บทความศึกษา 29
สนับสนุนพระเยซูผู้ดูแลของเรา
“พระเจ้ามอบอำนาจให้ผมปกครองทุกสิ่งในสวรรค์และบนโลกนี้แล้ว”—มธ. 28:18
เพลง 13 พระคริสต์เป็นตัวอย่างให้เรา
ใจความสำคัญ *
1. อะไรเป็นสิ่งที่พระยะโฮวาต้องการในทุกวันนี้?
ในทุกวันนี้พระเจ้าต้องการให้มีการประกาศข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระองค์ไปทั่วโลก (มก. 13:10; 1 ทธ. 2:3, 4) งานนี้เป็นงานของพระยะโฮวาและพระองค์ถือว่านี่เป็นงานที่สำคัญมาก พระองค์เลยให้พระเยซูลูกที่พระองค์รักมากดูแลงานนี้ เรามั่นใจว่าเพราะพระเยซูชี้นำงานนี้อยู่ มันเลยต้องสำเร็จอย่างที่พระยะโฮวาต้องการแน่นอนก่อนที่จุดจบจะมาถึง—มธ. 24:14
2. เราจะคุยอะไรกันในบทความนี้?
2 ในบทความนี้ เราจะมาดูว่าพระเยซูใช้ “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” ให้แจกความรู้ในคัมภีร์ไบเบิลที่เป็นเหมือนอาหารยังไง และท่านใช้พวกเขาให้จัดระเบียบสาวกของท่านยังไงเพื่อทำงานประกาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ (มธ. 24:45) นอกจากนั้น เราจะดูว่าเราแต่ละคนต้องทำอะไรบ้างเพื่อจะสนับสนุนพระเยซูและทาสที่ซื่อสัตย์
พระเยซูดูแลงานประกาศ
3. พระเยซูได้รับอำนาจอะไร?
3 พระเยซูดูแลงานประกาศอยู่ตอนนี้ เรารู้ได้ยังไง? ก่อนที่พระเยซูจะไปสวรรค์ ท่านได้เจอกับสาวกหลายคนบนภูเขาในแคว้นกาลิลี ท่านบอกพวกเขาว่า “พระเจ้ามอบอำนาจให้ผมปกครองทุกสิ่งในสวรรค์และบนโลกนี้แล้ว” และขอสังเกตสิ่งที่ท่านพูดกับพวกเขาในประโยคถัดไป ท่านบอกว่า “ดังนั้น ให้พวกคุณไปสอนคนทุกชาติให้เป็นสาวก” (มธ. 28:) เราเห็นเลยว่าอำนาจอย่างหนึ่งที่พระเยซูได้รับจากพระยะโฮวาก็คือการดูแลงานประกาศ 18, 19
4. เรามั่นใจได้ยังไงว่าพระเยซูยังดูแลงานประกาศอยู่ในตอนนี้?
4 พระเยซูบอกว่าจะมีการประกาศและการสอนคนให้เป็นสาวกใน “ทุกชาติ” และท่านยังบอกอีกว่าท่านจะอยู่กับพวกสาวกของท่าน “จนถึงสมัยสุดท้ายของโลกนี้” (มธ. 28:20) จากคำพูดของพระเยซูทำให้เราเห็นว่าท่านยังคงดูแลงานประกาศเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้จริง ๆ
5. เรากำลังมีส่วนช่วยให้คำพยากรณ์ในสดุดี 110:3 เกิดขึ้นจริงยังไง?
5 พระเยซูไม่ได้เป็นห่วงว่าในสมัยสุดท้ายจะมีคนทำงานประกาศพอไหม เพราะท่านรู้ว่าคำพยากรณ์ในหนังสือสดุดีจะเกิดขึ้นจริงที่บอกว่า “ประชาชนของท่านจะเต็มใจเสนอตัวในวันที่ท่านนำทัพออกไปรบ” (สด. 110:3) ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการทำงานประกาศ คุณก็กำลังสนับสนุนพระเยซูและทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม และคุณกำลังมีส่วนช่วยให้คำพยากรณ์นี้เกิดขึ้นจริง งานนี้ก้าวหน้าไปอย่างดีแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอะไร?
6. อย่างหนึ่งที่ทำให้งานประกาศในทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายคืออะไร?
6 อย่างแรกที่ทำให้งานประกาศไม่ใช่เรื่องง่ายก็คือการต่อต้าน พวกคนทรยศพระเจ้า ผู้นำศาสนา และนักการเมืองพยายามทำให้หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับงานของเรา แล้วถ้าญาติของเรา คนรู้จัก หรือเพื่อนในที่ทำงานได้ยินข้อมูลผิด ๆ เหล่านั้น พวกเขาก็อาจจะกดดันเราให้เลิกรับใช้พระยะโฮวาและเลิกประกาศ ในบางประเทศการต่อต้านอาจมาในรูปแบบการข่มขู่ ใช้กำลัง หรืออาจถึงขั้นจับเราขังคุกด้วยซ้ำ เราไม่แปลกใจเลยที่เป็นแบบนั้น เพราะพระเยซูบอกล่วงหน้าว่า “ทุกประเทศจะเกลียดชังคุณเพราะคุณเป็นสาวกของผม” (มธ. 24:9) การที่เราโดนเกลียดอย่างนี้พิสูจน์ว่าเราเป็นสาวกของพระเยซูและเรากำลังทำให้พระยะโฮวาพอใจ (มธ. 5:11, 12) มารซาตานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการต่อต้านทั้งหมดนี้แต่มันก็ไม่มีอำนาจเหนือพระเยซู ถ้าพระเยซูช่วย งานประกาศนี้ก็จะไปถึงคนทุกชาติแน่นอน
7. คุณเห็นหลักฐานอะไรว่าวิวรณ์ 14:6, 7 กำลังเกิดขึ้นจริง?
7 อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้การประกาศไม่ใช่เรื่องง่ายก็คือภาษา พระเยซูให้อัครสาวกยอห์นเห็นนิมิตที่ทำให้รู้ว่าในสมัยของเราจะมีการเอาชนะอุปสรรคในเรื่องนี้ (อ่านวิวรณ์ 14:6, 7) มีการทำแบบนั้นยังไง? เราพยายามช่วยผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ให้ได้ยินข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระเจ้า ในทุกวันนี้ผู้คนทั่วโลกสามารถอ่านหนังสือและสื่อต่าง ๆ ที่อธิบายคัมภีร์ไบเบิลบนเว็บไซต์ jw.org มากกว่า 1,000 ภาษา และคณะกรรมการปกครองก็ให้แปลหนังสือชีวิตที่มีความสุขตลอดไป มากกว่า 700 ภาษาซึ่งหนังสือนี้เป็นหนังสือหลักที่เราใช้ในการสอนคัมภีร์ไบเบิล นอกจากนั้น ยังมีวีดีโอภาษามือสำหรับคนหูหนวกและหนังสืออักษรเบรลล์สำหรับคนตาบอดด้วย เราเห็นเลยว่าคำพยากรณ์ต่าง ๆ กำลังเกิดขึ้นจริง คน “จากทุกชาติทุกภาษา” จะเรียน “ภาษาบริสุทธิ์” ซึ่งก็คือความจริงในคัมภีร์ไบเบิล (ศคย. 8:23; ศฟย. 3:9) สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเกิดขึ้นจริงได้เพราะพระเยซูกำลังดูแลงานนี้
8. งานประกาศของเรามีผลขนาดไหน?
8 ทุกวันนี้มีมากกว่า 8 ล้านคนจาก 240 ดินแดนที่อยู่ในองค์การของพระเจ้า และทุกปีมีคนเป็นแสนที่รับบัพติศมา แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าตัวเลขก็คือพี่น้อง ใหม่เหล่านี้ปลูกฝัง “ลักษณะนิสัยใหม่” แบบคริสเตียน (คส. 3:8-10) หลายคนเลิกใช้ชีวิตแบบผิดศีลธรรมและเลิกใช้ความรุนแรง รวมทั้งเลิกมีอคติและชาตินิยม นอกจากนั้น คำพยากรณ์ในอิสยาห์ 2:4 ที่บอกว่าพวกเขา “ไม่เรียนทำสงครามอีกต่อไป” ก็เกิดขึ้นจริงด้วย เมื่อเราพยายามสุดความสามารถที่จะปลูกฝังลักษณะนิสัยใหม่ หลายคนก็ประทับใจจนเข้ามาในองค์การของพระเจ้า และนี่ก็แสดงว่าเราติดตามพระเยซูที่เป็นผู้ดูแลของเรา (ยน. 13:35; 1 ปต. 2:12) เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นเพราะพระเยซูช่วยเราให้ทำได้
พระเยซูแต่งตั้งทาส
9. ในมัทธิว 24:45-47 พระเยซูบอกล่วงหน้าไว้ยังไงเกี่ยวกับสมัยสุดท้าย?
9 อ่านมัทธิว 24:45-47 พระเยซูบอกล่วงหน้าว่า ในสมัยสุดท้ายท่านจะแต่งตั้ง “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” ให้เตรียมความรู้ที่เสริมความเชื่อซึ่งเป็นเหมือนอาหาร เราเลยคาดหมายได้ว่าพวกเขาต้องทำงานหนักแน่ ๆ ในสมัยของเรา และก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ พระเยซูผู้ดูแลของเราใช้ผู้ถูกเจิมกลุ่มเล็ก ๆ นี้ให้แจกจ่าย “อาหาร . . . ตามเวลาที่เหมาะสม” กับคนของพระเจ้ารวมถึงคนที่สนใจคัมภีร์ไบเบิลด้วย ผู้ถูกเจิมไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นนายที่คอยควบคุมความเชื่อพี่น้อง (2 คร. 1:24) แต่พวกเขายอมรับว่าพระเยซูเป็น “ผู้นำและเป็นผู้บัญชาการ”—อสย. 55:4
10. หนังสือเล่มไหนในภาพที่ช่วยให้คุณมีโอกาสได้มารับใช้พระยะโฮวา?
10 ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุมเตรียมคู่มือการสอนคัมภีร์ไบเบิลสำหรับคนใหม่ ๆ ตั้งแต่ปี 1919 ในปี 1921 ทาสที่ซื่อสัตย์ได้ทำหนังสือพิณของพระเจ้า เพื่อช่วยคนสนใจให้เรียนรู้ความจริงพื้นฐานในคัมภีร์ไบเบิล ต่อมาก็มีการออกหนังสืออีกหลายเล่ม เช่น “จงให้พระเจ้าเป็นองค์สัตย์จริง” ความจริงซึ่งนำไปสู่ชีวิตถาวร ท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปในอุทยานบนแผ่นดินโลก ความรู้ซึ่งนำไปสู่ชีวิตนิรันดร์ คัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? เรียนคัมภีร์ไบเบิลแล้วได้อะไร? รวมถึงหนังสือเล่มล่าสุด ชีวิตที่มีความสุขตลอดไป หนังสือเล่มไหนช่วยคุณให้รู้จักและรักพระยะโฮวา? หนังสือทั้งหมดนี้ขององค์การถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเราให้สอนคนให้เป็นสาวก และหนังสือแต่ละเล่มก็ออกมาอย่างที่เหมาะกับเวลาจริง ๆ
11. ทำไมเราทุกคนต้องได้รับความรู้ที่เสริมความเชื่อ?
11 ไม่ใช่แค่คนสนใจใหม่เท่านั้นที่ต้องได้รับความรู้ที่ลึกซึ้งหรืออาหารแข็งที่เสริมความเชื่อ เราทุกคนก็จำเป็นด้วย อัครสาวกเปาโลบอกว่า “อาหารแข็งเป็นอาหารสำหรับผู้ใหญ่” และเขายังบอกอีกว่าการได้รับอาหารแข็งหรือความรู้ที่ลึกซึ้งนี้จะช่วยเรา “แยกออกว่าอะไรถูกอะไรผิด” (ฮบ. 5:14) ในสมัยสุดท้ายนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะทำตามมาตรฐานของพระยะโฮวาเพราะคนทุกวันนี้มีศีลธรรมที่เสื่อมมาก พระเยซูเลยเห็นว่าเราต้องได้รับความรู้ที่เสริมความเชื่อ และแหล่งของความรู้นี้ก็ต้องมาจากคัมภีร์ไบเบิล ท่านก็เลยให้ทาสที่ซื่อสัตย์เตรียมและแจกจ่ายความรู้นี้ให้กับพวกเรา
12. เรายกย่องชื่อของพระเจ้ายังไง?
12 เรายกย่องชื่อของพระยะโฮวาเหมือนที่พระเยซูทำ (ยน. 17:6, 26) เช่น ในปี 1931 เราใช้ชื่อพยานพระยะโฮวาซึ่งเป็นชื่อที่มาจากคัมภีร์ไบเบิล การใช้ชื่อนี้ทำให้คนอื่นเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับชื่อของพระยะโฮวาขนาดไหนและเราอยากถูกเรียกตามชื่อของพระองค์ (อสย. 43:10-12) ตั้งแต่เดือนตุลาคมของปี นั้นมีการใช้ชื่อของพระยะโฮวาบนหน้าปกวารสารหอสังเกตการณ์ นอกจากนั้น เราได้ใส่ชื่อพระยะโฮวาในคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ ในที่ที่ควรจะอยู่ด้วย ซึ่งต่างกันกับคริสตจักรต่าง ๆ อย่างลิบลับที่เอาชื่อพระยะโฮวาออกจากฉบับแปลของพวกเขา
พระเยซูจัดระเบียบสาวกของท่าน
13. อะไรทำให้คุณมั่นใจว่าพระเยซูกำลังใช้ “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” ในทุกวันนี้? (ยอห์น 6:68)
13 พระเยซูใช้ “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” จัดระเบียบสาวกของท่านให้เป็นองค์การเพื่อสนับสนุนการนมัสการแท้ คุณรู้สึกยังไงกับองค์การนี้? คุณอาจคิดถึงคำพูดของอัครสาวกเปโตรที่พูดกับพระเยซูว่า “พวกเราจะไปหาใครได้อีก? ในเมื่อท่านเองมีคำสอนที่ให้ชีวิตตลอดไป” (ยน. 6:68) ลองคิดดูว่าถ้าเราไม่มีโอกาสรู้จักองค์การของพระยะโฮวา ชีวิตเราจะเป็นยังไง พระเยซูใช้องค์การนี้จัดเตรียมความรู้ที่ช่วยให้เรามีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระยะโฮวา และท่านยังสอนเราให้ทำงานรับใช้ได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนั้น พระเยซูช่วยเราให้ปลูกฝัง “ลักษณะนิสัยใหม่” ที่ทำให้พระยะโฮวาพอใจ—อฟ. 4:24
14. คุณได้ประโยชน์ยังไงที่ได้อยู่ในองค์การของพระยะโฮวาในช่วงการระบาดของโควิด-19?
14 พระเยซูให้คำแนะนำที่ฉลาดในช่วงวิกฤตินี้ด้วย เราเห็นเรื่องนี้ได้ชัดเจนในช่วงการระบาดของโควิด-19 ขณะที่คนทั่วไปในโลกไม่รู้ว่าควรทำยังไง แต่พระเยซูก็ให้คำแนะนำผ่านทางองค์การที่ช่วยให้ชีวิตของเราปลอดภัยจริง ๆ เช่น ให้ใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะและให้รักษาระยะห่างทางสังคม องค์การยังเตือนผู้ดูแลให้คอยติดต่อพี่น้องทุกคนในประชาคมเป็นประจำเพื่อจะเช็กดูว่าพี่น้องสบายดีไหมและยังมีความ เชื่อเข้มแข็งอยู่ไหม (อสย. 32:1, 2) นอกจากนั้น เรายังได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมและกำลังใจจากรายงานจากคณะกรรมการปกครองด้วย
15. ในช่วงโควิด-19 ระบาด เราได้รับคำแนะนำยังไงบ้างเกี่ยวกับการประชุมและการประกาศ? และผลเป็นยังไง?
15 ในช่วงการระบาดของโควิด-19 เรายังได้รับคำแนะนำที่ชัดเจนเรื่องการประชุมและการประกาศด้วย เช่น องค์การของเราได้มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับการประชุมประชาคม การประชุมหมวด และการประชุมภูมิภาคโดยให้มีการประชุมทั้งหมดนี้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต และเรายังเปลี่ยนไปประกาศทางโทรศัพท์และทางจดหมายด้วย พระยะโฮวาอวยพรองค์การเราจริง ๆ หลายสาขาแจ้งว่าจำนวนผู้ประกาศเพิ่มขึ้นอย่างมาก และพี่น้องหลายคนได้ประสบการณ์ดี ๆ ในช่วงนั้นด้วย—ดูกรอบ “ พระยะโฮวาอวยพรงานประกาศของเรา”
16. เรามั่นใจได้ในเรื่องอะไร?
16 บางคนรู้สึกว่าองค์การเรากังวลมากเกินไปเรื่องโควิด-19 แต่ทุกครั้งที่ผ่านมา เราเห็นเลยว่าคำแนะนำที่องค์การให้กับเราเป็นคำแนะนำที่ฉลาดจริง ๆ (มธ. 11:19) เมื่อเราคิดถึงวิธีที่พระยะโฮวาชี้นำเราด้วยความรัก เราก็มั่นใจว่าไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง พระยะโฮวากับพระเยซูจะอยู่กับเราแน่นอน—อ่านฮีบรู 13:5, 6
17. คุณรู้สึกยังไงที่อยู่ภายใต้การดูแลของพระเยซู?
17 เรามีความสุขจริง ๆ ที่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของพระเยซู เราอยู่ในองค์การที่ไม่ได้ถูกแบ่งแยกเพราะวัฒนธรรม เชื้อชาติ หรือภาษา เราได้รับการสอนจากคัมภีร์ไบเบิลและได้รับการฝึกอย่างดีเพื่อทำงานประกาศ เราถูกสอนให้ปลูกฝังลักษณะนิสัยใหม่และเรียนรู้ที่จะรักกัน เราภูมิใจจริง ๆ ที่มีพระเยซูเป็นผู้ดูแลของเรา
เพลง 16 สรรเสริญพระยะโฮวาสำหรับลูกชายที่พระองค์แต่งตั้ง
^ ในทุกวันนี้มีคนเป็นล้าน ๆ คนทั้งผู้ชายผู้หญิงและเด็ก ๆ กำลังประกาศข่าวดีอย่างขยันขันแข็ง คุณเป็นคนหนึ่งในพวกเขาไหม? ถ้าใช่ คุณก็กำลังทำงานภายใต้การดูแลของพระเยซู ในบทความนี้เราจะมาดูว่ามีหลักฐานอะไรบ้างที่แสดงว่าพระเยซูกำลังชี้นำการประกาศในทุกวันนี้ การคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับเรื่องนี้จะช่วยเราให้ตั้งใจรับใช้พระยะโฮวาและอยู่ใต้การชี้นำของพระเยซูต่อ ๆ ไป
[เชิงอรรถ]
^ (อังกฤษ 1946)
^ (อังกฤษ 1968)
^ (อังกฤษ 1982)
^ (อังกฤษ 2015)