บทความศึกษา 29
“เมื่อไรที่ผมอ่อนแอ ผมกลับยิ่งเข้มแข็งขึ้น”
“เมื่อผมอ่อนแอ โดนดูถูก ขาดแคลน ถูกข่มเหง และเจอความลำบากเพื่อพระคริสต์ ผมก็ยินดี”—2 คร. 12:10
เพลง 38 พระองค์จะทำให้คุณเข้มแข็ง
ใจความสำคัญ *
1. เปาโลยอมรับเรื่องอะไร?
อัครสาวกเปาโลยอมรับว่าบางครั้งเขารู้สึกอ่อนแอ เขารู้สึกว่าร่างกายของเขา “เสื่อมลงเรื่อย ๆ” และเขายอมรับว่าการทำสิ่งที่ถูกต้องมันเป็นเรื่องยากสำหรับเขา และบางครั้งเขาก็รู้สึกว่าพระยะโฮวาไม่ตอบคำอธิษฐานอย่างที่เขาคิด (2 คร. 4:16; 12:7-9; รม. 7:21-23) นอกจากนั้น พวกผู้ต่อต้านก็มองว่าเปาโลเป็นคนอ่อนแอ *ด้วย แต่เขาไม่ปล่อยให้ความอ่อนแอของตัวเองหรือสิ่งที่ผู้คนพูดกันเกี่ยวกับตัวเขามาทำให้เขารู้สึกไร้ค่า—2 คร. 10:10-12, 17, 18
2. จาก 2 โครินธ์ 12:9, 10 เปาโลได้บทเรียนสำคัญอะไร?
2 เปาโลได้เรียนบทเรียนที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ คนเราสามารถเข้มแข็งได้แม้แต่ตอนที่เขารู้สึกอ่อนแอ (อ่าน 2 โครินธ์ 12:9, 10) พระยะโฮวาบอกเปาโลว่า “เมื่อเจ้าอ่อนแอ พลังอำนาจของเราก็แสดงได้อย่างเต็มที่” นี่หมายความว่าพระยะโฮวาจะให้กำลังที่เปาโลจำเป็นต้องมี ตอนนี้ให้เรามาดูว่าทำไมเราไม่ต้องกังวลมากเกินไปเมื่อมีคนมาดูถูกเรา
“โดนดูถูก . . . ก็ยินดี”
3. ทำไมเราถึงยินดีได้เมื่อโดนดูถูก?
3 ไม่มีใครในพวกเราชอบให้คนอื่นมาดูถูก แต่ถ้าเราโดนดูถูกและคิดกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากเกินไป เราก็อาจจะท้อใจได้ (สภษ. 24:10) ถ้า อย่างนั้นเราควรรู้สึกอย่างไรเมื่อโดนดูถูก? เหมือนกับเปาโล ถึงเราจะ “โดนดูถูก . . . ก็ยินดี” ได้ (2 คร. 12:10) ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าการโดนดูถูกหรือถูกต่อต้านเป็นสิ่งที่แสดงว่าเราเป็นสาวกแท้ของพระเยซู (1 ปต. 4:14) และพระเยซูเองก็บอกว่าคนที่ติดตามท่านจะโดนข่มเหงด้วย (ยน. 15:18-20) เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในศตวรรษแรก คนที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมกรีกมองว่าคริสเตียนเป็นคนไม่ฉลาดและต่ำต้อยกว่าพวกเขา ส่วนคนยิวก็มองคริสเตียนอย่างที่เขามองเปโตรกับยอห์นว่า “เป็นคนธรรมดาไม่มีการศึกษา” (กจ. 4:13) นอกจากนั้น คริสเตียนไม่ยุ่งกับการเมืองและเรื่องทหารก็เลยดูเหมือนว่าไม่มีอำนาจอะไรที่จะปกป้องพวกเขาและพวกเขาก็ปกป้องตัวเองไม่ได้ และคนทั่วไปยังมองพวกเขาว่าเป็นพวกสังคมไม่ยอมรับด้วย
4. คริสเตียนในศตวรรษแรกทำอย่างไรเมื่อโดนดูถูก?
4 คริสเตียนในศตวรรษแรกทำอย่างไรเมื่อโดนดูถูก? พวกเขาไม่ได้เลิกประกาศและเลิกเป็นสาวกของพระเยซู ตัวอย่างเช่น อัครสาวกเปโตรและยอห์นมองว่าเป็นเกียรติอย่างสูงที่พวกเขาถูกข่มเหงเพราะเป็นสาวกของพระเยซูและได้สอนเรื่องของท่าน (กจ. 4:18-21; 5:27-29, 40-42) คนที่เป็นคริสเตียนไม่มีอะไรจะต้องอายเพราะพวกเขาทำสิ่งดี ๆ ให้ผู้คนมากกว่าสิ่งที่พวกผู้ต่อต้านคนไหนเคยทำ ตัวอย่างเช่น หนังสือที่พวกเขาบางคนได้รับการดลใจให้เขียนช่วยผู้คนหลายล้านคนให้มีชีวิตดีขึ้นและช่วยให้ผู้คนมีความหวังแท้ในอนาคต และรัฐบาลที่พวกเขาประกาศก็ปกครองแล้วในสวรรค์ตอนนี้ และอีกไม่นานรัฐบาลนี้จะปกครองทั่วทั้งโลก กลับกันรัฐบาลโรมันที่ข่มเหงคริสเตียนล่มสลายไปนานแล้ว (มธ. 24:14) นอกจากนั้น ตอนนี้คริสเตียนที่ซื่อสัตย์ปกครองเป็นกษัตริย์ในสวรรค์แต่คนที่เคยข่มเหงพวกเขาก็ตายไปแล้ว และถ้าคนที่ข่มเหงพวกนี้ฟื้นขึ้นจากตาย พวกเขาจะต้องอยู่ใต้การปกครองของรัฐบาลของพระเจ้าซึ่งคนที่ประกาศเรื่องนี้ก็คือคริสเตียนที่พวกเขาเกลียดนั่นแหละ—วว. 5:10
5. ตามที่บอกไว้ในยอห์น 15:19 ทำไมคนของพระยะโฮวาถึงโดนดูถูก?
5 ทุกวันนี้เราที่เป็นคนของพระเจ้าก็โดนดูถูกว่าเป็นคนไม่ฉลาดและเป็นคนต่ำต้อย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? ก็เพราะว่าเราไม่เห็นด้วยกับความคิดของผู้คนในโลก คนในโลกชอบคนหยิ่งและภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น พวกเขายกย่องคนทะเยอทะยานและคนที่ไม่ยอมใคร แต่เราพยายามที่จะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและเชื่อฟัง นอกจากนั้นเราก็ไม่ยุ่งกับการเมืองและเรื่องทหาร เลยไม่แปลกที่เราจะถูกคนอื่นดูถูกและมองว่าเราเป็นคนที่ด้อยกว่าพวกเขา—อ่านยอห์น 15:19; รม. 12:2
6. พระยะโฮวากำลังใช้คนของพระองค์ให้ทำงานอะไรให้สำเร็จในทุกวันนี้?
6 ไม่ว่าใครจะมองเราอย่างไร พระยะโฮวาก็ช่วยเราให้ทำงานที่ยิ่งใหญ่ได้ พระองค์ช่วยคนของพระองค์ให้ทำงานประกาศที่กว้างไกลออกไปทั่วโลก คนของพระองค์ผลิตหนังสือซึ่งหนังสือเหล่านี้ได้รับการแปลและแจกจ่ายมากที่สุดในโลก และพวกเขายังใช้คัมภีร์ไบเบิลเพื่อช่วยหลายล้านคนให้มีชีวิตที่ดีขึ้นในตอนนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพระยะโฮวาช่วยกลุ่มคนที่ดูเหมือนอ่อนแอในสายตาของคนอื่นให้ทำสิ่งเหล่านี้ได้ แล้วเราแต่ละคนล่ะ? พระยะโฮวาจะช่วยเรา
ให้เข้มแข็งได้ไหม? และเราต้องทำอะไรเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือจากพระองค์? ให้เรามาดู 3 อย่างที่เราเรียนได้จากตัวอย่างของอัครสาวกเปาโลอย่าพึ่งตัวเอง
7. บทเรียนอย่างหนึ่งที่เราได้เรียนจากตัวอย่างของเปาโลคืออะไร?
7 บทเรียนอย่างหนึ่งที่เราได้เรียนจากตัวอย่างของเปาโลคือ เราต้องไม่พึ่งกำลังหรือความสามารถของตัวเองในการรับใช้พระยะโฮวา หลายคนมองว่าเปาโลมีเหตุผลที่จะภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นและไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร เขาเติบโตมาในเมืองทาร์ซัสที่เป็นเมืองหลวงของแคว้นซิลีเซียของโรมัน เมืองทาร์ซัสเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองและมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมาก เปาโลเป็นคนมีการศึกษา เขาเรียนจากกามาลิเอลซึ่งเป็นผู้นำชาวยิวที่เป็นที่นับถือมากที่สุดในสมัยนั้น (กจ. 5:34; 22:3) นอกจากนั้น เปาโลเป็นคนสำคัญในสังคมชาวยิวด้วย เขาบอกว่า “ผมก้าวหน้าในทางศาสนายิวยิ่งกว่าเพื่อนร่วมชาติรุ่นเดียวกันหลายคน” (กท. 1:13, 14; กจ. 26:4) แต่เปาโลไม่ได้พึ่งตัวเอง
8. ตามที่บอกไว้ในฟีลิปปี 3:8 เปาโลมองสิ่งที่เขาทิ้งไปแล้วอย่างไร? และทำไมเขาถึงบอกว่า “เมื่อผมอ่อนแอ . . . ผมก็ยินดี”?
8 เปาโลไม่เสียใจที่เขาทิ้งสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นคนสำคัญในสายตาของคนอื่น เขามองว่าสิ่งเหล่านั้น “เป็นแค่ขยะ” (อ่านฟีลิปปี 3:8) เพราะเปาโลติดตามพระเยซู เขาเลยต้องเจอกับปัญหาหลายอย่าง เขาถูกเพื่อนร่วมชาติเกลียด (กจ. 23:12-14) และทั้ง ๆ ที่เขาเป็นพลเมืองโรมันแต่เขากลับถูกพวกโรมันเฆี่ยนและจับขังคุก (กจ. 16:19-24, 37) นอกจากนั้นเปาโลยังยอมรับว่าการทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นเรื่องยากสำหรับเขา (รม. 7:21-25) แต่นี่ไม่ได้ทำให้เขาเลิกติดตามพระเยซู แม้ว่าเขาจะเจอปัญหาหรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เขาบอกว่า “เมื่อผมอ่อนแอ . . . ผมก็ยินดี” เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? เพราะตอนที่เขาอ่อนแอ นั่นแหละเป็นตอนที่เขาเห็นพลังของพระเจ้าช่วยเขา—2 คร. 4:7; 12:10
9. ถ้าเรามีบางอย่างไม่เท่าคนอื่น เราควรรู้สึกอย่างไร?
9 ถ้าเราอยากได้กำลังจากพระยะโฮวา เราต้องไม่มองว่าสุขภาพดี ๆ การศึกษาสูง ๆ ความร่ำรวยหรือภูมิหลังของเราเป็นตัววัดว่าเรามีค่ามากแค่ไหน พระยะโฮวาไม่ได้ใช้เราเพราะเรามีสิ่งเหล่านี้ จริง ๆ แล้วในคนของพระเจ้า “มีไม่กี่คนที่มนุษย์ถือว่าฉลาด มีไม่กี่คนที่เป็นคนมีอำนาจ หรือมาจากครอบครัวของชนชั้นสูง” แต่พระเจ้าเลือก “คนที่โลกถือว่าอ่อนแอ” (1 คร. 1:26, 27) ถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้ไม่เท่าคนอื่นก็อย่าคิดว่าคุณจะไม่สามารถรับใช้พระยะโฮวาได้ แต่ให้มองว่านั่นเป็นโอกาสที่คุณจะเห็นว่าพลังของพระยะโฮวาช่วยคุณอย่างไร ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนมาบอกว่าสิ่งที่คุณเชื่อไม่เป็นความจริงและคุณก็รู้สึกกลัว ก็ขอให้คุณอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาเพื่อจะพูดปกป้องสิ่งที่คุณเชื่อด้วยความกล้าหาญ (อฟ. 6:19, 20) ถ้าคุณเจ็บป่วยเรื้อรังแล้วก็รู้สึกว่ารับมือกับเรื่องนั้นได้ยาก ก็ขอให้คุณอธิษฐานขอกำลังจากพระยะโฮวาเพื่อคุณจะรับใช้พระองค์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกครั้งที่คุณเห็นพระยะโฮวาช่วยคุณ คุณก็จะเข้มแข็งขึ้นและมีความเชื่อมากขึ้น
เรียนจากตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิล
10. ทำไมเราต้องเรียนจากตัวอย่างของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ เช่นคนที่พูดถึงในฮีบรู 11:32-34?
10 เปาโลเป็นคนที่ขยันศึกษาพระคัมภีร์ เขาไม่ได้เรียนแค่ความจริงในพระคัมภีร์เท่านั้น แต่เขาได้เรียนตัวอย่างของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ด้วย ตอนที่เปาโลเขียนถึงคริสเตียนชาวฮีบรู เขาก็บอกคริสเตียนเหล่านั้นให้คิดถึงตัวอย่างของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวาหลายคน (อ่านฮีบรู 11:32-34) ให้เรามาดูตัวอย่างของคนหนึ่งก็คือกษัตริย์ดาวิด เขาไม่ได้แค่เจอปัญหาจากคนที่เป็นศัตรูเท่านั้น แต่จากคนที่เคยเป็นเพื่อนของเขาด้วยซ้ำ ตอนที่เราดูตัวอย่างของดาวิด เราจะได้เรียนว่า การที่เปาโลคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับตัวอย่างของดาวิดช่วยให้เขาเข้มแข็งขึ้นได้อย่างไร? และเราจะเลียนแบบเขาได้อย่างไร?
11. ทำไมดาวิดอาจจะดูอ่อนแอ? (ดูภาพหน้าปก)
11 ดาวิดดูอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับโกลิอัทที่เป็นนักรบที่รูปร่างใหญ่โตและแข็งแรง “เมื่อโกลิอัทมองเห็นดาวิดก็หัวเราะเยาะ” โกลิอัทตัวใหญ่กว่า มีอาวุธครบมือ และก็ได้รับการฝึกมาพร้อมที่จะรบ แต่ดาวิดเป็นแค่เด็กหนุ่มที่ไม่มีประสบการณ์ แล้วก็ไม่ได้มีอาวุธอะไรไปสู้กับโกลิอัท ถึงดาวิดอาจจะดูอ่อนแอ แต่จริง ๆ แล้วเขาเข้มแข็งเพราะเขาพึ่งพลังที่มาจากพระยะโฮวา และนี่ทำให้เขาเอาชนะศัตรูได้—1 ซม. 17:41-45, 50
12. ดาวิดต้องเจออะไรอีก?
12 ดาวิดต้องเจอกับอีกอย่างหนึ่งที่อาจทำให้เขารู้สึกอ่อนแอ เขาจงรักภักดีกับซาอูลกษัตริย์ที่พระยะโฮวาแต่งตั้ง และตอนแรกซาอูลก็ชื่นชมดาวิด แต่ต่อมาซาอูลก็กลายเป็นคนหยิ่งและนั่นทำให้เขาอิจฉาดาวิด เขาทำไม่ดีกับดาวิดและถึงกับพยายามจะฆ่าดาวิดด้วยซ้ำ—1 ซม. 18:6-9, 29; 19:9-11
13. ดาวิดทำอย่างไรเมื่อซาอูลทำไม่ดีกับเขา?
13 ถึงซาอูลจะทำไม่ดีกับดาวิด แต่ดาวิดก็ยังนับถือเขา เพราะเขาเป็นคนที่พระยะโฮวาแต่งตั้ง (1 ซม. 24:6) ตอนที่ดาวิดต้องทนกับสิ่งไม่ดีที่ซาอูลทำ เขาไม่ ได้โทษพระยะโฮวา แต่เขาพึ่งพระองค์เพื่อจะได้กำลังและอดทนกับปัญหาที่เจอได้—สด. 18:1 และหัวบท
14. เปาโลเจอเรื่องอะไรที่คล้ายกันกับดาวิด?
14 อัครสาวกเปาโลเจอเรื่องคล้าย ๆ กันกับที่ดาวิดเคยเจอ ศัตรูของเขาเป็นคนที่มีอำนาจมากกว่าเขา ผู้นำที่มีอิทธิพลหลายคนในสมัยนั้นเกลียดเขาและบ่อยครั้งทำให้เขาถูกทุบตีและถูกขังคุก เหมือนกับดาวิด คนที่เปาโลคิดว่าเป็นเพื่อนของเขากลับทำไม่ดีกับเขา บางคนในประชาคมก็ต่อต้านเขา (2 คร. 12:11; ฟป. 3:18) แต่เขารับมือกับคนเหล่านั้นได้ เขายังประกาศต่อไปถึงแม้ว่าจะเจอการต่อต้าน เขาไม่ได้ทิ้งพี่น้องของเขาถึงแม้ว่าบางคนจะทำให้เขาผิดหวัง และที่สำคัญที่สุดเขายังซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าจนวันตาย (2 ทธ. 4:8) ที่เปาโลทำทั้งหมดนี้ได้ไม่ใช่เพราะว่าเขาเก่งหรือพึ่งกำลังของตัวเองแต่เขาพึ่งพระยะโฮวา
15. เป้าหมายของเราคืออะไร? และเราจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
15 คุณเคยเจอเพื่อนนักเรียน เพื่อนที่ทำงาน หรือญาติที่ไม่ใช่พยานฯ ต่อต้านหรือดูถูกไหม? หรือคุณเคยเจอคนในประชาคมทำไม่ดีกับคุณไหม? ถ้าคุณเคยเจอแบบนั้นก็ขอให้คิดถึงตัวอย่างของดาวิดและเปาโล คุณสามารถ “เอาชนะความชั่วด้วยความดี” ได้ (รม. 12:21) เป้าหมายของคุณไม่ใช่เหวี่ยงหินใส่หัวใครเหมือนดาวิด แต่คุณจะพยายามเอาสิ่งที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลใส่ในหัวใจและความคิดของคนเหล่านั้น คุณจะทำอย่างนั้นได้โดยใช้คัมภีร์ไบเบิลเพื่อตอบคำถามผู้คน และแสดงความนับถือและทำดีกับทุกคนถึงเขาจะเป็นศัตรูหรือเป็นคนที่ทำไม่ดีกับคุณ—มธ. 5:44; 1 ปต. 3:15-17
ยอมให้คนอื่นช่วย
16-17. เปาโลไม่เคยลืมเรื่องอะไร?
16 ก่อนที่เปาโลจะมาเป็นสาวก เขาเคยเป็นคนอวดดีและข่มเหงสาวกของพระคริสต์ (กจ. 7:58; 1 ทธ. 1:13) แต่พระเยซูทำให้เขาเลิกข่มเหงประชาคมคริสเตียน ท่านพูดจากฟ้าและทำให้เขาตาบอด นี่ เลยทำให้เขาต้องไปขอความช่วยเหลือจากพวกคนที่เขาเคยข่มเหง เขาถ่อมตัวลงแล้วในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือจากอานาเนียและเขาก็กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง—กจ. 9:3-9, 17, 18
17 เปาโลกลายเป็นคริสเตียนที่ใคร ๆ ก็รู้จัก แต่เขาก็ไม่เคยลืมบทเรียนที่ได้จากพระเยซูตอนที่ท่านพูดกับเขาระหว่างทางไปกรุงดามัสกัส เปาโลยังถ่อมตัวเสมอและยอมรับการช่วยเหลือจากพี่น้องคนอื่น เขายอมรับว่า “พวกเขานี่แหละที่ให้กำลังใจผมอย่างมาก”—คส. 4:10, 11
18. ทำไมเราอาจไม่อยากให้คนอื่นช่วย?
18 เราเรียนอะไรได้จากเปาโล? ตอนที่เราเรียนความจริงใหม่ ๆ เราอาจชอบขอให้คนอื่นช่วยเพราะเรารู้ว่ายังมีอะไรอีกเยอะที่เราต้องเรียน (1 คร. 3:1, 2) แล้วตอนนี้ล่ะ? พออยู่ในความจริงมานานและมีประสบการณ์เยอะ เราอาจจะไม่อยากให้ใครมาช่วยโดยเฉพาะถ้าคนนั้นเป็นคนที่อยู่ในความจริงไม่นานเท่าเรา แต่พระยะโฮวาใช้พี่น้องของเราเพื่อให้กำลังใจและช่วยให้เราเข้มแข็ง (รม. 1:11, 12) ดังนั้นถ้าเราอยากได้กำลังจากพระยะโฮวา เราต้องยอมให้พี่น้องช่วย
19. ทำไมเปาโลถึงทำหลายอย่างได้สำเร็จ?
19 เปาโลทำสิ่งดี ๆ หลายอย่างได้สำเร็จหลังจากที่เขามาเป็นคริสเตียน ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นได้? เพราะเขาได้เรียนว่าการที่คนเราจะทำอะไรให้สำเร็จได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสุขภาพ การเรียนสูง ความร่ำรวย หรือภูมิหลัง แต่ขึ้นอยู่กับความถ่อมและการพึ่งพระยะโฮวา เราทุกคนเลียนแบบเปาโลได้โดย (1) พึ่งพระยะโฮวา (2) เรียนจากตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิล และ (3) ยอมให้พี่น้องช่วย ถ้าเราทำอย่างนั้น ไม่ว่าเราจะรู้สึกอ่อนแอขนาดไหน พระยะโฮวาก็จะทำให้เราเข้มแข็ง
เพลง 71 เราเป็นกองทัพของพระยะโฮวา
^ วรรค 5 บทความนี้เราจะมาดูตัวอย่างของอัครสาวกเปาโล และดูว่าถ้าเราเป็นคนถ่อม พระยะโฮวาจะให้กำลังเราตอนที่เราทนกับการดูถูก และจะช่วยให้เราเข้มแข็งตอนที่เรารู้สึกอ่อนแอ
^ วรรค 1 อธิบายคำศัพท์ คำว่าอ่อนแอในบทความนี้หมายถึงความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ รู้สึกไร้ค่า รู้สึกเศร้า หรือรู้สึกท้อใจ อาจมีหลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกอ่อนแอ เช่น ความไม่สมบูรณ์แบบของเรา ความยากจน ความเจ็บป่วย หรือการที่เราเรียนมาน้อย นอกจากนั้น สิ่งที่พวกผู้ต่อต้านทำหรือพูดกับเราอาจทำให้เรารู้สึกอ่อนแอ
^ วรรค 57 คำอธิบายภาพ ตอนที่เปาโลออกไปประกาศเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เขาไม่ได้เอาของที่เขาใช้ตอนที่เคยเป็นฟาริสีไปด้วย ของเหล่านั้นอาจเป็นกล่องหนังเล็ก ๆ ที่ใส่ข้อคัมภีร์และม้วนหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนของโลก
^ วรรค 61 คำอธิบายภาพ เพื่อนร่วมงานพยายามกดดันพี่น้องชายให้ฉลองงานวันเกิดด้วยกัน