‘ขอพระองค์ช่วยให้โครงการทุกอย่างของคุณสำเร็จ’
“ชื่นชมยินดีกับสิ่งที่พระยะโฮวาทำ แล้วพระองค์จะให้ตามที่ใจคุณต้องการ”—สด. 37:4
1. วัยรุ่นทุกคนต้องตัดสินใจเรื่องอะไรเกี่ยวกับอนาคต? อะไรช่วยพวกเขาไม่ให้กังวลเกินไป? (ดูภาพแรก)
วัยรุ่น! คุณคงเห็นด้วยว่าถ้าคุณคิดจะเดินทาง คุณก็ต้องวางแผนก่อนว่าจะไปที่ไหน ชีวิตเราก็เหมือนการเดินทาง และช่วงวัยรุ่นนี่แหละเป็นเวลาที่ต้องวางแผนชีวิต แน่นอน การวางแผนแบบนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เฮเทอร์วัยรุ่นคนหนึ่งบอกว่า “มันน่ากลัวจริง ๆ ตอนที่ต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับชีวิต” ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้น ขออย่าลืมสิ่งที่พระยะโฮวาบอกว่า “ไม่ต้องกังวล เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะทำให้พวกเจ้าเข้มแข็ง และเราจะช่วยพวกเจ้า”—อสย. 41:10
2. คุณรู้ได้อย่างไรว่าพระยะโฮวาอยากให้คุณวางแผนอนาคตให้ดีและมีความสุข?
2 พระยะโฮวาอยากให้คุณวางแผนอนาคตให้ดี (ปญจ. 12:1; มธ. 6:20) พระองค์อยากให้คุณมีความสุข คุณแน่ใจเรื่องนี้ได้เมื่อคุณสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์สร้าง กินอะไรอร่อย ๆ และฟังเสียงเพราะ ๆ นอกจากนั้น พระยะโฮวายังสนใจเราในเรื่องอื่น ๆ ด้วย พระองค์ให้คำแนะนำและสอนเราให้รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดได้อย่างไร แต่สำหรับคนที่ไม่ยอมทำตามคำแนะนำของพระองค์ พระองค์จะไม่ชอบ พระองค์พูดกับคนพวกนั้นว่า “พวกเจ้าเลือกทำแต่สิ่งที่เราไม่พอใจ” และพระองค์บอกอีกว่า “ผู้รับใช้ของเราจะมีความสุขความยินดี แต่พวกเจ้าจะอับอาย ดูสิ ผู้รับใช้ของเราจะโห่ร้องด้วยความยินดีเพราะพวกเขามีใจชื่นบาน” (อสย. 65:12-14) ถ้าเราเลือกอย่างฉลาดและใช้ชีวิตตามที่เราตัดสินใจนั้นอย่างดี เราก็ทำให้พระยะโฮวาได้รับการสรรเสริญ—สภษ. 27:11
แผนชีวิตที่ทำให้คุณมีความสุข
3. พระยะโฮวาอยากให้คุณวางแผนชีวิตแบบไหน?
3 พระยะโฮวาอยากให้คุณวางแผนชีวิตแบบไหน? เพื่อคุณจะมีความสุข คุณต้องรู้จักพระยะโฮวาและรับใช้พระองค์ เพราะพระองค์สร้างมนุษย์มาให้เป็นอย่างนี้ (สด. 128:1; มธ. 5:3) สัตว์ต่าง ๆ ไม่ได้ต้องการอะไรมากกับชีวิต แค่มันได้กินได้มีลูกก็พอแล้ว แต่พระยะโฮวาอยากให้คุณวางแผนอนาคตที่ทำให้คุณมีความสุขและมีชีวิตที่มีความหมาย พระเจ้าผู้สร้างของคุณเป็น “พระเจ้าผู้มีความรัก” และเป็น “พระเจ้าผู้มีความสุข” พระองค์สร้างมนุษย์ “ตามแบบพระองค์” (2 คร. 13:11; 1 ทธ. 1:11; ปฐก. 1:27) ดังนั้น คุณจะมีความสุขถ้าคุณเลียนแบบพระเจ้าแห่งความรัก คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “การให้ทำให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ” (กจ. 20:35) คุณเคยรู้สึกแบบเดียวกับข้อคัมภีร์นี้ไหม? นี่เป็นเรื่องจริง พระยะโฮวาจึงอยากให้คุณวางแผนชีวิตโดยมีแรงกระตุ้นจากความรักที่คุณมีต่อพระเจ้าและต่อคนอื่น ๆ—อ่านมัทธิว 22:36-39
4, 5. อะไรทำให้พระเยซูมีความสุข?
4 พระเยซูวางตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณทุกคนที่เป็นวัยรุ่น ตอนที่ท่านยังเด็ก ท่านคงได้เล่นหรือได้ทำอะไรสนุก ๆ เหมือนที่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า มี “เวลาหัวเราะ และเวลาเต้นรำ” (ปญจ. 3:4) แต่พระเยซูยังได้ศึกษาพระคัมภีร์เพื่อจะสนิทกับพระยะโฮวาด้วย ตอนที่พระเยซูอายุ 12 พวกอาจารย์ในวิหารรู้สึกทึ่งที่ได้เห็นว่า “ท่านเข้าใจและตอบได้ดีมาก”—ลก. 2:42, 46, 47
5 พอพระเยซูโตเป็นผู้ใหญ่ ท่านก็มีความสุขที่ได้ทำสิ่งที่พระเจ้าอยากให้ท่านทำ ตัวอย่างเช่น พระเจ้าอยากให้ท่าน “ประกาศข่าวดีกับคนจน” และ “บอกคนตาบอดว่าเขาจะมองเห็น” (ลก. 4:18) สดุดี 40:8 พูดถึงความรู้สึกของพระเยซูว่า “พระเจ้าของผม ผมมีความสุขที่ได้ทำตามความประสงค์ของพระองค์” พระเยซูมีความสุขที่ได้สอนคนอื่นเกี่ยวกับพ่อของท่าน (อ่านลูกา 10:21) หลังจากที่ได้คุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเกี่ยวกับการนมัสการแท้ พระเยซูบอกสาวกของท่านว่า “อาหารของผมคือการทำตามความประสงค์ของผู้ที่ใช้ผมมาและทำงานของพระองค์ให้สำเร็จ” (ยน. 4:31-34) พระเยซูมีความสุขที่ได้แสดงออกว่าท่านรักพระเจ้าและคนอื่น ๆ ถ้าคุณทำแบบนั้น คุณก็จะมีความสุขเหมือนกัน
6. การเล่าแผนชีวิตของคุณให้คนอื่นฟังดีอย่างไร?
6 พี่น้องไพโอเนียร์หลายคนรับใช้เต็มเวลาตั้งแต่อายุยังน้อย และนี่ทำให้พวกเขามีความสุขมาก ลองเล่าแผนชีวิตของคุณให้พวกเขาฟังสิ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ถ้าไม่มีการปรึกษาหารือแผนการก็ล้มเหลว แต่ถ้ามีที่ปรึกษาหลายคนแผนการจะสำเร็จ” (สภษ. 15:22) พวกเขาคงบอกคุณว่าถ้าคุณเป็นไพโอเนียร์ คุณก็กำลังได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งการศึกษานั้นจะช่วยคุณไปตลอดชีวิต ถึงพระเยซูได้เรียนรู้หลายอย่างจากพ่อของท่านตอนที่อยู่บนสวรรค์ แต่ตอนรับใช้อยู่บนโลกท่านก็ยังได้เรียนอีกหลายอย่างด้วย ตัวอย่างเช่น พระเยซูได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำให้ท่านมีความสุขก็คือ การบอกข่าวดีกับคนอื่นและรักษาความซื่อสัตย์ภักดีแม้จะยากลำบาก (อ่านอิสยาห์ 50:4; ฮบ. 5:8; 12:2) ตอนนี้ ให้เรามาดูว่าทำไมการรับใช้เต็มเวลาทำให้เรามีความสุขได้
ทำไมงานสอนคนให้เป็นสาวกเป็นงานที่ดีที่สุด
7. ทำไมวัยรุ่นหลายคนชอบงาน ‘สอนคนให้เป็นสาวก’?
7 พระเยซูบอกให้เรา ‘สอนคนให้เป็นสาวก’ (มธ. 28:19, 20) ถ้าคุณวางแผนจะให้งานสอนคัมภีร์ไบเบิลเป็นงานหลักของคุณ คุณจะมีชีวิตที่มีความสุขที่ได้สรรเสริญพระเจ้า งานนี้ก็เหมือนกับงานอาชีพทั่ว ๆ ไปที่ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งถึงจะเก่ง พี่น้องชายคนหนึ่งที่ชื่อทิโมธีเริ่มเป็นไพโอเนียร์ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น เขาเล่าว่า “ผมชอบรับใช้พระยะโฮวาเต็มเวลาเพราะมันเป็นวิธีที่แสดงว่าผมรักพระองค์ครับ ตอนแรกผมไม่มีนักศึกษาเลยสักราย แต่พอผมย้ายไปรับใช้อีกที่หนึ่งแค่ 1 เดือน ผมก็มีนักศึกษาหลายราย มีนักศึกษาคนหนึ่งเริ่มมาประชุมด้วย หลังจากนั้นผมก็ได้เข้าฝึกอบรม 2 เดือนที่โรงเรียนพระคัมภีร์สำหรับชายโสด * แล้วผมก็ได้รับงานมอบหมายใหม่ ผมมีนักศึกษา 4 ราย ผมชอบสอนเรื่องพระเจ้าเพราะทำให้ผมได้เห็นว่าพลังบริสุทธิ์ของพระองค์เปลี่ยนแปลงผู้คนขนาดไหน”—1 ธส. 2:19
8. วัยรุ่นบางคนได้ทำอะไรเพื่อประกาศกับผู้คนมากขึ้น?
8 พี่น้องวัยรุ่นบางคนได้เรียนภาษาอื่น ตัวอย่างเช่น เจคอบจากสหรัฐอเมริกาเล่าว่า “ตอนอายุ 7 ขวบ เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับผมหลายคนเป็นคนเวียดนาม ผมอยากบอกพวกเขาเรื่องพระยะโฮวา หลังจากนั้นผมก็วางแผนเรียนภาษาเวียดนาม วิธีส่วนใหญ่ที่ผมใช้ก็คือเอาหอสังเกตการณ์ ภาษาอังกฤษกับภาษาเวียดนามมาเทียบกัน ผมหาเพื่อนในประชาคมภาษาเวียดนามที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วย พออายุ 18 ผมก็เริ่มเป็นไพโอเนียร์ แล้วก็เข้าโรงเรียนพระคัมภีร์สำหรับชายโสด ตอนนี้ผมเป็นไพโอเนียร์และผู้ดูแลคนเดียวในกลุ่มภาษาเวียดนามกลุ่มหนึ่งและโรงเรียนนี้ช่วยผมมากจริง ๆ คนเวียดนามหลายคนงงว่าทำไมผมถึงมาเรียนภาษาของพวกเขา พวกเขาให้ผมเข้าบ้าน ผมเริ่มการศึกษาได้หลายราย มีหลายคนที่ก้าวหน้าจนรับบัพติศมาด้วยครับ”—เทียบกับกิจการ 2:7, 8
9. งานสอนคนให้เป็นสาวกเป็นการศึกษาที่ดีที่สุดอย่างไร?
9 เมื่อทำงานสอนคนให้เป็นสาวก คุณก็ได้เรียนอะไรหลายอย่าง คุณจะได้เรียนรู้นิสัยการทำงานที่ดี มีทักษะการสื่อสาร เป็นคนมีความมั่นใจ และรู้วิธีพูดกับคนอื่น (สภษ. 21:5; 2 ทธ. 2:24) ไม่ใช่แค่นั้น งานนี้ยังทำให้มีความสุขมากด้วย เพราะคุณจะได้เรียนวิธีใช้ข้อคัมภีร์อธิบายความเชื่อของคุณ และจะได้เรียนรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกับพระยะโฮวา—1 คร. 3:9
10. ถึงคุณจะอยู่ในเขตที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่คุณจะมีความสุขกับงานสอนคนให้เป็นสาวกได้อย่างไร?
10 ถึงคุณจะอยู่ในเขตที่ไม่ค่อยมีคนอยากศึกษาคัมภีร์ไบเบิล แต่คุณยังมีความสุขกับงานสอนคนให้เป็นสาวกได้ เพื่อจะช่วยใครสักคนให้เข้ามาเป็นสาวกทั้งประชาคมต้องช่วยกันและต้องทำงานกันเป็นทีมเวิร์ค ถึงแม้ว่ามีพี่น้องแค่คนเดียวที่ช่วยคนหนึ่งให้มาเป็นพยานพระยะโฮวา แต่เราทุกคนก็มีความสุขเพราะเรามีส่วนร่วมในงานหาผู้คน ตัวอย่างเช่น แบรนดอนเป็นไพโอเนียร์ในเขตที่ไม่ค่อยมีคนสนใจศึกษาคัมภีร์ไบเบิลมา 9 ปีแล้ว เขาเล่าว่า “ผมชอบประกาศข่าวดี เพราะนี่เป็นงานมอบหมายที่พระยะโฮวาสั่งให้เราทำ พอจบมัธยมผมก็เริ่มเป็นไพโอเนียร์ ผมชอบให้กำลังใจพี่น้องชายวัยรุ่นในประชาคมและเห็นพวกเขาก้าวหน้า หลังจากเข้าโรงเรียนพระคัมภีร์สำหรับชายโสด ผมก็ได้รับงานมอบหมายใหม่ ถึงผมไม่เคยช่วยใครในเขตงานให้ก้าวหน้าจนรับบัพติศมาเหมือนคนอื่น แต่ผมก็ดีใจที่ได้วางแผนที่จะทำงานสอนคนอย่างเต็มที่แบบนี้มาตั้งแต่เด็ก”—ปญจ. 11:6
แผนชีวิตจะช่วยคุณให้มีอนาคตแบบไหน
11. วัยรุ่นหลายคนมีความสุขกับงานรับใช้พระยะโฮวาแบบไหนอีก?
11 มีงานรับใช้พระยะโฮวาหลายอย่างที่เราทำได้ ตัวอย่างเช่น พี่น้องวัยรุ่นหลายคนช่วยงานก่อสร้าง เราจำเป็นต้องมีหอประชุมใหม่อีกเยอะมาก หอประชุมเหล่านี้ทำให้พระยะโฮวาได้รับการสรรเสริญ ดังนั้น การที่คุณมีส่วนช่วยก่อสร้างหอประชุมจะทำให้คุณมีความสุข นอกจากนั้น คุณจะมีความสุขด้วยที่ได้ทำงานกับพี่น้องทั้งผู้ชายผู้หญิง และได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง เช่น ได้รู้วิธีที่จะเป็นคนทำงานที่ดี ทำงานอย่างปลอดภัย และให้ความร่วมมือกับหัวหน้า
มีพรมากมายรออยู่ถ้าคุณรับใช้เต็มเวลา (ดูข้อ 11-13)
12. งานไพโอเนียร์เปิดโอกาสให้ได้รับใช้แบบอื่น ๆ อย่างไร?
12 พี่น้องชายคนหนึ่งที่ชื่อเควินบอกว่า “ผมคิดไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าโตขึ้นอยากรับใช้เต็มเวลาครับ พอผมอายุ 19 ผมก็เริ่มเป็นไพโอเนียร์ ผมทำงานพาร์ทไทม์กับพี่น้องชายที่รับเหมาก่อสร้างซึ่งทำให้ได้เรียนวิธีติดตั้งหลังคา หน้าต่าง และประตู หลังจากนั้น ผมก็อยู่ในทีมบรรเทาทุกข์ 2 ปีเพื่อช่วยพี่น้องจากพายุเฮอร์ริเคน หอประชุมกับบ้านของพี่น้องหลายคนพัง ผมได้ช่วยสร้างให้พวกเขาใหม่ พอผมได้ยินว่าที่ประเทศแอฟริกาใต้ต้องการอาสาสมัครมาทำงานก่อสร้าง ผมเลยสมัครแล้วก็ได้ไปที่นั่น ในแอฟริกา ผมทำงานสร้างหอประชุมและต้องย้ายไปเรื่อยทุก ๆ 2-3 สัปดาห์เพื่อทำงานอีกโครงการหนึ่ง ทีมก่อสร้างเป็นเหมือนครอบครัวของผม เราอยู่ด้วยกัน ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ผมชอบประกาศกับพี่น้องท้องถิ่นที่นั่นด้วย แผนชีวิตที่ผมวางไว้ตั้งแต่เด็กทำให้ผมมีความสุขในแบบที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับ”
13. ทำไมวัยรุ่นหลายคนมีความสุขที่ได้รับใช้ที่เบเธล?
13 บางคนที่เคยเป็นไพโอเนียร์ตอนนี้รับใช้อยู่ที่เบเธล การทำงานที่เบเธลเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้คุณมีความสุข เพราะไม่ว่าคุณจะทำอะไรที่นี่คุณทำเพื่อพระยะโฮวา งานที่เบเธลช่วยให้มีคัมภีร์ไบเบิลและหนังสือต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้คนได้เรียนความจริง ดัสตินพี่น้องเบเธลไลต์คนหนึ่งเล่าว่า “ผมตั้งเป้ารับใช้เต็มเวลาตั้งแต่ผมอายุ 9 ขวบ พอผมเรียนจบมัธยมก็เป็นไพโอเนียร์เลย หลังจากนั้นปีครึ่งผมก็เข้าเบเธล ที่เบเธลผมได้เรียนวิธีใช้เครื่องพิมพ์และจากนั้นก็ได้เรียนวิธีเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้น การทำงานที่เบเธลทำให้ผมได้ยินก่อนคนอื่นว่างานสอนทั่วโลกก้าวหน้ายังไงบ้าง ผมชอบทำงานที่เบเธลครับ เพราะงานที่นี่ช่วยผู้คนให้สนิทกับพระยะโฮวา”
คุณจะวางแผนอนาคตของคุณอย่างไร?
14. คุณจะเตรียมตัวอย่างไรตั้งแต่ตอนนี้เพื่อจะรับใช้เต็มเวลา?
14 คุณจะเตรียมตัวอย่างไรเพื่อจะรับใช้เต็มเวลา? เพื่อจะรับใช้พระยะโฮวาอย่างดีที่สุดที่คุณทำได้ คุณต้องมีคุณลักษณะที่ดีของคริสเตียน ดังนั้น คุณต้องศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำ คิดใคร่ครวญเรื่องที่คุณอ่าน และพยายามแสดงความเชื่อที่การประชุม เช่น การออกความคิดเห็น ทำส่วนต่าง ๆ ในช่วงที่คุณยังเรียนหนังสือคุณน่าจะพยายามฝึกพูดเรื่องความจริงกับคนอื่น ฝึกเป็นคนที่สนใจคนอื่นโดยรู้จักใช้คำถามและฟังเมื่อพวกเขาตอบ นอกจากนั้น คุณน่าจะเสนอตัวช่วยงานต่าง ๆ ในประชาคม เช่น ทำความสะอาดและซ่อมแซมหอประชุม พระยะโฮวาชอบใช้คนที่ถ่อมตัวและเต็มใจช่วยงาน (อ่านสดุดี 110:3; กจ. 6:1-3) อัครสาวกเปาโลชวนทิโมธีให้มาเป็นมิชชันนารีก็เพราะ ‘พี่น้องพูดถึงทิโมธีในแง่ดี’—กจ. 16:1-5
15. อะไรจะช่วยให้คุณมีงานทำเพื่อจะเป็นไพโอเนียร์ได้?
15 พี่น้องที่รับใช้เต็มเวลาส่วนใหญ่ต้องมีงานทำเพื่อจะหาเลี้ยงตัวเอง (กจ. 18:2, 3) คุณอาจวางแผนที่จะเรียนอะไรบางอย่างที่เป็นคอร์สสั้น ๆ หรือเรียนฝึกอาชีพเพื่อจะช่วยคุณหางานพาร์ทไทม์ได้ นอกจากนั้น คุณน่าจะคุยกับผู้ดูแลหมวดหรือไพโอเนียร์คนอื่น ๆ เกี่ยวกับแผนชีวิตของคุณและลองขอคำแนะนำจากพวกเขา หลังจากนั้น ก็ให้ทำเหมือนที่คัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ว่า “ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ให้ฝากเรื่องนั้นไว้กับพระยะโฮวา แล้วแผนการของคุณจะสำเร็จ”—สภษ. 16:3; 20:18
16. การรับใช้เต็มเวลาช่วยให้คุณพร้อมสำหรับหน้าที่รับผิดชอบอื่น ๆ ในอนาคตอย่างไร?
16 คุณมั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาอยากให้คุณโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข และ “ยึดความหวังเรื่องชีวิตแท้ไว้ให้มั่น” (อ่าน 1 ทิโมธี 6:18, 19) งานรับใช้เต็มเวลาช่วยคุณให้เป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่เพราะคุณได้ทำงานกับพี่น้องที่รับใช้เต็มเวลาคนอื่น ๆ นอกจากนั้น หลายคนรู้สึกว่าการได้รับใช้เต็มเวลาตั้งแต่อายุน้อย ๆ มีประโยชน์กับชีวิตคู่ของพวกเขา และส่วนใหญ่พี่น้องที่เป็นไพโอเนียร์ก่อนแต่งงานก็จะเป็นไพโอเนียร์กับคู่ของเขาต่อไปด้วย—รม. 16:3, 4
17, 18. การวางแผนอนาคตเกี่ยวข้องอย่างไรกับใจคุณ?
17 สดุดี 20:4 บอกเกี่ยวกับพระยะโฮวาว่า “ขอพระองค์ให้ตามที่ใจท่านต้องการ และช่วยให้โครงการทุกอย่างของท่านสำเร็จ” ตอนที่คุณวางแผนอนาคต ขอให้คิดว่าจริง ๆ แล้วใจคุณอยากทำอะไร คิดว่าพระยะโฮวากำลังทำอะไรในสมัยของเรา และคุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อสนับสนุนงานของพระองค์ หลังจากคิดเรื่องนี้ทั้งหมดแล้วก็ให้วางแผนทำสิ่งที่พระองค์พอใจ
18 คุณจะมีความสุขมาก ถ้าคุณใช้ชีวิตเพื่อรับใช้พระยะโฮวาอย่างเต็มที่และยกย่องสรรเสริญพระองค์ คุณจะ “ชื่นชมยินดีกับสิ่งที่พระยะโฮวาทำ แล้วพระองค์จะให้ตามที่ใจคุณต้องการ”—สด. 37:4
^ วรรค 7 ไม่มีโรงเรียนนี้อีกแล้ว แต่มีโรงเรียนผู้ประกาศราชอาณาจักรมาแทน
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เพื่อนของคุณคิดอย่างไร
คาเมรอนมีชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้
คุณอยากมีความสุขไหม? ลองชมเรื่องราวของคาเมรอนที่มีความสุขมากกับชีวิตในดินแดนที่แปลกใหม่
หอสังเกตการณ์—ฉบับศึกษา
พวก
พี่
หอสังเกตการณ์—ฉบับศึกษา
พวกเขาเต็มใจไปรับใช้ที่กานา
มีข้อท้าทายมากมาย แต่ก็มีรางวัลสำหรับคนที่ย้ายไปรับใช้ในที่ที่มีความต้องการผู้ประกาศมากกว่า
