18 เมษายน 2024
เยอรมนี
เฮอร์มีน ชมิดท์ พยานพระยะโฮวาคนสุดท้ายที่รอดชีวิตจากค่ายกักกันนาซี เสียชีวิตแล้วในวัย 98
วันที่ 31 มีนาคม 2024 พี่น้องเฮอร์มีน ชมิดท์ เสียชีวิตลงด้วยอายุ 98 ปี เท่าที่เรารู้ เธอเป็นพยานพระยะโฮวาคนสุดท้ายที่ต้องอดทนกับความยากลำบากในค่ายกักกันนาซีเพราะความเชื่อ
เฮอร์มีนเกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน 1925 เมืองกดันซค์ ซึ่งตอนนี้อยู่ในประเทศโปแลนด์ พ่อแม่ของเฮอร์มีนชื่อ โอสคาร์และฟรีดา โคชมีเดอร์ ทั้งคู่เป็นพยานพระยะโฮวา พวกเขาสอนเฮอร์มีนให้วางใจพระยะโฮวาและมีความเชื่อเข้มแข็ง ในปี 1939 กองกำลังนาซีได้เข้ายึดเมืองกดันซค์ ทำให้พยานพระยะโฮวาเริ่มถูกข่มเหงอย่างหนัก ช่วงนี้เองที่เฮอร์มีนได้อุทิศชีวิตของเธอให้พระยะโฮวาและรับบัพติศมาในวันที่ 2 พฤษภาคม 1942 ตอนอายุ 16 ปี
ปีถัดมาในเดือนมิถุนายน 1943 เฮอร์มีนที่อายุ 17 ปีถูกพวกนาซีจับกุมและควบคุมตัว เธอถูกจับอีกครั้งในเดือนเมษายน 1944 ครั้งนี้เธอถูกส่งตัวไปที่ค่ายกักกันสตุทท์ฮอฟ พอนึกย้อนกลับไปถึงช่วงที่น่ากลัวนั้น เฮอร์มีนบอกว่า “มันไม่ง่ายเลยที่จะรับมือกับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น เราถูกทำให้อับอายซึ่งทำร้ายความรู้สึกเรามาก ๆ พวกเกสตาโปทำทุกอย่างเพื่อให้ฉันยอมแพ้ ฉันไม่ใช่คนเก่งอะไร เป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ แต่ฉันไม่เคยสงสัยหรือลังเลเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันต้องทำเลย นี่เป็นเรื่องของการแสดงความภักดีและความตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำตามความรู้สึกผิดชอบของฉัน ถ้าคุณทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดี สิ่งที่คุณจะได้รับก็คือสันติสุข คุณจะมีสันติสุขกับตัวเองและมีสันติสุขกับพระเจ้า”
ปีต่อมาในเดือนเมษายน 1945 กองทัพรัสเซียเคลื่อนพลเข้ามาใกล้ค่ายกักกันสตุทท์ฮอฟ แต่ทหารรักษาการณ์หน่วยเอสเอสของเยอรมันไม่อยากให้นักโทษเป็นอิสระเพราะการบุกโจมตีของรัสเซีย พวกทหารเยอรมันเลยบังคับให้นักโทษหลายคนขึ้นเรือและทิ้งพวกเขาไว้กลางทะเล เฮอร์มีนกับนักโทษอีก 370 คนรอดชีวิตเพราะได้รับความช่วยเหลือเมื่อเรือของพวกเขาถูกลากเข้ามาที่เกาะมืน (Møn) ของประเทศเดนมาร์กในเดือนพฤษภาคม 1945 ไม่นานหลังจากนั้นเฮอร์มีนก็ได้กลับมาอยู่กับพ่อแม่อีกครั้ง
ปี 1947 เฮอร์มีนแต่งงานกับฮอร์ส ชมิดท์ ก่อนหน้านี้ฮอร์สไม่ยอมเป็นทหารและยังช่วยส่งสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลในช่วงที่งานของพยานพระยะโฮวาถูกสั่งห้ามด้วย เขาต้องขึ้นศาล ถูกตัดสินประหารชีวิต และถูกขังในเรือนจำแบรนเดนบูร์ก-กอร์เดิน พอถึงวันที่ 27 เมษายน 1945 แค่ไม่กี่วันก่อนที่ฮอร์สจะต้องถูกประหาร เรือนจำแห่งนี้ก็ถูกบังคับให้ปล่อยตัวนักโทษ เขาเลยรอดตายอย่างหวุดหวิด ฮอร์สและเฮอร์มีนใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเกือบ 63 ปีจนกระทั่งฮอร์สเสียชีวิตเมื่อปี 2010
ทั้งเฮอร์มีนและฮอร์สได้เล่าประสบการณ์ของพวกเขาให้คนอื่น ๆ ฟังเป็นเวลาหลายปี ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 1998 เฮอร์มีนพูดถึงชีวิตของเธอที่ตั้งใจรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าว่า “การเดินบนเส้นทางนี้ไม่ง่ายเลย แต่มันก็สวยงามที่สุด ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ออกจากเส้นทางนี้”
เราเห็นค่าตัวอย่างของเฮอร์มีนที่รักษาความซื่อสัตย์แม้ถูกข่มเหง ขอให้เราเลียนแบบเธอโดยแสดงความกล้าหาญ รักษาความเชื่อให้เข้มแข็ง และมั่นใจว่าพระยะโฮวาจะปกป้องผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์แน่นอน—สดุดี 31:23, 24