ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

โดรีนา คาปาเรลลี | เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ถึงแม้ฉันจะขี้อาย แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็จะทำอีก!

ถึงแม้ฉันจะขี้อาย แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็จะทำอีก!

ฉัน​เป็น​คน​ขี้อาย​มา​ตั้งแต่​เด็ก แต่​พอ​คิด​ว่า​ฉัน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ยังไง​บ้าง ฉัน​ก็​ยัง​แปลก​ใจ​ว่า​ฉัน​ทำ​ไป​ได้​ยังไง

 ฉัน​เกิด​ใน​ปี 1934 ใน​เปสการา ซึ่ง​เป็น​เมือง​ที่​อยู่​ทาง​ชายฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​อิตาลี​และ​ตั้ง​อยู่​ริม​ทะเล​เอเดรียติก ครอบครัว​เรา​มี​ลูก​สาว 4 คน ฉัน​เป็น​คน​สุด​ท้อง พ่อ​ตั้ง​ชื่อ​ให้​พวก​เรา​ตาม​ลำดับ​ตัว​อักษร​เริ่ม​ต้น​ด้วย “A” นี่​เลย​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​ฉัน​เริ่ม​ต้น​ด้วย “D”

 พ่อ​ของ​ฉัน​เป็น​คน​ที่​สนใจ​เรื่อง​พระเจ้า​มา​ตลอด พ่อ​ได้​ติด​ต่อ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ครั้ง​แรก​ใน​เดือน​กรกฎาคม ปี 1943 ตอน​นั้น​มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ ลิเบอลาโต้ ริคสิ ซึ่ง​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​มา​คุย​กับ​พ่อ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​ให้​พ่อ​ยืม​วารสาร​หอสังเกตการณ์​เล่ม​หนึ่ง หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน พ่อ​ก็​เริ่ม​ประกาศ​อย่าง​กระตือรือร้น​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​พ่อ​ได้​เรียน แม่​ของ​ฉัน​ก็​ชอบ​ความ​จริง​ที่​ได้​เรียน​เหมือน​กัน ถึง​แม้​เธอ​จะ​อ่าน​หนังสือ​ไม่​ออก แต่​เธอ​ก็​บอก​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​กับ​คน​อื่น​โดย​ใช้​วิธี​จำ​ข้อ​คัมภีร์

 บ้าน​เล็ก ๆ ​ของ​เรา​กลาย​เป็น​ศูนย์กลาง​ของ​กิจกรรม​คริสเตียน เรา​จัด​การ​ประชุม​ที่​บ้าน​ด้วย ถึง​แม้​บ้าน​เรา​จะ​มี​แค่​สอง​ห้อง​นอน แต่​เรา​ก็​เปิด​บ้าน​ให้​ผู้​ดู​แล​หมวด​และ​มิชชันนารี​มา​พัก

 พี่​สาว​คน​โต​สอง​คน​ของ​ฉัน​ไม่​ค่อย​สนใจ​ความ​จริง​เท่าไหร่ ใน​ที่​สุด​พวก​เขา​ก็​แต่งงาน​และ​ออก​จาก​บ้าน​ไป แต่​ฉัน​กับ​พี่​สาว​อีก​คน​ที่​ชื่อ​เซสิรา​ชอบ​ฟัง​พ่อ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​พวก​เรา​ก็​ชอบ​ฟัง​ตอน​ที่​พี่​น้อง​ชาย​มา​เยี่ยม​กลุ่ม​เล็ก ๆ ​ของ​เรา​และ​บรรยาย​เรื่อง​ที่​ให้​กำลังใจ

 ฉัน​มัก​จะ​ไป​ประกาศ​กับ​พ่อ​และ​พี่​น้อง​คน​อื่น ๆ ​อยู่​บ่อย ๆ แต่​เพราะ​ฉัน​ขี้อาย​มาก เลย​ต้อง​ใช้​เวลา​หลาย​เดือน​กว่า​ฉัน​จะ​กล้า​พูด​อะไร​บาง​อย่าง​กับ​เจ้า​ของ​บ้าน แต่​เพราะ​ฉัน​รัก​พระ​ยะโฮวา​มาก ฉัน​ก็​เลย​รับ​บัพติศมา​ใน​เดือน​กรกฎาคม ปี 1950 พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​มา​บรรยาย​บัพติศมา​ที่​บ้าน​ของ​เรา และ​หลัง​จาก​นั้น​เรา​ก็​ไป​จุ่ม​ตัว​ที่​ทะเล ใน​ปี​ต่อ​มา​มี​คู่​สมรส​คู่​หนึ่ง​ที่​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ย้าย​มา​ที่​เขต​ของ​เรา และ​ฉัน​ก็​ไป​ประกาศ​กับ​พวก​เขา​บ่อย ๆ ยิ่ง​ฉัน​รับใช้​มาก​ขึ้น​เท่าไหร่ ฉัน​ก็​ยิ่ง​เอา​ชนะ​ความ​อาย​ของ​ฉัน​ได้​มาก​ขึ้น​เท่า​นั้น เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ​ที่​ได้​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​แบบ​นี้

การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​เปลี่ยน​ชีวิต​ฉัน​ไป​เลย

 ผู้​ดู​แล​หมวด​คน​แรก​ของ​เรา​ชื่อ​ปิเอโร กัตตี a เขา​สนับสนุน​ฉัน​ไม่​ใช่​แค่​เป็น​ไพโอเนียร์​เท่า​นั้น แต่​ให้​ย้าย​ไป​ใน​ที่​ที่​ต้องการ​ผู้​ประกาศ​มาก​กว่า​ด้วย ซึ่ง​การ​ย้าย​ที่​อยู่​เป็น​สิ่ง​ที่​ฉัน​ไม่​ได้​คิด​ถึง​มา​ก่อน​เลย ใน​ที่​ที่​ฉัน​อยู่ มี​ธรรมเนียม​ที่​ผู้​หญิง​จะ​ต้อง​อยู่​บ้าน​จน​กว่า​จะ​แต่งงาน​แล้ว​ย้าย​ออก​ไป จาก​นั้น​ใน​เดือน​มีนาคม 1952 ฉัน​ก็​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​แต่​ยัง​ไม่​ได้​ย้าย​ไป​ที่​ไหน ฉัน​นึก​ไม่​ถึง​เลย​ว่า การ​ตัดสิน​ใจ​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​จะ​เปลี่ยน​ชีวิต​ฉัน​ไป​เลย

 ใน​ตอน​นั้น พี่​น้อง​หญิง​วัยรุ่น​ชื่อ​แอนนา​อยาก​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​ด้วย เธอ​เลย​มา​อยู่​กับ​เรา​เพื่อ​เรา​ทั้ง​สอง​คน​จะ​ไป​ประกาศ​ด้วย​กัน​ได้ ใน​ปี 1954 เรา​ทั้ง​สอง​คน​ถูก​มอบหมาย​ให้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ที่​เปรูเกีย ซึ่ง​เป็น​เมือง​ที่​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ประมาณ 250 กิโลเมตร แต่​ที่​นั่น​ไม่​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เลย

แอนนา พ่อ และ​ฉัน​ก่อน​ที่​เรา​จะ​ย้าย​ไป​เปรูเกีย

 นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​ตื่นเต้น​มาก​สำหรับ​ฉัน​เพราะ​ตอน​นั้น​ฉัน​อายุ​แค่ 20 ปี และ​ครั้ง​เดียว​ที่​ฉัน​เคย​ออก​จาก​เมือง​ที่​ฉัน​อยู่​คือ​ตอน​ที่​ฉัน​ไป​ประชุม​ใหญ่​กับ​พ่อ​แม่ ตอน​นี้​ฉัน​รู้สึก​เหมือน​กับ​ว่า ฉัน​กำลัง​จะ​ไป​อยู่​อีก​ซีก​โลก​หนึ่ง​เลย พ่อ​ของ​ฉัน​ก็​กังวล​นิด​หน่อย​ว่า​ฉัน​กับ​แอนนา​จะ​อยู่​กัน​เอง​ยังไง พ่อ​เลย​มา​ช่วย​เรา​หา​ที่​อยู่ เรา​เลย​เช่า​ห้อง​หนึ่ง​ที่​ใช้​ทำ​เป็น​หอ​ประชุม​ได้​ด้วย และ​ช่วง​แรก ๆ ​เรา​ประชุม​กัน​แค่​สอง​คน เรา​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​ประกาศ​ที่​เปรูเกีย เรา​ประกาศ​ใน​เมือง​กับ​หมู่​บ้าน​ใกล้ ๆ ​ด้วย​และ​เรา​ก็​เริ่ม​เจอ​คน​ที่​สนใจ ประมาณ 1 ปี​ต่อ​มา พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​ย้าย​มา​ที่​เปรู​เกีย​และ​เขา​จัด​การ​ประชุม​ให้​เรา และ​ใน​ปี 1957 ตอน​ที่​เรา​ต้อง​ย้าย​ไป​รับใช้​ที่​อื่น ก็​มี​การ​ตั้ง​ประชาคม​เล็ก ๆ ​ที่​นั่น​แล้ว

ภรรยา​ผู้​ดู​แล​หมวด​และ​แอนนา​ใกล้ ๆ ​น้ำพุ (Fontana Maggiore) ใน​เปรู​เกีย​ปี 1954

 เรา​ถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ที่​เมือง​เล็ก ๆ ​ชื่อ​เตอร์นี​ที่​อยู่​ใจ​กลาง​อิตาลี เรา​ตื่นเต้น​ที่​จะ​ประกาศ​ที่​เตอร์นี​เพราะ​ที่​นี่​มี​หลาย​คน​ที่​สนใจ​เรื่อง​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​ก็​มี​ข้อ​ท้าทาย​อยู่​เหมือน​กัน ถึง​แม้​ระบอบ​ฟาสซิสต์​จะ​ล่ม​สลาย​ใน​ปี 1943 แต่​พวก​เจ้าหน้าที่​ก็​ยัง​พยายาม​สั่ง​ห้าม​งาน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​เรียก​ร้อง​ให้​พวก​เรา​ต้อง​มี​ใบ​อนุญาต​เพื่อ​จะ​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ได้

 ไม่​ใช่​เรื่อง​แปลก​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จะ​ถูก​ตำรวจ​ตาม หลาย​ครั้ง​เรา​ต้อง​เดิน​ไป​ใน​ที่​ที่​มี​คน​เยอะๆ​เพื่อ​จะ​หลบ​พวก​ตำรวจ แต่​ก็​ไม่​ใช่​ทุก​ครั้ง​ที่​จะ​หนี​ได้ ฉัน​เคย​ถูก​จับ​สอง​ครั้ง ครั้ง​แรก​ที่​ฉัน​ถูก​จับ​ตอน​นั้น​ฉัน​ประกาศ​อยู่​กับ​ผู้​ดู​แล​หมวด ตำรวจ​จับ​เรา​และ​พา​เรา​ไป​ที่​สถานี​ตำรวจ พวก​เขา​ตั้ง​ข้อ​หา​ว่า​พวก​เรา​ประกาศ​โดย​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​และ​สั่ง​ปรับ​พวก​เรา พวก​เรา​ไม่​ยอม​จ่าย​ค่า​ปรับ​เพราะ​ว่า​พวก​เรา​ไม่​ได้​ทำ​ผิด​กฎหมาย​อะไร ตอน​นั้น​ใจ​ฉัน​เต้น​แรง​มาก​จน​แทบ​จะ​หลุด​ออก​มา ฉัน​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ ​ที่​ตอน​นั้น​ฉัน​ไม่​ได้​อยู่​คน​เดียว ตอน​นั้น​ฉัน​นึก​ถึง​คำ​พูด​ที่​ให้​กำลังใจ​ที่​อิสยาห์ 41:13 ที่​บอก​ว่า “ไม่​ต้อง​กลัว เรา​จะ​ช่วย​เจ้า” เรา​ถูก​ปล่อย และ​เมื่อ​เรื่อง​นี้​ไป​ถึง​ศาล ผู้​พิพากษา​ก็​ตัดสิน​ว่า​เรา​ไม่​ได้​ผิด​อะไร หลัง​จาก​นั้น​ประมาณ 6 เดือน ฉัน​ก็​ถูก​จับ​อีก​ครั้ง แต่​ครั้ง​นี้​ฉัน​อยู่​คน​เดียว สุด​ท้าย​แล้ว​ผู้​พิพากษา​ก็​ตัดสิน​ว่า​ฉัน​ไม่​ได้​ผิด​อะไร

มี​โอกาส​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น

 ฉัน​จำ​ได้​ว่า​ฉัน​ตื่นเต้น​เป็น​พิเศษ​เกี่ยว​กับ​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​จะ​จัด​ขึ้น​ที่​เมือง​เนเปิลส์​ที่​อยู่​ทาง​ตอน​ใต้​ของ​อิตาลี​ใน​ปี 1954 ตอน​ที่​ฉัน​ไป​ถึง​ที่​นั่น ฉัน​อาสา​ที่​จะ​ช่วย​ทำ​ความ​สะอาด​สถาน​ที่​ประชุม​แล้ว​ฉัน​ก็​ถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​ทำ​งาน​ใกล้ ๆ ​เวที ตอน​นั้น​ฉัน​สังเกต​เห็น​หนุ่ม​หล่อ​คน​หนึ่ง​ชื่อ อันโทนิโอ คาปาเรลลี ซึ่ง​เป็น​ไพโอเนียร์​อยู่​ที่​ลิเบีย ครอบครัว​ของ​อันโทนิโอ​ย้าย​ออก​จาก​อิตาลี​ไป​ที่​นั่น​ประมาณ​หลัง​ปี 1930

อันโทนิโอ​นั่ง​อยู่​บน​มอเตอร์ไซค์​ที่​เขา​ใช้​ใน​ลิเบีย

ใน​วัน​แต่งงาน​ของ​เรา

 อันโทนิโอ​เป็น​คน​ที่​กระตือรือร้น​และ​กล้า​หาญ​มาก เขา​จะ​ขี่​มอเตอร์ไซค์​ไป​ที่​ทะเล​ทราย​ใน​ลิเบีย​เพื่อ​ไป​ประกาศ​กับ​คน​อิตาลี​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น เรา​เขียน​จดหมาย​หา​กัน​บ้าง​บาง​ครั้ง​และ​ใน​ช่วง​ต้น​ปี 1959 เขา​ก็​กลับ​มา​ที่​อิตาลี เขา​รับใช้​ที่​เบเธล​ใน​โรม​อยู่​ไม่​กี่​เดือน และ​หลัง​จาก​นั้น​ก็​ถูก​มอบหมาย​ให้​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ที่​เมือง​วีแตร์โบ ซึ่ง​อยู่​ใจ​กลาง​อิตาลี เรา​รู้​จัก​และ​รัก​กัน​มาก​ขึ้น​และ​เรา​ก็​แต่งงาน​กัน​ใน​วัน​ที่ 29 กันยายน 1959 หลัง​จาก​นั้น​ฉัน​ก็​ย้าย​ไป​รับใช้​ที่​วีแตร์โบ​กับ​อันโทนิโอ

 เรา​ต้อง​หา​ที่​อยู่​ที่​สามารถ​จัด​การ​ประชุม​ได้​ด้วย เรา​เลย​เช่า​ห้อง​ชั้น​ล่าง​ที่​เป็น​เหมือน​กับ​ร้าน​ค้า​เล็ก ๆ ​แล้ว​ก็​มี​ห้อง​น้ำ​เล็ก ๆ ​อยู่​ด้าน​หลัง เรา​เอา​เตียง​ไป​ไว้​ที่​มุม​แล้ว​ก็​เอา​ฉาก​มา​กั้น​เพื่อ​ทำ​เป็น​ห้อง​นอน พื้น​ที่​ส่วน​ที่​เหลือ​ก็​เป็น​ห้อง​ประชุม​แล้ว​ก็​เป็น​ห้อง​นั่ง​เล่น​ของ​เรา​ด้วย จริง ๆ ​แล้ว​ห้อง​นี้​ก็​ไม่​ได้​อยู่​สบาย​เท่าไหร่ ถ้า​ฉัน​ต้อง​อยู่​คน​เดียว​ฉัน​ก็​คง​จะ​ไม่​เลือก​อยู่​ที่​นี่ แต่​ตอน​นี้​ฉัน​มี​ความ​สุข​เพราะ​ฉัน​ได้​อยู่​กับ​อันโทนิโอ

หน้า​ฉาก​ที่​เรา​ใช้​กั้น​ห้อง​นอน

 ใน​ปี 1961 อันโทนิโอ​ถูก​แต่ง​ตั้ง​ให้​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด เขา​เลย​ต้อง​เข้า​โรง​เรียน​สำหรับ​ผู้​รับใช้​ประชาคม​หรือ​โรง​เรียน​ผู้​ดู​แล​ประชาคม​นาน 1 เดือน นี่​เลย​ทำ​ให้​ฉัน​ต้อง​อยู่​คน​เดียว​นาน​เป็น​เดือน ฉัน​ยอม​รับ​ว่า​ตอน​นั้น​ฉัน​รู้สึก​สงสาร​ตัว​เอง​เหมือน​กัน โดย​เฉพาะ​ตอน​เย็น​ที่​ฉัน​ต้อง​อยู่​คน​เดียว​ใน​ห้อง​เล็ก ๆ แต่​ฉัน​ก็​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​อันโทนิโอ​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​แบบ​นี้ ฉัน​เอง​ก็​พยายาม​ยุ่ง​อยู่​กับ​งาน​รับใช้ แล้ว​เวลา​ก็​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว

 งาน​เดิน​หมวด​ทำ​ให้​เรา​ต้อง​เดิน​ทาง​อยู่​บ่อย ๆ เรา​เดิน​ทาง​ไป​เวเนโต​ซึ่ง​อยู่​ทาง​ตอน​เหนือ​ของ​อิตาลี​ไป​จน​ถึง​เมือง​ซิซิลี​ที่​อยู่​ทาง​ตอน​ใต้ ตอน​แรก​เรา​ไม่​มี​รถ​เรา​เลย​ต้อง​ใช้​รถ​สาธารณะ ครั้ง​หนึ่ง​เรา​นั่ง​รถ​บัส​ไป​ตาม​ถนน​ที่​ขรุขระ​ใน​แถบ​ชนบท​ของ​ซิซิลี พี่​น้อง​มา​รอ​ต้อนรับ​เรา​ที่​ป้าย​รส​บัส​และ​พวก​เขา​ก็​เอา​ลามา​ด้วย​เพื่อ​ขน​ของ​ให้​เรา วัน​นั้น​อันโทนิโอ​ใส่​สูท ผูก​เนกไท และ​ฉัน​ก็​ใส่​ชุด​ประชุม มัน​คง​ตลก​เมื่อ​คน​แถว​นั้น​เห็น​เรา​เดิน​ไป​กับ​ชาว​ไร่​แล้ว​ก็​มี​ลา​ที่​ขน​กระเป๋า​กับ​เครื่อง​พิมพ์ดีด​ให้​เรา​ด้วย

 พี่​น้อง​มี​น้ำใจ​กับ​เรา​มาก​จริง ๆ ถึง​แม้​พวก​เขา​เอง​ก็​มี​ไม่​มาก บาง​บ้าน​ก็​ไม่​มี​ห้อง​น้ำ​หรือ​น้ำ​จาก​ก๊อก มี​ครั้ง​หนึ่ง​เรา​พัก​ใน​ห้อง​ที่​ไม่​มี​ใคร​อยู่​มา​นาน​แล้ว ตอน​กลางคืน​ฉัน​นอน​พลิก​ไป​พลิก​มา อันโทนิโอ​ก็​เลย​ปลุก​ฉัน พวก​เรา​ลอง​ยก​ที่​นอน​ขึ้น​ดู พวก​เรา​ตกใจ​มาก​เพราะ​มี​แมลง​อยู่​เต็ม​ไป​หมด! แต่​ตอน​นั้น​ดึก​แล้ว​เรา​เลย​ทำ​อะไร​ไม่​ได้​มาก เรา​พยายาม​ปัด​แมลง​ออก​ให้​ได้​มาก​ที่​สุด​แล้ว​ก็​กลับ​ไป​นอน

ฉัน​กับ​อันโทนิโอ​ตอน​ที่​ทำ​งาน​เดิน​หมวด​ใน​ช่วง​ปี 1960

 แต่​เรื่อง​แบบ​นี้​ก็​ไม่​ใช่​เรื่อง​ที่​ยาก​ที่​สุด​สำหรับ​ฉัน ปัญหา​ใหญ่​ที่​สุด​ของ​ฉัน​คือ ฉัน​เป็น​คน​ขี้อาย ตอน​ที่​เรา​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​หนึ่ง​เป็น​ครั้ง​แรก ฉัน​รู้สึก​ยาก​ที่​จะ​เข้า​ไป​ทำ​ความ​รู้​จัก​กับ​พี่​น้อง ฉัน​อยาก​ให้​กำลังใจ​และ​ช่วย​พี่​น้อง​หญิง ฉัน​เลย​ออก​ความ​พยายาม​อย่าง​มาก และ​พระ​ยะโฮวา​ก็​ช่วย​ฉัน​จริง ๆ เพราะ​ใน​ตอน​จบ​ของ​แต่​ละ​อาทิตย์ ฉัน​รู้สึก​สนิท​กับ​พี่​น้อง​มาก​ขึ้น เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ​ที่​ได้​รับใช้​กับ​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​เหล่า​นี้ และ​ได้​เห็น​ว่า​พวก​เขา​มี​น้ำใจ มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง​และ​รัก​พระ​ยะโฮวา

 ใน​ปี 1977 หลัง​จาก​ที่​เรา​ทำ​งาน​เดิน​หมวด​และ​อันโทนิโอ​เป็น​ผู้​ดู​แล​ภาค bได้​ไม่​กี่​ปี พวก​เรา​ถูก​เชิญ​เข้า​เบเธล​ที่​โรม​เพื่อ​ช่วย​เตรียม​การ​ประชุม​นานา​ชาติ “ความ​เชื่อ​มี​ชัย” ที่​จะ​จัด​ขึ้น​ใน​ปี 1978 จาก​นั้น​ไม่​กี่​เดือน เรา​ก็​ได้​เป็น​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​และ​หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน​อันโทนิโอ​ก็​ถูก​มอบหมาย​ให้​รับใช้​เป็น​คณะ​กรรมการ​สาขา

 การ​อยู่​ที่​เบเธล​ก็​เป็น​เรื่อง​ใหม่​สำหรับ​ฉัน และ​เพราะ​ความ​ขี้อาย บาง​ครั้ง​ฉัน​ก็​รู้สึก​เกร็ง ๆ ​ใน​ตอน​แรก แต่​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​และ​เพื่อน ๆ ​ที่​อยู่​ใน​เบเธล​ช่วย​ฉัน ใน​ที่​สุด​ฉัน​ก็​มอง​ว่า​เบเธล​เป็น​บ้าน​ของ​ฉัน

เจอ​ข้อ​ท้าทาย​ใหม่

 ไม่​กี่​ปี​ต่อ​มา​เรา​ก็​เจอ​ข้อ​ท้าทาย​ใหม่​ซึ่ง​ก็​คือ​ปัญหา​สุขภาพ ใน​ปี 1984 อันโทนิโอ​ก็​ต้อง​ผ่าตัด​หัวใจ และ​หลัง​จาก​นั้น​ประมาณ 10 ปี สุขภาพ​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​แย่​ลง ต่อ​มา​ใน​ปี 1999 เรา​ก็​ได้​มา​รู้​ว่า​เขา​เป็น​มะเร็ง​ชนิด​ร้ายแรง อันโทนิโอ​เป็น​คน​กระฉับกระเฉง​แต่​ครั้ง​นี้​เขา​ไม่​สามารถ​เอา​ชนะ​โรค​ร้ายแรง​นี้​ได้ การ​ที่​ต้อง​เห็น​เขา​อ่อนแอ​ลง​เรื่อย ๆ ​ทำ​ให้​ฉัน​ใจ​สลาย ฉัน​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​บ่อย ๆ ​เพื่อ​ขอ​กำลัง​ให้​ฉัน​สามารถ​ดูแล​สามี​ที่​รัก​ของ​ฉัน​ได้ ฉัน​ชอบ​อ่าน​หนังสือ​สดุดี​เพราะ​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​รับ​กำลังใจ​ใน​ตอน​ที่​ฉัน​รู้สึก​เครียด อันโทนิโอ​ตาย​ใน​วัน​ที่ 18 มีนาคม 1999 พวก​เรา​แต่งงาน​กัน​มา​เกือบ 40 ปี

 ฉัน​รู้สึก​เหงา​มาก​ทั้ง ๆ ​ที่​มี​พี่​น้อง​อยู่​รอบ ๆ ​ตัว​ฉัน แน่นอน​ฉัน​ได้​รับ​ความ​รัก​และ​กำลังใจ​จาก​พี่​น้อง​ใน​เบเธล​และ​จาก​พี่​น้อง​ที่​ฉัน​รู้​จัก​ตอน​ทำ​งาน​เดิน​หมวด แต่​ถึงอย่างนั้น​ความ​เศร้า​ก็​ยัง​เกาะ​กุม​ใน​ใจ​ฉัน โดย​เฉพาะ​ตอน​ที่​ฉัน​กลับ​ไป​อยู่​คน​เดียว​ใน​ห้อง​ที่​เบเธล​ตอน​เย็น มัน​เจ็บ​ปวด​มาก​จน​ฉัน​ไม่​รู้​จะ​อธิบาย​ออก​มา​ยังไง การ​อธิษฐาน ศึกษา​ส่วน​ตัว​และ​เวลา​ช่วย​ให้​ฉัน​รู้สึก​ดี​ขึ้น ใน​ที่​สุด​การ​ที่​ได้​คิด​ถึง​ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา​ที่​ได้​ใช้​ร่วม​กับ​อันโทนิโอ​ก็​ทำ​ให้​ฉัน​มี​ความ​สุข​อีก​ครั้ง ฉัน​ชอบ​คิด​ถึง​สิ่ง​ที่​เรา​เคย​ทำ​ด้วย​กัน​และ​ฉัน​มั่น​ใจ​ว่า​อันโทนิโอ​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​ฉัน​จะ​เจอ​เขา​อีก​ตอน​ที่​เขา​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย

 ฉัน​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​หลาย​อย่าง​ที่​เบเธล งาน​ที่​ฉัน​ทำ​อยู่​ตอน​นี้​คือ​แผนก​เย็บ​ผ้า ฉัน​รู้สึก​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​ทำ​งาน​ให้​ครอบครัว​ใหญ่​ของ​ฉัน ฉัน​พยายาม​ยุ่ง​กับ​งาน​รับใช้​ด้วย แน่นอน​ฉัน​ทำ​ไม่​ได้​มาก​เหมือน​กับ​ที่​เคย​ทำ​ใน​อดีต แต่​ฉัน​ก็​ยัง​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ฉัน​รัก​ตั้งแต่​ยัง​เป็น​เด็ก นี่​เลย​ทำ​ให้​ฉัน​อยาก​สนับสนุน​วัยรุ่น​ทุก​คน​ให้​เป็น​ไพโอเนียร์ แล้ว​คุณ​จะ​รู้​เลย​ว่า​งาน​นี้​มัน​น่า​ตื่นเต้น​มาก

“ฉัน​รู้สึก​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​ทำ​งาน​ให้​ครอบครัว​ใหญ่​ของ​ฉัน”

 เมื่อ​ฉัน​คิด​ถึง​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ที่​ฉัน​ทำ​มา​เกือบ 70 ปี ฉัน​เห็น​เลย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ฉัน​และ​อวยพร​ฉัน​มา​ตลอด ตอน​นี้​ฉัน​ก็​ยัง​ขี้อาย​อยู่ ฉัน​รู้​เลย​ว่า​ถ้า​ไม่​ใช่​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย ฉัน​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ​เหล่า​นี้​ด้วย​ตัว​เอง​ได้ ฉัน​ได้​ย้าย​ไป​รับใช้​ใน​ที่​ห่าง​ไกล ได้​เห็น​และ​ได้​มี​ประสบการณ์​ดี ๆ ​หลาย​อย่าง และ​ได้​เจอ​ผู้​คน​ที่​เป็น​แรง​บันดาล​ใจ​ให้​ฉัน ฉัน​พูด​ได้​เต็ม​ปาก​เลย​ว่า ถ้า​ย้อน​เวลา​กลับ​ไป​ได้​ฉัน​ก็​จะ​รับใช้​แบบ​นี้​อีก

a เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง​ของ​พี่​น้อง​ปิเอโร กัตตี “ผม​เคย​กลัว​ความ​ตาย แต่​ตอน​นี้​ผม​คอย​ท่า​ชีวิต​ที่ ‘บริบูรณ์’” ใน​วารสาร​หอสังเกตการณ์ 15 กรกฎาคม 2011

b ผู้​ดู​แล​ภาค​รับใช้​กับ​พี่​น้อง​ใน​หลาย​หมวด