ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เจย์ แคมเบล | เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

จาก​จุด​ต่ำ​สุด​สู่​จุด​ที่​สูง​มาก

จาก​จุด​ต่ำ​สุด​สู่​จุด​ที่​สูง​มาก

 ตอน​เด็ก​ฉัน​ขี้อาย​มาก ฉัน​ชอบ​อยู่​ใน​บ้าน​และ​ไม่​อยาก​เจอ​ใคร หลาย​ครั้ง​ฉัน​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า ฉัน​ไม่​ชอบ​เข้า​สังคม​และ​กลัว​ว่า​คน​อื่น​ ๆ ​จะ​รังเกียจ​และ​ทำ​ไม่​ดี​กับ​ฉัน ฉัน​ขอ​เล่า​เรื่อง​ของ​ฉัน​ให้​คุณ​ฟัง

 ฉัน​เกิด​ที่​เซียราลีโอน ตอน​เกิด​ฉัน​ก็​เป็น​เหมือน​เด็ก​ปกติ​ทั่ว​ไป แต่​พอ​ถึง​เดือน​สิงหาคม​ปี 1967 ตอน​ที่​อายุ​ได้ 1 ขวบ 6 เดือน ฉัน​ไข้​ขึ้น​สูง​มาก เช้า​วัน​ต่อ​มา​ขา​ฉัน​ก็​ไม่​มี​แรง เรา​ไป​โรง​พยาบาล​ใน​เมือง​ฟรี​ทาวน์ หมอ​บอก​ว่า​ฉัน​ติด​เชื้อ​โป​ลิโอ​ซึ่ง​เป็น​เชื้อ​ไวรัส​ที่​ทำ​ให้​เป็น​อัมพาต ส่วน​ใหญ่​แล้ว​โรค​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​กับ​เด็ก​อายุ​ต่ำ​กว่า 5 ขวบ กายภาพ​บำบัด​ไม่​ได้​ช่วย​ให้​ขา​ของ​ฉัน​มี​แรง​ขึ้น​เลย ขา​ของ​ฉัน​ค่อย​ ๆ ​อ่อน​แรง​ลง และ​ใน​ที่​สุด​ก็​รับ​น้ำหนัก​ตัว​ไม่​ไหว พ่อ​ชอบ​พูด​ว่า​ฉัน​เป็น “เด็ก​ขา​ลีบ” เพราะ​ฉัน​พิการ และ​เนื่อง​จาก​ฉัน​ทำ​ได้​แค่​คลาน ฉัน​เลย​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า และ​อยู่​ได้​แค่​บน​พื้น​ซึ่ง​เป็น​ระดับ​ที่​ต่ำ​ที่​สุด​เท่า​นั้น

ทำ​ได้​แค่​คลาน​บน​พื้น

 ฉัน​โต​มา​กับ​แม่ เรา​อยู่​ใน​ชุมชน​เล็ก​ ๆ ​ที่​ยาก​จน​แห่ง​หนึ่ง ถึง​เพื่อน​บ้าน​ทุก​คน​จะ​ชอบ​ฉัน แต่​ฉัน​อยาก​ได้​รับ​ความ​รัก​จาก​พ่อ แต่​พ่อ​ไม่​เคย​รัก​ฉัน​เลย บาง​คน​เชื่อ​ว่า​ที่​ฉัน​เป็น​แบบ​นี้​ก็​เพราะ​โดน​พวก​แม่มด​เล่น​งาน เพื่อน​บ้าน​บาง​คน​เลย​แนะ​นำ​ให้​แม่​เอา​ฉัน​ไป​ทิ้ง​ไว้​หน้า​สถาน​รับ​เลี้ยง​เด็ก​พิการ แม่​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​มี​ภาระ​ดู​แล​ฉัน​อีก​ต่อ​ไป แต่​แม่​ไม่​สนใจ​คำ​พูด​ของ​คน​พวก​นั้น แม่​ยัง​คง​ดู​แล​ฉัน​อย่าง​ดี​ต่อ​ไป

 ฉัน​ยืน​หรือ​เดิน​ไม่​ได้ เลย​ต้อง​คลาน​แทน แต่​การ​ลาก​ตัว​เอง​ไป​ตาม​พื้น​มัน​เจ็บ​มาก ตอน​แรก​ฉัน​ใส่​เสื้อ​ผ้า​หนา​ ๆ และ​เอา​รอง​เท้า​แตะ​มา​ใส่​เป็น​ถุง​มือ​จะ​ได้​ไม่​เจ็บ ต่อ​มา​ฉัน​ใช้​บล็อก​ไม้​รูป​ตัว​ยู​แทน​การ​ใส่​รอง​เท้า​แตะ​ป้องกัน​มือ ถ้า​อยาก​ไป​ไหน​ฉัน​จะ​เอื้อม​มือ​ไป​ข้าง​หน้า วาง​บล็อก​ไว้​ที่​พื้น ดัน​ตัว​ไป​ข้าง​หน้า จาก​นั้น​ก็​แกว่ง​ขา​ไป​ทาง​นั้น​และ​ไถ​ตัว​ตาม​ไป พอ​ไป​ได้ “ก้าว​หนึ่ง” ฉัน​ก็​ต้อง​เอื้อม​มือ​และ​ทำ​เหมือน​เดิม​อีก​ครั้ง​เพื่อ​จะ​ก้าว​ต่อ​ไป แต่​มัน​ไม่​ง่าย​เลย​เพราะ​ต้อง​ใช้​แรง​มาก มัน​ทำ​ให้​แขน​กับ​ไหล่​ของ​ฉัน​ตึง​ไป​หมด การ​คลาน​แบบ​นี้​ทำ​ให้​เหนื่อย​มาก ฉัน​เลย​แทบ​จะ​ไม่​ออก​จาก​ชุมชน ฉัน​ไป​โรง​เรียน​หรือ​เล่น​กับ​เด็ก​คน​อื่น​ ๆ ​ก็​ไม่​ได้ ฉัน​กลัว​และ​คิด​บ่อย​ ๆ ​ว่า​ถ้า​ไม่​มี​แม่​ฉัน​จะ​อยู่​ยังไง

 ฉัน​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​ขอ​ให้​พระองค์​ช่วย​และ​ไม่​ให้​ฉัน​เป็น​ขอ​ทาน ฉัน​รู้สึก​ว่า​ถ้า​ฉัน​ใกล้​ชิด​พระเจ้า​และ​รับใช้​พระองค์​อย่าง​ถูก​ต้อง พระองค์​ก็​จะ​ดู​แล​ฉัน ดังนั้น​วัน​หนึ่ง​ใน​ปี 1981 ฉัน​ตัดสิน​ใจ​คลาน​ออก​จาก​ชุมชน​เพื่อ​ไป​โบสถ์​ที่​อยู่​ตรง​ถนน​ใกล้​บ้าน​ทั้ง​ ๆ ​ที่​ไม่​ง่าย​และ​ทำ​ให้​เจ็บ​มาก สายตา​ของ​คน​ใน​โบสถ์​ทำ​ให้​ฉัน​ไม่​สบาย​ใจ บาทหลวง​ก็​ไม่​ต้อนรับ​ฉัน​แถม​ยัง​ว่า​แม่​ด้วย​ที่​ฉัน​ไป​นั่ง​เก้าอี้​ที่​คน​อื่น​จ่าย​ค่า​ธรรมเนียม​ไว้​แล้ว ฉัน​เลย​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ไม่​กลับ​ไป​ที่​นั่น​อีก

เจอ​พระเจ้า​พ่อ​ใน​สวรรค์

 เช้า​วัน​หนึ่ง​ใน​ปี 1984 ตอน​ที่​ฉัน​อายุ 18 ปี​ฉัน​ขึ้น​บันได​ไป​ข้าง​บน​และ​ไป​ที่​ริม​หน้าต่าง​ซึ่ง​เป็น​ที่​ประจำ​ที่​ฉัน​ชอบ จาก​นั้น​ฉัน​ก็​มอง​ไป​ข้าง​นอก​หน้าต่าง​เพื่อ​ดู​ว่า​ข้าง​นอก​เป็น​ยังไง หลัง​จาก​นั้น​ฉัน​ตัดสิน​ใจ​ลง​บันได​เพื่อ​ไป​ที่​ลาน​ชุมชน ซึ่ง​ปกติ​แล้ว​บริเวณ​นั้น​จะ​ไม่​มี​คน แต่​พอ​ไป​ที่​นั่น ฉัน​ก็​ได้​เจอ​ผู้​ชาย​สอง​คน​กำลัง​ประกาศ​ตาม​บ้าน​อยู่ พวก​เขา​คุย​กับ​ฉัน​เกี่ยว​กับ​อนาคต​ที่​สดใส​และ​ยัง​บอก​อีก​ด้วย​ว่า​อีก​หน่อย​ฉัน​จะ​ไม่​ต้อง​เจ็บ​ป่วย​อีก​เลย​พวก​เขา​อ่าน​อิสยาห์ 33:24 และ​วิวรณ์ 21:3, 4 ให้​ฉัน​ฟัง และ​ยัง​ให้​จุลสาร​ที่​มี​สี​สัน​สวย​งาม​ที่​ชื่อ​ว่า​เพลิดเพลิน​กับ​ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก​ตลอด​ไป! พวก​เขา​สัญญา​ว่า​จะ​กลับ​มา​หา​และ​สอน​ฉัน​มาก​ขึ้น

 ครั้ง​ที่​สอง​ที่​พวก​เขา​มา​เยี่ยม พวก​เขา​บอก​ว่า​จะ​พา​พอลลีน มิชชันนารี​ที่​ย้าย​มา​ใหม่​มา​ศึกษา​กับ​ฉัน แล้ว​พวก​เขา​ก็​ทำ​อย่าง​นั้น ฉัน​กับ​พอลลีน​สนิท​กัน​เหมือน​แม่​กับ​ลูก​เลย แม่​ของ​ฉัน​ก็​อยาก​ให้​ฉัน​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ “แม่​คน​ใหม่” นี้​ด้วย พอลลีน​รัก​ฉัน เธอ​เสีย​สละ อดทน​ใจ​ดี​เป็น​ห่วง​และ​คอย​ถาม​สาร​ทุกข์​สุก​ดิบ​กับ​ฉัน​บ่อย​ ๆ เธอ​สอน​ฉัน​ให้​อ่าน​เป็น​โดย​ใช้​หนังสือ​ที่​ชื่อ​ว่า หนังสือ​ของ​ฉัน​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​ราว​ใน​พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล พอลลีน​ค่อย​ ๆ ​ช่วย​ให้​ฉัน​รู้​จัก​พ่อ​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ที่​ฉัน​ตาม​หา​มา​นาน

พอลลีน มิชชันนารี​ที่​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ฉัน

 สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​ฉัน​มี​ความ​สุข​มาก วัน​หนึ่ง​ฉัน​บอก​พอลลีน​ว่า​ฉัน​อยาก​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​ตอน​นั้น​เรียก​ว่า​การ​ศึกษา​หนังสือ​ประจำ​ประชาคม a การ​ประชุม​นี้​จัด​ที่​บ้าน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​ที่​อยู่​ถัด​ไป​อีก​ซอย วัน​อังคาร​ต่อ​มา​พอลลีน​มา​รอ​ฉัน​อาบ​น้ำ​แต่ง​ตัว​ที่​บ้าน​เพื่อ​จะ​ไป​ประชุม​ด้วย​กัน บาง​คน​บอก​ฉัน​ว่า​ให้​พอลลีน​จ่าย​ค่า​แท็กซี่​ให้​สิ แต่​ฉัน​ตอบ​ว่า “ฉัน​จะ​เดิน​ไป​ด้วย​บล็อก​ตัว​ยู​ของ​ฉัน​นี่​แหละ”

 พอ​ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​ไป แม่​กับ​เพื่อน​บ้าน​มอง​มา​ที่​ฉัน​ด้วย​ความ​กังวล พอ​เรา​เดิน​ไป​ถึง​ลาน​ชุมชน เพื่อน​บ้าน​ตะโกน​ใส่​พอลลีน​ว่า “คุณ​บังคับ​เธอ​ใช่​ไหม!”

 พอลลีน​ถาม​ฉัน​อย่าง​อ่อนโยน​ว่า “เจย์ หนู​ยัง​อยาก​ไป​หอ​ประชุม​ไหม?” นี่​เป็น​เวลา​ที่​ฉัน​ต้อง​แสดง​ว่า​ฉัน​วางใจ​พระ​ยะโฮวา (สุภาษิต 3:5, 6) ฉัน​ตอบ​พอลลีน​ว่า “ไป​ค่ะ หนู​ตั้งใจ​ไว้​แล้ว” เพื่อน​บ้าน​หลาย​คน​ยัง​ดู​พวก​เรา​อยู่ แต่​พอ​ฉัน​ไป​ถึง​ประตู พวก​เขา​ก็​เปลี่ยน​มา​ตะโกน​เชียร์​ให้​กำลังใจ​ฉัน

 ฉัน​ชอบ​การ​ประชุม​ที่​บ้าน​ของ​พี่​น้อง​มาก! มัน​ทำ​ให้​ฉัน​มี​ความ​สุข​และ​สดชื่น! ทุก​คน​ก็​ต้อนรับ​ฉัน​ดี ไม่​มี​ใคร​ดูถูก​ฉัน ฉัน​รู้สึก​สบาย​ใจ​มาก เลย​อยาก​ไป​ประชุม​เป็น​ประจำ ไม่​นาน​ฉัน​ก็​ถาม​พี่​น้อง​ว่า​ฉัน​จะ​ไป​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​ไหม ถึง​ฉัน​จะ​จน มี​ชุด​แค่​สอง​ชุด​กับ​รอง​เท้า​แตะ​คู่​เดียว แต่​ฉัน​ก็​มั่น​ใจ​ว่า​พี่​น้อง​จะ​ต้อนรับ​ฉัน แล้ว​มัน​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น​จริง​ ๆ

 หอ​ประชุม​ที่​ฉัน​จะ​ไป​อยู่​แถว​เชิง​เขา ฉัน​ต้อง “เดิน” ไป​จน​สุด​ถนน​และ​ขึ้น​แท็กซี่​ต่อ พอ​ไป​ถึง พี่​น้อง​ก็​จะ​มา​อุ้ม​ฉัน​เข้า​ไป​ใน​หอ​ประชุม

 ฉัน​ได้​ชิม​แล้ว​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดี​ขนาด​ไหน ฉัน​เลย​อยาก​พึ่ง​พระองค์​และ​ตัดสิน​ใจ​ว่า​ตั้งแต่​นี้​ไป ฉัน​จะ​ประชุม​เป็น​ประจำ (สดุดี 34:8) ช่วง​หน้า​ฝน​ฉัน​จะ​มา​ถึง​หอ​ประชุม​ใน​สภาพ​เปียก​ปอน เนื้อ​ตัว​เปื้อน​โคลน​ไป​หมด ฉัน​ต้อง​เปลี่ยน​เสื้อ​ผ้า​ที่​หอ​ประชุม แต่​มัน​ก็​คุ้มค่า​มาก

 ประสบการณ์​ชีวิต​ของ​ฉัน​ได้​ลง​ใน​หนังสือ​ประจำ​ปี​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา 1985 พอ​พี่​น้อง​โจ​เซท​ที่​เป็น​พยาน​ฯ​ ​ใน​ประเทศ​สวิตเซอร์แลนด์​ได้​อ่าน เขา​ก็​ส่ง​รถ​เข็น 3 ล้อ​ที่​ใช้​มือ​หมุน​พร้อม​กับ​ติด​บัง​โคลน​และ​ที่​สะท้อน​แสง​ท้าย​รถ​มา​ให้​ฉัน พอ​มี​รถ​เข็น คน​ก็​ให้​เกียรติ​ฉัน​มาก​ขึ้น เด็ก​ ๆ ​ชอบ​รถ​ฉัน​มาก พวก​เขา​ชอบ​ที่​เห็น​ฉัน​ไป​ไหน​มา​ไหน​ด้วย​รถ​คัน​นี้ ฉัน​ไม่​ต้อง​คลาน​บน​พื้น​อีก​แล้ว ตอน​นี้​ฉัน​ถูก​ยก​ขึ้น​มา​จาก​พื้น​และ​รู้สึก​เหมือน​เป็น​ราชินี​เลย มี​แต่​คน​ให้​เกียรติ ไม่​มี​ใคร​ดูถูก​ฉัน​แล้ว

ถูก​ยก​ให้​สูง​ขึ้น

 ฉัน​ทำ​ความ​ก้าว​หน้า​ใน​ความ​จริง​ได้​ไม่​ยาก​เพราะ​ฉัน​ใช้​ชีวิต​เรียบ​ง่าย​และ​มี​ศีลธรรม​อยู่​แล้ว รถ​เข็น​สาม​ล้อ​ช่วย​ให้​ฉัน​ทำ​งาน​รับใช้​ได้ และ​ใน​วัน​ที่ 9 สิงหาคม 1986 ฉัน​ก็​รับ​บัพติศมา การ​รับ​บัพติศมา​ทำ​ให้​ชีวิต​ฉัน​เปลี่ยน​แปลง​ไป​ใน​ทาง​ที่​ดี ฉัน​ถูก​ยก​ให้​สูง​ขึ้น​อย่าง​ที่​ฉัน​เอง​ก็​ไม่​เคย​คิด​มา​ก่อน ฉัน​มี​ความ​สุข พอ​ใจ รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​มี​ค่า​และ​มั่น​ใจ​ใน​ตัว​เอง​เพราะ​ตอน​นี้​ฉัน​มี​พ่อ​ที่​รัก​ฉัน​จริง​ ๆ มี​พี่​น้อง​ที่​คอย​ดู​แล​เอา​ใจ​ใส่​และ​เป็น​ห่วง​ฉัน

 ฉัน​อยาก​ตอบ​แทน​พระ​ยะโฮวา ฉัน​เลย​อยาก​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ แต่​ไม่​มั่น​ใจ​ว่า​จะ​ทำ​ได้​ไหม (สดุดี 116:12) ฉัน​อธิษฐาน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​และ​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ลอง​ทำ​ดู ฉัน​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​วัน​ที่ 1 มกราคม 1988 และ​เป็น​มา​จน​ถึง​ตอน​นี้ การ​เป็น​ไพโอเนียร์​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​พร​มาก​มาย! พี่​น้อง​ที่​น่า​รัก​ช่วย​ให้​ฉัน​ทำ​เวลา​ครบ และ​พระ​ยะโฮวา​ก็​ช่วย​ฉัน​ผ่าน​ทาง​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์—สดุดี 89:21

 การ​เป็น​ไพโอเนียร์​ทำ​ให้​ฉัน​ต้อง​เคลื่อน​ไหว​มาก​ขึ้น นี่​ทำ​ให้​ขา​ฉัน​ได้​ออก​กำลัง​ถึง​แม้​จะ​ยัง​ไม่​มี​แรง ต่อ​มา ฉัน​ไป​คลินิก​ที่​เปิด​ใหม่​แห่ง​หนึ่ง​หวัง​ว่า​จะ​ได้​ทำ​กายภาพ​บำบัด​และ​เข้า​โปรแกรม​ออก​กำลัง​กาย แต่​พยาบาล​คน​หนึ่ง​บอก​ฉัน​ว่า​ไม่​ต้อง​มา​หรอก​เพราะ​ฉัน​จะ​อยู่​ได้​อีก​ไม่​นาน พยาบาล​อีก​คน​ก็​พูด​เหมือน​กัน นี่​ทำ​ให้​ฉัน​ท้อ​ใจ​มาก ฉัน​เลย​กลับ​บ้าน​มา​อธิษฐาน​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ฉัน​ไม่​ให้​ท้อ​และ​ช่วย​ให้​ฉัน​ได้​ทำ​กายภาพ​บำบัด​ด้วย​วิธี​อื่น

 ปรากฏ​ว่า​งาน​รับใช้​เป็น​วิธี​กายภาพ​บำบัด​แบบ​หนึ่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​สำหรับ​ฉัน เพราะ​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​ออก​กำลัง​กาย​เยอะ​มาก หลาย​ปี​ต่อ​มา พยาบาล​คน​ที่​บอก​ว่า​ฉัน​จะ​อยู่​ได้​อีก​ไม่​นาน​เดิน​ผ่าน​หอ​ประชุม​ของ​เรา เธอ​ตกใจ​มาก​ที่​เห็น​ว่า​ฉัน​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่!

 ถึง​แม้​สุขภาพ​ฉัน​จะ​เป็น​แบบ​นี้ แต่​ฉัน​ก็​ทำ​เต็ม​ที่​เพื่อ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา พี่​น้อง​ชม​ที่​ฉัน​กระตือรือร้น​และ​มา​หอ​ประชุม​ก่อน​เวลา​เสมอ ฉัน​ชอบ​มา​เร็ว​เพราะ​จะ​ได้​มี​เวลา​ทักทาย​และ​คุย​กับ​พี่​น้อง

 ฉัน​ชิม​และ​ได้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดี​ขนาด​ไหน พระองค์​อวยพร​ฉัน​หลาย​อย่าง ฉัน​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​ช่วย 3 คน​ให้​รับ​บัพติศมา หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​เอมิเลีย เธอ​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​ชั้น​เรียน​ที่ 137 ส่วน​ฉัน​ได้​เข้า​โรง​เรียน​ไพโอเนียร์​มาก​กว่า 1 ครั้ง นี่​เป็น​การ​จัด​เตรียม​ที่​พิเศษ​จาก​พระ​ยะโฮวา พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ฉัน​มี​ความ​สุข เห็น​คุณค่า​ใน​ตัว​เอง และ​มี​ความ​มั่น​ใจ ตอน​นี้​คน​อื่น​ ๆ ​ให้​เกียรติ​ฉัน ฉัน​ไม่​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​มี​ปมด้อย​อีก​ต่อ​ไป ฉัน​มี​เพื่อน​ดี​ ๆ ​ใน​ความ​จริง​ไม่​ใช่​แค่​ใน​เมือง​ฟรี​ทาวน์​ที่​ฉัน​อยู่​แต่​ทั่ว​ประเทศ​และ​ทั่ว​โลก

 เกือบ 40 ปี​แล้ว​ที่​ฉัน​ได้​เรียน​รู้​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​เรื่อง​โลก​ใหม่​ที่​จะ​ไม่​มี​ความ​พิการ​อีก​ต่อ​ไป คำ​สัญญา​นี้​ให้​กำลังใจ​ฉัน​และ​ฉัน​ก็​รอ​คอย​ให้​มัน​เป็น​จริง ที่​ฉัน​อดทน​รอ​เพราะ​ฉัน​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​จะ​ทำ​ตาม​กำหนด​เวลา (มีคาห์ 7:7) การ​อดทน​รอ​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​พร​มาก​มาย พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​ฉัน​รับมือ​กับ​ปัญหา​และ​สถานการณ์​ที่​ท้าทาย​หลาย​อย่าง พระองค์​จะ​ช่วย​ฉัน​ใน​เวลา​ที่​เหมาะ​สม​เสมอ ฉัน​มี​ความ​สุข​และ​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​ได้​เพราะ​พระเจ้า​ช่วย​ยก​ฉัน​ขึ้น​จาก​พื้น และ​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​อยู่​ใน​จุด​สูง​มาก​อย่าง​ที่​ไม่​เคย​คิด​มา​ก่อน

a ตอน​นี้​เรียก​ว่า​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ประจำ​ประชาคม