คัมภีร์ไบเบิลเปลี่ยนชีวิตคน

คัมภีร์ไบเบิลเปลี่ยนชีวิตคน

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​คน

อะไร​กระตุ้น​ให้​ชาย​คน​หนึ่ง​หวน​กลับ​ไป​หา​ศาสนา​ที่​เขา​เคย​หัน​หลัง​ให้​ตอน​เป็น​วัยรุ่น? ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ได้​พบ​กับ​พ่อ​ที่​เขา​โหย​หา​มา​ตลอด​ชีวิต​ได้​อย่าง​ไร? เชิญ​อ่าน​เรื่อง​ที่​พวก​เขา​จะ​เล่า​ต่อ​ไป​นี้.

“ผม​ต้อง​กลับ​ไป​หา​พระ​ยะโฮวา.”​—อีลี คาลิล

ปี​เกิด: 1976

ประเทศ​บ้าน​เกิด: ไซปรัส

อดีต: ลูก​ไม่​รัก​ดี

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา: ผม​เกิด​ที่​ไซปรัส​แต่​ไป​โต​ขึ้น​ใน​ออสเตรเลีย. พ่อ​แม่​ของ​ผม​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​และ​ท่าน​พยายาม​พร่ำ​สอน​ผม​ให้​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระองค์. แต่​พอ​เป็น​วัยรุ่น ผม​ก็​เริ่ม​ดื้อ​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พ่อ​แม่. ตอน​กลางคืน​ผม​ชอบ​แอบ​ออก​ไป​หา​เพื่อน​นอก​บ้าน. เรา​ขโมย​รถยนต์​และ​ก่อ​เรื่อง​สารพัด.

ตอน​แรก​ผม​พยายาม​ปิด​บัง​ไม่​ให้​พ่อ​แม่​รู้​เพราะ​กลัว​ว่า​ท่าน​จะ​เสียใจ. แต่​ต่อ​มา​ความ​กลัว​ก็​ค่อย ๆ หมด​ไป. ผม​เริ่ม​คบ​กับ​เพื่อน​ที่​อายุ​แก่​กว่า​ผม​หลาย​ปี​และ​พวก​เขา​ชักจูง​ผม​ไป​ใน​ทาง​ที่​ผิด. ใน​ที่​สุด ผม​บอก​พ่อ​แม่​ว่า​ผม​ไม่​อยาก​นับถือ​ศาสนา​เดียว​กับ​ท่าน​อีก​ต่อ​ไป​แล้ว. พวก​ท่าน​พยายาม​ช่วย​ผม​โดย​ไม่​ย่อท้อ แต่​ผม​ปฏิเสธ​ความ​ช่วยเหลือ​ทุก​อย่าง. พ่อ​แม่​ของ​ผม​เสียใจ​มาก.

หลัง​จาก​ย้าย​ออก​มา​อยู่​ตาม​ลำพัง ผม​เริ่ม​ลอง​เสพ​ยา. ผม​ถึง​กับ​ปลูก​กัญชา​และ​ขาย​ได้​มาก​ที​เดียว. ผม​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ผิด​ศีลธรรม​และ​ใช้​เวลา​ส่วน​ใหญ่​ไป​กับ​การ​สังสรรค์​เฮฮา​ตาม​ผับ​ตาม​บาร์. นอก​จาก​นี้ ผม​กลาย​เป็น​คน​เลือด​ร้อน. ถ้า​มี​ใคร​ทำ​อะไร​ขวาง​หู​ขวาง​ตา ผม​จะ​ระเบิด​อารมณ์​ออก​มา​ทันที. ผม​จะ​ตะโกน​ด่า​และ​เข้า​ไป​ชก​พวก​เขา. พูด​ง่าย ๆ ก็​คือ ผม​ทำ​ทุก​อย่าง​ที่​พ่อ​แม่​เคย​สอน​ว่า​คริสเตียน​ไม่​ควร​ทำ.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ผม​อย่าง​ไร: ผม​เริ่ม​สนิท​กับ​เพื่อน​คน​หนึ่ง​ที่​ติด​ยา. พ่อ​ของ​เขา​ตาย​ไป​ตั้ง​แต่​เขา​ยัง​เล็ก​มาก. เรา​มัก​จะ​คุย​กัน​จน​ดึกดื่น. คืน​วัน​หนึ่ง​เขา​ระบาย​ความ​รู้สึก​ของ​เขา​ออก​มา​และ​บอก​ว่า​เขา​คิด​ถึง​พ่อ​เหลือ​เกิน. เนื่อง​จาก​ตอน​เป็น​เด็ก​ผม​เคย​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​หวัง​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย ผม​จึง​บอก​เขา​ว่า​พระ​เยซู​เคย​ปลุก​คน​ตาย​ให้​ฟื้น และ​พระองค์​ทรง​สัญญา​ว่า​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​อีก​ใน​อนาคต. (โยฮัน 5:28, 29) ผม​บอก​เขา​ว่า “คิด​ดู​สิ นาย​จะ​ได้​เจอ​พ่อ​อีก​ครั้ง​แน่ ๆ. เรา​ทุก​คน​จะ​ได้​อยู่​ใน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน​ตลอด​ไป.” เพื่อน​ของ​ผม​ประทับใจ​มาก​เมื่อ​ได้​รู้​เช่น​นั้น.

บาง​ครั้ง เขา​ก็​ยก​เรื่อง​อื่น ๆ ขึ้น​มา​พูด เช่น เรื่อง​สมัย​สุด​ท้าย​หรือ​คำ​สอน​เกี่ยว​กับ​ตรีเอกานุภาพ. ผม​จะ​คว้า​คัมภีร์​ไบเบิล​ของ​เขา​มา​เปิด​ให้​ดู​ข้อ​คัมภีร์​หลาย​ข้อ​ที่​บอก​ให้​รู้​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า พระ​เยซู และ​สมัย​สุด​ท้าย. (โยฮัน 14:28; 2 ติโมเธียว 3:1-5) ยิ่ง​ผม​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ให้​เพื่อน​ฟัง​มาก​เท่า​ไร ผม​ก็​ยิ่ง​คิด​ถึง​พระองค์​มาก​เท่า​นั้น.

ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย เมล็ด​แห่ง​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​พ่อ​แม่​พยายาม​เพาะ​ไว้​ใน​ใจ​ผม​ก็​เริ่ม​งอกงาม​ขึ้น​หลัง​จาก​ที่​ดู​เหมือน​ไม่​มี​ที​ท่า​ว่า​จะ​เติบโต​ได้. ตัว​อย่าง​เช่น บาง​ครั้ง​ระหว่าง​ที่​กำลัง​เสพ​ยา​กับ​เพื่อน ๆ ใน​งาน​ปาร์ตี จู่ ๆ ผม​ก็​คิด​ถึง​พระ​ยะโฮวา. เพื่อน​ของ​ผม​หลาย​คน​อ้าง​ว่า​รัก​พระเจ้า​แต่​การ​ประพฤติ​ของ​พวก​เขา​ไม่​ได้​เป็น​อย่าง​ที่​พูด. ผม​ไม่​อยาก​เป็น​เหมือน​เพื่อน​เหล่า​นี้ และ​ผม​ก็​รู้​ว่า​ผม​ต้อง​ทำ​อะไร. ผม​ต้อง​กลับ​ไป​หา​พระ​ยะโฮวา.

แม้​จะ​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อะไร แต่​การ​ลง​มือ​ทำ​จริง ๆ ก็​ไม่​ง่าย​อย่าง​ที่​คิด. นิสัย​บาง​อย่าง​เปลี่ยน​ได้​ง่าย เช่น ผม​เลิก​เสพ​ยา​ได้​โดย​ไม่​ยาก​นัก. นอก​จาก​นั้น ผม​ยัง​เลิก​คบ​เพื่อน​เก่า ๆ และ​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​คน​หนึ่ง.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม มี​บาง​อย่าง​ที่​เลิก​ได้​ยาก​กว่า​มาก. การ​ควบคุม​อารมณ์​ไม่​ให้​โกรธ​ง่าย​เป็น​เรื่อง​ยาก​จริง ๆ. บาง​ครั้ง​ผม​ควบคุม​ตัว​เอง​ได้​ดี แต่​แล้ว​ก็​ระเบิด​อารมณ์​ออก​มา​จน​ได้. หลัง​จาก​นั้น​ผม​จะ​รู้สึก​แย่​มาก​เพราะ​คิด​ว่า​ผม​คง​ไม่​มี​ทาง​เอา​ชนะ​นิสัย​นี้​ได้. ด้วย​ความ​ท้อ​แท้​ใจ ผม​จึง​คุย​กับ​ผู้​ปกครอง​ที่​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ผม. เขา​อด​ทน​และ​กรุณา​ต่อ​ผม​มาก อีก​ทั้ง​ยัง​คอย​ให้​กำลังใจ​ผม​เสมอ. ครั้ง​หนึ่ง เขา​ให้​ผม​อ่าน​บทความ​ใน​หอสังเกตการณ์​เกี่ยว​กับ​ความ​สำคัญ​ของ​การ​ไม่​ท้อ​ถอย​เลิก​รา. a เรา​คุย​กัน​ว่า​มี​ขั้น​ตอน​อะไร​บ้าง​ที่​ผม​ควร​ทำ​เมื่อ​เริ่ม​อารมณ์​เสีย. เนื่อง​จาก​ผม​นึก​ถึง​บทความ​นั้น​เสมอ​และ​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​บ่อย ๆ ผม​จึง​ค่อย ๆ ควบคุม​อารมณ์​ได้​ดี​ขึ้น. ใน​ที่​สุด ผม​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เดือน​เมษายน 2000. คง​ไม่​ต้อง​บอก​ว่า​พ่อ​แม่​ของ​ผม​จะ​ดีใจ​สัก​แค่​ไหน.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ: ตอน​นี้​ผม​สบาย​ใจ​และ​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด เพราะ​รู้​ว่า​ผม​ไม่​ได้​ทำ​ให้​ร่าง​กาย​เป็น​มลทิน​ด้วย​ยา​เสพ​ติด​และ​การ​ผิด​ศีลธรรม​อีก​ต่อ​ไป​แล้ว. ไม่​ว่า​ผม​จะ​ทำ​งาน ไป​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน พักผ่อน​หย่อนใจ​กับ​เพื่อน ๆ หรือ​ทำ​อะไร​ก็​ตาม ผม​มี​ความ​สุข​กว่า​เมื่อ​ก่อน​มาก. ผม​มอง​ชีวิต​ใน​แง่​บวก​และ​มี​ความ​หวัง.

ผม​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ที่​พ่อ​แม่​ไม่​เคย​ทอดทิ้ง​ผม. นอก​จาก​นั้น ผม​นึก​ถึง​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ใน​โยฮัน 6:44 ที่​ว่า “ไม่​มี​ใคร​จะ​มา​หา​เรา​ได้​เว้น​แต่​พระ​บิดา​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา​จะ​ชัก​นำ​เขา.” ผม​ตื้นตัน​ใจ​จริง ๆ เมื่อ​คิด​ว่า​ที่​ผม​สามารถ​กลับ​มา​หา​พระ​ยะโฮวา​ได้​ก็​เพราะ​พระองค์​ทรง​พา​ผม​กลับ​มา.

“ผม​อยาก​มี​พ่อ​เหลือ​เกิน.”​—มาร์โก อันโตนโย อัลวาเรซ โซโต

ปี​เกิด: 1977

ประเทศ​บ้าน​เกิด: ชิลี

อดีต: สมาชิก​วง​ดนตรี​เดทเมทัล

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา: ผม​อยู่​กับ​แม่​สอง​คน​ที่​ปุนตาอาเรนัส เมือง​ที่​สวย​งาม​น่า​อยู่​ใน​ช่องแคบ​แมกเจลแลน​เกือบ​สุด​ทวีป​อเมริกา​ใต้. พ่อ​แม่​ของ​ผม​แยก​ทาง​กัน​ตั้ง​แต่​ผม​อายุ​ห้า​ขวบ ผม​จึง​รู้สึก​เหมือน​ถูก​ทอดทิ้ง. ผม​อยาก​มี​พ่อ​เหลือ​เกิน.

แม่​ของ​ผม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​มัก​จะ​พา​ผม​ไป​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร. แต่​ผม​เกลียด​มาก​ที่​ต้อง​ไป​ประชุม และ​ผม​มัก​จะ​อาละวาด​ไป​ตลอด​ทาง. พอ​อายุ 13 ปี​ผม​ก็​ไม่​ยอม​ไป​หอ​ประชุม​อีก​เลย.

ช่วง​นั้น​ผม​เริ่ม​หลงใหล​ดนตรี​และ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​มี​พรสวรรค์​ด้าน​นี้. พอ​อายุ 15 ปี ผม​ก็​ไป​เล่น​ดนตรี​เฮฟวีเมทัล​และ​เดทเมทัล​ใน​งาน​เทศกาล​ต่าง ๆ ตาม​ผับ​ตาม​บาร์ และ​ใน​งาน​เลี้ยง​ที่​มี​คน​จ้าง​ไป​แสดง. ผม​คบหา​กับ​นัก​ดนตรี​เก่ง ๆ หลาย​คน​ซึ่ง​จุด​ประกาย​ให้​ผม​สนใจ​ดนตรี​คลาสสิก. ผม​เข้า​เรียน​ใน​สถาบัน​สอน​ดนตรี​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เมือง​นั้น. เมื่อ​อายุ 20 ปี ผม​ย้าย​ไป​เรียน​ต่อ​ที่​ซันติอาโก​ซึ่ง​เป็น​เมือง​หลวง. ผม​ยัง​เล่น​ดนตรี​ให้​กับ​วง​เฮฟวีเมทัล​และ​เดทเมทัล​อยู่.

ตลอด​หลาย​ปี​นั้น ผม​ต้อง​ต่อ​สู้​กับ​ความ​รู้สึก​ว่าง​เปล่า. ผม​พยายาม​คลาย​ทุกข์​ใน​ใจ​ด้วย​การ​ดื่ม​เหล้า​และ​เสพ​ยา​กับ​เพื่อน ๆ ใน​วง​ดนตรี​ที่​ผม​ถือ​ว่า​เป็น​ครอบครัว​ของ​ผม. ผม​มี​ความ​คิด​แบบ​ขวาง​โลก​ซึ่ง​เห็น​ได้​จาก​การ​แต่ง​กาย​ของ​ผม. ผม​ชอบ​สวม​เสื้อ​ผ้า​สี​ดำ ไว้​หนวด​ไว้​เครา​และ​ไว้​ผม​ยาว​จน​เกือบ​ถึง​เอว.

เนื่อง​จาก​ผม​เป็น​คน​แบบ​นี้ ผม​จึง​มี​เรื่อง​ชก​ต่อย​และ​สร้าง​ปัญหา​ให้​กับ​ตำรวจ​เป็น​ประจำ. วัน​หนึ่ง​ผม​เมา​ไม่​ได้​สติ​และ​ไป​ทำ​ร้าย​พวก​คน​ค้า​ยา​ที่​มา​หา​เรื่อง​ผม​กับ​เพื่อน ๆ. คน​เหล่า​นั้น​รุม​ตี​ผม​จน​ปาง​ตาย​และ​ผม​ถึง​กับ​กราม​หัก.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม คน​ที่​ทำ​ให้​ผม​เจ็บ​ปวด​ที่​สุด​กลับ​เป็น​คน​ที่​ใกล้​ชิด​ผม​ที่​สุด. วัน​หนึ่ง​ผม​จับ​ได้​ว่า​คน​รัก​ของ​ผม​แอบ​นอก​ใจ​ผม. เธอ​กับ​เพื่อน​รัก​ของ​ผม​ลักลอบ​มี​ความ​สัมพันธ์​กัน​มา​นาน​หลาย​ปี​แล้ว แต่​เพื่อน​ทุก​คน​พา​กัน​ปิด​ปาก​เงียบ. ผม​เจ็บ​ปวด​และ​แค้น​ใจ​มาก.

ผม​ย้าย​กลับ​ไป​อยู่​ที่​ปุนตาอาเรนัส. ผม​ทำ​งาน​เป็น​ครู​สอน​ดนตรี​และ​เป็น​นัก​เล่น​เชลโล. ผม​ยัง​คง​เล่น​ดนตรี​และ​บันทึก​เสียง​ร่วม​กับ​วง​เฮฟวีเมทัล​และ​เดทเมทัล. ผม​พบ​สาว​สวย​น่า​รัก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ซูซาน และ​เรา​ก็​เริ่ม​ใช้​ชีวิต​ร่วม​กัน. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ซูซาน​สังเกต​ว่า​แม่​ของ​เธอ​เชื่อ​คำ​สอน​เรื่อง​ตรีเอกานุภาพ​แต่​ผม​ไม่​เชื่อ. เธอ​จึง​ถาม​ผม​ว่า “แล้ว​ความ​จริง​คือ​อะไร​ล่ะ?” ผม​ตอบ​เธอ​ว่า ผม​รู้​ว่า​ตรีเอกานุภาพ​เป็น​คำ​สอน​ที่​ผิด แต่​ผม​ไม่​สามารถ​ให้​ข้อ​พิสูจน์​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​รู้​ว่า​ใคร​จะ​ตอบ​ได้. ผม​บอก​ซูซาน​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สามารถ​บอก​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้. แล้ว​ผม​ก็​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​เคย​ทำ​มา​นาน​หลาย​ปี ผม​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​และ​ขอ​ให้​พระองค์​ช่วย​ผม.

ไม่​กี่​วัน​ต่อ​มา ผม​เห็น​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ผม​คิด​ว่า​น่า​จะ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา ผม​จึง​เข้า​ไป​ถาม​ให้​แน่​ใจ. แม้​จะ​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​เขา​รู้สึก​ตื่น​ตกใจ​เพราะ​การ​แต่ง​กาย​ของ​ผม แต่​เมื่อ​ผม​ถาม​เรื่อง​การ​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​เขา​ก็​บอก​ผม​ด้วย​สี​หน้า​ยิ้ม​แย้ม. ผม​มั่น​ใจ​ว่า​พระเจ้า​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ผม​แล้ว. ผม​ไป​ที่​หอ​ประชุม​และ​นั่ง​แถว​หลัง​สุด​เพื่อ​ไม่​ให้​เป็น​จุด​สนใจ. แต่​แล้ว​ก็​เริ่ม​มี​หลาย​คน​จำ​ได้​ว่า​ผม​เคย​มา​ร่วม​ประชุม​ที่​นี่​ตอน​เป็น​เด็ก. พวก​เขา​ต้อนรับ​ผม​อย่าง​อบอุ่น​และ​กอด​ผม​แน่น​ทำ​ให้​ผม​ตื้นตัน​ใจ​มาก. ผม​รู้สึก​เหมือน​ได้​กลับ​บ้าน. เมื่อ​ผม​เห็น​พี่​น้อง​ชาย​ที่​เคย​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ผม​สมัย​ที่​เป็น​เด็ก ผม​ก็​เข้า​ไป​ขอ​ให้​เขา​สอน​พระ​คัมภีร์​ให้​ผม​อีก​ครั้ง.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ผม​อย่าง​ไร: วัน​หนึ่ง​ผม​อ่าน​สุภาษิต 27:11 (ฉบับ R​73) ที่​บอก​ว่า “บุตร​ชาย​ของ​เรา​เอ๋ย จง​ฉลาด​และ​กระทำ​ใจ​ของ​เรา​ให้​ยินดี.” ผม​รู้สึก​ประทับใจ​เมื่อ​คิด​ว่า​มนุษย์​ที่​ต่ำต้อย​สามารถ​ทำ​ให้​พระ​ผู้​สร้าง​เอกภพ​มี​ความ​ยินดี​ได้. แล้ว​ผม​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ทันที​ว่า​พระ​ยะโฮวา​นี่​แหละ​คือ​พ่อ​ที่​ผม​โหย​หา​มา​ตลอด​ชีวิต!

ผม​อยาก​ทำ​ให้​พระ​บิดา​ใน​สวรรค์​พอ​พระทัย​และ​อยาก​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์ แต่​ผม​เป็น​ทาส​สุรา​และ​ยา​เสพ​ติด​มา​นาน​หลาย​ปี. ผม​เริ่ม​เข้าใจ​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู​ใน​มัดธาย 6:24 ที่​ว่า “ไม่​มี​ใคร​เป็น​ทาส​ของ​นาย​สอง​คน​ได้.” ใน​ช่วง​ที่​ผม​พยายาม​อย่าง​หนัก​เพื่อ​จะ​เปลี่ยน​แปลง​ชีวิต ผม​พบ​ว่า​หลักการ​ใน 1 โครินท์ 15:33 ที่​บอก​ว่า “การ​คบหา​ที่​ไม่​ดี​ย่อม​ทำ​ให้​นิสัย​ดี​เสีย​ไป” ตรง​กับ​ปัญหา​ของ​ผม​พอ​ดี. ผม​รู้​ว่า​ผม​ไม่​มี​ทาง​เลิก​นิสัย​ที่​ไม่​ดี​เหล่า​นั้น​ได้​ถ้า​ผม​ยัง​ไป​เที่ยว​ที่​เดิม​และ​คบ​กับ​เพื่อน​กลุ่ม​เดิม. คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​คำ​แนะ​นำ​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ผม​ต้อง​ใช้​มาตรการ​ขั้น​เด็ดขาด​กับ​ตัว​เอง​จึง​จะ​สามารถ​ตัด​ขาด​จาก​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​หลง​ผิด​ได้.—มัดธาย 5:30

ความ​รัก​ที่​ผม​มี​ต่อ​ดนตรี​ทำ​ให้​การ​ตัดใจ​จาก​ดนตรี​เฮฟวีเมทัล​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​สุด​สำหรับ​ผม. แต่​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​เพื่อน​คริสเตียน​ใน​ประชาคม ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​ทิ้ง​มัน​ได้. ผม​เลิก​นิสัย​ดื่ม​จัด​และ​เลิก​เสพ​ยา นอก​จาก​นั้น​ยัง​ตัด​ผม​สั้น โกน​หนวด​โกน​เครา และ​เลิก​ใส่​เสื้อ​ผ้า​สี​ดำ. เมื่อ​ผม​บอก​ซูซาน​ว่า​ผม​อยาก​ตัด​ผม เธอ​ก็​อยาก​รู้​ขึ้น​มา​ว่า​อะไร​ทำ​ให้​ผม​เปลี่ยน​ไป​มาก​ขนาด​นี้. เธอ​พูด​ว่า “ฉัน​จะ​ไป​ดู​ให้​เห็น​กับ​ตา​ว่า​ที่​หอ​ประชุม​มี​อะไร​ดี!” เมื่อ​ไป​ที่​นั่น เธอ​ประทับใจ​มาก​และ​ไม่​นาน​เธอ​ก็​ขอ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. ใน​ที่​สุด ผม​กับ​ซูซาน​ก็​แต่งงาน​กัน. ใน​ปี 2008 เรา​ทั้ง​คู่​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ผม​กับ​ภรรยา​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ร่วม​กับ​แม่​ของ​ผม.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ: ผม​ได้​หนี​ออก​มา​จาก​โลก​แห่ง​ความ​สุข​จอม​ปลอม​และ​เพื่อน​ที่​ทรยศ​หัก​หลัง. ผม​ยัง​รัก​ดนตรี​อยู่ แต่​เดี๋ยว​นี้​ผม​เลือก​เฉพาะ​ดนตรี​ที่​ดี ๆ. ผม​ใช้​ประสบการณ์​ของ​ตัว​เอง​ให้​เป็น​ประโยชน์​กับ​ครอบครัว​และ​คน​อื่น ๆ โดย​เฉพาะ​กับ​เด็ก​หนุ่ม​สาว. ผม​อยาก​ช่วย​พวก​เขา​ให้​มอง​เห็น​ว่า​แม้​สิ่ง​ที่​โลก​เสนอ​ให้​อาจ​ดู​น่า​หลงใหล แต่​สุด​ท้าย​กลับ​ไร้​ค่า “เหมือน​เศษ​ขยะ.”—ฟิลิปปอย 3:8

ผม​ได้​พบ​เพื่อน​แท้​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​รัก​และ​ความ​สงบ​สุข. สิ่ง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ที่​สุด​คือ เมื่อ​ผม​เข้า​มา​ใกล้​ชิด​พระ​ยะโฮวา​ผม​ก็​ได้​พบ​พ่อ​ที่​โหย​หา​มา​นาน.

[เชิงอรรถ]

a บทความ​เรื่อง “ความ​สำเร็จ​เนื่อง​จาก​ความ​พากเพียร” อยู่​ใน​ฉบับ 1 กุมภาพันธ์ 2000 หน้า 4-6.

[คำ​โปรย​หน้า 13]

“ผม​สามารถ​กลับ​มา​หา​พระ​ยะโฮวา​ได้​ก็​เพราะ​พระองค์​ทรง​พา​ผม​กลับ​มา”