิ่ง​นำ​ไป​ถึง​ความ​พินาศ, และ​จิตต์​ใจ​ที่​จองหอง​นำ​ไป​ถึง​การ​ล้ม​ลง.” (สุภาษิต 16:18) พระ​คัมภีร์​ยัง​แนะ​นำ​เรา​ด้วย​ว่า “ถ้า​คน​ใด​ถือ​ตัว​ว่า​เป็น​ใหญ่, แต่​ยัง​ไม่​เป็น​อะไร​เลย, คน​นั้น​ก็​ลวง​ตน​เอง.” (ฆะลาเตีย 6:3) ถูก​แล้ว ความ​หยิ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​ก่อ​ผล​เสียหาย​และ​หลอก​ลวง. นับ​ว่า​ฉลาด​ที่​เรา​เกลียด “การ​ยกย่อง​ตัว​เอง​และ​ความ​หยิ่ง​ยโส.”—สุภาษิต 8:13, ล.ม.

พวก​อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู​มี​ปัญหา​เรื่อง​การ​ยกย่อง​ตัว​เอง​และ​ความ​หยิ่ง​ยโส​ไหม? อย่าง​น้อย​ใน​คราว​หนึ่ง พวก​เขา​โต้​เถียง​กัน​ใน​ระหว่าง​พวก​เขา​เอง​ว่า​ใคร​เป็น​ใหญ่​กว่า. (มาระโก 9:33-37) อีก​คราว​หนึ่ง ยาโกโบ​กับ​โยฮัน​ได้​ทูล​ขอ​ตำแหน่ง​สำคัญ​ใน​ราชอาณาจักร. (มาระโก 10:35-45) พระ​เยซู​ทรง​ปรารถนา​จะ​ช่วย​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​กำจัด​แนว​โน้ม​เช่น​นี้. ดัง​นั้น ใน​ระหว่าง​รับประทาน​ปัศคา​นั้น พระองค์​ทรง​ลุก​ขึ้น​เอา​ผ้า​เช็ด​ตัว​คาด​เอว แล้ว​ลง​มือ​ล้าง​เท้า​พวก​สาวก. พระองค์​ทรง​ทำ​ให้​บทเรียน​ที่​ประสงค์​จะ​ให้​พวก​เขา​เรียน​รู้​นั้น​เป็น​เรื่อง​เข้าใจ​ง่าย. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ถ้า​เรา​ได้​ล้าง​เท้า​พวก​เจ้า แม้​ว่า​เรา​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​ครู พวก​เจ้า​ก็​ควร​ล้างเท้า​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ด้วย.” (โยฮัน 13:14, ล.ม.) ต้อง​แทน​ที่​ความ​หยิ่ง​ด้วย​คุณลักษณะ​ที่​ตรง​กัน​ข้าม นั่น​คือ​ความ​ถ่อม​ใจ.

แต่​ความ​หยิ่ง​ใช่​ว่า​จะ​เอา​ชนะ​ได้​ง่าย ๆ. ต่อ​มา​ใน​ค่ำ​วัน​นั้น หลัง​จาก​พระ​เยซู​ได้​ให้​ยูดา​อิศการิโอด​ผู้​ที่​กำลัง​จะ​ทรยศ​พระองค์​ออก​ไป​แล้ว การ​โต้​เถียง​อย่าง​เผ็ด​ร้อน​ได้​ปะทุ​ขึ้น​ท่ามกลาง​อัครสาวก 11 คน. พวก​เขา​เป็น​ห่วง​เรื่อง​อะไร​หรือ? คน​ไหน​ใน​พวก​เขา​ที่​ดู​เหมือน​เป็น​ใหญ่​ที่​สุด! แทน​ที่​จะ​ดุ​ด่า​พวก​เขา อีก​ครั้ง​หนึ่ง​พระ​เยซู​ทรง​เน้น​อย่าง​อด​ทน​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​การ​รับใช้​คน​อื่น. พระองค์​ตรัส​ว่า “กษัตริย์​ของ​ชาว​ต่าง​ประเทศ​ย่อม​กดขี่​บังคับ​บัญชา​เขา และ​ผู้​ที่​มี​อำนาจ​เหนือ​เขา​นั้น​เขา​เรียก​ว่า​เจ้า​คุณ. แต่​พวก​ท่าน​จะ​หา​เป็น​อย่าง​นั้น​ไม่ แต่​ผู้​ใด​ใน​พวก​ท่าน​ที่​เป็น​พี่, ให้​ผู้​นั้น​เป็น​เหมือน​น้อง และ​ผู้​ใด​เป็น​นาย, ให้​ผู้​นั้น​เป็น​เหมือน​คน​รับใช้.” พระองค์​ตรัส​เสริม​เพื่อ​เตือน​พวก​เขา​ให้​ระลึก​ถึง​ตัว​อย่าง​ของ​พระองค์​ว่า “เรา​อยู่​ท่ามกลาง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เหมือน​ผู้​รับใช้.”—ลูกา 22:24-27.

พวก​อัครสาวก​เข้าใจ​บทเรียน​ที่​เป็น​ตัว​อย่าง​นั้น​ไหม? ดู​เหมือน​ว่า​พวก​เขา​เข้าใจ. หลาย​ปี​ต่อ​มา​อัครสาวก​เปโตร​ได้​เขียน​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทุก​คน จง​มี​ความ​คิด​จิตใจ​อย่าง​เดียว​กัน, แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ, มี​ความ​รักใคร่​ฉัน​พี่​น้อง, ความ​เมตตา​สงสาร​อัน​อ่อน​ละมุน, จิตใจ​ถ่อม.” (1 เปโตร 3:8, ล.ม.) สำคัญ​สัก​เพียง​ไร​ที่​เรา​เอา​ชนะ​ความ​หยิ่ง​ด้วย​ความ​ถ่อม​ใจ​เช่น​กัน! นับ​ว่า​ฉลาด​ที่​เรา​จะ​ไม่​หมกมุ่น​ใน​การ​แสวง​หา​ชื่อเสียง, อำนาจ, หรือ​ตำแหน่ง. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “พระเจ้า​ทรง​ต่อ​ต้าน​ผู้​ที่​หยิ่ง​ยโส แต่​พระองค์​ทรง​ประทาน​พระ​กรุณา​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ​แก่​ผู้​ที่​ถ่อม​ใจ.” (ยาโกโบ 4:6, ล.ม.) เช่น​เดียว​กัน สุภาษิต​โบราณ​ที่​แสดง​ถึง​สติ​ปัญญา​กล่าว​ว่า “บำเหน็จ​แห่ง​การ​ถ่อม​ใจ​ลง​และ​ความ​ยำเกรง​พระ​ยะโฮวา​ก็​เป็น​ทาง​นำ​มา​ถึง​ทรัพย์​สมบัติ​และ​เกียรติศักดิ์​และ​ชีวิต.”—สุภาษิต 22:4.

เอา​ชนะ​ความ​เกลียด​ชัง—โดย​วิธี​ใด?

ขอ​พิจารณา​ลักษณะ​นิสัย​อีก​อย่าง​ที่​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ใน​โลก นั่น​ก็​คือ​ความ​เกลียด​ชัง. ไม่​ว่า​เกิด​จาก​ความ​กลัว, ความ​รู้​เท่า​ไม่​ถึง​การณ์, อคติ, การ​กดขี่, ความ​อยุติธรรม, ลัทธิ​ชาติ​นิยม, การ​ถือ​เผ่า, หรือ​การ​เหยียด​ผิว ความ​เกลียด​ชัง​ดู​เหมือน​มี​อยู่​รอบ​ตัว​เรา​ทุก​แห่ง​หน. (2 ติโมเธียว 3:1-4) ความ​เกลียด​ชัง​มี​ดาษ​ดื่น​ใน​สมัย​ของ​พระ​เยซู​ด้วย. คน​เก็บ​ภาษี​เป็น​คน​ที่​ถูก​เกลียด​ชัง​ซึ่ง​ถูก​ขับ​ออก​นอก​สังคม​ชาว​ยิว. ชาว​ยิว​ไม่​คบ​ค้า​กับ​ชาว​ซะมาเรีย. (โยฮัน 4:9) ชาว​ยิว​ยัง​ดูถูก​เหยียด​หยาม​คน​ต่าง​ชาติ หรือ​ผู้​ที่​ไม่​ใช่​คน​ยิว​ด้วย. แต่​ใน​เวลา​อัน​ควร รูป​แบบ​การ​นมัสการ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​ขึ้น​จะ​ต้อนรับ​ผู้​คน​จาก​ทุก​ชาติ. (กิจการ 10:34, 35; ฆะลาเตีย 3:28) ดัง​นั้น ด้วย​ความ​รัก​พระองค์​ทรง​ประทาน​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​ใหม่​ให้​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์.

พระ​เยซู​ทรง​ประกาศ​ว่า “เรา​ให้​บัญญัติ​ใหม่​ไว้​แก่​เจ้า​ทั้ง​หลาย คือ​ว่า​ให้​เจ้า​ทั้ง​หลาย​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน; เรา​รัก​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มา​แล้ว​อย่าง​ไร เจ้า​จง​รัก​กัน​และ​กัน​อย่าง​นั้น​ด้วย.” พวก​เขา​ต้อง​เรียน​ที่​จะ​แสดง​ความ​รัก​นี้ เพราะ​พระองค์​ตรัส​ต่อ​ไป​ว่า “โดย​เหตุ​นี้​คน​ทั้ง​ปวง​จะ​รู้​ว่า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เป็น​สาวก​ของ​เรา ถ้า​เจ้า​มี​ความ​รัก​ระหว่าง​พวก​เจ้า​เอง.” (โยฮัน 13:34, 35, ล.ม.) บัญญัติ​นี้​ใหม่​ใน​แง่​ที่​ว่า​ทำ​มาก​กว่า​การ​รัก “เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตัว​เอง.” (เลวีติโก 19:18) ใน​ทาง​ใด? พระ​เยซู​ทรง​ทำ​ให้​เรื่อง​กระจ่าง​ชัด​โดย​ตรัส​ว่า “นี่​แหละ​เป็น​บัญญัติ​ของ​เรา คือ​ให้​เจ้า​ทั้ง​หลาย​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​เหมือน​ที่​เรา​ได้​รัก​เจ้า. ไม่​มี​ผู้​ใด​มี​ความ​รัก​ใหญ่​ยิ่ง​กว่า​นี้ คือ​ที่​ผู้​หนึ่ง​ผู้​ใด​จะ​สละ​ชีวิต​ของ​ตน​เพื่อ​มิตร​สหาย.” (โยฮัน 15:12, 13, ล.ม.) พวก​เขา​ต้อง​เต็ม​ใจ​สละ​ชีวิต​ของ​ตน​เพื่อ​กัน​และ​กัน​และ​เพื่อ​คน​อื่น.

มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​จะ​กำจัด​ความ​เกลียด​ชัง​อย่าง​ประสงค์​ร้าย​ไป​จาก​ชีวิต​ของ​เขา​ได้​อย่าง​ไร? โดย​การ​แทน​ที่​ความ​เกลียด​ชัง​นั้น​ด้วย​ความ​รัก​แบบ​เสีย​สละ​ตัว​เอง. สุจริต​ชน​นับ​ล้าน​ซึ่ง​มา​จาก​ภูมิหลัง​ด้าน​ชาติ​พันธุ์, วัฒนธรรม, ด้าน​ศาสนา, และ​การ​เมือง​ทุก​รูป​แบบ​กำลัง​ทำ​เช่น​นั้น​อยู่​ที​เดียว. ปัจจุบัน​พวก​เขา​ได้​รับ​การ​เชื่อม​ผนึก​เข้า​เป็น​สังคม​เดียว​ที่​ปรองดองกัน​ซึ่ง​ปราศจาก​ความ​เกลียด​ชัง นั่น​คือ​ภราดรภาพ​ทั่ว​โลก​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. พวก​เขา​เอา​ใจ​ใส่​ถ้อย​คำ​ของ​อัครสาวก​โยฮัน​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ที่​ว่า “ผู้​หนึ่ง​ผู้​ใด​ที่​เกลียด​ชัง​พี่​น้อง​ของ​ตน​ก็​ย่อม​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​แล้ว​ว่า, ผู้​ฆ่า​คน​ไม่​มี​ชีวิต​นิรันดร์​อยู่​ใน​ตัว​เลย.” (1 โยฮัน 3:15) คริสเตียน​แท้​ไม่​เพียง​ปฏิเสธ​ที่​จะ​เข้า​ร่วม​ใน​การ​สู้​รบ​ใด ๆ แต่​ยัง​พยายาม​อย่าง​ขันแข็ง​ที่​จะ​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​กัน​และ​กัน​ด้วย.

แต่​เรา​ควร​มี​เจตคติ​เช่น​ไร​ต่อ​คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ไม่​ใช่​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​และ​เป็น​ผู้​ที่​อาจ​จะ​แสดง​ความ​เกลียด​ชัง​ต่อ​เรา? ระหว่าง​ถูก​ตรึง​อยู่​บน​หลัก พระ​เยซู​ทรง​อธิษฐาน​เผื่อ​ผู้​ที่​ประหาร​ชีวิต​พระองค์​ว่า “โอ​พระ​บิดา​เจ้าข้า. ขอ​โปรด​ยก​โทษ​เขา เพราะ​ว่า​เขา​ไม่​รู้​ว่า​เขา​ทำ​อะไร.” (ลูกา 23:34) เมื่อ​คน​ที่​เต็ม​ด้วย​ความ​เกลียด​ชัง​เอา​หิน​ขว้าง​สาวก​ซะเตฟาโน​จน​ถึง​แก่​ความ​ตาย คำ​พูด​สุด​ท้าย​ของ​เขา​คือ “ข้า​แต่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า [“พระ​ยะโฮวา,” ล.ม.] ขอ​โปรด​อย่า​ทรง​ถือ​โทษ​เขา​เพราะ​บาป​นี้.” (กิจการ 7:60, ฉบับ​แปล​ใหม่) พระ​เยซู​และ​ซะเตฟาโน​ต่าง​ก็​ปรารถนา​ดี​ต่อ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เกลียด​ชัง​พระองค์​และ​ตัว​ท่าน​ด้วย​ซ้ำ. ทั้ง​สอง​ไม่​มี​ความ​เกลียด​ชัง​อยู่​ใน​หัวใจ. คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​สติ​เรา​ว่า “ให้​เรา​กระทำ​การ​ดี​แก่​คน​ทั้ง​ปวง.”—ฆะลาเตีย 6:10.

‘ผู้​ช่วย​ตลอด​ไป’

ขณะ​ที่​การ​ประชุม​กับ​อัครสาวก​ผู้​ซื่อ​สัตย์ 11 คน​ดำเนิน​ต่อ​ไป พระ​เยซู​ทรง​แจ้ง​แก่​พวก​เขา​ว่า​ใน​ไม่​ช้า​พระองค์​จะ​ไม่​อยู่​กับ​พวก​เขา​บน​แผ่นดิน​โลก​อีก​ต่อ​ไป. (โยฮัน 14:28; 16:28) แต่​พระองค์​ทรง​รับรอง​กับ​พวก​เขา​ว่า “เรา​จะ​ทูล​ขอ​พระ​บิดา และ​พระองค์​ก็​จะ​ประทาน​ผู้​ช่วย​อีก​ผู้​หนึ่ง​ให้​แก่​เจ้า​ทั้ง​หลาย เพื่อ​จะ​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​ตลอด​ไป.” (โยฮัน 14:16, ล.ม.) ผู้​ช่วย​ตาม​ที่​สัญญา​นั้น​คือ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า. พระ​วิญญาณ​นั้น​จะ​สอน​พวก​เขา​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ลึกซึ้ง​ใน​พระ​คัมภีร์​และ​ทำ​ให้​พวก​เขา​หวน​ระลึก​ถึง​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ได้​ทรง​สั่ง​สอน​พวก​เขา​ระหว่าง​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์​บน​แผ่นดิน​โลก.—โยฮัน 14:26.

พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​จะ​ช่วย​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้​ได้​โดย​วิธี​ใด? คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ. คน​ที่​ถูก​ใช้​ให้​กล่าว​คำ​พยากรณ์​และ​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล “ได้​รับ​การ​ทรง​นำ​โดย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” (2 เปโตร 1:20, 21, ล.ม.; 2 ติโมเธียว 3:16) การ​ที่​เรา​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​และ​นำ​สิ่ง​ที่​เรา​เรียน​รู้​ไป​ใช้​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​รู้, สติ​ปัญญา, ความ​เข้าใจ, ความ​หยั่ง​เห็น, การ​สังเกต​เข้าใจ, และ​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด. ดัง​นั้น​แล้ว เรา​จึง​ได้​รับ​การ​เตรียม​พร้อม​อย่าง​ดี​ที่​จะ​เผชิญ​กับ​ความ​กดดัน​จาก​โลก​ชั่ว​มิ​ใช่​หรือ?

พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ยัง​เป็น​ผู้​ช่วย​ใน​อีก​ทาง​หนึ่ง. พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​เป็น​พลัง​ที่​มี​อำนาจ​ก่อ​ผล​กระทบ​ใน​ทาง​ที่​ดี ทำ​ให้​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​อิทธิพล​ของ​พระ​วิญญาณ​นั้น​สามารถ​สำแดง​คุณลักษณะ​แบบ​พระเจ้า. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ผล​แห่ง​พระ​วิญญาณ​คือ ความ​รัก, ความ​ยินดี, สันติ​สุข, ความ​อด​กลั้น​ไว้​นาน, ความ​กรุณา, ความ​ดี, ความ​เชื่อ, ความ​อ่อนโยน, การ​รู้​จัก​บังคับ​ตน.” เรา​จำเป็น​ต้อง​มี​คุณลักษณะ​เหล่า​นี้​ที​เดียว​มิ​ใช่​หรือ​เพื่อ​จะ​เอา​ชนะ​แนว​โน้ม​ฝ่าย​เนื้อหนัง​ที่​เอนเอียง​ไป​ทาง​การ​ผิด​ศีลธรรม, การ​ต่อ​สู้, การ​ริษยา, การ​บันดาล​โทสะ, และ​สิ่ง​อื่น ๆ ที่​คล้าย​กัน?—ฆะลาเตีย 5:19-23, ล.ม.

โดย​พึ่ง​อาศัย​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า เรา​ยัง​อาจ​ได้​รับ “กำลัง​ที่​มาก​กว่า​ปกติ” เพื่อ​จะ​รับมือ​กับ​ความ​ยุ่งยาก​หรือ​ความ​ทุกข์​ร้อน​ใด ๆ. (2 โกรินโธ 4:7, ล.ม.) ถึง​แม้​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​อาจ​ไม่​ได้​ขจัด​การ​ทดลอง​หรือ​การ​ล่อ​ใจ​ออก​ไป แต่​พระ​วิญญาณ​ก็​สามารถ​ช่วย​เรา​ให้​อด​ทน​สิ่ง​เหล่า​นี้​ได้​อย่าง​แน่นอน. (1 โกรินโธ 10:13) อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “ข้าพเจ้า​มี​กำลัง​สำหรับ​ทุก​สิ่ง​โดย​พระองค์​ผู้​ทรง​ประทาน​พลัง​ให้​ข้าพเจ้า.” (ฟิลิปปอย 4:13, ล.ม.) พระเจ้า​ทรง​ประทาน​พลัง​ดัง​กล่าว​ให้​โดย​ทาง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์. เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​สัก​เพียง​ไร​สำหรับ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์! มี​การ​สัญญา​เรื่อง​พระ​วิญญาณ​นั้น​แก่​บรรดา​ผู้​ที่ ‘รัก​พระ​เยซู​และ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระองค์.’—โยฮัน 14:15.

“จง​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​ความ​รัก​ของ​เรา”

ใน​คืน​สุด​ท้าย​ของ​พระองค์​ฐานะ​เป็น​มนุษย์ พระ​เยซู​ยัง​ตรัส​แก่​พวก​อัครสาวก​อีก​ด้วย​ว่า “ผู้​ที่​มี​บัญญัติ​ของ​เรา​และ​ประพฤติ​ตาม​บัญญัติ​นั้น, ผู้​นั้น​แหละ​รัก​เรา, และ​ผู้​ที่​รัก​เรา​พระ​บิดา​ของ​เรา​จะ​ทรง​รัก​ผู้​นั้น.” (โยฮัน 14:21) พระองค์​ทรง​กระตุ้น​เตือน​พวก​เขา​ว่า “จง​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​ความ​รัก​ของ​เรา.” (โยฮัน 15:9) การ​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​ความ​รัก​ของ​พระ​บิดา​และ​ของ​พระ​บุตร​ช่วย​เรา​อย่าง​ไร​ใน​การ​ต่อ​สู้​กับ​แนว​โน้ม​ที่​ผิด​บาป​ใน​ตัว​เรา​และ​ต่อ​สู้​กับ​โลก​ชั่ว​ที่​อยู่​ภาย​นอก?

เรา​สามารถ​ควบคุม​แนว​โน้ม​ที่​ผิด​บาป​ได้​จริง ๆ ไหม​หาก​เรา​ขาด​แรง​จูง​ใจ​ที่​เข้มแข็ง​ใน​การ​ทำ​เช่น​นั้น? จะ​มี​แรง​กระตุ้น​อะไร​ที่​ใหญ่​ยิ่ง​กว่า​ความ​ปรารถนา​ที่​จะ​มี​สัมพันธภาพ​ที่ดี​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​พระ​บุตร​ของ​พระองค์? เออร์​เนส​โต * ชาย​หนุ่ม​ซึ่ง​ได้​ต่อ​สู้​อย่าง​หนัก​เพื่อ​เลิก​ชีวิต​แบบ​ที่​ผิด​ศีลธรรม​ซึ่ง​เขา​ได้​ดำเนิน​มา​ตั้ง​แต่​ตอน​เริ่ม​เป็น​วัยรุ่น อธิบาย​ว่า “ผม​ต้องการ​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย และ​ผม​ได้​เรียน​รู้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​พระองค์​ไม่​ทรง​เห็น​ชอบ​กับ​วิธี​ที่​ผม​ดำเนิน​ชีวิต. ดัง​นั้น ผม​จึง​ตัดสิน​ใจ​ที่​จะ​เป็น​คน​ชนิด​ที่​ต่าง​ออก​ไป เพื่อ​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​การ​ชี้​นำ​ของ​พระเจ้า. ทุก ๆ วัน ผม​ต้อง​ต่อ​สู้​กับ​ความ​คิด​ที่​ก่อ​ความ​เสียหาย​และ​ไม่​สะอาด​ซึ่ง​ยัง​คง​หลั่งไหล​เข้า​มา​ใน​จิตใจ​ของ​ผม. แต่​ผม​ตั้งใจ​จะ​เอา​ชนะ​การ​ต่อ​สู้​นี้ และ​ผม​ได้​อธิษฐาน​อย่าง​ไม่​ละลด​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระเจ้า. หลัง​จาก​สอง​ปี​ผ่าน​ไป สภาพ​เลว​ร้าย​ที่​สุด​ก็​ยุติ​ลง ถึง​กระนั้น ผม​ก็​ยัง​คง​เข้มงวด​กับ​ตัว​เอง​อยู่.”

ใน​เรื่อง​การ​ต่อ​สู้​กับ​โลก​ภาย​นอก ขอ​พิจารณา​คำ​อธิษฐาน​สุด​ท้าย​ของ​พระ​เยซู​ก่อน​ออก​จาก​ห้อง​ชั้น​บน​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​ไป. พระองค์​ทรง​อธิษฐาน​ขอ​พระ​บิดา​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​เหล่า​สาวก​ว่า “ข้าพเจ้า​ทูล​ขอ​พระองค์ มิ​ให้​นำ​พวก​เขา​ไป​จาก​โลก แต่​ขอ​ทรง​พิทักษ์​เขา​ไว้​เพราะ​ตัว​ชั่ว​ร้าย. พวก​เขา​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก เหมือน​ข้าพเจ้า​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก.” (โยฮัน 17:15, 16, ล.ม.) ช่าง​ทำ​ให้​อุ่น​ใจ​สัก​เพียง​ไร! พระ​ยะโฮวา​ทรง​พิทักษ์​คน​เหล่า​นั้น​ที่​พระองค์​ทรง​รัก​และ​ชู​กำลัง​พวก​เขา​ขณะ​ที่​พวก​เขา​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลก.

“จง​สำแดง​ความ​เชื่อ”

การ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู​สามารถ​ช่วย​เรา​ได้​อย่าง​แท้​จริง​ให้​มี​ชัย​ชนะ​ใน​การ​ต่อ​สู้​กับ​โลก​ชั่ว​และ​กับ​แนว​โน้ม​ที่​ผิด​บาป​ของ​เรา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ถึง​แม้​ชัย​ชนะ​ดัง​กล่าว​สำคัญ ชัย​ชนะ​นั้น​ก็​ไม่​สามารถ​กำจัด​โลก​หรือ​บาป​ที่​สืบ​ทอด​มา​ได้. แต่​เรา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​รู้สึก​หมด​หวัง.

คัมภีร์​ไบเบิล​ประกาศ​ว่า “โลก​กับ​ความ​ปรารถนา​ของ​โลก​กำลัง​ผ่าน​พ้น​ไป แต่​ผู้​ที่​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​จะ​ดำรง​อยู่​ตลอด​ไป​เป็น​นิตย์.” (1 โยฮัน 2:17, ล.ม.) พระ​เยซู​ทรง​ประทาน​ชีวิต​ของ​พระองค์​เพื่อ​ช่วย “ทุก​คน​ที่​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระองค์” ให้​รอด​พ้น​จาก​บาป​และ​ความ​ตาย. (โยฮัน 3:16, ล.ม.) ขณะ​ที่​ความ​รู้​ของ​เรา​เกี่ยว​กับ​พระทัย​ประสงค์​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​เพิ่ม​พูน​ขึ้น ก็​ขอ​ให้​เรา​เอา​ใจ​ใส่​คำ​แนะ​เตือน​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “จง​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า จง​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​เรา​ด้วย.”—โยฮัน 14:1, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 22 ชื่อ​ที่​ใช้ ณ ที่​นี้​เป็น​นามแฝง.

[ภาพ​หน้า 6, 7]

พระ​เยซู​ทรง​กระตุ้น​พวก​อัครสาวก​ว่า “จง​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​ความ​รัก​ของ​เรา”

[ภาพ​หน้า 6, 7]

เสรีภาพ​พ้น​จาก​บาป​และ​ผล​กระทบ​ของ​บาป​จะ​กลาย​เป็น​จริง​ใน​ไม่​ช้า