ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คัมภีร์ไบเบิลเปลี่ยนชีวิตคน

คัมภีร์ไบเบิลเปลี่ยนชีวิตคน

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​คน

ทำไม​ผู้​หญิง​วัย​หก​สิบ​ปี​คน​หนึ่ง​จึง​เลิก​นมัสการ​รูป​เคารพ? อะไร​ทำ​ให้​นัก​บวช​ใน​ศาสนา​ชินโต​คน​หนึ่ง​ลา​ออก​มา​เป็น​คริสเตียน​ผู้​เผยแพร่? ผู้​หญิง​ที่​ถูก​เลี้ยง​ดู​โดย​พ่อ​แม่​บุญธรรม​ตั้ง​แต่​เกิด​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​ที่​ถูก​ทอดทิ้ง​ได้​อย่าง​ไร? เชิญ​อ่าน​เรื่อง​ราว​ที่​พวก​เขา​จะ​เล่า​ต่อ​ไป​นี้.

‘ฉัน​ไม่​เป็น​ทาส​รูป​เคารพ​อีก​ต่อ​ไป.’​—อาบา ดันซู

ปี​เกิด: 1938

ประเทศ​บ้าน​เกิด: เบนิน

อดีต: ผู้​นมัสการ​รูป​เคารพ

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา: ฉัน​เติบโต​ขึ้น​ที่​หมู่​บ้าน​โซ-ชาฮูวี ซึ่ง​อยู่​ใน​ที่​ลุ่ม​ชื้น​แฉะ​ใกล้​ทะเลสาบ. คน​ใน​หมู่​บ้าน​ของ​ฉัน​หา​เลี้ยง​ชีพ​ด้วย​การ​จับ​ปลา เลี้ยง​ปศุสัตว์ รวม​ถึง​แพะ แกะ หมู และ​นก​ด้วย. ใน​เขต​ที่​ฉัน​อยู่​ไม่​มี​ถนน ผู้​คน​จึง​ไป​ไหน​มา​ไหน​ด้วย​เรือ​และ​เรือ​แคนู. บ้าน​เรือน​ส่วน​ใหญ่​สร้าง​ด้วย​ไม้​และ​หญ้า​แต่​ก็​มี​บ้าน​บาง​หลัง​ที่​สร้าง​ด้วย​อิฐ. ชาว​บ้าน​ส่วน​ใหญ่​มี​ฐานะ​ยาก​จน. แต่​ถึง​อย่าง​นั้น​ก็​ไม่​มี​อาชญากรรม​มาก​เหมือน​ใน​เมือง​ใหญ่ ๆ.

ตอน​เป็น​เด็ก พ่อ​ส่ง​ฉัน​กับ​พี่​สาว​ไป​อยู่​โรง​เรียน​ประจำ​ที่​สอน​ศาสนา เรา​จึง​ถูก​สอน​ให้​บูชา​รูป​เคารพ​และ​เครื่องราง​ต่าง ๆ. พอ​โต​ขึ้น​ฉัน​ก็​บูชา​เทพ​ดูดูอา (โอดูดูวา) ของ​ชาว​โยรูบา. ฉัน​สร้าง​ที่​ประทับ​สำหรับ​เทพ​องค์​นี้​และ​เซ่น​ไหว้​เป็น​ประจำ​ด้วย​สิ่ง​ของ​ต่าง ๆ เช่น มัน​เทศ น้ำมัน​ปาล์ม หอย​ทาก ไก่ นก​พิราบ และ​สัตว์​อีก​หลาย​ชนิด. ของ​เซ่น​ไหว้​เหล่า​นี้​มี​ราคา​แพง​มาก​และ​บ่อย​ครั้ง​ทำ​ให้​ฉัน​เกือบ​หมด​เนื้อ​หมด​ตัว.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ฉัน​อย่าง​ไร: เมื่อ​ฉัน​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล ฉัน​ได้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​เดียว. ฉัน​ยัง​ได้​เรียน​รู้​ด้วย​ว่า​พระองค์​ไม่​ยอม​รับ​การ​นมัสการ​ที่​ใช้​รูป​เคารพ. (เอ็กโซโด 20:4, 5; 1 โครินท์ 10:14) ฉัน​รู้​ตัว​ดี​ว่า​ฉัน​ต้อง​ทำ​อะไร. ฉัน​จึง​เอา​รูป​เคารพ​ทั้ง​หมด​ไป​ทิ้ง​และ​ขจัด​ทุก​สิ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​บูชา​รูป​เคารพ​ออก​ไป​จาก​บ้าน. ฉัน​เลิก​ไป​ปรึกษา​เทพ​พยากรณ์​ทั้ง​หลาย และ​เลิก​เข้า​ร่วม​พิธีกรรม​ทาง​ศาสนา​รวม​ทั้ง​พิธี​ศพ​ของ​คน​ใน​หมู่​บ้าน.

การ​เปลี่ยน​แปลง​ทั้ง​หมด​นี้​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​สำหรับ​ผู้​หญิง​วัย​หก​สิบ​อย่าง​ฉัน. เพื่อน​ฝูง ญาติ ๆ และ​เพื่อน​บ้าน​ต่าง​ก็​ต่อต้าน​และ​เยาะเย้ย​ฉัน. แต่​ฉัน​อธิษฐาน​ขอ​กำลัง​จาก​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง. ฉัน​ได้​รับ​กำลังใจ​จาก​ถ้อย​คำ​ใน​สุภาษิต 18:10 ที่​ว่า “พระ​นาม​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ป้อม​เข้มแข็ง, คน​ชอบธรรม​ทั้ง​ปวง​วิ่ง​เข้า​ไป​ก็​พ้น​ภัย.”

อีก​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ช่วย​ฉัน​คือ​การ​เข้า​ร่วม​ประชุม​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ที่​หอ​ประชุม ฉัน​ได้​เห็น​ความ​รัก​แบบ​คริสเตียน​และ​ฉัน​ประทับใจ​ที่​ผู้​คน​เหล่า​นี้​พยายาม​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ศีลธรรม​อัน​สูง​ส่ง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. สิ่ง​ที่​ได้​เห็น​ทำ​ให้​ฉัน​มั่น​ใจ​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คือ​กลุ่ม​ที่​นับถือ​ศาสนา​แท้.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ: การ​นำ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ใช้​ช่วย​ให้​ฉัน​กับ​ลูก ๆ ใกล้​ชิด​กัน​มาก​ขึ้น. นอก​จาก​นั้น ฉัน​ยัง​รู้สึก​โล่ง​ใจ​ที่​ไม่​ต้อง​แบก​ภาระ​ที่​เคย​แบก​มา​นาน​อีก​ต่อ​ไป. ฉัน​เคย​หมด​เงิน​ไป​มาก​มาย​กับ​รูป​เคารพ​ที่​ไร้​ชีวิต​ซึ่ง​ช่วย​อะไร​ฉัน​ไม่​ได้​สัก​อย่าง. ตอน​นี้​ฉัน​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา ผู้​ทรง​สามารถ​แก้​ปัญหา​ของ​มนุษย์​ทุก​คน​ได้​อย่าง​ถาวร. (วิวรณ์ 21:3, 4) ฉัน​มี​ความ​สุข​เหลือ​เกิน​ที่​ไม่​ต้อง​เป็น​ทาส​รูป​เคารพ​อีก​ต่อ​ไป​แต่​เป็น​ทาส​ของ​พระ​ยะโฮวา​แทน! พระองค์​คือ​ผู้​ที่​ให้​การ​ปก​ป้อง​คุ้มครอง​และ​ช่วย​ให้​ฉัน​รู้สึก​ปลอด​ภัย​อย่าง​แท้​จริง.

“ผม​แสวง​หา​พระเจ้า​ตั้ง​แต่​ยัง​เด็ก.”​—ชินจิ ซาโตะ

ปี​เกิด: 1951

ประเทศ​บ้าน​เกิด: ญี่ปุ่น

อดีต: นัก​บวช​ชินโต

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา: ผม​โต​ขึ้น​ใน​เมือง​หนึ่ง​แถบ​ชนบท​ของ​จังหวัด​ฟู​กู​โอกะ. พ่อ​แม่​ผม​เป็น​คน​เคร่ง​ศาสนา​มาก และ​ตั้ง​แต่​เล็ก​ท่าน​สอน​ให้​ผม​เลื่อมใส​ใน​เทพเจ้า​ของ​ชินโต. ตอน​เป็น​เด็ก ผม​มัก​จะ​คิด​อยู่​บ่อย ๆ ว่า​ทำ​อย่าง​ไร​จึง​จะ​หลุด​พ้น​และ​ผม​ต้องการ​เหลือ​เกิน​ที่​จะ​ช่วย​ผู้​คน​ให้​พ้น​ทุกข์. ผม​จำ​ได้​ว่า​ครั้ง​หนึ่ง​เมื่อ​ยัง​อยู่​ชั้น​ประถม ครู​ถาม​นัก​เรียน​ใน​ชั้น​ว่า​อยาก​ทำ​อะไร​เมื่อ​โต​ขึ้น. เพื่อน​นัก​เรียน​ต่าง​ก็​พูด​ถึง​เป้าหมาย​ที่​แน่นอน​ของ​ตัว​เอง เช่น อยาก​เป็น​นัก​วิทยาศาสตร์. แต่​ผม​บอก​ว่า​ผม​อยาก​รับใช้​พระเจ้า. แล้ว​ทุก​คน​ก็​หัวเราะ​ผม.

หลัง​จาก​จบ​มัธยม​ปลาย ผม​ไป​เข้า​โรง​เรียน​นัก​ธรรม​เพื่อ​จะ​เป็น​ครู​สอน​ศาสนา. ใน​ช่วง​นั้น ผม​ได้​พบ​กับ​นัก​บวช​ชินโต​คน​หนึ่ง​ที่​ชอบ​อ่าน​หนังสือ​ปก​ดำ​ยาม​ว่าง. วัน​หนึ่ง​นัก​บวช​คน​นั้น​ถาม​ผม​ว่า “ซาโตะ คุณ​รู้​ไหม​นี่​หนังสือ​อะไร?” ผม​เคย​เห็น​ชื่อ​บน​ปก​หนังสือ​นั้น​มา​แล้ว ผม​จึง​ตอบ​ว่า “คัมภีร์​ไบเบิล​ครับ.” เขา​บอก​ว่า “ทุก​คน​ที่​อยาก​เป็น​นัก​บวช​ชินโต​ควร​อ่าน​หนังสือ​นี้.”

ผม​รีบ​ไป​ซื้อ​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ทันที. ผม​วาง​พระ​คัมภีร์​ไว้​บน​ชั้น​หนังสือ​ตรง​ที่​เห็น​ได้​ชัด​ที่​สุด​และ​ดู​แล​อย่าง​ดี. แต่​ผม​ไม่​มี​เวลา​อ่าน​พระ​คัมภีร์​เลย​เพราะ​เรียน​หนัก​มาก. เมื่อ​เรียน​จบ ผม​เริ่ม​ทำ​งาน​เป็น​นัก​บวช​ชินโต​ใน​ศาล​เจ้า​แห่ง​หนึ่ง. ความ​ฝัน​ใน​วัย​เด็ก​ของ​ผม​กลาย​เป็น​ความ​จริง.

แต่​ต่อ​มา​ไม่​นาน ผม​ก็​ได้​พบ​ว่า​การ​เป็น​นัก​บวช​ชินโต​ไม่​ได้​เป็น​อย่าง​ที่​ผม​คิด. นัก​บวช​ส่วน​ใหญ่​แทบ​ไม่​ได้​แสดง​ความ​รัก​และ​ความ​ห่วงใย​ต่อ​ผู้​อื่น. นอก​จาก​นี้ หลาย​คน​ยัง​ขาด​ความ​เชื่อ​ด้วย. นัก​บวช​ที่​อาวุโส​กว่า​คน​หนึ่ง​ถึง​กับ​บอก​ผม​ว่า “ถ้า​คุณ​อยาก​เป็น​นัก​บวช​ที่​มี​ชื่อเสียง​ที่​นี่ คุณ​ต้อง​พูด​แต่​เรื่อง​ปรัชญา​เท่า​นั้น. อย่า​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​เป็น​อัน​ขาด.”

คำ​พูด​ของ​เขา​ทำ​ให้​ผม​ผิด​หวัง​กับ​ศาสนา​ชินโต. แม้​ผม​จะ​ยัง​ทำ​งาน​ที่​ศาล​เจ้า แต่​ผม​ก็​เริ่ม​ตรวจ​สอบ​ศาสนา​อื่น ๆ ด้วย. ถึง​กระนั้น ศาสนา​ไหน ๆ ก็​ดู​จะ​เหมือน​กัน​ไป​หมด. ยิ่ง​ตรวจ​สอบ​หลาย​ศาสนา​ผม​ก็​ยิ่ง​ท้อ​ใจ​มาก​ขึ้น. ผม​รู้สึก​ว่า​ไม่​มี​ศาสนา​ใด​เลย​ที่​สอน​ความ​จริง.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ผม​อย่าง​ไร: พอ​ถึง​ปี 1988 ผม​ได้​พบ​ชาว​พุทธ​คน​หนึ่ง​ที่​แนะ​ให้​ผม​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล. ผม​นึก​ถึง​นัก​บวช​ชินโต​คน​นั้น​ที่​เคย​บอก​ผม​ให้​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน​เมื่อ​หลาย​ปี​ก่อน. ผม​ตัดสิน​ใจ​ทำ​ตาม​ที่​เขา​แนะ​นำ. ทันที​ที่​เริ่ม​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​ก็​ติด​ใจ​จน​วาง​ไม่​ลง. บาง​ครั้ง​ผม​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ตั้ง​แต่​กลาง​คืน​ยัน​รุ่ง​เช้า​จน​แสง​อาทิตย์​ลอด​เข้า​มา​ทาง​หน้าต่าง.

สิ่ง​ที่​ผม​ได้​อ่าน​ทำ​ให้​ผม​อยาก​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. ผม​เริ่ม​ท่อง​ตาม​คำ​อธิษฐาน​แบบ​อย่าง​ที่​มัดธาย 6:9-13. ผม​ท่อง​คำ​อธิษฐาน​นี้​ทุก​สอง​ชั่วโมง แม้​แต่​ตอน​ที่​กำลัง​ประกอบ​พิธี​ศาสนา​อยู่​ใน​ศาล​เจ้า.

ผม​มี​คำ​ถาม​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ที่​อ่าน. ตอน​นั้น​ผม​แต่งงาน​แล้ว และ​ผม​รู้​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอน​ผู้​คน​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​เพราะ​พวก​เขา​เคย​มา​เยี่ยม​ภรรยา​ของ​ผม. ผม​พยายาม​ติด​ต่อ​กับ​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​และ​ถาม​คำ​ถาม​เธอ​หลาย​ข้อ. ผม​ประทับใจ​ที่​เธอ​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​ตอบ​คำ​ถาม​ทุก​ข้อ​ของ​ผม. เธอ​ขอ​ให้​พยาน​ฯ อีก​คน​หนึ่ง​มา​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ผม.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ผม​ก็​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ตอน​แรก​ผม​ไม่​รู้​ว่า​ใน​หอ​ประชุม​นั้น​มี​พยาน​ฯ บาง​คน​ที่​ผม​เคย​แสดง​กิริยา​หยาบคาย​ต่อ​พวก​เขา. แต่​พวก​เขา​ก็​เข้า​มา​ทักทาย​ผม​อย่าง​เป็น​กัน​เอง และ​นั่น​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​ว่า​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​อย่าง​อบอุ่น.

ที่​การ​ประชุม ผม​ได้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​คาด​หมาย​ให้​สามี​แสดง​ความ​รัก​และ​ให้​เกียรติ​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว. ตลอด​เวลา​ที่​ผ่าน​มา ผม​มัว​แต่​หมกมุ่น​อยู่​กับ​การ​ทำ​หน้า​ที่​นัก​บวช​จน​ไม่​ได้​ใส่​ใจ​ภรรยา​และ​ลูก​ทั้ง​สอง​คน. ผม​มา​ตระหนัก​ว่า​เมื่อ​มี​คน​มา​ขอ​คำ​ปรึกษา​จาก​ผม​ที่​ศาล​เจ้า ผม​จะ​ตั้งใจ​ฟัง​พวก​เขา​อย่าง​ดี แต่​ผม​กลับ​ไม่​เคย​สนใจ​ฟัง​ภรรยา​พูด​เลย​สัก​ครั้ง.

เมื่อ​ศึกษา​มาก​ขึ้น สิ่ง​ที่​ผม​ได้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ผม​อยาก​ใกล้​ชิด​พระองค์. ผม​ประทับใจ​เป็น​พิเศษ​เมื่อ​ได้​อ่าน​โรม 10:13 ที่​บอก​ว่า “ทุก​คน​ที่​ทูล​อ้อน​วอน​โดย​ออก​พระ​นาม​พระ​ยะโฮวา​จะ​รอด.” ผม​แสวง​หา​พระเจ้า​ตั้ง​แต่​ยัง​เด็ก และ​ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​ได้​พบ​พระองค์!

ผม​เริ่ม​รู้สึก​ว่า​ผม​ไม่​ควร​จะ​ทำ​งาน​ใน​ศาล​เจ้า​อีก​ต่อ​ไป. ตอน​แรก​ผม​กังวล​ว่า​คน​อื่น​จะ​คิด​อย่าง​ไร​ถ้า​ผม​ออก​จาก​ศาสนา​ชินโต. แต่​ผม​เคย​บอก​ตัว​เอง​เสมอ​ว่า​ถ้า​ผม​พบ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​เมื่อ​ไร ผม​จะ​ไป​จาก​ศาสนา​นี้​ทันที. ดัง​นั้น ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี 1989 ผม​จึง​ตัดสิน​ใจ​ทำ​สิ่ง​ที่​ผม​ควร​ทำ. ผม​ลา​ออก​จาก​ศาสนา​ชินโต​และ​ฝาก​ชีวิต​ของ​ผม​ไว้​ใน​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​ยะโฮวา.

การ​เปลี่ยน​ศาสนา​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​เลย. นัก​บวช​ที่​อาวุโส​กว่า​พา​กัน​ด่า​ว่า​ผม​และ​ทำ​ทุก​วิถี​ทาง​ไม่​ให้​ผม​ลา​ออก. แต่​ที่​ยาก​กว่า​นั้น​คือ​การ​บอก​ให้​พ่อ​แม่​รู้​เรื่อง​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ผม. ระหว่าง​ที่​กำลัง​ไป​บ้าน​พ่อ​แม่ ผม​รู้สึก​เครียด​และ​กังวล​มาก​จน​เจ็บ​แน่น​หน้า​อก​และ​แข้ง​ขา​ก็​อ่อน​เปลี้ย​ไป​หมด! ผม​ต้อง​หยุด​หลาย​ครั้ง​เพื่อ​อธิษฐาน​ขอ​กำลัง​จาก​พระ​ยะโฮวา.

เมื่อ​มา​ถึง​บ้าน​พ่อ​แม่ ตอน​แรก​ผม​รู้สึก​กลัว​มาก​จน​ไม่​กล้า​พูด​ถึง​เรื่อง​นั้น. หลัง​จาก​ผ่าน​ไป​หลาย​ชั่วโมง​และ​อธิษฐาน​ไป​หลาย​รอบ ใน​ที่​สุด ผม​ก็​กล้า​อธิบาย​เรื่อง​ทั้ง​หมด​ให้​พ่อ​ฟัง. ผม​บอก​ท่าน​ว่า​ผม​ได้​พบ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​แล้ว และ​ผม​กำลัง​จะ​ลา​ออก​จาก​ศาสนา​ชินโต​เพื่อ​รับใช้​พระองค์. พ่อ​ตกใจ​และ​เสียใจ​มาก. ญาติ​หลาย​คน​มา​ที่​บ้าน​และ​พยายาม​เกลี้ยกล่อม​ให้​ผม​เปลี่ยน​ใจ. ผม​ไม่​อยาก​ทำ​ให้​ครอบครัว​เสียใจ แต่​ใน​ขณะ​เดียว​กัน​ผม​ก็​รู้​ว่า​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​เป็น​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​และ​ควร​ทำ​อย่าง​ยิ่ง. ใน​เวลา​ต่อ​มา ครอบครัว​ก็​ยอม​รับ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ผม.

แม้​ผม​จะ​ไม่​ได้​เป็น​นัก​บวช​ใน​ศาสนา​ชินโต​แล้ว แต่​ผม​ก็​ยัง​ต้อง​ใช้​เวลา​อีก​นาน​กว่า​จะ​ปรับ​เปลี่ยน​ความ​คิด​ได้. ผม​เคย​ชิน​กับ​การ​ใช้​ชีวิต​แบบ​นัก​บวช​มา​นาน. ผม​พยายาม​อย่าง​หนัก​ที่​จะ​ลืม แต่​ไม่​ว่า​จะ​หัน​ไป​ทาง​ไหน​ก็​มี​แต่​สิ่ง​ที่​คอย​เตือน​ให้​นึก​ถึง​ชีวิต​ใน​อดีต.

มี​สอง​อย่าง​ที่​ช่วย​ผม​ขจัด​อิทธิพล​เก่า ๆ ให้​หมด​ไป. อย่าง​แรก ผม​ค้น​ดู​ทั่ว​บ้าน​ว่า​มี​อะไร​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ศาสนา​เดิม​หลง​เหลือ​อยู่​บ้าง. แล้ว​ผม​ก็​เผา​ทุก​อย่าง​ทิ้ง ทั้ง​หนังสือ รูป​ภาพ แม้​แต่​ของ​ที่​มี​ค่า​และ​ราคา​แพง. อย่าง​ที่​สอง ผม​หา​โอกาส​คบหา​สมาคม​กับ​พยาน​ฯ ให้​มาก​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​เป็น​ไป​ได้. มิตรภาพ​และ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พวก​เขา​ช่วย​ผม​มาก​ที​เดียว. แล้ว​ชีวิต​แบบ​เก่า​ก็​ค่อย ๆ เลือน​หาย​ไป​จาก​ความ​ทรง​จำ​ของ​ผม.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ: ผม​เคย​ละเลย​ภรรยา​และ​ลูก ๆ ทำ​ให้​พวก​เขา​รู้สึก​ถูก​ทอดทิ้ง. แต่​เมื่อ​ผม​เริ่ม​ให้​เวลา​กับ​ครอบครัว​มาก​ขึ้น​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ให้​กับ​สามี พวก​เรา​ก็​ใกล้​ชิด​กัน​มาก​ขึ้น. ต่อ​มา ภรรยา​ของ​ผม​ก็​มา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ด้วย. ตอน​นี้​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ของ​เรา ทั้ง​ลูก​ชาย ลูก​สาว​และ​สามี​ของ​เธอ​ก็​มา​เป็น​ผู้​นมัสการ​แท้​เช่น​กัน.

เมื่อ​ย้อน​นึก​ถึง​ความ​ฝัน​ใน​วัย​เด็ก​ที่​อยาก​รับใช้​พระเจ้า​และ​ช่วยเหลือ​เพื่อน​มนุษย์ ผม​เห็น​แล้ว​ว่า​ผม​ได้​ทุก​สิ่ง​ที่​แสวง​หา และ​ยัง​ได้​มาก​กว่า​นั้น​ด้วย​ซ้ำ. ผม​ซาบซึ้ง​ใน​พระ​กรุณาคุณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​มาก​เหลือ​เกิน​จน​ไม่​อาจ​พรรณนา​เป็น​คำ​พูด​ได้.

“ฉัน​รู้​ว่า​มี​อะไร​บาง​อย่าง​ขาด​หาย​ไป.”—ลีเนตต์ ฮอฟติง

ปี​เกิด: 1958

ประเทศ​บ้าน​เกิด: แอฟริกา​ใต้

อดีต: รู้สึก​ถูก​ทอดทิ้ง

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา: ฉัน​เกิด​ที่​เจอร์มิสตัน เมือง​ของ​ชน​ชั้น​กลาง​ที่​มี​การ​ทำ​เหมือง​แร่​และ​เป็น​เมือง​ที่​ไม่​มี​อาชญากรรม​มาก​นัก. พ่อ​แม่​ตัดสิน​ใจ​ยก​ฉัน​ให้​คน​อื่น​เพราะ​คิด​ว่า​ไม่​สามารถ​เลี้ยง​ดู​ฉัน​ได้. เมื่อ​อายุ​ได้​เพียง 14 วัน ก็​มี​คู่​สมรส​ที่​ใจ​ดี​คู่​หนึ่ง​มา​รับ​ฉัน​ไป​เลี้ยง และ​ฉัน​เข้าใจ​มา​ตลอด​ว่า​ท่าน​คือ​พ่อ​แม่​แท้ ๆ ของ​ฉัน. แต่​หลัง​จาก​ได้​รู้​เรื่อง​ราว​ของ​ตัว​เอง ฉัน​ก็​รู้สึก​ขมขื่น​ที่​ถูก​พ่อ​แม่​ทอดทิ้ง. ฉัน​เริ่ม​รู้สึก​ว่า​ฉัน​ไม่​ใช่​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ครอบครัว​นี้ และ​พ่อ​แม่​บุญธรรม​ก็​ไม่​เข้าใจ​ฉัน.

พอ​อายุ​ประมาณ 16 ปี ฉัน​เริ่ม​ออก​เที่ยว​กับ​เพื่อน ๆ ตาม​คลับ​ตาม​บาร์ เต้น​รำ​และ​ฟัง​เพลง​ด้วย​กัน. ฉัน​เริ่ม​สูบ​บุหรี่​ตอน​อายุ 17 ปี. ฉัน​อยาก​ผอม​เหมือน​นาง​แบบ​ใน​โฆษณา​บุหรี่. เมื่อ​อายุ 19 ปี ฉัน​ย้าย​ไป​ทำ​งาน​ที่​เมือง​โจฮันเนสเบิร์ก และ​เพื่อน​ใหม่​ที่​คบ​ก็​ล้วน​แต่​เป็น​คน​ไม่​ดี​ทั้ง​นั้น. ไม่​นาน ฉัน​ก็​เริ่ม​พูด​จา​หยาบคาย ติด​บุหรี่ และ​พอ​สุด​สัปดาห์​ฉัน​ก็​เอา​แต่​ดื่ม​เหล้า.

แม้​จะ​ทำ​ตัว​แบบ​นี้ ฉัน​ก็​ยัง​เป็น​คน​ที่​แข็งแรง​กระฉับกระเฉง. ฉัน​เต้น​แอโรบิก เล่น​สควอช และ​เล่น​ฟุตบอล​เป็น​ประจำ. นอก​จาก​นั้น ฉัน​ยัง​ทำ​งาน​หนัก​มาก​จน​เริ่ม​มี​ชื่อเสียง​ใน​แวดวง​คอมพิวเตอร์. ฉัน​มี​เงิน​ใช้​จ่าย​อย่าง​เหลือ​เฟือ และ​หลาย​คน​ก็​บอก​ว่า​ฉัน​ประสบ​ความ​สำเร็จ​แล้ว. แต่​จริง ๆ แล้ว​ฉัน​ไม่​มี​ความ​สุข​เลย ฉัน​รู้สึก​สับสน​และ​ผิด​หวัง​กับ​ชีวิต. ลึก ๆ ใน​ใจ ฉัน​รู้​ว่า​มี​อะไร​บาง​อย่าง​ขาด​หาย​ไป.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ฉัน​อย่าง​ไร: เมื่อ​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล ฉัน​ก็​ได้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​แห่ง​ความ​รัก. ฉัน​ยัง​ได้​รู้​ด้วย​ว่า​พระองค์​ทรง​แสดง​ความ​รัก​โดย​ประทาน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระองค์​แก่​เรา. พระ​คัมภีร์​เป็น​เหมือน​จดหมาย​ที่​พระองค์​เขียน​ถึง​เรา​เป็น​ส่วน​ตัว​เพื่อ​แนะ​แนว​ทาง​ชีวิต​ให้​เรา. (ยะซายา 48:17, 18) ฉัน​ตระหนัก​ว่า​ถ้า​ฉัน​ต้องการ​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​การ​ชี้​นำ​ด้วย​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา ฉัน​ต้อง​เปลี่ยน​แปลง​ชีวิต​ขนาน​ใหญ่.

เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ฉัน​จำเป็น​ต้อง​เปลี่ยน​คือ​เรื่อง​เพื่อน. ข้อ​คัมภีร์​ที่​กระตุ้น​ใจ​ฉัน​คือ​สุภาษิต 13:20 ซึ่ง​กล่าว​ว่า “จง​ดำเนิน​กับ​คน​มี​ปัญญา; แต่​การ​คบ​ค้า​กับ​คน​โฉด​เขลา​จะ​ได้​รับ​ความ​เจ็บ​แสบ.” หลักการ​ข้อ​นี้​กระตุ้น​ให้​ฉัน​เลิก​คบ​กับ​เพื่อน​เก่า ๆ และ​หัน​มา​คบหา​กับ​เพื่อน​ใหม่​ที่​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

เรื่อง​ที่​ยาก​ที่​สุด​สำหรับ​ฉัน​คือ​การ​เลิก​บุหรี่ เพราะ​ฉัน​ติด​บุหรี่​มาก. ระหว่าง​ที่​ฉัน​พยายาม​จะ​เลิก ฉัน​ก็​ต้อง​เจอ​กับ​ปัญหา​อีก​อย่าง​หนึ่ง. การ​เลิก​บุหรี่​ทำ​ให้​น้ำหนัก​ของ​ฉัน​เพิ่ม​ขึ้น​เกือบ 14 กิโลกรัม! เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​ฉัน​สูญ​เสีย​ความ​มั่น​ใจ​ใน​ตัว​เอง​ไป​มาก​ที​เดียว และ​ต้อง​ใช้​เวลา​นาน​เกือบ​สิบ​ปี​กว่า​จะ​ลด​น้ำหนัก​ได้​เท่า​เดิม. แต่​ฉัน​ก็​รู้​ว่า​การ​เลิก​บุหรี่​เป็น​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง. ฉัน​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​เสมอ​และ​พระองค์​ก็​ประทาน​กำลัง​ให้​ฉัน​จน​เลิก​บุหรี่​ได้​สำเร็จ.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ: เดี๋ยว​นี้​ฉัน​มี​สุขภาพ​ดี​ขึ้น. นอก​จาก​นั้น ฉัน​ยัง​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​กับ​ชีวิต. ฉัน​เลิก​ไขว่​คว้า​หา​ความ​สุข​จอม​ปลอม​ที่​เคย​คิด​ว่า​จะ​ได้​จาก​หน้า​ที่​การ​งาน ฐานะ​ทาง​สังคม และ​ความ​มั่งคั่ง​ร่ำรวย. ตอน​นี้​ฉัน​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​บอก​คน​อื่น ๆ ให้​รู้​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล. ผล​คือ​อดีต​เพื่อน​ร่วม​งาน​สาม​คน​ของ​ฉัน​ได้​เข้า​มา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ร่วม​กับ​ฉัน​และ​สามี. ก่อน​ที่​พ่อ​แม่​บุญธรรม​จะ​เสีย​ชีวิต ฉัน​มี​โอกาส​ได้​บอก​พวก​ท่าน​เกี่ยว​กับ​คำ​สัญญา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก.

การ​เข้า​มา​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ฉัน​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​ที่​ถูก​ทอดทิ้ง. พระองค์​ช่วย​ให้​ฉัน​รู้สึก​อบอุ่น​ที่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ครอบครัว​คริสเตียน​ทั่ว​โลก. ใน​ครอบครัว​นี้ ฉัน​มี​พ่อ แม่ และ​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​มาก​มาย​หลาย​คน.—มาระโก 10:29, 30

[ภาพ​หน้า 12]

ฉัน​ได้​เห็น​ความ​รัก​แบบ​คริสเตียน​ท่ามกลาง​พยาน​พระ​ยะโฮวา

[ภาพ​หน้า 13]

ศาล​เจ้า​ชินโต​ที่​เคย​เป็น​สถาน​นมัสการ​ของ​ผม