1, 2. เป้าหมายอะไรที่คริสเตียนทุกคนควรมี? ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อแม่บ้านเลือกผลไม้ที่ตลาด เธอจะเลือกผลไม้แบบไหน? เธอคงไม่ได้เลือกผลไม้ลูกที่ใหญ่ที่สุดหรือถูกที่สุด แต่เธอจะเลือกผลไม้ที่หอม สด และพร้อมที่จะกินได้ เธอจึงเลือกผลไม้ที่สุกได้ที่หรือโตเต็มที่

² หลังจากที่คนหนึ่งได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาและตัดสินใจรับบัพติสมา ความสัมพันธ์ของเขากับพระเจ้ายังคงต้องเติบโตต่อไป เป้าหมายของเขาคือ เพื่อจะเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ซึ่งไม่ได้หมายถึงการมีอายุมาก แต่หมายถึงการมีความรู้ความเข้าใจเรื่องพระยะโฮวาและใกล้ชิดพระองค์มากขึ้น อัครสาวกเปาโลอยากให้คริสเตียนในเมืองเอเฟโซส์มีความเป็นผู้ใหญ่ เปาโลสนับสนุนพวกเขาให้เป็นเอกภาพในความเชื่อและเรียนรู้เกี่ยวกับพระเยซูต่อไปเพื่อจะ “เป็นผู้ใหญ่เต็มที่ เติบโตถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์”—เอเฟ. 4:13

3. เมื่อเทียบประชาคมเอเฟโซส์กับประชาชนของพระยะโฮวาในทุกวันนี้มีอะไรที่เหมือนกัน?

 ³ ประชาคมเอเฟโซส์ได้ก่อตั้งมาหลายปีแล้วตอนที่เปาโลเขียนจดหมายถึงพวกเขา หลายคนในประชาคมนี้เป็นคริสเตียนที่มีประสบการณ์และมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว แต่บางคนยังจำเป็นต้องมีความใกล้ชิดกับพระยะโฮวามากขึ้น ทุกวันนี้ก็เหมือนกัน พี่น้องชายหญิงหลายคนได้รับใช้พระยะโฮวามานานและเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว แต่บางคนในประชาคมก็ยังไม่ได้เป็นแบบนั้น เช่น ในแต่ละปีมีคนนับแสนที่เพิ่งรับบัพติสมา ดังนั้น พวกเขาจึงต้องเติบโตต่อไปเพื่อจะเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ แล้วคุณล่ะ?—โกโล. 2:6, 7

4, 5. คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่มีอะไรที่แตกต่างกัน แต่มีอะไรที่เหมือนกัน? (ดูภาพแรก)

⁴ เมื่อคุณเลือกผลไม้สุกที่ตลาด คุณจะเห็นว่าแต่ละลูกมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีบางสิ่งที่เหมือนกันซึ่งทำให้เรารู้ว่าผลไม้เหล่านั้นสุกแล้ว คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ก็เป็นอย่างนั้นด้วย พวกเขาไม่ได้เหมือนกันทุกอย่าง เช่น พวกเขามาจากหลากหลายประเทศและมีภูมิหลังที่ต่างกัน อายุต่างกัน และสิ่งที่ชอบและไม่ชอบก็แตกต่างกันด้วย ถึงอย่างนั้น คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ทุกคนมีคุณลักษณะบางอย่างที่เหมือนกันซึ่งระบุว่าพวกเขามีความเป็นผู้ใหญ่ คุณลักษณะเหล่านั้นมีอะไรบ้าง?

⁵ คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะเลียนแบบพระเยซูและติดตาม ‘รอยเท้าของท่านอย่างใกล้ชิด’ (1 เป. 2:21) พระเยซูบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่คริสเตียนต้องรักพระยะโฮวาด้วยสุดหัวใจ สุดชีวิต และสุดความคิด และต้องรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง (มัด. 22:37-39) คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่พยายามอย่างมากที่จะเชื่อฟังคำแนะนำนี้ การใช้ชีวิตของเขาจะแสดงให้เห็นว่าเขาให้สายสัมพันธ์ที่เขามีกับพระยะโฮวาและความรักที่ลึกซึ้งต่อคนอื่น ๆ เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเขา

6, 7. (ก) มีคุณลักษณะอะไรอีกที่จะระบุว่าคริสเตียนมีความเป็นผู้ใหญ่? (ข) เราควรถามตัวเองอย่างไร?

⁶ ที่จริง ความรักเป็นแค่คุณลักษณะอย่างหนึ่งของคุณลักษณะหลายอย่างที่คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะแสดงออก (กลา. 5:22, 23) เขายังแสดงความอ่อนโยน รู้จักควบคุมตนเอง และมีความอดทนอดกลั้นด้วย คุณลักษณะเหล่านี้จะช่วยเขาให้อดทนต่อสภาพการณ์ที่ยุ่งยากโดยไม่รู้สึกหงุดหงิดและอดทนกับความผิดหวังโดยไม่หมดหวัง เมื่อศึกษาส่วนตัว คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะมองหาหลักการในคัมภีร์ไบเบิลที่จะช่วยเขาให้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดอยู่เสมอ และเมื่อเขาใช้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ได้รับการฝึกจากคัมภีร์ไบเบิล เขาก็จะสามารถตัดสินใจอย่างฉลาด นอกจากนั้น คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะเป็นคนถ่อมโดยเชื่อเสมอว่าการชี้นำและมาตรฐานของพระยะโฮวาดีกว่าความคิดของเขาเอง * เขาประกาศข่าวดีด้วยความขยันขันแข็งและทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อช่วยให้ประชาคมมีความสามัคคีกัน

⁷ ไม่ว่าเราจะรับใช้พระยะโฮวามานานแค่ไหนแล้วก็ ตาม เราแต่ละคนอาจถามตัวเองว่า ‘ฉันจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างเพื่อเลียนแบบพระเยซูให้ดีขึ้น? มีวิธีอะไรบ้างที่ฉันจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น?’

8. พระเยซูรู้และเข้าใจพระคัมภีร์ดีแค่ไหน?

⁸ พระเยซูรู้และเข้าใจพระคัมภีร์เป็นอย่างดี แม้ตอนที่ท่านอายุแค่ 12 ปี ท่านก็ใช้พระคัมภีร์คุยกับเหล่าอาจารย์ที่วิหาร ‘คนทั้งหลายที่ฟังท่านก็อัศจรรย์ใจในความเข้าใจและคำตอบของท่าน’ (ลูกา 2:46, 47) เมื่อท่านทำงานประกาศ ท่านก็ใช้พระคัมภีร์อย่างชำนาญจนเหล่าศัตรูถึงกับพูดไม่ออก—มัด. 22:41-46

9. (ก) คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ควรมีตารางการศึกษาอะไรบ้าง? (ข) ทำไมเราศึกษาคัมภีร์ไบเบิล?

⁹ คนที่อยากเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะเลียนแบบตัวอย่างของพระเยซูและอยากเข้าใจคัมภีร์ไบเบิลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เขาจะค้นคว้าความจริงที่ลึกซึ้งในคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำเพราะรู้ว่า “อาหารแข็งมีไว้สำหรับคนที่เป็นผู้ใหญ่” (ฮีบรู 5:14) และคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่อยากมี “ความรู้ถ่องแท้” ในคัมภีร์ไบเบิล (เอเฟ. 4:13) ดังนั้น ขอคุณถามตัวเองว่า ‘ฉันอ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวันไหม? ฉันมีตารางเวลาในการศึกษาส่วนตัวไหม? ฉันมีการนมัสการประจำครอบครัวทุกสัปดาห์ไหม?’ เมื่อคุณศึกษาคัมภีร์ไบเบิลและค้นหาหลักการต่าง ๆ ที่จะช่วยคุณให้รู้ว่าพระยะโฮวาคิดและรู้สึกอย่างไร แล้วใช้หลักการเหล่านั้นเมื่อคุณต้องตัดสินใจ การทำอย่างนี้จะช่วยคุณให้ใกล้ชิดพระยะโฮวามากขึ้น

10. คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่รู้สึกอย่างไรกับคำแนะนำและหลักการต่าง ๆ ของพระเจ้า?

¹⁰ คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่แค่รู้ว่าคัมภีร์ ไบเบิลบอกอะไร แต่เขาต้องรัก คำแนะนำและหลักการต่าง ๆ ของพระเจ้า แล้วแสดงความรักนี้โดยทำสิ่งที่พระยะโฮวาต้องการแทนที่จะทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ เขาอาจถึงกับเปลี่ยนแปลงชีวิต ความคิด และการกระทำโดยเลียนแบบพระเยซูและพัฒนาบุคลิกภาพใหม่ที่ ‘ถูกสร้างขึ้นตามที่พระเจ้าประสงค์ ซึ่งประกอบด้วยความชอบธรรมและความภักดีที่แท้จริง’ (อ่านเอเฟโซส์ 4:22-24) นับว่าสำคัญที่จะไม่ลืมว่าพระเจ้าใช้พลังบริสุทธิ์ของพระองค์ให้ชี้นำผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิล ดังนั้น เมื่อคริสเตียนศึกษาคัมภีร์ไบเบิล พลังของพระเจ้าจะช่วยเขาให้มีความรู้ ความรัก และความใกล้ชิดกับพระยะโฮวามากขึ้น

11. ตอนที่พระเยซูอยู่บนโลกท่านอยู่ร่วมกับคนแบบไหนบ้าง?

¹¹ พระเยซูเป็นคนสมบูรณ์แบบ แต่เมื่อท่านอยู่บนโลก ผู้คนรอบตัวท่านรวมทั้งพ่อแม่พี่น้องของท่านเองเป็นคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ แม้แต่สาวกที่ใกล้ชิดท่านก็แสดงความหยิ่งและความเห็นแก่ตัว เช่น ในคืนสุดท้ายก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต สาวกของท่านเถียงกันว่า “ในพวกเขาใครเป็นใหญ่ที่สุด” (ลูกา 22:24) แม้พวกเขาจะมีความคิดผิด ๆ แต่พระเยซูรู้ว่า อีกไม่นานพวกเขาก็จะเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่และจะรวมกันเป็นประชาคมที่มีเอกภาพ ในคืนนั้น พระเยซูอธิษฐานขอพระยะโฮวาพ่อในสวรรค์เพื่อให้พวกเขาเป็นเอกภาพ ท่านอธิษฐานว่า “อย่างที่พระบิดาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับข้าพเจ้าและข้าพเจ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระองค์ . . . เพื่อพวกเขาจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างที่พระองค์กับข้าพเจ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”—โย. 17:21, 22

12, 13. (ก) การที่เราเป็นคริสเตียน เรามีเป้าหมายอะไร? (ข) พี่น้องชายคนหนึ่งเรียนรู้ที่จะส่งเสริมเอกภาพได้อย่างไร?

¹² คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะส่งเสริมเอกภาพในประชาคม (อ่านเอเฟโซส์ 4:1-6, 15, 16) คริสเตียนมีเป้าหมายที่จะ “เชื่อมต่อกันอย่างดี” นั่นคือทำงานด้วยกันอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อจะเป็นอย่างนั้นได้คริสเตียนต้องเป็นคนถ่อม แม้ว่าเขาจะได้รับผลกระทบจากความไม่สมบูรณ์ของคนอื่นแต่คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาประชาคมให้เข้มแข็งและเป็นเอกภาพ ดังนั้น ขอถามตัวเองว่า ‘ฉันมีท่าทีอย่างไรเมื่อพี่น้องทำผิด? ฉันรู้สึกอย่างไรเมื่อบางคนทำให้เจ็บใจ? ฉันจะเลิกคุยกับคนนั้นไหม? หรือฉันพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น?’ คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะพยายามแก้ปัญหาแทนที่จะเป็นตัวปัญหาเสียเอง

¹³ ให้เรามาดูตัวอย่างของพี่น้องอูเว เขาเคยปล่อยให้ความไม่สมบูรณ์ของพี่น้องมาทำให้เขาโกรธ แต่เขาตัดสินใจศึกษาเรื่องราวของดาวิดโดยใช้คัมภีร์ไบเบิลและหนังสือการหยั่งเห็นเข้าใจพระคัมภีร์ (ภาษาอังกฤษ) ทำไมเขาเลือกดาวิด? เพราะผู้รับใช้ของพระเจ้าบางคนเคยมีปัญหากับดาวิด เช่น กษัตริย์ซาอูลพยายามฆ่าดาวิด บางคนอยากเอาหินขว้างเขา และแม้แต่ภรรยาของเขาเองก็หัวเราะเยาะเขา (1 ซามู. 19:9-11; 30:1-6; 2 ซามู. 6:14-22) ไม่ว่าคนอื่นจะทำอย่างไรกับดาวิดก็ตาม แต่เขาก็รักพระยะโฮวา ไว้วางใจพระองค์ และยังแสดงความเมตตาด้วย เมื่ออูเวได้ศึกษาเรื่องราวของดาวิดแล้ว เขายอมรับว่าต้องเลียน แบบดาวิดและเปลี่ยนวิธีที่เขารู้สึกต่อความไม่สมบูรณ์ของพี่น้อง เขาต้องไม่จดจำความผิดของพี่น้อง แต่เขาจะส่งเสริมเอกภาพในประชาคม คุณมีเป้าหมายที่จะทำอย่างเดียวกันไหม?

14. พระเยซูเลือกเพื่อนอย่างไร?

¹⁴ พระเยซูคริสต์เป็นมิตรกับทุกคน ทั้งชายและหญิง วัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ และแม้แต่เด็ก ๆ ก็รู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับท่าน แต่ท่านก็เลือกคนที่จะเป็นเพื่อนสนิทอย่างรอบคอบ ท่านบอกอัครสาวกของท่านว่า “พวกคุณก็เป็นเพื่อนของเราถ้าทำตามที่เราสั่ง” (โย. 15:14, ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ) พระเยซูเลือกเพื่อนสนิทจากคนที่ติดตามท่านอย่างภักดีซึ่งรักและรับใช้พระยะโฮวา คุณเลือกคนที่รักพระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจเป็นเพื่อนสนิทของคุณไหม? ทำไมเรื่องนี้สำคัญ?

15. วัยรุ่นจะได้รับประโยชน์อะไรถ้าเป็นเพื่อนกับคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่?

¹⁵ พี่น้องชายหญิงที่มีความรักจะช่วยคุณให้กลายเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ คุณเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกแนวทางชีวิตแบบไหนไหม? ถ้าอย่างนั้น นับว่าฉลาดที่จะเลือกเป็นเพื่อนกับคนที่รับใช้พระยะโฮวามาระยะหนึ่งแล้วและเป็นคนที่ส่งเสริมเอกภาพในประชาคม พวกเขาอาจเคยมีปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตและอาจต้องอดทนกับอุปสรรคต่าง ๆ ขณะที่รับใช้พระยะโฮวา พวกเขาจะช่วยคุณให้เลือกแนวทางชีวิตที่ดีที่สุด เมื่อคุณใช้เวลากับพวกเขานั่นจะช่วยคุณให้ตัดสินใจอย่างฉลาดและจะช่วยคุณให้เป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่—อ่านฮีบรู 5:14

16. พี่น้องคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ในประชาคมช่วยพี่น้องหญิงคนหนึ่งอย่างไรตอนที่เธอเป็นวัยรุ่น?

¹⁶ เฮลกาจำได้ว่าตอนที่เรียนมัธยมปีสุดท้าย เพื่อนร่วมชั้นของเธอส่วนใหญ่คุยกันเกี่ยวกับเป้าหมายในอนาคต หลายคนอยากจะเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อจะได้งานที่มีรายได้ดี แต่เฮลกาคุยกับเพื่อนคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ในประชาคมของเธอ เธอบอกว่า “หลายคนอายุมากกว่าฉันและพวกเขาช่วยฉันมากทีเดียว พวกเขาสนับสนุนฉันให้ทำงานรับใช้เต็มเวลา แล้วฉันก็เป็นไพโอเนียร์อยู่ห้าปี แม้จะผ่านไปหลายปีแล้วแต่ฉันก็มีความสุขที่ได้ใช้ช่วงวัยรุ่นทำงานรับใช้พระยะโฮวา ฉันไม่เสียใจเลยที่ได้ทำอย่างนั้น”

17, 18. คริสเตียนจะรับใช้พระยะโฮวาได้ดีที่สุดเมื่อไร?

¹⁷ เมื่อเราเลียนแบบพระเยซู เราก็จะเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ เราจะใกล้ชิดพระยะโฮวามากขึ้นและอยากรับใช้พระองค์มากขึ้นด้วย คริสเตียนจะรับใช้พระยะโฮวาได้ดีที่สุดเมื่อเขามีความเป็นผู้ใหญ่ พระเยซูสนับสนุนผู้ติดตามท่านว่า “จงให้ความสว่างของพวกเจ้าส่องไปต่อหน้าผู้คน เพื่อพวกเขาจะเห็นการงานอันดีของเจ้าและยกย่องสรรเสริญพระบิดาของเจ้าผู้สถิตในสวรรค์”—มัด. 5:16

¹⁸ เราได้เรียนรู้วิธีที่คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่สามารถช่วยสนับสนุนประชาคมได้อย่างมาก นอกจากนั้น คริสเตียนสามารถแสดงความเป็นผู้ใหญ่ได้โดยวิธีที่เขาใช้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจะช่วยเราให้ตัดสินใจอย่างฉลาดได้อย่างไร? และเราจะนับถือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคนอื่นได้อย่างไร? เราจะได้รับคำตอบในบทความถัดไป