ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เขาต่อสู้กับความกลัวและความสงสัย

เขาต่อสู้กับความกลัวและความสงสัย

จง​เลียน​แบบ​ความ​เชื่อ​ของ​เขา

เขา​ต่อ​สู้​กับ​ความ​กลัว​และ​ความ​สงสัย

เปโตร​ออก​แรง​ตี​กรรเชียง ตา​ก็​เพ่ง​มอง​ไป​ใน​ความ​มืด​ยาม​ค่ำ​คืน. แสง​เรื่อ ๆ ที่​เขา​เห็น​ตรง​ขอบ​ฟ้า​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​นั้น​เป็น​สัญญาณ​บอก​เวลา​เช้า​แล้ว​ไหม? กล้ามเนื้อ​หลัง​และ​ไหล่​ของ​เขา​ปวด​ร้าว​เพราะ​พาย​เรือ​มา​นาน​หลาย​ชั่วโมง. ลม​แรง​ที่​พัด​ตี​ผม​ของ​เขา​ได้​ทำ​ให้​ทะเล​แกลิลี​ปั่นป่วน. คลื่น​ลูก​แล้ว​ลูก​เล่า​ที่​ซัด​กระแทก​หัว​เรือ​ทำ​ให้​ละออง​น้ำ​เย็น​สาด​กระเซ็น​ขึ้น​มา​จน​ตัว​เขา​เปียก​โชก. เขา​พาย​เรือ​ต่อ​ไป.

ก่อน​หน้า​นี้​เปโตร​กับ​เพื่อน ๆ เพิ่ง​ละ​พระ​เยซู​ไว้​บน​ฝั่ง​ตาม​ลำพัง. วัน​นั้น​พวก​เขา​ได้​เห็น​พระ​เยซู​เลี้ยง​อาหาร​ฝูง​ชน​ที่​หิว​นับ​พัน​คน​ด้วย​ขนมปัง​ไม่​กี่​อัน​และ​ปลา​ไม่​กี่​ตัว. ฝูง​ชน​จึง​ต้องการ​จะ​ตั้ง​พระ​เยซู​เป็น​กษัตริย์ แต่​พระองค์​ไม่​ต้องการ​เข้า​ไป​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง. และ​พระองค์​ก็​ไม่​ต้องการ​ให้​ผู้​ที่​ติด​ตาม​พระองค์​มี​ความ​ปรารถนา​เช่น​นั้น. เมื่อ​หลบ​เลี่ยง​จาก​ฝูง​ชน​แล้ว พระองค์​จึง​บอก​สาวก​ให้​ลง​เรือ​ไป​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง ส่วน​พระองค์​ก็​ขึ้น​ไป​อธิษฐาน​บน​ภูเขา​ตาม​ลำพัง.—มาระโก 6:35-45; โยฮัน 6:14, 15

ดวง​จันทร์​เกือบ​เต็ม​ดวง​ที่​ส่อง​อยู่​เหนือ​ศีรษะ​ตอน​พวก​สาวก​ออก​เรือ​มา บัด​นี้​ค่อย ๆ คล้อย​ต่ำ​ลง​ทาง​ขอบ​ฟ้า​ด้าน​ทิศ​ตะวัน​ตก. แต่​พวก​เขา​เพิ่ง​พาย​เรือ​มา​ได้​ไม่​กี่​กิโลเมตร. คลื่น​ลม​ที่​รุนแรง​ส่ง​เสียง​อื้ออึง​ทำ​ให้​พูด​คุย​กัน​ลำบาก. ดู​เหมือน​ว่า เปโตร​กำลัง​คิด​อะไร​เงียบ ๆ อยู่​คน​เดียว.

มี​เรื่อง​ให้​คิด​มาก​มาย​จริง ๆ! เขา​ได้​ติด​ตาม​พระ​เยซู​ชาว​นาซาเรท​มา​นาน​กว่า​สอง​ปี​และ​มี​เหตุ​การณ์​หลาย​อย่าง​เกิด​ขึ้น. เขา​ได้​เรียน​รู้​หลาย​สิ่ง แต่​ก็​ยัง​มี​อะไร​ที่​ต้อง​เรียน​รู้​อีก​มาก. ความ​เต็ม​ใจ​ที่​จะ​เรียน​รู้​เพื่อ​เอา​ชนะ​อุปสรรค​ต่าง ๆ เช่น ความ​สงสัย​และ​ความ​กลัว ทำ​ให้​เปโตร​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​โดด​เด่น​ซึ่ง​เรา​จะ​เลียน​แบบ​ได้. ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​เขา​เป็น​ตัว​อย่าง​อย่าง​ไร.

“พวก​เรา​พบ​พระ​มาซีฮา​แล้ว”!

เปโตร​ไม่​มี​ทาง​ลืม​วัน​นั้น​ที่​ได้​พบ​กับ​พระ​เยซู​ชาว​นาซาเรท. อันเดรอัส​น้อง​ชาย​ของ​เขา​เป็น​คน​แรก​ที่​มา​บอก​ข่าว​อัน​น่า​ตื่นเต้น​ว่า “พวก​เรา​พบ​พระ​มาซีฮา​แล้ว.” คำ​พูด​นี้​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เปโตร​เริ่ม​เปลี่ยน​ไป. ชีวิต​ของ​เขา​จะ​ไม่​กลับ​มา​เป็น​เหมือน​เดิม​อีก​เลย.—โยฮัน 1:41

เปโตร​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​คาเปอร์นาอุม​ซึ่ง​อยู่​ริม​ฝั่ง​ทะเลสาบ​น้ำ​จืด​ที่​เรียก​ว่า​ทะเล​แกลิลี. เขา​กับ​อันเดรอัส​ทำ​ธุรกิจ​ประมง​ร่วม​กับ​ยาโกโบ​และ​โยฮัน​บุตร​เซเบเดอุส. คน​ที่​อาศัย​อยู่​กับ​เปโตร​ไม่​ได้​มี​เพียง​ภรรยา​เท่า​นั้น แต่​ยัง​มี​แม่ยาย​กับ​อันเดรอัส​น้อง​ชาย​ด้วย. ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า เพื่อ​หา​เลี้ยง​ครอบครัว​โดย​การ​จับ​ปลา เขา​คง​ต้อง​ทำ​งาน​หนัก, ใช้​แรง​มาก, ทั้ง​ยัง​ต้อง​เป็น​คน​รู้​จัก​แก้​ปัญหา​ด้วย. เรา​คง​นึก​ภาพ​ออก​ว่า​มี​หลาย​คืน​ที่​เขา​ต้อง​ตรากตรำ​ทำ​งาน​อย่าง​หนัก พวก​ผู้​ชาย​หย่อน​อวน​ลง​ระหว่าง​เรือ​สอง​ลำ​และ​ช่วย​กัน​ดึง​ขึ้น​มา​บน​เรือ​ไม่​ว่า​จะ​ได้​ปลา​อะไร​ก็​ตาม. เรา​คง​นึก​ภาพ​ออก​ด้วย​ว่า​ตอน​กลางวัน​พวก​เขา​ก็​ต้อง​ทำ​งาน​หนัก​เพื่อ​คัด​ปลา​และ​เอา​ไป​ขาย รวม​ทั้ง​ซ่อมแซม​และ​ทำ​ความ​สะอาด​อวน.

คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ว่า​อันเดรอัส​เป็น​สาวก​ของ​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา. เปโตร​คง​ฟัง​น้อง​ชาย​เล่า​เกี่ยว​กับ​ข่าวสาร​ของ​โยฮัน​อย่าง​สน​อก​สนใจ​แน่ ๆ. วัน​หนึ่ง อันเดรอัส​เห็น​โยฮัน​ชี้​ไป​ที่​พระ​เยซู​ชาว​นาซาเรท​และ​บอก​ว่า “ดู​สิ พระ​เมษโปดก​ของ​พระเจ้า!” อันเดรอัส​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ทันที และ​รีบ​ไป​บอก​ข่าว​ที่​น่า​ตื่นเต้น​แก่​เปโตร​ว่า พระ​มาซีฮา​เสด็จ​มา​แล้ว! (โยฮัน 1:35-40) หลัง​จาก​การ​กบฏ​ใน​สวน​เอเดน​ประมาณ 4,000 ปี​ก่อน​หน้า​นั้น พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ได้​ทรง​สัญญา​ไว้​ว่า จะ​มี​บุคคล​สำคัญ​ผู้​หนึ่ง​มา​ปรากฏ​เพื่อ​ให้​ความ​หวัง​แท้​แก่​มนุษยชาติ. (เยเนซิศ 3:15) อันเดรอัส​ได้​พบ​ผู้​ช่วย​ให้​รอด​องค์​นี้​แล้ว คือ​พระ​มาซีฮา​นั่น​เอง! เปโตร​ก็​รีบ​ออก​ไป​พบ​พระ​เยซู​ด้วย.

ก่อน​หน้า​นี้ เปโตร​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​ชื่อ​ซีโมน. แต่​พระ​เยซู​ทรง​มอง​เขา​และ​ตรัส​ว่า “ ‘เจ้า​คือ​ซีโมน​บุตร​โยฮัน เจ้า​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เกฟา’ (ซึ่ง​แปล​เป็น​ภาษา​กรีก​ว่า​เปโตร).” (โยฮัน 1:42) “เกฟา” เป็น​คำ​นาม​แปล​ว่า “ก้อน​หิน” หรือ “ศิลา.” ดู​เหมือน​ว่า พระ​เยซู​ตรัส​ใน​เชิง​พยากรณ์. พระองค์​ทรง​ทราบ​ล่วง​หน้า​ว่า​เปโตร​จะ​เป็น​เหมือน​ศิลา คือ​แข็ง​แกร่ง, หนักแน่น​มั่นคง, และ​เป็น​พลัง​ชักจูง​ที่​วางใจ​ได้​ใน​หมู่​สาวก​ของ​พระ​คริสต์. เปโตร​คิด​ว่า​ตน​เอง​เป็น​เช่น​นั้น​ไหม? ดู​เหมือน​ว่า​เขา​เอง​ก็​ไม่​แน่​ใจ. แม้​แต่​บาง​คน​ใน​ปัจจุบัน​ที่​ได้​อ่าน​เรื่อง​ราว​ใน​หนังสือ​กิตติคุณ​ก็​รู้สึก​ว่า​เปโตร​ไม่​เหมือน​ศิลา​สัก​เท่า​ไร. บาง​คน​บอก​ว่า​เปโตร​ไม่​ค่อย​มั่นคง ไม่​หนักแน่น และ​เอา​แน่​ไม่​ได้.

จริง​อยู่ เปโตร​มี​ข้อ​บกพร่อง. พระ​เยซู​ก็​ทรง​ทราบ​เรื่อง​นั้น​ดี. แต่​พระ​เยซู​ทรง​มอง​หา​ส่วน​ดี​ของ​ผู้​คน​เสมอ​เช่น​เดียว​กับ​พระ​ยะโฮวา พระ​บิดา​ของ​พระองค์. พระ​เยซู​ทรง​เห็น​ศักยภาพ​มาก​มาย​ใน​ตัว​เปโตร และ​พระองค์​พยายาม​ช่วย​เขา​ให้​พัฒนา​คุณลักษณะ​ที่​ดี​เหล่า​นั้น. พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​บุตร​ทรง​มอง​หา​ส่วน​ดี​ใน​ตัว​พวก​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้​เช่น​กัน. เรา​อาจ​คิด​ว่า​คง​ไม่​มี​อะไร​ดี​มาก​นัก​ใน​ตัว​เรา​ที่​พระองค์​ทั้ง​สอง​จะ​เห็น. แต่​เรา​ต้อง​เชื่อ​มั่น​ใน​มุม​มอง​ของ​พระองค์​ทั้ง​สอง​และ​พิสูจน์​ตัว​ว่า​เรา​เต็ม​ใจ​ให้​พระองค์​ฝึก​สอน​และ​นวด​ปั้น​เรา​เช่น​เดียว​กับ​เปโตร.—1 โยฮัน 3:19, 20

“อย่า​กลัว​เลย”

ดู​เหมือน​ว่า​หลัง​จาก​นั้น​เปโตร​ก็​ร่วม​เดิน​ทาง​ไป​กับ​พระ​เยซู​ใน​งาน​เผยแพร่​อยู่​ช่วง​หนึ่ง. ฉะนั้น เขา​คง​ได้​เห็น​พระ​เยซู​ทำ​การ​อัศจรรย์​ครั้ง​แรก คือ​การ​เปลี่ยน​น้ำ​ให้​เป็น​เหล้า​องุ่น​ใน​งาน​สมรส​ที่​เมือง​คานา. ที่​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​นั้น​ก็​คือ เขา​ได้​ยิน​พระ​เยซู​ประกาศ​ข่าวสาร​ที่​ยอด​เยี่ยม​อัน​เปี่ยม​ด้วย​ความ​หวัง​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. ถึง​กระนั้น เขา​ก็​เลิก​ติด​ตาม​พระองค์​แล้ว​กลับ​ไป​ทำ​ธุรกิจ​ประมง​อีก. แต่​หลัง​จาก​นั้น​ไม่​กี่​เดือน​เปโตร​ก็​ได้​พบ​พระ​เยซู​อีก และ​คราว​นี้​พระ​เยซู​ทรง​เชิญ​เปโตร​มา​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​เรื่อย​ไป.

เปโตร​เพิ่ง​กลับ​จาก​การ​หา​ปลา​ทั้ง​คืน​ด้วย​ความ​ท้อ​ใจ. เขา​กับ​เพื่อน​พยายาม​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​ที่​จะ​หย่อน​อวน​ลง​ใน​ทะเล​แต่​ก็​ไม่​มี​อะไร​ติด​อวน​ขึ้น​มา​เลย. แน่นอน​ว่า เปโตร​คง​ได้​ใช้​ความ​สามารถ​และ​ประสบการณ์​ทั้ง​หมด​ที่​มี​เพื่อ​แก้​ปัญหา โดย​ลอง​หย่อน​อวน​ลง​หลาย ๆ ที่​เพื่อ​ดู​ว่า​ปลา​กำลัง​หา​กิน​อยู่​บริเวณ​ไหน. เช่น​เดียว​กับ​ชาว​ประมง​จำนวน​มาก คง​มี​หลาย​ครั้ง​แน่ ๆ ที่​เปโตร​นึก​อยาก​จะ​ให้​ตน​สามารถ​มอง​เห็น​ฝูง​ปลา​ที่​อยู่​ใต้​น้ำ​อัน​มืด​มิด​ได้ หรือ​มี​อำนาจ​เรียก​ปลา​เหล่า​นั้น​ให้​เข้า​มา​ใน​อวน​ได้. แน่​ละ การ​คิด​เช่น​นั้น​มี​แต่​จะ​ทำ​ให้​เขา​ข้องขัดใจ​มาก​ขึ้น. เปโตร​ไม่​ได้​จับ​ปลา​เพื่อ​ความ​สนุก​เพลิดเพลิน แต่​เพื่อ​หา​เลี้ยง​อีก​หลาย​คน. ใน​ที่​สุด เขา​ก็​กลับ​เข้า​ฝั่ง​มือ​เปล่า. ถึง​กระนั้น​เขา​ก็​ต้อง​ทำ​ความ​สะอาด​อวน. เขา​จึง​ง่วน​อยู่​กับ​งาน​ตอน​ที่​พระ​เยซู​มา​หา.

ฝูง​ชน​มา​ห้อม​ล้อม​พระ​เยซู กระตือรือร้น​ที่​จะ​ฟัง​คำ​สอน​ทุก​คำ​ของ​พระองค์. เนื่อง​จาก​ฝูง​ชน​เบียด​เสียด​กัน พระ​เยซู​จึง​ลง​เรือ​ของ​เปโตร​และ​ขอ​ให้​เขา​เอา​เรือ​ออก​จาก​ฝั่ง​ไป​เล็ก​น้อย. เสียง​ของ​พระ​เยซู​ที่​สะท้อน​จาก​ผิว​น้ำ​ทำ​ให้​ฝูง​ชน​ได้​ยิน​เรื่อง​ที่​พระองค์​สอน​อย่าง​ชัดเจน. เปโตร​ตั้งใจ​ฟัง​เช่น​เดียว​กับ​ฝูง​ชน​ที่​อยู่​บน​ฝั่ง. เขา​ไม่​เคย​เบื่อ​ที่​จะ​ฟัง​พระ​เยซู​อธิบาย​หัวข้อ​สำคัญ​ใน​การ​สอน​ของ​พระองค์ ซึ่ง​ก็​คือ​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. คง​จะ​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​อัน​ใหญ่​หลวง​ที่​ได้​ช่วย​พระ​คริสต์​เผยแพร่​ข่าวสาร​แห่ง​ความ​หวัง​นี้​ไป​ทั่ว​ดินแดน​นั้น! แต่​เขา​จะ​ทำ​ได้​หรือ? จะ​เลี้ยง​ดู​ตัว​เอง​อย่าง​ไร? บาง​ที​เปโตร​คง​คิด​ถึง​คืน​อัน​ยาว​นาน​ที่​เพิ่ง​ผ่าน​มา​ซึ่ง​หา​ปลา​ไม่​ได้​เลย.—ลูกา 5:1-3

เมื่อ​พระ​เยซู​สอน​เสร็จ​แล้ว พระองค์​บอก​กับ​เปโตร​ว่า “จง​ออก​ไป​ที่​น้ำ​ลึก​แล้ว​หย่อน​อวน​ของ​พวก​เจ้า​ลง​จับ​ปลา.” เปโตร​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​สงสัย. เขา​กล่าว​ว่า “อาจารย์ พวก​ข้าพเจ้า​เหนื่อย​มา​ทั้ง​คืน​และ​ไม่​ได้​ปลา​เลย แต่​ข้าพเจ้า​จะ​หย่อน​อวน​ลง​ตาม​ที่​พระองค์​สั่ง.” แน่นอน​ว่า สิ่ง​ที่​เปโตร​ไม่​อยาก​ทำ​ที่​สุด​ก็​คือ​หย่อน​อวน​ลง​อีก โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ตอน​นี้​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​ปลา​จะ​ออก​มา​หา​กิน​เลย! แต่​เขา​ก็​ทำ​ตาม และ​คง​ส่ง​สัญญาณ​ให้​เพื่อน​ที่​อยู่​ใน​เรือ​อีก​ลำ​หนึ่ง​ตาม​ไป​ด้วย.—ลูกา 5:4-7

เปโตร​รู้สึก​ได้​ถึง​อวน​ที่​หนัก​อึ้ง​ขณะ​ที่​เขา​เริ่ม​ลาก​มัน​ขึ้น​มา. เขา​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​เลย​ว่า​มัน​จะ​หนัก​ขนาด​นี้ เขา​ออก​แรง​ดึง​มาก​ขึ้น และ​ไม่​ช้า​ก็​เห็น​ปลา​จำนวน​มาก​ดิ้น​อยู่​ใน​ตาข่าย! เขา​รีบ​ส่ง​สัญญาณ​ให้​คน​ใน​เรือ​อีก​ลำ​หนึ่ง​มา​ช่วย. เมื่อ​พวก​เขา​มา​ถึง ไม่​ช้า​ก็​เห็น​ว่า​เรือ​ลำ​เดียว​ไม่​พอ​ใส่​ปลา​ทั้ง​หมด. พวก​เขา​ได้​ปลา​เต็ม​สอง​ลำ​เรือ แต่​ก็​ยัง​มี​มาก​เกิน​ไป​อยู่​ดี เรือ​จึง​แทบ​จะ​จม​เพราะ​หนัก​เกิน​ไป. เปโตร​รู้สึก​อัศจรรย์​ใจ​ยิ่ง​นัก. ก่อน​หน้า​นี้​เขา​เคย​เห็น​พระ​เยซู​แสดง​ฤทธิ์​อำนาจ​มา​แล้ว แต่​ครั้ง​นี้​พระองค์​ทำ​เพื่อ​เขา​โดย​เฉพาะ! บุรุษ​ผู้​นี้​สามารถ​ทำ​ได้​กระทั่ง​สั่ง​ปลา​ให้​มา​เข้า​อวน! เปโตร​เกิด​กลัว​ขึ้น​มา. เขา​ทรุด​ตัว​ลง​ที่​พระ​ชานุ​ของ​พระองค์​และ​กล่าว​ว่า “ข้า​แต่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ขอ​ทรง​อยู่​ห่าง​จาก​ข้าพเจ้า​เถิด​เพราะ​ข้าพเจ้า​เป็น​คน​บาป.” คน​บาป​อย่าง​เขา​จะ​ไป​คู่​ควร​กับ​การ​คบหา​ใกล้​ชิด​กับ​ผู้​ที่​ใช้​อำนาจ​จาก​พระเจ้า​ทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​ได้​อย่าง​ไร?—ลูกา 5:6-9

พระ​เยซู​ตรัส​อย่าง​กรุณา​ว่า “อย่า​กลัว​เลย. ตั้ง​แต่​นี้​ไป​เจ้า​จะ​จับ​คน.” (ลูกา 5:10, 11) นี่​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​จะ​สงสัย​หรือ​หวั่น​กลัว. ไม่​มี​เหตุ​ผล​ที่​เปโตร​จะ​กังวล​กับ​เรื่อง​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน เช่น การ​จับ​ปลา และ​ไม่​มี​เหตุ​ผล​เช่น​กัน​ที่​เขา​จะ​วิตก​กลัว​เกี่ยว​กับ​ข้อ​บกพร่อง​ของ​ตน​เอง​และ​คิด​ว่า​ตน​ไม่​มี​ความ​สามารถ​พอ. พระ​เยซู​ทรง​มี​งาน​สำคัญ​ที่​ต้อง​ทำ คือ​งาน​ประกาศ​สั่ง​สอน​ซึ่ง​จะ​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​อนาคต​ของ​มวล​มนุษย์. พระองค์​ทรง​รับใช้​พระเจ้า​ผู้ “จะ​ทรง​อภัย​อย่าง​ล้น​เหลือ.” (ยะซายา 55:7, ฉบับ R​73) พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​ดู​แล​ให้​พวก​เขา​มี​สิ่ง​จำเป็น​ทาง​ร่าง​กาย​และ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​มี​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง.—มัดธาย 6:33

เปโตร​ตอบรับ​ทันที เช่น​เดียว​กับ​ยาโกโบ​และ​โยฮัน. “พวก​เขา​จึง​นำ​เรือ​กลับ​เข้า​ฝั่ง​แล้ว​ละ​ทุก​สิ่ง​และ​ติด​ตาม​พระองค์.” (ลูกา 5:11) เปโตร​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​และ​ผู้​ที่​ส่ง​พระองค์​มา. นี่​เป็น​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​ดี​ที่​สุด​เท่า​ที่​เขา​จะ​ทำ​ได้. คริสเตียน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ที่​เอา​ชนะ​ความ​สงสัย​และ​ความ​กลัว​เพื่อ​มา​ทำ​งาน​รับใช้​พระเจ้า​ก็​ได้​แสดง​ความ​เชื่อ​เช่น​เดียว​กับ​เปโตร. การ​ไว้​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​เช่น​นั้น​จะ​ไม่​ทำ​ให้​ผิด​หวัง​อย่าง​แน่นอน.—บทเพลง​สรรเสริญ 22:4, 5

“เจ้า​สงสัย​ทำไม?”

ประมาณ​สอง​ปี​หลัง​จาก​ที่​ได้​พบ​กับ​พระ​เยซู คืน​หนึ่ง เปโตร​ได้​พาย​เรือ​ฝ่า​คลื่น​ลม​แรง​ใน​ทะเล​แกลิลี​ดัง​ที่​ได้​กล่าว​ใน​ตอน​ต้น. แน่​ละ เรา​ไม่​อาจ​รู้​ได้​ว่า​เขา​กำลัง​คิด​ถึง​เหตุ​การณ์​อะไร​ที่​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​เขา. มี​หลาย​เรื่อง​ที่​เขา​จะ​คิด​ถึง​ได้! พระ​เยซู​ได้​ทรง​รักษา​แม่ยาย​ของ​เปโตร. พระองค์​ได้​กล่าว​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา. โดย​การ​สอน​และ​ทำ​การ​อัศจรรย์ พระ​เยซู​ได้​แสดง​ให้​เห็น​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​ว่า​พระองค์​เป็น​พระ​มาซีฮา ผู้​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เลือก​สรร. ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า ขณะ​ที่​เวลา​ผ่าน​ไป​หลาย​เดือน ข้อ​บกพร่อง​ต่าง ๆ ของ​เปโตร เช่น แนว​โน้ม​ที่​จะ​เกิด​ความ​กลัว​และ​ความ​สงสัย​ขึ้น​มา​ง่าย ๆ ก็​ลด​น้อย​ลง. พระ​เยซู​ถึง​กับ​เลือก​เปโตร​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​อัครสาวก 12 คน! กระนั้น เปโตร​ก็​ยัง​ไม่​สามารถ​เอา​ชนะ​ความ​กลัว​และ​ความ​สงสัย​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง ดัง​ที่​เขา​จะ​ได้​เรียน​รู้​อีก​ไม่​นาน.

ใน​ยาม​สี่​ของ​คืน​นั้น หรือ​ช่วง​เวลา​ระหว่าง​ตี 3 ถึง​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น จู่ ๆ เปโตร​ก็​หยุด​พาย​เรือ​และ​นั่ง​ตัว​ตรง. ท่ามกลาง​คลื่น​นั้น​มี​บาง​สิ่ง​กำลัง​เคลื่อน​ไหว! เป็น​ละออง​คลื่น​ที่​สะท้อน​แสง​จันทร์​ไหม? ไม่​ใช่ มัน​อยู่​นิ่ง​เกิน​ไป และ​ตั้ง​ตรง. นั่น​คน​นี่​นา! ใช่​แล้ว คน​จริง ๆ และ​กำลัง​เดิน​อยู่​บน​ผิว​น้ำ! เมื่อ​คน​นั้น​เข้า​มา​ใกล้ ดู​เหมือน​ว่า​กำลัง​จะ​ผ่าน​พวก​เขา​ไป. พวก​สาวก​ตกใจ​กลัว​มาก​และ​คิด​ว่า​ตา​ฝาด​ไป. ผู้​นั้น​พูด​ว่า “อย่า​กลัว เรา​เอง อย่า​กลัว​เลย.” พระ​เยซู​นั่น​เอง!—มัดธาย 14:25-28

เปโตร​ทูล​ตอบ​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า ถ้า​เป็น​พระองค์ โปรด​สั่ง​ข้าพเจ้า​ให้​เดิน​บน​น้ำ​ไป​หา​พระองค์.” ที​แรก​เปโตร​มี​ความ​กล้า. เนื่อง​จาก​รู้สึก​ตื่นเต้น​มาก​กับ​การ​อัศจรรย์​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน​นี้ เปโตร​จึง​อยาก​ได้​หลักฐาน​มาก​ขึ้น​เพื่อ​ยืน​ยัน​สิ่ง​ที่​ตน​เชื่อ. เขา​ต้องการ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น. พระ​เยซู​เรียก​เขา​ให้​มา​หา​ด้วย​ความ​กรุณา. เปโตร​จึง​ปีน​ข้าม​กราบ​เรือ​ลง​ไป​เหยียบ​บน​ผิว​น้ำ​ที่​เป็น​คลื่น. คิด​ดู​สิ​ว่า เปโตร​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร​เมื่อ​พบ​ว่า​เขา​ไม่​จม​ลง​ไป​และ​กำลัง​ยืน​อยู่​บน​ผิว​น้ำ. เขา​คง​ต้อง​รู้สึก​อัศจรรย์​ใจ​อย่าง​ยิ่ง​ขณะ​ที่​เดิน​ไป​หา​พระ​เยซู. แต่​ไม่​ช้า​เขา​ก็​เกิด​ความ​รู้สึก​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ขึ้น​มา.—มัดธาย 14:29

เปโตร​จำเป็น​ต้อง​เพ่ง​มอง​ไป​ที่​พระ​เยซู​เสมอ. พระ​เยซู​คือ​ผู้​ที่​ทำ​ให้​เปโตร​เดิน​บน​น้ำ​ได้​โดย​ใช้​อำนาจ​จาก​พระ​ยะโฮวา. และ​พระ​เยซู​ทรง​ทำ​เช่น​นั้น​เพราะ​ทรง​เห็น​ว่า​เปโตร​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระองค์. แต่​เปโตร​กลับ​วอกแวก. เรา​อ่าน​ว่า “เมื่อ​เห็น​พายุ​เขา​ก็​กลัว.” เปโตร​มอง​ดู​แต่​คลื่น​ที่​ซัด​กระแทก​เรือ​และ​แตก​กระเซ็น​เป็น​ฟอง​กระจาย​ไป​กับ​ลม แล้ว​เขา​ก็​กลัว​มาก. บาง​ที​เขา​คง​นึก​ภาพ​ตัว​เอง​กำลัง​จม​ลง​ใน​ทะเลสาบ​นั้น​และ​จม​น้ำ​ตาย. ยิ่ง​เขา​กลัว ความ​เชื่อ​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​ลด​น้อย​ลง. ชาย​ที่​ได้​ชื่อ​ว่า​ศิลา​เพราะ​มี​ศักยภาพ​ที่​จะ​ยืนหยัด​มั่นคง​ก็​เริ่ม​จม​ลง​เหมือน​หิน​ก้อน​หนึ่ง​เนื่อง​จาก​ความ​เชื่อ​ที่​สั่น​คลอน. เปโตร​เป็น​คน​ว่าย​น้ำ​เก่ง แต่​เขา​ก็​ไม่​ได้​ใช้​ความ​สามารถ​นั้น​ใน​ตอน​นี้. เขา​ร้อง​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า โปรด​ช่วย​ข้าพเจ้า​ด้วย!” พระ​เยซู​จึง​จับ​มือ​เขา​และ​ดึง​ขึ้น​มา. และ​ขณะ​ที่​ยัง​อยู่​บน​ผิว​น้ำ​นั่น​เอง พระองค์​ก็​เน้น​บทเรียน​ที่​สำคัญ​กับ​เปโตร​ว่า “เจ้า​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​น้อย เจ้า​สงสัย​ทำไม?”—มัดธาย 14:30, 31

“สงสัย”—ช่าง​เป็น​คำ​ที่​เหมาะ​อะไร​เช่น​นี้! ความ​สงสัย​อาจ​เป็น​พลัง​ที่​ก่อ​ความ​เสียหาย​ได้​อย่าง​มาก​มาย. ถ้า​เรา​ยอม​แพ้​ต่อ​ความ​รู้สึก​นี้ มัน​ก็​จะ​กัด​กร่อน​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​และ​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​หมด​ไป. เรา​ต้อง​สู้​กับ​มัน​อย่าง​สุด​กำลัง! โดย​วิธี​ใด? ก็​โดย​การ​เพ่ง​มอง​ให้​ถูก​ที่. ถ้า​เรา​คิด​ถึง​แต่​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เรา​กลัว, สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เรา​ท้อ​ใจ, สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เรา​เขว​ไป​จาก​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​บุตร​ของ​พระองค์ เรา​ก็​จะ​มี​ความ​สงสัย​มาก​ขึ้น. ถ้า​เรา​เพ่ง​มอง​ที่​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​บุตร​ของ​พระองค์ มอง​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทั้ง​สอง​ได้​ทำ, กำลัง​ทำ, และ​จะ​ทำ​เพื่อ​ผู้​ที่​รัก​พระองค์ ความ​สงสัย​ก็​ไม่​อาจ​จะ​ทำลาย​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ได้.

เมื่อ​เปโตร​ตาม​พระ​เยซู​กลับ​ขึ้น​มา​บน​เรือ เขา​ก็​เห็น​ว่า​พายุ​สงบ​แล้ว. ทะเล​แกลิลี​สงบ​เงียบ. เปโตร​และ​สาวก​คน​อื่น ๆ พูด​ออก​มา​ว่า “พระองค์​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า​จริง ๆ.” (มัดธาย 14:33) เมื่อ​แสง​อาทิตย์​ยาม​เช้า​ส่อง​ไป​ทั่ว​ทะเล​สาบ หัวใจ​ของ​เปโตร​คง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​สำนึก​บุญคุณ. เขา​ได้​เรียน​รู้​ที่​จะ​เอา​ชนะ​ความ​สงสัย​และ​ความ​กลัว. จริง​อยู่ เขา​ยัง​ต้อง​ปรับ​เปลี่ยน​แก้ไข​อีก​หลาย​อย่าง​กว่า​จะ​มา​เป็น​คริสเตียน​ที่​หนักแน่น​มั่นคง​ดุจ​ศิลา​ดัง​ที่​พระ​เยซู​ได้​พยากรณ์​ไว้. แต่​เขา​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​พยายาม​ต่อ​ไป​และ​ก้าว​หน้า​ต่อ​ไป. คุณ​มี​ความ​ตั้งใจ​เช่น​นั้น​ด้วย​ไหม? คุณ​จะ​พบ​ว่า​ความ​เชื่อ​ของ​เปโตร​นั้น​ควร​ค่า​แก่​การ​เลียน​แบบ​อย่าง​แน่นอน.

[ภาพ​หน้า 22, 23]

พระ​เยซู​ทรง​มอง​เห็น​ศักยภาพ​ใน​ตัว​ชาว​ประมง​ผู้​มี​ใจ​ถ่อม​คน​นี้

[ภาพ​หน้า 23]

“ข้า​แต่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า . . . ข้าพเจ้า​เป็น​คน​บาป”

[ภาพ​หน้า 24, 25]

“เมื่อ​เห็น​พายุ​เขา​ก็​กลัว”