ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คริสเตียนแท้นับถือพระคำของพระเจ้า

คริสเตียนแท้นับถือพระคำของพระเจ้า

“คำ​ของ​พระองค์​เป็น​ความ​จริง.”—โย. 17:17

1. จาก​ประสบการณ์​ของ​คุณ​เอง จง​บอก​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ต่าง​จาก​กลุ่ม​ศาสนา​อื่น ๆ อย่าง​ไร​ใน​แง่​ที่​สำคัญ.

ขอ​ให้​นึก​ถึง​ครั้ง​แรก​ที่​คุณ​พูด​คุย​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. คุณ​ยัง​จำ​เรื่อง​ที่​คุย​กัน​ได้​ไหม? หลาย​คน​อาจ​ตอบ​ว่า ‘ฉัน​ประทับใจ​ที่​พยาน​ฯ ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​ตอบ​คำ​ถาม​ทุก​ข้อ​ที่​ฉัน​ถาม.’ เรา​ดีใจ​สัก​เพียง​ไร​ที่​เรา​รู้​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​แผ่นดิน​โลก เกิด​อะไร​ขึ้น​เมื่อ​คน​เรา​ตาย และ​มี​ความ​หวัง​อะไร​สำหรับ​คน​ที่​เรา​รัก​ที่​ตาย​ไป!

2. มี​เหตุ​ผล​อะไร​บ้าง​ที่​คุณ​เห็น​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​คุณค่า?

2 อย่าง​ไร​ก็​ตาม เมื่อ​เรา​ศึกษา​มาก​ขึ้น เรา​ก็​ตระหนัก​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​อะไร​แก่​เรา​มาก​ยิ่ง​กว่า​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​ใน​เรื่อง​ชีวิต ความ​ตาย และ​อนาคต. เรา​เริ่ม​เห็น​คุณค่า​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หนังสือ​ที่​เป็น​ประโยชน์​ที่​สุด​ใน​โลก. คำ​แนะ​นำ​ใน​พระ​คัมภีร์​ใช้​ได้​ทุก​ยุค​ทุก​สมัย และ​คน​ที่​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​เหล่า​นั้น​อย่าง​แท้​จริง​จะ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​และ​มี​ความ​สุข. (อ่าน​บทเพลง​สรรเสริญ 1:1-3) คริสเตียน​แท้​รับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไว้ “ไม่​ใช่​อย่าง​คำ​ของ​มนุษย์ แต่​อย่าง​ที่​พระ​คำ​นั้น​เป็น​จริง ๆ คือ​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า.” (1 เทส. 2:13) การ​ทบทวน​เหตุ​การณ์​ใน​ประวัติศาสตร์​ด้วย​กัน​สั้น ๆ จะ​เน้น​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​อย่าง​ชัดเจน​ระหว่าง​คน​ที่​นับถือ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​แท้​จริง​กับ​คน​ที่​ไม่​นับถือ.

ปัญหา​ยุ่งยาก​ได้​รับ​การ​แก้ไข

3. มี​ปัญหา​อะไร​ที่​อาจ​ทำลาย​เอกภาพ​ของ​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก และ​อาจ​เกิด​ความ​เสี่ยง​เช่น​ไร?

3 ใน​ช่วง 13 ปี​หลัง​จาก​การ​เจิม​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​ไม่​ได้​รับ​สุหนัต​คน​แรก คือ​คอร์เนลิอุส มี​ปัญหา​อย่าง​หนึ่ง​เกิด​ขึ้น​ที่​อาจ​ทำลาย​เอกภาพ​ของ​ประชาคม​คริสเตียน. มี​คน​ต่าง​ชาติ​รับ​เอา​ความ​เชื่อ​ของ​คริสเตียน​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ. คำ​ถาม​คือ คน​เหล่า​นี้​ควร​รับ​สุหนัต​ตาม​ธรรมเนียม​ของ​ชาว​ยิว​ก่อน​จะ​รับ​บัพติสมา​ไหม? นี่​ไม่​ใช่​คำ​ถาม​ที่​ตอบ​ได้​ง่าย​สำหรับ​ชาว​ยิว. ชาว​ยิว​ที่​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​จะ​ไม่​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ของ​คน​ต่าง​ชาติ​ด้วย​ซ้ำ อย่า​ว่า​แต่​จะ​เป็น​เพื่อน​กับ​พวก​เขา. คริสเตียน​ชาว​ยิว​ถูก​ข่มเหง​อย่าง​รุนแรง​อยู่​แล้ว​เพราะ​ละ​ทิ้ง​ศาสนา​ยิว. ถ้า​พวก​เขา​จะ​ถึง​กับ​ต้อนรับ​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​ไม่​ได้​รับ​สุหนัต​ให้​มา​อยู่​ใน​กลุ่ม​ของ​พวก​เขา นั่น​คง​ทำ​ให้​เกิด​ความ​แตก​แยก​มาก​ขึ้น​ไป​อีก​ระหว่าง​ชาว​ยิว​ที่​ยึด​มั่น​ใน​ศาสนา​ยิว​กับ​คริสเตียน และ​ยิ่ง​จะ​ทำ​ให้​คริสเตียน​ถูก​ตำหนิ​มาก​ขึ้น.—กลา. 2:11-14

4. ใคร​เข้า​มา​แก้​ปัญหา​นี้ และ​มี​คำ​ถาม​อะไร​ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น​ใน​ใจ​ของ​ผู้​สังเกตการณ์​เกี่ยว​กับ​การ​แก้​ปัญหา​นี้?

4 ใน​สากล​ศักราช 49 เหล่า​อัครสาวก​และ​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ใน​กรุง​เยรูซาเลม ซึ่ง​ล้วน​เป็น​ชาว​ยิว​ที่​รับ​สุหนัต “ประชุม​กัน​เพื่อ​พิจารณา​เรื่อง​นี้.” (กิจ. 15:6) การ​ประชุม​ของ​พวก​เขา​ไม่​ใช่​เป็น​การ​ถก​กัน​ทาง​ศาสนา​ที่​น่า​เบื่อ​เกี่ยว​กับ​ราย​ละเอียด​หยุม ๆ หยิม ๆ แต่​เป็น​การ​พิจารณา​คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​มี​ชีวิต​ชีวา. มี​ความ​คิด​เห็น​แตก​กัน​เป็น​สอง​ฝ่าย และ​แต่​ละ​ฝ่าย​แสดง​ความ​คิด​เห็น​ของ​ตน​อย่าง​หนักแน่น. ความ​ชอบ​ส่วน​ตัว​หรือ​อคติ​จะ​ครอบ​งำ​การ​ตัดสิน​ของ​พวก​เขา​ไหม? ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ที่​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​จะ​เลื่อน​การ​ตัดสิน​ออก​ไป​จน​กว่า​บรรยากาศ​ทาง​ศาสนา​ใน​ประเทศ​อิสราเอล​จะ​ดี​ขึ้น​และ​ทำ​ให้​พวก​เขา​ตัดสิน​ได้​ง่าย​ขึ้น​ไหม? หรือ​จะ​มี​การ​อะลุ่มอล่วย​โดย​ที่​ผู้​สนับสนุน​แต่​ละ​ฝ่าย​เปลี่ยน​จุด​ยืน​ของ​ตน​จน​กว่า​จะ​บรรลุ​ความ​เห็น​ที่​เป็น​เอกฉันท์​อย่าง​ใด​อย่าง​หนึ่ง​ใน​ที่​สุด?

5. การ​ประชุม​ที่​กรุง​เยรูซาเลม​ใน ส. ศ. 49 ต่าง​กัน​อย่าง​ไร​กับ​การ​ประชุม​สังคายนา​ของ​สภา​คริสตจักร​ที่​จัด​ขึ้น​หลาย​ครั้ง​ใน​ช่วง​หลาย​ศตวรรษ​หลัง​จาก​นั้น?

5 การ​อะลุ่มอล่วย​และ​การ​วิ่ง​เต้น​หา​เสียง​สนับสนุน​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ใน​การ​ประชุม​สังคายนา​ของ​สภา​คริสตจักร​สมัย​ปัจจุบัน. แต่​ใน​การ​ประชุม​ที่​กรุง​เยรูซาเลม ไม่​มี​การ​อะลุ่มอล่วย และ​ไม่​มี​การ​วิ่ง​เต้น​หา​เสียง. นอก​จาก​นั้น มี​การ​ตัดสิน​อย่าง​เป็น​เอกฉันท์. เป็น​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? แม้​ว่า​ผู้​เข้า​ร่วม​ประชุม​แต่​ละ​คน​ยึด​มั่น​ใน​ความ​เห็น​ของ​ตน​อย่าง​มาก แต่​ทุก​คน​ที่​อยู่​ที่​นั่น​นับถือ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า และ​ข้อ​เขียน​ศักดิ์สิทธิ์​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​ใน​การ​แก้​ปัญหา.—อ่าน​บทเพลง​สรรเสริญ 119:97-101

6, 7. มี​การ​ใช้​พระ​คัมภีร์​เพื่อ​แก้​ปัญหา​ใน​ประเด็น​เกี่ยว​กับ​การ​รับ​สุหนัต​อย่าง​ไร?

6 ข้อ​ความ​ตอน​หนึ่ง​ที่​ช่วย​แก้​ปัญหา​ใน​ประเด็น​นี้​คือ​อาโมศ 9:11, 12 ซึ่ง​กิจการ 15:16, 17 ยก​ข้อ​ความ​มา​ว่า “เรา​จะ​กลับ​มา​สร้าง​พลับพลา​ของ​ดาวิด​ซึ่ง​พัง​ไป​แล้ว​ขึ้น​ใหม่ และ​ส่วน​ที่​หัก​พัง​ไป​แล้ว​นั้น​เรา​จะ​สร้าง​และ​ตั้ง​ขึ้น​ใหม่ เพื่อ​คน​ที่​เหลือ​อยู่ จะ​แสวง​หา​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​จริงจัง​ร่วม​กับ​ประชาชน​จาก​ทุก​ชาติ คือ​ประชาชน​ซึ่ง​มี​ชื่อ​เรียก​ตาม​นาม​ของ​เรา พระ​ยะโฮวา​ตรัส​ไว้​เช่น​นี้.”

7 บาง​คน​อาจ​คัดค้าน​ว่า ‘แต่​พระ​คัมภีร์​ข้อ​นี้​ไม่​ได้​บอก​ว่า​ผู้​เชื่อถือ​ชาว​ต่าง​ชาติ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​รับ​สุหนัต.’ จริง​อยู่​ที่​ข้อ​นี้​ไม่​ได้​บอก​ตรง ๆ แต่​คริสเตียน​ชาว​ยิว​คง​เข้าใจ​ว่า​เป็น​อย่าง​นั้น. พวก​เขา​ไม่​ได้​ถือ​ว่า​ชาว​ต่าง​ชาติ​ที่​รับ​สุหนัต เป็น ‘ประชาชน​จาก​ชาติ​ต่าง ๆ’ แต่​ถือ​ว่า​พวก​เขา​เป็น​พี่​น้อง. (เอ็ก. 12:48, 49) ยก​ตัว​อย่าง ใน​ฉบับ​เซปตัวจินต์ ของ​แบกสเตอร์ เอศเธระ 8:17 อ่าน​ว่า “ชาว​ต่าง​ชาติ​เป็น​อัน​มาก​ได้​รับ​สุหนัต และ​เข้า​มา​เป็น​ยิว.” ด้วย​เหตุ​นั้น เมื่อ​พระ​คัมภีร์​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​คน​ที่​เหลือ​อยู่​แห่ง​เรือน​อิสราเอล (ชาว​ยิว​และ​คน​ที่​เปลี่ยน​มา​นับถือ​ศาสนา​ยิว​ซึ่ง​รับ​สุหนัต) ร่วม​กับ “ประชาชน​จาก​ทุก​ชาติ” (คน​ต่าง​ชาติ​ที่​ไม่​รับ​สุหนัต) จะ​กลาย​เป็น​ประชาชน​เพื่อ​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า ความ​หมาย​ของ​ข้อ​ความ​ดัง​กล่าว​จึง​ชัดเจน. การ​รับ​สุหนัต​ไม่​ใช่​ข้อ​เรียก​ร้อง​สำหรับ​ชาว​ต่าง​ชาติ​ที่​ต้องการ​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน.

8. เหตุ​ใด​คริสเตียน​ชาว​ยิว​ต้อง​กล้า​หาญ​เพื่อ​จะ​ตัดสิน​อย่าง​นั้น?

8 พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​พระ​วิญญาณ​ของ​พระองค์​ชี้​นำ​คริสเตียน​ที่​จริง​ใจ​เหล่า​นั้น​ให้ “เห็น​พ้อง​ต้อง​กัน.” (กิจ. 15:25) แม้​ว่า​การ​ตัดสิน​อย่าง​นั้น​คง​จะ​ทำ​ให้​คริสเตียน​ชาว​ยิว​ถูก​ข่มเหง​มาก​ขึ้น แต่​ผู้​ซื่อ​สัตย์​เหล่า​นี้​สนับสนุน​การ​ตัดสิน​ที่​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก​อย่าง​เต็ม​ที่.—กิจ. 16:4, 5

ความ​แตกต่าง​ที่​เห็น​ได้​ชัด

9. สาเหตุ​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​การ​นมัสการ​แท้​มี​มลทิน​คือ​อะไร และ​คำ​สอน​สำคัญ​อะไร​ที่​ถูก​ทำ​ให้​เสื่อม​เสีย?

9 อัครสาวก​เปาโล​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​หลัง​จาก​ที่​เหล่า​อัครสาวก​เสีย​ชีวิต​ไป​หมด​แล้ว คำ​สอน​เท็จ​จะ​เข้า​มา​แปด​ปน​ความ​เชื่อ​ของ​คริสเตียน. (อ่าน 2 เทสซาโลนิเก 2:3, 7) ใน​บรรดา​คน​ที่​จะ​ไม่​ยอม​ฟัง “คำ​สอน​ที่​ก่อ​ประโยชน์” มี​บาง​คน​ที่​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ที่​มี​ความ​รับผิดชอบ​ด้วย. (2 ติโม. 4:3) เปาโล​เตือน​ผู้​ปกครอง​ใน​สมัย​ของ​ท่าน​ว่า “จะ​มี​พวก​ท่าน​บาง​คน พูด​บิดเบือน​ความ​จริง​เพื่อ​ชัก​นำ​เหล่า​สาวก​ให้​ติด​ตาม​พวก​เขา​ไป.” (กิจ. 20:30) สารานุกรม​บริแทนนิกา​ฉบับ​ใหม่ พรรณนา​สาเหตุ​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​พวก​เขา​หา​เหตุ​ผล​อย่าง​บิดเบือน​ว่า “คริสเตียน​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ด้าน​ปรัชญา​กรีก​เริ่ม​คิด​ว่า​จำเป็น​จะ​ต้อง​อธิบาย​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​โดย​อาศัย​ปรัชญา​กรีก ทั้ง​เพื่อ​สนอง​ความ​พึง​พอ​ใจ​ด้าน​สติ​ปัญญา​ของ​ตัว​เอง​และ​เพื่อ​จะ​เปลี่ยน​ชาว​นอก​รีต​ที่​มี​การ​ศึกษา​ให้​มา​เป็น​ผู้​มี​ความ​เชื่อ.” หลัก​คำ​สอน​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​พวก​เขา​นำ​แนว​คิด​แบบ​นอก​รีต​เข้า​มา​ปะปน​และ​ทำ​ให้​ผิด​เพี้ยน​ไป​ก็​คือ​คำ​สอน​ที่​ว่า​พระ​เยซู​คริสต์​เป็น​ใคร. คัมภีร์​ไบเบิล​เรียก​พระองค์​ว่า​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า ส่วน​พวก​ที่​นิยม​ปรัชญา​กรีก​ยืนกราน​ว่า​พระองค์​เป็น​พระเจ้า.

10. ประเด็น​ที่​ว่า​พระ​คริสต์​เป็น​ใคร​อาจ​ตก​ลง​กัน​ได้​โดย​วิธี​ใด?

10 ประเด็น​นี้​ถูก​หยิบ​ยก​ขึ้น​มา​ถก​กัน​ใน​ที่​ประชุม​สังคายนา​ของ​สภา​คริสตจักร​หลาย​ครั้ง. ประเด็น​นี้​จะ​สามารถ​ตก​ลง​กัน​ได้​อย่าง​ง่าย​ดาย​ถ้า​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​เหล่า​นั้น​ให้​ความ​สำคัญ​อย่าง​เหมาะ​สม​แก่​พระ​คัมภีร์ แต่​ส่วน​ใหญ่​ไม่​ได้​ทำ​อย่าง​นั้น. ที่​จริง ส่วน​ใหญ่​ตัดสิน​ใจ​ไว้​แล้ว​ก่อน​จะ​มา​ถึง​การ​ประชุม​สังคายนา​ของ​สภา และ​พวก​เขา​กลับ​ไป​ด้วย​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​จุด​ยืน​ของ​ตัว​เอง​อย่าง​ฝัง​แน่น​ยิ่ง​กว่า​เดิม. กฎ​ข้อ​บังคับ​และ​ถ้อย​แถลง​ที่​เป็น​ผล​มา​จาก​การ​ประชุม​เหล่า​นั้น​แทบ​จะ​ไม่​อ้าง​ถึง​พระ​คัมภีร์​เลย​ด้วย​ซ้ำ.

11. มี​การ​ให้​ความ​สำคัญ​เช่น​ไร​แก่​อำนาจ​และ​อิทธิพล​ของ​คน​ที่​เรียก​กัน​ว่า​นัก​เขียน​แห่ง​คริสตจักร​โบราณ และ​เหตุ​ใด​จึง​เป็น​เช่น​นั้น?

11 ทำไม​พวก​เขา​ไม่​ใช้​พระ​คัมภีร์​ใน​การ​ตัดสิน​ของ​พวก​เขา​ให้​มาก​กว่า​นั้น? ผู้​คง​แก่​เรียน​ชาลส์ ฟรีแมน ให้​คำ​ตอบ​ว่า​คน​ที่​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระเจ้า “รู้สึก​ว่า​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​ปฏิเสธ​คำ​ตรัส​หลาย​ครั้ง​ของ​พระ​เยซู​ที่​บ่ง​บอก​ว่า​พระองค์​มี​ฐานะ​ต่ำ​กว่า​พระเจ้า​พระ​บิดา.” ผล​ก็​คือ พวก​เขา​ได้​ให้​คำ​สอน​สืบ​ปาก​ของ​คริสตจักร​และ​ความ​เห็น​ของ​ผู้​มี​อำนาจ​ใน​ยุค​หลัง​เข้า​มา​แทน​ที่​หนังสือ​กิตติคุณ. จน​กระทั่ง​ทุก​วัน​นี้ นัก​บวช​จำนวน​มาก​ให้​ความ​สำคัญ​แก่​คำ​กล่าว​ที่​ไม่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ของ​คน​ที่​พวก​เขา​เรียก​กัน​ว่า​นัก​เขียน​แห่ง​คริสตจักร​โบราณ​ยิ่ง​กว่า​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า! ถ้า​คุณ​เคย​ถก​เกี่ยว​กับ​คำ​สอน​เรื่อง​ตรีเอกานุภาพ​กับ​คน​ที่​จบ​จาก​โรง​เรียน​นัก​ธรรม คุณ​คง​สังเกต​แล้ว​ว่า​เป็น​อย่าง​นั้น​จริง.

12. จักรพรรดิ​ใช้​อำนาจ​และ​อิทธิพล​ใน​ทาง​ที่​ไม่​ดี​เช่น​ไร?

12 สิ่ง​หนึ่ง​ที่​น่า​สังเกต​เกี่ยว​กับ​การ​ถก​กัน ณ การ​ประชุม​สังคายนา​เหล่า​นั้น​คือ​การ​แทรกแซง​ของ​จักรพรรดิ​โรมัน. ศาสตราจารย์​ริชาร์ด อี. รูเบนสไตน์ เขียน​เกี่ยว​กับ​การ​แทรกแซง​ดัง​กล่าว​ใน​การ​ประชุม​สังคายนา​ที่​นีเซีย​ว่า “จักรพรรดิ​คอนสแตนติน​แสดง​ความ​โปรดปราน​และ​ประทาน​ความ​ร่ำรวย​เหลือ​ล้น​แก่ [บิชอป​ทั้ง​หลาย] อย่าง​ที่​เกิน​ความ​ฝัน​เฟื่อง​ของ​พวก​เขา​เสีย​อีก. ภาย​ใน​เวลา​ไม่​ถึง​ปี จักรพรรดิ​องค์​ใหม่​ผู้​นี้​ได้​คืน​โบสถ์​ให้​พวก​เขา​หรือ​สร้าง​ใหม่​ให้​เกือบ​ทั้ง​หมด มอบ​คืน​งาน​และ​ยศ​ตำแหน่ง​ที่​พวก​เขา​เคย​ถูก​ริบ​ไป . . . คอนสแตนติน​ประทาน​สิทธิ​พิเศษ​ต่าง ๆ แก่​นัก​บวช​คริสเตียน​อย่าง​เดียว​กับ​ที่​เมื่อ​ก่อน​ได้​ประทาน​แก่​พวก​ปุโรหิต​นอก​รีต.” ผล​คือ “คอนสแตนติน​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​มี​อิทธิพล​อย่าง​ยิ่ง​หรือ​อาจ​ถึง​กับ​มี​อำนาจ​บงการ​การ​ตัดสิน ณ การ​ประชุม​สังคายนา​ที่​นีเซีย.” ชาลส์ ฟรีแมน​ยืน​ยัน​ว่า “เหตุ​การณ์​นี้​จึง​กลาย​เป็น​บรรทัดฐาน​ว่า​จักรพรรดิ​อาจ​เข้า​แทรกแซง​ไม่​เพียง​เพื่อ​สร้าง​ความ​มั่นคง​เข้มแข็ง​ให้​คริสตจักร แต่​อาจ​มี​อิทธิพล​ใน​การ​กำหนด​หลัก​ข้อ​เชื่อ​ของ​คริสตจักร​ด้วย.”—อ่าน​ยาโกโบ 4:4

13. เหตุ​ใด​เหล่า​ผู้​นำ​ของ​คริสตจักร​ไม่​สนใจ​คำ​สอน​ที่​ชัดเจน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล?

13 แม้​ว่า​ผู้​มี​ตำแหน่ง​สูง​ใน​คริสตจักร​รู้สึก​ว่า​ยาก​ที่​จะ​บอก​ให้​แน่ชัด​ได้​ว่า​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​อยู่​ใน​ฐานะ​ใด แต่​สามัญ​ชน​จำนวน​มาก​ไม่​มี​ปัญหา​ใน​เรื่อง​นี้. เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ไม่​สนใจ​ทรัพย์​สิน​เงิน​ทอง​หรือ​ความ​ก้าว​หน้า​ใน​อาชีพ​การ​งาน​อย่าง​ที่​พวก​นัก​บวช​ได้​รับ​จาก​จักรพรรดิ พวก​เขา​จึง​สามารถ​มอง​เรื่อง​ต่าง ๆ ตาม​ความ​เป็น​จริง โดย​อาศัย​พระ​คัมภีร์​เป็น​หลัก. และ​ตาม​ข้อมูล​ที่​มี​อยู่ พวก​เขา​ทำ​อย่าง​นั้น​จริง. เกรกอรี​แห่ง​นิสซา ซึ่ง​เป็น​นัก​ศาสนศาสตร์​ใน​สมัย​นั้น ได้​ให้​ความ​เห็น​ใน​เชิง​เย้ย​หยัน​สามัญ​ชน​ว่า “พวก​พ่อค้า​ผ้า พวก​รับ​แลก​เงิน และ​คน​ขาย​ของชำ​กลาย​เป็น​นัก​ศาสนศาสตร์​กัน​หมด. ถ้า​คุณ​ถาม​เรื่อง​ค่า​เงิน นัก​ปรัชญา​เหล่า​นี้​ก็​จะ​อธิบาย​ว่า​พระ​บุตร​ต่าง​กับ​พระ​บิดา​ตรง​ไหน. ถ้า​คุณ​ถาม​เรื่อง​ราคา​ขนมปัง คำ​ตอบ​ที่​คุณ​จะ​ได้​ก็​คือ​พระ​บิดา​เป็น​ใหญ่​กว่า​พระ​บุตร. หาก​คุณ​อยาก​รู้​ว่า​มี​น้ำ​จะ​ให้​คุณ​อาบ​แล้ว​หรือ​ยัง พวก​เขา​ก็​จะ​ประกาศ​ออก​มา​ว่า​พระ​บุตร​ถูก​สร้าง​ขึ้น​จาก​ความ​ว่าง​เปล่า.” ใช่​แล้ว ไม่​เหมือน​กับ​สมาชิก​ของ​คณะ​ปกครอง​คริสตจักร สามัญ​ชน​หลาย​คน​ลง​ความ​เห็น​โดย​ใช้​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​หลักฐาน​สนับสนุน. เกรกอรี​และ​เพื่อน​ร่วม​งาน​น่า​จะ​ฟัง​คน​เหล่า​นี้!

“ข้าว​สาลี” และ “วัชพืช” เติบโต​ไป​ด้วย​กัน

14. เหตุ​ใด​เรา​จึง​ลง​ความ​เห็น​ได้​ว่า​นับ​ตั้ง​แต่​ศตวรรษ​แรก​เป็น​ต้น​มา​คง​ต้อง​มี​บาง​คน​ที่​เป็น​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​แท้​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​เสมอ?

14 ใน​อุทาหรณ์ พระ​เยซู​ทรง​บ่ง​ชี้​ว่า​ตั้ง​แต่​ศตวรรษ​แรก​เป็น​ต้น​มา จะ​มี​บาง​คน​ที่​เป็น​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​แท้​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​เสมอ. พระองค์​ทรง​เปรียบ​พวก​เขา​เป็น “ข้าว​สาลี” ที่​เติบโต​อยู่​ท่ามกลาง “วัชพืช.” (มัด. 13:30) แม้​ว่า​เรา​ไม่​อาจ​กล่าว​ได้​อย่าง​แน่ชัด​ว่า​คน​ไหน​หรือ​ชน​กลุ่ม​ใด​ที่​เป็น​ชน​ชั้น​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​เปรียบ​ดุจ​ข้าว​สาลี แต่​เรา​ยืน​ยัน​ได้​ว่า​มี​บาง​คน​ที่​ปก​ป้อง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​กล้า​หาญ​และ​เปิดโปง​คำ​สอน​ที่​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​มา​โดย​ตลอด. ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​ตัว​อย่าง​ของ​บาง​คน​ที่​ทำ​อย่าง​นี้.

15, 16. จง​บอก​ชื่อ​บาง​คน​ที่​แสดง​ความ​นับถือ​ต่อ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า.

15 อาร์ชบิชอป​อะโกบาร์ด​แห่ง​ลียง ประเทศ​ฝรั่งเศส (779-840 สากล​ศักราช) กล่าว​ตำหนิ​การ​ใช้​รูป​เคารพ​ใน​การ​นมัสการ การ​อุทิศ​โบสถ์​วิหาร​ให้​แก่​นัก​บุญ รวม​ถึง​พิธี​สวด​และ​ศาสนกิจ​ต่าง ๆ ที่​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์. บิชอป​คลาวดิอุส ซึ่ง​อยู่​ใน​สมัย​เดียว​กัน ก็​ปฏิเสธ​คำ​สอน​สืบ​ปาก​ของ​คริสตจักร​และ​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การ​อธิษฐาน​ถึง​นัก​บุญ​และ​การ​บูชา​วัตถุ​มงคล​เช่น​กัน. ใน​ศตวรรษ​ที่ 11 รอง​หัวหน้า​เจ้า​คณะ​นัก​เทศน์​เบเรนกาเรียส​แห่ง​ตูร์ ประเทศ​ฝรั่งเศส ถูก​ขับ​ออก​จาก​คริสตจักร​เพราะ​ปฏิเสธ​ข้อ​เชื่อ​ของ​คาทอลิก​เรื่อง​การ​แปร​สาร (คำ​สอน​ที่​ว่า​ขนมปัง​และ​เหล้า​องุ่น​จะ​เปลี่ยน​เป็น​พระ​กาย​และ​พระ​โลหิต​จริง ๆ ของ​พระ​คริสต์). นอก​จาก​นั้น เขา​ยัง​ถือ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​สูง​ส่ง​กว่า​คำ​สอน​สืบ​ปาก​ของ​คริสตจักร​ด้วย.

16 เมื่อ​ถึง​ศตวรรษ​ที่ 12 มี​อีก​สอง​คน​ที่​เรา​รู้​จัก​ว่า​รัก​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล คือ​ปีเตอร์​แห่ง​บรุยส์​และ​เฮนรี​แห่ง​โล​ซาน. ปีเตอร์​ลา​ออก​จาก​การ​เป็น​นัก​บวช​เพราะ​เขา​ไม่​สามารถ​เชื่อม​โยง​คำ​สอน​ใน​พระ​คัมภีร์​ให้​เข้า​กัน​ได้​กับ​คำ​สอน​ของ​คาทอลิก​เรื่อง​การ​รับ​บัพติสมา​ให้​ทารก การ​แปร​สาร การ​อธิษฐาน​เพื่อ​ผู้​ตาย และ​การ​นมัสการ​ไม้กางเขน. ใน​ปี 1140 ปีเตอร์​ถูก​เผา​ทั้ง​เป็น​เนื่อง​จาก​เขา​ยึด​มั่น​ใน​ความ​เชื่อ​ของ​ตน. เฮนรี ซึ่ง​เป็น​นัก​บวช กล่าว​ตำหนิ​การ​กระทำ​อัน​เสื่อม​ทราม​และ​คำ​สอน​เกี่ยว​กับ​พิธี​สวด​ของ​คริสตจักร. เขา​ถูก​จับ​กุม​ใน​ปี 1148 และ​ถูก​ขัง​คุก​ตลอด​ชีวิต.

17. วัลโด​และ​สานุศิษย์​ของ​เขา​ทำ​อะไร​ที่​เป็น​เรื่อง​สำคัญ?

17 ประมาณ​เวลา​เดียว​กับ​ที่​ปีเตอร์​แห่ง​บรุยส์​ถูก​เผา​ทั้ง​เป็น​ด้วย​เหตุ​ที่​กล้า​วิพากษ์วิจารณ์​คริสตจักร มี​คน​หนึ่ง​เกิด​มา​ซึ่ง​ใน​ภาย​หลัง​ได้​กลาย​เป็น​ผู้​ที่​มี​อิทธิพล​อย่าง​ยิ่ง​ใน​การ​แพร่​กระจาย​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. ชื่อสกุล​ของ​เขา​คือ​วัลเดส​หรือ​วัลโด. * เขา​ผู้​นี้​ไม่​เหมือน​กับ​ปีเตอร์​แห่ง​บรุยส์​และ​เฮนรี​แห่ง​โล​ซาน​ตรง​ที่​เขา​ไม่​ได้​เป็น​นัก​บวช. แต่​เขา​เห็น​ว่า​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​มี​ค่า​สูง​ยิ่ง​จน​ถึง​กับ​เสีย​สละ​ทรัพย์​สิน​ของ​ตน​และ​ดำเนิน​การ​ให้​มี​การ​แปล​คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​ส่วน​เป็น​ภาษา​หนึ่ง​ที่​พูด​กัน​ทั่ว​ไป​ทาง​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​ของ​ฝรั่งเศส. บาง​คน​ตื่นเต้น​มาก​ที่​ได้​ยิน​ข่าวสาร​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ภาษา​ของ​ตน​เอง พวก​เขา​จึง​เสีย​สละ​ทรัพย์​สิน​ของ​ตน​และ​อุทิศ​ชีวิต​เพื่อ​บอก​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​คน​อื่น ๆ ด้วย. คริสตจักร​ไม่​พอ​ใจ​เรื่อง​นี้​อย่าง​ยิ่ง. ใน​ปี 1184 ชาย​หญิง​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า​เหล่า​นี้ ซึ่ง​เรียก​กัน​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ว่า​พวก​วัลเดนส์ ถูก​สันตะปาปา​ขับ​ออก​จาก​ศาสนา​และ​ถูก​บิชอป​เนรเทศ​ออก​จาก​บ้าน​ของ​พวก​เขา. การ​ทำ​อย่าง​นี้​กลับ​กลาย​เป็น​การ​แพร่​กระจาย​ข่าวสาร​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ยัง​พื้น​ที่​อื่น ๆ. ใน​ที่​สุด บรรดา​สานุศิษย์​ของ​วัลโด ปีเตอร์​แห่ง​บรุยส์ และ​เฮนรี​แห่ง​โล​ซาน รวม​ทั้ง​ผู้​คัดค้าน​คน​อื่น ๆ ก็​อยู่​ใน​หลาย​ส่วน​ของ​ยุโรป. มี​อีก​หลาย​คน​ที่​ปก​ป้อง​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ปรากฏ​ขึ้น​มา​ใน​ช่วง​หลาย​ศตวรรษ​หลัง​จาก​นั้น เช่น จอห์น วิคลิฟฟ์ (ประมาณ 1330-1384) วิลเลียม ทินเดล (ประมาณ 1494-1536) เฮนรี กรูว์ (1781-1862) และ​จอร์จ สตอรส์ (1796-1879).

‘พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ไม่​ถูก​ล่าม​ไว้’

18. นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​จริง​ใจ​ใน​ศตวรรษ​ที่ 19 ใช้​วิธี​อะไร​ใน​การ​ศึกษา และ​เหตุ​ใด​วิธี​นั้น​จึง​มี​ประสิทธิภาพ?

18 แม้​ว่า​เหล่า​ศัตรู​พยายาม แต่​พวก​เขา​ไม่​สามารถ​ขัด​ขวาง​การ​แพร่​กระจาย​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้. สอง​ติโมเธียว 2:9 กล่าว​ว่า ‘พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ไม่​ถูก​ล่าม​ไว้.’ ใน​ปี 1870 นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​จริง​ใจ​กลุ่ม​หนึ่ง​เริ่ม​สืบ​ค้น​หา​ความ​จริง. พวก​เขา​ศึกษา​กัน​อย่าง​ไร? จะ​มี​บาง​คน​ตั้ง​คำ​ถาม. พวก​เขา​จะ​พิจารณา​คำ​ถาม​นั้น​ด้วย​กัน. พวก​เขา​จะ​ค้น​ดู​ข้อ​คัมภีร์​ที่​เกี่ยว​ข้อง​ทั้ง​หมด จาก​นั้น เมื่อ​พวก​เขา​พอ​ใจ​กับ​ความ​สอดคล้อง​ต้อง​กัน​ของ​เนื้อ​ความ​ใน​ข้อ​คัมภีร์​เหล่า​นั้น พวก​เขา​ก็​จะ​ลง​ความ​เห็น​และ​บันทึก​ไว้. คุณ​คง​รู้สึก​มั่น​ใจ​มิ​ใช่​หรือ​ว่า เช่น​เดียว​กับ​เหล่า​อัครสาวก​และ​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ใน​ศตวรรษ​แรก ชาย​ผู้​ซื่อ​สัตย์​เหล่า​นี้​ซึ่ง​เป็น “บรรพบุรุษ​ฝ่าย​วิญญาณ” ของ​เรา​ใน​ช่วง​ต้น​ประวัติศาสตร์​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ตั้งใจ​แน่วแน่​ใน​การ​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​ตน​สอดคล้อง​กับ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​แท้​จริง?

19. ข้อ​คัมภีร์​ประจำ​ปี 2012 คือ​อะไร และ​เหตุ​ใด​ข้อ​คัมภีร์​นี้​จึง​นับ​ว่า​เหมาะ​สม?

19 คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​คง​เป็น​รากฐาน​ความ​เชื่อ​ของ​เรา. โดย​คำนึง​ถึง​เรื่อง​นี้ คณะ​กรรมการ​ปกครอง​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จึง​ได้​เลือก​คำ​ตรัส​ที่​แสดง​ถึง​ความ​เชื่อ​มั่น​ของ​พระ​เยซู​เป็น​ข้อ​คัมภีร์​ประจำ​ปี 2012 ที่​ว่า “คำ​ของ​พระองค์​เป็น​ความ​จริง.” (โย. 17:17) เนื่อง​จาก​ทุก​คน​ที่​ต้องการ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย​ต้อง​ดำเนิน​ใน​ทาง​แห่ง​ความ​จริง ขอ​ให้​เรา​ทุก​คน​พยายาม​ให้​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ชี้​นำ​ชีวิต​เรา​ต่อ ๆ ไป.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 17 บาง​ครั้ง​วัลเดส​ถูก​เรียก​ด้วย​ชื่อ​ปิแอร์ วัลเดส หรือ​ปีเตอร์ วัลโด แต่​ยัง​ไม่​อาจ​ยืน​ยัน​ได้​ว่า​เขา​ชื่อ​ปิแอร์​หรือ​ปีเตอร์​จริง ๆ ไหม.

[คำ​ถาม]

[คำ​โปรย​หน้า 8]

ข้อ​คัมภีร์​ประจำ​ปี 2012: “คำ​ของ​พระองค์​เป็น​ความ​จริง.”—โย. 17:17

[ภาพ​หน้า 7]

วัลโด

[ภาพ​หน้า 7]

วิคลิฟฟ์

[ภาพ​หน้า 7]

ทินเดล

[ภาพ​หน้า 7]

กรูว์

[ภาพ​หน้า 7]

สตอรส์