ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ชาวแอซเทกสมัยปัจจุบันเข้ามาเป็นคริสเตียนแท้

ชาวแอซเทกสมัยปัจจุบันเข้ามาเป็นคริสเตียนแท้

ชาว​แอซเทก​สมัย​ปัจจุบัน​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​แท้

“แม้​วิหาร​จะ​พัง​ทลาย​กลาย​เป็น​เถ้า​ธุลี รูป​สลัก​ถูก​กวาด​ล้าง​ทำลาย และ​หนังสือ​ศักดิ์สิทธิ์​ถูก​เผา​วอด​ใน​เปลว​เพลิง แต่​เหล่า​เทพเจ้า​ยุค​โบราณ​ก็​ยัง​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​ชาว​อินเดียน​แดง​เหล่า​นี้.”—วัฒนธรรม​เม็กซิโก​สมัย​โบราณ (Las antiguas culturas mexicanas)

เม็กซิโก​เป็น​ประเทศ​บ้าน​เกิด​ของ​ชาว​แอซเทก ซึ่ง​เป็น​ชน​กลุ่ม​น้อย​ที่​อพยพ​เข้า​มา​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​ใน​ศตวรรษ​ที่ 13 และ​ต่อ​มา​ได้​เจริญ​รุ่งเรือง​ขึ้น​จน​เป็น​อาณาจักร​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​พอ ๆ กับ​ชาว​อินคา​ใน​เปรู. แม้​ว่า​อาณาจักร​ของ​ชาว​แอซเทก​จะ​ล่ม​สลาย​ไป​แล้ว​เมื่อ​กองทัพ​สเปน​พิชิต​เมือง​เตโนชตีตลัน​ได้​ใน​ปี 1521 แต่​ภาษา​นาอัวเติล​ของ​ชาว​แอซเทก​ยัง​คง​อยู่​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้. * ชน​พื้นเมือง​ประมาณ​หนึ่ง​ล้าน​ห้า​แสน​คน​ซึ่ง​อาศัย​อยู่​ใน​รัฐ​ต่าง ๆ ของ​เม็กซิโก​ไม่​น้อย​กว่า 15 รัฐ​ยัง​พูด​ภาษา​นี้​กัน​อยู่. ภาษา​นาอัวเติล​ได้​ช่วย​สืบ​สาน​ความ​เชื่อ​บาง​อย่าง​ของ​ชาว​แอซเทก​ยุค​โบราณ​ไว้ ดัง​ที่​นัก​วิจัย​วัลเตอร์ กริกเกอเบอร์ก​กล่าว​ข้าง​ต้น. ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​มี​อะไร​บ้าง?

ธรรมเนียม​ประหลาด​แต่​กลับ​ดู​ไม่​แปลก

ธรรมเนียม​ของ​ชาว​แอซเทก​ที่​เลื่อง​ลือ​ที่​สุด​คือ​การ​บูชายัญ​มนุษย์. ธรรมเนียม​นี้​เกิด​จาก​ความ​เชื่อ​ที่​ว่า​ดวง​อาทิตย์​จะ​ดับ​สูญ​ถ้า​ไม่​ได้​กิน​หัวใจ​และ​ดื่ม​เลือด​มนุษย์. ดีเอโก ดูรัน นัก​บวช​ชาว​สเปน​บันทึก​ว่า​ใน​คราว​การ​อุทิศ​วิหาร​ทรง​พีระมิด​หลัง​ใหญ่​ที่​เมือง​เตโนชตีตลัน​ใน​ปี 1487 มี​การ​บูชายัญ​มนุษย์​มาก​กว่า 80,000 คน​ใน​ช่วง​เวลา​สี่​วัน.

แม้​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​เช่น​นี้​จะ​ทำ​ให้​ชาว​สเปน​ตกตะลึง แต่​พวก​เขา​ต้อง​แปลก​ใจ​เมื่อ​รู้​ว่า​ความ​เชื่อ​หลาย​อย่าง​ของ​ชาว​แอซเทก​คล้ายคลึง​มาก​กับ​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ใน​คริสตจักร​คาทอลิก​ของ​พวก​เขา. ตัว​อย่าง​เช่น ชาว​แอซเทก​มี​ธรรมเนียม​ที่​คล้าย​กับ​พิธี​ศีล​มหา​สนิท​ซึ่ง​พวก​เขา​จะ​เอา​ข้าว​โพด​มา​ทำ​เป็น​รูป​เทพเจ้า​ต่าง ๆ แล้ว​กิน​ข้าว​โพด​เหล่า​นั้น. บาง​ครั้ง พวก​เขา​กิน​เนื้อ​ของ​มนุษย์​ที่​ถูก​บูชายัญ​ด้วย. ชาว​แอซเทก​ใช้​ไม้กางเขน มี​พิธี​สารภาพ​บาป และ​บัพติสมา​ให้​ทารก. ธรรมเนียม​ที่​คล้ายคลึง​กัน​อย่าง​ไม่​น่า​เชื่อ​คือ​การ​นมัสการ​เทพ​ธิดา​โตนันต์ซิน “มารดา​แห่ง​ทวย​เทพ” ผู้​เป็น​พรหมจารี​ที่​ชาว​แอซเทก​เรียก​ด้วย​ความ​รักใคร่​ว่า พระ​มารดา​น้อย​ของ​เรา.

กล่าว​กัน​ว่า ใน​ปี 1531 มี​ชาว​อินเดียน​แดง​เผ่า​แอซเทก​คน​หนึ่ง​ได้​เห็น​แม่​พระ​แห่ง​กัวดาลูป​ของ​คาทอลิก​ซึ่ง​มี​ผิว​คล้ำ​และ​พูด​ภาษา​นาอัวเติล​มา​ปรากฏ​กาย​บน​ภูเขา​ที่​ชาว​แอซเทก​นมัสการ​เทพ​ธิดา​โตนันต์ซิน. เหตุ​การณ์​นี้​ทำ​ให้​ชาว​แอซเทก​เปลี่ยน​มา​นับถือ​ศาสนา​คาทอลิก​กัน​มาก​ขึ้น. มี​การ​สร้าง​แท่น​บูชา​สำหรับ​แม่​พระ​ผู้​นี้​ที่​ฐาน​ของ​วิหาร​แห่ง​เทพ​ธิดา​โตนันต์ซิน. ใน​วัน​ที่ 12 ธันวาคม​ของ​ทุก​ปี ชาว​เม็กซิโก​หลาย​แสน​คน​ที่​ศรัทธา​ใน​แม่​พระ​จะ​หลั่งไหล​ไป​ยัง​วิหาร​หลัง​นี้​และ​ใน​จำนวน​นี้​มี​คน​มาก​มาย​ที่​พูด​ภาษา​นาอัวเติล.

ชาว​นาอัวเติล​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ชุมชน​อัน​ห่าง​ไกล​แถบ​เทือก​เขา​มัก​จัด​งาน​เฉลิม​ฉลอง​ให้​แก่​นัก​บุญ​ผู้​พิทักษ์​ของ​พวก​เขา บาง​ครั้ง​งาน​ฉลอง​เหล่า​นี้​กิน​เวลา​นาน​หลาย​วัน​หรือ​ถึง​กับ​หลาย​สัปดาห์​ด้วย​ซ้ำ. หนังสือ​โลก​ของ​ชาว​แอซเทก (El universo de los aztecas) กล่าว​ว่า​ชาว​พื้นเมือง “ผสมผสาน​การ​นมัสการ​นัก​บุญ​ของ​คริสตจักร​คาทอลิก​เข้า​กับ​พิธีกรรม​ต่าง ๆ ที่​พวก​เขา​เคย​ทำ​ก่อน​จะ​ถูก​แม่ทัพ​คอร์ทิส​พิชิต.” นอก​จาก​นี้ ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​หลาย​อย่าง​ของ​ชาว​นาอัวเติล​ยัง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ถือ​ผี. เมื่อ​เจ็บ​ป่วย​พวก​เขา​จะ​ไป​หา​หมอ​ผี​ให้​ทำ​พิธี​ชำระ​ล้าง​และ​นำ​สัตว์​ไป​เซ่น​ไหว้. นอก​จาก​นี้ ชาว​นาอัวเติล​ส่วน​ใหญ่​ไม่​รู้​หนังสือ พวก​เขา​อ่าน​ไม่​ได้​ทั้ง​ภาษา​สเปน​และ​ภาษา​นาอัวเติล. เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ยึด​ติด​กับ​ธรรมเนียม​ประเพณี​และ​ภาษา​ของ​ตน​ทั้ง​ยัง​ยาก​จน​ข้นแค้น พวก​เขา​จึง​ถูก​คน​ใน​สังคม​ดูหมิ่น​เหยียด​หยาม.

ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ถึง​ชาว​แอซเทก​สมัย​ปัจจุบัน

ตลอด​หลาย​ปี พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เม็กซิโก​ได้​พยายาม​ประกาศ “ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร” แก่​ทุก​คน. (มัดธาย 24:14) ใน​ปี 2000 สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เม็กซิโก​ได้​เริ่ม​รณรงค์​ประกาศ​กับ​ประชาชน​ที่​พูด​ภาษา​นาอัวเติล​โดย​ใช้​ภาษา​ของ​คน​เหล่า​นั้น และ​มี​การ​ตั้ง​ประชาคม​ภาษา​นาอัวเติล​หลาย​แห่ง​สำหรับ​คน​ที่​เคย​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใน​ภาษา​สเปน. มี​การ​ตั้ง​ทีม​แปล​เพื่อ​แปล​หนังสือ​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ภาษา​นาอัวเติล. นอก​จาก​นี้ ยัง​มี​การ​สอน​ประชาชน​ที่​พูด​ภาษา​นาอัวเติล​ให้​อ่าน​และ​เขียน​ภาษา​ของ​ตัว​เอง​ได้. ผล​เป็น​อย่าง​ไร? ขอ​พิจารณา​ประสบการณ์​ต่อ​ไป​นี้.

เมื่อ​ผู้​หญิง​ชาว​นาอัวเติล​คน​หนึ่ง​ได้​ยิน​คำ​บรรยาย​ใน​ภาษา​ของ​เธอ​เอง​เป็น​ครั้ง​แรก เธอ​ก็​พูด​ออก​มา​ด้วย​ความ​ตื่นเต้น​ว่า “เรา​มา​ร่วม​ประชุม​ได้​สิบ​ปี​แล้ว แต่​มา​ที​ไร​ก็​ปวด​หัว​กลับ​ไป​ทุก​ที​เพราะ​ไม่​เข้าใจ​ภาษา​สเปน​มาก​นัก. แต่​ตอน​นี้​เรา​กำลัง​เริ่ม​ต้น​ใหม่!” ฮวน ชาย​วัย​หก​สิบ​ปี​ได้​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ภาษา​สเปน​กับ​ภรรยา​และ​ลูก ๆ มา​แปด​ปี​แล้ว​แต่​ไม่​ก้าว​หน้า​เลย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เมื่อ​เขา​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ภาษา​นาอัวเติล ภาย​ใน​เวลา​ไม่​ถึง​หนึ่ง​ปี​เขา​ก็​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา!

ประสบการณ์​เหล่า​นี้​แสดง​ว่า​หลาย​คน​ได้​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​โดย​ใช้​ภาษา​สเปน แต่​ก็​ไม่​สามารถ​เข้าใจ​ได้​ทั้ง​หมด. เมื่อ​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​และ​การ​ประชุม​ใหญ่ และ​ได้​อ่าน​หนังสือ​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ภาษา​ของ​ตน​เอง พวก​เขา​ก็​ตอบรับ​ความ​จริง​และ​เข้าใจ​บทบาท​หน้า​ที่​ของ​ตน​ใน​ฐานะ​คริสเตียน.

เอา​ชนะ​อุปสรรค

อย่าง​ไร​ก็​ตาม มี​อุปสรรค​บาง​อย่าง​ที่​ชาว​นาอัวเติล​ต้อง​เอา​ชนะ​เพื่อ​จะ​พัฒนา​สัมพันธภาพ​ที่​ใกล้​ชิด​กับ​พระเจ้า. ตัว​อย่าง​เช่น พวก​เขา​ถูก​กดดัน​อย่าง​หนัก​ให้​เข้า​ร่วม​ใน​การ​เฉลิม​ฉลอง​ทาง​ศาสนา. ใน​เมือง​ซันอากุสติน โออาปัน พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน​เพราะ​กลัว​ว่า​พวก​เขา​จะ​ทำ​ให้​ชาว​เมือง​นี้​เลิก​บริจาค​เงิน​เพื่อ​ช่วย​ใน​งาน​ฉลอง​ต่าง ๆ. ขณะ​ที่​ฟลอเรนซีโอ​กับ​พยาน​ฯ ชาว​นาอัวเติล​กลุ่ม​เล็ก ๆ กำลัง​ประกาศ​อยู่ พวก​เขา​สาม​คน​ถูก​จับ. ภาย​ใน 20 นาที​ฝูง​ชน​มา​รวม​ตัว​กัน​เพื่อ​ตัดสิน​ว่า​จะ​จัด​การ​กับ​พยาน​ฯ ทั้ง​สาม​คน​อย่าง​ไร.

ฟลอเรนซีโอ​เล่า​ว่า “พวก​เขา​อยาก​จะ​ฆ่า​เรา​ให้​ตาย​ตรง​นั้น​เลย. บาง​คน​ก็​บอก​ให้​จับ​เรา​มัด​แล้ว​โยน​ลง​ใน​แม่น้ำ​ให้​จม​น้ำ​ตาย! คืน​นั้น​เรา​ต้อง​นอน​ใน​คุก. วัน​รุ่ง​ขึ้น เพื่อน​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​ทนาย​ความ​กับ​พี่​น้อง​ชาย​อีก​สอง​คน​มา​ช่วย​เรา. แต่​พวก​เขา​ก็​ถูก​จับ​เข้า​คุก​ด้วย. ใน​ที่​สุด พวก​เจ้าหน้าที่​ยอม​ปล่อย​เรา​ทุก​คน​โดย​มี​เงื่อนไข​ว่า​เรา​ต้อง​ออก​ไป​จาก​เมือง​นี้.” แม้​จะ​เกิด​เหตุ​การณ์​เช่น​นี้ แต่​หลัง​จาก​นั้น​หนึ่ง​ปี​ก็​มี​การ​ตั้ง​ประชาคม​ขึ้น โดย​มี​พยาน​ฯ ที่​บัพติสมา​แล้ว 17 คน​และ​มี​ผู้​เข้า​ร่วม​ประชุม​ราว ๆ 50 คน.

อัลเบอร์โต พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​ที่​อยู่​ใน​ชุมชน​ของ​ชาว​นาอัวเติล​ใน​เมือง​โกอาปาลา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​ร่วม​ใน​งาน​ฉลอง​ของ​ชุมชน​นั้น. เขา​ปฏิเสธ​และ​ถูก​จำ​คุก. ชาว​บ้าน​ใน​ชุมชน​ถูก​เรียก​ให้​มา​ประชุม​กัน​และ​บาง​คน​ร้อง​ตะโกน​ว่า​ให้​จับ​เขา​ไป​แขวน​คอ​เพื่อ​ข่ม​ขวัญ​คน​ที่​อยาก​ไป​เข้า​ศาสนา​ของ​เขา​และ​เลิก​ยึด​ถือ​ธรรมเนียม​ของ​ท้องถิ่น. พยาน​ฯ บาง​คน​พยายาม​จะ​ช่วย​เขา​ให้​ได้​รับ​การ​ปล่อย​ตัว แต่​ก็​ถูก​จับ​ไป​ด้วย. หลัง​จาก​การ​เฉลิม​ฉลอง​ตลอด​ทั้ง​สัปดาห์​สิ้น​สุด​ลง พวก​เขา​ทุก​คน​ถูก​ปล่อย​ออก​จาก​คุก. แต่​การ​ต่อ​ต้าน​ก็​ยัง​ไม่​ยุติ พวก​เขา​จึง​ต้อง​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​เจ้าหน้าที่​ระดับ​สูง และ​มี​การ​สั่ง​ให้​คน​เหล่า​นั้น​หยุด​ข่มเหง​พยาน​ฯ. น่า​สนใจ หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน คน​ที่​เป็น​แกน​นำ​ใน​การ​ต่อ​ต้าน​พยาน​ฯ ครั้ง​นี้​ได้​ตอบรับ​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​รับ​บัพติสมา. ปัจจุบัน​มี​ประชาคม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​หนึ่ง​ประชาคม​ใน​เมือง​นี้.

ทุ่ง​นา​ที่​พร้อม​จะ​เก็บ​เกี่ยว

เมื่อ​เห็น​ว่า​เขต​งาน​ภาษา​นาอัวเติล​มี​โอกาส​ที่​จะ​เติบโต​ได้​อีก​มาก พยาน​ฯ หลาย​คน​จึง​เริ่ม​เรียน​ภาษา​นี้. แต่​ก็​มี​อุปสรรค​หลาย​อย่าง เช่น ชาว​นาอัวเติล​เป็น​คน​ขี้อาย​มาก​และ​พวก​เขา​ไม่​กล้า​พูด​ภาษา​ของ​ตัว​เอง​เพราะ​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​ดูหมิ่น​อย่าง​ที่​เคย​เป็น​มา. นอก​จาก​นั้น ภาษา​ของ​พวก​เขา​ยัง​แบ่ง​ออก​เป็น​ภาษา​ย่อย ๆ อีก​หลาย​ภาษา.

ซอนยา​ซึ่ง​ทำ​งาน​ประกาศ​เต็ม​เวลา​เล่า​ถึง​เหตุ​ผล​ที่​ทำ​ให้​เธอ​อยาก​เรียน​ภาษา​นาอัวเติล​ทั้ง​ที่​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย. ซอนยา​บอก​ว่า “จาก​บ้าน​ของ​ฉัน​ขับ​รถ​ไป​สอง​ชั่วโมง​มี​แรงงาน​ชาว​นาอัวเติล​ประมาณ 6,000 คน​อาศัย​อยู่​ใน​บริเวณ​ที่​มี​ยาม​เฝ้า​อยู่. พวก​เขา​ถูก​เอา​เปรียบ​และ​ถูก​ดูหมิ่น. ฉัน​เศร้า​ใจ​มาก​เมื่อ​เห็น​สภาพ​ความ​เป็น​อยู่​ของ​พวก​เขา​เพราะ​ครั้ง​หนึ่ง​ชาว​นาอัวเติล​เคย​เป็น​ชน​ชาติ​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​และ​เป็น​เจ้าของ​วัฒนธรรม​ดั้งเดิม​ของ​เรา. เรา​ประกาศ​กับ​พวก​เขา​โดย​ใช้​ภาษา​สเปน​มา 20 ปี​แล้ว​แต่​พวก​เขา​ก็​ยัง​ไม่​เข้าใจ​ข่าวสาร​ของ​เรา​อย่าง​ถ่องแท้​และ​ไม่​ได้​แสดง​ความ​สนใจ​มาก​นัก. แต่​เมื่อ​ฉัน​หัด​พูด​ภาษา​ของ​พวก​เขา​แม้​เพียง​ไม่​กี่​คำ พวก​เขา​ก็​รับ​ฟัง​มาก​ขึ้น. พวก​เขา​มา​ยืน​ล้อม​หน้า​ล้อม​หลัง​และ​ฟัง​ฉัน​พูด. ฉัน​บอก​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ว่า​ฉัน​จะ​สอน​เธอ​ให้​อ่าน​ออก​เขียน​ได้ ถ้า​เธอ​สอน​ภาษา​นาอัวเติล​ให้​ฉัน. ตอน​นี้​ทุก​คน​ใน​ชุมชน​เรียก​ฉัน​ว่า ‘ผู้​หญิง​ที่​พูด​ภาษา​ของ​เรา.’ ฉัน​รู้สึก​เหมือน​กับ​เป็น​มิชชันนารี​อยู่​ใน​ประเทศ​ของ​ตัว​เอง.” ปัจจุบัน ใน​เขต​นี้​มี​ประชาคม​ภาษา​นาอัวเติล​หนึ่ง​ประชาคม.

มารีเซลา ผู้​ประกาศ​เต็ม​เวลา​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​พยายาม​เรียน​ภาษา​นาอัวเติล​เช่น​กัน. ตอน​แรก​เธอ​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ชาย​วัย 70 ปี​ชื่อ​เฟลิกซ์​โดย​ใช้​ภาษา​สเปน. แต่​เมื่อ​เธอ​รู้​ภาษา​นาอัวเติล​มาก​ขึ้น เธอ​ก็​อธิบาย​เรื่อง​ต่าง ๆ ให้​เขา​ฟัง​ใน​ภาษา​ของ​เขา​เอง. การ​ทำ​เช่น​นี้​ได้​ผล​ดี. มารี​เซลา​รู้สึก​ตื้นตัน​ใจ​เมื่อ​เฟลิกซ์​ถาม​ว่า “พระ​ยะโฮวา​จะ​ฟัง​ลุง​ไหม​ถ้า​ลุง​พูด​กับ​พระองค์​เป็น​ภาษา​นาอัวเติล?” เฟลิกซ์​ดีใจ​มาก​ที่​ได้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เข้าใจ​ทุก​ภาษา. เฟลิกซ์​เข้า​ร่วม​ประชุม​เป็น​ประจำ​แม้​เขา​จะ​ต้อง​เดิน​ไกล​ถึง​หนึ่ง​ชั่วโมง​ครึ่ง และ​ตอน​นี้​เขา​รับ​บัพติสมา​แล้ว. มารี​เซลา​บอก​ว่า “ฉัน​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​ทูตสวรรค์​ซึ่ง​กำลัง​ประกาศ​ข่าว​ดี​แก่​คน​ทุก​ชาติ!”—วิวรณ์ 14:6, 7

จริง​ที​เดียว เขต​งาน​ภาษา​นาอัวเติล “เหลือง​อร่าม​พร้อม​จะ​เกี่ยว​ได้​แล้ว.” (โยฮัน 4:35) เรา​อธิษฐาน​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เชิญ​ผู้​คน​จาก​ทุก​ชาติ​ต่อ ๆ ไป​ให้​ขึ้น​ไป​ยัง​ภูเขา​ของ​พระองค์​เพื่อ​รับ​การ​สอน​ให้​รู้​จัก​วิถี​ทาง​ของ​พระองค์ รวม​ทั้ง​ชาว​แอซเทก​ใน​ปัจจุบัน​ที่​มี​ศักดิ์ศรี​เหล่า​นี้.—ยะซายา 2:2, 3

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 3 ภาษา​นาอัวเติล​เป็น​ภาษา​ใน​ตระกูล​อู​โต-แอซเทก​และ​เป็น​ภาษา​พูด​ของ​ชาว​อินเดียน​แดง​เผ่า​โฮ​ปี โชโชเน และ​โกมันเช​ใน​อเมริกา​เหนือ. คำ​ภาษา​นาอัวเติล​หลาย​คำ​ถูก​นำ​มา​ใช้​ใน​ภาษา​อังกฤษ เช่น อะโวกาโด ช็อกโกแลต ไคโยตี (สัตว์​คล้าย​หมา​ป่า) และ​โท​เม​โท (มะเขือ​เทศ).

[แผนที่​หน้า 13]

(ดู​ราย​ละเอียด​จาก​วารสาร)

เม็กซิโก​ซิตี

จำนวน​ประชากร​ชาว​แอซเทก​ใน​แต่​ละ​รัฐ

150,000 คน

น้อย​กว่า 1,000 คน