หนุ่มสาวถามว่า
ทำไมฉันไม่มีเพื่อนเลย?
คุณเล่นเน็ต ดูรูปงานปาร์ตี้ที่เพื่อน ๆ ไปกันเพราะอยากรู้ว่ามีใครไปบ้าง ดูน่าสนุกมาก แต่คุณไม่ได้ไป เพราะไม่มีใครชวน!
คุณอาจจะคิดแบบนี้ ‘ทำไมไม่มีใครชวนเราเลย?’
คุณต้องรู้สึกแย่มากแน่ ๆ น้อยใจ และอาจจะโกรธเพื่อน ๆ ด้วยซ้ำที่เพื่อนไม่แคร์ เสียความรู้สึกที่เพื่อนไม่ชวน รู้สึกผิดหวังสุด ๆ และเหงามาก เอาแต่คิดว่า ‘ทำไมฉันไม่มีเพื่อนเลย?’
เหงาจริงหรือคิดไปเอง?
จริงหรือไม่จริง
ถ้ามีเพื่อนเยอะ ๆ ก็จะไม่เหงาเลย
ถ้ามีสังคมออนไลน์ ก็จะไม่เหงาหรอก
ถ้ามีเพื่อนส่ง SMS หรือไลน์มาเยอะ ๆ ก็จะไม่เหงาแน่ ๆ
ถ้าช่วยคนอื่น ก็ช่วยให้ไม่เหงานะ
คำตอบของทั้ง 4 ข้อ คือไม่จริง
ทำไม?
เพื่อนกับเหงาเกี่ยวกันจริง ๆ ไหม?
มีเพื่อนเยอะไม่ได้แปลว่าจะไม่เหงา
“ฉันแคร์เพื่อนมาก แต่บางทีก็รู้สึกว่าเพื่อนไม่เห็นแคร์ฉันเลย ต่อให้มีเพื่อนเยอะแยะ ถ้าพวกเขาไม่ได้รักและต้องการเราจริง ๆ ก็ทำให้รู้สึกเหมือนไม่มีเพื่อนเลยอยู่ดี”—แอน
มีสังคมออนไลน์ไม่ได้แปลว่าจะไม่เหงา
“บางคนชอบสะสมเพื่อนอย่างกับสะสมตุ๊กตา ถึงจะมีตุ๊กตาเยอะแยะเต็มห้องมันก็รักเราไม่ได้ ก็เหมือนกันกับเพื่อนออนไลน์ ถ้าไม่ได้สนิทหรือรักเราจริง ๆ พวกเขาก็เหมือนตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิตนั่นแหละ”—อีเลน
มีเพื่อนส่ง SMS หรือไลน์มาเยอะ ๆ ไม่ได้แปลว่าจะไม่เหงา
“เวลาเหงา เราก็คอยเช็กมือถือบ่อย ๆ ว่ามีเพื่อนส่งข้อความหรือไลน์มาไหม พอดูแล้วไม่มี ก็เหงาหนักกว่าเดิมอีก!”—เซรีนา
ช่วยเหลือคนอื่นตลอดเวลาไม่ได้แปลว่าจะไม่เหงา
“ผมพยายามจะช่วยเพื่อนตลอด แต่เพื่อนไม่เห็นจะช่วยผมบ้าง จริง ๆ ก็ไม่ได้เสียใจหรอกที่ช่วยไป แค่รู้สึกแปลก ๆ ที่พวกเขาไม่คิดจะตอบแทนผมบ้าง”—ริชาร์ด
จริง ๆ แล้วก็คือ: จะเหงาหรือไม่เหงามันอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ความคิดของเรา เด็กสาวที่ชื่อเจเนตต์บอกว่า “มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราคิดไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นทำกับเรา”
แต่ถ้ารู้สึกเหงาและไม่มีเพื่อน . . .
ให้เรามาจัดการกับความเหงากัน!
มั่นใจในตัวเอง
“บางคนเหงาเพราะไม่มั่นใจในตัวเอง ชอบคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่มีอะไรให้ใครสนใจก็เลยไม่กล้าเป็นเพื่อนกับใคร”—เจเนตต์
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (กาลาเทีย 5:14) เราต้องเห็นค่าตัวเองก่อน คนอื่นถึงจะเห็นค่าเรา ทำแบบนั้นถึงจะมีเพื่อนที่อยากสนิทกับเรา แต่ก็อย่าให้มากเกินไปจนกลายเป็นหลงตัวเอง—กาลาเทีย 6:3, 4
เลิกสงสารตัวเอง
“คนที่สงสารตัวเอง มัวแต่คิดว่า ฉันเหงา ฉันไม่มีเพื่อน ก็จะรู้สึกอย่างนั้นไปเรื่อย ๆ แก้ไม่หายหรอก มันเหมือนอยู่ในหลุมทรายดูด ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งออกมายาก ต้องเลิกคิด เลิกสงสารตัวเอง ไม่งั้นจะเหงาหนักกว่าเดิม”—เอริน
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ความรัก . . . ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว” (1 โครินท์ 13:4, 5) ถ้าเราคิดถึงแต่ตัวเอง ใครจะอยากเป็นเพื่อนกับเรา? (2 โครินท์ 12:15) อย่าให้สิ่งที่คนอื่น ทำ มากำหนดว่าเรา จะมีความสุขหรือไม่มีความสุข ถ้าเราชอบพูดว่า “ไม่มีใครโทรมาหาเลย” หรือ “ไม่มีใครชวนไปไหนเลย” นั่นแหละแปลว่าเรา กำลังเอาความสุขของตัวเองไปผูกไว้กับคนอื่น จะคอยให้เขาจูงเราไปขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเพื่อนที่ดี
“คนที่เหงาต้องการให้คนมาสนใจตัวเอง บางทีก็เหงามากจนไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ ไหม คนนั้นอาจจะแกล้งเป็นเพื่อนเพราะอยากหลอกใช้เราก็ได้ ถ้ามารู้ทีหลังว่าเป็นอย่างนั้น จะยิ่งแย่กว่านั่งเหงาคนเดียวซะอีก”—บริแอน
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “จงดำเนินกับคนมีปัญญา แต่การคบค้ากับคนโฉดเขลาจะได้รับความเจ็บแสบ” (สุภาษิต 13:20) คนที่หิวโซ จะกินอะไรก็ได้ทั้ง ๆ ที่อาจจะเป็นอาหารที่ไม่ควรกิน คนที่ขาดเพื่อนก็เหมือนกัน อาจจะไปคบคนที่ไม่ดี เพราะคิดว่าก็โอเคแล้ว คิดว่าตัวเองคบได้แต่กับเพื่อนแบบนี้แหละ ก็ดีกว่าไม่มีเพื่อนเลย ทำให้ถูกหลอกง่าย ๆ
สรุปแล้วก็คือ: จำไว้ว่าคนเราก็ต้องมีเหงาบ้างเป็นธรรมดา ถึงจะรู้สึกแย่ แต่มันก็แค่นั้นแหละ แค่ความรู้สึก! อย่าปล่อยให้มันมาควบคุมความคิดของเรา เราคิดเองได้ เปลี่ยนความรู้สึกแย่ให้ดีได้
มองโลกตามความเป็นจริงด้วย “ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเพื่อนซี้ตลอดกาล รักกันตลอดไป แต่สำคัญก็คือ ให้หาเพื่อนที่รักและเป็นห่วง เราจริง ๆ เพื่อนแบบนี้แหละที่จะช่วยให้เราไม่เหงา”
อยากอ่านเพิ่มไหม? อ่าน “ อยากหาเพื่อนใหม่แต่กลัว จะทำอย่างไรดี?” และดาวน์โหลดไฟล์ PDF “มาจัดการกับความเหงากัน!”