ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เฮซุส มาร์ติน | เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

“พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ผม​ให้​รอด​จาก​ช่วง​เวลา​ที่​มืด​มิด​ที่​สุด”

“พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ผม​ให้​รอด​จาก​ช่วง​เวลา​ที่​มืด​มิด​ที่​สุด”

ผม​เกิด​ที่​มาดริด​ใน​ปี 1936 ซึ่ง​เป็น​ปี​ที่​ลืม​ไม่​ลง​สำหรับ​คน​สเปน​รุ่น​เดียว​กับ​ผม เป็น​ปี​ที่​สงคราม​กลาง​เมือง​อัน​โหด​ร้าย​ปะทุ​ขึ้น​ใน​สเปน

 สงคราม​นี้​ยืดเยื้อ​อยู่​เกือบ 3 ปี ทิ้ง​บาดแผล​ที่​แสน​เจ็บ​ปวด​ไว้​ให้​คน​มาก​มาย​ทั้ง​ทาง​ร่าง​กาย​และ​อารมณ์ พ่อ​ของ​ผม​ก็​เป็น​หนึ่ง​ใน​นั้น ปกติ​แล้ว​พ่อ​เป็น​คน​ที่​ศรัทธา​ใน​พระเจ้า​มาก แต่​พอ​เห็น​บาทหลวง​คาทอลิก​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​สงคราม​อย่าง​เอา​จริง​เอา​จัง พ่อ​ก็​หมด​ศรัทธา​และ​ไม่​ยอม​ให้​ผม​กับ​น้อง​ชาย​รับ​ศีล​จุ่ม​ตอน​เกิด​แบบ​คาทอลิก

ฟรานซิสโก ฟรังโก เป็น​พันธมิตร​กับ​คริสตจักร​คาทอลิก

 ใน​ปี 1950 พยาน​พระ​ยะโฮวา 2 คน​มา​เคาะ​ประตู​บ้าน​เรา พ่อ​ฟัง​เรื่อง​ที่​พวก​เขา​พูด​แล้ว​ก็​ตก​ลง​จะ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พวก​เขา​ทุก​อาทิตย์ ตอน​นั้น​ผม​อายุ​แค่ 14 ปี กำลัง​คลั่ง​ฟุตบอล​สุด​ ๆ พ่อ​พยายาม​ชวน​ผม​อ่าน​หนังสือ​ที่​พยาน​ฯ​ให้​ไว้ แต่​ผม​ไม่​อ่าน บ่าย​วัน​หนึ่ง​ผม​กลับ​มา​บ้าน​หลัง​จาก​ไป​ดู​บอล ผม​ถาม​แม่​ว่า “แม่ พวก​ที่​สอน​ไบเบิล​มา​อีก​แล้ว​หรอ?” แม่​ตอบ​ว่า “ใช่ พวก​เขา​คุย​กับ​พ่อ​อยู่​ใน​ห้อง​กิน​ข้าว​น่ะ” พอ​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น ผม​ก็​วิ่ง​ออก​บ้าน​ไป​เลย!

 แต่​ถึง​ผม​จะ​เกลียด​การ​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล​แค่​ไหน พ่อ​ก็​ยัง​เรียน​ต่อ​ไป ผม​เลย​อด​ประทับใจ​ไม่​ได้ พ่อ​รัก​ความ​จริง​ที่​เขา​ได้​เรียน​มาก จน​ตัดสิน​ใจ​รับ​บัพติศมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ปี 1953 เหตุ​การณ์​นี้​ทำ​ให้​ผม​สงสัย​หลาย​เรื่อง ผม​เลย​ถาม​พ่อ​และ​ถึง​กับ​ขอ​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​อ่าน​ด้วย พ่อ​ขอ​ให้​พยาน​ฯ​หนุ่ม​ชื่อ​มักซิโม เมอร์เชีย มา​สอน​พระ​คัมภีร์​ผม หลัง​จาก​นั้น 2 ปี​ผม​ก็​รับ​บัพติศมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ตอน​อายุ 19 ปี ผม​รับ​บัพติศมา​ใน​แม่น้ำ​จา​รามา​ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​กรุง​มาดริด

การ​ประกาศ​ใน​ยุค​เผด็จการ​ฟรังโก

 ช่วง​ทศวรรษ 1950 การ​ประกาศ​และ​ประชุม​เป็น​เรื่อง​ยาก​มาก ช่วง​นั้น​สเปน​อยู่​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​เผด็จการ​ฟรานซิสโก ฟรังโก ซึ่ง​อยาก​ทำ​ให้​สเปน​เป็น​รัฐ​คาทอลิก​แบบ​ร้อย​เปอร์เซ็นต์ ผล​คือ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ถูก​ตำรวจ​ตาม​จับ เรา​ต้อง​ประชุม​กัน​ใน​บ้าน​ส่วน​ตัว​และ​ต้อง​คอย​ระวัง​ไม่​ให้​เพื่อน​บ้าน​สังเกต​เห็น​แล้ว​ไป​ฟ้อง​ตำรวจ​ได้ เรา​ยัง​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ได้ แต่​ก็​ต้อง​ระมัดระวัง​มาก เรา​จะ​ไป​ที่​เขต​หนึ่ง​แล้ว​แยก​กัน​ประกาศ 2-3 บ้าน​ใน​ละแวก​นั้น แล้ว​ก็​รีบ​ย้าย​ไป​อีก​เขต​หนึ่ง มี​คน​ฟัง​หลาย​คน แต่​บาง​คน​ก็​ไม่​ชอบ

พี่​น้อง​เอฟ. ดับเบิลยู. ฟรานซ์ บรรยาย​ใน​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​จัด​แบบ​ลับ​ ๆ

 ผม​จำ​ได้​ว่า​เคย​เจอ​บ้าน​บาทหลวง​คาทอลิก​คน​หนึ่ง พอ​ผม​บอก​ว่า​มา​ทำ​อะไร เขา​ก็​ถาม​ผม​ว่า “คุณ​มี​สิทธิ์​อะไร​มา​ทำ​แบบ​นี้? ไม่​รู้​เหรอ​ว่า​ผม​เรียก​ตำรวจ​มา​จับ​คุณ​ได้?” ผม​อธิบาย​ว่า​เรา​รู้​อยู่​แล้ว​ว่า​อาจ​ถูก​ตำรวจ​จับ แล้ว​ผม​ก็​บอก​เขา​ด้วย​ว่า “ศัตรู​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ก็​พยายาม​หา​ทาง​ให้​ท่าน​ถูก​จับ ถ้า​สาวก​ของ​ท่าน​เจอ​เหตุ​การณ์​แบบ​เดียว​กัน​ก็​คง​ไม่​แปลก​อะไร​ใช่​ไหม​ครับ?” บาทหลวง​ไม่​พอ​ใจ​ที่​ผม​ตอบ​อย่าง​นั้น เขา​เข้า​ไป​โทรศัพท์​เรียก​ตำรวจ จังหวะ​นั้น​ทุก​คน​คง​เดา​ได้​ว่า ผม​รีบ​วิ่ง​แจ้น​ออก​มา​จาก​ที่​นั่น​ทันที

 ถึง​จะ​เจอ​ประสบการณ์​ไม่​ค่อย​ดี​แบบ​นั้น แต่​ผู้​ประกาศ​ไม่​กี่​ร้อย​คน​ใน​สเปน​ก็​เก็บ​เกี่ยว​ผล​ดี​จาก​งาน​ประกาศ​ทั่ว​ประเทศ ใน​เดือน​กุมภาพันธ์ 1956 ตอน​ที่​ผม​อายุ​แค่ 19 ปี ผม​ก็​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ a ไพโอเนียร์​ส่วน​ใหญ่​ใน​สมัย​นั้น​อายุ​น้อย​และ​ยัง​ไม่​มี​ประสบการณ์ แต่​มิชชันนารี​ที่​มี​อยู่​ไม่​กี่​คน​ใน​ประเทศ​ก็​ช่วย​ฝึก​สอน​และ​คอย​ให้​กำลังใจ​เรา​เสมอ ผม​กับ​เพื่อน​ไพโอเนียร์​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ที่​เมือง​อาลีกันเต ซึ่ง​ไม่​เคย​มี​ใคร​ไป​ประกาศ​เลย หลัง​จาก​เริ่ม​งาน​ไม่​กี่​เดือน เรา​ก็​มี​นัก​ศึกษา​หลาย​ราย​และ​แจก​จ่าย​หนังสือ​ได้​หลาย​ร้อย​เล่ม

 แน่นอน​ว่า มี​คน​สังเกต​เห็น​เรา ดังนั้น หลัง​จาก​อยู่​ที่​อาลีกันเต​ได้​สอง​สาม​เดือน เรา​ก็​ถูก​ตำรวจ​จับ​และ​ถูก​ยึด​คัมภีร์​ไบเบิล เรา​ถูก​ขัง​คุก​อยู่ 33 วัน แล้ว​พวก​เขา​ก็​คุม​ตัว​เรา​ไป​ที่​มาดริด​และ​ปล่อย​เรา​ที่​นั่น การ​จำ​คุก​ช่วง​สั้น​ ๆ ​นั้น​เป็น​เหมือน​หนัง​ตัวอย่าง​ของ​สิ่ง​ที่​ผม​จะ​เจอ​ต่อ​ไป

ช่วง​ที่​มืด​มิด​ที่​สุด​ใน​ชีวิต

 ตอน​ผม​อายุ 21 ผม​ได้​รับ​หมาย​เรียก​ให้​ไป​เกณฑ์​ทหาร ผม​ต้อง​ไป​รายงาน​ตัว​ที่​ค่าย​ทหาร​ใน​เมือง​นา​ดอร์ ทาง​เหนือ​ของ​โมร็อกโก​ซึ่ง​ตอน​นั้น​เป็น​เขต​ปกครอง​ของ​สเปน ผม​ยืน​อยู่​ต่อ​หน้า​นาย​ทหาร​ระดับ​สูง อธิบาย​จุด​ยืน​ของ​ตัว​เอง​อย่าง​ชัดเจน​ด้วย​ความ​นับถือ​ว่า​ผม​ไม่​สามารถ​เข้า​ร่วม​กองทัพ​หรือ​ใส่​ชุด​ทหาร​ได้ เจ้าหน้าที่​คุม​ตัว​ผม​ไป​ที่​คุก​รอสโตรกอร์โด​ใน​เมลิลลา​เพื่อ​รอ​ขึ้น​ศาล​ทหาร

คุก​รอสโตรกอร์โด ใน​เมลิลลา

 ก่อน​ถึง​วัน​ขึ้น​ศาล ผู้​บัญชา​การ​กองทัพ​สเปน​ใน​โมร็อกโก​สั่ง​ให้​ลูก​น้อง​ใน​กองทัพ​ทำ​อะไร​ก็​ได้​เพื่อ​ให้​ผม​เปลี่ยน​ใจ ผม​เลย​ถูก​เยาะเย้ย ถูก​เฆี่ยน​ด้วย​แส้​ม้า​อยู่ 20 นาที แล้ว​ก็​ถูก​เตะ​จน​แน่นิ่ง​อยู่​กับ​พื้น​แทบ​หมด​สติ แต่​หัวหน้า​นาย​ทหาร​ก็​ยัง​ไม่​พอ​ใจ เขา​กระทืบ​หัว​ของ​ผม​ด้วย​บูท​ทหาร​หลาย​ครั้ง​จน​เลือด​อาบ พวก​เขา​ลาก​ตัว​ผม​เข้า​ไป​ใน​ออฟฟิศ แล้ว​หัวหน้า​นาย​ทหาร​ก็​ตะโกน​ใส่​ผม​ว่า “อย่า​คิด​ว่า​แก​จะ​โดน​แค่​นี้​นะ ต่อ​ไป​แก​จะ​เจอ​หนัก​กว่า​นี้​ทุก​วัน เตรียม​ตัว​ไว้​เลย!” แล้ว​เขา​ก็​สั่ง​ให้​เอา​ผม​ไป​ขัง​คุก​ใต้​ดิน​ที่​มืด​และ​ชื้น​มาก แต่​มัน​ก็​ยัง​ไม่​มืด​มิด​เท่า​ชีวิต​ผม​ตอน​นั้น ผม​มอง​ไม่​เห็น​อนาคต​เลย

 ผม​ยัง​จำ​ได้​ตอน​ที่​นอน​อยู่​บน​พื้น​ห้อง​ขัง ที่​หัว​ยัง​มี​รอย​เลือด มี​แค่​ผ้า​ห่ม​บาง​ ๆ ​คลุม​ตัว บาง​ครั้ง​ก็​มี​หนู​สอง​สาม​ตัว​โผล่​มา ผม​ได้​แต่​อธิษฐาน​ขอ​กำลัง​และ​ความ​อดทน​จาก​พระ​ยะโฮวา ใน​คุก​ใต้​ดิน​ที่​มืด​มิด​และ​หนาว​เหน็บ​นั้น ผม​อธิษฐาน​อ้อน​วอน​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก b

 วัน​ต่อ​มา ผม​ถูก​เฆี่ยน​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง คราว​นี้​คน​ที่​เฆี่ยน​เป็น​ทหาร​อีก​คน​หนึ่ง ส่วน​นาย​ทหาร​ที่​เป็น​หัวหน้า​ยืน​คุม​อยู่​เพื่อ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​ผม​จะ​ถูก​เฆี่ยน​จน​เขา​พอ​ใจ ผม​ยอม​รับ​ว่า​ตอน​นั้น​ผม​อด​คิด​ไม่​ได้​ว่า​จะ​ทน​ไป​ได้​อีก​นาน​แค่​ไหน คืน​นั้น​ตอน​ที่​อยู่​ใน​คุก​เป็น​คืน​ที่​สอง ผม​อธิษฐาน​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ช่วย

 พอ​ถึง​วัน​ที่ 3 ผม​ถูก​เรียก​ตัว​ไป​ที่​ออฟฟิศ​ของ​หัวหน้า​อีก ผม​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​เฆี่ยน​อีก​รอบ ตอน​ที่​เดิน​ไป ผม​ก็​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา พอ​ไป​ถึง​ดอน​เอสเตบัน c เลขานุการ​ศาล​ทหาร​รอ​ผม​อยู่​ใน​ออฟฟิศ เขา​ถูก​ส่ง​มา​เพื่อ​เริ่ม​พิจารณา​คดี​ของ​ผม

 พอ​ดอน​เอสเตบัน​เห็น​ผ้า​พัน​แผล​บน​หัว​ผม เขา​ก็​ถาม​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น ตอน​แรก​ผม​ไม่​กล้า​บอก เพราะ​กลัว​จะ​โดน​หนัก​กว่า​เดิม แต่​สุด​ท้าย​ก็​บอก​เขา​ไป​ตาม​ตรง พอ​เขา​รู้​ว่า​ผม​โดน​อะไร เขา​ก็​พูด​ว่า “ผม​อาจ​จะ​ช่วย​คุณ​ให้​รอด​จาก​การ​ขึ้น​ศาล​ไม่​ได้ แต่​มั่น​ใจ​ได้​เลย​ว่า จะ​ไม่​มี​ใคร​เฆี่ยน​คุณ​แบบ​นี้​ได้​อีก”

 จริง​อย่าง​ที่​เขา​สัญญา หลัง​จาก​นั้น​ไม่​มี​ใคร​กล้า​ทำ​อะไร​ผม​อีก​เลย​ระหว่าง​ที่​ติด​คุก​อยู่​ที่​นั่น จน​เดี๋ยว​นี้​ผม​ก็​คิด​ไม่​ออก​ว่า​ทำไม​เขา​ถึง​เริ่ม​พิจารณา​คดี​วัน​นั้น ผม​รู้​แต่​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ผม​ใน​วิธี​ที่​พิเศษ​มาก พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ผม​ให้​รอด​จาก​ช่วง​เวลา​ที่​มืด​มิด​ที่​สุด​และ​ไม่​ปล่อย​ให้​ผม​ถูก​ข่มเหง​จน​เกิน​ที่​จะ​ทน​ได้ (1 โครินธ์ 10:13) ผม​เลย​ขึ้น​ศาล​ทหาร​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​เต็ม​ที่

ที่​คุก​โอกันญา

 ศาล​ตัดสิน​จำ​คุก​ผม 19 ปี​และ​ต่อ​มา​ก็​เพิ่ม​อีก 3 ปี​โทษ​ฐาน “ไม่​เชื่อ​ฟัง” หลัง​จาก​ติด​คุก​ใน​โมร็อกโก​ประมาณ 15 เดือน ผม​ก็​ถูก​ย้าย​ไป​ที่​โอกันญา​ไม่​ไกล​จาก​กรุง​มาดริด​และ​อยู่​ที่​นั่น​จน​พ้น​โทษ ผม​ถือ​ว่า​การ​ถูก​ย้าย​มา​ที่​นี่​เป็น​พร​จาก​พระ​ยะโฮวา เพราะ​สภาพ​คุก​ดี​กว่า​รอสโตรกอร์โด​มาก ใน​ห้อง​ขัง​มี​เตียง ฟูก และ​ผ้า​ปู​ด้วย หลัง​จาก​ย้าย​มา​ได้​ระยะ​หนึ่ง ผม​ก็​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ดู​แล​บัญชี​ของ​เรือน​จำ แต่​การ​ถูก​ขัง​เป็น​เวลา​นาน​ทำ​ให้​ผม​เหงา​มาก มัน​ยาก​จริง​ ๆ ​ที่​ต้อง​อยู่​อย่าง​โดด​เดี่ยว​และ​ไม่​ได้​เจอ​พี่​น้อง​ร่วม​ความ​เชื่อ​เลย

 พ่อ​แม่​มา​เยี่ยม​ผม​อยู่​เรื่อย​ ๆ แต่​ผม​ก็​อยาก​ได้​กำลังใจ​มาก​ขึ้น​อีก พ่อ​แม่​เล่า​ว่า​พี่​น้อง​ชาย​หลาย​คน​ก็​ถูก​จับ​เพราะ​รักษา​ความ​เป็น​กลาง​เหมือน​กัน ผม​เลย​อธิษฐาน​บอก​พระ​ยะโฮวา​ว่า​ขอ​ให้​มี​พี่​น้อง​ถูก​ส่ง​มา​ขัง​ที่​เดียว​กับ​ผม​สัก​คน​หนึ่ง ผม​อธิษฐาน​อย่าง​จริงจัง​ไม่​หยุด แล้ว​พระ​ยะโฮวา​ก็​ตอบ​ผม​และ​ให้​มาก​กว่า​ที่​ผม​ขอ​อีก ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น​มี​พี่​น้อง​ชาย​ที่​ซื่อสัตย์ 3 คน​ถูก​ส่ง​ตัว​มา​ที่​คุก​ใน​โอกันญา คือ​อัลเบอร์โต กอนติโยก ฟรานซิสโก ดิแอซ และ​อันโตนิโอ ซานเชซ ใน​ที่​สุด หลัง​จาก​อยู่​อย่าง​โดด​เดี่ยว​มา​นาน 4 ปี ผม​ก็​มี​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​อยู่​ใกล้​ ๆ พวก​เรา 4 คน​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ด้วย​กัน​และ​ประกาศ​กับ​เพื่อน​นัก​โทษ​ใน​คุก​ด้วย

ถูก​ปล่อย​ตัว​และ​กลับ​ไป​ทำ​งาน

 ใน​ที่​สุด ใน​ปี 1964 ผม​ถูก​ปล่อย​ตัว​ก่อน​กำหนด​โดย​ให้​คุม​ประพฤติ สรุป​แล้ว​ผม​ติด​คุก​ทั้ง​หมด 6 ปี​ครึ่ง​แทน​ที่​จะ​เป็น 22 ปี​ตาม​ที่​ศาล​ตัดสิน​ตอน​แรก วัน​ที่​ออก​จาก​คุก ผม​ได้​กลับ​ไป​ประชุม​ครั้ง​แรก ถึง​จะ​ต้อง​เจียด​เงิน​ที่​มี​อยู่​เพียง​น้อย​นิด​จ่าย​เป็น​ค่า​แท็กซี่​กลับ​ไป​มาดริด แต่​ผม​ก็​มา​ทัน​เวลา​ประชุม​พอ​ดี ผม​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​อยู่​กับ​พี่​น้อง​อีก​ครั้ง แต่​ผม​ตั้งใจ​จะ​ทำ​มาก​กว่า​นั้น ผม​อยาก​กลับ​ไป​เป็น​ไพโอเนียร์​ทันที​ด้วย ถึง​ตำรวจ​ยัง​พยายาม​หา​เรื่อง​จับ​เรา แต่​คน​มาก​มาย​ก็​สนใจ​ข่าว​ดี​ที่​เรา​ประกาศ เรา​เลย​มี​งาน​มาก​ที่​ต้อง​ทำ

 ใน​ช่วง​นั้น ผม​ได้​เจอ​พี่​น้อง​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​รัก​งาน​รับใช้​มาก เธอ​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ชื่อ​เมอร์เซเดส เธอ​เป็น​คน​ถ่อม ขยัน​ประกาศ​กับ​ทุก​คน แถม​ยัง​ใจ​ดี​และ​มี​น้ำใจ​ด้วย เรา​ตก​หลุม​รัก​กัน​และ​หนึ่ง​ปี​ต่อ​มา​เรา​ก็​แต่งงาน​กัน การ​มี​เมอร์เซเดส​อยู่​เคียง​ข้าง​เป็น​พร​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​สำหรับ​ผม​จริง​ ๆ

กับ​เมอร์เซเดส​หลัง​จาก​เรา​แต่งงาน​ไม่​นาน

 ไม่​กี่​เดือน​หลัง​จาก​แต่งงาน เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ทำ​งาน​เดิน​หมวด เรา​เยี่ยม​พี่​น้อง​ประชาคม​ละ 1 อาทิตย์ ร่วม​ประชุม​และ​ประกาศ​กับ​พวก​เขา ตอน​นั้น​มี​ประชาคม​ใหม่​ ๆ ​ตั้ง​ขึ้น​มาก​มาย​ทั่ว​สเปน และ​พี่​น้อง​ต้องการ​กำลังใจ​มาก มี​ช่วง​หนึ่ง​ผม​ได้​ไป​ช่วย​งาน​ที่​สำนักงาน​ลับ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บาร์เซโลนา​ด้วย

 พอ​ถึง​ปี 1967 เรา​ก็​ไม่​ต้อง​แอบ​ทำ​กิจกรรม​ของ​คริสเตียน​อีก​ต่อ​ไป เพราะ​รัฐบาล​ได้​ผ่าน​กฎหมาย​ที่​ให้​เสรีภาพ​ทาง​ศาสนา​กับ​พลเมือง​ชาว​สเปน​ทุก​คน และ​ใน​ปี 1970 พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​เป็น​ศาสนา​ที่​ได้​การ​รับรอง​ตาม​กฎหมาย ใน​ที่​สุด เรา​ก็​ประชุม​กัน​ได้​อย่าง​เสรี มี​หอ​ประชุม​ของ​เรา​เอง และ​มี​สำนักงาน​สาขา​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​ด้วย

งาน​มอบหมาย​ใหม่

 ใน​ปี 1971 ผม​กับ​เมอร์เซเดส​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ไป​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา​แห่ง​ใหม่​ใน​บาร์เซโลนา แต่​หลัง​จาก​อยู่​ที่​นั่น 1 ปี​เมอร์เซเดส​ก็​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​สาว​ที่​น่า​รัก​ชื่อ​อะบีเกล เรา​เลย​ต้อง​ออก​จาก​เบเธล​และ​รับ​งาน​มอบหมาย​ใหม่ ซึ่ง​ก็​คือ​การ​เลี้ยง​ดู​ลูก​สาว​ของ​เรา

 พอ​อะบีเกล​เริ่ม​โต​เป็น​วัยรุ่น สำนักงาน​สาขา​ก็​ถาม​เรา​ว่า​จะ​กลับ​ไป​ทำ​งาน​เดิน​หมวด​ได้​ไหม เรา​อธิษฐาน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น​และ​ปรึกษา​พี่​น้อง​ที่​มี​ประสบการณ์ ผู้​ดู​แล​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า “เฮซุส ถ้า​พวก​เขา​ขอ​ให้​คุณ​กลับ​ไป​เดิน​หมวด​อีก คุณ​ต้อง​ไป​นะ” ช่วง​หลาย​ปี​หลัง​จาก​นั้น​เรา​มี​ความ​สุข​กับ​งาน​รับใช้​มาก ตอน​แรก​เรา​เยี่ยม​ประชาคม​ใกล้​ ๆ ​บ้าน​เพราะ​ยัง​ต้อง​ดู​แล​อะบีเกล​ด้วย แต่​หลัง​จาก​เธอ​โต​ขึ้น​และ​ดู​แล​ตัว​เอง​ได้​แล้ว ผม​กับ​ภรรยา​ก็​มี​โอกาส​ได้​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ประเภท​พิเศษ​มาก​ขึ้น

 ผม​ทำ​งาน​เดิน​หมวด​ร่วม​กับ​ภรรยา 23 ปี ผม​ถือ​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง​ ๆ ​ที่​ได้​ใช้​ประสบการณ์​ของ​ตัว​เอง​เพื่อ​ช่วย​คน​หนุ่ม​สาว​ใน​องค์การ บาง​ช่วง​ผม​ก็​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ช่วย​สอน​ผู้​ดู​แล​และ​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา ใน​ช่วง​นั้น​เรา​จะ​ได้​พัก​อยู่​ใน​เบเธล​ที่​มาดริด และ​ไม่​ไกล​จาก​เบเธล ประมาณ 3 กิโลเมตร ก็​มี​แม่น้ำ​จา​รามา​ไหล​ผ่าน คือ​แม่น้ำ​ที่​ผม​รับ​บัพติศมา​เมื่อ​ปี 1955 ผม​ไม่​คิด​เลย​ว่า​หลัง​จาก​ผ่าน​ไป​หลาย​สิบ​ปี ผม​จะ​มี​โอกาส​ได้​กลับ​มา​แถว​นี้​และ​ได้​ช่วย​สอน​หนุ่ม​สาว​ทั้ง​ชาย​และ​หญิง​ให้​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น

สอน​ใน​โรง​เรียน​ของ​องค์การ

 ตั้งแต่​ปี 2013 เรา​กลับ​ไป​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​อีก​ครั้ง ผม​ยอม​รับ​ว่า​ไม่​ง่าย​เลย​ที่​จะ​เปลี่ยน​จาก​การ​เดิน​หมวด​มา​ทำ​งาน​ไพโอเนียร์ แต่​มัน​ก็​เหมาะ​กับ​เรา ช่วง​หลัง​ ๆ ​นี้​ผม​มี​ปัญหา​สุขภาพ​หลาย​อย่าง​และ​ต้อง​ผ่าตัด​หัวใจ​ด้วย นี่​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​ผม​ต้อง​วางใจ​พระ​ยะโฮวา พึ่ง​การ​ช่วยเหลือ​จาก​พระองค์ และ​พระ​ยะโฮวา​ก็​คอย​ดู​แล​ผม​เหมือน​ที่​ทำ​มา​ตลอด ผม​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​อย่าง​ดี​เสมอ​จาก​ภรรยา​ที่​ซื่อสัตย์ เรา​อยู่​ด้วย​กัน​มา 56 ปี​แล้ว เมอร์เซเดส​เป็น​คู่​แท้​ใน​งาน​รับใช้​ของ​ผม เธอ​อยู่​เคียง​ข้าง​ผม​เสมอ​ไม่​ว่า​จะ​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​อะไร

 ผม​มัก​จะ​คิด​ถึง​ตอน​ที่​เป็น​ผู้​สอน​ใน​โรง​เรียน​ของ​องค์การ ผม​ยัง​ไม่​ลืม​สี​หน้า​ที่​กระตือรือร้น​ของ​นัก​เรียน มัน​ทำ​ให้​ผม​นึก​ถึง​ตัว​เอง​ตอน​ยัง​หนุ่ม​และ​ความ​รู้สึก​ของ​ตัว​เอง​ตอน​เริ่ม​รับใช้​พระ​ยะโฮวา จริง​อยู่​ว่า​ชีวิต​ผม​มี​หลาย​ช่วง​ที่​เลว​ร้าย​เหมือน​อยู่​ใน​ความ​มืด​มิด แต่​หลาย​ช่วง​ใน​ชีวิต​ก็​มี​ประสบการณ์​ที่​น่า​ยินดี​ด้วย ที่​จริง ความ​ยาก​ลำบาก​ก็​สอน​ผม​หลาย​อย่าง แต่​บทเรียน​ที่​สำคัญ​สุด​คือ อย่า​วางใจ​ใน​กำลัง​ของ​ตัว​เอง เรื่อง​ร้าย​ ๆ ​ที่​เจอ​ใน​ชีวิต​ทำ​ให้​ผม​ได้​เห็น​มือ​ที่​ทรง​พลัง​ของ​พระ​ยะโฮวา มือ​ที่​คอย​ให้​กำลัง​ผม​เสมอ แม้​แต่​ใน​ช่วง​ที่​มืด​มิด​ที่​สุด​ของ​ชีวิต—ฟีลิปปี 4:13

ผม​กับ​เมอร์เซเดส​ยัง​รับใช้​เต็ม​เวลา​ด้วย​กัน

a ไพโอเนียร์​พิเศษ​หมาย​ถึง​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา​ที่​อาสา​ไป​รับใช้​ใน​เขต​ที่​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เห็น​ว่า​จำเป็น​ต้อง​มี​คน​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​ขึ้น

b ห้อง​ขัง​ขนาด​แค่ 4 ตาราง​เมตร ไม่​มี​ส้วม ผม​อยู่​ที่​นี่ 7 เดือน นอน​บน​พื้น​สกปรก​กับ​ผ้า​ห่ม​ผืน​เดียว

c สำหรับ​คน​ใน​ประเทศ​ที่​พูด​ภาษา​สเปน คำ​ว่า “ดอน” เป็น​คำนำ​หน้า​ชื่อ​ที่​ใช้​เพื่อ​แสดง​ความ​นับถือ