ประสบความสำเร็จแท้ในชีวิต
“เจ้าจะดำเนินชีวิตอย่างประสบผลสำเร็จและประพฤติอย่างสุขุม.”—ยโฮ. 1:8, ล.ม.
1, 2. (ก) หลายคนนิยามความสำเร็จไว้อย่างไร? (ข) คุณอาจทำอย่างไรเพื่อจะรู้ว่าคุณมีทัศนะเช่นไรในเรื่องความสำเร็จ?
การประสบความสำเร็จในชีวิตหมายความว่าอย่างไร? ถ้าคุณถามหลาย ๆ คน คุณก็จะได้คำตอบที่แตกต่างหลากหลาย. ตัวอย่างเช่น หลายคนนิยามความหมายของความสำเร็จในแง่ของการบรรลุผลอย่างโดดเด่นด้านการเงิน งานอาชีพ หรือการศึกษา. ส่วนคนอื่นถือว่าการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่แสดงว่าเขาประสบความสำเร็จ. คนที่รับใช้พระเจ้าอาจเชื่อมโยงความสำเร็จเข้ากับตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบในประชาคมหรือผลสำเร็จในงานรับใช้.
2 เพื่อจะบอกได้ว่าคุณเองมีทัศนะอย่างไรในเรื่องความสำเร็จ คุณอาจเขียนชื่อบางคนที่คุณชื่นชอบและนับถือมากที่สุดซึ่งคุณคิดว่าเขาประสบความสำเร็จ. พวกเขามีคุณลักษณะโดดเด่นอะไรที่เหมือนกัน? พวกเขารวยหรือมีชื่อเสียงไหม? พวกเขาเป็นคนเด่นดังไหม? คำตอบที่คุณได้อาจเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจคุณ และนั่นอาจส่งผลอย่างมากต่อการเลือกและเป้าหมายของคุณ.—ลูกา 6:45
3. (ก) ยะโฮซูอะทำอะไรเพื่อจะดำเนินชีวิตอย่างประสบผลสำเร็จ? (ข) เราจะพิจารณาอะไรในบทความนี้?
3 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพระยะโฮวาทรงมองว่าเราประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะชีวิตของเราขึ้นอยู่กับความพอพระทัยของพระองค์. เมื่อทรงมอบหมายงานสำคัญให้ยะโฮซูอะนำชาวอิสราเอลเข้าสู่แผ่นดินที่ทรงสัญญา พระยะโฮวาทรงบัญชาท่านให้อ่านพระบัญญัติของโมเซ “ทั้งวันและคืน” และให้ทำตามทุกสิ่งที่เขียนไว้. พระเจ้าทรงรับรองกับท่านว่า “แล้วเจ้าจะดำเนินชีวิตอย่างประสบผลสำเร็จและประพฤติอย่างสุขุม.” (ยโฮ. 1:7, 8, ล.ม.) เรารู้ว่ายะโฮซูอะประสบความสำเร็จ. แล้วเราล่ะ? เราจะบอกได้อย่างไรว่าทัศนะของเราในเรื่องความสำเร็จตรงกับทัศนะของพระเจ้าหรือไม่? เพื่อจะบอกได้อย่างนั้น ขอให้เราพิจารณาชีวิตของชายสองคนที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล.
โซโลมอนประสบความสำเร็จในชีวิตไหม?
4. เหตุใดจึงกล่าวได้ว่าโซโลมอนประสบความสำเร็จ?
4 โซโลมอนประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในหลายทาง. เพราะเหตุใด? เพราะท่านเกรงกลัวและเชื่อฟังพระยะโฮวาเป็นเวลาหลายปี และพระองค์ทรงอวยพรท่านอย่างเหลือล้น. ขอให้ระลึกถึงตอนที่พระยะโฮวาทรงให้โซโลมอนขอสิ่งหนึ่งจากพระองค์ กษัตริย์ทูลขอสติปัญญาเพื่อจะปกครองประชาชน. ด้วยเหตุนั้น พระเจ้าจึงทรงอวยพรท่านให้มีทั้งสติปัญญาและความมั่งคั่ง. (อ่าน 1 กษัตริย์ 3:10-14) ท่านมีสติปัญญา “มากยิ่งกว่าสติปัญญาชาวประเทศทั้งปวงฝ่ายทิศตะวันออก, และยิ่งกว่าสติปัญญาทั้งหมด ณ ประเทศอายฆุบโต.” โซโลมอนมีชื่อเสียงเลื่องลือ “ไปทั่วประเทศทั้งปวงที่อยู่ล้อมรอบ.” (1 กษัต. 4:30, 31) ทรัพย์สินเงินทองที่ท่านได้รับในแต่ละปี เฉพาะทองคำอย่างเดียวมีน้ำหนักมากกว่า 22 ตัน! (2 โคร. 9:13) ท่านมีความสามารถเป็นเลิศในด้านการทูต การก่อสร้าง และการค้า. ในช่วงที่โซโลมอนมีชื่อเสียงดีเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ท่านประสบความสำเร็จ.—2 โคร. 9:22-24
5. โซโลมอนลงความเห็นเช่นไรเกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า?
5 สิ่งที่โซโลมอนเขียนไว้ในหนังสือท่านผู้ประกาศแสดงให้เห็นว่าท่านไม่ได้หลงผิดคิดว่าเฉพาะคนที่มั่งคั่งร่ำรวยและมีชื่อเสียงเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จและความยินดี. ท่านเขียนว่า “ข้าฯ รู้แล้วว่าไม่มีอะไรสำหรับเขาที่จะดีไปกว่าทำใจให้ชื่นชมยินดี, และกระทำดีตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่. มนุษย์ควรจะได้กินและดื่ม, กับชื่นชมความดีความงามในบรรดาการงานของเขา, นี้แหละเป็นของประทานของพระเจ้า.” (ผู้ป. 3:12, 13) และท่านตระหนักว่าความชื่นชมยินดีเช่นนั้นมีความหมายอย่างแท้จริงสำหรับคนที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าและได้รับความพอพระทัยจากพระองค์. โซโลมอนกล่าวไว้อย่างถูกต้องว่า “ให้เราฟังคำสรุปของเรื่องทั้งหมด: จงเกรงกลัวพระเจ้า, จงถือรักษาบัญญัติทั้งปวงของพระองค์; เพราะว่าการนี้เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน.”—ผู้ป. 12:13
6. ตัวอย่างของโซโลมอนช่วยเราอย่างไรให้ประเมินได้ว่าอะไรคือความสำเร็จที่แท้จริง?
6 โซโลมอนดำเนินชีวิตด้วยความเกรงกลัวพระเจ้าเป็นเวลาหลายปี. เราอ่านว่าโซโลมอน “ได้รักใคร่พระยะโฮวา, และดำเนินตามข้อกฎหมายของดาวิดราชบิดาของพระองค์.” (1 กษัต. 3:3) คุณคงถือว่านั่นเป็นความสำเร็จที่แท้จริงมิใช่หรือ? ด้วยการชี้นำจากพระเจ้า โซโลมอนสร้างพระวิหารที่สง่างามสำหรับการนมัสการแท้และเขียนหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสามเล่ม. แน่นอน เราไม่สามารถทำสิ่งเดียวกันกับที่โซโลมอนทำ. แต่ตัวอย่างของโซโลมอนตอนที่ยังซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าน่าจะช่วยเราประเมินได้อย่างถูกต้องว่าอะไรคือความสำเร็จที่แท้จริง และนั่นน่าจะช่วยเราให้ประสบความสำเร็จได้. พระเจ้าทรงดลใจโซโลมอนให้เขียนเกี่ยวกับความมั่งคั่ง สติปัญญา ชื่อเสียง และอำนาจ. ผู้คนจำนวนมากคิดว่าพวกเขาต้องมีสิ่งเหล่านี้เพื่อจะประสบความสำเร็จ. แต่โซโลมอนกล่าวว่าคนที่ทำงานหนักเพื่อจะได้สิ่งเหล่านี้กำลัง “วิ่งไล่ตามลม” หรือกำลังพยายามไขว่คว้าสิ่งที่ไม่ได้ทำให้พวกเขามีความสุขอย่างแท้จริง. คนที่รักเงินอยากได้มากขึ้นเรื่อย ๆ. และพวกเขามักกลัวว่าจะสูญเสียสิ่งที่พวกเขามีอยู่. และในที่สุดทรัพย์สมบัติของเขาก็จะกลายเป็นของคนอื่น.—อ่านท่านผู้ประกาศ 2:8-11, 17; 5:10-12
7, 8. โซโลมอนไม่ซื่อสัตย์อย่างไร และผลเป็นเช่นไร?
7 คุณคงรู้ด้วยว่าในที่สุดโซโลมอนไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาและไม่เชื่อฟังพระองค์. พระคัมภีร์กล่าวว่า “เมื่อซะโลโมทรงพระชราแล้ว, เหล่านางห้ามก็ทำให้พระทัยของพระองค์หลงปฏิบัติพระอื่น. และพระทัยของท่านหาดีรอบคอบเฉพาะพระยะโฮวาพระเจ้าของพระองค์, เหมือนอย่างพระทัยของดาวิดพระราชบิดาไม่ . . . ซะโลโมได้กระทำการลามกในคลองพระเนตรแห่งพระยะโฮวา.”—1 กษัต. 11:4-6
8 พระยะโฮวาตรัสแก่โซโลมอนด้วยความไม่พอพระทัยว่า “เพราะเหตุเจ้า . . . มิได้รักษาคำสัญญา1 กษัต. 11:11) น่าเศร้าจริง ๆ! แม้ว่าโซโลมอนประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน แต่ต่อมาท่านทำให้พระยะโฮวาผิดหวัง. โซโลมอนล้มเหลวในเรื่องที่สำคัญที่สุดของชีวิต คือความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า. เราแต่ละคนควรถามตัวเองว่า ‘ฉันตั้งใจแน่วแน่ว่าจะนำบทเรียนที่ได้จากชีวิตของโซโลมอนไปใช้เพื่อจะช่วยฉันให้ประสบความสำเร็จไหม?’
ไมตรีและข้อกฎหมายของเรา, ซึ่งเราได้สั่งแก่เจ้า, เราจะคืนแผ่นดินจากเจ้าเป็นแน่, และจะให้แก่ทาสของเจ้า.” (ความสำเร็จแท้ในชีวิต
9. ตามมาตรฐานของโลก เปาโลประสบความสำเร็จไหม? จงอธิบาย.
9 ชีวิตของอัครสาวกเปาโลแตกต่างอย่างมากกับชีวิตของกษัตริย์โซโลมอน. เปาโลไม่ได้มีชีวิตที่สะดวกสบายอยู่ในพระราชวังหรือได้กินดื่มกับกษัตริย์ทั้งหลาย. แทนที่จะเป็นอย่างนั้น มีหลายครั้งที่ท่านต้องทนหิว กระหาย หนาวและไม่มีเสื้อผ้า. (2 โค. 11:24-27) เมื่อเปาโลยอมรับว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮาแล้ว ท่านไม่มีตำแหน่งที่มีหน้ามีตาในศาสนายิวอีกต่อไป. หัวหน้าศาสนายิวเกลียดท่าน. ท่านถูกจำคุก ถูกเฆี่ยนตี และถูกเอาหินขว้าง. เปาโลยอมรับว่าท่านกับเพื่อนคริสเตียนถูกด่า ถูกข่มเหง และถูกใส่ร้าย. “โลกถือว่าเราเป็นเหมือนขยะและเป็นกากเดนของสิ่งสารพัดจนถึงเดี๋ยวนี้.”—1 โค. 4:11-13
ตามมาตรฐานของมนุษย์ ดูเหมือนว่าเซาโลอยู่บนเส้นทางสู่ความสำเร็จ
10. เหตุใดหลายคนอาจคิดว่าเปาโลทิ้งโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ?
10 เมื่ออัครสาวกเปาโลยังเป็นชายหนุ่มที่ชื่อเซาโล ผู้คนในสังคมมองท่านว่าดูเหมือนจะมีโอกาสก้าวหน้าได้อีกมาก. เนื่องจากเกิดมาในครอบครัวที่มีชื่อเสียง ท่านได้เรียนกับกามาลิเอลซึ่งเป็นอาจารย์ที่ผู้คนนับถือ และท่านเขียนในภายหลังว่า “ตอนที่นับถือศาสนายิว ข้าพเจ้าก็ก้าวหน้ายิ่งกว่าเพื่อนร่วมชาติรุ่นเดียวกันหลายคน.” (กลา. 1:14) เซาโลพูดภาษาฮีบรูและภาษากรีกได้คล่อง. ท่านเป็นพลเมืองโรมันซึ่งทำให้มีสิทธิพิเศษและสิทธิตามกฎหมายหลายอย่างที่หลายคนอยากมี. หากท่านเลือกที่จะประสบความสำเร็จฝ่ายโลกเช่นนั้น ท่านคงมีชื่อเสียงและมีความมั่นคงด้านการเงิน. แต่ท่านเลือกแนวทางที่คนอื่น ซึ่งอาจรวมถึงญาติ ๆ ด้วย ถือว่าโง่เขลาอย่างยิ่ง. เพราะเหตุใด?
11. ค่านิยมและเป้าหมายอะไรที่เปาโลถือว่ามีค่าอย่างยิ่ง และเพราะเหตุใด?
11 เปาโลรักพระยะโฮวาและต้องการเป็นที่พอพระทัยพระองค์มากยิ่งกว่าความมั่งคั่งและชื่อเสียงท่ามกลางมนุษย์. เมื่อเปาโลได้รับความรู้ถ่องแท้เกี่ยวกับความจริง ท่านจึงเห็นคุณค่าของค่าไถ่ งานรับใช้คริสเตียน ความหวังที่จะมีชีวิตในสวรรค์ ซึ่งผู้โยบ 1:9-11; 2:3-5) เปาโลมีเป้าหมายที่จะรับใช้พระเจ้าต่อ ๆ ไปไม่ว่าจะถูกทดสอบเช่นไรก็ตาม. นั่นไม่ใช่เป้าหมายของผู้คนทั่วไปที่ต้องการประสบความสำเร็จ.
คนในโลกไม่สนใจสิ่งเหล่านี้เลย. เปาโลรู้ว่ามีประเด็นหนึ่งที่ต้องได้รับการจัดการ. ซาตานอ้างว่ามันสามารถทำให้มนุษย์เลิกรับใช้พระเจ้าได้. (เปาโลประสบความสำเร็จที่แท้จริง
12. ทำไมคุณจึงเลือกฝากความหวังไว้กับพระเจ้า?
12 คุณมีความตั้งใจแน่วแน่เหมือนกับเปาโลไหม? แม้ว่าการดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่เรารู้ว่าการทำอย่างนั้นจะทำให้เราได้รับพระพรและความพอพระทัยจากพระยะโฮวา. นั่นแหละคือความสำเร็จที่แท้จริง. (สุภา. 10:22) เราได้รับประโยชน์ในเวลานี้ และมั่นใจได้ว่าจะได้รับพระพรในอนาคต. (อ่านมาระโก 10:29, 30) ดังนั้น มีเหตุผลมากมายที่เราจะไม่ฝากความหวังไว้กับ “ทรัพย์สมบัติที่ไม่ยั่งยืน แต่ให้ฝากไว้กับพระเจ้าผู้ทรงโปรดให้เรามีทุกสิ่งอย่างอุดมเพื่อให้เราชื่นชมยินดี.” เรา ‘สะสมทรัพย์ที่คงทนไว้เป็นฐานรากอันดีสำหรับอนาคต เพื่อเราจะได้ยึดชีวิตแท้ไว้ให้มั่น.’ (1 ติโม. 6:17-19) เราสามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่านับจากนี้ไปอีกร้อยปี แม้แต่พันปีหรือนานกว่านั้น เราจะสามารถมองย้อนกลับมาและพูดได้ว่า “ฉันประสบความสำเร็จที่แท้จริงในชีวิต!”
ทรัพย์สมบัติของคุณอยู่ที่ไหน?
13. พระเยซูทรงให้คำแนะนำอะไรเกี่ยวกับการสะสมทรัพย์สมบัติ?
13 พระเยซูตรัสเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติว่า “จงเลิกสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนบนแผ่นดินโลก ที่ซึ่งมีมอดมากินและมีสนิมขึ้น และมีขโมยแอบเข้ามาขโมยไป. แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนในสวรรค์ ที่ซึ่งไม่มีมอดมากินและไม่มีสนิมขึ้น และไม่มีขโมยแอบเข้ามาขโมยไป. เพราะทรัพย์สมบัติของเจ้าอยู่ที่ไหน ใจของเจ้าจะอยู่ที่นั่นด้วย.”—มัด. 6:19-21
14. เหตุใดจึงไม่ฉลาดที่จะมุ่งแสวงหาทรัพย์สมบัติ?
14 ทรัพย์สมบัติของคนเราอาจไม่ได้หมายถึงเงินเท่านั้น แต่อาจรวมถึงเกียรติยศ ชื่อเสียง หรืออำนาจที่โซโลมอนกล่าวถึง. ในมุมมองของมนุษย์ คนที่มีสิ่งเหล่านี้ถือว่าประสบความสำเร็จ. พระเยซูตรัสคล้าย ๆ กับที่โซโลมอนกล่าวไว้ในหนังสือท่านผู้ประกาศว่า ทรัพย์สมบัติในโลกล้วนไม่ยั่งยืน. ตามที่คุณคงจะเห็นอยู่แล้วในโลกรอบตัวคุณ ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นทั้งหมดเสื่อมสลายและสูญหายไปได้อย่างง่ายดาย. ศาสตราจารย์ เอฟ. เดล บรูเนอร์ เขียนเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติในโลกนี้ว่า “เป็นที่รู้กันว่า ชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน. ฮีโร่ของเสาร์ที่แล้วกลายเป็นอดีตฮีโร่เมื่อถึงฤดูกาลหน้า. ผู้ประสบความสำเร็จทางการเงินในปีนี้กลับล้มละลายในปีถัดไป. . . . [พระเยซู] ทรงรักมนุษย์. พระองค์ทรงเตือนพวกเขาให้ระวังอย่าแสวงหาเกียรติยศที่จะจางหายไปซึ่งจะทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน.” แม้ว่าคนส่วนใหญ่คงเห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว แต่มีสักกี่คนที่เปลี่ยนวิธีดำเนินชีวิตของเขาตามคำแนะนำของพระเยซู? คุณจะดำเนินชีวิตตามคำแนะนำของพระเยซูไหม?
15. เราควรพยายามเพื่อจะประสบความสำเร็จแบบใด?
15 ผู้นำทางศาสนาบางคนสอนว่าการพยายาม
ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องผิดและควรเลิกการพยายามทำเช่นนั้นทุกอย่าง. แต่ขอให้สังเกตว่า พระเยซูไม่ได้ตำหนิความพยายามเช่นนั้นทุกอย่าง. พระองค์ทรงกระตุ้นเหล่าสาวกให้พยายามทำในอีกแนวทางหนึ่ง คือให้พวกเขา “สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนในสวรรค์” ซึ่งไม่มีวันเสื่อมสูญ. ความปรารถนาสูงสุดของเราควรได้แก่การพยายามประสบความสำเร็จตามทัศนะของพระยะโฮวา. ใช่แล้ว คำตรัสของพระเยซูทำให้เรารู้ว่าเราเลือกได้ว่าจะมุ่งแสวงหาอะไร. ข้อเท็จจริงก็คือเราจะแสวงหาสิ่งที่อยู่ในใจเราหรือสิ่งที่เราถือว่ามีค่า.16. เราจะมั่นใจได้ในเรื่องอะไร?
16 ถ้าเราพยายามทำทุกสิ่งที่เราทำได้เพื่อให้พระยะโฮวาพอพระทัย เรามั่นใจได้ว่าพระองค์จะทรงดูแลให้เรามีสิ่งจำเป็น. บางครั้งบางคราวพระองค์อาจยอมให้เราอดอยากขาดแคลนเช่นเดียวกับที่อัครสาวกเปาโลประสบ. (1 โค. 4:11) ถึงกระนั้น เรามั่นใจในคำแนะนำที่ฉลาดสุขุมของพระเยซูได้ที่ว่า “อย่าวิตกกังวลและพูดว่า ‘เราจะกินอะไร?’ หรือ ‘เราจะดื่มอะไร’ หรือ ‘เราจะสวมอะไร?’ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ชนต่างชาติร้อนรนแสวงหา. ด้วยว่าพระบิดาของเจ้าทั้งหลายผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบว่าพวกเจ้าต้องมีสิ่งทั้งปวงนี้. ‘ดังนั้น จงแสวงหาราชอาณาจักรและความชอบธรรมของพระองค์ก่อนเสมอไป แล้วพระองค์จะทรงให้สิ่งทั้งปวงนี้แก่พวกเจ้า.’ ”—มัด. 6:31-33
ประสบความสำเร็จในสายพระเนตรของพระเจ้า
17, 18. (ก) ความสำเร็จแท้ขึ้นอยู่กับอะไร? (ข) ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับอะไร?
17 จุดสำคัญในเรื่องนี้คือ ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำได้หรือฐานะตำแหน่งของเราตามทัศนะของโลก. นอกจากนั้น ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้วัดกันด้วยหน้าที่รับผิดชอบในองค์การของพระเจ้า. แต่สิทธิพิเศษเช่นนั้นสืบเนื่องมาจากการเชื่อฟังและความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าซึ่งเป็นรากฐานของความสำเร็จแท้. พระเจ้า ‘ทรงคาดหมายว่าผู้รับใช้ต้องเป็นคนซื่อสัตย์.’ (1 โค. 4:2) และเราต้องเพียรอดทนในการรักษาความซื่อสัตย์. พระเยซูตรัสว่า “ผู้ที่เพียรอดทนจนถึงที่สุดจะได้รับการช่วยให้รอด.” (มัด. 10:22) คุณเห็นด้วยมิใช่หรือว่าความรอดเป็นหลักฐานที่แสดงว่าคนเราประสบความสำเร็จที่แท้จริง?
18 เมื่อคิดทบทวนถึงสิ่งที่กล่าวไปแล้ว คุณคงเห็นแล้วว่าความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าไม่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียง การศึกษา ฐานะทางการเงินหรือทางสังคม. และความซื่อสัตย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเฉลียวฉลาด พรสวรรค์ หรือความสามารถ. ไม่ว่าสภาพการณ์ของเราจะเป็นเช่นไร เราก็จะพิสูจน์ตัวซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าได้. ประชาชนของพระเจ้าในศตวรรษแรกมีทั้งคนรวยและคนจน. เปาโลแนะนำคนที่ร่ำรวย “ให้ทำการดี และทำให้มาก ๆ ให้เป็นคนใจกว้าง พร้อมจะแบ่งปัน.” ท่านแนะนำทั้งคนรวยและคนจนให้ “ยึดชีวิตแท้ไว้ให้มั่น.” (1 ติโม. 6:17-19) ในทุกวันนี้ก็เช่นกัน. พวกเราทุกคนมีโอกาสและหน้าที่รับผิดชอบอย่างเดียวกัน คือเราต้องรักษาความซื่อสัตย์และ “ทำการดี และทำให้มาก ๆ.” ถ้าเราทำเช่นนั้น เราจะประสบความสำเร็จในสายพระเนตรของพระผู้สร้างและมีความสุขที่รู้ว่าเราทำให้พระองค์พอพระทัย.—สุภา. 27:11
19. คุณตั้งใจแน่วแน่เช่นไรในเรื่องความสำเร็จ?
19 เราไม่สามารถเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนในโลกมองเรา แต่เราสามารถเปลี่ยนวิธีที่เรามองสภาพการณ์ของเราเอง. จงพยายามรักษาตัวซื่อสัตย์เสมอไม่ว่าสภาพการณ์ของคุณจะเป็นเช่นไร. การพยายามทำอย่างนี้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า. ขอให้มั่นใจได้เลยว่าพระยะโฮวาจะทรงอวยพรคุณอย่างอุดม ทั้งในเวลานี้และตลอดไป. อย่าลืมสิ่งที่พระเยซูตรัสกับคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ว่า “เจ้าจงซื่อสัตย์ตราบสิ้นชีวิต แล้วเราจะให้มงกุฎแห่งชีวิตแก่เจ้า.” (วิ. 2:10) คนที่ได้รับชีวิตนิรันดร์คือคนที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง!