ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

อย่าเปิดช่องแก่พญามาร

อย่าเปิดช่องแก่พญามาร

อย่า​เปิด​ช่อง​แก่​พญา​มาร

“อย่า​เปิด​ช่อง​แก่​พญา​มาร.”—เอเฟโซ 4:27, ล.ม.

1. เหตุ​ใด​ผู้​คน​มาก​มาย​จึง​สงสัย​ว่า​พญา​มาร​มี​ตัว​ตน​อยู่​จริง​หรือ​ไม่?

เป็น​เวลา​นาน​ที่​ผู้​คน​มาก​มาย​ใน​ดินแดน​ของ​คริสต์​ศาสนจักร​คิด​ว่า​พญา​มาร​มี​เขา, เท้า​เป็น​กีบ, สวม​ชุด​คลุม​สี​แดง, และ​ใช้​สาม​ง่าม​ไล่​ต้อน​คน​ชั่ว​ลง​นรก​ที่​มี​ไฟ​ลุก​โพลง​อยู่. คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​สนับสนุน​ความ​คิด​เช่น​นั้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​ต้อง​สงสัย​เลย​ว่า​ความ​คิด​ผิด ๆ อย่าง​นั้น​ทำ​ให้​หลาย​ล้าน​คน​สงสัย​ว่า​พญา​มาร​มี​ตัว​ตน​อยู่​จริง​ไหม หรือ​คิด​ไป​ว่า​คำ​นี้​เป็น​แต่​เพียง​สัญลักษณ์​แทน​ความ​ชั่ว​ร้าย.

2. อะไร​คือ​ข้อ​เท็จ​จริง​บาง​อย่าง​จาก​พระ​คัมภีร์​เกี่ยว​กับ​พญา​มาร?

2 คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​หลักฐาน​โดย​ประจักษ์​พยาน​ยืน​ยัน​หนักแน่น​ว่า​พญา​มาร​มี​ตัว​ตน​อยู่​จริง. พระ​เยซู​คริสต์​เคย​เห็น​มัน​ใน​แดน​วิญญาณ​บน​สวรรค์​และ​พูด​กับ​มัน​ขณะ​อยู่​บน​โลก. (โยบ 1:6; มัดธาย 4:4-11) แม้​พระ​คัมภีร์​ไม่​ได้​บอก​ชื่อ​แต่​เดิม​ของ​วิญญาณ​ตน​นี้ แต่​ก็​ได้​เรียก​มัน​ว่า​มาร. คำ​กรีก​เดิม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “มาร” มี​ความ​หมาย​ว่า “ผู้​ใส่​ร้าย” เนื่อง​จาก​มัน​ได้​ใส่​ร้าย​พระเจ้า. มัน​ถูก​เรียก​ด้วย​ว่า​ซาตาน (แปล​ว่า “ผู้​ต่อ​ต้าน”) เนื่อง​จาก​มัน​ต่อ​ต้าน​พระ​ยะโฮวา. นอก​จาก​นี้ ซาตาน​พญา​มาร​ถูก​เรียก​ว่า “งู​ตัว​แรก​เดิม​นั้น” ซึ่ง​คง​จะ​เพราะ​ว่า​มัน​ได้​ใช้​งู​ล่อ​ลวง​ฮาวา. (วิวรณ์ 12:9, ล.ม.; 1 ติโมเธียว 2:14) มัน​ยัง​เป็น​ที่​รู้​จัก​ด้วย​ว่า “ตัว​ชั่ว​ร้าย.”—มัดธาย 6:13, ล.ม. *

3. เรา​จะ​พิจารณา​คำ​ถาม​อะไร?

3 ฐานะ​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา เรา​ไม่​อยาก​จะ​เป็น​เหมือน​ซาตาน​ศัตรู​ตัว​เอ้​ของ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​เดียว ไม่​ว่า​ใน​ทาง​ใด. ฉะนั้น เรา​จึง​ต้อง​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​ว่า “อย่า​เปิด​ช่อง​แก่​พญา​มาร.” (เอเฟโซ 4:27, ล.ม.) แล้ว​อะไร​คือ​ลักษณะ​เฉพาะ​ตัว​บาง​อย่าง​ของ​ซาตาน​ที่​เรา​จะ​ต้อง​ไม่​เลียน​แบบ?

อย่า​เลียน​แบบ​ผู้​ใส่​ร้าย​ตัว​เอ้​นั้น

4. “ตัว​ชั่ว​ร้าย” ใส่​ร้าย​พระเจ้า​อย่าง​ไร?

4 “ตัว​ชั่ว​ร้าย” สม​ควร​ถูก​เรียก​ว่า​ผู้​ใส่​ร้าย. การ​ใส่​ร้าย​คือ​การ​กล่าว​เรื่อง​ไม่​จริง​เกี่ยว​กับ​บุคคล​หนึ่ง​โดย​มี​เจตนา​ให้​ผู้​นั้น​เสียหาย. พระเจ้า​สั่ง​อาดาม​ว่า “ส่วน​ต้น​ไม้​เกี่ยว​กับ​ความ​รู้​เรื่อง​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว​นั้น เจ้า​อย่า​กิน​จาก​ต้น​นั้น เพราะ​ว่า​ใน​วัน​ซึ่ง​เจ้า​กิน​จาก​ต้น​นั้น เจ้า​จะ​ตาย​เป็น​แน่.” (เยเนซิศ 2:17, ล.ม.) ฮาวา​ก็​ได้​รับ​ทราบ​ข้อ​ห้าม​นี้ แต่​พญา​มาร​บอก​นาง​ผ่าน​ทาง​งู​ว่า “เจ้า​จะ​ไม่​ตาย​จริง​ดอก: เพราะ​พระเจ้า​ทรง​ทราบ​อยู่​ว่า, เจ้า​กิน​ผลไม้​นั้น​เข้า​ไป​วัน​ใด, ตา​ของ​เจ้า​จะ​สว่าง​ขึ้น​ใน​วัน​นั้น; แล้ว​เจ้า​จะ​เป็น​เหมือน​พระ [“พระเจ้า,” ล.ม.], จะ​รู้​จัก​ความ​ดี​และ​ชั่ว.” (เยเนซิศ 3:4, 5) นั่น​เป็น​คำ​ใส่​ร้าย​ที่​มี​เจตนา​ร้าย​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า!

5. ทำไม​ดิโอเตรเฟส​จึง​สม​ควร​ที่​จะ​ต้อง​รับผิดชอบ​ต่อ​การ​พูด​ใส่​ร้าย?

5 ชาว​อิสราเอล​ได้​รับ​คำ​บัญชา​ว่า “อย่า​เป็น​คน​เที่ยว​ไป​เที่ยว​มา​ส่อเสียด [“พูด​ใส่​ร้าย,” ล.ม.] แก่​เพื่อน​บ้าน.” (เลวีติโก 19:16) อัครสาวก​โยฮัน​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ผู้​พูด​ใส่​ร้าย​คน​หนึ่ง​ใน​สมัย​ของ​ท่าน​ว่า “ข้าพเจ้า​ได้​เขียน​บาง​สิ่ง​ถึง​ประชาคม แต่​ดิโอเตรเฟส​ซึ่ง​ชอบ​เป็น​เอก​ท่ามกลาง​พวก​เขา ไม่​รับ​เอา​สิ่ง​ใด​จาก​พวก​เรา​ด้วย​ความ​นับถือ​เลย. นี่​เป็น​เหตุ​ที่​ว่า หาก​ข้าพเจ้า​มา ข้าพเจ้า​จะ​เตือน​ให้​ระลึก​ถึง​การ​ของ​เขา​ซึ่ง​เขา​ทำ​อยู่​ต่อ​ไป โดย​พูด​มาก​ถึง​พวก​เรา​ด้วย​คำ​ที่​ชั่ว​ช้า.” (3 โยฮัน 9, 10, ล.ม.) ดิโอเตรเฟส​ใส่​ร้าย​โยฮัน และ​สม​ควร​ที่​จะ​ต้อง​รับผิดชอบ​ต่อ​การ​กระทำ​ของ​ตน. จะ​มี​คริสเตียน​ที่​ภักดี​คน​ไหน​กัน​ที่​อยาก​เป็น​เหมือน​ดิโอเตรเฟส​และ​เลียน​แบบ​ซาตาน​ผู้​ใส่​ร้าย​ตัว​เอ้​นั้น?

6, 7. เพราะ​เหตุ​ใด​เรา​จึง​ต้องการ​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ใส่​ร้าย​ใคร ๆ?

6 บรรดา​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ถูก​ใส่​ร้าย​และ​ถูก​กล่าวหา​ผิด ๆ อยู่​บ่อย ๆ. “ฝ่าย​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​และ​พวก​อาลักษณ์​ก็​ยืน​ขึ้น​ฟ้อง [พระ​เยซู] แข็งแรง​มาก.” (ลูกา 23:10) เปาโล​ถูก​อะนาเนีย​มหา​ปุโรหิต​และ​คน​อื่น ๆ กล่าวหา​อย่าง​ผิด ๆ. (กิจการ 24:1-8) และ​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ซาตาน​ว่า​เป็น “ผู้​กล่าวหา​พี่​น้อง​ของ​เรา . . . ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน​ต่อ​พระ​พักตร์​พระเจ้า​ของ​เรา.” (วิวรณ์ 12:10, ล.ม.) พี่​น้อง​ที่​ถูก​กล่าวหา​ผิด ๆ เหล่า​นี้​ก็​คือ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​นี้.

7 ไม่​ควร​ที่​คริสเตียน​จะ​ใส่​ร้าย​หรือ​กล่าวหา​ใคร ๆ อย่าง​ผิด ๆ. กระนั้น สิ่ง​นี้​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้​หาก​เรา​ไม่​มี​ข้อมูล​ครบ​ถ้วน​ก่อน​ที่​จะ​ให้​คำ​พยาน​กล่าว​โทษ​ใคร. ภาย​ใต้​พระ​บัญญัติ​ของ​โมเซ ผู้​ที่​จงใจ​เป็น​พยาน​เท็จ​อาจ​มี​โทษ​ถึง​ตาย. (เอ็กโซโด 20:16; พระ​บัญญัติ 19:15-19) นอก​จาก​นั้น สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​สะอิดสะเอียน​รวม​ถึง “พยาน​เท็จ​ที่​ระบาย​ลม​ออก​มา​เป็น​คำ​เท็จ.” (สุภาษิต 6:16-19) ดัง​นั้น​แล้ว เรา​ต้องการ​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​เลียน​แบบ​ผู้​ใส่​ร้าย​และ​ผู้​กล่าวหา​เท็จ​ตัว​เอ้​นั้น​อย่าง​แน่นอน.

หลีก​หนี​จาก​แนว​ทาง​ของ​ผู้​ฆ่า​คน​ตั้ง​แต่​แรก​เดิม

8. ใน​ทาง​ใด​ที่​พญา​มาร​เป็น “ผู้​ฆ่า​คน​เมื่อ​มัน​เริ่ม​ทำ​ตาม​ใจ​ตัว​เอง”?

8 พญา​มาร​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน. พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “มัน​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน​เมื่อ​มัน​เริ่ม​ทำ​ตาม​ใจ​ตัว​เอง.” (โยฮัน 8:44, ล.ม.) พญา​มาร​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน​ตั้ง​แต่​มัน​ชักจูง​อาดาม​กับ​ฮาวา​ให้​หันเห​ไป​จาก​พระเจ้า. มัน​นำ​ความ​ตาย​มา​สู่​มนุษย์​คู่​แรก​และ​ลูก​หลาน​ของ​เขา. (โรม 5:12) ขอ​สังเกต​ว่า​การ​กระทำ​อย่าง​นี้​เกิด​จาก​บุคคล​เท่า​นั้น ไม่​ใช่​เกิด​จาก​ความ​ชั่ว​ร้าย.

9. ตาม​ที่​บ่ง​ชี้​ไว้​ใน 1 โยฮัน 3:15 เรา​อาจ​กลาย​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน​ไป​ได้​อย่าง​ไร?

9 หนึ่ง​ใน​บัญญัติ​สิบ​ประการ​ที่​ให้​แก่​ชาติ​อิสราเอล​คือ “อย่า​ฆ่า​คน.” (พระ​บัญญัติ 5:17) อัครสาวก​เปโตร​เขียน​ถึง​คริสเตียน​ว่า “ใน​พวก​ท่าน อย่า​ให้​คน​ใด​ต้อง​มี​โทษ​เพราะ​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน.” (1 เปโตร 4:15) ดัง​นั้น ใน​ฐานะ​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา เรา​จะ​ไม่​ฆ่า​ใคร. กระนั้น เรา​อาจ​มี​ความ​ผิด​จำเพาะ​พระเจ้า​หาก​เรา​เกลียด​เพื่อน​คริสเตียน​คน​ใด​คน​หนึ่ง​และ​อยาก​ให้​เขา​ตาย​ไป​เสีย. อัครสาวก​โยฮัน​เขียน​ว่า “ผู้​หนึ่ง​ผู้​ใด​ที่​เกลียด​ชัง​พี่​น้อง​ของ​ตน​ก็​ย่อม​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน, และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​แล้ว​ว่า ผู้​ฆ่า​คน​ไม่​มี​ชีวิต​นิรันดร์​อยู่​ใน​ตัว​เลย.” (1 โยฮัน 3:15) ชาว​อิสราเอล​ได้​รับ​บัญชา​ว่า “อย่า​ปิด​ความ​โกรธ​ต่อ​พี่​น้อง​ไว้​ใน​ใจ.” (เลวีติโก 19:17) ขอ​เรา​รีบ​แก้​ปัญหา​ใด ๆ ที่​เกิด​ขึ้น​ระหว่าง​เรา​กับ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ เพื่อ​ซาตาน​ผู้​ฆ่า​คน​จะ​ไม่​ได้​ทำลาย​เอกภาพ​คริสเตียน​ของ​เรา.—ลูกา 17:3, 4.

ยืนหยัด​มั่นคง​ต่อ​ต้าน​จอม​มุสา

10, 11. เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​ยืนหยัด​ต่อ​ต้าน​ซาตาน​จอม​มุสา?

10 พญา​มาร​เป็น​ผู้​พูด​มุสา. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เมื่อ​มัน​พูด​เท็จ​มัน​ก็​พูด​ตาม​สันดาน​ของ​มัน​เอง เพราะ​มัน​เป็น​ผู้​มุสา และ​เป็น​พ่อ​ของ​การ​มุสา.” (โยฮัน 8:44, ฉบับ​แปล​ใหม่) ซาตาน​โกหก​ฮาวา ส่วน​พระ​เยซู​เข้า​มา​ใน​โลก​เพื่อ​เป็น​พยาน​ถึง​ความ​จริง. (โยฮัน 18:37) ถ้า​เรา​ต้องการ​ยืนหยัด​ต่อ​ต้าน​พญา​มาร​ฐานะ​ที่​เรา​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระ​คริสต์ เรา​จะ​ใช้​การ​โกหก​หลอก​ลวง​ไม่​ได้. เรา​ต้อง “กล่าว​แต่​ตาม​จริง.” (ซะคาระยา 8:16; เอเฟโซ 4:25) “พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​แห่ง​ความ​สัตย์​จริง” จะ​อวย​พร​เฉพาะ​เหล่า​พยาน​ของ​พระองค์​ที่​พูด​ความ​จริง​เท่า​นั้น. คน​ชั่ว​ไม่​มี​สิทธิ์​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระองค์.—บทเพลง​สรรเสริญ 31:5; 50:16; ยะซายา 43:10.

11 หาก​เรา​ถือ​ว่า​การ​หลุด​พ้น​จาก​คำ​โกหก​ต่าง ๆ ของ​ซาตาน​เนื่อง​จาก​เรา​รู้​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​นั้น​เป็น​สิ่ง​ล้ำ​ค่า เรา​จะ​ยึด​มั่น​อยู่​กับ​หลักการ​คริสเตียน ซึ่ง​เป็น “ทาง​แห่ง​ความ​จริง.” (2 เปโตร 2:2, ล.ม.; โยฮัน 8:32) คำ​สอน​คริสเตียน​ทั้ง​สิ้น​ประกอบ​กัน​ขึ้น​เป็น “ความ​จริง​แห่ง​ข่าว​ดี.” (ฆะลาเตีย 2:5, 14, ล.ม.) ความ​รอด​ของ​เรา​นั้น​ขึ้น​อยู่​กับ​การ “ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​ต่อ ๆ ไป” คือ​โดย​ยึด​มั่น​กับ​ความ​จริง​และ​ยืนหยัด​มั่นคง​ต่อ​ต้าน “พ่อ​ของ​การ​มุสา.”—3 โยฮัน 3, 4, 8, ล.ม.

จง​ต้านทาน​ผู้​ออก​หาก​ตัว​เอ้

12, 13. เรา​ควร​ปฏิบัติ​เช่น​ไร​ต่อ​ผู้​ออก​หาก?

12 ทูตสวรรค์​องค์​ที่​กลาย​มา​เป็น​พญา​มาร​นั้น​ครั้ง​หนึ่ง​เคย​อยู่​ใน​ความ​จริง. แต่​ดัง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส มัน “มิ​ได้​ตั้ง​อยู่​ใน​ความ​จริง เพราะ​ความ​จริง​มิ​ได้​อยู่​ใน​มัน.” (โยฮัน 8:44) ผู้​ออก​หาก​ตัว​เอ้​นี้​มุ่ง​ต่อ​ต้าน “พระเจ้า​แห่ง​ความ​สัตย์​จริง” อย่าง​ไม่​ลด​รา​วา​ศอก. คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​บาง​คน​ตก​เข้า​สู่ “บ่วง​แร้ว​ของ​มาร” ซึ่ง​ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​เพราะ​ถูก​นำ​ไป​ผิด​ทาง​และ​หลง​ไป​จาก​ความ​จริง. ดัง​นั้น เปาโล​จึง​กระตุ้น​ติโมเธียว​เพื่อน​ร่วม​งาน​ของ​ท่าน​ให้​สั่ง​สอน​คน​เหล่า​นั้น​ด้วย​ใจ​อ่อนโยน​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ฟื้น​ตัว​ฝ่าย​วิญญาณ​และ​พ้น​จาก​บ่วง​แร้ว​ของ​ซาตาน. (2 ติโมเธียว 2:23-26) แน่นอน จะ​ดี​กว่า​มาก​หาก​ยึด​มั่น​อยู่​กับ​ความ​จริง​และ​ไม่​ถูก​ทำ​ให้​ติด​กับ​โดย​ความ​คิด​แบบ​ออก​หาก​เสีย​ตั้ง​แต่​แรก.

13 เนื่อง​จาก​รับ​ฟัง​มาร​และ​ไม่​บอก​ปัด​คำ​โกหก​ของ​มัน มนุษย์​คู่​แรก​จึง​กลาย​เป็น​ผู้​ออก​หาก. ดัง​นั้น​แล้ว ควร​หรือ​ที่​เรา​จะ​ฟัง​ผู้​ออก​หาก, อ่าน​ข้อ​เขียน, หรือ​ดู​เว็บไซต์​ของ​พวก​เขา​ใน​อินเทอร์เน็ต? ถ้า​เรา​รัก​พระเจ้า​และ​รัก​ความ​จริง เรา​จะ​ไม่​ทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้. เรา​จะ​ไม่​ให้​ผู้​ออก​หาก​เข้า​มา​ใน​บ้าน​ของ​เรา​หรือ​แม้​แต่​จะ​ทักทาย​เขา เพราะ​การ​ทำ​เช่น​นั้น​จะ​ทำ​ให้​เรา​เป็น “ผู้​ที่​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​กระทำ​ที่​ชั่ว​ของ​เขา.” (2 โยฮัน 9-11, ล.ม.) ขอ​เรา​อย่า​พ่าย​แพ้​ต่อ​คำ​ล่อ​ลวง​ของ​มาร​โดย​การ​ละ​ทิ้ง “ทาง​แห่ง​ความ​จริง” ของ​คริสเตียน​ไป​ติด​ตาม​ผู้​สอน​เท็จ​ที่​มุ่ง “แพร่​แนว​คิด​ที่​ก่อ​ความ​พินาศ” และ​พยายาม ‘แสวง​ประโยชน์​จาก​เรา​ด้วย​ถ้อย​คำ​ที่​บรรจง​แต่ง​ขึ้น.’—2 เปโตร 2:1-3, ฉบับ​แปล​ไบอิงตัน.

14, 15. เปาโล​ให้​คำ​เตือน​อะไร​แก่​เหล่า​ผู้​ปกครอง​จาก​เมือง​เอเฟโซส์​และ​ติโมเธียว​เพื่อน​ร่วม​งาน​ของ​ท่าน?

14 เปาโล​บอก​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​จาก​เมือง​เอเฟโซส์​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ระวัง​ตัว​ให้​ดี, และ​จง​รักษา​ฝูง​แกะ​ที่​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ได้​ทรง​ตั้ง​ท่าน​ไว้​เป็น​ผู้​ดู​แล, และ​เพื่อ​จะ​ได้​บำรุง​เลี้ยง​คริสตจักร​ของ​พระเจ้า, ที่​พระองค์​ทรง​ได้​ด้วย​พระ​โลหิต​ของ​พระองค์​เอง. ข้าพเจ้า​ทราบ​อยู่​ว่า, เมื่อ​ข้าพเจ้า​ไป​แล้ว​จะ​มี​สุนัข​ป่า​อัน​ร้าย​เข้า​มา​ใน​ท่ามกลาง​ท่าน, และ​จะ​ไม่​ละ​เว้น​ฝูง​แกะ​ไว้​เลย จะ​เกิด​มี​บาง​คน​ใน​ท่ามกลาง​พวก​ท่าน​เอง​กล่าว​เลี่ยง [“พูด​บิดเบือน,” ล.ม.] ความ​จริง​เพื่อ​จะ​ชักชวน​เหล่า​สาวก​ให้​หลง​ตาม​เขา​ไป.” (กิจการ 20:28-30) ต่อ​มา ผู้​ออก​หาก​ที่​ว่า​นั้น​ก็​ได้​ปรากฏ​ตัว​ขึ้น และ “พูด​บิดเบือน.”

15 ใน​ราว​ปี ส.ศ. 65 อัครสาวก​เปาโล​กระตุ้น​เตือน​ติโมเธียว​ให้ “ซื่อ​ตรง​ใน​การ​ที่​ใช้​คำ​แห่ง​ความ​จริง.” เปาโล​เขียน​ว่า “แต่​จง​หลีก​ไป​เสีย​จาก​ถ้อย​คำ​นอก​คอก​นอก​ทาง ด้วย​ว่า​คำ​เหล่า​นั้น​ย่อม​ก่อ​ให้​เกิด​อธรรม​มาก​ยิ่ง​ขึ้น, และ​ถ้อย​คำ​ของ​เขา​จะ​กิน​รุก​ลาม​ไป​เหมือน​แผล​มะเร็ง ใน​พวก​เขา​เหล่า​นั้น​มี​ฮุเมนาย​กับ​ฟิเลโต​เป็น​ต้น. คน​ทั้ง​สอง​นั้น​ได้​หลง​จาก​ความ​จริง แล้ว​กล่าว​ว่า, การ​ซึ่ง​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ตาย​นั้น​ผ่าน​พ้น​มา​แล้ว, เขา​จึง​ได้​ทำลาย​ความ​เชื่อ​ของ​บาง​คน​เสีย.” การ​ออก​หาก​ได้​เริ่ม​ต้น​ขึ้น​แล้ว! เปาโล​กล่าว​เพิ่ม​เติม​ว่า “แต่​ว่า​ราก​ซึ่ง​พระเจ้า​ทรง​วาง​ไว้​นั้น​ยัง​ตั้ง​มั่นคง​อยู่.”—2 ติโมเธียว 2:15-19.

16. ทั้ง ๆ ที่​มี​กล​อุบาย​ของ​ผู้​ออก​หาก​ตัว​เอ้ ทำไม​เรา​จึง​ภักดี​ต่อ​พระเจ้า​และ​พระ​คำ​ของ​พระองค์?

16 ซาตาน​ใช้​ผู้​ออก​หาก​บ่อย​ครั้ง​เพื่อ​ทำลาย​การ​นมัสการ​แท้ แต่​มัน​ก็​ทำ​ไม่​สำเร็จ. ประมาณ​ปี 1868 ชาลส์ เทซ รัสเซลล์ เริ่ม​ทำ​การ​ตรวจ​สอบ​อย่าง​ถี่ถ้วน​เกี่ยว​กับ​หลัก​ข้อ​เชื่อ​ที่​ยอม​รับ​กัน​มา​นาน​ของ​คริสตจักร​ต่าง ๆ ภาย​ใน​คริสต์​ศาสนจักร​และ​ได้​พบ​การ​ตี​ความ​พระ​คัมภีร์​อย่าง​ผิด ๆ. รัสเซลล์​กับ​ผู้​แสวง​หา​ความ​จริง​คน​อื่น ๆ บาง​คน​ตั้ง​กลุ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ขึ้น​ที่​เมือง​พิตส์เบิร์ก รัฐ​เพนซิลเวเนีย สหรัฐ​อเมริกา. นับ​แต่​นั้น​มา​ก็​เป็น​เวลา​เกือบ 140 ปี​แล้ว ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​รู้​เพิ่ม​พูน​ขึ้น​และ​มี​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​และ​พระ​คำ​ของ​พระองค์​เพิ่ม​มาก​ขึ้น. ทั้ง ๆ ที่​มี​กล​อุบาย​ของ​ผู้​ออก​หาก​ตัว​เอ้ การ​ระแวด​ระวัง​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​ได้​ช่วย​คริสเตียน​แท้​เหล่า​นี้​ให้​รักษา​ความ​ภักดี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​คำ​ของ​พระองค์.—มัดธาย 24:45, ล.ม.

อย่า​ยอม​ให้​ผู้​ครอง​โลก​มี​อำนาจ​เหนือ​คุณ

17-19. โลก​ที่​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​พญา​มาร​คือ​อะไร และ​เหตุ​ใด​เรา​ไม่​ควร​รัก​โลก​นั้น?

17 อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​ซาตาน​พยายาม​ทำ​ให้​เรา​ติด​กับ​คือ​โดย​การ​ชัก​นำ​เรา​ให้​รัก​โลก​นี้ ซึ่ง​ก็​คือ​สังคม​มนุษย์​ที่​ไม่​ชอบธรรม​ซึ่ง​เหินห่าง​จาก​พระเจ้า. พระ​เยซู​เรียก​มาร​ว่า “ผู้​ครอง​โลก” และ​กล่าว​ว่า​มัน “ไม่​มี​อำนาจ​อะไร​เหนือ [พระองค์].” (โยฮัน 14:30, ล.ม.) ขอ​อย่า​ให้​ซาตาน​มี​อำนาจ​เหนือ​เรา! แน่นอน เรา​ตระหนัก​ว่า “โลก​ทั้ง​สิ้น​อยู่​ใน​อำนาจ​ตัว​ชั่ว​ร้าย [นั้น].” (1 โยฮัน 5:19, ล.ม.) ดัง​นั้น พญา​มาร​จึง​สามารถ​เสนอ​ที่​จะ​ยก “อาณาจักร​ทั้ง​หมด​ของ​โลก” แก่​พระ​เยซู​เพื่อ​แลก​กับ​การ​นมัสการ​แบบ​ออก​หาก​หน​เดียว ซึ่ง​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า​ปฏิเสธ​อย่าง​หนักแน่น. (มัดธาย 4:8-10, ล.ม.) โลก​ที่​อยู่​ใต้​อำนาจ​ควบคุม​ของ​ซาตาน​เกลียด​ชัง​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​คริสต์. (โยฮัน 15:18-21) ไม่​ประหลาด​ใจ​เลย​ที่​อัครสาวก​โยฮัน​เตือน​เรา​ไม่​ให้​รัก​โลก!

18 โยฮัน​เขียน​ว่า “อย่า​รัก​โลก​หรือ​สิ่ง​ของ​ใน​โลก. ถ้า​คน​ใด​รัก​โลก, ความ​รัก​ต่อ​พระ​บิดา​ไม่​ได้​อยู่​ใน​คน​นั้น​เลย. เพราะ​ว่า​สารพัตร​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​โลก, คือ​ความ​ใคร่​ของ​เนื้อหนัง​และ​ความ​ใคร่​ของ​ตา​และ​การ​อวด​อ้าง​ถือ​ตัว​ใน​ชาติ​นี้​ไม่​ได้​เกิด​มา​จาก​พระ​บิดา, แต่​เกิด​มา​จาก​โลก. และ​โลก​นี้​กับ​ความ​ใคร่​ของ​โลก​กำลัง​ผ่าน​พ้น​ไป แต่​ผู้​ที่​ประพฤติ​ตาม​พระทัย​ของ​พระเจ้า​คง​จะ​ตั้ง​อยู่​เป็น​นิตย์.” (1 โยฮัน 2:15-17) เรา​ต้อง​ไม่​รัก​โลก เนื่อง​จาก​แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​โลก​เป็น​ที่​น่า​ปรารถนา​ของ​เนื้อหนัง​ที่​ผิด​บาป และ​ตรง​กัน​ข้าม​กับ​มาตรฐาน​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​อย่าง​สิ้นเชิง.

19 ถ้า​ความ​รัก​ต่อ​โลก​นี้​มี​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​เรา​ล่ะ? ถ้า​อย่าง​นั้น ก็​ให้​เรา​ทูล​อธิษฐาน​ขอ​พระเจ้า​ช่วย​เรา​ให้​เอา​ชนะ​ความ​รัก​แบบ​นั้น​และ​เอา​ชนะ​ความ​ปรารถนา​ของ​เนื้อหนัง​ที่​มา​กับ​ความ​รัก​ต่อ​โลก. (ฆะลาเตีย 5:16-21) เรา​ย่อม​จะ​บากบั่น​รักษา​ตัว​ให้ “พ้น​จาก​ราคี​แห่ง​โลก” อย่าง​แน่นอน หาก​เรา​สำนึก​เสมอ​ว่า “บรรดา​วิญญาณ​อัน​ชั่ว” เป็น ‘ผู้​ครอบครอง​โลก’ ที่​ไม่​ประจักษ์​แก่​ตา มี​อำนาจ​เหนือ​สังคม​มนุษย์​ที่​ไม่​ชอบธรรม.—ยาโกโบ 1:27; เอเฟโซ 6:11, 12; 2 โกรินโธ 4:4.

20. ทำไม​จึง​กล่าว​ได้​ว่า​เรา “ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก”?

20 พระ​เยซู​ตรัส​เกี่ยว​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “พวก​เขา​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก เหมือน​ข้าพเจ้า​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก.” (โยฮัน 17:16, ล.ม.) คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​และ​สหาย​ที่​อุทิศ​ตัว​แล้ว​ของ​พวก​เขา​พยายาม​รักษา​ตัว​ให้​สะอาด​บริสุทธิ์​ด้าน​ศีลธรรม​และ​ด้าน​วิญญาณ​โดย​แยก​ตัว​จาก​โลก​นี้. (โยฮัน 15:19; 17:14; ยาโกโบ 4:4) โลก​ที่​ไม่​ชอบธรรม​นี้​เกลียด​ชัง​พวก​เรา​เพราะ​เรา​แยก​ตัว​จาก​โลก และ​เป็น “คน​ประกาศ​ความ​ชอบธรรม.” (2 เปโตร 2:5) จริง​อยู่ เรา​อยู่​ท่ามกลาง​สังคม​มนุษย์ ซึ่ง​มี​ทั้ง​คน​ผิด​ประเวณี, คน​ผิด​ผัว​เมีย​เขา, คน​ฉ้อ​โกง, คน​ไหว้​รูป​เคารพ, ขโมย, คน​พูด​มุสา, และ​คน​ขี้เมา. (1 โกรินโธ 5:9-11; 6:9-11; วิวรณ์ 21:8) แต่​เรา​ไม่​ได้​หายใจ​เอา “วิญญาณ​ของ​โลก” เข้า​ไป เพราะ​เรา​จะ​ไม่​ถูก​พลัง​กระตุ้น​ที่​ผิด​บาป​นี้​ครอบ​งำ.—1 โกรินโธ 2:12.

อย่า​เปิด​ช่อง​แก่​พญา​มาร

21, 22. คุณ​จะ​นำ​คำ​แนะ​นำ​ของ​เปาโล​ที่​บันทึก​ไว้​ใน​เอเฟโซ 4:26, 27 ไป​ใช้​ได้​อย่าง​ไร?

21 แทน​ที่​จะ​ถูก​กระตุ้น​โดย “วิญญาณ​ของ​โลก” เรา​ได้​รับ​การ​นำ​โดย​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​ก่อ​ให้​เกิด​คุณลักษณะ​ต่าง ๆ ใน​ตัว​เรา เช่น ความ​รัก​และ​การ​รู้​จัก​บังคับ​ตน. (ฆะลาเตีย 5:22, 23) คุณลักษณะ​เหล่า​นี้​ช่วย​เรา​ให้​ยืนหยัด​ต้านทาน​การ​โจมตี​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​จาก​พญา​มาร. มัน​ต้องการ​ให้​เรา​มี “ใจ​เดือดร้อน [“เดือดดาล,” ล.ม.]” อัน “มี​แต่​จะ​เป็น​เหตุ​ให้​ทำ​การ​ชั่ว” แต่​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ช่วย​เรา​ให้ “อด​กลั้น​ความ​โกรธ​ไว้ และ​ระงับ​ความ​โทโส​เสีย.” (บทเพลง​สรรเสริญ 37:8) จริง​อยู่ เรา​อาจ​มี​เหตุ​ผล​อัน​สม​ควร​ที่​จะ​รู้สึก​โกรธ​ใน​บาง​ครั้ง แต่​เปาโล​แนะ​นำ​เรา​ว่า “โกรธ​เถิด และ​ถึง​กระนั้น​ก็​อย่า​ทำ​บาป; อย่า​ให้​ตะวัน​ตก​โดย​ที่​ท่าน​ยัง​ขุ่นเคือง​อยู่ และ​อย่า​เปิด​ช่อง​แก่​พญา​มาร.”—เอเฟโซ 4:26, 27, ล.ม.

22 ความ​โกรธ​อาจ​นำ​เรา​ไป​สู่​ความ​บาป​ได้​หาก​เรา​ยัง​กรุ่น​อยู่​ใน​ความ​โกรธ. การ​ที่​เรา​ยัง​เก็บ​อารมณ์​ความ​รู้สึก​นี้​ไว้​อยู่​เป็น​การ​เปิด​ช่อง​ให้​มาร​สร้าง​ความ​แตก​แยก​ขึ้น​ภาย​ใน​ประชาคม หรือ​กระตุ้น​ให้​เรา​กระทำ​สิ่ง​ที่​ชั่ว​ร้าย. ฉะนั้น เรา​จึง​ต้อง​รีบ​แก้ไข​ความ​ขุ่น​ข้อง​หมอง​ใจ​กัน​โดย​เร็ว​ตาม​วิธี​ของ​พระเจ้า. (เลวีติโก 19:17, 18; มัดธาย 5:23, 24; 18:15, 16) ด้วย​เหตุ​นี้ ขอ​ให้​เรา​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า แสดง​การ​รู้​จัก​บังคับ​ตน และ​อย่า​ปล่อย​ให้​แม้​แต่​ความ​โกรธ​ที่​มี​เหตุ​อัน​ควร​นั้น​สะสม​มาก​ขึ้น ๆ จน​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​เป็น​ปฏิปักษ์, ความ​มุ่ง​ร้าย, และ​ความ​เกลียด​ชัง.

23. เรา​จะ​พิจารณา​คำ​ถาม​อะไร​บ้าง​ใน​บทความ​ถัด​ไป?

23 เรา​ได้​พิจารณา​ลักษณะ​เฉพาะ​ตัว​บาง​อย่าง​ของ​พญา​มาร​ที่​เรา​ไม่​ควร​เอา​อย่าง. แต่​ผู้​อ่าน​บาง​คน​อาจ​สงสัย​ว่า เรา​ควร​กลัว​ซาตาน​ไหม? ทำไม​มัน​จึง​ปลุกปั่น​ให้​เกิด​การ​ข่มเหง​คริสเตียน? และ​เรา​จะ​ป้องกัน​ไม่​ให้​พญา​มาร​มี​ชัย​เหนือ​เรา​ได้​อย่าง​ไร?

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 2 ดู​บทความ​ชุด​ซึ่ง​เกี่ยว​กับ​หน้า​ปก​ที่​ชื่อ​ว่า “พญา​มาร​มี​จริง​ไหม?” ใน​หอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 พฤศจิกายน 2005.

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

• ทำไม​เรา​ไม่​ควร​ใส่​ร้าย​คน​หนึ่ง​คน​ใด​เลย?

• ตาม​ที่​กล่าว​ใน 1 โยฮัน 3:15 นั้น เรา​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน​ได้​อย่าง​ไร?

• เรา​ควร​มี​ท่าที​เช่น​ไร​ต่อ​ผู้​ออก​หาก และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

• เหตุ​ใด​เรา​ไม่​ควร​รัก​โลก?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 23]

เรา​จะ​ไม่​เปิด​ช่อง​ให้​พญา​มาร​ทำลาย​เอกภาพ​คริสเตียน​ของ​เรา

[ภาพ​หน้า 24]

เหตุ​ใด​โยฮัน​จึง​กระตุ้น​เตือน​เรา​ไม่​ให้​รัก​โลก?