ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ผมตามหาชีวิตที่มีความหมาย

ผมตามหาชีวิตที่มีความหมาย

ตอน​ที่​ผม​ล่อง​เรือ​อยู่​ใน​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน อยู่​ดี ๆ เรือ​ก็​รั่ว​และ​น้ำ​ก็​เข้า​เต็ม​ไป​หมด จาก​นั้น​ผม​ก็​เจอ​พายุ ผม​กลัว​มาก​เลย​อธิษฐาน​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​รอบ​หลาย​ปี มัน​เป็น​อย่าง​นี้​ได้​ยัง​ไง เดี๋ยว​ผม​จะ​เล่า​ให้​ฟัง

ตอน 7 ขวบ​ผม​กับ​ครอบครัว​อยู่​ที่​บราซิล

ผม​เกิด​ที่​เนเธอร์แลนด์​ใน​ปี 1948 และ​ปี​ถัด​มา​ครอบครัว​ของ​เรา​ก็​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​เซาเปาลู​ประเทศ​บราซิล พ่อ​แม่​ชอบ​ไป​โบสถ์​เป็น​ประจำ และ​ทั้ง​ครอบครัว​ของ​เรา​ก็​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย​กัน​ทุก​วัน​หลัง​กิน​ข้าว​เย็น แล้ว​พอ​ถึง​ปี 1959 ครอบครัว​ของ​เรา​ก็​ย้าย​บ้าน​อีก​ครั้ง​หนึ่ง เรา​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​สหรัฐ​อเมริกา รัฐ​แมสซาชูเซตส์

พ่อ​ต้อง​เลี้ยง​ดู​ครอบครัว​เรา​ซึ่ง​มี​ทั้ง​หมด 8 คน พ่อ​ก็​เลย​ทำ​งาน​หนัก พ่อ​เคย​เป็น​ทั้ง​เซลส์แมน คน​งาน​ทำ​ถนน และ​ทำ​งาน​ใน​บริษัท​สาย​การ​บิน​ด้วย ตอน​ที่​พ่อ​ทำ​งาน​บริษัท​สาย​การ​บิน ครอบครัว​เรา​มี​ความ​สุข​มาก​เพราะ​เรา​ได้​เดิน​ทาง​กัน​บ่อย ๆ

ช่วง​ที่​เรียน​อยู่​ม. ปลาย ผม​คิด​บ่อย ๆ ว่า​หลัง​จาก​นี้​ผม​ควร​ทำ​อะไร​ดี เพื่อน​บาง​คน​ก็​ไป​เรียน​มหาวิทยาลัย ส่วน​บาง​คน​ก็​ไป​เป็น​ทหาร สำหรับ​ผม​แล้ว​ผม​ไม่​อยาก​เป็น​ทหาร​เลย​เพราะ​ผม​ไม่​ชอบ​การ​ต่อ​สู้ ผม​ก็​เลย​ตัดสิน​ใจ​ไป​เรียน​มหาวิทยาลัย​เพื่อ​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​เป็น​ทหาร แต่​ลึก ๆ แล้ว​ผม​อยาก​ทำ​งาน​ที่​ช่วย​คน​อื่น​เพราะ​คิด​ว่า​มัน​จะ​ทำ​ให้​ชีวิต​มี​ความ​หมาย

ชีวิต​ใน​มหาวิทยาลัย

ผม​ตาม​หา​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย​อยู่​หลาย​ปี

ตอน​เรียน​มหาวิทยาลัย ผม​เลือก​เรียน​ด้าน​มานุษยวิทยา​เพราะ​อยาก​รู้​ว่า​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​มา​ยัง​ไง เรา​เรียน​เรื่อง​วิวัฒนาการ​และ​อาจารย์​อยาก​ให้​เรา​เชื่อ​เรื่อง​นี้ แต่​สำหรับ​ผม​แล้ว​คำ​อธิบาย​บาง​เรื่อง​มัน​ดู​ไม่​มี​เหตุ​ผล​เลย​และ​ไม่​มี​ข้อ​พิสูจน์​ทาง​วิทยาศาสตร์​ด้วย

ใน​ชั้น​เรียน​ไม่​ได้​สอน​เรื่อง​ศีลธรรม​เลย มี​แต่​เน้น​ว่า​จะ​ทำ​ยัง​ไง​ถึง​จะ​ได้​ผล​การ​เรียน​ที่​ดี ผม​ชอบ​ไป​ปาร์ตี้​กับ​เพื่อน ๆ และ​เริ่ม​ใช้​ยา​เสพ​ติด ผม​รู้สึก​มี​ความ​สุข​แต่​มัน​ก็​เป็น​ความ​สุข​แค่​แป๊บ​เดียว​เท่า​นั้น ผม​เลย​เริ่ม​สงสัย​ว่า ‘ชีวิต​แบบ​นี้​เป็น​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย​จริง ๆ ไหม’

แล้ว​ผม​ก็​ย้าย​ไป​ที่​เมือง​บอสตัน​และ​สมัคร​เข้า​เรียน​มหาวิทยาลัย​ที่​นั่น ใน​ช่วง​ปิด​เทอม​ผม​ทำ​งาน​หา​เงิน​ค่า​เทอม แล้ว​ตอน​นั้น​ก็​ได้​เจอ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​เพื่อน​ร่วม​งาน มัน​เป็น​ครั้ง​แรก​เลย​ครับ​ที่​ผม​ได้​เจอ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา เพื่อน​ร่วม​งาน​คน​นี้​อธิบาย​คำ​พยากรณ์​เรื่อง “7 ปี” ใน​หนังสือ​ดาเนียล​บท 4 ให้​ผม​ฟัง​และ​บอก​ว่า​ตอน​นี้​เรา​กำลัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สมัย​สุด​ท้าย (ดนล. 4:13-17) ผม​รู้​เลย​ว่า​ขืน​ผม​ยัง​คุย​กับ​เพื่อน​คน​นี้​อยู่ ผม​คง​ต้อง​เชื่อ​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​แน่ ๆ แล้ว​ต้อง​เปลี่ยน​แปลง​ชีวิต​ของ​ตัว​เอง ผม​เลย​พยายาม​หลบ​หน้า​หลบ​ตา​เขา

ผม​เลือก​เรียน​วิชา​หนึ่ง​ที่​จะ​ทำ​ให้​ผม​ได้​ไป​เป็น​อาสา​สมัคร​ที่​อเมริกา​ใต้ ผม​คิด​ว่า​การ​ทำ​อย่าง​นั้น​จะ​ทำ​ให้​ช่วย​คน​อื่น​ได้​และ​มี​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย แต่​ผม​ก็​ต้อง​ผิด​หวัง​เพราะ​นั่น​ไม่​ได้​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​ผม​มี​ความ​หมาย​เลย ผม​ก็​เลย​ตัดสิน​ใจ​ลา​ออก​จาก​มหาวิทยาลัย

เดิน​ทาง​ตาม​หา​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย​ต่อ​ไป

ใน​เดือน​พฤษภาคม​ปี 1970 ผม​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​อัมสเตอร์ดัม ประเทศ​เนเธอร์แลนด์ และ​ได้​ทำ​งาน​ใน​สาย​การ​บิน​เดียว​กัน​กับ​ที่​พ่อ​เคย​ทำ งาน​นี้​ทำ​ให้​ผม​ได้​เดิน​ทาง​ไป​หลาย​ประเทศ​ทั้ง​ใน​ทวีป​แอฟริกา อเมริกา ยุโรป และ​เอเชีย ไม่​ว่า​ผม​จะ​เดิน​ทาง​ไป​ประเทศ​ไหน​ก็​เห็น​เลย​ว่า​ผู้​คน​ที่​นั่น​เจอ​ปัญหา​เหมือน ๆ กัน​และ​ก็​ไม่​มี​ใคร​สามารถ​แก้​ปัญหา​ของ​พวก​เขา​ได้​เลย แต่​ผม​ก็​ยัง​อยาก​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​สำคัญ​ใน​ชีวิต​ให้​สำเร็จ ผม​เลย​ตัดสิน​ใจ​กลับ​ไป​ที่​สหรัฐ​อเมริกา และ​กลับ​ไป​สมัคร​เรียน​ที่​มหาวิทยาลัย​เดิม​ใน​บอสตัน

หลัง​จาก​ที่​กลับ​มา​เรียน​ที่​มหาวิทยาลัย​ได้​ไม่​นาน ผม​ก็​เริ่ม​รู้​ว่า​คง​ไม่​ได้​คำ​ตอบ​สำหรับ​ชีวิต ผม​ไม่​รู้​จะ​ทำ​ยัง​ไง​ดี​ก็​เลย​ไป​หา​อาจารย์ ผม​แปลก​ใจ​มาก​ที่​อาจารย์​บอก​ว่า “จะ​เรียน​ต่อ​ไป​ทำไม อยาก​เลิก ทำไม​ไม่​เลิก​ไป​เลย” ผม​ไม่​ต้อง​ให้​อาจารย์​พูด​ซ้ำ​สอง​อีก ผม​ลา​ออก​จาก​มหาวิทยาลัย​ทันที​และ​ไม่​กลับ​ไป​ที่​นั่น​อีก​เลย

แต่​ชีวิต​ผม​ก็​ยัง​ไม่​มี​ความ​หมาย ผม​เลย​ตัดสิน​ใจ​ไป​คบ​กับ​พวก​บุปผาชน​ซึ่ง​ต่อ​ต้าน​ขนบธรรมเนียม​ประเพณี​และ​ดู​เหมือน​สนับสนุน​เรื่อง​สันติภาพ​และ​ความ​รัก ผม​กับ​เพื่อน ๆ บาง​คน​โบก​รถ​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​สหรัฐ​และ​ลง​ไป​จน​ถึง​เมือง​อากาปุลโก​ประเทศ​เม็กซิโก เรา​ไป​อยู่​กับ​พวก​ฮิปปี้​ที่​ใช้​ชีวิต​แบบ​ไม่​มี​กฎ​ไม่​มี​เกณฑ์​และ​ดู​เหมือน​ไม่​ทุกข์​ไม่​ร้อน​อะไร แต่​พอ​ไป​อยู่​กับ​พวก​เขา​ได้​สัก​พัก ผม​ก็​รู้สึก​ว่า​พวก​เขา​ใช้​ชีวิต​ไป​วัน ๆ ไม่​มี​จุด​มุ่ง​หมาย​แถม​ลึก ๆ แล้ว​พวก​เขา​ไม่​ได้​มี​ความ​สุข​จริง ๆ และ​หลาย​คน​ก็​เป็น​คน​ไม่​ดี​และ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ด้วย

ล่อง​เรือ​ตาม​หา​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย

ผม​กับ​เพื่อน​ตาม​หา​เกาะ​สวย ๆ

ต่อ​มา​ผม​เริ่ม​ทำ​ตาม​ความ​ฝัน​ตั้ง​แต่​เด็ก ๆ ก็​คือ​ล่อง​เรือ​ไป​ใน​ทะเล​แต่​ไม่​ใช่​เป็น​ลูกเรือ​นะ​ครับ ผม​อยาก​เป็น​กัปตัน​เรือ วิธี​เดียว​ที่​จะ​ทำ​ได้​ก็​คือ​ต้อง​มี​เรือ​เป็น​ของ​ตัว​เอง ผม​มี​เพื่อน​อยู่​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ทอม เขา​ก็​มี​ความ​ฝัน​แบบ​เดียว​กับ​ผม เรา​เลย​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ล่อง​เรือ​ไป​รอบ​โลก​ด้วย​กัน ผม​อยาก​ตาม​หา​เกาะ​สวย ๆ สัก​เกาะ​หนึ่ง​ที่​จะ​ไป​ใช้​ชีวิต​อย่าง​อิสระ​ไม่​ต้อง​อยู่​ใต้​กฎเกณฑ์​อะไร

ผม​กับ​ทอม​เดิน​ทาง​ไป​ที่​อาเรนส์เดมาร์​ใกล้​กับ​บาร์เซโลนา​ประเทศ​สเปน พอ​ไป​ถึง​ที่​นั่น​เรา​ก็​ซื้อ​เรือใบ​ลำ​หนึ่ง​ที่​ยาว​เกือบ 10 เมตร​ชื่อ​ว่า​ลี​ก​ร้า เรา​เริ่ม​ปรับ​ปรุง​เรือ​ลำ​นี้​ขึ้น​มา​ใหม่​ให้​ปลอด​ภัย​พอ​ที่​จะ​สามารถ​ล่อง​ไป​ใน​มหาสมุทร​ได้ เนื่อง​จาก​เรา​ไม่​ได้​รีบ​ไป​ให้​ถึง​จุด​หมาย​ปลาย​ทาง เรา​ก็​เลย​เอา​เครื่อง​ยนต์​ออก​เพื่อ​จะ​มี​ที่​พอ​สำหรับ​เก็บ​น้ำ​ดื่ม​ได้​เยอะ ๆ และ​นอก​จาก​นั้น​เรา​ก็​ยัง​ซื้อ​เรือ​พาย​เล็ก ๆ ที่​ยาว 5 เมตร 2 ลำ​เอา​ไว้​พาย​เข้า​ไป​ใน​อ่าว​เล็ก ๆ ได้ ใน​ที่​สุด​เรา​ก็​พร้อม​เดิน​ทาง จุด​หมาย​แรก​ของ​เรา​ก็​คือ​หมู่​เกาะ​เซเชลส์​ใน​มหาสมุทร​อินเดีย แผน​ของ​เรา​ก็​คือ​เรา​อยาก​จะ​ล่อง​ไป​ตาม​ฝั่ง​ตะวัน​ตก​ของ​แอฟริกา​และ​อ้อม​รอบ​แหลม​กู๊ดโฮป​ของ​แอฟริกา​ใต้ เรา​อาศัย​ดวง​ดาว แผนที่ หนังสือ และ​อุปกรณ์​เดิน​ทาง​ง่าย ๆ เพื่อ​จะ​พา​ไป​ถึง​จุด​หมาย​และ​ทำ​ให้​รู้​ว่า​เรา​อยู่​ที่​ไหน ผม​ทึ่ง​มาก​ที่​สิ่ง​เหล่า​นี้​ช่วย​ให้​เรา​รู้​อย่าง​แม่นยำ​ขนาด​นี้

ต่อ​มา​ไม่​นาน​เรา​ก็​รู้​ว่า​เรือ​ไม้​เก่า ๆ ลำ​นี้​มัน​ไป​ไม่​ไหว​แล้ว​เพราะ​น้ำ​รั่ว​เข้า​เรือ​เร็ว​มาก​จน​น่า​กลัว​ประมาณ 22 ลิตร​ต่อ​ชั่วโมง อย่าง​ที่​ผม​บอก​ไป​แล้ว​ตอน​ต้น​ตอน​ที่​พายุ​มา​ผม​กลัว​มาก ผม​อธิษฐาน​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​รอบ​หลาย​ปี​และ​สัญญา​กับ​พระเจ้า​ว่า​ถ้า​ผม​รอด​ไป​ได้ ผม​จะ​รู้​จัก​พระองค์​ให้​มาก​ขึ้น แล้ว​พายุ​ก็​สงบ ผม​ทำ​ตาม​สัญญา​ทันที

ผม​เริ่ม​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ตอน​ที่​อยู่​บน​เรือ​กลาง​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน​ท่ามกลาง​ปลา​บิน ปลา​โลมา แล้ว​ก็​ขอบ​ฟ้า​ที่​กว้าง​ไกล​สุด​ลูก​หู​ลูก​ตา ส่วน​ตอน​กลางคืน​ผม​ก็​เห็น​ทาง​ช้าง​เผือก​ที่​สวย​งาม​น่า​ประทับใจ ผม​ยิ่ง​มั่น​ใจ​มาก​ขึ้น​ว่า​ต้อง​มี​พระเจ้า​ที่​สนใจ​มนุษย์​อยู่​จริง ๆ

หลัง​จาก​ล่อง​เรือ​อยู่​หลาย​อาทิตย์ เรา​ก็​มา​ถึง​ท่า​เรือ​ที่​เมือง​อาลีกันเต​ประเทศ​สเปน เรา​ตั้งใจ​จะ​ขาย​เรือ​ของ​เรา​ที่​นั่น​เพื่อ​จะ​ได้​ซื้อ​เรือ​ใหม่ แต่​ผม​ก็​ไม่​รู้สึก​แปลก​ใจ​ที่​ยัง​หา​คน​ซื้อ​ไม่​ได้​สัก​ที​เพราะ​ว่า​เรือ​ของ​เรา​ทั้ง​เก่า ไม่​มี​เครื่อง​ยนต์ แถม​ยัง​รั่ว​อีก​ต่าง​หาก แต่​ผม​ว่า​มัน​ก็​ดี​เหมือน​กัน​เพราะ​จะ​ได้​มี​เวลา​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​ขึ้น

ยิ่ง​อ่าน​ผม​ก็​ยิ่ง​รู้​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​คู่มือ​ที่​ช่วย​ให้​ชีวิต​มี​ความ​สุข ผม​ประทับใจ​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ถ้า​เรา​อยาก​เป็น​คน​ดี​มี​ศีลธรรม​เรา​ต้อง​ทำ​ยัง​ไง แต่​ก็​สงสัย​ด้วย​ว่า​ทำไม​หลาย​คน​รวม​ทั้ง​ตัว​ผม​ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ถึง​ไม่​ทำ​ตาม​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก

ผม​ตั้งใจ​ว่า​จะ​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง​ให้​ได้​ก็​เลย​เลิก​ใช้​ยา​เสพ​ติด ผม​คิด​ว่า​ต้อง​มี​คน​ที่​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​อยู่​แน่ ๆ และ​ผม​ก็​อยาก​รู้​จัก​พวก​เขา ผม​เลย​อธิษฐาน​เป็น​ครั้ง​ที่ 2 ถึง​พระเจ้า​ขอ​ให้​ได้​เจอ​พวก​เขา

ตาม​หา​ศาสนา​แท้

ผม​รู้สึก​ว่า​น่า​จะ​ต้อง​ตรวจ​สอบ​ทุก​ศาสนา​จน​กว่า​จะ​เจอ​ศาสนา​แท้ ตอน​ที่​ผม​เดิน​ไป​ตาม​ถนน​ใน​เมือง​อาลีกันเต ผม​เห็น​โบสถ์​วิหาร​ของ​ศาสนา​ต่าง ๆ เยอะ​แยะ​ไป​หมด แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​มี​แต่​รูป​เคารพ ผม​รู้​ทันที​เลย​ว่า​มัน​ไม่​ใช่​ศาสนา​แท้

บ่าย​วัน​อาทิตย์​วัน​หนึ่ง ผม​อยู่​บน​เนิน​เขา​แล้ว​มอง​ลง​มา​ที่​ท่า​เรือ ผม​อ่าน​ยากอบ 2:1-5 ที่​บอก​ว่า​อย่า​ลำเอียง​เข้า​ข้าง​คน​รวย ตอน​เดิน​กลับ​มา​ที่​เรือ​ผม​เดิน​ผ่าน​ที่​ประชุม​ทาง​ศาสนา​แห่ง​หนึ่ง​ที่​มี​ป้าย​เขียน​ว่า “หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา”

ผม​คิด​ว่า​ลอง​เข้า​ไป​ดู​หน่อย​ดี​กว่า​ว่า​จะ​มี​ใคร​ต้อนรับ​คน​อย่าง​ผม​ไหม ผม​เดิน​เข้า​ไป​ใน​หอ​ประชุม ไม่​ใส่​รอง​เท้า ไว้​หนวด​ไว้​เครา แถม​ยัง​ใส่​กางเกง​ยีนส์​ขาด ๆ คน​ที่​ทำ​หน้า​ที่​ต้อนรับ​ใน​หอ​ประชุม​นั้น​พา​ผม​ไป​นั่ง​กับ​คุณ​ป้า​ใจ​ดี​คน​หนึ่ง​ที่​เปิด​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ผม​ดู​ตาม​ผู้​บรรยาย​ตลอด หลัง​จบ​การ​ประชุม​มี​คน​เดิน​เข้า​มา​ทัก​ผม​เยอะ​แยะ พวก​เขา​ต้อนรับ​ผม​อย่าง​อบอุ่น ผม​ประทับใจ​มาก​เลย​ครับ แล้ว​ก็​มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ชวน​ผม​ไป​ที่​บ้าน​ไป​คุย​เรื่อง​พระ​คัมภีร์​ต่อ แต่​ตอน​นั้น​ผม​ยัง​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​จบ​เลย​บอก​เขา​ไป​ว่า “เอา​ไว้​ผม​พร้อม​เมื่อไหร่​ผม​จะ​บอก​แล้ว​กัน” หลัง​จาก​นั้น​ผม​ก็​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ทุก​ครั้ง

หลาย​อาทิตย์​ต่อ​มา ผม​ไป​หา​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ที่​บ้าน เขา​ตอบ​คำ​ถาม​ผม​ได้​ทุก​ข้อ​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล อาทิตย์​ถัด​มา​เขา​ให้​เสื้อ​ผ้า​ผม​เต็ม​ถุง ใน​นั้น​มี​เสื้อ​ผ้า​ดี ๆ เยอะ​แยะ เขา​บอก​ว่า​เจ้า​ของ​เสื้อ​ผ้า​พวก​นี้​ติด​คุก​อยู่​เพราะ​เขา​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ให้​รัก​กัน​และ​ไม่​เรียน​ทำ​สงคราม​อีก​ต่อ​ไป (อสย. 2:4; ยน. 13:34, 35) ตอน​นี้​ผม​มั่น​ใจ​แล้ว​ว่า​ผม​เจอ​คน​ที่​ตา​มหา​มา​นาน​คือ​คน​ที่​เอา​คำ​สอน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เรื่อง​ศีลธรรม​มา​ใช้​ใน​ชีวิต​จริง ๆ เป้าหมาย​ของ​ผม​ไม่​ใช่​การ​ตาม​หา​เกาะ​สวย ๆ อีก​ต่อ​ไป​แต่​เป็น​การ​เข้าใจ​คัมภีร์​ไบเบิล​จริง ๆ ผม​เลย​ตัดสิน​ใจ​กลับ​ไป​ที่​เนเธอร์แลนด์

หา​งาน​ทำ

ผม​โบก​รถ​ไป​โกรนิงเกน​ประเทศ​เนเธอร์แลนด์ ใช้​เวลา 4 วัน​กว่า​จะ​ถึง​ที่​นั่น พอ​ไป​ถึง​ผม​ต้อง​หา​งาน​ทำ ผม​เลย​เข้า​ไป​ที่​โรง​ไม้​แห่ง​หนึ่ง​เพื่อ​จะ​สมัคร​งาน ตอน​กรอก​แบบ​ฟอร์ม​สมัคร​งาน มี​คำ​ถาม​ข้อ​หนึ่ง​ถาม​ว่า​นับถือ​ศาสนา​อะไร ผม​ตอบ​ไป​ว่า “พยาน​พระ​ยะโฮวา” พอ​เจ้า​ของ​โรง​ไม้​มา​อ่าน​ใบ​สมัคร​นั้น ผม​สังเกต​ว่า​สี​หน้า​เขา​ก็​เปลี่ยน​ไป เขา​บอก​ผม​ว่า “เดี๋ยว​จะ​ติด​ต่อ​กลับ​ไป” แต่​เขา​ไม่​เคย​ติด​ต่อ​มา​อีก​เลย

ผม​ไป​โรง​ไม้​อีก​ที่​หนึ่ง​แล้ว​ถาม​เจ้า​ของ​โรง​ไม้​ว่า​ต้องการ​คน​งาน​ไหม เขา​ถาม​หา​ใบ​ประกาศนียบัตร​กับ​จดหมาย​รับรอง​จาก​ที่​ทำ​งาน​เก่า ผม​บอก​เขา​ว่า​ผม​เคย​ทำ​งาน​ซ่อม​เรือ​ไม้​มา​ก่อน เขา​เลย​บอก​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​บ่าย​นี้​เริ่ม​งาน​ได้​เลย แต่​ผม​ขอ​คุณ​อย่าง​หนึ่ง​ว่า​อย่า​สร้าง​ปัญหา​ที่​นี่​เพราะ​ผม​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา ผม​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​คัมภีร์​ไบเบิล” ผม​มอง​หน้า​เขา​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​แล้ว​ก็​บอก​ว่า “ผม​ก็​เป็น​พยาน​ฯ เหมือน​กัน!” แต่​เป็น​เพราะ​ผม​ยัง​ไว้​หนวด​ไว้​เครา​แถม​ยัง​ผม​ยาว เจ้า​ของ​โรง​ไม้​ก็​เลย​บอก​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น ผม​จะ​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​คุณ” ผม​ดีใจ​มาก ตอน​นี้​ผม​รู้​แล้ว​ว่า​ทำไม​เจ้า​ของ​โรง​ไม้​ที่​แรก​ถึง​ไม่​รับ​ผม​เข้า​ทำ​งาน เป็น​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​ผม​ทำ​งาน​ที่​นี่ พระองค์​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ผม​จริง ๆ (สด. 37:4) ผม​ทำ​งาน​กับ​พี่​น้อง​คน​นี้​หนึ่ง​ปี และ​ตลอด​ช่วง​เวลา​นั้น​เขา​ก็​นำ​การ​ศึกษา​กับ​ผม หลัง​จาก​นั้น​ผม​ได้​รับ​บัพติศมา​เดือน​มกราคม 1974

ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​เจอ​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย

หนึ่ง​เดือน​หลัง​จาก​รับ​บัพติศมา ผม​ก็​เริ่ม​งาน​ใหม่​คือ​งาน​ไพโอเนียร์​ซึ่ง​เป็น​งาน​ที่​ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​สุข​จริง ๆ เดือน​ถัด​มา​ผม​ย้าย​ไป​อัมสเตอร์ดัม​เพื่อ​ไป​รับใช้​ใน​กลุ่ม​ภาษา​สเปน​ที่​เพิ่ง​ตั้ง​ขึ้น​ใหม่ ผม​มี​ความ​สุข​จริง ๆ ที่​ได้​นำ​การ​ศึกษา​หลาย​คน​ที่​ใช้​ภาษา​สเปน​กับ​โปรตุเกส และ​ใน​เดือน​พฤษภาคม 1975 ผม​ก็​ได้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ

วัน​หนึ่ง​มี​พี่​น้อง​หญิง​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ชื่อ​อีเนเก้​พา​นัก​ศึกษา​ของ​เธอ​ที่​เป็น​ชาว​โบลิเวีย​มา​ประชุม​ที่​กลุ่ม​ภาษา​สเปน เรา​สอง​คน​อยาก​รู้​จัก​กัน​มาก​ขึ้น​ก็​เลย​เขียน​จดหมาย​ติด​ต่อ​กัน เลย​ทำ​ให้​รู้​ว่า​เรา​สอง​คน​มี​เป้าหมาย​เดียว​กัน เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​ปี 1976 และ​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ด้วย​กัน พอ​ปี 1982 เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​เรียน​โรง​เรียน​กิเลียด​ชั้น​เรียน​ที่ 73 และ​เรา​ก็​ดีใจ​มาก​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ที่​แอฟริกา​ตะวัน​ออก เรา​ไป​รับใช้​ที่​มอมบาซา​ประเทศ​เคนยา 5 ปี และ​ใน​ปี 1987 เรา​สอง​คน​ก็​ถูก​ย้าย​ไป​รับใช้​ที่​แทนซาเนีย​ซึ่ง​การ​ประกาศ​ที่​นั่น​ไม่​ถูก​สั่ง​ห้าม​แล้ว เรา​อยู่​ที่​แทนซาเนีย 26 ปี​ก่อน​จะ​กลับ​ไป​ที่​เคนยา

ผม​กับ​ภรรยา​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​ช่วย​หลาย​คน​ใน​แอฟริกา​ตะวัน​ออก​ให้​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล

การ​ช่วย​คน​ที่​มี​หัวใจ​ดี​ให้​เรียน​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​ชีวิต​เรา​มี​ความ​หมาย​จริง ๆ ตัว​อย่าง​เช่น นัก​ศึกษา​คน​แรก​ของ​ผม​ที่​มอมบาซา​เป็น​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ผม​เจอ​ตอน​ประกาศ หลัง​จาก​ที่​เสนอ​วารสาร​ให้​เขา 2 เล่ม​แล้ว เขา​ถาม​ผม​ว่า “ถ้า​ผม​อ่าน​จบ​แล้ว​ต้อง​ทำ​ยัง​ไง​ต่อ?” สัปดาห์​ถัด​มา​ผม​ศึกษา​กับ​เขา​โดย​ใช้​หนังสือ​ท่าน​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​ตลอด​ไป​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก ซึ่ง​เพิ่ง​ออก​ใน​ภาษา​สวาฮิลี หนึ่ง​ปี​ต่อ​มา​เขา​ก็​รับ​บัพติศมา​และ​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ ตั้ง​แต่​นั้น​มา​เขา​กับ​ภรรยา​ก็​ได้​ช่วย​เกือบ​หนึ่ง​ร้อย​คน​ให้​อุทิศ​ตัว​และ​รับ​บัพติศมา

ผม​กับ​อีเนเก้​ได้​เจอ​กับ​ตัว​เอง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อวยพร​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ให้​มี​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย

ตอน​ที่​ผม​ได้​มา​เข้าใจ​ครั้ง​แรก​ว่า​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย​เป็น​ยัง​ไง ผม​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​เหมือน​พ่อค้า​ที่​เดิน​ทาง​ไป​หา​ไข่มุก​เม็ด​งาม พอ​ได้​มา​แล้ว​ก็​ทำ​ทุก​อย่าง​ไม่​ให้​ไข่มุก​นั้น​หลุด​มือ​ไป (มธ. 13:45, 46) ผม​อยาก​ใช้​ชีวิต​เพื่อ​ช่วย​คน​อื่น​ให้​พบ​ความ​หมาย​ที่​แท้​จริง​ของ​ชีวิต ผม​กับ​ภรรยา​ได้​เจอ​กับ​ตัว​เอง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​คน​ของ​พระองค์​ให้​มี​ชีวิต​ที่​มี​ความ​หมาย​จริง ๆ