บทความศึกษา 10
มีอะไรไหมที่ทำให้ฉันยังรับบัพติศมาไม่ได้?
“ฟีลิปก็ลงไปในน้ำกับเขาและให้บัพติศมาเขา”—กจ. 8:38
เพลง 52 การอุทิศตัวของคริสเตียน
ใจความสำคัญ *
1. อาดัมกับเอวาสูญเสียอะไรบ้าง? และผลเป็นอย่างไร?
คุณคิดว่าใครมีสิทธิ์ตั้งมาตรฐานว่าอะไรดีอะไรชั่ว? ตอนที่อาดัมกับเอวากินผลไม้จากต้นไม้ที่ให้รู้ดีรู้ชั่ว สิ่งที่พวกเขาทำบอกชัดเจนว่าพวกเขาไม่ไว้วางใจพระยะโฮวาและมาตรฐานของพระองค์ พวกเขาเลือกที่จะตั้งมาตรฐานเอง (ปฐก. 3:22) แต่คุณเห็นแล้วใช่ไหมว่าพวกเขาสูญเสียอะไรบ้าง? พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาอีกต่อไป ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสจะมีชีวิตตลอดไป และลูกหลานต้องเป็นคนบาปและตาย (รม. 5:12) สิ่งที่อาดัมกับเอวาเลือกทำให้เกิดผลที่เลวร้ายจริง ๆ
หลังจากขันทีชาวเอธิโอเปียมีความเชื่อในพระเยซู เขาก็อยากรับบัพติศมาทันที (ดูข้อ 2-3)
2-3. (ก) ขันทีชาวเอธิโอเปียทำอะไรตอนที่ฟีลิปประกาศกับเขา? (ข) ถ้าเรารับบัพติศมา เราจะได้พรอะไรบ้าง? และเราจะคุยกันเกี่ยวกับคำถามอะไร?
2 ให้เราลองเทียบสิ่งที่อาดัมกับเอวาทำกับสิ่งที่ขันทีชาวเอธิโอเปียทำตอนที่ฟีลิปมาประกาศกับเขา ขันทีรู้สึกเห็นค่าสิ่งที่พระยะโฮวากับพระเยซูทำเพื่อเขามากจนตัดสินใจรับบัพติศมาทันที (กจ. 8:34-38) เมื่อเราอุทิศตัวให้พระยะโฮวาและรับบัพติศมาเหมือนขันทีคนนั้น เรากำลังบอกชัดเจนว่าเราเลือกแบบไหน เราแสดงว่าเห็นค่าสิ่งที่พระยะโฮวากับพระเยซูทำเพื่อเรา และยังแสดงให้เห็นว่าเราไว้วางใจพระยะโฮวาและยอมรับว่าพระองค์เป็นผู้ที่มีสิทธิ์ตั้งมาตรฐานว่าอะไรดีอะไรชั่ว
3 ขอให้คิดถึงพรต่าง ๆ ที่เราได้รับเมื่อรับใช้พระยะโฮวา อย่างแรกคือ เรามีความหวังว่าในที่สุดเราจะได้ทุกสิ่งที่อาดัมกับเอวาสูญเสียไปกลับคืนมาซึ่งรวมทั้งโอกาสจะมีชีวิตตลอดไป นอกจากนั้น เพราะเรามีความเชื่อมธ. 20:28; กจ. 10:43) ยิ่งกว่านั้น เรายังได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวผู้รับใช้พระยะโฮวาและมีอนาคตที่ยอดเยี่ยมรอเราอยู่ (ยน. 10:14-16; รม. 8:20, 21) แต่ถึงจะเห็นประโยชน์มากมายขนาดนี้ บางคนที่รู้จักพระยะโฮวาก็ยังไม่ยอมเลียนแบบขันทีชาวเอธิโอเปียคนนั้น อะไรอาจทำให้พวกเขายังรับบัพติศมาไม่ได้? พวกเขาจะเอาชนะได้อย่างไร?
ในพระเยซู พระยะโฮวาเลยให้อภัยเรา ทำให้เราไม่มีความรู้สึกผิดมารบกวนใจ (อะไรทำให้บางคนยังรับบัพติศมาไม่ได้?
อะไรทำให้บางคนยังรับบัพติศมาไม่ได้?
ไม่มั่นใจ (ดูข้อ 4-5) *
4-5. อะไรทำให้เอเวอรี่กับฮันนาห์ยังไม่รับบัพติศมา?
4 ไม่มั่นใจ พ่อแม่ของเด็กหนุ่มที่ชื่อเอเวอรี่เป็นพยานพระยะโฮวา ใคร ๆ ก็รู้จักพ่อของเขาว่าเป็นพ่อที่ดีมากและเป็นผู้ดูแลที่ทำงานเก่ง แต่เอเวอรี่ยังไม่ยอมรับบัพติศมา เพราะอะไร? เขาบอกว่า “ผมคิดว่าผมคงไม่มีทางทำได้ดีเท่าพ่อ” เขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำหน้าที่รับผิดชอบต่าง ๆ ที่ควรจะทำในอนาคตได้ไหม เขาบอกว่า “ผมกลัวถ้าต้องนำการอธิษฐานต่อหน้าคนอื่น บรรยาย หรือนำกลุ่มการประกาศ”
5 ฮันนาห์ซึ่งอายุ 18 เป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองเลย ถึงพ่อแม่ของฮันนาห์จะเป็นพยานฯ แต่เธอก็สงสัยว่าตัวเองจะใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระยะโฮวาได้หรือเปล่า ทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนั้น? ฮันนาห์มีความคิดในแง่ลบกับตัวเองและรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า บางครั้งเธอรู้สึกแย่มากจนถึงกับทำร้ายตัวเองซึ่งมีแต่จะทำให้เธอเศร้ามากขึ้นไปอีก ฮันนาห์เล่าว่า “ฉันไม่เคยบอกใครว่าทำอะไรลงไป ไม่บอกแม้แต่พ่อแม่ ตอนนั้น ฉันคิดไปเองว่าพระยะโฮวาไม่ต้องการฉันหรอกเพราะฉันทำร้ายตัวเอง”
อิทธิพลจากเพื่อน (ดูข้อ 6) *
6. อะไรทำให้วาเนสซ่ายังไม่รับบัพติศมา?
6 อิทธิพลจากเพื่อน วาเนสซ่าอายุ 22 เธอบอกว่า “ฉันมีเพื่อนที่สนิทมากคนหนึ่ง เราเป็นเพื่อนกันมาเกือบ 10 ปี” วาเนสซ่ามีเป้าหมายจะรับบัพติศมา แต่เพื่อนคนนี้ไม่สนใจความจริงและไม่ได้สนับสนุนเธอเลยซึ่งทำให้เธอรู้สึกเสียใจ เธอบอกว่า “ฉันเข้ากับคนไม่ค่อยเก่ง ฉันกลัวว่าถ้าเลิกคบกับเพื่อนคนนี้ ฉันคงไม่มีเพื่อนสนิทอีกเลย”
กลัวว่าจะทำผิด (ดูข้อ 7) *
7. มาเคล่ากลัวอะไร? และทำไมเธอถึงกลัว?
7 กลัวว่าจะทำผิด มาเคล่าอายุ 5 ขวบตอนพี่ชายถูกตัดสัมพันธ์ พอโตเป็นวัยรุ่น เธอก็เห็นว่าสิ่งที่เขาทำมันทำให้พ่อแม่เสียใจมาก มาเคล่าบอกว่า “ฉันกลัวว่าถ้าฉันรับบัพติศมาแล้วเกิดทำผิด ฉันจะถูกตัดสัมพันธ์ แล้วก็จะยิ่งทำให้พ่อแม่เสียใจมากขึ้นไปอีก”
กลัวถูกต่อต้าน (ดูข้อ 8) *
8. ไมล์กลัวอะไร?
8 กลัวถูกต่อต้าน เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อไมล์ มีพ่อกับแม่เลี้ยงเป็นพยานฯ แต่แม่จริง ๆ ของเขาไม่ได้เป็น เขาบอกว่า “ผมอยู่กับแม่มา 18 ปี ผมไม่กล้าบอกแม่ว่าผมจะรับบัพติศมา ผมเคยเห็นมาแล้วว่าแม่ทำยังไงตอนที่พ่อมาเป็นพยานฯ ผมเลยกลัวว่าแม่จะต่อต้าน”
คุณจะเอาชนะได้อย่างไร?
9. การเรียนรู้ว่าพระยะโฮวารักและอดทนขนาดไหนจะมีผลอย่างไรกับคุณ?
9 อาดัมกับเอวาเลือกที่จะไม่รับใช้พระยะโฮวาเพราะพวกเขาไม่ได้เรียนรู้ที่จะรักพระองค์มากขึ้นเรื่อย ๆ แม้เป็นอย่างนั้น พระองค์ก็ให้โอกาสพวกเขามีอายุนานพอที่จะมีลูกและตัดสินใจเองว่าจะเลี้ยงดูลูกอย่างไร เราเห็นผลจากการที่อาดัมกับเอวาตัดสินใจไม่พึ่งพระยะโฮวา มันเป็นการตัดสินใจที่โง่จริง ๆ ลูกชายคนโตของพวกเขาฆ่าน้องชายที่ไม่ได้ทำผิดอะไร ต่อมา ครอบครัวของมนุษย์มีแต่ความรุนแรงและเห็นแก่ตัว (ปฐก. 4:8; 6:11-13) แต่พระยะโฮวาเตรียมทางหนึ่งไว้เพื่อช่วยลูกหลานทุกคนของอาดัมกับเอวาที่อยากรับใช้พระองค์ (ยน. 6:38-40, 57, 58) เมื่อคุณได้เรียนมากขึ้นว่าพระยะโฮวารักและอดทนขนาดไหน คุณก็จะรักพระองค์มากขึ้นและไม่อยากทำตามอาดัมกับเอวา แต่จะอุทิศชีวิตของคุณให้พระองค์
วิธีที่คุณเอาชนะได้
(ดูข้อ 9-10) *
10. การคิดใคร่ครวญสดุดี 19:7 ช่วยคุณอย่างไรให้รับใช้พระยะโฮวา?
10 เรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป ยิ่งคุณเรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวา คุณก็จะยิ่งมั่นใจว่าคุณสามารถทำงานรับใช้ที่พระองค์มอบหมายได้สำเร็จ เอเวอรี่ที่พูดถึงตอนต้นบอกว่า “ผมมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้ค้นคว้าและคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับคำสัญญาที่สดุดี 19:7” (อ่าน) เมื่อเอเวอรี่เห็นว่าพระยะโฮวาทำให้คำสัญญานี้เป็นจริงอย่างไรเขาก็ยิ่งรักพระองค์มากขึ้น ความรักไม่เพียงทำให้เรามั่นใจมากขึ้น แต่ช่วยให้เราสนใจที่พระยะโฮวาและความต้องการของพระองค์เสมอ ฮันนาห์ซึ่งพูดถึงก่อนหน้านี้บอกว่า “การอ่านคัมภีร์ไบเบิลและการศึกษาส่วนตัวทำให้ฉันคิดได้ว่าถ้าฉันทำร้าย ตัวเอง ฉันก็กำลังทำร้ายจิตใจพระยะโฮวา” (1 ปต. 5:7) ฮันนาห์พยายาม “ทำตามคำสอนของพระเจ้า” (ยก. 1:22) ผลเป็นอย่างไร? เธอบอกว่า “พอฉันเห็นว่าการเชื่อฟังพระยะโฮวามีผลดีกับฉันขนาดไหน ฉันก็ยิ่งรักพระองค์มากขึ้น ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้วว่าเมื่อไหร่ที่ฉันต้องการความช่วยเหลือ พระองค์จะชี้นำฉันเสมอ” ฮันนาห์สามารถเอาชนะความรู้สึกที่อยากทำร้ายตัวเองได้ แล้วเธอก็อุทิศตัวให้พระยะโฮวาและรับบัพติศมา
(ดูข้อ 11) *
11. วาเนสซ่าทำอะไรบ้างเพื่อจะได้เพื่อนดี ๆ? เราได้เรียนอะไรจากเรื่องนี้?
11 เลือกเพื่อนอย่างฉลาด ในที่สุด วาเนสซ่าซึ่งพูดถึงตอนต้นก็รู้ว่าเพื่อนคนนั้นทำให้เธอยังไม่ได้รับใช้พระยะโฮวา เธอเลยเลิกคบกับเพื่อนคนนั้น ไม่ใช่แค่นั้น วาเนสซ่ายังออกความพยายามที่จะหาเพื่อนใหม่ในประชาคม เธอบอกว่าตัวอย่างของโนอาห์กับครอบครัวช่วยเธอ วาเนสซ่าบอกว่า “ถึงผู้คนในสมัยโนอาห์ไม่ได้รักพระยะโฮวา แต่ครอบครัวของโนอาห์ก็มีกันและกัน” หลังจากรับบัพติศมา วาเนสซ่าได้เป็นไพโอเนียร์ ตอนนี้เธอบอกว่า “การเป็นไพโอเนียร์ช่วยให้ฉันมีเพื่อนดี ๆ หลายคน ไม่ใช่แค่ในประชาคมของฉันเองเท่านั้น แต่ฉันมีเพื่อนต่างประชาคมด้วย” คุณเองก็มีเพื่อนดี ๆ ได้ถ้าพยายามขยันทำงานรับใช้พระยะโฮวาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้—มธ. 24:14
(ดูข้อ 12-15) *
12. ความกลัวแบบไหนที่อาดัมกับเอวาไม่มี? และผลเป็นอย่างไร?
12 มีความกลัวในแบบที่ถูกต้อง ความกลัวบางอย่างเป็นความกลัวที่ดี เช่น กลัวว่าจะทำให้พระยะโฮวาไม่พอใจ (สด. 111:10) ถ้าอาดัมกับเอวามีความกลัวแบบนั้นพวกเขาคงไม่กบฏต่อพระองค์ แต่ปรากฏว่าพวกเขากบฏต่อพระองค์จริง ๆ แล้วพวกเขาก็ตาสว่างในแง่ที่ว่า รู้ตัวว่ากลายเป็นคนบาปไปแล้ว พวกเขามีแต่จะส่งต่อความบาปและความตายให้ลูกหลาน และเพราะพวกเขาเห็นและเข้าใจว่าสภาพตัวเองเป็นอย่างไร พวกเขาเลยอายที่เปลือยอยู่จึงหาอะไรมาปิดร่างกาย—ปฐก. 3:7, 21
13-14. (ก) ตามที่บอกไว้ใน 1 เปโตร 3:21 ทำไมเราไม่ต้องกลัวความตายมากเกินไป? (ข) มีเหตุผลอะไรบ้างที่เราควรรักพระยะโฮวา?
13 ถึงเราควรกลัวว่าจะทำให้พระยะโฮวาไม่พอใจ แต่ก็มีบางอย่างที่เราไม่ต้องกลัวมากเกินไป นั่นคือความตาย พระองค์มีวิธีช่วยให้เรามีชีวิตตลอดไป และถ้าเราทำผิดแต่กลับใจจริง ๆ พระยะโฮวาจะให้อภัยความผิดที่เราทำ พระองค์ให้อภัยเมื่อเราเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูลูกของพระองค์ วิธีสำคัญที่สุดวิธีหนึ่งที่จะแสดงความเชื่อก็คือการอุทิศตัวให้พระยะโฮวาและรับบัพติศมา—อ่าน14 มีเหตุผลหลายอย่างที่เรารักพระยะโฮวา เรารักพระองค์ไม่ใช่แค่เพราะพระองค์ให้สิ่งดี ๆ ที่ทำให้เรามีความสุขในแต่ละวัน แต่พระองค์ยังสอนความจริงเรื่องพระองค์และความประสงค์ของพระองค์ด้วย (ยน. 8:31, 32) พระยะโฮวาให้เรามีประชาคมคริสเตียนเพื่อชี้นำและช่วยเหลือเรา พระองค์ช่วยให้เรารับมือและอดทนกับปัญหาในตอนนี้ และให้ความหวังที่จะมีชีวิตตลอดไปในสภาพที่สมบูรณ์แบบในอนาคต (สด. 68:19; วว. 21:3, 4) เมื่อเราคิดใคร่ครวญว่าพระยะโฮวารักเราและทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อเราไปแล้วมากขนาดไหน มันก็ยิ่งทำให้เรารักพระองค์ และเมื่อเรารักพระองค์ เราจะมีความกลัวในแบบที่ถูกต้อง เรากลัวว่าจะทำให้พระเจ้าที่เรารักมากเสียใจ
15. มาเคล่าเอาชนะการกลัวว่าจะทำผิดได้อย่างไร?
15 มาเคล่าที่พูดถึงตอนต้นสามารถเอาชนะความกลัวว่าจะทำผิดได้เมื่อเธอได้มาเข้าใจจริง ๆ ว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ให้อภัยมากแค่ไหน เธอบอกว่า “ฉันเข้าใจมากขึ้นว่าเราทุกคนไม่สมบูรณ์แบบและทำผิดพลาดได้ และเข้าใจชัดเจนมากขึ้นด้วยว่าพระยะโฮวารักและจะให้อภัยเราโดยอาศัยค่าไถ่ของพระเยซู” ความรักที่เธอมีต่อพระยะโฮวาทำให้เธออุทิศตัวและรับบัพติศมา
(ดูข้อ 16) *
16. อะไรช่วยไมล์ให้เอาชนะการกลัวว่าจะถูกต่อต้าน?
16 ไมล์ซึ่งกลัวว่าแม่จะต่อต้านและไม่ให้เขารับบัพติศมาได้ขอคำแนะนำจากผู้ดูแลหมวดคนหนึ่ง ไมล์เล่าว่า “ผู้ดูแลหมวดก็มีแม่ที่ไม่ได้เป็นพยานฯ เหมือนกัน เขาช่วยผมให้รู้ว่าจะพูดยังไงให้แม่เข้าใจว่า ผมเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะรับบัพติศมาและพ่อไม่ได้บังคับผม” ปรากฏว่าแม่ของไมล์รับไม่ได้เลย จนในที่สุดไมล์ต้องย้ายออกจากบ้านแม่ แต่เขายังคงไม่เปลี่ยนความตั้งใจ เขาบอกว่า “ผมประทับใจที่ได้เรียนรู้ว่าพระยะโฮวาทำสิ่งดี ๆ เพื่อผมมากขนาดไหน และเมื่อคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับค่าไถ่ของพระเยซู ผมก็รู้ว่าพระยะโฮวารักผมมากจริง ๆ ผมเลยอุทิศตัวให้พระองค์และรับบัพติศมา”
ใช้ชีวิตตามการตัดสินใจของคุณต่อ ๆ ไป
เราแสดงได้ว่าเราเห็นค่าสิ่งต่าง ๆ ที่พระเจ้าทำเพื่อเรา (ดูข้อ 17)
17. เรามีโอกาสแสดงอะไร?
17 ตอนที่เอวากินผลของต้นไม้ต้นนั้นในสวนเอเดน เธอได้กบฏต่อพระยะโฮวาพ่อของเธอ และพออาดัม
ทำตามเอวา เขาก็แสดงว่าไม่เห็นค่าสิ่งดีต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาทำเพื่อเขา เราทุกคนมีโอกาสแสดงว่าเราไม่เป็นเหมือนอาดัมกับเอวา เราเห็นค่าสิ่งดีต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาทำเพื่อเรา การรับบัพติศมาแสดงให้พระยะโฮวาเห็นว่าเราเชื่อว่าพระองค์มีสิทธิ์ตั้งมาตรฐานว่าอะไรถูกอะไรผิด เราพิสูจน์ว่ารักและไว้วางใจพระยะโฮวาพ่อของเรา18. คุณจะประสบความสำเร็จในการเป็นผู้รับใช้พระยะโฮวาได้อย่างไร?
18 ข้อท้าทายอย่างหนึ่งที่เราต้องเจอหลังจากรับบัพติศมาแล้วก็คือ การใช้ชีวิตในแต่ละวันตามมาตรฐานของพระยะโฮวาไม่ใช่ของเราเอง หลายล้านคนกำลังทำแบบนั้นอยู่แล้ว คุณก็เป็นเหมือนพวกเขาได้ถ้าพยายามต่อไปที่จะเข้าใจคัมภีร์ไบเบิลให้ลึกซึ้งมากขึ้น คบหากับพี่น้องเป็นประจำ และช่วยคนอื่นให้เรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าผู้เป็นพ่อที่รักของคุณ (ฮบ. 10:24, 25) ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเรื่องอะไรในชีวิต ให้ฟังคำแนะนำจากพระยะโฮวาผ่านทางคัมภีร์ไบเบิลและองค์การของพระองค์ (อสย. 30:21) แล้วสิ่งที่คุณทำจะสำเร็จ—สภษ. 16:3, 20
19. คุณควรจำอะไรไว้เสมอ? และทำไม?
19 เมื่อคุณจำไว้เสมอว่าได้ประโยชน์ขนาดไหนจากการชี้นำของพระยะโฮวา คุณจะรักพระองค์และรักมาตรฐานของพระองค์มากขึ้น เมื่อเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าซาตานจะเสนออะไรให้คุณ คุณจะไม่มีทางเลิกรับใช้พระองค์เพื่อแลกกับสิ่งนั้น ขอให้นึกภาพหลายพันปีข้างหน้าตอนที่คุณมองย้อนกลับมาและคิดถึงตอนที่คุณตัดสินใจรับบัพติศมา คุณจะรู้สึกว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิต!
เพลง 28 ได้เป็นเพื่อนกับพระยะโฮวา
^ วรรค 5 เรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่คุณต้องตัดสินใจคือคุณจะรับบัพติศมาหรือเปล่า ทำไมการตัดสินใจเรื่องนี้ถึงสำคัญมาก? บทความนี้จะตอบคำถามและจะช่วยคนที่กำลังคิดจะรับบัพติศมาให้เอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้ยังรับบัพติศมาไม่ได้
^ วรรค 56 คำอธิบายภาพ ไม่มั่นใจ วัยรุ่นคนหนึ่งไม่กล้าออกความเห็น
^ วรรค 58 คำอธิบายภาพ เพื่อน วัยรุ่นพยานฯเดินมากับเพื่อนที่นิสัยไม่ดี เธอรู้สึกอายที่เห็นพี่น้อง
^ วรรค 60 คำอธิบายภาพ กลัวทำผิด วัยรุ่นคนหนึ่งกลัวจะทำผิดเหมือนพี่ชายที่ถูกตัดสัมพันธ์และออกจากบ้านไป
^ วรรค 62 คำอธิบายภาพ กลัวถูกต่อต้าน วัยรุ่นคนหนึ่งไม่กล้าอธิษฐานต่อหน้าแม่ที่ไม่ใช่พยานฯ
^ วรรค 65 คำอธิบายภาพ ไม่มั่นใจ วัยรุ่นคนหนึ่งศึกษาส่วนตัวมากขึ้น
^ วรรค 67 คำอธิบายภาพ เพื่อน วัยรุ่นพยานฯเรียนรู้ที่จะภูมิใจที่เป็นพยานพระยะโฮวา
^ วรรค 69 คำอธิบายภาพ กลัวทำผิด วัยรุ่นคนหนึ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาด้วยตัวเองและรับบัพติศมา
^ วรรค 71 คำอธิบายภาพ กลัวถูกต่อต้าน วัยรุ่นคนหนึ่งกล้าพูดถึงความเชื่อให้แม่ที่ไม่ใช่พยานฯฟัง