ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ควรรำลึกถึงพระเยซูคริสต์โดยวิธีใด?

ควรรำลึกถึงพระเยซูคริสต์โดยวิธีใด?

ควร​รำลึก​ถึง​พระ​เยซู​คริสต์​โดย​วิธี​ใด?

พระ​เยซู​คริสต์ “เป็น​หนึ่ง​ใน​บรรดา​คน​ซึ่ง​มี​อิทธิพล​มาก​ที่​สุด​เท่า​ที่​เคย​มี​ชีวิต​อยู่​อย่าง​ไม่​ต้อง​สงสัย.”—“สารานุกรม​เดอะ เวิลด์ บุ๊ก.”

ตาม​ปกติ​บุคคล​สำคัญ​มัก​ได้​รับ​การ​รำลึก​ถึง​เนื่อง​ด้วย​สิ่ง​ที่​เขา​ได้​ทำ. ดัง​นั้น เหตุ​ใด​หลาย​คน​จึง​รำลึก​ถึง​พระ​เยซู​เนื่อง​ด้วย​การ​ประสูติ​ของ​พระองค์​แทน​ที่​จะ​เป็น​การ​กระทำ​ของ​พระองค์? ตลอด​ทั่ว​คริสต์​ศาสนจักร คน​ส่วน​ใหญ่​สามารถ​เล่า​เหตุ​การณ์​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ประสูติ​ของ​พระองค์. มี​สัก​กี่​คน​จำ​ได้​ถึง​คำ​สอน​อัน​ยอด​เยี่ยม​ที่​สุด​ของ​พระองค์​ดัง​ที่​พบ​ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​และ​พยายาม​นำ​คำ​สอน​นั้น​ไป​ใช้?

จริง​อยู่ การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู​เป็น​เรื่อง​ที่​โดด​เด่น แต่​เหล่า​สาวก​รุ่น​แรก​ของ​พระองค์​ถือ​ว่า​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​ทำ​และ​สอน​มี​ความ​สำคัญ​มาก​กว่า. แน่นอน พระเจ้า​ไม่​เคย​มุ่ง​หมาย​ให้​การ​ประสูติ​ของ​พระ​คริสต์​มา​บดบัง​ชีวิต​ของ​พระองค์ฐานะ​บุรุษ​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​เต็ม​ตัว. กระนั้น คริสต์มาส​ได้​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​บดบัง​บุคลิก​ลักษณะ​ของ​พระ​คริสต์​โดย​ตำนาน​เหตุ​การณ์​การ​ประสูติ​ของ​พระองค์.

เกิด​คำ​ถาม​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​รบกวน​ใจ​เกี่ยว​กับ​ลักษณะ​ของ​การ​ฉลอง​คริสต์มาส. หาก​พระ​เยซู​ได้​เสด็จ​กลับ​มา​ยัง​แผ่นดิน​โลก​ใน​ทุก​วัน​นี้ พระองค์​จะ​ทรง​คิด​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​การ​ค้า​อย่าง​โจ่งแจ้ง​ที่​มี​ใน​เทศกาล​คริสต์มาส? สอง​พัน​ปี​มา​แล้ว พระ​เยซู​ได้​เสด็จ​ไป​ที่​พระ​วิหาร​ใน​กรุง​เยรูซาเลม. พระองค์​ทรง​ขุ่นเคือง​เนื่อง​จาก​คน​รับ​แลก​เงิน​และ​พ่อค้า​ซึ่ง​ฉวย​โอกาส​หา​ผล​กำไร​จาก​เทศกาล​ฉลอง​ทาง​ศาสนา​ของ​ชาว​ยิว. พระองค์​ตรัส​ว่า “จง​เอา​สิ่ง​ของ​เหล่า​นี้​ไป​เสีย อย่า​ทำ​โบสถ์​ของ​พระ​บิดา​เรา​ให้​เป็น​ที่​ค้า​ขาย.” (โยฮัน 2:13-16) ปรากฏ​ชัด​ว่า พระ​เยซู​ไม่​ทรง​เห็น​ชอบ​ที่​คน​เอา​การ​ค้า​มา​ปน​กับ​ศาสนา.

ชาว​สเปน​คาทอลิก​ที่​จริง​ใจ​หลาย​คน​แสดง​ความ​เป็น​ห่วง​เกี่ยว​กับ​ลักษณะ​ทาง​การ​ค้า​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ ของ​คริสต์มาส. กระนั้น แนว​โน้ม​ใน​ทาง​การ​ค้า​ดัง​กล่าว​คง​จะ​เป็น​สิ่ง​ที่​เลี่ยง​ไม่​พ้น เมื่อ​คำนึง​ถึง​ต้นตอ​ของ​กิจ​ปฏิบัติ​มาก​มาย​ที่​เกี่ยว​กับ​คริสต์มาส. นัก​หนังสือ​พิมพ์​ชื่อ​ควน อารยา​ส​ชี้​แจง​ว่า “ภาย​ใน​ศาสนา​คริสเตียน คน​เหล่า​นั้น​ที่​ติเตียน​ลักษณะ​ที่​คริสต์มาส​ได้​ถูก​ทำ​ให้​กลาย​เป็น ‘แบบ​นอก​รีต’ และ​อุทิศ​ให้​แก่​ความ​สนุก​รื่นเริง​และ​บริโภค​นิยม​ยิ่ง​กว่า​ศาสนา โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​ไม่​ทราบ​ว่า แม้​แต่​ใน​เรื่อง​ต้นตอ​ของ​ฉาก​เหตุ​การณ์​การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู . . . ก็​ได้​มี​การ​ผูก​โยง​เข้า​กับ​ลักษณะ​เด่น​หลาย​ประการ​ของ​เทศกาล​ฉลอง [เกี่ยว​กับ​ดวง​อาทิตย์] ของ​พวก​นอก​รีต​โรมัน​อยู่​แล้ว.”—เอล ปาอิส วัน​ที่ 24 ธันวาคม 2001.

ไม่​กี่​ปี​มา​นี้ นัก​หนังสือ​พิมพ์​ชาว​สเปน​หลาย​คน​และ​สารานุกรม​ต่าง ๆ ได้​แสดง​ความ​เห็น​ใน​เรื่อง​ต้นตอ​แบบ​นอก​รีต​ของ​เทศกาล​ฉลอง​คริสต์มาส​ตาม​ประเพณี อีก​ทั้ง​การ​เข้า​ไป​พัวพัน​กับ​การ​ค้า. เกี่ยว​กับ​วัน​ที่​สำหรับ​การ​ฉลอง​คริสต์มาส​นั้น เอนซีโกลเพดยา เด ลา เรลีกอน กา​โต​ลี​กา กล่าว​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ว่า “เหตุ​ผล​ที่​คริสตจักร​โรมัน​ตัดสิน​ใจ​กำหนด​ให้​ฉลอง​คริสต์มาส​ใน​วัน​นั้น ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​เพราะ​แนว​โน้ม​ที่​จะ​เอา​เทศกาล​ฉลอง​แบบ​คริสเตียน​เข้า​มา​แทน​ที่​เทศกาล​นอก​รีต. . . . เรา​ทราบ​ว่า​ช่วง​เวลา​นั้น​ใน​กรุง​โรม พวก​นอก​รีต​ได้​กำหนด​ให้​วัน​ที่ 25 ธันวาคม​เป็น​การ​ฉลอง​นาตาลิส อินวิกตี การ​กำเนิด​ของ ‘พระ​อาทิตย์​ที่​เกรียง​ไกร.’ ”

เอนซีโกลเพดยา อิ​ส​ปา​นี​กา ให้​ความ​เห็น​คล้าย​กัน​ว่า “การ​กำหนด​วัน​ที่ 25 ธันวาคม​สำหรับ​การ​ฉลอง​คริสต์มาส​ไม่​ได้​อาศัย​การ​คำนวณ​ที่​ถูก​ต้อง​เกี่ยว​กับ​วัน​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู แต่​กลับ​เป็น​การ​ทำ​ให้​เทศกาล​เหมา​ยัน (จุด​ที่​ดวง​อาทิตย์​อยู่​ไกล​โลก​มาก​ที่​สุด​ใน​ฤดู​หนาว) ซึ่ง​มี​การ​ฉลอง​ใน​โรม​กลาย​มา​เป็น​แบบ​คริสเตียน.” พวก​โรมัน​ฉลอง​การ​ขึ้น​มา​ของ​ดวง​อาทิตย์​ใน​ท้องฟ้า​ยาม​ฤดู​หนาว​โดย​วิธี​ใด? โดย​งาน​เลี้ยง, การ​เลี้ยง​อึกทึก, และ​การ​แลก​เปลี่ยน​ของ​ขวัญ. เนื่อง​จาก​พวก​ผู้​มี​อำนาจ​ใน​คริสตจักร​ไม่​สู้​เต็ม​ใจ​ที่​จะ​ยก​เลิก​เทศกาล​ฉลอง​อัน​เป็น​ที่​นิยม​เช่น​นั้น พวก​เขา​จึง​ทำ​ให้​เทศกาล​นั้น “เป็น​แบบ​คริสเตียน” โดย​เรียก​การ​ฉลอง​นั้น​ว่า​การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู​แทน​การ​กำเนิด​ของ​พระ​อาทิตย์.

ตั้ง​แต่​ตอน​เริ่ม​ต้น ใน​ศตวรรษ​ที่​สี่​และ​ห้า การ​เกี่ยว​พัน​กับ​การ​นมัสการ​ดวง​อาทิตย์​และ​ธรรมเนียม​ของ​การ​นมัสการ​นั้น​ไม่​ได้​เลิก​ไป​อย่าง​ง่าย ๆ. เอากุสติน “นัก​บุญ” คาทอลิก (สากล​ศักราช 354-430) รู้สึก​ว่า​มี​พันธะ​ที่​จะ​กระตุ้น​เตือน​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ไม่​ให้​ฉลอง​วัน​ที่ 25 ธันวาคม​เหมือน​พวก​นอก​รีต​ได้​ทำ​กัน​เพื่อ​ให้​เกียรติ​แก่​ดวง​อาทิตย์. แม้​แต่​ทุก​วัน​นี้ การ​ฉลอง​เทศกาล​ของ​โรมัน​โบราณ​ดู​เหมือน​ว่า​มี​อิทธิพล​ที่​สำคัญ​ยิ่ง.

เทศกาล​วิเศษ​สุด​สำหรับ​การ​สนุก​รื่นเริง​และ​การ​ค้า

ตลอด​หลาย​ศตวรรษ ปัจจัย​หลาย​อย่าง​มี​บทบาท​ที่​แน่ชัด​ใน​การ​หล่อ​หลอม​คริสต์มาส​ให้​เป็น​การ​ฉลอง​ระดับ​นานา​ชาติ​ซึ่ง​เป็น​ที่​นิยม​กัน​มาก​ที่​สุด​เพื่อ​การ​สนุก​รื่นเริง​และ​การ​ค้า. นอก​จาก​นี้ ธรรมเนียม​เกี่ยว​กับ​เทศกาล​อื่น ๆ ใน​ฤดู​หนาว โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เทศกาล​ที่​มี​การ​ฉลอง​กัน​ใน​ยุโรป​เหนือ ค่อย ๆ รวม​เข้า​กับ​รูป​แบบ​การ​ฉลอง​ของ​ชาว​โรมัน. * และ​ใน​ศตวรรษ​ที่ 20 พวก​พนักงาน​ขาย​และ​ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​ตลาด​กระตือรือร้น​ส่ง​เสริม​ธรรมเนียม​ใด ๆ ที่​สามารถ​ทำ​กำไร​มาก.

ผล​เป็น​ประการ​ใด? การ​ฉลอง​การ​ประสูติ​ของ​พระ​คริสต์​ได้​กลาย​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ยิ่ง แทน​ที่​จะ​เป็น​ความหมาย​ของ​เหตุ​การณ์​นั้น. ใน​หลาย​กรณี แม้​แต่​การ​กล่าว​ถึง​พระ​คริสต์​ก็​ได้​หาย​ไป​เลย​จาก​คริสต์มาส​ตาม​ประเพณี. หนังสือ​พิมพ์​เอล ปาอิส ของ​สเปน​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “[คริสต์มาส] เป็น​เทศกาล​ฉลอง​ของ​โลก เป็น​เทศกาล​สำหรับ​ครอบครัว และ​ทุก​คน​ต่าง​ก็​ฉลอง​ใน​แบบ​ของ​ตน​เอง.”

ความ​เห็น​ดัง​กล่าว​นี้​สะท้อน​ถึง​แนว​โน้ม​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ ใน​สเปน​และ​อีก​หลาย​ประเทศ​ทั่ว​โลก. ขณะ​ที่​การ​ฉลอง​คริสต์มาส​กลาย​เป็น​สิ่ง​หรูหรา​ฟุ่มเฟือย​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​คริสต์​ก็​ลด​น้อย​ลง. ตาม​ความ​เป็น​จริง​แล้ว ส่วน​ใหญ่​เทศกาล​ฉลอง​คริสต์มาส​ได้​กลับ​ไป​สู่​สภาพ​ที่​เดิม​ที​มี​อยู่​ใน​สมัย​โรมัน นั่น​คือ การ​เลี้ยง​อึกทึก, งาน​เลี้ยง, และ​การ​แลก​เปลี่ยน​ของ​ขวัญ.

เด็ก​คน​หนึ่ง​เกิด​มา​เพื่อ​เรา

หาก​คริสต์มาส​ตาม​ประเพณี​ไม่​มี​อะไร​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พระ​คริสต์​จริง ๆ แล้ว คริสเตียน​แท้​ควร​ระลึก​ถึง​การ​ประสูติ​และ​ชีวิต​ของ​พระ​คริสต์​โดย​วิธี​ใด? ราว ๆ 700 ปี​ก่อน​การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู ยะซายา​ได้​พยากรณ์​เกี่ยว​กับ​พระองค์​ว่า “มี​เด็ก​คน​หนึ่ง​เกิด​มา​เพื่อ​เรา มี​บุตร​ชาย​คน​หนึ่ง​ประทาน​มา​ให้​เรา​และ​การ​ปกครอง​จะ​อยู่​ที่​บ่า​ของ​ท่าน.” (ยะซายา 9:6, ฉบับ​แปล​ใหม่) เหตุ​ใด​ยะซายา​บ่ง​ชี้​ว่า​การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู​และ​บทบาท​ของ​พระองค์​ใน​ภาย​หลัง​จะ​สำคัญ​จริง ๆ? เพราะ​พระ​เยซู​จะ​เป็น​ผู้​ปกครอง​ที่​ทรง​อานุภาพ. พระองค์​จะ​ได้​รับ​การ​ขนาน​นาม​ว่า​องค์​สันติ​ราช และ​การ​ปกครอง​ของพระองค์​จะ​มี​สันติ​สุข​ไม่​รู้​สิ้น​สุด. นอก​จาก​นี้ การ​ปกครอง​ของ​พระ​เยซู​จะ​ได้​รับ​การ​ค้ำ​ชู​ไว้ “ด้วย​ความ​ยุติธรรม​และ​ความ​ชอบธรรม.”—ยะซายา 9:7.

ทูตสวรรค์​ฆับรีเอล​ได้​กล่าว​ซ้ำ​คำ​ประกาศ​ของ​ยะซายา​เมื่อ​แจ้ง​แก่​มาเรีย​เรื่อง​การ​มา​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู. ทูตสวรรค์​ได้​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า “บุตร​นั้น​จะ​เป็น​ใหญ่, และ​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​บุตร​ของ​ผู้​สูง​สุด. [“พระ​ยะโฮวา,” ล.ม.] พระเจ้า​จะ​ประทาน​พระ​ที่​นั่ง​ของ​ดาวิด​บิดา​ของ​ท่าน​ให้​แก่​ท่าน. และ​ท่าน​จะ​ครอบครอง​พงศ์พันธุ์​ของ​ยาโคบ​สืบ ๆ ไป​เป็น​นิตย์ และ​แผ่นดิน​ของ​ท่าน​จะ​ไม่​รู้​สิ้น​สุด​เลย.” (ลูกา 1:32, 33) ปรากฏ​ชัด​ว่า ความหมาย​สำคัญ​เกี่ยว​กับ​การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู​นั้น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​งาน​ที่​พระ​คริสต์​จะ​ทรง​ทำ​ให้​สำเร็จ​ใน​ฐานะ​พระ​มหา​กษัตริย์​ที่​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. การ​ปกครอง​ของ​พระ​คริสต์​จะ​อำนวย​ประโยชน์​แก่​ทุก​คน รวม​ทั้ง​คุณ​และ​คน​ที่​คุณ​รัก​ด้วย. ที่​จริง พวก​ทูตสวรรค์​ได้​ชี้​แจง​ว่า​การ​ประสูติ​ของ​พระองค์​จะ​ทำ​ให้ “บน​แผ่นดิน​โลก [มี] สันติ​สุข . . . ท่ามกลาง​มนุษย์​ทั้ง​ปวง​ซึ่ง [พระเจ้า] ทรง​โปรดปราน​นั้น.”—ลูกา 2:14, ฉบับ​แปล​ใหม่.

มี​ผู้​ใด​หรือ​ไม่​ปรารถนา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​โลก​ที่​มี​สันติ​สุข​และ​ความ​ยุติธรรม? แต่​เพื่อ​จะ​ประสบ​สันติ​สุข​ที่​การ​ปกครอง​ของ​พระ​คริสต์​จะ​นำ​มา​นั้น เรา​ต้อง​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย​และ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​พระองค์. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​ขั้น​ตอน​แรก​ที่​จะ​มี​สัมพันธภาพ​ดัง​กล่าว​คือ เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​และ​พระ​คริสต์. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “นี่​แหละ​เป็น​ชีวิต​นิรันดร์, คือ​ว่า​ให้​เขา​รู้​จัก​พระองค์​ผู้​เป็น​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​เดียว และ​รู้​จัก​ผู้​ที่​พระองค์​ทรง​ใช้​มา​คือ​พระ​เยซู​คริสต์.”—โยฮัน 17:3.

เมื่อ​เรา​รู้​จัก​พระ​เยซู​อย่าง​ถ่องแท้​แล้ว เรา​ก็​ไม่​จำเป็น​ต้อง​สงสัย​อีก​ต่อ​ไป​ว่า​พระองค์​ทรง​ประสงค์​ให้​เรา​รำลึก​ถึง​พระองค์​โดย​วิธี​ใด. โดย​การ​กิน, การ​ดื่ม, และ​การ​แลก​เปลี่ยน​ของ​ขวัญ​ใน​วัน​เดียว​กัน​กับ​เทศกาล​นอก​รีต​โบราณ​ไหม? ไม่​น่า​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น. ใน​คืน​ก่อน​สิ้น​พระ​ชนม์ พระ​เยซู​ได้​แจ้ง​ให้​เหล่า​สาวก​ทราบ​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​ประสงค์​มาก​กว่า. “ผู้​ที่​มี​บัญญัติ​ของ​เรา​และ​ประพฤติ​ตาม​บัญญัติ​นั้น, ผู้​นั้น​แหละ​รัก​เรา, และ​ผู้​ที่​รัก​เรา​พระ​บิดา​ของ​เรา​จะ​ทรง​รัก​ผู้​นั้น, และ​เรา​จะ​รัก​เขา.”—โยฮัน 14:21.

พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​บริสุทธิ์​อย่าง​ละเอียด​ถี่ถ้วน ซึ่ง​ได้​ช่วย​พวก​เขา​เข้าใจ​ว่า​อะไร​คือ​พระ​บัญชา​ของ​พระเจ้า​และ​พระ​เยซู. พวก​เขา​จะ​ยินดี​ช่วย​คุณ​ให้​เข้าใจ​พระ​บัญชา​สำคัญ​เหล่า​นั้น​เพื่อ​คุณ​จะ​รำลึก​ถึง​พระ​เยซู​อย่าง​ที่​ควร​รำลึก.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 11 ต้น​คริสต์มาส​และ​ซานตาคลอส​เป็น​สอง​ตัว​อย่าง​ที่​โดด​เด่น.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 6, 7]

คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การ​จัด​งาน​เลี้ยง​และ​การ​ให้​ของ​ขวัญ​ไหม?

การ​ให้​ของ​ขวัญ

คัมภีร์​ไบเบิล​เห็น​ชอบ​กับ​การ​ให้​ของ​ขวัญ พระ​ยะโฮวา​เอง​ได้​รับ​การ​ขนาน​นาม​ว่า​ผู้​ทรง​ให้ “ของ​ประทาน​อัน​ดี​ทุก​อย่าง และ​ของ​ประทาน​อัน​เลิศ​ทุก​อย่าง.” (ยาโกโบ 1:17) พระ​เยซู​ทรง​ชี้​แจง​ว่า​บิดา​มารดา​ที่​ดี​จะ​ให้​ของ​ดี​แก่​บุตร​ของ​ตน. (ลูกา 11:11-13) มิตร​สหาย​และ​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​โยบ​ได้​นำ​ของ​กำนัล​มา​ให้​ท่าน​เมื่อ​ท่าน​กลับ​มี​สุขภาพ​ดี​ดัง​เดิม. (โยบ 42:11) อย่าง​ไร​ก็​ดี การ​ให้​เช่น​นั้น​ไม่​จำเป็น​ต้อง​มี​การ​ฉลอง​ใน​วัน​พิเศษ. การ​ให้​ดัง​กล่าว​เป็น​การ​ให้​จาก​หัวใจ.—2 โกรินโธ 9:7.

การ​ชุมนุม​สังสรรค์​ของ​ครอบครัว

การ​ชุมนุม​สังสรรค์​ของ​ครอบครัว​ช่วย​ได้​มาก​ใน​การ​ทำ​ให้​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ถ้า​พวก​เขา​ไม่​ได้​อยู่​บ้าน​เดียว​กัน​แล้ว. พระ​เยซู​และ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ได้​เข้า​ร่วม​งาน​เลี้ยง​สมรส​ใน​บ้าน​คานา ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​เป็น​การ​ชุมนุม​สังสรรค์​ขนาด​ใหญ่​ของ​ครอบครัว​และ​มิตร​สหาย. (โยฮัน 2:1-10) และ​ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​บุตร​สุรุ่ยสุร่าย บิดา​ได้​ฉลอง​การ​กลับ​มา​ของ​บุตร​ชาย​ด้วย​การ​จัด​งาน​เลี้ยง​ใน​ครอบครัว ซึ่ง​มี​ทั้ง​ดนตรี​และ​การ​เต้น​รำ​ด้วย.—ลูกา 15:21-25.

การ​ชื่นชม​กับ​อาหาร​มื้อ​อร่อย

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​บ่อย​ครั้ง​ถึง​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ที่​ชื่นชม​กับ​อาหาร​รส​อร่อย​ร่วม​กับ​ครอบครัว, มิตร​สหาย, หรือ​เพื่อน​ร่วม​นมัสการ. เมื่อ​ทูตสวรรค์​สาม​องค์​มา​เยี่ยม​อับราฮาม ท่าน​ได้​จัด​เตรียม​การ​เลี้ยง​สำหรับ​พวก​เขา ซึ่ง​มี​ทั้ง​เนื้อ, นม, เนย, และ​ขนม. (เยเนซิศ 18:6-8) ซะโลโม​ได้​พรรณนา​ว่า ‘การ​กิน, การ​ดื่ม, และ​ความ​ชื่นชม​ยินดี’ เป็น​ของ​ประทาน​จาก​พระเจ้า.—ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:13; 8:15.

ปรากฏ​ชัด​ว่า พระเจ้า​ทรง​ประสงค์​ให้​เรา​ชื่นชม​กับ​อาหาร​อร่อย​ร่วม​กับ​มิตร​สหาย​และ​ครอบครัว ทั้ง​พระองค์​ทรง​เห็น​ชอบ​กับ​การ​ให้​ของ​ขวัญ. เรา​มี​โอกาส​เหลือ​เฟือ​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​ใน​เวลา​ใด​ก็​ได้​ตลอด​ทั้ง​ปี.