บทความศึกษา 39
“ดูนั่น! มีชนฝูงใหญ่”
“ดูนั่น! มีชนฝูงใหญ่ที่ไม่มีใครนับจำนวนได้ . . . ยืนอยู่หน้าบัลลังก์และหน้าลูกแกะของพระเจ้า”—วว. 7:9
เพลง 60 นี่หมายถึงชีวิตผู้คน
ใจความสำคัญ *
1. อัครสาวกยอห์นเจอสถานการณ์อะไรในช่วงปี ค.ศ. 95?
ประมาณปี ค.ศ. 95 อัครสาวกยอห์นเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก เขาอายุมากแล้วและถูกขังอยู่ที่เกาะปัทมอส ดูเหมือนว่าเขาเป็นอัครสาวกคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ (วว. 1:9) เขารู้ว่าคนที่ทรยศพระเจ้ากำลังสอนคำสอนผิด ๆ และทำให้เกิดการแตกแยก และอาจดูเหมือนว่าอีกหน่อยคริสเตียนแท้จะไม่มีเหลืออยู่เลย—ยด. 4; วว. 2:15, 20; 3:1, 17
2. ตามที่บอกไว้ในวิวรณ์ 7:9-14 ยอห์นเห็นนิมิตที่น่าตื่นเต้นอะไร? (ดูภาพหน้าปก)
2 ตอนที่ยอห์นกำลังเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากเหล่านี้ พระยะโฮวาให้เขาเห็นนิมิตที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับอนาคต ในนิมิตนั้นทูตสวรรค์องค์หนึ่งบอกทูตสวรรค์อีก 4 องค์ให้ห้ามลมที่จะทำลายล้างในความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ จนกว่าการประทับตราครั้งสุดท้ายให้กับทาสกลุ่มหนึ่งของพระเจ้าจะเสร็จสิ้น (วว. 7:1-3) ทาสกลุ่มนี้อยู่ในจำนวน 144,000 คนซึ่งจะปกครองกับพระเยซูในสวรรค์ (ลก. 12:32; วว. 7:4) แล้วยอห์นก็เห็นคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีมากมายมหาศาลจนทำให้เขาพูดออกมาว่า “ดูนั่น!” คำพูดนี้อาจแสดงว่ายอห์นตกใจเพราะเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิด เขาเห็นอะไร? “มีชนฝูงใหญ่ที่ไม่มีใครนับจำนวนได้ จากทุกประเทศ ทุกตระกูล ทุกชนชาติ และทุกภาษา ยืนอยู่หน้าบัลลังก์และหน้าลูกแกะของพระเจ้า” (อ่านวิวรณ์ 7:9-14) ลองคิดดูสิว่าตอนนั้นยอห์นคงมีความสุขขนาดไหนที่เห็นว่าในอนาคตจะมีผู้คนมากมายมานมัสการพระยะโฮวาในวิธีที่ถูกต้อง
3. (ก) ทำไมนิมิตที่ยอห์นเห็นถึงทำให้เรามีความเชื่อเข้มแข็งขึ้น? (ข) เราจะได้เรียนอะไรในบทความนี้?
3 เราแน่ใจว่านิมิตนั้นทำให้ยอห์นมีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นแน่ ๆ และนิมิต
นั้นก็น่าจะทำให้เรามีความเชื่อเข้มแข็งมากกว่านั้นอีกเพราะเราอยู่ในสมัยสุดท้ายซึ่งสิ่งที่บอกในนิมิตนั้นกำลังเกิดขึ้น หลายล้านคนเข้ามานมัสการพระยะโฮวาและมีความหวังว่าจะรอดชีวิตผ่านความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่แล้วได้อยู่ตลอดไปบนโลก ในบทความนี้เราจะได้เรียนว่าพระยะโฮวาเปิดเผยกับคนของพระองค์อย่างไรว่าชนฝูงใหญ่เป็นใคร ซึ่งพระองค์บอกเรื่องนี้ไว้มากกว่า 80 ปีมาแล้ว และเราจะเรียนลักษณะ 2 อย่างของชนฝูงใหญ่คือ (1) มีจำนวนมากมาย และ (2) มาจากทั่วโลก การเรียนรู้เรื่องเหล่านี้จะทำให้ทุกคนที่มีความหวังว่าจะเป็นชนฝูงใหญ่มีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นชนฝูงใหญ่จะอยู่ที่ไหน?
4. คริสตจักรต่าง ๆ ไม่ได้เข้าใจความจริงเรื่องอะไรในคัมภีร์ไบเบิล? แต่กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเข้าใจต่างออกไปอย่างไร?
4 คริสตจักรไม่ได้สอนความจริงในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่าวันหนึ่งมนุษย์ที่เชื่อฟังจะมีชีวิตตลอดไปบนโลก (2 คร. 4:3, 4) ทุกวันนี้ นิกายส่วนใหญ่ของคริสตจักรสอนว่าคนดีทุกคนไปสวรรค์หลังจากตายไปแล้ว แต่กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล *กลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งเริ่มพิมพ์วารสารหอสังเกตการณ์ ในปี 1879 สอนต่างออกไป พวกเขาเข้าใจว่าพระเจ้าจะทำให้โลกกลายเป็นสวนอุทยานอีกครั้งและมนุษย์หลายล้านคนที่เชื่อฟังจะมีชีวิตตลอดไปบนโลกนี้ไม่ใช่ในสวรรค์ แต่ยังอีกหลายปีกว่าที่กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลจะเข้าใจชัดเจนว่าใครคือคนที่เชื่อฟังกลุ่มนั้น—มธ. 6:10
5. กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับคน 144,000 คน?
5 นอกจากนั้น กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเข้าใจจากคัมภีร์ไบเบิลว่า คนกลุ่มหนึ่งที่ถูก “ซื้อไว้จากโลก” นี้จะไปปกครองกับพระเยซูในสวรรค์ (วว. 14:3) คนกลุ่มนั้นมีจำนวน 144,000 คน พวกเขาเป็นคริสเตียนที่กระตือรือร้นและอุทิศตัวให้พระเจ้าซึ่งรับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์ตอนที่อยู่บนโลก แล้วสำหรับเรื่องชนฝูงใหญ่ กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเชื่ออย่างไร?
6. กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเคยเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับชนฝูงใหญ่?
6 ในนิมิตที่ยอห์นเห็น เขาเห็นชนฝูงใหญ่ “ยืนอยู่หน้าบัลลังก์และหน้าลูกแกะของพระเจ้า” (วว. 7:9) ข้อนี้ทำให้กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลสรุปว่าชนฝูงใหญ่จะไปสวรรค์เหมือนกับคน 144,000 คน ถ้ากลุ่ม 144,000 คนกับชนฝูงใหญ่จะไปสวรรค์ทั้งคู่ ทั้งสองกลุ่มนี้จะต่างกันอย่างไร? กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลคิดว่าชนฝูงใหญ่จะต้องเป็นคริสเตียนที่ไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้าอย่างเต็มที่ตอนอยู่บนโลก แม้พวกเขาทำตามมาตรฐานด้านศีลธรรมของคัมภีร์ไบเบิล แต่บางคนก็ยังเป็นสมาชิกของโบสถ์อยู่ กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลสมัยนั้นเลยสรุปว่าชนฝูงใหญ่มีความรักต่อพระเจ้าในระดับหนึ่งแต่ยังไม่มากพอ เลยทำให้พวกเขาไม่สามารถไปปกครองร่วมกับพระเยซูได้ ชนฝูงใหญ่มีคุณสมบัติที่จะไปสวรรค์และยืนอยู่หน้าบัลลังก์ แต่ไม่ได้นั่งบนบัลลังก์
7. (ก) กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเคยเชื่อว่าใครจะอยู่บนโลกในช่วงสมัยพันปีที่พระเยซูปกครอง? (ข) พวกเขาเคยเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับคนที่ซื่อสัตย์ในสมัยโบราณ?
7 แล้วใครอยู่บนโลก? กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเชื่อว่าหลังจากที่ทั้ง 144,000 คนกับชนฝูงใหญ่ไปสวรรค์แล้ว มนุษย์อีกหลายล้านคนจะได้รับอนุญาตให้อยู่บนโลกเพื่อจะได้ประโยชน์จากพรต่าง ๆ ในช่วงสมัยพันปีที่พระเยซูปกครอง กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้คิดว่าหลายล้านคนนี้จำเป็นต้องรับใช้พระยะโฮวาก่อนสมัยพันปีเริ่มต้น แต่คิดว่าคนกลุ่มนี้จะเรียนรู้เรื่องสด. 45:16
พระยะโฮวาในช่วงสมัยพันปีที่พระเยซูปกครอง และหลังจากนั้น คนที่ทำตามมาตรฐานของพระเจ้าก็จะได้รับพรให้อยู่ตลอดไปบนโลก ส่วนคนที่ไม่เชื่อฟังจะถูกทำลาย นอกจากนั้น กลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเชื่อว่าบางคนในกลุ่ม “เจ้านาย” ที่อยู่บนโลกในช่วงสมัยพันปีที่พระเยซูปกครองจะได้ไปสวรรค์ตอนสิ้นสุดสมัยพันปี และยังเชื่อว่าคนที่อยู่ในกลุ่ม “เจ้านาย” นั้นหมายรวมถึงผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ในสมัยโบราณซึ่งตายก่อนพระเยซูคริสต์—8. นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเชื่อว่ามีคน 3 กลุ่มอะไรบ้าง?
8 นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเชื่อว่ามีคน 3 กลุ่มคือ (1) คน 144,000 คนที่จะไปปกครองกับพระเยซูในสวรรค์ (2) ชนฝูงใหญ่ซึ่งเป็นคริสเตียนที่รักพระเจ้าไม่มากพอ พวกเขาจะยืนอยู่หน้าบัลลังก์และหน้าลูกแกะของพระเจ้าในสวรรค์ และ (3) หลายล้านคนบนโลกที่จะได้เรียนรู้เรื่องพระยะโฮวาในช่วงสมัยพันปีที่พระเยซูปกครอง * แต่ในที่สุดเมื่อถึงเวลาที่พระยะโฮวากำหนดไว้ แสงแห่งความจริงในเรื่องนี้ก็สว่างขึ้น—สภษ. 4:18
แสงแห่งความจริงที่สว่างขึ้น
9. (ก) ชนฝูงใหญ่ “ยืนอยู่หน้าบัลลังก์และหน้าลูกแกะของพระเจ้า” ได้อย่างไร? (ข) ทำไมความเข้าใจใหม่ของกลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับวิวรณ์ 7:9 ถึงสมเหตุสมผล?
9 ในปี 1935 พยานพระยะโฮวาเข้าใจชัดเจนขึ้นว่าใครคือชนฝูงใหญ่ในนิมิตที่ยอห์นเห็น พวกเขาได้เข้าใจว่าชนฝูงใหญ่ไม่ต้องไปสวรรค์จริง ๆ เพื่อจะไป “ยืนอยู่หน้าบัลลังก์และหน้าลูกแกะของพระเจ้า” แทนที่จะเป็นอย่างนั้น แม้ชนฝูงใหญ่จะยังอยู่บนโลกแต่พวกเขาก็ “ยืนอยู่หน้าบัลลังก์” ได้โดยยอมรับว่าพระยะโฮวาเป็นผู้ปกครองเอกภพและยอมรับอำนาจของพระองค์โดยการเชื่อฟัง (อสย. 66:1) นอกจากนั้น พวกเขายัง ‘ยืนอยู่หน้าลูกแกะของพระเจ้า’ ได้โดยแสดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู คล้ายกัน มัทธิว 25:31, 32 บอกว่า “คนทุกชาติ” รวมทั้งคนชั่วจะ “ถูกรวบรวมมาอยู่ต่อหน้า” พระเยซูที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อันยิ่งใหญ่ เห็นได้ชัดว่า “คนทุกชาติ” ไม่ได้อยู่ในสวรรค์แต่อยู่บนโลก ข้อคัมภีร์นี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าการ “ยืนอยู่หน้าบัลลังก์” ที่พูดถึงในวิวรณ์ 7:9 ไม่ได้หมายถึงการไปสวรรค์จริง ๆ การปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่นี้ในปี 1935 เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล มันอธิบายว่าทำไมคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าชนฝูงใหญ่ถูกรับไปสวรรค์ และคนเพียงกลุ่มเดียวที่ได้รับคำสัญญาว่าจะมีชีวิตตลอดไปในสวรรค์ก็คือ 144,000 คนซึ่ง “จะเป็นกษัตริย์ปกครองโลก” กับพระเยซู—วว. 5:10
10. ทำไมชนฝูงใหญ่ต้องได้รับการสอนเรื่องของพระยะโฮวาก่อนสมัยพันปีเริ่มต้น?
10 ตั้งแต่ปี 1935 พยานพระยะโฮวาเข้าใจว่าชนฝูงใหญ่ในนิมิตที่ยอห์นเห็นคือกลุ่มคริสเตียนที่ซื่อสัตย์ซึ่งมีความหวังจะมีชีวิตตลอดไปบนโลก และเพื่อที่คนกลุ่มนี้จะรอดชีวิตผ่านความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ได้ พวกเขาจะต้องเรียนรู้เรื่องพระยะโฮวาและเริ่มนมัสการพระองค์ก่อนสมัยพันปีเริ่มต้น ซึ่งนั่นจะช่วยพวกเขามีความเชื่อเข้มแข็งเพื่อจะอดทนและ “รอดจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น” ก่อนการปกครองสมัยพันปีของพระคริสต์—ลก. 21:34-36
11. ทำไมบางคนในกลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลถึงคิดว่าบางคนอาจจะไปสวรรค์ตอนสิ้นสุดสมัยพันปี?
11 แล้วความคิดที่ว่าบางคนในกลุ่มคนที่รับใช้อย่างซื่อสัตย์บนโลกจะได้ไปสวรรค์ตอนสิ้นสุดสมัยพันปีล่ะ? แนวความคิดนี้เห็นได้ในหอสังเกตการณ์ 15 กุมภาพันธ์ 1913 ซึ่งอาศัยเหตุผลทำนองนี้ว่า ‘ทำไมคนที่ซื่อสัตย์
ในสมัยโบราณบางคนจะได้อยู่ตลอดไปแค่บนโลก ในเมื่อคริสเตียนที่ไม่ได้แสดงความซื่อสัตย์เท่าพวกเขาจะได้ไปสวรรค์?’ แน่นอนว่าความคิดนี้ได้รับอิทธิพลจากความเข้าใจผิด 2 อย่างคือ (1) ชนฝูงใหญ่จะไปสวรรค์ และ (2) ชนฝูงใหญ่คือคริสเตียนที่ซื่อสัตย์น้อยกว่า12-13. ทั้งผู้ถูกเจิมและชนฝูงใหญ่รู้ว่าพวกเขาได้รับรางวัลเพราะอะไร?
12 แต่อย่างที่เราได้เห็นไปแล้ว ตั้งแต่ปี 1935 พยานพระยะโฮวาเข้าใจชัดเจนว่าคนที่รอดชีวิตผ่านอาร์มาเกดโดนคือชนฝูงใหญ่ในนิมิตที่ยอห์นเห็น คนเหล่านี้จะ “ผ่านความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่” ที่เกิดขึ้นบนโลก และพวกเขาจะ “ตะโกนไม่หยุดว่า ‘ความรอดมาจากพระเจ้าของเราผู้นั่งบนบัลลังก์ และมาจากลูกแกะของพระองค์’” (วว. 7:10, 14) นอกจากนั้น คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าคนที่ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายและไปสวรรค์จะได้รับ “สิ่งที่ดีกว่า” คนซื่อสัตย์ในสมัยโบราณ พยานพระยะโฮวาในสมัยนั้นเลยเข้าใจว่าคนซื่อสัตย์ในสมัยโบราณมีความหวังจะอยู่บนโลกตลอดไป ไม่ใช่ในสวรรค์ (ฮบ. 11:40) เมื่อพี่น้องสมัยนั้นได้รับความเข้าใจใหม่ในเรื่องนี้ พวกเขาจึงเริ่มบอกผู้คนอย่างกระตือรือร้นให้มารับใช้พระเจ้าและมีความหวังที่จะอยู่ตลอดไปบนโลก
13 ชนฝูงใหญ่มีความสุขกับความหวังของพวกเขา พวกเขาเข้าใจว่าพระยะโฮวาเป็นผู้เลือกว่าจะให้ผู้นมัสการที่ซื่อสัตย์ของพระองค์รับใช้ที่ไหนไม่ว่าจะในสวรรค์หรือบนโลก ทั้งผู้ถูกเจิมและชนฝูงใหญ่รู้ว่ารางวัลที่พวกเขาได้รับนั้นเป็นไปได้เพราะความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาโดยทางเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูคริสต์เท่านั้น—รม. 3:24
มีจำนวนมากมาย
14. หลังปี 1935 ทำไมหลายคนยังสงสัยเรื่องคำพยากรณ์เกี่ยวกับชนฝูงใหญ่?
14 หลังจากที่คนของพระยะโฮวาเข้าใจเรื่องนี้ชัดเจนในปี 1935 หลายคนยังสงสัยว่าชนฝูงใหญ่ที่มีความหวังบนโลกจะ “ใหญ่” อย่างที่ว่าได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น โรนัลด์ พาร์คินอายุ 12 ตอนที่ความเข้าใจเรื่องชนฝูงใหญ่ชัดเจนขึ้น เขาเล่าว่า “ตอนนั้นเรามีผู้ประกาศทั่วโลกแค่ประมาณ 56,000 คนและส่วนใหญ่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกเจิม ชนฝูงใหญ่ก็เลยไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่”
15. ชนฝูงใหญ่มีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไร?
15 อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นมีการส่งมิชชันนารีไปประกาศในประเทศต่าง ๆ และจำนวนของพยานพระยะโฮวาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 1968 เริ่มมีการใช้หนังสือความจริงซึ่งนำไปสู่ชีวิตถาวร ในการนำการอสย. 60:22) และไม่กี่ปีมานี้ องค์การของพระยะโฮวาได้ผลิตเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการช่วยผู้คนให้มาเรียนคัมภีร์ไบเบิล เห็นได้ชัดว่าพระยะโฮวากำลังรวบรวมชนฝูงใหญ่เข้ามา และตอนนี้ก็มีจำนวนมากกว่า 8 ล้านคนแล้ว
ศึกษาคัมภีร์ไบเบิล การสอนความจริงในคัมภีร์ไบเบิลแบบเรียบง่ายนี้ทำให้หลายคนมาเรียนรู้เรื่องพระยะโฮวามากกว่าสมัยก่อน ภายใน 4 ปีมีสาวกใหม่รับบัพติศมามากกว่าครึ่งล้านคน นอกจากนั้น คริสตจักรคาทอลิกเริ่มสูญเสียอำนาจในลาตินอเมริกาและประเทศอื่น ๆ แถมมีการยกเลิกคำสั่งห้ามงานของเราในยุโรปตะวันออกและบางส่วนของแอฟริกา เลยทำให้มีอีกหลายล้านคนเข้ามารับบัพติศมาเป็นพยานพระยะโฮวา (มาจากทั่วโลก
16. ชนฝูงใหญ่มาจากที่ไหนบ้าง?
16 ในนิมิต ยอห์นเห็นชนฝูงใหญ่มาจาก “ทุกประเทศ ทุกตระกูล ทุกชนชาติ และทุกภาษา” ก่อนหน้านั้น ผู้พยากรณ์เศคาริยาห์ก็บอกล่วงหน้าคล้าย ๆ กัน เขาเขียนว่า “ในวันนั้นจะมี 10 คนจากทุกชาติทุกภาษามาจับชายเสื้อชาวยิวคนหนึ่งไว้แน่น และบอกว่า ‘พวกเราอยากไปกับคุณ เพราะพวกเราได้ยินว่าพระเจ้าอยู่กับพวกคุณ’”—ศคย. 8:23
17. มีการทำอะไรเพื่อช่วยผู้คนจากทุกประเทศและทุกภาษา?
17 พยานพระยะโฮวารู้ว่าเพื่อที่ชนฝูงใหญ่จะมาจากทุกภาษาได้จะต้องมีการประกาศข่าวดีในหลายภาษา องค์การของเราได้มีการแปลหนังสือและสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลมานานกว่า 130 ปีแล้ว และตอนนี้เรากำลังแปลมากกว่า 900 ภาษาซึ่งเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา เห็นได้ชัดเลยว่า การที่พระยะโฮวากำลังรวบรวมชนฝูงใหญ่จากทุกชาติเป็นการอัศจรรย์ในสมัยปัจจุบันจริง ๆ เนื่องจากมีคัมภีร์ไบเบิลและหนังสือเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลมากมายหลายภาษา ชนฝูงใหญ่จึงนมัสการพระยะโฮวาอย่างเป็นหนึ่งเดียวกันแม้พวกเขาจะอยู่ทั่วโลก และใคร ๆ ก็รู้กันว่าพยานฯ ประกาศอย่างกระตือรือร้นและรักกัน เมื่อเราได้เห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเราก็มีความเชื่อเข้มแข็งจริง ๆ—นิมิตนี้มีความหมายกับเราอย่างไร?
18. (ก) จากอิสยาห์ 46:10, 11 ทำไมเราไม่แปลกใจที่พระยะโฮวาทำให้คำพยากรณ์เกี่ยวกับชนฝูงใหญ่เป็นจริง? (ข) ทำไมคนที่มีความหวังจะอยู่บนโลกไม่รู้สึกว่าถูกทิ้ง?
18 เราตื่นเต้นจริง ๆ เกี่ยวกับคำพยากรณ์เรื่องชนฝูงใหญ่ เราไม่แปลกใจที่พระยะโฮวาทำให้คำพยากรณ์นี้เกิดขึ้นจริงอย่างน่ามหัศจรรย์ (อ่านอิสยาห์ 46:10, 11) ชนฝูงใหญ่เห็นค่าความหวังที่พระยะโฮวาให้กับพวกเขา ถึงพวกเขาไม่ได้ถูกเจิมโดยพลังของพระเจ้าให้ไปรับใช้กับพระเยซูในสวรรค์ แต่พวกเขาไม่รู้สึกว่าถูกทิ้ง เมื่อเราอ่านคัมภีร์ไบเบิล เราได้เห็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ทั้งผู้ชายและผู้หญิงซึ่งได้รับการชี้นำจากพลังบริสุทธิ์ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคน 144,000 คน ยอห์นผู้ให้บัพติศมาก็เป็นหนึ่งในนั้น (มธ. 11:11) รวมทั้งดาวิดด้วย (กจ. 2:34) พวกเขากับคนอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนจะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายและมีชีวิตในสวนอุทยานบนโลก พวกเขาทุกคนรวมทั้งชนฝูงใหญ่จะมีโอกาสแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวาและการปกครองของพระองค์
19. การเข้าใจความหมายของนิมิตเรื่องชนฝูงใหญ่ที่ยอห์นเห็นทำให้เราสำนึกถึงความเร่งด่วนที่จะทำอะไร?
19 นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่พระเจ้ารวบรวมหลายล้านคนจากทุกชาติให้มานมัสการพระองค์ด้วยกัน ไม่ว่าเราจะมีความหวังไปสวรรค์หรืออยู่บนโลก เราต้องช่วยผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ให้มาเป็นชนฝูงใหญ่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “แกะอื่น” (ยน. 10:16) อีกไม่นานพระยะโฮวาจะทำให้ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่อย่างที่บอกไว้ล่วงหน้าเกิดขึ้นจริงซึ่งจะทำลายรัฐบาลกับศาสนาต่าง ๆ ที่ทำให้มนุษย์เป็นทุกข์ ทุกคนที่เป็นชนฝูงใหญ่จะมีโอกาสพิเศษมาก ๆ ที่จะได้รับใช้พระยะโฮวาบนโลกตลอดไป—วว. 7:14
เพลง 139 นึกภาพตัวคุณเมื่อทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นใหม่
^ วรรค 5 บทความนี้จะคุยกันเกี่ยวกับนิมิตที่ยอห์นเห็นซึ่งบอกล่วงหน้าเรื่องการรวบรวม “ชนฝูงใหญ่” เรื่องนี้จะช่วยให้คนที่มีความหวังที่จะได้เป็นชนฝูงใหญ่มีความเชื่อมากขึ้นแน่นอน
^ วรรค 4 ชื่อเรียกพยานพระยะโฮวาสมัยนั้น
^ วรรค 8 ดูหนังสือพยานพระยะโฮวา—ผู้ประกาศราชอาณาจักรของพระเจ้า (ภาษาอังกฤษ) หน้า 159-163