ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วิธีที่ผู้ปกครองฝึกอบรมพี่น้องชายให้มีคุณสมบัติ

วิธีที่ผู้ปกครองฝึกอบรมพี่น้องชายให้มีคุณสมบัติ

“สิ่งต่าง ๆ ที่ท่านได้ยินจากข้าพเจ้า . . . จงมอบให้แก่คนที่ซื่อสัตย์”—2 ติโม. 2:2

1. (ก) ผู้รับใช้ของพระเจ้ามองการฝึกอบรมอย่างไร และทำไมการฝึกอบรมจึงจำเป็นในทุกวันนี้? (ข) เราจะพิจารณาอะไรในบทความนี้?

ประชาชนของพระเจ้ารู้ดีว่าการฝึกอบรมทำให้เกิดความสำเร็จ ตัวอย่างเช่น โดยการรวบรวม “พลชำนาญศึก” หรือคนที่ถูกฝึก มาจนชำนาญ อับรามจึงสามารถช่วยโลตได้สำเร็จ (เย. 14:14-16) คล้ายกัน นักร้องในสมัยของกษัตริย์ดาวิด “ได้รับการฝึกฝน” ให้ร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวา (1 โคร. 25:7, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย ) ทุกวันนี้ เราต้องต่อสู้กับซาตานและโลกของมัน (เอเฟ. 6:11-13) นอกจากนั้น เรายังทำงานหนักเพื่อสรรเสริญพระยะโฮวาโดยบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับชื่อของพระองค์ (ฮีบรู 13:15, 16) ดังนั้น เพื่อที่เราจะประสบความสำเร็จเหมือนผู้รับใช้พระเจ้าในอดีต เราก็ต้องได้รับการฝึกอบรม ด้วย ที่จริง พระยะโฮวามอบหมายหน้าที่รับผิดชอบแก่ผู้ปกครองให้ฝึกอบรมพี่น้องชายในประชาคม (2 ติโม. 2:2) มีวิธีอะไรบ้างที่ผู้ปกครองบางคนใช้เพื่อฝึกอบรมพี่น้องชายให้ดูแลประชาชนของพระยะโฮวา?

ช่วยเขาให้รักพระยะโฮวามากขึ้น

2. ก่อนจะสอนทักษะใหม่ ๆ ให้กับพี่น้องชาย ผู้ปกครองอาจทำอะไรและทำไม?

2 ผู้ปกครองอาจเปรียบได้กับชาวสวน ก่อนปลูกพืช ชาวสวนอาจต้องใส่ปุ๋ยในดินเพื่อทำให้ต้นไม้เติบโตและแข็งแรง คล้ายกัน ก่อนที่ผู้ปกครองจะสอนทักษะใหม่ ๆ ให้กับพี่น้องชาย เขาอาจคุยกับพี่น้องชายเกี่ยวกับหลักการบางอย่างในคัมภีร์ไบเบิลเพื่อช่วยให้พี่น้องชายพร้อมจะนำสิ่งที่ได้เรียนไปใช้—1 ติโม. 4:6

3. (ก) ผู้ปกครองอาจใช้คำพูดของพระเยซูในมาระโก 12:29, 30 พูดคุยกับพี่น้องชายอย่างไร? (ข) คำอธิษฐานของผู้ปกครองอาจส่งผลอย่างไรต่อพี่น้องชาย?

3 นับว่าสำคัญที่จะรู้ว่าความจริงส่งผลอย่างไรต่อความคิดและความรู้สึกของพี่น้องชาย เพื่อจะรู้เรื่องนี้ ผู้ปกครองอาจถามเขาว่าการที่เขาอุทิศตัวแด่พระยะโฮวาส่งผลอย่างไรต่อการตัดสินใจในชีวิตของเขา คำถามนั้นอาจนำไปสู่การพูดคุยกันเกี่ยวกับวิธีที่จะรับใช้พระยะโฮวาด้วยสุดหัวใจ (อ่านมาระโก 12:29, 30) นอกจากนั้น ผู้ปกครองอาจอธิษฐานด้วยกันกับพี่น้องชาย ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อพี่น้องชายจะรับการฝึกอบรมได้สำเร็จ เมื่อพี่น้องชายได้ยินผู้ปกครองอธิษฐานเพื่อเขา นั่นจะช่วยกระตุ้นเขาให้ทำมากขึ้น!

4. (ก) ขอยกตัวอย่างบางเรื่องในคัมภีร์ไบเบิลที่จะช่วยพี่น้องชายให้ทำความก้าวหน้า (ข) ผู้ปกครองควรมีเป้าหมายอะไรเมื่อฝึกอบรมพี่น้องชาย?

4 เมื่อผู้ปกครองเริ่มฝึกอบรม นับว่าดีที่จะพิจารณาบางเรื่องในคัมภีร์ไบเบิลด้วยกันเพื่อช่วยพี่น้องชายให้เห็นความสำคัญของการเป็นคนมีน้ำใจช่วยเหลือ ไว้ใจได้ และถ่อมตน (1 กษัต. 19:19-21; นเฮม. 7:2; 13:13; กิจ. 18:24-26) คุณลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชายเหมือนกับที่ปุ๋ยเป็นประโยชน์ต่อดิน เพราะคุณลักษณะเหล่านี้จะช่วยพี่น้องชายให้เติบโตนั่นคือทำความก้าวหน้าเร็วขึ้น ผู้ปกครองจากฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อชอง-คล็อดบอกว่า เป้าหมายของเขาเมื่อฝึกอบรมคือช่วยพี่น้องชายให้ตัดสินใจอย่างฉลาดสุขุมโดยอาศัยหลักการจากคัมภีร์ไบเบิล เขาบอกว่า “ผมหาโอกาสอ่านข้อคัมภีร์ด้วยกันกับพี่น้องชายเพื่อ ‘เปิดตา’ ของเขาให้เห็น ‘สิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลาย’ ที่พบในคำของพระเจ้า” (เพลง. 119:18, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย ) มีวิธีอื่นอะไรอีกไหมที่จะช่วยฝึกอบรมพี่น้องชาย?

แนะให้ตั้งเป้าหมายและบอกเหตุผล

5. (ก) การที่ผู้ปกครองพูดคุยกับพี่น้องชายเกี่ยวกับเป้าหมายในการรับใช้พระยะโฮวานับว่าสำคัญอย่างไร? (ข) ทำไมผู้ปกครองควรฝึกอบรมพี่น้องชายตั้งแต่ตอนที่เขาอายุยังน้อย? (ดูเชิงอรรถ)

5 ผู้ปกครองอาจถามพี่น้องชายว่าเขามีเป้าหมายอะไรบ้างในการรับใช้พระยะโฮวา ถ้าเขาไม่มีเป้าหมายอะไรเลย คุณอาจช่วยเขาให้ตั้งเป้าหมายสักอย่างหนึ่งที่เขาทำได้ คุณอาจเล่าเกี่ยวกับเป้าหมายที่คุณเคยมีและความยินดีที่ได้รับเมื่อคุณทำตามเป้าหมายนั้นจนสำเร็จ ขอให้คุณเล่าให้เขาฟังอย่างมีชีวิตชีวา วิธีนี้เป็นวิธีง่าย ๆ แต่ก็มีประสิทธิภาพ วิกเตอร์ซึ่งเป็นผู้ปกครองและไพโอเนียร์ในแอฟริกาบอกว่า “ตอนที่ผมเป็นวัยรุ่น ผู้ปกครองคนหนึ่งถามผมเกี่ยวกับเป้าหมายในงานรับใช้ คำถามเหล่านั้นช่วยผมให้เริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้” ผู้ปกครองที่มีประสบการณ์หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะฝึกอบรมพี่น้องชายตอนที่เขาอายุยังน้อยหรือเริ่มเป็นวัยรุ่น เช่น ผู้ปกครองอาจมอบหมายงานบางอย่างในประชาคมที่เหมาะกับอายุของเขา ถ้าพี่น้องชายได้รับการฝึกอบรมตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นจะช่วยพวกเขาให้จดจ่ออยู่กับเป้าหมายต่อไปแม้เขาจะอายุเพิ่มขึ้นและมีหลายสิ่งที่ทำให้เขวก็ตาม—อ่านบทเพลงสรรเสริญ 71:5, 17 *

อธิบายให้พี่น้องชายเข้าใจความสำคัญของงานที่เขาได้รับมอบหมายและชมเชยความพยายามของเขา (ดูข้อ 5-8)

6. พระเยซูฝึกอบรมคนอื่นอย่างไร?

6 เพื่อจะกระตุ้นพี่น้องชายให้รับใช้ ผู้ปกครองต้องไม่เพียงแค่บอกเขาว่าต้องทำอะไร แต่ต้องอธิบายด้วยว่าทำไม จึงสำคัญที่ต้องทำอย่างนั้น เมื่อพระเยซูครูผู้ยิ่งใหญ่บอกเหล่าอัครสาวกให้ประกาศ ท่านบอกเหตุผล กับพวกเขาก่อนว่าทำไมควรเชื่อฟัง ท่านบอกว่า “อำนาจทั้งสิ้นในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกได้ทรงมอบแก่เราแล้ว” จากนั้น ท่านบอกว่า “ฉะนั้น จงไปสอนคนจากทุกชาติให้เป็นสาวก” (มัด. 28:18, 19) ผู้ปกครองจะเลียนแบบวิธีฝึกอบรมของพระเยซูได้อย่างไร?

7, 8. (ก) ผู้ปกครองในทุกวันนี้จะเลียนแบบวิธีการฝึกอบรมของพระเยซูได้อย่างไร? (ข) การชมเชยพี่น้องชายสำคัญอย่างไร? (ค) มีคำแนะนำอะไรอีกที่จะช่วยผู้ปกครองในการฝึกอบรมพี่น้องชาย? (ดูกรอบ “ วิธีฝึกอบรมพี่น้องชาย”)

7 ผู้ปกครองทั้งหลาย เมื่อคุณขอพี่น้องชายให้ทำงานบางอย่าง ขอคุณอธิบายจากคัมภีร์ไบเบิลกับเขาว่าทำไมงานนี้จึงสำคัญ การทำอย่างนั้นจะสอนเขาให้ทำสิ่งต่าง ๆ ตามหลักการในคัมภีร์ไบเบิลและไม่ใช่ทำเพราะเป็นแค่หน้าที่ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณขอพี่น้องชายให้ดูแลบริเวณทางเข้าหอประชุมให้สะอาดและปลอดภัย คุณอาจให้เขาดูทิทุส 2:10 และอธิบายว่างานที่เขาทำจะทำให้ข่าวสารราชอาณาจักรน่าดึงดูดใจมากขึ้นอย่างไร และผู้สูงอายุในประชาคมจะได้รับประโยชน์อย่างไรจากงานที่เขาทำ วิธีฝึกอบรมแบบนี้จะช่วยพี่น้องชายให้คิดถึงคนอื่นมากขึ้นแทนที่จะคิดว่าเป็นแค่หน้าที่ เมื่อเขาเห็นว่าพี่น้องชายหญิงได้รับประโยชน์จากงานที่เขาทำ เขาก็จะมีความสุขที่ได้รับใช้คนอื่น

8 เมื่อพี่น้องชายทำตามคำแนะนำ ขอคุณอย่าลืมชมเชยเขา การทำอย่างนั้นสำคัญอย่างไร? เหมือนกับที่น้ำช่วยต้นไม้ให้เติบโตแข็งแรง การชมเชยพี่น้องชายก็จะช่วยเขาให้ทำความก้าวหน้าในงานรับใช้มากขึ้น—เทียบกับมัดธาย 3:17

อุปสรรคอื่น ๆ

9. (ก) ทำไมจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ปกครองที่จะฝึกอบรมพี่น้องชายที่อยู่ในประเทศร่ำรวย? (ข) ทำไมพี่น้องชายบางคนไม่ได้ให้การรับใช้พระเจ้าอยู่ในอันดับแรกในชีวิต?

9 คริสเตียนผู้ปกครองที่อยู่ในประเทศร่ำรวยอาจพบว่ายากที่จะสนับสนุนพี่น้องชายที่รับบัพติสมาแล้วซึ่งอายุระหว่าง 20 ถึง 40 ปีให้ทำงานมากขึ้นในประชาคม ผู้ปกครองที่มีประสบการณ์จากประเทศต่าง ๆ ประมาณ 20 ประเทศบอกถึงสาเหตุที่เขาเห็นว่าทำไมพี่น้องชายหนุ่มบางคนไม่ได้ทำงานมากขึ้นในประชาคม พวกเขาบอกว่าตอนที่พี่น้องชายเหล่านั้นอายุยังน้อย พ่อแม่ไม่ได้สนับสนุนให้ตั้งเป้าหมายในการรับใช้พระยะโฮวา และเมื่อพวกเขาอยาก รับใช้มากขึ้น พ่อแม่กลับสนับสนุนให้เรียนสูง ๆ หรือหางานที่มีหน้ามีตาในโลก! ดังนั้น งานรับใช้พระเจ้าจึงไม่ได้เป็นอันดับแรกในชีวิตของพวกเขา—มัด. 10:24

10, 11. (ก) ผู้ปกครองอาจค่อย ๆ ช่วยพี่น้องชายให้เปลี่ยนวิธีคิดได้อย่างไร? (ข) ผู้ปกครองอาจใช้ข้อคัมภีร์ใดบ้างเพื่อกระตุ้นพี่น้องชาย และทำไม? (ดูเชิงอรรถ)

10 ถ้าพี่น้องชายดูเหมือนว่าไม่ค่อยอยากรับงานมอบหมายมากขึ้นในประชาคม ผู้ปกครองอาจต้องใช้เวลาและความอดทนเพื่อช่วยพี่น้องชายคนนั้นให้เปลี่ยนวิธีคิดซึ่งเรื่องนี้เป็นไปได้ เช่นเดียวกับชาวสวนที่ค่อย ๆ ดัดต้นไม้ที่เขาปลูกเพื่อให้ลำต้นของมันตั้งตรง ผู้ปกครองก็ต้องค่อย ๆ ช่วยพี่น้องชายให้ปรับเปลี่ยนทัศนะของเขาเพื่อให้อยากรับเอาหน้าที่รับผิดชอบในประชาคมมากขึ้น แต่จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?

11 ผู้ปกครองควรพยายามเป็นเพื่อนกับพี่น้องชายโดยใช้เวลากับเขาให้มากเท่าที่จะทำได้และบอกเขาให้รู้ว่าประชาคมต้องการเขา คุณอาจหาโอกาสเหมาะ ๆ เพื่อคุยและหาเหตุผลกับเขาโดยใช้พระคัมภีร์เพื่อช่วยเขาให้คิดเกี่ยวกับการที่ได้อุทิศตัวแด่พระยะโฮวา (ผู้ป. 5:4; ยซา. 6:8; มัด. 6:24, 33; ลูกา 9:57-62; 1 โค. 15:58; 2 โค. 5:15; 13:5) พยายามเข้าถึงหัวใจเขาโดยใช้คำถาม เช่น ‘คุณได้สัญญาอะไรกับพระยะโฮวาตอนที่คุณอุทิศตัวแด่พระองค์? คุณคิดว่าพระยะโฮวารู้สึกยังไงตอนที่คุณรับบัพติสมา?’ (สุภา. 27:11) ‘แล้วคุณคิดว่าซาตานรู้สึกยังไง?’ (1 เป. 5:8) ข้อพระคัมภีร์เหล่านั้นมีพลังมากและอาจส่งผลอย่างลึกซึ้งต่อหัวใจของพี่น้องชาย—อ่านฮีบรู 4:12 *

พี่น้องชายทั้งหลาย ขอคุณพิสูจน์ตัวว่าซื่อสัตย์

12, 13. (ก) เอลีชามีทัศนะอย่างไรต่อการฝึกอบรมที่เขาได้รับ? (ข) พระยะโฮวาให้รางวัลความซื่อสัตย์ของเอลีชาอย่างไร?

12 พี่น้องชายหนุ่มทั้งหลาย ประชาคมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ! การมีทัศนะแบบไหนจะช่วยคุณให้ประสบความสำเร็จในการรับใช้พระยะโฮวา? เพื่อจะรู้คำตอบ ขอเรามาพิจารณาบางเหตุการณ์ในชีวิตของเอลีชา ผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมในอดีต

13 ประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว ผู้พยากรณ์เอลียาห์ชวนชายหนุ่มชื่อเอลีชาให้มาเป็นผู้ช่วย เอลีชาตอบตกลงทันทีและทำงานที่ต่ำต้อยอย่างซื่อสัตย์ให้กับผู้พยากรณ์ (2 กษัต. 3:11) เอลียาห์ฝึกอบรมเอลีชาประมาณ 6 ปี ต่อมาเมื่องานของเอลียาห์ในอิสราเอลใกล้จะเสร็จ ผู้พยากรณ์จึงบอกเอลีชาว่าไม่ต้องอยู่รับใช้เขาอีกต่อไป แต่เอลีชาตอบถึง 3 ครั้งว่า “ข้าพเจ้าจะไม่ละทิ้งท่าน” เขาตั้งใจจะอยู่กับเอลียาห์ผู้ฝึกอบรมเขาให้นานเท่าที่จะทำได้ และพระยะโฮวาก็ให้รางวัลความภักดีและความซื่อสัตย์ของเอลีชาโดยให้เขาเห็นเหตุการณ์ตอนที่เอลียาห์ถูกรับไปโดยลมพายุ—2 กษัต. 2:1-12

14. (ก) พี่น้องชายที่ได้รับการฝึกอบรมในทุกวันนี้จะเลียนแบบเอลีชาได้อย่างไร? (ข) ทำไมจึงสำคัญที่พี่น้องชายจะเป็นคนซื่อสัตย์?

14 พี่น้องชายที่ได้รับการฝึกอบรมจะเลียนแบบเอลีชาได้อย่างไร? คุณทำได้โดยตอบรับงานมอบหมายทันทีแม้จะเป็นงานที่ต่ำต้อยและให้มองผู้ปกครองที่สอนคุณว่าเป็นเพื่อน นอกจากนั้น ขอให้คุณบอกผู้ปกครองว่าคุณเห็นค่าสิ่งที่เขาได้ทำเพื่อคุณและแสดงให้เขาเห็นว่าคุณอยากเรียนรู้จากเขาต่อ ๆ ไป สำคัญที่สุดคือ ขอให้คุณซื่อสัตย์ในการเอาใจใส่งานมอบหมายที่ได้รับ เพราะอะไร? เมื่อคุณพิสูจน์ตัวว่าซื่อสัตย์และไว้ใจได้ ผู้ปกครองก็จะมั่นใจว่าพระยะโฮวาอยากให้คุณมีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้นในประชาคม—เพลง. 101:6; อ่าน 2 ติโมเธียว 2:2

นับถือผู้ปกครองที่มีประสบการณ์

15, 16. (ก) เอลีชาแสดงให้เห็นอย่างไรว่าเขานับถือเอลียาห์ผู้ที่สอนเขา? (ดูภาพแรก) (ข) ทำไมผู้พยากรณ์คนอื่น ๆ มีความมั่นใจในตัวเอลีชา?

15 เรื่องราวของเอลีชาแสดงให้เราเห็นว่า เป็นเรื่องสำคัญที่พี่น้องชายในทุกวันนี้จะแสดงความนับถือผู้ปกครองที่มีประสบการณ์ หลังจากที่เอลียาห์กับเอลีชาไปเยี่ยมเหล่าผู้พยากรณ์ในเมืองเยริโค ทั้งสองก็เดินทางมาถึงแม่น้ำจอร์แดน จากนั้น “เอลียาจึงม้วนเสื้อชั้นนอกของท่าน และฟาดน้ำที่แม่น้ำ และน้ำนั้นก็แยกออกจากกัน” ทั้งสองจึงเดินบนดินแห้งข้ามแม่น้ำจอร์แดนและ “เดินสนทนากันไป” เอลีชาตั้งใจฟังและเรียนรู้ทุกสิ่งที่เอลียาห์สอน เอลีชาไม่ได้คิดว่าเขารู้หมดแล้ว จากนั้น เอลียาห์ก็ถูกรับไปโดยลมพายุ และเอลีชาก็เดินทางกลับไปที่แม่น้ำจอร์แดน ที่นั่น เขาตีน้ำด้วยเสื้อชั้นนอกของเอลียาห์และพูดว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งเอลียาอยู่ที่ไหน?” แล้วน้ำในแม่น้ำก็แยกออกจากกัน—2 กษัต. 2:8-14

16 คุณสังเกตไหมว่าการอัศจรรย์ครั้งแรกของเอลีชาเหมือนการอัศจรรย์ครั้งสุดท้ายที่เอลียาห์ทำ? เรื่องนี้สอนอะไร? แม้เอลีชาจะได้รับตำแหน่งผู้พยากรณ์แทนเอลียาห์ แต่เขา ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องทำแตกต่างจากที่เอลียาห์เคยทำ แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เอลีชาเลียนแบบวิธีของเอลียาห์ การทำอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าเขานับถือเอลียาห์ผู้ที่สอนเขาและยังช่วยให้ผู้พยากรณ์คนอื่นมั่นใจในตัวเขา (2 กษัต. 2:15) เอลีชารับใช้เป็นผู้พยากรณ์นานถึง 60 ปี และพระยะโฮวาให้อำนาจเขาทำการอัศจรรย์มากกว่าที่เอลียาห์เคยทำ พี่น้องชายที่ได้รับการฝึกอบรมในปัจจุบันได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้?

17. (ก) พี่น้องชายในทุกวันนี้จะเลียนแบบทัศนะของเอลีชาได้อย่างไร? (ข) พระยะโฮวาอาจใช้พี่น้องชายที่ซื่อสัตย์อย่างไร?

17 เมื่อคุณได้รับหน้าที่รับผิดชอบในประชาคมมากขึ้น อย่าคิดว่าคุณต้องเปลี่ยนวิธีที่เคยทำกันมาทั้งหมด ขอจำไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงควรเป็นเพราะความจำเป็นในประชาคมหรือมีการชี้นำที่มาจากองค์การของพระยะโฮวาเท่านั้น ดังนั้น คุณไม่ควรเปลี่ยนเพราะอยากเปลี่ยน และอย่างที่เราได้เรียนในข้อก่อนหน้านี้ เมื่อเอลีชาทำตามวิธีของเอลียาห์ เขาได้ช่วยคนอื่น ๆ ให้มั่นใจในตัวเขาและยังแสดงให้เห็นว่าเขานับถือผู้ที่สอนเขา คล้ายกัน ถ้าคุณใช้วิธีการที่อาศัยคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลักเหมือนผู้ปกครองที่สอนคุณนั่นแสดงว่าคุณให้ความนับถือผู้ปกครองที่มีประสบการณ์ และพี่น้องชายหญิงก็จะมีความมั่นใจในตัวคุณ (อ่าน 1 โครินท์ 4:17) เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น คุณอาจปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างในประชาคมตามการชี้นำที่มาจากองค์การ การทำอย่างนั้นจะช่วยประชาคมให้ติดตามองค์การของพระยะโฮวาได้ทัน และในที่สุด พระยะโฮวาอาจช่วยคุณให้ทำงานที่ใหญ่กว่างานที่ผู้สอนของคุณได้ทำเหมือนกับที่พระยะโฮวาได้ช่วยเอลีชา—โย. 14:12

18. ทำไมการฝึกอบรมพี่น้องชายในประชาคมจึงเป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้?

18 เราหวังว่าคำแนะนำในบทความนี้และบทความที่แล้วจะกระตุ้นให้มีผู้ปกครองจำนวนมากขึ้นจัดเวลาฝึกอบรมพี่น้องชาย และเราอธิษฐานขอให้มีพี่น้องชายมากขึ้นเต็มใจรับการฝึกอบรมและนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้เพื่อดูแลประชาคมของพระยะโฮวา การทำอย่างนั้นจะช่วยเสริมสร้างประชาคมต่าง ๆ ทั่วโลกและช่วยเราแต่ละคนให้รักษาความซื่อสัตย์ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นซึ่งรออยู่ข้างหน้า

^ วรรค 5 เมื่อพี่น้องชายแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ ถ่อมตัว และมีคุณลักษณะอื่น ๆ ที่จำเป็นในการรับใช้ในประชาคม ผู้ปกครองอาจเสนอแต่งตั้งเขาเป็นผู้ช่วยงานรับใช้แม้อายุจะยังไม่ถึง 20 ปีก็ตาม—1 ติโม. 3:8-10, 12 ดูหอสังเกตการณ์ 15 กันยายน 1989 หน้า 30