ชื่นชมยินดีในความหวังของเรา
ชื่นชมยินดีในความหวังของเรา
“[เรามี] ความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์ที่พระเจ้าผู้ไม่ตรัสมุสาทรงสัญญาไว้นานมาแล้ว.”—ทิทุส 1:2
เพื่อทบทวน
เหตุใดเรารู้ว่ามีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เมื่อผู้ถูกเจิมคนหนึ่งรักษาแนวทางชีวิตที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี?
ความหวังของแกะอื่นเกี่ยวข้องกับ ผู้ถูกเจิมอย่างไร?
เพื่อความหวังของเราจะเป็นจริง เราต้องแสดงให้เห็นว่าเรา “ประพฤติบริสุทธิ์” และ ‘ทำสิ่งที่แสดงว่าเราเลื่อมใสพระเจ้า’ อย่างไร?
1. ความหวังที่พระยะโฮวาประทานแก่เราจะช่วยเราให้อดทนได้อย่างไร?
พระยะโฮวาเป็น “พระเจ้าผู้ทรงประทานความหวัง.” อัครสาวกเปาโลกล่าวไว้อย่างนั้น และเสริมว่าพระยะโฮวาทรงสามารถ ‘ให้เราเปี่ยมด้วยความยินดีและสันติสุขเนื่องด้วยความเชื่อของเรา เพื่อเราจะบริบูรณ์ด้วยความหวังโดยฤทธิ์แห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์.’ (โรม 15:13) ถ้าเรามีความหวังอย่างบริบูรณ์ เราจะสามารถอดทนสถานการณ์ใด ๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้น หัวใจเราก็จะเปี่ยมด้วยความยินดีและสันติสุข. เช่นเดียวกับคริสเตียนผู้ถูกเจิม ความหวังเช่นนั้นจะเป็น “ดุจสมอสำหรับชีวิต ทั้งแน่นอนและมั่นคง” สำหรับคริสเตียนคนอื่น ๆ. (ฮีบรู 6:18, 19) ความหวังของเราเป็นสิ่งที่เราสามารถยึดมั่นในช่วงที่เกิดมรสุมชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยไม่ให้เราลอยห่างไปสู่ความสงสัยหรือการขาดความเชื่อ.—อ่านฮีบรู 2:1; 6:11
2. คริสเตียนในทุกวันนี้มีความหวังอะไร และเหตุใด “แกะอื่น” จึงสนใจในความหวังที่ผู้ถูกเจิมจะได้รับ?
2 คริสเตียนที่มีชีวิตอยู่ในเวลาอวสานนี้มีความหวังอย่างใดอย่างหนึ่ง. ชนที่เหลือของคริสเตียนผู้ถูกเจิมซึ่งเป็น “แกะฝูงน้อย” มีความหวังจะได้รับชีวิตอมตะในสวรรค์ ในฐานะกษัตริย์และปุโรหิตร่วมกับพระคริสต์ในราชอาณาจักร. (ลูกา 12:32; วิ. 5:9, 10) “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งเป็น “แกะอื่น” ที่มีจำนวนมากกว่ามีความหวังจะได้รับชีวิตตลอดไปบนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยานในฐานะราษฎรของราชอาณาจักรมาซีฮา. (วิ. 7:9, 10; โย. 10:16) แกะอื่นไม่ควรลืมว่าความรอดของพวกเขาขึ้นอยู่กับการที่พวกเขาสนับสนุน “พี่น้อง” ผู้ถูกเจิมของพระคริสต์ที่ยังอยู่บนโลกนี้อย่างขันแข็ง. (มัด. 25:34-40) ผู้ถูกเจิมจะได้รับบำเหน็จของพวกเขา แต่ความหวังของแกะอื่นก็จะสำเร็จเป็นจริงอย่างแน่นอนเช่นกัน. (อ่านฮีบรู 11:39, 40) ก่อนอื่น ขอให้เราพิจารณาความหวังที่พระเจ้าประทานแก่ผู้ถูกเจิม.
“ความหวังที่มีชีวิต” ของคริสเตียนผู้ถูกเจิม
3, 4. คริสเตียนผู้ถูกเจิม ‘บังเกิดใหม่เพื่อจะมีความหวังที่มีชีวิต’ อย่างไร และความหวังนั้นคืออะไร?
3 อัครสาวกเปโตรเขียนจดหมายสองฉบับถึงคริสเตียนผู้ถูกเจิม ซึ่งท่านเรียกว่า “ผู้ถูกเลือก.” (1 เป. 1:1) ท่านให้รายละเอียดเกี่ยวกับความหวังอันยอดเยี่ยมที่พระเจ้าประทานแก่แกะฝูงน้อย. เปโตรเขียนในจดหมายฉบับแรกของท่านว่า “ขอให้พระองค์ผู้เป็นพระเจ้าและพระบิดาของพระเยซูคริสต์เจ้าของเราได้รับการสรรเสริญ เพราะพระเมตตาอันใหญ่หลวง พระองค์จึงทรงให้เราบังเกิดใหม่เพื่อให้มีความหวังที่มีชีวิตโดยทรงปลุกพระเยซูคริสต์ให้เป็นขึ้นจากตาย และได้รับทรัพย์สมบัติที่ไม่เน่าเปื่อย ไม่มีมลทิน และไม่ร่วงโรย. ทรัพย์สมบัตินั้นถูกเก็บไว้ในสวรรค์สำหรับพวกท่าน ซึ่งเนื่องด้วยความเชื่อ ได้รับการอารักขาไว้โดยฤทธิ์ของพระเจ้าเพื่อให้ได้รับความรอดซึ่งจะปรากฏในช่วงเวลาสุดท้าย. ท่านทั้งหลายยินดีอย่างยิ่งด้วยเรื่องนี้.”—1 เป. 1:3-6
4 คริสเตียนจำนวนจำกัดที่พระยะโฮวาทรงเลือกให้ร่วมกับพระคริสต์ในรัฐบาลราชอาณาจักรสวรรค์ “บังเกิดใหม่” ในฐานะบุตรของพระเจ้าที่บังเกิดด้วยพระวิญญาณ. พวกเขาถูกเจิมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เป็นกษัตริย์และปุโรหิตร่วมกับพระคริสต์. (วิ. 20:6) เปโตรกล่าวว่า ‘การบังเกิดใหม่’ นี้เปิดทางให้พวกเขามี “ความหวังที่มีชีวิต” ซึ่งท่านเรียกว่าเป็น “ทรัพย์สมบัติที่ไม่เน่าเปื่อย ไม่มีมลทิน และไม่ร่วงโรย” ที่สงวนไว้สำหรับพวกเขา “ในสวรรค์.” ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ถูกเจิม “ยินดีอย่างยิ่ง” ในความหวังที่มีชีวิตของพวกเขา! แต่ความหวังนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ของพวกเขา.
5, 6. เหตุใดคริสเตียนผู้ถูกเจิมต้องพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อทำให้การถูกเรียกสู่สวรรค์เป็นเรื่องแน่นอน?
5 ในจดหมายฉบับที่สอง เปโตรกระตุ้นคริสเตียนผู้ถูกเจิมให้ ‘พยายามจนสุดกำลังเพื่อให้การทรงเรียกและทรงเลือกพวกเขาเป็นสิ่งแน่นอนสำหรับพวกเขาเอง.’ (2 เป. 1:10) พวกเขาต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาคุณลักษณะแบบคริสเตียน เช่น ความเชื่อ ความเลื่อมใสพระเจ้า ความรักใคร่ฉันพี่น้อง และความรัก. เปโตรกล่าวว่า ‘ถ้าท่านทั้งหลายมีสิ่งเหล่านี้และมีอย่างล้นเหลือ นั่นจะป้องกันพวกท่านไว้จากการอยู่เฉย ๆ หรือไม่เกิดผล.’—อ่าน 2 เปโตร 1:5-8
6 ในข่าวสารที่มีไปถึงผู้ปกครองที่บังเกิดด้วยพระวิญญาณซึ่งอยู่ในประชาคมฟีลาเดลเฟียในเอเชียไมเนอร์ พระคริสต์ผู้คืนพระชนม์ตรัสว่า “เพราะเจ้าทำตามคำที่เขียนไว้เกี่ยวกับความเพียรอดทนของเรา เราจะปกป้องเจ้าในเวลาแห่งการทดสอบซึ่งจะเกิดขึ้นทั่วแผ่นดินโลกเพื่อทดสอบคนเหล่านั้นที่อยู่บนแผ่นดินโลก. เราจะรีบมาหาเจ้า. จงยึดสิ่งที่เจ้ามีอยู่ไว้ให้มั่น จะได้ไม่มีใครเอามงกุฎของเจ้าไป.” (วิ. 3:10, 11) ถ้าคริสเตียนผู้ถูกเจิมไม่ซื่อสัตย์ เขาก็จะไม่ได้รับ “มงกุฎแห่งเกียรติยศซึ่งไม่มีวันร่วงโรย” ที่พระคริสต์ทรงสัญญาว่าจะประทานแก่ผู้ถูกเลือกที่รักษาความซื่อสัตย์ตราบสิ้นชีวิต.—1 เป. 5:4; วิ. 2:10
เข้าราชอาณาจักร
7. ยูดากล่าวถึงความหวังอันยอดเยี่ยมอะไรในจดหมายของท่าน?
7 ประมาณสากลศักราช 65 ยูดาน้องชายร่วมมารดาของพระเยซูเขียนจดหมายถึงเพื่อนคริสเตียนผู้ถูกเจิมซึ่งท่านเรียกว่า “เหล่าผู้ถูกเรียก.” (ยูดา 1; เทียบกับฮีบรู 3:1) ท่านตั้งใจเขียนจดหมายถึงพวกเขาเพื่อเน้นเรื่องความหวังอันรุ่งโรจน์ที่จะได้รับความรอด ซึ่งคริสเตียนที่ถูกเรียกให้เข้าราชอาณาจักรของพระเจ้าในสวรรค์ “ต่างก็ได้รับ.” (ยูดา 3) แม้ว่าท่านมีเรื่องเร่งด่วนอื่น ๆ ที่จะกล่าวถึง แต่ในตอนท้ายของจดหมายสั้น ๆ นั้น ท่านกล่าวถึงความหวังอันยอดเยี่ยมที่คริสเตียนผู้ถูกเจิมมีร่วมกัน โดยเขียนว่า “พระเจ้าทรงสามารถป้องกันท่านทั้งหลายไม่ให้หลงผิดและให้พวกท่านอยู่อย่างปราศจากตำหนิด้วยความชื่นชมยินดียิ่งเฉพาะพระพักตร์พระองค์ผู้ทรงสง่าราศี. ขอให้เกียรติยศ เดชานุภาพ ฤทธิ์เดช และอำนาจ จงมีแด่พระเจ้าองค์เดียวผู้ทรงช่วยเราให้รอดโดยทางพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทั้งตลอดอดีตกาล ในปัจจุบัน และตลอดอนาคตกาล.”—ยูดา 24, 25
8. สอดคล้องกับยูดา 24 มีอะไรที่บ่งชี้ว่ามีความยินดีในสวรรค์เมื่อผู้ถูกเจิมคนหนึ่งพิสูจน์ตัวซื่อสัตย์จงรักภักดี?
8 แน่นอน คริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์แต่ละคนปรารถนาจะได้รับการปกป้องไว้ไม่ให้หลงผิดและประสบความพินาศ. พวกเขามีความหวังที่มาจากคัมภีร์ไบเบิลว่าพระเยซูคริสต์จะปลุกพวกเขาให้เป็นขึ้นจากตายเป็นกายวิญญาณที่สมบูรณ์และปรากฏเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดียิ่ง. เมื่อผู้ถูกเจิมคนหนึ่งซื่อสัตย์จนสิ้นชีวิต เขามีความหวังที่แน่นอนที่จะ “ถูกปลุกให้เป็นขึ้นมาเป็นกายวิญญาณ” เป็นขึ้นจากตาย “อย่างที่ไม่รู้เน่าเปื่อย . . . อย่างมีเกียรติ.” (1 โค. 15:42-44) ในเมื่อ “มีความยินดีในสวรรค์” อย่างมาก “ถ้ามีคนบาปคนหนึ่งกลับใจ” ลองนึกภาพดูว่าจะมีความยินดีในสวรรค์สักเพียงไรเมื่อพี่น้องของพระคริสต์ที่บังเกิดด้วยพระวิญญาณจบชีวิตบนแผ่นดินโลกอย่างซื่อสัตย์จงรักภักดี. (ลูกา 15:7) พระยะโฮวาและเหล่ากายวิญญาณที่ซื่อสัตย์จะชื่นชมยินดีกับชนผู้ถูกเจิมซึ่งในตอนนั้นพวกเขาได้รับบำเหน็จของตน “ด้วยความชื่นชมยินดียิ่ง.”—อ่าน 1 โยฮัน 3:2
9. ผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์เข้าราชอาณาจักร “อย่างมีเกียรติ” อย่างไร และความหวังนี้ส่งผลต่อผู้ถูกเจิมที่ยังอยู่บนโลกนี้อย่างไร?
9 ในทำนองเดียวกัน เปโตรเขียนถึงคริสเตียนผู้ถูกเจิมว่าถ้าพวกเขาทำให้การทรงเรียกพวกเขาเป็นสิ่งแน่นอนโดยรักษาความซื่อสัตย์ พวกเขา “จะได้เข้าราชอาณาจักรนิรันดร์ของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเราอย่างมีเกียรติ.” (2 เป. 1:10, 11) เมื่อเปโตรกล่าวว่าพวกเขาจะได้เข้าราชอาณาจักรสวรรค์ “อย่างมีเกียรติ” นั้นท่านอาจหมายถึงการที่พวกเขามีคุณสมบัติคู่ควรจะได้รับบำเหน็จดังกล่าว. นอกจากนั้น ท่านอาจหมายถึงเกียรติอันสูงส่งอย่างยิ่งที่พวกเขาจะได้รับในสวรรค์. พวกเขาสามารถมองย้อนไปดูแนวทางชีวิตที่ซื่อสัตย์ของตนด้วยความปีติยินดีและความขอบคุณอย่างเปี่ยมล้น. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความหวังนี้ช่วยคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ยังอยู่บนโลกนี้ “ทำจิตใจให้เข้มแข็งและพร้อมจะทำงาน.”—1 เป. 1:13
มีความหวังสำหรับแกะอื่น
10, 11. (ก) แกะอื่นมีความหวังอะไร? (ข) ความหวังที่จะมีชีวิตบนแผ่นดินโลกเกี่ยวข้องกับพระคริสต์และ “การปรากฏแห่งเหล่าบุตรของพระเจ้า” อย่างไร?
10 อัครสาวกเปาโลเขียนถึง “เหล่าบุตรของพระเจ้า” โรม 8:14-21
ที่บังเกิดด้วยพระวิญญาณว่าพวกเขามีความหวังอันรุ่งโรจน์จะได้เป็น “ผู้รับมรดกร่วมกับพระคริสต์.” จากนั้น ท่านกล่าวถึงความหวังอันยอดเยี่ยมที่พระยะโฮวาประทานแก่แกะอื่นซึ่งมีจำนวนไม่จำกัดว่า “สิ่งทรงสร้าง [มนุษย์] ซึ่งคาดหวังอย่างแรงกล้ากำลังคอยท่าการปรากฏแห่งเหล่าบุตรของพระเจ้า [เหล่าผู้ถูกเจิม]. เพราะสิ่งทรงสร้างตกอยู่ใต้อำนาจความไร้ประโยชน์ ไม่ใช่โดยสมัครใจ แต่โดยพระองค์ผู้ทรงทำให้อยู่ใต้อำนาจนั้นโดยให้มีความหวังด้วย คือความหวังที่ว่า สิ่งทรงสร้างจะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากการเป็นทาสความเสื่อมและจะมีเสรีภาพอันรุ่งโรจน์แห่งเหล่าบุตรของพระเจ้า.”—11 พระยะโฮวาประทานความหวังแก่มนุษยชาติเมื่อพระองค์ทรงสัญญาว่าจะช่วยมนุษย์ให้รอดจาก “งูตัวแรกเดิม” คือซาตานพญามาร โดยทาง “ผู้สืบเชื้อสาย.” (วิ. 12:9; เย. 3:15, ล.ม.) “ผู้สืบเชื้อสาย” อันดับแรกได้แก่พระเยซูคริสต์. (กลา. 3:16) โดยการสิ้นพระชนม์และการคืนพระชนม์ของพระเยซู พระองค์ทรงทำให้มนุษยชาติมีความหวังที่หนักแน่นมั่นคงที่จะเป็นอิสระจากการเป็นทาสบาปและความตาย. การทำให้ความหวังนี้สำเร็จเป็นจริงเกี่ยวข้องกับ “การปรากฏแห่งเหล่าบุตรของพระเจ้า.” เหล่าผู้ถูกเจิมซึ่งได้รับเกียรติยศเป็น “ผู้สืบเชื้อสาย” อันดับรอง. พวกเขาจะ “ปรากฏ” เมื่อพวกเขาร่วมกับพระคริสต์ทำลายระบบชั่วของซาตาน. (วิ. 2:26, 27) การทำลายนี้จะทำให้แกะอื่นที่ผ่านความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ได้รับความรอด.—วิ. 7:9, 10, 14
12. การปรากฏของเหล่าผู้ถูกเจิมจะทำให้มนุษยชาติได้รับผลประโยชน์อันยอดเยี่ยมอะไร?
12 “สิ่งทรงสร้าง” ที่เป็นมนุษย์จะโล่งใจสักเพียงไรในช่วงรัชสมัยพันปีของพระคริสต์! ในตอนนั้น “เหล่าบุตรของพระเจ้า” ที่ได้รับเกียรติยศจะ “ปรากฏ” ในอีกแนวทางหนึ่งเมื่อพวกเขาทำหน้าที่เป็นปุโรหิตร่วมกับพระคริสต์และช่วยมนุษยชาติให้ได้รับผลประโยชน์แห่งเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู. ในฐานะราษฎรของราชอาณาจักรสวรรค์ “สิ่งทรงสร้าง” ที่เป็นมนุษย์ก็จะเริ่มได้รับการช่วยให้รอดจากผลกระทบของบาปและความตาย. มนุษย์ที่เชื่อฟังจะค่อย ๆ “ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากการเป็นทาสความเสื่อม.” ถ้าพวกเขารักษาความซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาไว้เสมอตลอดช่วงรัชสมัยพันปีและในช่วงที่มีการทดสอบครั้งสุดท้ายเมื่อสิ้นรัชสมัยพันปี ชื่อของพวกเขาก็จะถูกเขียนไว้อย่างถาวรใน “ม้วนหนังสือแห่งชีวิต.” พวกเขาจะมี “เสรีภาพอันรุ่งโรจน์แห่งเหล่าบุตรของพระเจ้า.” (วิ. 20:7, 8, 11, 12) ช่างเป็นความหวังอันรุ่งโรจน์จริง ๆ!
จงรักษาความหวังของเราให้แจ่มชัด
13. อะไรทำให้ความหวังของเราเป็นไปได้ และพระคริสต์จะทรงปรากฏพระองค์เมื่อไร?
13 จดหมายที่มีขึ้นโดยการดลใจสองฉบับของเปโตรมีเนื้อความที่ช่วยให้ผู้ถูกเจิมและแกะอื่นรักษาความหวังของตนให้แจ่มชัดอยู่เสมอ. ท่านชี้ว่าความหวังของพวกเขาเป็นไปได้เพราะพระกรุณาอันใหญ่หลวงของพระยะโฮวา ไม่ใช่เพราะการงานของพวกเขา. ท่านเขียนว่า “จง . . . มีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ หวังในพระกรุณาอันใหญ่หลวงซึ่งจะทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายในคราวที่พระเยซูคริสต์ทรงปรากฏพระองค์.” (1 เป. 1:13) พระคริสต์จะทรงปรากฏพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จมาประทานรางวัลแก่เหล่าสาวกผู้ซื่อสัตย์และสำเร็จโทษคนอธรรมตามการพิพากษาของพระยะโฮวา.—อ่าน 2 เทสซาโลนิเก 1:6-10
14, 15. (ก) เพื่อจะรักษาความหวังของเราให้แจ่มชัดเสมอ เราต้องจำอะไรไว้? (ข) เปโตรให้คำแนะนำอะไร?
14 เพื่อรักษาความหวังของเราให้แจ่มชัดอยู่เสมอ เราต้องจำไว้เสมอว่า “วันของพระยะโฮวา” กำลังจะมาถึงในไม่ช้า. ทัศนคติแบบนี้ควรมีผลต่อการดำเนินชีวิตทั้งสิ้นของเรา. วันของพระยะโฮวาจะทำลาย “ฟ้าสวรรค์” หรือการปกครองของมนุษย์ และ “แผ่นดินโลก” หรือสังคมมนุษย์ที่ชั่วช้า รวมทั้ง “ธาตุต่าง ๆ” ในปัจจุบัน. เปโตรเขียนว่า “ท่าน2 เป. 3:10-12
ทั้งหลายจงคิดให้ดีว่าควรเป็นคนอย่างไร . . . พร้อมกับเฝ้าคอยและคิดถึงเวลาที่วันของพระยะโฮวามาถึงอยู่เสมอ ซึ่งโดยวันนั้นฟ้าสวรรค์จะถูกไฟเผาจนสูญสิ้นไปและธาตุต่าง ๆ จะละลายไปเพราะร้อนจัด!”—15 “ฟ้าสวรรค์” และ “แผ่นดินโลก” ในปัจจุบันจะถูกแทนที่โดย “ฟ้าสวรรค์ใหม่ [ราชอาณาจักรหรือรัฐบาลของพระคริสต์] และแผ่นดินโลกใหม่ [สังคมใหม่บนแผ่นดินโลก].” (2 เป. 3:13) จากนั้น เปโตรก็แนะนำอย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไรเพื่อจะ “คอยท่า” หรือรักษาความหวังของเราในเรื่องคำสัญญานี้ที่เกี่ยวกับโลกใหม่ให้แจ่มชัดอยู่เสมอ. ท่านกล่าวว่า “ฉะนั้น พี่น้องที่รัก เนื่องจากท่านทั้งหลายกำลังคอยท่าสิ่งเหล่านี้ จงพยายามสุดกำลัง เพื่อในที่สุดพระองค์จะทรงเห็นว่าพวกท่านปราศจากด่างพร้อยและตำหนิ และมีสันติสุข.”—2 เป. 3:14
จงดำเนินชีวิตสอดคล้องกับความหวังของเรา
16, 17. (ก) เราควรแสดงให้เห็นว่าเรา “ประพฤติบริสุทธิ์” และ ‘ทำสิ่งที่แสดงว่าเราเลื่อมใสพระเจ้า’ อย่างไร? (ข) ความหวังของเราจะเป็นจริงได้อย่างไร?
16 เราไม่เพียงแต่ต้องรักษาความหวังให้แจ่มชัดเสมอเท่านั้น แต่เราต้องดำเนินชีวิตสอดคล้องกับความหวังของเราด้วย. เราควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราเป็นคนชนิดที่พระยะโฮวาทรงพอพระทัย. ‘การประพฤติบริสุทธิ์’ เกี่ยวข้องกับการที่เรา “ประพฤติอย่างดีงามท่ามกลางชนต่างชาติต่อ ๆ ไป” ด้วยการทำตามมาตรฐานด้านศีลธรรมของพระเจ้า. (2 เป. 3:11; 1 เป. 2:12) เราต้อง “รักกัน.” นั่นรวมถึงการทำทุกสิ่งที่เราทำได้เพื่อรักษาเอกภาพในสังคมพี่น้องทั่วโลกแม้แต่ในประชาคมของเรา. (โย. 13:35) ‘การทำสิ่งที่แสดงว่าเราเลื่อมใสพระเจ้า’ คือการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อรักษาสายสัมพันธ์อันใกล้ชิดที่เรามีกับพระยะโฮวา. การทำอย่างนั้นเกี่ยวข้องกับการอธิษฐานด้วยความรู้สึกจากหัวใจ การอ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวัน การศึกษาส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง การนมัสการประจำครอบครัว และการมีส่วนอย่างขันแข็งในการประกาศ “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร.”—มัด. 24:14
17 เราแต่ละคนต้องการเป็นคนชนิดที่พระยะโฮวาทรงยอมรับและจะประทานความรอดเมื่อระบบชั่วในปัจจุบัน “ละลายไป.” หากเป็นอย่างนั้น ความหวังของเราก็จะเป็นจริง กล่าวคือ “ความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์ที่พระเจ้าผู้ไม่ตรัสมุสาทรงสัญญาไว้นานมาแล้ว.”—ทิทุส 1:2
[คำถาม]
[ภาพหน้า 22]
คริสเตียนผู้ถูกเจิม ‘บังเกิดใหม่เพื่อจะมีความหวังที่มีชีวิต’
[ภาพหน้า 24]
จงรักษาความหวังของครอบครัวคุณให้แจ่มชัดอยู่เสมอ