20 ธันวาคม 2016
เกาหลีใต้
ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้จะประกาศคำตัดสินครั้งสำคัญเร็ว ๆ นี้
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ได้เปิดพิจารณาคดีเกี่ยวกับกฎหมายการรับราชการทหารซึ่งลงโทษคนที่ไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่จนถึงตอนนี้ศาลก็ยังไม่ตัดสินว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทุกฝ่ายกำลังรอฟังคำตัดสินอย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่นายปาร์กฮันชูลประธานศาลรัฐธรรมนูญยืนยันว่าจะมีคำตัดสินออกมาแน่นอน ก่อนที่เขาจะหมดวาระการเป็นประธานศาลในวันที่ 30 มกราคม 2017
คำตัดสินที่มีผลต่อหลายพันคน
ศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาลสูงสุดของเกาหลีใต้ มีอำนาจกำกับดูแลให้การดำเนินงานต่าง ๆ เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้ มีการร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาทบทวนกฎหมายการลงโทษคนที่ไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ทุกฝ่ายกำลังรอให้ศาลตัดสินว่าการลงโทษคนที่ทำผิดกฎหมายทหารโดยอ้างความรู้สึกผิดชอบชั่วดีถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้หรือไม่และรอให้ศาลรับรองเสรีภาพทางมโนธรรมและเสรีภาพทางศาสนา
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการจำคุกคนที่ไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขัดกับรัฐธรรมนูญ รัฐบาลเกาหลีใต้ก็จะต้องทบทวนการปฏิบัติต่อคนกลุ่มนี้อีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้เปลี่ยนท่าที เลิกฟ้องศาล และเลิกตัดสินจำคุกคนที่ไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ความสับสนในกระบวนการทางศาล
ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2004 และ 2011 ว่าการลงโทษคนที่ไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ และในปี 2004 และ 2007 ศาลสูงของเกาหลีใต้ก็ตัดสินไปในทางเดียวกันว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่ใช่เหตุผลที่หนักแน่นพอที่จะปฏิเสธการเป็นทหาร ไม่ว่าศาลสูงทั้งสองจะตัดสินอย่างไร ก็เห็นชัดว่าการบังคับใช้กฎหมายรับราชการทหารยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แม้แต่ในแวดวงตุลาการเอง
ศาลของเกาหลีใต้ทุกระดับชั้นแสดงท่าทีอึดอัดเมื่อต้องตัดสินจำคุกคนที่ไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ในปี 2011 ศาลนี้ได้พิจารณาคดีทำนองนี้ที่โอนมาจากศาลจังหวัดอีก 7 คดีและจากประชาชนอีก 22 คดี ศาลสูงเองก็มีคดีเกี่ยวกับการไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีค้างอยู่มากกว่า 40 คดี ส่วนศาลชั้นต้นก็ตัดสินให้จำเลยพ้นผิดใน 9 คดีเพราะเห็นแก่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพวกเขาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 เป็นต้นมา
ในเดือนตุลาคม 2016 ศาลอุทธรณ์แห่งหนึ่งสังเกตเห็นปัญหาในศาลชั้นต้นและศาลสูง และกล่าวว่า “คาดไม่ถึงว่าการตีความและบังคับใช้กฎหมายแค่ฉบับเดียวจะสับสนวุ่นวายขนาดนี้” ในครั้งแรกที่ศาลแห่งนี้ตัดสินคดีการไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ศาลได้ตัดสินให้จำเลย 3 คนพ้นผิด ซึ่งเนติบัณฑิตยสภากรุงโซลพูดถึงการตัดสินดังกล่าวว่าเป็นการตัดสินที่ “พลิกประวัติศาสตร์” นายคิมฮันคิว ประธานเนติบัณฑิตยสภากรุงโซลบอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญมาถึงจุดที่ต้องตัดสินชี้ขาดแล้ว
“คาดไม่ถึงว่าการตีความและบังคับใช้กฎหมายแค่ฉบับเดียวจะสับสนวุ่นวายขนาดนี้” ศาลเมืองกวางจู แผนกคดีอาญาที่ 3 คำตัดสินคดีนายโชลักฮุน วันที่ 18 ตุลาคม 2016
ประเด็นที่ยืดเยื้อกำลังจะได้ข้อยุติ
นายคิมบอกด้วยว่า “สาธารณชนอยากให้ [ศาลรัฐธรรมนูญ] ตัดสินไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อคนที่ไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เพราะตอนนี้พวกเขายังต้องทนรับโทษแบบอาชญากรและไม่สามารถทำงานบริการสังคมแทนได้ ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายในการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนกำลังถูกกดดันให้ประกาศคำตัดสินโดยเร็วที่สุด”
นานกว่า 60 ปีแล้วที่พยานพระยะโฮวาเกือบทุกครอบครัวได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ ลูกชาย พี่ชาย หรือน้องชายก็ต้องติดคุกเพราะไม่เป็นทหาร ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการไม่เป็นทหารเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่ขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ คนหนุ่มมากมายก็ไม่ต้องติดคุกในฐานะอาชญากรโดยไม่จำเป็นอีกต่อไป และทำให้ประชาชนทุกคนใช้สิทธิเสรีภาพทางมโนธรรมและทางศาสนาได้อย่างแท้จริง
ทุกฝ่ายกำลังจับตาดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีครั้งประวัติศาสตร์นี้ออกมาอย่างไร