พระยะโฮวาทรงรู้จักคุณไหม?
พระยะโฮวาทรงรู้จักคุณไหม?
“พระยะโฮวาทรงรู้จักผู้ที่เป็นคนของพระองค์.”—2 ติโม. 2:19
1, 2. (ก) พระเยซูทรงเป็นห่วงในเรื่องใด? (ข) เราควรพิจารณาคำถามอะไร?
วันหนึ่งมีฟาริซายคนหนึ่งเข้ามาหาพระเยซูและถามว่า “พระบัญญัติข้อใดสำคัญที่สุด?” พระเยซูทรงตอบว่า “จงรักพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดหัวใจของเจ้า ด้วยสุดชีวิตของเจ้า และด้วยสุดความคิดของเจ้า.” (มัด. 22:35-37) พระเยซูทรงรักพระบิดาของพระองค์ผู้อยู่ในสวรรค์อย่างยิ่งและทรงดำเนินชีวิตสมกับที่พระองค์ตรัสอย่างแท้จริง. พระเยซูยังเป็นห่วงเรื่องสายสัมพันธ์ของพระองค์กับพระยะโฮวาด้วย ซึ่งเห็นได้จากการที่พระองค์ทรงดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์. ด้วยเหตุนั้น ไม่นานก่อนจะสิ้นพระชนม์ พระเยซูจึงตรัสได้ว่าพระเจ้าทรงรู้จักพระองค์ในฐานะผู้ที่เชื่อฟังพระบัญชาของพระบิดาอย่างซื่อสัตย์. พระเยซูจึงทรงเป็นที่รักของพระยะโฮวาเสมอ.—โย. 15:10
2 หลายคนในทุกวันนี้อ้างว่ารักพระเจ้า. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราเองก็อยู่ในบรรดาคนเหล่านี้ด้วย. อย่างไรก็ตาม มีแง่มุมที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง: ‘พระเจ้าทรงรู้จักฉันไหม? พระยะโฮวาทรงมองฉันอย่างไร? พระองค์ทรงถือว่าฉันเป็นคนของพระองค์ไหม?’ (2 ติโม. 2:19) ช่างเป็นสิทธิพิเศษสักเพียงไรที่เรามีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับองค์ใหญ่ยิ่งแห่งเอกภพ!
3. เหตุใดบางคนจึงสงสัยว่าพวกเขาจะเป็นคนของพระยะโฮวาได้หรือไม่ และอะไรจะช่วยแก้ไขความคิดเช่นนั้น?
3 กระนั้น บางคนที่รักพระยะโฮวามากรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าพระเจ้าทรงรู้จักและยอมรับพวกเขา. บางคนรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า พวกเขาจึงสงสัยว่าเขาจะเป็นคนของพระยะโฮวาได้อย่างไร. แต่น่ายินดีสักเพียงไรที่พระเจ้าไม่ได้มองเราอย่างนั้น! (1 ซามู. 16:7) อัครสาวกเปาโลบอกเพื่อนคริสเตียนว่า “ถ้าใครรักพระเจ้า พระองค์ทรงรู้จักคนนั้น.” (1 โค. 8:3) คุณต้องรักพระเจ้าก่อน พระองค์จึงจะรู้จักคุณ. ขอให้คิดว่าทำไมคุณอ่านวารสารนี้? ทำไมคุณพยายามรับใช้พระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจ สุดชีวิต สุดความคิด และสุดกำลัง? ถ้าคุณอุทิศตัวแด่พระเจ้าและรับบัพติสมาแล้ว อะไรชักนำให้คุณทำอย่างนั้น? คัมภีร์ไบเบิลอธิบายว่าพระยะโฮวา ผู้ทรงตรวจดูหัวใจ ชักนำคนที่พระองค์ทรงเห็นว่าน่าปรารถนาเข้ามานมัสการพระองค์. (อ่านฮาฆี 2:7; โยฮัน 6:44) ดังนั้น คุณอาจลงความเห็นได้ว่าคุณกำลังรับใช้พระยะโฮวาเพราะพระองค์ทรงชักนำคุณ. พระองค์จะไม่มีวันละทิ้งผู้คนที่พระองค์ทรงชักนำตราบใดที่พวกเขายังคงซื่อสัตย์ต่อพระองค์. พระเจ้าทรงถือว่าพวกเขามีค่ามาก และพระองค์ทรงรักพวกเขาอย่างยิ่ง.—เพลง. 94:14
4. เหตุใดเราควรมองว่าสายสัมพันธ์ที่เรามีกับพระเจ้าเป็นสิ่งล้ำค่าเสมอ?
4 เมื่อพระยะโฮวาทรงชักนำเราแล้ว เราต้องทำตัวให้เป็นที่รักของพระองค์อยู่เสมอ. (อ่านยูดา 20, 21) อย่าลืมว่า คัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นว่าคนเราอาจลอยห่างหรือเอาตัวออกห่างจากพระเจ้าได้. (ฮีบรู 2:1; 3:12, 13) ตัวอย่างเช่น ก่อนที่จะเขียนข้อความที่ 2 ติโมเธียว 2:19 อัครสาวกเปาโลกล่าวถึงฮีเมเนอุสกับฟิเลทุส. เห็นได้ชัดว่าครั้งหนึ่งทั้งสองคนนี้เคยเป็นคนของพระยะโฮวา แต่ต่อมาพวกเขาหลงไปจากความจริง. (2 ติโม. 2:16-18) ขอให้นึกถึงคริสเตียนในประชาคมกาลาเทียด้วยว่าบางคนที่พระเจ้าทรงรู้จักไม่ได้รักษาตัวให้อยู่ในความสว่างฝ่ายวิญญาณที่พวกเขาเคยอยู่อีกต่อไป. (กลา. 4:9) ขอเราอย่ามองว่าสายสัมพันธ์อันล้ำค่าที่เรามีกับพระเจ้าเป็นเรื่องเล็กน้อย.
5. (ก) คุณลักษณะบางอย่างที่พระเจ้าทรงเห็นค่าคืออะไร? (ข) เราจะพิจารณาตัวอย่างอะไรบ้าง?
เพลง. 15:1-5; 1 เป. 3:4) ความเชื่อและความถ่อมทำให้บางคนที่พระเจ้าทรงรู้จักแตกต่างจากคนอื่น ๆ. ขอให้เราพิจารณาตัวอย่างของชายสองคนเพื่อจะดูว่าคุณลักษณะทั้งสองอย่างนี้ทำให้พวกเขาเป็นที่รักของพระยะโฮวาอย่างไร. เราจะพิจารณาตัวอย่างของชายอีกคนหนึ่งด้วยที่คิดว่าพระเจ้าทรงรู้จักเขา แต่เขาประพฤติอย่างหยิ่งยโส แล้วก็ปรากฏว่าพระยะโฮวาทรงปฏิเสธเขา. เราจะได้บทเรียนที่มีค่าอย่างยิ่งจากตัวอย่างเหล่านี้.
5 พระยะโฮวาทรงถือว่าคุณลักษณะบางอย่างมีค่าเป็นพิเศษ. (บิดาของคนที่มีความเชื่อ
6. (ก) อับราฮามแสดงความเชื่อเช่นไรในคำสัญญาของพระยะโฮวา? (ข) พระยะโฮวาทรงรู้จักอับราฮามอย่างไร?
6 อับราฮามเป็นชายที่ “เชื่อวางใจในพระยะโฮวา.” ที่จริง ท่านถูกเรียกว่า “บิดาของคนทั้งปวงที่มีความเชื่อ.” (เย. 15:6; โรม 4:11) ด้วยความเชื่อ อับราฮามทิ้งบ้าน ทิ้งเพื่อน และทิ้งทรัพย์สมบัติของตนเพื่อไปอยู่ในดินแดนที่ห่างไกล. (เย. 12:1-4; ฮีบรู 11:8-10) ผ่านไปหลายปี ความเชื่อของอับราฮามก็ยังคงเข้มแข็ง. เรื่องนี้เห็นได้ชัดจาก “การตัดสินใจของท่าน . . . [ซึ่ง] เสมือนว่าท่านได้ถวายยิศฮาคเป็นเครื่องบูชาไปแล้ว” ตามพระบัญชาของพระยะโฮวา. (ฮีบรู 11:17-19) อับราฮามแสดงความเชื่อในคำสัญญาของพระยะโฮวา พระเจ้าจึงถือว่าท่านเป็นคนพิเศษ; พระองค์ทรงรู้จักอับราฮามจริง ๆ. (อ่านเยเนซิศ 18:19) พระยะโฮวาไม่เพียงแค่รู้ว่าอับราฮามมีตัวตน แต่ทรงถือว่าอับราฮามเป็นมิตรของพระองค์.—ยโก. 2:22, 23
7. มีอะไรน่าสังเกตเกี่ยวกับความสำเร็จเป็นจริงของคำสัญญาของพระยะโฮวา และเรื่องนี้มีผลต่ออับราฮามอย่างไร?
7 น่าสังเกตว่าในช่วงที่อับราฮามมีชีวิต ท่านยังไม่ได้รับแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะมอบเป็นมรดก. นอกจากนั้น ท่านยังไม่ได้เห็นผู้สืบเชื้อสายของท่านทวีจำนวนขึ้น “ดุจเม็ดทรายที่ฝั่งมหาสมุทร.” (เย. 22:17, 18) ถึงแม้ว่าคำสัญญาเหล่านี้ยังไม่สำเร็จเป็นจริงในช่วงชีวิตของอับราฮาม ท่านรักษาความเชื่อที่เข้มแข็งมั่นคงในพระยะโฮวา. ท่านรู้ว่าสิ่งใดที่พระเจ้าทรงสัญญา สิ่งนั้นก็เสมือนหนึ่งว่าสำเร็จแล้ว. ใช่แล้ว อับราฮามดำเนินชีวิตสอดคล้องกับความเชื่อเช่นนั้น. (อ่านฮีบรู 11:13) พระยะโฮวาทรงรู้จักเราว่ามีความเชื่อเช่นเดียวกับอับราฮามไหม?
การคอยท่าพระยะโฮวาบ่งบอกถึงความเชื่อ
8. มีความปรารถนาที่เหมาะสมอะไรบ้างซึ่งบางคนอยากให้เป็นจริง?
8 เราอาจมีความปรารถนาบางอย่างที่เราอยากให้เป็นจริง เช่น การแต่งงาน การมีลูก และสุขภาพดี. ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความปรารถนาตามธรรมชาติที่เหมาะสม. แต่สำหรับหลายคน อาจมีบางอย่างที่พวกเขาไม่ได้รับสมตามความปรารถนา. ถ้าเป็นอย่างนั้นกับตัวเราเอง วิธีที่เรา
รับมือปัญหาอาจเป็นเครื่องวัดอย่างหนึ่งว่าเรามีความเชื่อขนาดไหน.9, 10. (ก) บางคนพยายามทำให้ความปรารถนาของตนเป็นจริงโดยวิธีใด? (ข) คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความสำเร็จเป็นจริงตามคำสัญญาของพระเจ้า?
9 นับว่าไม่ฉลาดจริง ๆ ที่จะพยายามทำให้ความปรารถนาเหล่านั้นเป็นจริงโดยใช้วิธีที่ขัดกับสติปัญญาของพระเจ้า. คนที่ทำอย่างนั้นคงได้รับผลเสียหายฝ่ายวิญญาณ. ตัวอย่างเช่น บางคนเลือกวิธีการบางอย่างในการดูแลสุขภาพที่ขัดกับคำแนะนำของพระยะโฮวา. ส่วนบางคนก็เลือกทำงานที่ทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่กับครอบครัวหรือไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมคริสเตียน. หรือจะว่าอย่างไรเกี่ยวกับการผูกพันรักใคร่กับคนที่ไม่มีความเชื่อ? ถ้าคริสเตียนทำอย่างนั้น เขากำลังประพฤติอย่างที่ทำให้พระยะโฮวารู้จักเขาจริง ๆ ไหม? พระยะโฮวาคงจะรู้สึกอย่างไรถ้าอับราฮามไม่อดทนรอคอยให้คำสัญญาที่พระองค์ทรงให้ไว้กับท่านสำเร็จเป็นจริง? จะว่าอย่างไรถ้าอับราฮามลงมือจัดการเองเพื่อลงหลักปักฐานอีกครั้งหนึ่งและสร้างชื่อให้ตัวเองแทนที่จะคอยท่าพระยะโฮวา? (เทียบกับเยเนซิศ 11:4) พระยะโฮวาจะยังคงรู้จักและพอพระทัยท่านอยู่ต่อไปไหม?
10 มีความปรารถนาอะไรบ้างที่คุณอยากให้เป็นจริง? คุณมีความเชื่อเข้มแข็งพอที่จะคอยท่าพระยะโฮวาผู้ทรงสัญญาว่าจะสนองความปรารถนาที่เหมาะสมของคุณไหม? (เพลง. 145:16) เช่นเดียวกับอับราฮาม คำสัญญาบางอย่างของพระเจ้าอาจไม่สำเร็จเป็นจริงโดยเร็วอย่างที่เราอยากเห็น. ถึงกระนั้น พระยะโฮวาทรงเห็นค่าการที่เราพัฒนาความเชื่อเหมือนกับอับราฮามและการที่เราประพฤติสอดคล้องกับความเชื่อนั้น. การทำอย่างนั้นเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับเราอย่างแน่นอน.—ฮีบรู 11:6
ความแตกต่างระหว่างความถ่อมกับความหยิ่ง
11. โคราอาจมีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง และดูเหมือนว่านั่นบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับทัศนะที่เขามีต่อพระเจ้า?
11 โมเซกับโคราแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในเรื่องการแสดงความนับถือต่อการจัดเตรียมและการตัดสินของพระยะโฮวา. ปฏิกิริยาของพวกเขาส่งผลต่อวิธีที่พระยะโฮวาทรงมองพวกเขา. โคราเป็นชาวเลวีซึ่งเป็นลูกหลานของโคฮาธ และเขามีสิทธิพิเศษหลายอย่าง. ส่วนหนึ่งของสิทธิพิเศษเหล่านั้นน่าจะได้แก่การได้เห็นชาติของเขาได้รับการช่วยให้รอดผ่านทะเลแดง การสนับสนุนการพิพากษาของพระยะโฮวาต่อชาวอิสราเอลที่ไม่เชื่อฟัง ณ ภูเขาไซนาย และการมีบทบาทในการขนย้ายหีบสัญญา. (เอ็ก. 32:26-29; อาฤ. 3:30, 31) ดูเหมือนว่าเขาภักดีต่อพระยะโฮวามาหลายปี และด้วยเหตุนั้นคนเป็นอันมากในค่ายของชาวอิสราเอลจึงนับถือเขา.
12. ดังที่เห็นในภาพหน้า 28 ความหยิ่งยโสส่งผลอย่างไรต่อสายสัมพันธ์ของโครากับพระเจ้า?
12 อย่างไรก็ตาม ขณะที่ชาติอิสราเอลอยู่บนเส้นทางสู่แผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญา โคราคิดไปเองว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีนำหน้าชาตินี้. จากนั้น พวกผู้ชายที่นำหน้าในชาตินี้อีก 250 คนก็เข้าข้างโคราที่พยายามผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลง. โครากับคนอื่น ๆ คงต้องคิดว่าพวกเขามีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพระยะโฮวา. พวกเขาบอกโมเซว่า “ท่านทำเกินเหตุไป เพราะว่าชุมนุมชนทั้งหมดก็บริสุทธิ์ทุก ๆ คน และพระเจ้าทรงสถิตท่ามกลางเขา.” (อาฤ. 16:1-3, ฉบับ R73) ช่างมั่นใจจนเกินไปและหยิ่งยโสจริง ๆ! โมเซบอกพวกเขาว่า “พระยะโฮวาจะชี้ให้เห็นว่า, ใครผู้ใดเป็นของพระองค์.” (อ่านอาฤธโม 16:5) เมื่อสิ้นสุดวันถัดไป โครากับคนทั้งปวงที่เข้าข้างเขาในการขืนอำนาจก็ตายเสียสิ้น.—อาฤ. 16:31-35
13, 14. โมเซแสดงความถ่อมอย่างไร?
13 ตรงกันข้าม โมเซ “เป็นคนถ่อมจิตใจอ่อนยิ่งมากกว่าคนทั้งปวงที่อยู่บนแผ่นดิน.” (อาฤ. 12:3) ท่านแสดงความเจียมตัวและความถ่อมด้วยการตั้งใจทำตามการชี้นำของพระยะโฮวา. (เอ็ก. 7:6; 40:16) ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราคิดได้เลยว่าโมเซมักสงสัยวิธีดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ของพระยะโฮวา หรือหงุดหงิดที่ต้องทำตามวิธีการต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาทรงวางไว้. เพื่อเป็นตัวอย่าง พระยะโฮวาทรงมีพระบัญชาอย่างละเอียดแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อยที่สุด เกี่ยวกับการสร้างพลับพลา เช่น สีของด้ายและจำนวนห่วงที่ใช้ในการทำม่าน. (เอ็ก. 26:1-6) ถ้าผู้ดูแลในองค์การของพระเจ้าให้คำแนะนำที่ดูเหมือนว่าละเอียดเกินไปแก่คุณ บางครั้งคุณอาจรู้สึกหงุดหงิด. แต่พระยะโฮวาทรงเป็นผู้ดูแลที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งได้มอบหน้าที่รับผิดชอบหลายอย่างแก่ผู้รับใช้ของพระองค์และไว้วางใจว่าพวกเขาจะทำได้ดี. เมื่อพระองค์ประทานรายละเอียดมากมาย พระองค์ทรงทำอย่างนั้นด้วยเหตุผลที่ดี. แต่ขอให้สังเกตว่าโมเซไม่ขุ่นเคืองพระยะโฮวาที่ประทานรายละเอียดมากมายขนาดนั้น ราวกับว่าพระยะโฮวาทรงดูถูกหรือปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์และเสรีภาพของท่าน. แทนที่จะคิดอย่างนั้น โมเซคอยดูแลให้ช่าง “ทำอย่างนั้นทุกประการ” ตามพระบัญชาของพระเจ้า. (เอ็ก. 39:32) ช่างถ่อมใจจริง ๆ! โมเซยอมรับว่านั่นเป็นราชกิจของพระยะโฮวา และท่านเป็นเพียงเครื่องมือที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อทำงานนั้นให้สำเร็จ.
14 ความถ่อมของโมเซยังเห็นได้ชัดด้วยเมื่อท่านเผชิญเหตุการณ์ที่ส่งผลเสียหายต่อท่านเป็นส่วนตัว. ในโอกาสหนึ่ง โมเซควบคุมตัวเองไม่อยู่และไม่ได้ถวายเกียรติพระเจ้าเมื่อรับมือฝูงชนที่บ่นต่อว่าท่าน. ผลก็คือ พระยะโฮวาทรงบอกโมเซว่าท่านจะไม่ได้พาชาวอิสราเอลเข้าแผ่นดินที่ทรงสัญญา. (อาฤ. 20:2-12) ท่านกับอาโรนพี่ชายของท่านได้อดทนกับชาวอิสราเอลที่ขี้บ่นเป็นเวลาหลายปี. เนื่องจากโมเซทำพลาดพลั้งในครั้งนั้น ท่านจะไม่ได้รับสิ่งที่ท่านรอคอยมาเป็นเวลานาน! โมเซแสดงปฏิกิริยาอย่างไร? แน่ล่ะ โมเซรู้สึกผิดหวัง แต่ท่านถ่อมใจยอมรับการตัดสินของพระยะโฮวา. ท่านรู้ว่าพระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าผู้ชอบธรรมที่ปราศจากความอยุติธรรม. (บัญ. 3:25-27; 32:4) ในทุกวันนี้ เมื่อพูดถึงโมเซ เรานึกถึงผู้ชอบธรรมคนหนึ่งที่พระยะโฮวาทรงรู้จักและยอมรับ.—อ่านเอ็กโซโด 33:12, 13
เพื่อจะอยู่ใต้อำนาจพระยะโฮวาต้องถ่อมใจ
15. เราอาจเรียนอะไรได้จากการกระทำที่หยิ่งยโสของโครา?
15 พระยะโฮวาจะทรงรู้จักและยอมรับเราหรือไม่ส่วนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของเราต่อการปรับเปลี่ยนในประชาคมคริสเตียนทั่วโลกและท่าทีที่เรามีต่อการตัดสินของคนที่นำหน้าในประชาคมคริสเตียน. โครากับพรรคพวกตีตัวออกห่างจากพระเจ้าเพราะพวกเขามั่นใจในตัวเองเกินไป หยิ่งยโส และขาดความเชื่อ. แม้โครามองว่า
โมเซผู้ชราเป็นผู้ทำหน้าที่ตัดสินในแต่ละวัน แต่ที่แท้แล้วพระยะโฮวาต่างหากที่เป็นผู้ชี้นำชาตินี้. โครามองไม่เห็นข้อเท็จจริงนี้และด้วยเหตุนั้นจึงไม่ได้แสดงความภักดีต่อคนที่พระเจ้าทรงใช้. นับว่าฉลาดสุขุมกว่าสักเพียงไรที่โคราจะคอยท่าพระยะโฮวาเพื่อจะเข้าใจชัดยิ่งขึ้นหรือรอคอยให้มีการปรับเปลี่ยนหากจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ชัดขึ้นหรือต้องมีการปรับเปลี่ยนจริง ๆ. ผลสุดท้าย โคราทำลายประวัติการรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของตัวเองด้วยการกระทำที่หยิ่งยโสของตน!16. การที่เราทำตามตัวอย่างของโมเซในเรื่องความถ่อมอาจส่งผลอย่างไรต่อการได้รับการยอมรับจากพระยะโฮวา?
16 บันทึกดังกล่าวเป็นคำเตือนที่หนักแน่นสำหรับผู้ปกครองและคนอื่น ๆ ในประชาคมสมัยนี้. เพื่อเราจะสามารถคอยท่าพระยะโฮวาและทำตามการชี้นำจากคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้นำหน้า เราจำเป็นต้องมีความถ่อม. เราแสดงให้เห็นไหมว่าเราถ่อมใจและอ่อนโยนเหมือนโมเซ? เรายอมรับตำแหน่งของคนที่นำหน้าในหมู่พวกเราและยอมทำตามการชี้นำที่เราได้รับไหม? เราเอาชนะความรู้สึกส่วนตัวได้ไหมเมื่อพบกับเรื่องที่ทำให้ผิดหวัง? ถ้าเป็นอย่างนั้น พระยะโฮวาก็จะทรงรู้จักและยอมรับเราด้วย. ความถ่อมและการยอมอยู่ใต้อำนาจจะทำให้เราเป็นที่รักของพระองค์.
พระยะโฮวาทรงรู้จักคนของพระองค์
17, 18. อะไรอาจช่วยเราได้เพื่อพระยะโฮวาจะทรงรู้จักเราต่อ ๆ ไปว่าเป็นคนของพระองค์?
17 นับว่าเป็นประโยชน์ที่จะพินิจพิจารณาชีวิตของคนที่พระยะโฮวาทรงชักนำและรู้จัก. อับราฮามและโมเซเป็นคนไม่สมบูรณ์และมีข้อบกพร่องเหมือนเรา. ถึงกระนั้น พระยะโฮวาทรงรู้จักและยอมรับว่าพวกท่านเป็นคนของพระองค์. แต่ตัวอย่างของโคราแสดงให้เห็นว่าเป็นไปได้ที่เราอาจถอยห่างจากพระยะโฮวาและทำให้พระองค์ไม่รู้จักและไม่ยอมรับเราอีกต่อไป. เราแต่ละคนควรถามตัวเองว่า ‘พระยะโฮวาทรงมองฉันอย่างไร? ฉันอาจเรียนรู้อะไรได้บ้างจากตัวอย่างเหล่านี้ในคัมภีร์ไบเบิล?’
18 คุณรู้สึกสบายใจได้ที่รู้ว่าพระยะโฮวาทรงมองว่าเหล่าผู้ซื่อสัตย์ที่พระองค์ทรงชักนำเป็นคนของพระองค์. จงพัฒนาความเชื่อ ความถ่อม และคุณลักษณะอื่นต่อ ๆ ไปซึ่งจะทำให้คุณเป็นที่รักของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น. เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า การที่พระยะโฮวาทรงรู้จักเราเป็นสิทธิพิเศษอันล้ำค่าที่ทำให้เราอิ่มใจยินดีกับชีวิตในเวลานี้ และจะทำให้เราได้รับพระพรอันยอดเยี่ยมในอนาคต.—เพลง. 37:18
คุณจำได้ไหม?
• คุณสามารถมีสายสัมพันธ์ที่ล้ำค่าอะไรกับพระยะโฮวา?
• คุณจะเลียนแบบอับราฮามในเรื่องความเชื่อได้อย่างไร?
• เราเรียนอะไรได้จากโคราและโมเซ?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 26]
เช่นเดียวกับอับราฮาม เราเชื่อไหมว่าพระยะโฮวาจะทรงทำให้คำสัญญาของพระองค์สำเร็จเป็นจริงอย่างครบถ้วน?
[ภาพหน้า 28]
โคราไม่เต็มใจจะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อการชี้นำ
[ภาพหน้า 29]
พระยะโฮวาทรงรู้จักคุณว่าเป็นคนที่ถ่อมใจยอมรับการชี้นำไหม?