การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล—ฮังการี
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายเหตุผลและวิธีที่พยานพระยะโฮวาใช้เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ประกาศ และอธิบายสิทธิ์ที่ผู้ประกาศมีเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขา คำว่า “คุณ” หรือ “ของคุณ” ในประกาศนี้ หมายถึง ผู้ประกาศที่ยังไม่รับบัพติศมาหรือรับบัพติศมาแล้ว aในประชาคมของพยานพระยะโฮวา และหมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาที่พยานพระยะโฮวาใช้เพื่อดำเนินการและจัดการเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับศาสนารวมถึงกิจกรรมทางศาสนาของพยานพระยะโฮวา
พยานพระยะโฮวาดำเนินงานอยู่ทั่วโลก ในประกาศนี้คำว่า “องค์การทางศาสนา” “ของเรา” หรือ “เรา” หมายถึงองค์การทางศาสนาของพระยะโฮวาทั่วโลก หรือหมายถึงนิติบุคคลหนึ่งหรือมากกว่านั้นที่ถูกใช้โดยพยานพระยะโฮวา นิติบุคคลเหล่านี้รวมถึงประชาคมท้องถิ่น สำนักงานสาขาท้องถิ่น และนิติบุคคลอื่น ๆ ที่ถูกใช้โดยพยานพระยะโฮวา นิติบุคคลหนึ่งหรือมากกว่านั้นตามที่กล่าวมานี้เป็นผู้ควบคุมดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณเกี่ยวข้องยังไงกับเรา The Church of Jehovah’s Witnesses in Hungary เป็นผู้ควบคุมดูแลข้อมูลของผู้ประกาศของประชาคมต่าง ๆ ในฮังการี
ตามที่บอกในหนังสือรวบรวมเป็นองค์การเพื่อทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวา b เรารวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่คุณได้ให้กับเรา และข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อตามที่บอกไว้ด้านล่างซึ่งผู้ดูแลในประชาคมของคุณได้บันทึกไว้ตอนที่คุณเริ่มเป็นผู้ประกาศ เพื่อคุณจะสามารถทำกิจกรรมด้านศาสนาซึ่งเกี่ยวข้องกับการนมัสการและได้รับกำลังใจจากคำสอนของพระเจ้า—1 เปโตร 5:2
ถ้าคุณมีคำถามเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในท้องถิ่นของคุณ โปรดส่งอีเมลมาที่:
DataProtectionOfficer.HU@jw.org
คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ตามข้อมูลด้านล่างนี้
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้เพื่อดำเนินการและจัดการเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับศาสนา รวมถึงกิจกรรมทางศาสนาของพยานพระยะโฮวา c คือข้อมูลต่อไปนี้:
ข้อมูลทั่วไป: ชื่อ วันเดือนปีเกิด และเพศ
ข้อมูลติดต่อ: ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
ข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อ: วันที่รับบัพติศมา, เป็น “ผู้ถูกเจิม” หรือ “แกะอื่น”, บทบาทหรืองานมอบหมายที่คุณได้รับในประชาคมท้องถิ่นหรือในองค์กรศาสนา, งานรับใช้ของคุณ, สถานภาพทางความเชื่อของคุณและวันที่ที่เกี่ยวข้องกับสถานภาพนั้น และข้อมูลอื่น ๆ ที่คล้ายกันที่เกี่ยวข้องกับสภาพความเชื่อของคุณ
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่เราเก็บรวบรวมอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ (ข้อมูลเฉพาะ) ข้อมูลเฉพาะนี้ได้แก่ ชาติกำเนิด และความเชื่อทางศาสนา
วัตถุประสงค์และข้อกฎหมายสำหรับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
นโยบายของเรา คือ รวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ของเรา และใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อคุณเริ่มเป็นผู้ประกาศ เราจะรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการและจัดการเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับศาสนา เพื่อคุณจะสามารถทำกิจกรรมด้านศาสนาซึ่งเกี่ยวข้องกับการนมัสการและได้รับกำลังใจจากคำสอนของพระเจ้า เมื่อเราใช้ข้อมูลที่เปิดเผยถึงข้อมูลเฉพาะของคุณ เช่น ความเชื่อทางศาสนา เราจะใช้ข้อมูลนั้นอย่างระมัดระวังและไม่เปิดเผยข้อมูลนี้กับบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคุณ ก่อนใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เราจะคิดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคุณและสิทธิ์ของคุณด้วย
เรายังใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อทำตามข้อเรียกร้องทางกฎหมาย ในกรณีฉุกเฉิน เราจะยึดฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิตของคุณหรือของคนอื่นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
โดยทั่วไปแล้ว เราไม่จำเป็นต้องขอความยินยอม เพราะเราใช้ข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่เราจะขอความยินยอมเมื่อคุณระบุไว้ว่าต้องทำอย่างนั้น แต่ในกรณีของผู้เยาว์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตารางด้านล่างนี้แสดงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อกฎหมายสำหรับการใช้ข้อมูลนั้น ถ้าคุณต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลท้องถิ่นตามข้อมูลติดต่อด้านบน
วัตถุประสงค์ และ/หรือ กิจกรรม |
ประเภทของข้อมูล |
ข้อกฎหมายสำหรับการใช้ข้อมูล |
ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูล |
---|---|---|---|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การเก็บรักษาข้อมูล
เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานเท่าที่ระบุไว้ข้างต้นในส่วน “วัตถุประสงค์และพื้นฐานทางกฎหมายที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ”
เพื่อกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างเหมาะสม เราจะพิจารณาจากข้อเรียกร้องตามที่กฎหมายกำหนด ตามจำนวน ประเภท และความอ่อนไหวของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต วัตถุประสงค์ที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ และการใช้วิธีอื่น ๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านั้น
ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือตามคำสั่งของศาล และเป็นไปตามกฎหมายท้องถิ่นและตามข้อเรียกร้องของการเก็บรักษาข้อมูล อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานกว่าที่กำหนดไว้ถ้ากฎหมายหรือข้อบังคับบอกให้ทำอย่างนั้นเพื่อใช้ในการพิสูจน์ การนำมาใช้ หรือเพื่อปกป้องสิทธิ์ทางกฎหมายของเรา
ในบางสถานการณ์ เราจะไม่เปิดเผยว่านี่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (เพื่อข้อมูลนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับคุณ) เมื่อเราใช้ข้อมูลนั้นในการวิจัยหรือวัตถุประสงค์ทางสถิติ ในกรณีนี้เราอาจใช้ข้อมูลหลายครั้งโดยไม่ต้องแจ้งให้คุณทราบ
ถ้าคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่เราใช้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลท้องถิ่นตามข้อมูลติดต่อด้านบน
การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล
พยานพระยะโฮวาดำเนินงานอยู่ทั่วโลก นี่ทำให้เราต้องรวมศูนย์การดำเนินงานบางอย่าง โดยจัดเตรียมข้อมูลบริการเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับนิติบุคคลต่าง ๆ ของพยานพระยะโฮวา รวมถึง The Church of Jehovah’s Witnesses in Hungary โดยเฉพาะนิติบุคคลที่พยานพระยะโฮวาใช้ดำเนินงานในประเทศเนเธอร์แลนด์จะดูแลเซิร์ฟเวอร์เพื่อสำรองข้อมูลให้กับ The Church of Jehovah’s Witnesses in Hungary นิติบุคคลหลายแห่งสามารถเข้าถึงข้อมูลบางอย่างได้เมื่อต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ที่อธิบายในคำประกาศนี้ เช่น เมื่อคุณตัดสินใจย้ายไปประชาคมอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ข้อมูลทั่วไป ข้อมูลติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อ) จะถูกถ่ายโอนไปยังประชาคมใหม่ของคุณ ถ้าคุณย้ายไปประชาคมอื่นที่อยู่ในต่างประเทศ สำนักงานสาขาของพยานพระยะโฮวาในท้องถิ่นจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อคุณจะสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางศาสนาของประชาคมใหม่ที่คุณย้ายไปและเพื่อเราจะมีข้อมูลล่าสุดของคุณ นี่รวมถึงการถ่ายโอนข้อมูลไปยังประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรป (EU)/ เขตเศรษฐกิจยุโรป Area (EEA) และประเทศที่ไม่มีกฎหมายให้ความคุ้มครองเฉพาะสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อมีการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลภายในองค์การศาสนาของเรา เราใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยและข้อควรระวังทางกฎหมายที่เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยและคำนึงถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เมื่อมีการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณใน EU/EEA จะมีการถ่ายโอนข้อมูลของคุณไปยังนอก EU/EEA เฉพาะในกรณีต่อไปนี้
ผู้รับอยู่ในประเทศที่ให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่เหมาะสม และ/หรือ
ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้ประมวลผลหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลนอก EU/EEA ซึ่งมีข้อตกลงสอดคล้องกับ EU เช่น ข้อสัญญามาตรฐานที่เห็นชอบโดยคณะกรรมาธิการยุโรป และ/หรือ
ได้รับความยินยอมจากคุณ
ความปลอดภัยของข้อมูล
เราปกป้องข้อมูลที่เราได้รับให้เป็นความลับและปลอดภัย โดยจะมีการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลและมีนโยบายรวมถึงขั้นตอนที่ถูกออกแบบเพื่อปกป้องข้อมูลไว้จากการสูญหาย การนำไปใช้ในทางที่ผิด และนำไปเปิดเผยอย่างไม่เหมาะสม
เราใช้มาตรการทางเทคโนโลยีที่เป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัยจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเมื่อมีการประมวลข้อมูล ในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงความทันสมัย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ลักษณะ ขอบเขต บริบทและวัตถุประสงค์ของการประมวลผล และโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงและสิทธิและเสรีภาพของบุคคลธรรมดา มาตรการเหล่านี้รวมถึง:
การควบคุมการเข้าถึง การรักษาความลับ และความถูกต้องของข้อมูล
ความปลอดภัยด้านการสื่อสารและดำเนินการ
ข้อมูลแฝง ข้อมูลนิรนาม และการเข้ารหัสข้อมูลส่วนบุคคล
วิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพของมาตรการทางเทคโนโลยีที่เป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัยตอนที่ประมวลผล
เรารับรองว่าคนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือคนที่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการฝึกอบรมและรับรู้ถึงสิทธิ์และความรับผิดชอบ
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นตามที่บอกไว้ด้านล่างเพื่อวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บอกไว้ในหัวข้อ “วัตถุประสงค์และพื้นฐานทางกฎหมายที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ” ที่อยู่ด้านบน
เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับเจ้าหน้าที่ที่มีสิทธิ์รู้ข้อมูลหรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย:
เมื่อกฎหมายบังคับให้เราเปิดเผยข้อมูลนั้น หรือมีคำสั่งจากศาล หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับอำนาจจากศาล; หรือ
เมื่อการเปิดการเผยข้อมูลนั้นจะช่วยปกป้องและคุ้มครองสิทธิ์ ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของเรา
เราอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับผู้ให้บริการ ซึ่งให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและบริการดูแลระบบให้กับเรา
ถ้าคุณขอให้เราเปิดเผยข้อมูลและเราได้รับความยินยอมจากคุณ เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบุคคลอื่น ๆ หรือนิติบุคคลที่คุณขอ
เราได้ขอให้บุคคลหรือนิติบุคคลใด ๆ ที่เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ตามที่ระบุในส่วนนี้ให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับและนำข้อมูลไปใช้ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น เราไม่อนุญาตให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว แต่อนุญาตให้พวกเขาใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามวัตถุประสงค์ที่บอกไว้เท่านั้นและต้องสอดคล้องกับคำแนะนำของเรา
สิทธิ์ทางกฎหมายของคุณเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
คุณอาจมีสิทธิ์บางอย่างภายใต้กฎหมายท้องถิ่นของคุณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บไว้เกี่ยวกับคุณ ซึ่งรวมถึงสิทธิ์ต่อไปนี้:
สิทธิ์ได้รับการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ คุณมีสิทธิ์ที่จะได้รับการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับวิธีที่เราใช้ และให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับบุคคลอื่น
สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล คุณมีสิทธิ์ได้รับการยืนยันว่าเรากำลังประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
สิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง คุณมีสิทธิ์แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ เช่น ในกรณีที่คุณเปลี่ยนแปลงข้อมูลติดต่อ
สิทธิ์ในการลบข้อมูลส่วนบุคคลในบางสถานการณ์ เรียกอีกอย่างว่า “สิทธิ์ที่จะถูกลืม” นี่ไม่ได้หมายความคุณมีสิทธิ์เด็ดขาดที่จะขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดออก เราจะประเมินคำขอของแต่ละกรณีอย่างรอบคอบ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้
สิทธิ์ในการถอนความยินยอม ถ้าเราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอม คุณมีสิทธิ์ที่จะถอนความยินยอมได้ตลอดเวลา โดยทั่วไปเราจะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมจากคุณ เนื่องจากเราทำตามกฎหมายอยู่แล้ว
สิทธิ์ในการจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในบางสถานการณ์ คุณจะได้รับสิทธิ์นี้ก็ต่อเมื่อคุณพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เมื่อคุณขอไม่ให้นำข้อมูลไปใช้ เมื่อการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลขัดต่อกฎหมายแต่คุณไม่ประสงค์จะให้ลบข้อมูลแต่ให้ยับยั้งการใช้ข้อมูลแทน หรือเมื่อเราไม่ต้องการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไปแต่คุณต้องการให้เก็บรักษาข้อมูลนั้นไว้เพื่อใช้ในพิสูจน์ นำมาใช้ หรือปกป้องสิทธิ์ทางกฎหมาย
สิทธิ์ในการโอนย้ายข้อมูล สิทธิ์ในการโอนย้ายข้อมูลจะใช้เฉพาะกรณีที่ได้รับความยินยอมจากคุณ หรือในกรณีที่ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในสัญญาและเป็นการประมวลผลโดยวิธีอัตโนมัติ
สิทธิ์ในการคัดค้านการประมวลข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ คุณมีสิทธิ์คัดค้านเมื่อเราจะประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เราไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด ถ้าคุณคัดค้าน เราจะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมาใช้ดำเนินการ เว้นแต่ว่าจะมีเหตุผลทางกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ที่เหนือกว่าผลประโยชน์ สิทธิ เสรีภาพของบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือเมื่อเราต้องใช้ข้อมูลเพื่อพิสูจน์ นำมาใช้ หรือปกป้องสิทธิ์ทางกฎหมาย
คุณสามารถขอใช้สิทธิ์ของคุณได้โดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลท้องถิ่นตามข้อมูลติดต่อด้านบน
เราอาจจำเป็นต้องขอข้อมูลเฉพาะจากคุณเพื่อยืนยันตัวตนและรับรองสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (หรือเพื่อใช้สิทธิ์อื่น ๆ ) นี่เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อจะทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ถูกเปิดเผยต่อคนที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับข้อมูลนี้ เราอาจติดต่อคุณเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอของคุณเพื่อเราจะได้ดำเนินการให้สำเร็จ
ถ้าคุณกังวลเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูล หรือข้อบังคับอื่น ๆ ของพยานพระยะโฮวา โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลท้องถิ่นตามข้อมูลติดต่อด้านบน เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลในท้องถิ่นจะพิจารณาคำขอของคุณและแจ้งให้คุณทราบว่าจะดำเนินการยังไง นอกจากนั้น คุณยังมีสิทธิ์ร้องเรียนต่อหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลที่รับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลในประเทศที่คุณอาศัยอยู่ หรือในสถานที่ที่มีการกล่าวหาว่าเกิดการละเมิด หรือส่งเรื่องไปยังศาลที่มีอำนาจตัดสินคดี
สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงในคำประกาศนี้
แนวทางปฏิบัติของพยานพระยะโฮวาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ๆ เนื่องจากการปรับเปลี่ยนในด้านกิจกรรมทางศาสนา กฎหมายหรือเทคโนโลยี ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในเพจการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล จะมีการแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงไว้ที่เพจนี้ เพื่อให้ผู้ประกาศรู้ว่ามีการเก็บข้อมูลประเภทไหนบ้างและมีการใช้ข้อมูลนั้นอย่างไร กรุณาตรวจสอบเป็นระยะ ๆ ว่ามีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้างในเพจนี้
a ผู้ประกาศ หมายถึง คนที่ประกาศข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าและมีความเกี่ยวข้องกับประชาคมของพยานพระยะโฮวา
b ข้อมูลจากหน้า 75 วรรค 10 ในหนังสือรวบรวมเป็นองค์การเพื่อทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวา เป็นหนังสือที่ใช้ภายในประชาคมต่าง ๆ ของพยานพระยะโฮวาซึ่งอธิบายภาพรวมขององค์การศาสนานี้ ข้อมูลในหนังสือนี้ไม่ได้เป็นนโยบายการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
c ดูตารางด้านล่างเพื่อจะรู้รายละเอียดมากขึ้นถึงวิธีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ประกาศและกฎหมายที่เรายึดถือ