18 เมษายน 2018
คาซัคสถาน
เตมูร์ อามีดอฟได้รับการปล่อยตัวจากการอภัยโทษของประธานาธิบดี
วันที่ 2 เมษายน 2018 ประธานาธิบดีนูร์ซุลตัน นาซาร์บายิฟ ของคาซัคสถานได้อภัยโทษให้เตมูร์ อามีดอฟวัย 61 ปี ที่ถูกจำคุกมานานกว่า 1 ปีเพราะถูกตั้งข้อหาเท็จ และการอภัยโทษครั้งนี้ได้ลบประวัติอาชญากรรมของเขาด้วย นายอามีดอฟรู้ข่าวเรื่องการอภัยโทษในวันที่ 4 เมษายนและได้รับการปล่อยตัวระหว่างพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลหลังจากการผ่าตัด ตอนนี้เขากลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว ซึ่งทำให้ง่ายขึ้นที่เขาจะได้รับการรักษาเพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็ง
จับกุม คุมขัง และจำคุกอย่างไม่ยุติธรรม
นายอามีดอฟซึ่งเป็นพยานพระยะโฮวาถูกจับและถูกจำคุกเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2017 เพียงเพราะพูดเรื่องความเชื่อของเขากับคนอื่น ๆ หลายเดือนก่อนถูกจับ เขาคุยเรื่องคัมภีร์ไบเบิลกับผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่ทำเป็นสนใจความเชื่อของพยานพระยะโฮวา ผู้ชายกลุ่มนี้ร่วมมือกับตำรวจลับจากคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของคาซัคสถาน (KNB) แอบบันทึกการสนทนาไว้ และ KNB ใช้บันทึกดังกล่าวเป็นหลักฐานในการจับกุมนายอามีดอฟและตั้งข้อหา “ยุยงให้เกิดความแตกแยกทางศาสนา” และ “อ้างว่าศาสนาของตัวเองเหนือกว่าของคนอื่น” ตามมาตรา 174(2) ในประมวลกฎหมายอาญาของคาซัคสถาน
หลังจากถูกจับ นายอามีดอฟถูกสอบสวนและถูกคุมขังโดยไม่มีการพิจารณาคดีเป็นเวลา 3 เดือน และในวันที่ 2 พฤษภาคม 2017 ศาลตัดสินให้จำคุก 5 ปีและห้ามทำกิจกรรมทางศาสนาอีก 3 ปี
ทนายฝ่ายนายอามีดอฟยื่นอุทธรณ์หลายครั้งเพื่อขอให้ศาลปล่อยตัวเขาแต่ถูกปฏิเสธทุกครั้ง เมื่อหมดทางสู้ด้านกฎหมายในคาซัคสถานแล้ว ทนายจึงหันไปพึ่งศาลระหว่างประเทศโดยยื่นคำร้องต่อคณะทำงานว่าด้วยการคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมแห่งสหประชาชาติ (WGAD) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
เดือนตุลาคม 2017 WGAD ได้ออกมาตำหนิคาซัคสถานที่จำคุกนายอามีดอฟและเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวเขาทันที เพราะการกระทำของเขา “เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยภายใต้เสรีภาพทางศาสนาที่เขามี” ในเดือนมกราคม 2018 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนยอมรับคำร้องของนายอามีดอฟและออกคำสั่งที่เป็นมาตรการชั่วคราวให้รัฐบาลคาซัคสถานจัดการให้นายอามีดอฟได้รับการรักษาพยาบาลที่จำเป็นทันที คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนยังแนะให้คาซัคสถานพิจารณาเรื่องการปล่อยตัวนายอามีดอฟตามคำร้องขอของเขาด้วย
เป็นอิสระในที่สุด
ช่วงที่อยู่ในคุก นายอามีดอฟป่วยหนักขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อปีที่แล้วเขาได้รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ซึ่งกำลังลุกลาม เมื่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนมีคำสั่งออกมาตรการชั่วคราวและมีเสียงเรียกร้องจากนานาชาติ รัฐบาลคาซัคสถานจึงให้นายอามีดอฟเขียนคำร้องขอการอภัยโทษจากประธานาธิบดีนาซาร์บายิฟ
เขายื่นคำร้องเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2018 และร้องขอให้มีการพิจารณาอย่างเร่งด่วนเพื่อเขาจะได้รับการรักษาไม่ให้มะเร็งลุกลามไปกว่านี้ ระหว่างรอคำตอบ ทางเรือนจำก็ย้ายนายอามีดอฟไปที่เมืองอัลมาตีที่เขาได้รับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2018
คาซัคสถานจะเคารพเสรีภาพทางศาสนามากกว่านี้ไหม?
นายอามีดอฟกับนางมาฟีซาภรรยาและลูก ๆ ดีใจที่เขาไม่ต้องทรมานในคุกแล้ว พวกเขารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีนาซาร์บายิฟด้วยที่ลบประวัติอาชญากรรมของเขา เพราะประวัติที่ไม่ดีนี้ทำให้บัญชีธนาคารของนายอามีดอฟถูกอายัด ซึ่งทำให้ภรรยาของเขาลำบากมากตอนที่เขาอยู่ในคุก
พยานพระยะโฮวาทั่วโลกหวังว่าการอภัยโทษนายอามีดอฟในครั้งนี้จะเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลคาซัคสถานจะให้พยานฯมีเสรีภาพมากขึ้นในการนมัสการอย่างสงบโดยไม่มีการขัดขวาง