บทความ​ศึกษา 24

เพลง 24 ไป​ที่​ภูเขา​ของ​พระ​ยะโฮวา

เป็น​แขก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ตลอด​ไป

เป็น​แขก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ตลอด​ไป

“พระ​ยะโฮวา ใคร​จะ​ได้​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระองค์?”สด. 15:1

จุด​สำคัญ

เพื่อ​ช่วย​ให้​เรา​ได้​เรียน​ว่า​เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระ​ยะโฮวา​ได้​ต่อ ๆ ไป​และ​เรียน​ว่า​พระองค์​อยาก​ให้​เรา​ปฏิบัติ​กับ​เพื่อน​ของ​พระองค์​ยังไง

1. เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร​บ้าง​จาก​สดุดี 15:1-5?

 ใน​บทความ​ที่​แล้ว​เรา​ได้​เรียน​ว่า​คน​ที่​อุทิศ​ตัว​ให้​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​สนิท​กับ​พระองค์​เสมอ​สามารถ​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระองค์​ได้ แต่​เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​อีก​เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ต่อ ๆ ไป? สดุดี​บท 15 ช่วย​ให้​เรา​ได้​คำ​ตอบ​ใน​เรื่อง​นี้ (อ่าน​สดุดี 15:1-5) สดุดี​บท​นี้​มี​คำ​แนะ​นำ​ดี ๆ หลาย​อย่าง​ที่​ช่วย​ให้​เรา​สนิท​กับ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น

2. ตอน​ที่​ดาวิด​พูด​ถึง​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​เขา​อาจ​คิด​ถึง​อะไร?

2 สดุดี​บท 15 ข้อ​แรก​บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา ใคร​จะ​ได้​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระองค์? ใคร​จะ​ได้​อยู่​บน​ภูเขา​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์?” (สด. 15:1) ดาวิด​ซึ่ง​เป็น​ผู้​เขียน​สดุดี​บท​นี้​พูด​ถึง “เต็นท์” ของ​พระ​ยะโฮวา เขา​อาจ​คิด​ถึง​เต็นท์​ศักดิ์สิทธิ์​ซึ่ง​ตอน​นั้น​อยู่​ที่​เมือง​กิเบโอน และ​ดาวิด​ยัง​พูด​ถึง “ภูเขา​บริสุทธิ์” ของ​พระเจ้า​ด้วย ซึ่ง​เขา​อาจ​หมาย​ถึง​ภูเขา​ศิโยน​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม ภูเขา​นี้​อยู่​ทาง​ใต้​ของ​เมือง​กิเบโอน​และ​ห่าง​จาก​เมือง​นี้​เกือบ 10 กิโลเมตร ดาวิด​เอา​หีบ​ของ​พระ​ยะโฮวา​มา​ไว้​ใน​เต็นท์​ที่​เขา​เตรียม​ไว้​นี้ และ​หีบ​นั้น​ยัง​อยู่​ใน​เต็นท์​จน​ถึง​ตอน​ที่​วิหาร​สร้าง​เสร็จ—2 ซม. 6:17

3. ทำไม​เรา​อยาก​เข้าใจ​สดุดี​บท 15? (ดู​ภาพ​ด้วย)

3 ชาว​อิสราเอล​ส่วน​ใหญ่​ไม่​เคย​รับใช้​ใน​เต็นท์​ศักดิ์สิทธิ์ และ​มี​แค่​ไม่​กี่​คน​ที่​มี​โอกาส​ได้​เข้า​ไป​ใน​เต็นท์​ซึ่ง​เป็น​ที่​เก็บ​หีบ​ของ​พระ​ยะโฮวา ถึงอย่างนั้น​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทุก​คน​สามารถ​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระองค์​ได้​โดย​เป็น​เพื่อน​กับ​พระองค์​ต่อ ๆ ไป นี่​แหละ​คือ​สิ่ง​ที่​เรา​ทุก​คน​อยาก​เป็น สดุดี​บท 15 พูด​ถึง​บาง​อย่าง​ที่​เรา​ต้อง​ทำ​เพื่อ​จะ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระ​ยะโฮวา​ต่อ ๆ ไป

ชาว​อิสราเอล​ใน​สมัย​ดาวิด​นึก​ภาพ​ออก​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​การ​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​หมาย​ถึง​อะไร (ดู​ข้อ 3)


ไม่​มี​ตำหนิ​และ​ทำ​แต่​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง

4. เรา​รู้​ได้​ยังไง​ว่า​การ​รับ​บัพติศมา​ไม่​ใช่​สิ่ง​เดียว​ที่​พระ​ยะโฮวา​ต้องการ​จาก​เรา? (อิสยาห์ 48:1)

4 ที่​สดุดี 15:2 บอก​ให้​เรา​รู้​ว่า​เพื่อน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ต้อง​เป็น “คน​ที่​ไม่​มี​ตำหนิ ทำ​แต่​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง” นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​เรา​ต้อง​ทำ​อย่าง​ต่อ​เนื่อง แต่​เรา​จะ​เป็น “คน​ที่​ไม่​มี​ตำหนิ” ได้​ยังไง? แน่นอน​ว่า​เรา​ทุก​คน​เป็น​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ ถึงอย่างนั้น​พระ​ยะโฮวา​ก็​มอง​ว่า​เรา​เป็น “คน​ที่​ไม่​มี​ตำหนิ” ได้ ถ้า​เรา​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​เชื่อ​ฟัง​พระองค์ เมื่อ​เรา​อุทิศ​ตัว​ให้​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​รับ​บัพติศมา นั่น​เป็น​จุด​เริ่ม​ต้น​ที่​เรา​จะ​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ที่​พระองค์​พอ​ใจ จาก​ตัวอย่าง​ของ​ชาติ​อิสราเอล​ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล การ​ที่​พวก​เขา​เป็น​ชาว​อิสราเอล​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​พวก​เขา​มี​คุณสมบัติ​ที่​จะ​ได้​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​โดย​อัตโนมัติ ชาว​อิสราเอล​บาง​คน​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา แต่​ไม่​ได้​ทำ “ด้วย​ความ​จริง​ใจ​และ​ด้วย​ความ​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม” (อ่าน​อิสยาห์ 48:1) ดังนั้น เพื่อ​ที่​พวก​เขา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​อยาก​เป็น​แขก​ของ​พระองค์​จริง ๆ พวก​เขา​ต้อง​เรียน​รู้​ว่า​พระองค์​เรียก​ร้อง​อะไร​และ​ทำ​ตาม​นั้น คล้าย​กัน​เพื่อ​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​พอ​ใจ​เรา เรา​ต้อง​ไม่​ใช่​แค่​รับ​บัพติศมา​และ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เท่า​นั้น เรา​ต้อง “ทำ​แต่​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง” ต่อ ๆ ไป​ด้วย แล้ว​เรา​จะ​ทำ​แบบ​นั้น​ได้​ยังไง?

5. การ​เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา​ทุก​สิ่ง​หมาย​ถึง​อะไร?

5 สำหรับ​พระ​ยะโฮวา​แล้ว การ​เป็น “คน​ไม่​มี​ตำหนิ” และ “ทำ​แต่​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง” ไม่​ใช่​แค่​การ​ไป​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​เป็น​ประจำ​เท่า​นั้น (1 ซม. 15:22) แต่​เรา​ต้อง​พยายาม​เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา​ทุก​เรื่อง​ใน​ชีวิต​ของ​เรา และ​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​แม้​แต่​ตอน​ที่​เรา​อยู่​คน​เดียว (สภษ. 3:6; ปญจ. 12:13, 14) และ​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ที่​เรา​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​ใน​เรื่อง​เล็ก ๆ ด้วย ถ้า​เรา​ทำ​แบบ​นี้​ก็​แสดง​ว่า​เรา​รัก​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ และ​นี่​จะ​ทำ​ให้​พระองค์​รัก​เรา​มาก​ขึ้น—ยน. 14:23; 1 ยน. 5:3

6. อย่าง​ที่​บอก​ไว้​ใน​ฮีบรู 6:10-12 อะไร​สำคัญ​กว่า​สิ่ง​ดี ๆ ที่​เรา​เคย​ทำ​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา​ใน​อดีต?

6 พระ​ยะโฮวา​เห็น​ค่า​สิ่ง​ดี ๆ ที่​เรา​เคย​ทำ​เพื่อ​พระองค์​ใน​อดีต แต่​แค่​นั้น​ไม่​ได้​รับประกัน​ว่า​เรา​จะ​ได้​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไป​ตลอด เรา​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​อย่าง​ชัดเจน​ได้​จาก​ฮีบรู 6:10-12 (อ่าน) ก็​จริง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ลืม​สิ่ง​ดี ๆ ที่​เรา​เคย​ทำ​เพื่อ​พระองค์​แน่นอน แต่​พระองค์​ก็​อยาก​ให้​เรา​รับใช้​พระองค์​สุด​หัวใจ​ต่อ​ไป​จน​ถึง​ที่​สุด​ด้วย พระ​ยะโฮวา​จะ​ให้​รางวัล​กับ​เรา​โดย​ให้​เรา​ได้​เป็น​เพื่อน​กับ​พระองค์​ตลอด​ไป “ถ้า​เรา​ไม่​ท้อ​ใน​การ​ทำ​ดี”—กท. 6:9

พูด​ความ​จริง​จาก​ใจ

7. การ​พูด​ความ​จริง​จาก​ใจ​หมายความ​ว่า​ยังไง?

7 ถ้า​ใคร​อยาก​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา เขา​ต้อง “พูด​ความ​จริง​จาก​ใจ” (สด. 15:2) นี่​ไม่​ใช่​แค่​การ​ไม่​โกหก​เท่า​นั้น พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​ประพฤติ​ตัว​ซื่อสัตย์​ใน​ทุก​เรื่อง​ด้วย​ทั้ง​ทาง​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ (ฮบ. 13:18) นี่​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​มาก “เพราะ​พระ​ยะโฮวา​เกลียด​คน​เจ้า​เล่ห์ แต่​พระองค์​เป็น​เพื่อน​สนิท​กับ​คน​ซื่อ​ตรง”—สภษ. 3:32

8. เรา​ต้อง​ไม่​เป็น​คน​แบบ​ไหน?

8 คน​ที่ “พูด​ความ​จริง​จาก​ใจ” ไม่​ใช่​คน​ที่​แกล้ง​ทำ​เป็น​เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา​ตอน​ที่​คน​อื่น​เห็น แต่​กลับ​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​ดี​ตอน​ที่​อยู่​คน​เดียว (อสย. 29:13) คน​ที่ “พูด​ความ​จริง​จาก​ใจ” จะ​ไม่​เป็น​คน​เจ้า​เล่ห์ คน​เจ้า​เล่ห์​อาจ​เริ่ม​สงสัย​และ​คิด​ว่า​กฎ​ของ​พระ​ยะโฮวา​บาง​ข้อ​ใช้​ได้​จริง ๆ หรือ​เปล่า (ยก. 1:5-8) เขา​อาจ​เริ่ม​ไม่​เชื่อ​ฟัง​จาก​เรื่อง​เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน จาก​นั้น​ถ้า​เขา​เห็น​ว่า​ไม่​มี​ผล​เสีย​อะไร​ตาม​มา เขา​ก็​กล้า​ที่​จะ​ไม่​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​เรื่อง​ที่​ใหญ่​กว่า และ​แม้​เขา​จะ​คิด​ว่า​กำลัง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อยู่ แต่​พระองค์​ก็​จะ​ไม่​ยอม​รับ​การ​นมัสการ​ของ​เขา (ปญจ. 8:11) เรา​ไม่​อยาก​จะ​เป็น​คน​แบบ​นี้ เรา​อยาก​จะ​เป็น​คน​ที่​ซื่อสัตย์​ใน​ทุก​เรื่อง

9. เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​ตอน​ที่​พระ​เยซู​เจอ​นาธานาเอล​ครั้ง​แรก? (ดู​ภาพ​ด้วย)

9 เป็น​เรื่อง​สำคัญ​มาก​ที่​เรา​ต้อง​พูด​ความ​จริง​จาก​ใจ เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​จาก​ตอน​ที่​ฟีลิป​พา​เพื่อน​ของ​เขา​ที่​ชื่อ​นาธานาเอล​มา​หา​พระ​เยซู ถึง​แม้​พระ​เยซู​ไม่​เคย​เจอ​นาธานาเอล​มา​ก่อน แต่​พระ​เยซู​บอก​ว่า “นี่​ไง คน​อิสราเอล​แท้ ๆ ที่​ไม่​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​อะไร” (ยน. 1:47) แน่นอน​ว่า​พระ​เยซู​มอง​สาวก​คน​อื่น ๆ ว่า​ไม่​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​เหมือน​กัน แต่​พระ​เยซู​มอง​นาธานาเอล​พิเศษ​กว่า​คน​อื่น นาธานาเอล​ก็​เหมือน​กับ​เรา​ที่​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ แต่​เขา​ไม่​มี​เล่ห์​เหลี่ยม จริง​ใจ และ​ซื่อสัตย์​ใน​ทุก​เรื่อง พระ​เยซู​ชมเชย​นาธานาเอล​ที่​เป็น​แบบ​นั้น เรา​ก็​อยาก​ให้​พระ​เยซู​รู้สึก​แบบ​นั้น​กับ​เรา​ด้วย

ตอน​ที่​พระ​เยซู​เจอ​นาธานาเอล​ครั้ง​แรก ท่าน​บอก​ว่า “นี่​ไง คน​อิสราเอล​แท้ ๆ ที่​ไม่​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​อะไร” พระ​เยซู​จะ​บอก​ได้​ไหม​ว่า​เรา​ก็​เป็น​แบบ​นี้​เหมือน​กัน? (ดู​ข้อ 9)


10. ทำไม​เรา​ต้อง​ระวัง​คำ​พูด​ของ​เรา? (ยากอบ 1:26)

10 ข้อ​เรียก​ร้อง​ส่วน​ใหญ่​ใน​สดุดี​บท 15 เป็น​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​การ​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​อื่น สดุดี 15:3 บอก​ว่า​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ “ไม่​ใส่​ร้าย​คน​อื่น ไม่​ทำ​ชั่ว​ต่อ​เพื่อน​บ้าน และ​ไม่​ใส่​ร้าย​เพื่อน” ถ้า​เรา​พูด​ใส่​ร้าย​คน​อื่น มัน​จะ​ทำ​ให้​เขา​เจ็บ​ปวด​ใจ​มาก และ​เรา​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​อีก​ต่อ​ไป—อ่าน​ยากอบ 1:26

11. การ​ใส่​ร้าย​คน​อื่น​หมาย​ถึง​อะไร และ​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​คน​ที่​ใส่​ร้าย​คน​อื่น​และ​ไม่​กลับ​ใจ?

11 ใน​ข้อ​นี้​ผู้​เขียน​หนังสือ​สดุดี​พูด​ถึง​การ​ใส่​ร้าย​คน​อื่น การ​พูด​ใส่​ร้าย​คน​อื่น​หมาย​ถึง​อะไร? หมาย​ถึง​การ​พูด​โกหก​ที่​จงใจ​ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​อีก​คน​หนึ่ง ถ้า​มี​ใคร​ใส่​ร้าย​คน​อื่น​และ​ไม่​กลับ​ใจ เขา​จะ​ไม่​ได้​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อีก​ต่อ​ไป—ยรม. 17:10

12-13. มี​สถานการณ์​ไหน​บ้าง​ที่​เรา​อาจ​ใส่​ร้าย​เพื่อน​โดย​ไม่​ตั้งใจ? (ดู​ภาพ​ด้วย)

12 สดุดี 15:3 ยัง​เตือน​เรา​ด้วย​ว่า คน​ที่​เป็น​แขก​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ทำ​ชั่ว​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​และ​ไม่​ใส่​ร้าย​เพื่อน นี่​หมาย​ถึง​อะไร?

13 เรา​อาจ​ใส่​ร้าย​คน​อื่น​โดย​ไม่​ตั้งใจ​ด้วย​การ​พูด​ถึง​พี่​น้อง​ใน​แง่​ลบ​ให้​คน​อื่น​ฟัง เช่น ลอง​คิด​ถึง​สถานการณ์​ต่อ​ไป​นี้ (1) พี่​น้อง​หญิง​คน​หนึ่ง​ไม่​ได้​เป็น​ไพโอเนียร์​อีก​ต่อ​ไป (2) พี่​น้อง​สามี​ภรรยา​คู่​หนึ่ง​ไม่​ได้​รับใช้​ใน​เบเธล​อีก​ต่อ​ไป หรือ (3) พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​ไม่​ได้​เป็น​ผู้​ดู​แล​หรือ​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้​อีก​ต่อ​ไป มัน​เป็น​เรื่อง​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​เลย​ที่​เรา​จะ​คาด​เดา​ว่า​พี่​น้อง​ต้อง​ไป​ทำ​อะไร​ผิด​มา​ถึง​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​สามารถ​ทำ​งาน​รับใช้​ได้​อีก​ต่อ​ไป และ​ไม่​ถูก​ต้อง​ด้วย​ที่​เรา​จะ​เอา​เรื่อง​ที่​เรา​คิด​ไป​เล่า​ให้​คน​อื่น​ฟัง​ต่อ ที่​จริง​อาจ​มี​หลาย​อย่าง​ที่​เรา​ไม่​รู้​ว่า​ทำไม​พี่​น้อง​เหล่า​นั้น​ถึง​ต้อง​ปรับ​เปลี่ยน​งาน​รับใช้​ของ​พวก​เขา แต่​ไม่​ว่า​จะ​ยังไง คน​ที่​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ “ไม่​ทำ​ชั่ว​ต่อ​เพื่อน​บ้าน และ​ไม่​ใส่​ร้าย​เพื่อน”

เป็น​เรื่อง​ง่าย​ที่​จะ​พูด​ถึง​พี่​น้อง​คน​อื่น​ใน​แง่​ลบ และ​นี่​อาจ​กลาย​เป็น​การ​ใส่​ร้าย​ได้ (ดู​ข้อ 12-13)


ให้​เกียรติ​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา

14. การ “ไม่​คบหา​กับ​คน​ที่​น่า​รังเกียจ” หมาย​ถึง​อะไร?

14 สดุดี 15:4 บอก​ว่า​แขก​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ “ไม่​คบหา​กับ​คน​ที่​น่า​รังเกียจ” แล้ว​เรา​จะ​รู้​ได้​ยังไง​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ที่​น่า​รังเกียจ? เรา​ไม่​สามารถ​บอก​ได้​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ที่​น่า​รังเกียจ​โดย​อาศัย​ความ​คิด​หรือ​ความ​ชอบ​ของ​เรา​เอง เพราะ​อะไร? เพราะ​เรา​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ เรา​เลย​อาจ​ชอบ​อยู่​กับ​คน​ที่​คิด​ว่า​เข้า​กัน​ได้​ง่าย แล้ว​ก็​ไม่​ชอบ​คน​ที่​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​รำคาญ ดังนั้น ถ้า​พระ​ยะโฮวา​บอก​ว่า ใคร​เป็น “คน​ที่​น่า​รังเกียจ” เรา​ถึง​จะ​ไม่​คบ​กับ​คน​แบบ​นั้น (1 คร. 5:11) คน​ที่​น่า​รังเกียจ​ก็​คือ​คน​ที่​ทำ​ชั่ว​แล้ว​ไม่​กลับ​ใจ คน​ที่​ไม่​แสดง​ความ​นับถือ​ต่อ​ความ​เชื่อ​ของ​เรา หรือ​คน​ที่​พยายาม​ทำ​ให้​เรา​ไม่​สนิท​กับ​พระ​ยะโฮวา—สภษ. 13:20

15. อะไร​เป็น​วิธี​หนึ่ง​ที่​เรา​จะ​ให้​เกียรติ “คน​ที่​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา”?

15 ใน​ทาง​กลับ​กัน สดุดี 15:4 บอก​ให้​เรา​ให้​เกียรติ “คน​ที่​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา” เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​โดย​พยายาม​หา​วิธี​ทำ​ดี​และ​แสดง​ความ​นับถือ​ต่อ​เพื่อน​ของ​พระ​ยะโฮวา (รม. 12:10) วิธี​หนึ่ง​ที่​เรา​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​อยู่​ใน​สดุดี 15:4 ซึ่ง​บอก​ว่า​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ “ไม่​ผิด​สัญญา​แม้​จะ​ต้อง​เสีย​ผล​ประโยชน์” ถ้า​เรา​ทำ​ผิด​สัญญา​คน​อื่น​จะ​เสียใจ​แน่ ๆ (มธ. 5:37) ตัวอย่าง​เช่น พระ​ยะโฮวา​คาด​หมาย​ให้​สามี​ภรรยา​ทำ​ตาม​คำ​ปฏิญาณ​ที่​ให้​ไว้​ตอน​ที่​พวก​เขา​แต่งงาน​กัน นอกจากนั้น พระ​ยะโฮวา​จะ​ดีใจ​ด้วย​ที่​พ่อ​แม่​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​รักษา​สัญญา​ที่​ให้​ไว้​กับ​ลูก ๆ และ​ความ​รัก​ที่​เรา​มี​ต่อ​พระเจ้า​และ​คน​อื่น​จะ​กระตุ้น​ให้​เรา​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​จะ​รักษา​สัญญา

16. อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​เรา​จะ​ให้​เกียรติ​เพื่อน​ของ​พระ​ยะโฮวา​คือ​อะไร?

16 อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​เรา​จะ​ให้​เกียรติ​เพื่อน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก็​คือ​โดย​การ​มี​น้ำใจ​ต้อนรับ​แขก​และ​ใจ​กว้าง (รม. 12:13) เมื่อ​เรา​ใช้​เวลา​กับ​พี่​น้อง เรา​ก็​จะ​สนิท​กัน​มาก​ขึ้น​และ​สนิท​กับ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย ที่​สำคัญ เมื่อ​เรา​มี​น้ำใจ​ต้อนรับ​แขก เรา​ก็​กำลัง​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา

ไม่​เป็น​คน​รัก​เงิน

17. ทำไม​สดุดี​บท 15 ถึง​ยก​เรื่อง​เงิน​ขึ้น​มา​พูด?

17 นอกจากนั้น แขก​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ “ให้​ยืม​เงิน​โดย​ไม่​คิด​ดอกเบี้ย เขา​ไม่​รับ​สินบน​เพื่อ​ใส่​ร้าย​คน​บริสุทธิ์” (สด. 15:5) ทั้ง​ที่​สดุดี​บท 15 เป็น​บท​สั้น ๆ แต่​ทำไม​ถึง​พูด​เรื่อง​เงิน? ก็​เพราะ​ว่า​ถ้า​เรา​รัก​เงิน เรา​ก็​อาจ​ทำ​ให้​คน​อื่น​เสียใจ​และ​เรา​อาจ​ทำลาย​ความ​สัมพันธ์​ที่​เรา​มี​กับ​พระเจ้า (1 ทธ. 6:10) ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล บาง​คน​เอา​เปรียบ​คน​จน​โดย​ให้​ยืม​เงิน​และ​คิด​ดอกเบี้ย นอกจากนั้น ผู้​พิพากษา​บาง​คน​ยัง​รับ​สินบน​แล้ว​ก็​พิพากษา​คน​บริสุทธิ์​อย่าง​ไม่​ยุติธรรม การ​กระทำ​เหล่า​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​เกลียด—อสค. 22:12

18. มี​คำ​ถาม​อะไร​บ้าง​ที่​จะ​ช่วย​ให้​เรา​ตรวจ​สอบ​ตัว​เอง​ว่า​เรา​คิด​ยังไง​ใน​เรื่อง​เงิน? (ฮีบรู 13:5)

18 คง​จะ​ดี​ถ้า​เรา​ตรวจ​สอบ​ตัว​เอง​ว่า​เรา​คิด​ยังไง​ใน​เรื่อง​เงิน ลอง​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ฉัน​มัก​จะ​คิด​แต่​เรื่อง​เงิน​และ​สนใจ​แต่​ของ​ที่​อยาก​ซื้อ​ไหม? ถ้า​ฉัน​ยืม​เงิน ฉัน​รีบ​คืน​ไหม​หรือ​ฉัน​คิด​ว่า​คน​นั้น​คง​ไม่​ต้อง​รีบ​ใช้​เงิน​หรอก? การ​มี​เงิน​ทำ​ให้​ฉัน​รู้สึก​เป็น​คน​สำคัญ​ไหม​และ​มัน​ทำ​ให้​ฉัน​เป็น​คน​ขี้​เหนียว​ไหม? ฉัน​คิด​ว่า​คน​มี​เงิน​เป็น​คน​นิยม​วัตถุ​ไหม? ฉัน​ชอบ​คบ​แต่​กับ​คน​รวย​และ​ไม่​ค่อย​สนใจ​คน​จน​ไหม?’ เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ที่​เรา​จะ​ถาม​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​เพราะ​เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เป็น​แขก​ของ​พระ​ยะโฮวา​แล้ว เรา​เลย​พยายาม​จะ​รักษา​สิทธิ​พิเศษ​นี้​โดย​ไม่​เป็น​คน​รัก​เงิน ถ้า​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ทิ้ง​เรา​เลย—อ่าน​ฮีบรู 13:5

พระ​ยะโฮวา​รัก​เพื่อน​ของ​พระองค์

19. ทำไม​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​ทำ​ทุก​อย่าง​ที่​บอก​ไว้​ใน​สดุดี​บท  15?

19 สดุดี​บท 15 ลง​ท้าย​ด้วย​คำ​สัญญา​ที่​บอก​ว่า “คน​ที่​ทำ​อย่าง​นี้​จะ​ไม่​หวั่นไหว​เลย” (สด. 15:5) ใน​ข้อ​นี้​ผู้​เขียน​หนังสือ​สดุดี​ช่วย​ให้​เรา​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ถึง​อยาก​ให้​เรา​ทำ​ทุก​อย่าง​ที่​บอก​ไว้​ใน​สดุดี​บท​นี้ นั่น​เป็น​เพราะ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​มี​ความ​สุข พระองค์​เลย​ให้​คำ​แนะ​นำ​ต่าง ๆ ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​เรา​ได้​พร​และ​ได้​รับ​การ​ปก​ป้อง​จาก​พระองค์—อสย. 48:17

20. แขก​ของ​พระ​ยะโฮวา​มั่น​ใจ​ได้​ใน​เรื่อง​อะไร?

20 แขก​ของ​พระ​ยะโฮวา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พวก​เขา​จะ​มี​อนาคต​ที่​สดใส ผู้​ถูก​เจิม​ที่​ซื่อสัตย์​จะ​ได้​อยู่​ใน “ที่​มาก​มาย” ที่​พระ​เยซู​เตรียม​ไว้​ให้​พวก​เขา​ใน​สวรรค์ (ยน. 14:2) ส่วน​คน​ที่​มี​ความ​หวัง​บน​โลก​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​คำ​สัญญา​ที่​วิวรณ์ 21:3 จะ​เกิด​ขึ้น​จริง​แน่นอน พวก​เรา​ทุก​คน​รู้สึก​เป็น​เกียรติ​จริง ๆ ที่​ได้​รับ​คำ​เชิญ​จาก​พระ​ยะโฮวา​ให้​มา​เป็น​เพื่อน​กับ​พระองค์​และ​เป็น​แขก​ใน​เต็นท์​ของ​พระองค์​ตลอด​ไป

เพลง 135 พระ​ยะโฮวา​พูด​อย่าง​อบอุ่น​ว่า “ลูก​ของ​เรา ขอ​ให้​ฉลาด​ขึ้น”