ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“เวลานี้แหละเป็นเวลาที่ทรงโปรดปรานเป็นพิเศษ”

“เวลานี้แหละเป็นเวลาที่ทรงโปรดปรานเป็นพิเศษ”

“เวลา​นี้​แหละ​เป็น​เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ”

“เวลา​นี้​แหละ​เป็น​เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ. เวลา​นี้​แหละ เป็น​วัน​แห่ง​ความ​รอด.”—2 โค. 6:2

1. เหตุ​ใด​เรา​ต้อง​รู้​ว่า​เวลา​ไหน​ควร​ทำ​อะไร?

“มี​วาระ​กำหนด​ไว้​สำหรับ​ทุก​สิ่ง​และ​มี​วาระ​สำหรับ​โครงการ​ทุก​อย่าง​ภาย​ใต้​ฟ้า.” (ผู้ป. 3:1) ใน​ที่​นี้ โซโลมอน​กล่าว​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​การ​รู้​ว่า​เวลา​ไหน​เหมาะ​ที่​สุด​สำหรับ​การ​ทำ​สิ่ง​ใด ๆ ก็​ตาม​ที่​คุ้มค่า ไม่​ว่า​จะ​เป็น​การ​เกษตร, การ​เดิน​ทาง, การ​ทำ​ธุรกิจ, หรือ​การ​สื่อ​ความ​กับ​คน​อื่น ๆ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เรา​ต้อง​รู้​ด้วย​ว่า​งาน​อะไร​สำคัญ​ที่​สุด​ที่​เรา​ต้อง​ทำ​ใน​ช่วง​เวลา​ใด​เวลา​หนึ่ง. กล่าว​อีก​อย่าง​หนึ่ง เรา​ต้อง​ตรวจ​ดู​ให้​แน่​ใจ​ว่า​สิ่ง​ไหน​สำคัญ​กว่า.

2. เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก พระองค์​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ว่า​เวลา​ที่​พระองค์​มี​ชีวิต​อยู่​นั้น​เป็น​เวลา​ที่​ต้อง​ทำ​อะไร?

2 ตอน​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก พระ​เยซู​ทรง​รู้​ว่า​เวลา​ที่​พระองค์​มี​ชีวิต​อยู่​นั้น​เป็น​เวลา​ที่​ต้อง​ทำ​อะไร. ด้วย​เหตุ​ที่​พระองค์​ทรง​ตระหนัก​ว่า​สิ่ง​ไหน​สำคัญ​กว่า พระองค์​จึง​รู้​ว่า​ใกล้​ถึง​เวลา​ที่​คำ​พยากรณ์​หลาย​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​พระ​มาซีฮา​ซึ่ง​คอย​กัน​มา​นาน​นั้น​จะ​สำเร็จ. (1 เป. 1:11; วิ. 19:10) พระองค์​ต้อง​ทำ​ให้​ผู้​คน​เห็น​ชัด​ว่า​พระองค์​ทรง​เป็น​พระ​มาซีฮา​ที่​ทรง​สัญญา. พระองค์​ต้อง​ประกาศ​ความ​จริง​เรื่อง​ราชอาณาจักร​อย่าง​ถี่ถ้วน​และ​รวบ​รวม​คน​เหล่า​นั้น​ที่​จะ​เป็น​รัชทายาท​ร่วม​กับ​พระองค์​ใน​ราชอาณาจักร. และ​พระองค์​ต้อง​วาง​รากฐาน​ไว้​สำหรับ​ประชาคม​คริสเตียน​ที่​จะ​ทำ​งาน​ประกาศ​และ​สอน​คน​ให้​เป็น​สาวก​จน​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก.—มโก. 1:15

3. การ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ตระหนัก​เรื่อง​เวลา​ส่ง​ผล​ต่อ​การ​กระทำ​ของ​พระองค์​อย่าง​ไร?

3 การ​ตระหนัก​เช่น​นั้น​เป็น​แรง​กระตุ้น​ที่​ดี​ที่​ทำ​ให้​พระองค์​มี​ใจ​แรง​กล้า​ใน​การ​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​บิดา. พระองค์​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ว่า “การ​เกี่ยว​เป็น​งาน​ใหญ่ แต่​คน​งาน​มี​น้อย. ฉะนั้น จง​ขอ​เจ้าของ​งาน​เกี่ยว​ให้​ส่ง​คน​งาน​ออก​ไป​ใน​งาน​เกี่ยว​ของ​พระองค์.” (ลูกา 10:2; มลคี. 4:5, 6) ที​แรก​พระ​เยซู​ทรง​เลือก​สาวก 12 คน​ก่อน​และ​ต่อ​มา​ทรง​เลือก​อีก 70 คน สั่ง​พวก​เขา​ว่า​ควร​ทำ​อะไร​และ​ไม่​ควร​ทำ​อะไร แล้ว​ส่ง​พวก​เขา​ออก​ไป​ประกาศ​ข่าวสาร​ที่​ทำ​ให้​ผู้​คน​ตื่น​ตัว​ว่า “ราชอาณาจักร​สวรรค์​มา​ใกล้​แล้ว.” สำหรับ​พระ​เยซู​เอง​นั้น เรา​อ่าน​ว่า “เมื่อ [พระองค์] ตรัส​สั่ง​สอน​สาวก​สิบ​สอง​คน​เสร็จ​แล้ว พระองค์​จึง​เสด็จ​จาก​ที่​นั่น​ไป​สอน​และ​ประกาศ​ใน​เมือง​ต่าง ๆ.”—มัด. 10:5-7; 11:1; ลูกา 10:1

4. เปาโล​เป็น​ผู้​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​คริสต์​โดย​วิธี​ใด?

4 พระ​เยซู​ทรง​เป็น​แบบ​อย่าง​ที่​สมบูรณ์​เกี่ยว​กับ​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​และ​ความ​เลื่อมใส​พระเจ้า​สำหรับ​เหล่า​สาวก​ทุก​คน. นี่​คือ​สิ่ง​ที่​อัครสาวก​เปาโล​ชี้​ให้​เห็น​เมื่อ​ท่าน​กระตุ้น​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ว่า “จง​เป็น​ผู้​เลียน​แบบ​ข้าพเจ้า​เหมือน​ที่​ข้าพเจ้า​เป็น​ผู้​เลียน​แบบ​พระ​คริสต์.” (1 โค. 11:1) เปาโล​เป็น​ผู้​เลียน​แบบ​พระ​คริสต์​โดย​วิธี​ใด? วิธี​หนึ่ง​ที่​สำคัญ​คือ​ท่าน​ประกาศ​ข่าว​ดี​อย่าง​ทุ่มเท. ใน​จดหมาย​ที่​เปาโล​เขียน​ถึง​ประชาคม​ต่าง ๆ เรา​พบ​ถ้อย​คำ​อย่าง​เช่น “อย่า​เกียจ​คร้าน​ใน​การ​งาน​ของ​พวก​ท่าน,” “จง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ทาส​ที่​ขยัน​ขันแข็ง,” “จง​หมกมุ่น​ใน​การ​ทำ​งาน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ซึ่ง​มี​ให้​ทำ​มาก​มาย,” และ “ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ทำ​อะไร​ก็​ตาม จง​ทำ​อย่าง​สุด​ชีวิต​อย่าง​ที่​ทำ​ถวาย​พระ​ยะโฮวา.” (โรม 12:11; 1 โค. 15:58; โกโล. 3:23) เปาโล​ไม่​เคย​ลืม​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​บน​เส้น​ทาง​ไป​เมือง​ดามัสกัส​และ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​สาวก​อะนานีอัส​คง​ได้​ถ่ายทอด​ให้​ท่าน​ฟัง ที่​ว่า “ชาย​ผู้​นี้​เป็น​ภาชนะ​ที่​เรา​เลือก​ไว้​เพื่อ​ประกาศ​นาม​ของ​เรา​แก่​ชน​ต่าง​ชาติ​รวม​ทั้ง​กษัตริย์​ทั้ง​หลาย​และ​ชน​อิสราเอล.”—กิจ. 9:15; โรม 1:1, 5; กลา. 1:16

“เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ”

5. อะไร​กระตุ้น​เปาโล​ให้​ทำ​งาน​รับใช้​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า?

5 เมื่อ​อ่าน​หนังสือ​กิจการ เรา​จะ​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​เปาโล​มี​ความ​กระตือรือร้น​และ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ใน​การ​ทำ​งาน​รับใช้​ให้​สำเร็จ. (กิจ. 13:9, 10; 17:16, 17; 18:5) เปาโล​ตระหนัก​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​เวลา​ที่​ท่าน​มี​ชีวิต​อยู่. ท่าน​กล่าว​ว่า “เวลา​นี้​แหละ​เป็น​เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ. เวลา​นี้​แหละ​เป็น​วัน​แห่ง​ความ​รอด.” (2 โค. 6:2) ย้อน​ไป​ใน​ปี 537 ก่อน​สากล​ศักราช ตอน​นั้น​เป็น​เวลา​ที่​พระเจ้า​ทรง​โปรด​ให้​เชลย​ใน​บาบิโลน​กลับ​สู่​มาตุภูมิ​ของ​ตน. (ยซา. 49:8, 9) แต่​ใน​ที่​นี้​เปาโล​กล่าว​ถึง​อะไร? บริบท​ช่วย​เรา​ให้​ทราบ​ว่า​ท่าน​คิด​เรื่อง​อะไร.

6, 7. คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ได้​รับ​เกียรติ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​อะไร​ใน​ทุก​วัน​นี้ และ​ใคร​กำลัง​ทำ​งาน​กับ​ผู้​ถูก​เจิม?

6 ก่อน​หน้า​นั้น​ใน​จดหมาย​ของ​เปาโล ท่าน​กล่าว​ถึง​สิ่ง​ที่​นับ​ว่า​เป็น​เกียรติ​อย่าง​ยิ่ง​ที่​ท่าน​และ​เพื่อน​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ได้​รับ. (อ่าน 2 โครินท์ 5:18-20) ท่าน​อธิบาย​ว่า​พระเจ้า​ทรง​เรียก​พวก​เขา​เพื่อ​จุด​ประสงค์​อย่าง​หนึ่ง คือ​เพื่อ “ทำ​งาน​รับใช้​เกี่ยว​กับ​การ​คืน​ดี” ขอร้อง​ผู้​คน​ให้ “คืน​ดี​กับ​พระเจ้า.” นั่น​หมาย​ถึง​การ​ฟื้นฟู​มิตรภาพ​หรือ​การ​ปรองดอง​กับ​พระเจ้า.

7 นับ​ตั้ง​แต่​การ​ขืน​อำนาจ​ใน​สวน​เอเดน มนุษยชาติ​ทั้ง​สิ้น​ห่าง​เหิน​จาก​พระ​ยะโฮวา. (โรม 3:10, 23) การ​ห่าง​เหิน​เช่น​นั้น​เป็น​เหตุ​ให้​มนุษย์​โดย​ทั่ว​ไป​อยู่​ใน​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ความ​ทุกข์​ยาก​และ​ความ​ตาย. เปาโล​เขียน​ว่า “เรา​รู้​ว่า​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ทั้ง​ปวง​ล้วน​คร่ำ​ครวญ​ด้วย​กัน​และ​เจ็บ​ปวด​ด้วย​กัน​จน​บัด​นี้.” (โรม 8:22) แต่​พระเจ้า​ทรง​ดำเนิน​การ​เพื่อ​กระตุ้น และ​ที่​จริง​ถึง​กับ “ขอร้อง” ผู้​คน​ด้วย​ซ้ำ ให้​กลับ​มา​หา​หรือ​คืน​ดี​กับ​พระองค์. นั่น​คือ​งาน​รับใช้​ที่​ทรง​มอบหมาย​ให้​เปาโล​กับ​เพื่อน​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ใน​สมัย​นั้น. “เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน” นั้น​อาจ​เป็น “วัน​แห่ง​ความ​รอด” สำหรับ​คน​ที่​เชื่อ​พระ​เยซู. คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ทั้ง​หมด​และ “แกะ​อื่น” สหาย​ของ​พวก​เขา​ซึ่ง​กำลัง​ทำ​งาน​ด้วย​กัน​ใน​เวลา​นี้​ยัง​คง​เชิญ​ผู้​คน​ให้​รับ​ประโยชน์​จาก “เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน” ต่อ ๆ ไป.—โย. 10:16

8. อะไร​ทำ​ให้​การ​เชิญ​ให้​กลับ​คืน​ดี​เป็น​เรื่อง​น่า​ทึ่ง?

8 การ​ที่​พระเจ้า​เชิญ​ผู้​คน​ให้​กลับ​คืน​ดี​กับ​พระองค์​เป็น​เรื่อง​น่า​ทึ่ง​มาก​ขึ้น​ไป​อีก​เพราะ​แม้​ว่า​ความ​แตก​แยก​นั้น​เกิด​ขึ้น​จาก​ฝ่าย​เดียว คือ​จาก​การ​ขืน​อำนาจ​ของ​มนุษย์​ใน​สวน​เอเดน พระเจ้า​เอง​ทรง​เป็น​ฝ่าย​ริเริ่ม​ที่​จะ​แก้ไข​ความ​แตก​แยก​นั้น. (1 โย. 4:10, 19) พระองค์​ทรง​ทำ​อะไร? เปาโล​ตอบ​ว่า “พระเจ้า​ทรง​ใช้​พระ​คริสต์​ทำ​ให้​โลก​คืน​ดี​กับ​พระองค์​โดย​ไม่​ทรง​ถือ​โทษ​ที่​พวก​เขา​ล่วง​ละเมิด และ​ทรง​ฝาก​ข่าวสาร​เรื่อง​การ​คืน​ดี​ไว้​กับ​เรา.”—2 โค. 5:19; ยซา. 55:6

9. เปาโล​ทำ​อะไร​ที่​แสดง​ว่า​ท่าน​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​พระเจ้า​ทรง​เมตตา?

9 ด้วย​การ​จัด​เตรียม​เครื่อง​บูชา​ไถ่ พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทำ​ให้​เป็น​ไป​ได้​ที่​ผู้​แสดง​ความ​เชื่อ​จะ​ได้​รับ​การ​ให้​อภัย​สำหรับ​การ​ล่วง​ละเมิด​ของ​ตน​และ​ได้​รับ​การ​ฟื้นฟู​มิตรภาพ​หรือ​ปรองดอง​กับ​พระองค์. นอก​จาก​นั้น พระองค์​ทรง​ส่ง​ตัว​แทน​ของ​พระองค์​ออก​ไป​กระตุ้น​ผู้​คน​ทุก​แห่ง​หน​ให้​สร้าง​สันติ​กับ​พระองค์​ขณะ​ที่​เขา​ยัง​ทำ​ได้. (อ่าน 1 ติโมเธียว 2:3-6) เนื่อง​จาก​เปาโล​เข้าใจ​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​และ​ตระหนัก​ว่า​ท่าน​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​เวลา​ใด ท่าน​จึง​ทุ่มเท​ตัว​อย่าง​ไม่​รู้​จัก​เหน็ด​เหนื่อย​ใน​การ “ทำ​งาน​รับใช้​เกี่ยว​กับ​การ​คืน​ดี.” พระ​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​เปลี่ยน. พระองค์​ยัง​คง​ยื่น​พระ​หัตถ์​เชิญ​ผู้​คน​ให้​คืน​ดี​กับ​พระองค์​ใน​สมัย​เรา. ถ้อย​คำ​ของ​เปาโล​ที่​ว่า “เวลา​นี้​แหละ​เป็น​เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ” และ “เวลา​นี้​แหละ​เป็น​วัน​แห่ง​ความ​รอด” ยัง​คง​ใช้​ได้​อยู่. พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ช่าง​เปี่ยม​ด้วย​พระ​เมตตา​และ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​จริง ๆ!—เอ็ก. 34:6, 7

อย่า “พลาด​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​พระ​กรุณา”

10. “วัน​แห่ง​ความ​รอด” มี​ความ​หมาย​เช่น​ไร​สำหรับ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม ทั้ง​ใน​อดีต​และ​ปัจจุบัน?

10 คน​กลุ่ม​แรก​ที่​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​การ​แสดง​พระ​กรุณา​อัน​ใหญ่​หลวง​นี้​คือ​คน​ที่ “เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กับ​พระ​คริสต์.” (2 โค. 5:17, 18) “วัน​แห่ง​ความ​รอด” สำหรับ​พวก​เขา​เริ่ม​ต้น​ใน​วัน​เพนเทคอสต์ สากล​ศักราช 33. นับ​แต่​นั้น​มา คน​เหล่า​นี้​ได้​รับ​มอบหมาย​งาน​ให้​ประกาศ “ข่าวสาร​เรื่อง​การ​คืน​ดี.” ทุก​วัน​นี้ ชน​ที่​เหลือ​แห่ง​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ยัง​คง “ทำ​งาน​รับใช้​เกี่ยว​กับ​การ​คืน​ดี.” พวก​เขา​รู้​ว่า​ทูตสวรรค์​สี่​องค์​ที่​อัครสาวก​โยฮัน​เห็น​ใน​ภาพ​นิมิต​เชิง​พยากรณ์ “กำลัง​ห้าม​ลม​จาก​สี่​ทิศ​ไม่​ให้​พัด​โดน​แผ่นดิน.” ดัง​นั้น ทุก​วัน​นี้​จึง​ยัง​คง​เป็น “วัน​แห่ง​ความ​รอด” และ​เป็น “เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ.” (วิ. 7:1-3) ด้วย​เหตุ​นี้ นับ​ตั้ง​แต่​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 20 ชน​ที่​เหลือ​ผู้​ถูก​เจิม​ได้​ทุ่มเท​ตัว​เอง​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​เพื่อ “ทำ​งาน​รับใช้​เกี่ยว​กับ​การ​คืน​ดี” ไป​ทั่ว​ทุก​มุม​โลก.

11, 12. ใน​ช่วง​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 20 คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พวก​เขา​สำนึก​ถึง​เรื่อง​เวลา​อย่าง​ไร? (ดู​ภาพ​หน้า 15)

11 ตัว​อย่าง​เช่น ดัง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​หนังสือ​พยาน​พระ​ยะโฮวา—ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า (ภาษา​อังกฤษ) เมื่อ​ย่าง​เข้า​สู่​ศตวรรษ​ที่ 20 สากล​ศักราช “ซี.ที. รัสเซลล์​กับ​เพื่อน​ร่วม​งาน​เชื่อ​มั่น​ว่า​พวก​เขา​อยู่​ใน​ช่วง​เวลา​เก็บ​เกี่ยว​และ​ผู้​คน​ต้อง​ได้​ยิน​ความ​จริง​ซึ่ง​ทำ​ให้​เป็น​อิสระ.” พวก​เขา​ทำ​อะไร​ใน​เรื่อง​นี้? เนื่อง​จาก​ตระหนัก​ว่า​พวก​เขา​อยู่​ใน​ช่วง​เวลา​เก็บ​เกี่ยว ซึ่ง​เป็น “เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ” พี่​น้อง​เหล่า​นี้​จึง​ไม่​พอ​ใจ​เพียง​แค่​เชิญ​ผู้​คน​ให้​มา​ร่วม​พิธี​ทาง​ศาสนา. พวก​นัก​เทศน์​นัก​บวช​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​ทำ​อย่าง​นั้น​มา​นาน​แล้ว. แทน​ที่​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น พวก​เขา​เริ่ม​หา​วิธี​อื่น ๆ ที่​ใช้​ได้​จริง​ใน​การ​แพร่​กระจาย​ข่าว​ดี. ตัว​อย่าง​เช่น พวก​เขา​ใช้​เทคโนโลยี​ล่า​สุด​ให้​เป็น​ประโยชน์​ใน​การ​ส่ง​เสริม​งาน​ให้​ก้าว​หน้า.

12 เพื่อ​แพร่​กระจาย​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร ผู้​รับใช้​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า​กลุ่ม​เล็ก ๆ นี้​ใช้​แผ่น​พับ, ใบ​ปลิว, วารสาร, และ​หนังสือ. พวก​เขา​ยัง​ได้​เตรียม​คำ​เทศน์​และ​บทความ​ส่ง​ไป​ตี​พิมพ์​ใน​หนังสือ​พิมพ์​หลาย​พัน​ชื่อ​ฉบับ. พวก​เขา​จัด​รายการ​เกี่ยว​กับ​พระ​คัมภีร์​และ​ถ่ายทอด​ทาง​เครือข่าย​สถานี​วิทยุ​แห่ง​ชาติ​และ​นานา​ชาติ. พวก​เขา​ผลิต​และ​ฉาย​ภาพ​เคลื่อน​ไหว​ให้​ตรง​กับ​เสียง​บรรยาย​ที่​บันทึก​ไว้ ตั้ง​แต่​ก่อน​ที่​อุตสาหกรรม​ภาพยนตร์​จะ​ฉาย​ภาพยนตร์​ที่​มี​เสียง​ประกอบ​ให้​สาธารณชน​ได้​ชม. การ​ทำ​งาน​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​อย่าง​ไม่​ย่อท้อ​เช่น​นั้น​ก่อ​ให้​เกิด​ผล​เช่น​ไร? ปัจจุบัน​มี​ผู้​คน​ประมาณ​เจ็ด​ล้าน​คน​ที่​ตอบรับ​และ​ร่วม​ประกาศ​ข่าวสาร​ที่​ว่า “คืน​ดี​กับ​พระเจ้า​เถิด.” จริง​ที​เดียว ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ยุค​แรก ๆ เหล่า​นั้น​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ใน​เรื่อง​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​แม้​พวก​เขา​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​มี​ข้อ​จำกัด.

13. เรา​ควร​พิจารณา​พระ​ประสงค์​อะไร​ของ​พระเจ้า?

13 ถ้อย​คำ​ของ​เปาโล​ที่​ว่า “เวลา​นี้​แหละ​เป็น​เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ” ยัง​คง​เป็น​ความ​จริง. พวก​เรา​ที่​ได้​รับ​พระ​กรุณา​อัน​ใหญ่​หลวง​ของ​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​เรา​มี​โอกาส​ได้​ยิน​และ​ตอบรับ​ข่าวสาร​เรื่อง​การ​คืน​ดี. แทน​ที่​จะ​นิ่ง​นอน​ใจ เรา​พิจารณา​ถ้อย​คำ​ต่อ​ไป​นี้​ของ​เปาโล​อย่าง​จริงจัง ที่​ว่า “เรา​จึง​วิงวอน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​อีก​ว่า อย่า​รับ​พระ​กรุณา​อัน​ใหญ่​หลวง​ของ​พระเจ้า​แล้ว​พลาด​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​พระ​กรุณา​นั้น.” (2 โค. 6:1) จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​พระ​กรุณา​อัน​ใหญ่​หลวง​ของ​พระเจ้า​คือ “ให้​โลก​คืน​ดี​กับ​พระองค์” โดย​ทาง​พระ​คริสต์.—2 โค. 5:19

14. มี​เหตุ​การณ์​ที่​ดี​อะไร​กำลัง​เกิด​ขึ้น​ใน​หลาย​ดินแดน?

14 มนุษยชาติ​ส่วน​ใหญ่​ซึ่ง​ถูก​ซาตาน​ปิด​หู​ปิด​ตา​ยัง​คง​ห่าง​เหิน​จาก​พระเจ้า​และ​ไม่​รู้​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​พระ​กรุณา​อัน​ใหญ่​หลวง​ของ​พระเจ้า. (2 โค. 4:3, 4; 1 โย. 5:19) อย่าง​ไร​ก็​ตาม สภาพ​โลก​ที่​แย่​ลง​เรื่อย ๆ ทำ​ให้​หลาย​คน​ตอบรับ​เมื่อ​ได้​รับ​การ​ชี้​แจง​ให้​เห็น​ว่า​การ​ห่าง​เหิน​จาก​พระเจ้า​เป็น​ราก​เหง้า​ของ​ความ​ชั่ว​และ​ความ​ทุกข์​ยาก​ของ​มนุษย์. แม้​แต่​ใน​ดินแดน​ที่​คน​ส่วน​ใหญ่​ไม่​แยแส​งาน​ประกาศ​ของ​เรา หลาย​คน​ใน​เวลา​นี้​กำลัง​ตอบรับ​ความ​จริง​และ​ลง​มือ​กระทำ​เพื่อ​จะ​กลับ​คืน​ดี​กับ​พระเจ้า. เมื่อ​เป็น​อย่าง​นั้น เรา​เข้าใจ​ไหม​ว่า​นี่​เป็น​เวลา​ที่​เรา​ต้อง​ทุ่มเท​ตัว​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​ยิ่ง​ขึ้น​อีก​เพื่อ​ส่ง​คำ​วิงวอน​ที่​ว่า “คืน​ดี​กับ​พระเจ้า​เถิด”?

15. แทน​ที่​จะ​ประกาศ​ข่าวสาร​เพียง​เพื่อ​ทำ​ให้​ผู้​คน​รู้สึก​ดี เรา​ต้องการ​ให้​ประชาชน​ทุก​แห่ง​หน​รู้​อะไร?

15 งาน​ของ​เรา​ไม่​ใช่​เพียง​แค่​บอก​ผู้​คน​ว่า​ถ้า​พวก​เขา​หัน​มา​หา​พระเจ้า พระองค์​จะ​ช่วย​แก้​ปัญหา​ทั้ง​หมด​ให้​พวก​เขา​และ​พวก​เขา​จะ​รู้สึก​ดี​ขึ้น. เมื่อ​ไป​โบสถ์​หลาย​คน​มอง​หา​เพียง​แค่​สิ่ง​นี้ และ​คริสตจักร​ก็​พร้อม​ที่​จะ​สนอง​ความ​ปรารถนา​นี้. (2 ติโม. 4:3, 4) นั่น​ไม่​ใช่​เป้าหมาย​ของ​เรา​ใน​งาน​รับใช้. ข่าว​ดี​ที่​เรา​ประกาศ​คือ พระ​ยะโฮวา​ทรง​รัก​เรา​และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​จึง​ทรง​เต็ม​พระทัย​จะ​ให้​อภัย​ความ​ผิด​ของ​เรา​โดย​ทาง​พระ​คริสต์. ด้วย​เหตุ​นั้น คน​เรา​สามารถ​หลุด​พ้น​จาก​สภาพ​เหินห่าง​จาก​พระเจ้า​และ​กลับ​มา​คืน​ดี​กับ​พระองค์. (โรม 5:10; 8:32) อย่าง​ไร​ก็​ตาม “เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ” ใกล้​จะ​หมด​ลง​แล้ว.

“จง​รุ่ง​โรจน์​ด้วย​พระ​วิญญาณ”

16. อะไร​ช่วย​ให้​เปาโล​มี​ความ​กล้า​หาญ​และ​ใจ​แรง​กล้า?

16 ถ้า​อย่าง​นั้น เรา​จะ​พัฒนา​และ​รักษา​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​เพื่อ​การ​นมัสการ​แท้​ได้​อย่าง​ไร? บาง​คน​อาจ​ขี้อาย​หรือ​มี​นิสัย​ชอบ​เก็บ​ตัว​และ​อาจ​รู้สึก​ว่า​ยาก​ที่​จะ​แสดง​ความ​รู้สึก​ออก​มา​อย่าง​เปิด​เผย​หรือ​ยาก​ที่​จะ​พบ​ปะ​พูด​คุย​กับ​ผู้​คน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม นับ​ว่า​ดี​ที่​จะ​จำ​ไว้​ว่า​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ไม่​จำเป็น​ต้อง​แสดง​ออก​ทาง​อารมณ์​หรือ​ด้วย​ท่าที​ที่​ตื่นเต้น​เสมอ​ไป อีก​ทั้ง​ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​บุคลิกภาพ​ของ​คน​เรา. เปาโล​ชี้​ให้​เห็น​วิธี​ที่​จะ​พัฒนา​และ​รักษา​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​เมื่อ​ท่าน​กระตุ้น​เพื่อน​คริสเตียน​ว่า “จง​รุ่ง​โรจน์​ด้วย​พระ​วิญญาณ.” (โรม 12:11) พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​มี​บทบาท​สำคัญ​ที่​ทำ​ให้​อัครสาวก​มี​ความ​กล้า​และ​ความ​ทรหด​อด​ทน​ใน​การ​ทำ​งาน​ประกาศ. ตั้ง​แต่​ตอน​ที่​เปาโล​ถูก​พระ​เยซู​เรียก​จน​กระทั่ง​ถึง​วาระ​สุด​ท้าย​เมื่อ​ท่าน​ถูก​จำ​คุก​และ​ถูก​ประหาร​ชีวิต​ใน​กรุง​โรม ซึ่ง​เป็น​ช่วง​เวลา​นาน​กว่า 30 ปี ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ของ​ท่าน​ไม่​เคย​ลด​น้อย​ถอย​ลง. เปาโล​หมาย​พึ่ง​พระเจ้า​เสมอ ผู้​ซึ่ง​ประทาน​กำลัง​ที่​จำเป็น​แก่​ท่าน​โดย​ทาง​พระ​วิญญาณ. ท่าน​กล่าว​ว่า “ข้าพเจ้า​มี​กำลัง​สำหรับ​ทุก​สิ่ง​โดย​พระองค์​ผู้​ทรง​ประทาน​กำลัง​แก่​ข้าพเจ้า.” (ฟิลิป. 4:13) เรา​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​อย่าง​มาก​หาก​เรา​ศึกษา​ตัว​อย่าง​ของ​ท่าน!

17. เรา​จะ “รุ่ง​โรจน์​ด้วย​พระ​วิญญาณ” ได้​อย่าง​ไร?

17 คำ​ที่​แปล​ว่า “รุ่ง​โรจน์” มี​ความ​หมาย​ตาม​ตัว​อักษร​ว่า “เดือด.” (ฉบับ​แปล​คิงดอม อินเตอร์ลิเนียร์) เพื่อ​จะ​ให้​น้ำ​ใน​กา​เดือด​ตลอด เรา​ต้อง​เติม​เชื้อเพลิง​อยู่​เรื่อย ๆ. คล้าย​กัน เพื่อ​จะ “รุ่ง​โรจน์​ด้วย​พระ​วิญญาณ” เรา​ต้อง​ให้​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ดำเนิน​กิจ​ใน​ตัว​เรา​เสมอ. เพื่อ​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น เรา​ต้อง​ใช้​การ​จัด​เตรียม​ทุก​อย่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​เสริม​ความ​เข้มแข็ง​ฝ่าย​วิญญาณ. นั่น​หมาย​ถึง​การ​เอา​จริง​เอา​จัง​ใน​การ​นมัสการ​ประจำ​ครอบครัว​และ​ที่​ประชาคม โดย​รักษา​กิจวัตร​ใน​การ​ศึกษา​ส่วน​ตัว, การ​ศึกษา​ครอบครัว, การ​อธิษฐาน, และ​การ​ประชุม​กับ​เพื่อน​คริสเตียน. นั่น​จะ​ช่วย​เรา​ให้​มี “ไฟ” ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​เรา “รุ่ง​โรจน์​ด้วย​พระ​วิญญาณ” อยู่​เสมอ.—อ่าน​กิจการ 4:20; 18:25

18. ใน​ฐานะ​คริสเตียน​ที่​อุทิศ​ตัว​แล้ว เรา​ควร​มอง​ไป​ที่​เป้าหมาย​อะไร?

18 ผู้​ที่​อุทิศ​ตัว​แล้ว​มอง​ไป​ที่​เป้าหมาย​เพียง​อย่าง​เดียว​และ​ไม่​เขว​ไป​ง่าย ๆ หรือ​ท้อ​แท้​เลิก​ติด​ตาม​เป้าหมาย​นั้น. ใน​ฐานะ​คริสเตียน​ที่​อุทิศ​ตัว​แล้ว เป้าหมาย​ของ​เรา​ก็​คือ​ทำ​อะไร​ก็​ตาม​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประสงค์​ให้​เรา​ทำ เช่น​เดียว​กับ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ทำ. (ฮีบรู 10:7) ปัจจุบัน พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประสงค์​ให้​ผู้​คน​มาก​เท่า​ที่​จะ​มาก​ได้​กลับ​คืน​ดี​กับ​พระองค์. ด้วย​เหตุ​นั้น ให้​เรา​ทุ่มเท​ตัว​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า เลียน​แบบ​พระ​เยซู​และ​เปาโล​ใน​การ​ทำ​งาน​ที่​เร่ง​ด่วน​และ​สำคัญ​ที่​สุด​ที่​ต้อง​ทำ​ใน​ทุก​วัน​นี้.

คุณ​จำ​ได้​ไหม?

• เปาโล​และ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​คน​อื่น ๆ ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​อะไร?

• ชน​ที่​เหลือ​ผู้​ถูก​เจิม​ใช้ “เวลา​ที่​ทรง​โปรดปราน​เป็น​พิเศษ” ให้​เป็น​ประโยชน์​อย่าง​ไร?

• คริสเตียน​ผู้​รับใช้​จะ “รุ่ง​โรจน์​ด้วย​พระ​วิญญาณ” ได้​อย่าง​ไร?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 12]

เปาโล​ไม่​เคย​ลืม​เหตุการณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​บน​เส้น​ทาง​ไป​เมือง​ดามัสกัส