บทความศึกษา 37
คุณไว้ใจพี่น้องได้
“ความรัก . . . เชื่ออยู่เสมอ หวังอยู่เสมอ”—1 คร. 13:7
เพลง 124 ภักดีเสมอไม่เปลี่ยนแปลง
ใจความสำคัญ *
1. ทำไมเราไม่แปลกใจที่ผู้คนในโลกไม่ไว้ใจกัน?
คนในโลกของซาตานไม่รู้เลยว่าจะไว้ใจใครได้บ้าง พวกพ่อค้า นักการเมือง และผู้นำศาสนามีแต่จะทำให้พวกเขาผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า แม้แต่เพื่อนฝูง คนในละแวกบ้าน และคนในครอบครัวก็ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ไว้ใจ พวกเราไม่แปลกใจเลยที่เป็นแบบนี้ เพราะคัมภีร์ไบเบิลบอกไว้แล้วว่า “ในสมัยสุดท้าย . . . คนจะ . . . ไม่ภักดี . . . ชอบใส่ร้ายคนอื่น . . . เป็นคนทรยศ” คนทุกวันนี้เลียนแบบนิสัยของซาตานพระเจ้าของโลกนี้ที่ไว้ใจไม่ได้เลย—2 ทธ. 3:1-4; 2 คร. 4:4
2. (ก) เราไว้ใจใครได้เต็มร้อย? (ข) แต่บางคนอาจสงสัยอะไร?
2 ถึงจะเป็นอย่างนั้น เนื่องจากเราเป็นคริสเตียน เราเลยรู้ว่าเราไว้ใจพระยะโฮวาได้เต็มร้อย (ยรม. 17:7, 8) เรามั่นใจว่าพระองค์รักเราและพระองค์ “จะไม่ทิ้ง” เพื่อนของพระองค์ (สด. 9:10) นอกจากนั้น เรายังไว้ใจพระเยซูได้เพราะท่านสละชีวิตเพื่อเรา (1 ปต. 3:18) และเรายังได้เจอด้วยตัวเองว่าคัมภีร์ไบเบิลมีคำแนะนำที่ไว้ใจได้ด้วย (2 ทธ. 3:16, 17) แน่นอนว่าเราไว้ใจพระยะโฮวา พระเยซู และคัมภีร์ไบเบิลได้ แต่บางคนอาจสงสัยว่าจะไว้ใจพี่น้องในประชาคมได้เสมอไหม ถ้าได้ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เราไว้ใจพวกเขา?
เราต้องมีพี่น้อง
3. เรามีสิทธิพิเศษอะไร? (มาระโก 10:29, 30)
3 พระยะโฮวาเลือกเราให้มาอยู่ในครอบครัวผู้นมัสการพระองค์ นี่เป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ และทำให้เราได้สิ่งดี ๆ มากมาย (อ่านมาระโก 10:) ทั่วโลกมีพี่น้องที่รักพระยะโฮวาเหมือนเราและใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระองค์ แม้เราจะพูดกันคนละภาษา มีวัฒนธรรมต่างกัน และแต่งตัวไม่เหมือนกันแต่เราก็รักกัน ถึงเราจะเจอกันครั้งแรกแต่เราก็รู้สึกสนิทใจ เราชอบอยู่กับพี่น้องเพื่อจะสรรเสริญและนมัสการพระเจ้าของเราด้วยกัน— 29, 30สด. 133:1
4. ทำไมเราต้องมีพี่น้อง?
4 ตอนนี้เรายิ่งต้องเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่าที่เคยเป็นมา บางครั้งเราอาจต้องช่วยแบ่งเบาภาระกันและกันด้วย (รม. 15:1; กท. 6:2) พี่น้องให้กำลังใจเราให้รับใช้พระยะโฮวาต่อไปและมีความเชื่อเข้มแข็ง (1 ธส. 5:11; ฮบ. 10:23-25) ลองคิดดูว่าชีวิตเราจะเป็นยังไงถ้าเราไม่มีพี่น้องในประชาคมคอยช่วยเราให้ยืนหยัดต่อต้านซาตานและโลกชั่วของมัน อีกไม่นานซาตานกับพรรคพวกจะโจมตีคนของพระยะโฮวา ตอนนั้นเราต้องรู้สึกอุ่นใจมากแน่ ๆ ที่มีพี่น้องอยู่เคียงข้างเรา
5. ทำไมบางคนถึงรู้สึกว่ายากที่จะไว้ใจพี่น้อง?
5 แต่บางคนรู้สึกว่ายากที่จะไว้ใจพี่น้อง ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าพวกเขาอาจเคยเล่าความลับให้พี่น้องบางคนฟังและพี่น้องเอาไปเล่าต่อ หรือพี่น้องอาจไม่รักษาสัญญา หรือบางคนในประชาคมอาจพูดหรือทำอะไรบางอย่างให้พวกเขาเจ็บมาก ถ้าอย่างนั้น อะไรจะช่วยให้เราทุกคนไว้ใจพี่น้องของเราได้?
ความรักช่วยให้ไว้ใจ
6. ความรักช่วยเรายังไงให้ไว้ใจคนอื่น? (1 โครินธ์ 13:4-8)
6 ความรักเป็นพื้นฐานของความไว้ใจ ที่ 1 โครินธ์บท 13 พูดถึงแง่มุมต่าง ๆ ของความรักซึ่งจะช่วยให้เราไว้ใจพี่น้องหรือกลับมาไว้ใจพวกเขาอีกครั้ง (อ่าน 1 โครินธ์ 13:4-8) เช่นข้อ 4 บอกว่า “ความรักอดกลั้นและเมตตากรุณา” พระยะโฮวาอดทนกับเราแม้เราจะทำผิดต่อพระองค์หลายอย่าง ดังนั้น เราเลยต้องอดทนกับพี่น้องถ้าเขาพูดหรือทำอะไรให้เราโกรธและเจ็บ ในข้อ 5 บอกว่า “[ความรัก] ไม่โมโหง่าย ไม่จดจำเรื่องที่ทำให้เจ็บใจ” ดังนั้น ถ้าพี่น้องทำให้เราไม่สบายใจ เราจะไม่เอาแต่จำเรื่องนั้นไว้ ที่ปัญญาจารย์ 7:9 บอกว่า “อย่าโกรธง่าย” และเราควรทำตามที่เอเฟซัส 4:26 บอกไว้ด้วยที่ว่า “อย่าโกรธจนถึงดวงอาทิตย์ตก”
7. หลักการที่มัทธิว 7:1-5 ช่วยเรายังไงให้ไว้ใจคนอื่น?
7 อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เราไว้ใจพี่น้องก็คือให้มองพวกเขาเหมือนที่พระยะโฮวามอง พระยะโฮวารักพวกเขา พระองค์ไม่เอาแต่จดจำความผิด เราเองก็ควรเลียนแบบพระองค์ด้วย (สด. 130:3) แทนที่จะเอาแต่มองข้อผิดพลาด ให้พยายามมองหาส่วนดีและพยายามเชื่อมั่นว่าพี่น้องของเราทำดีได้ (อ่านมัทธิว 7:1-5) เราต้องเชื่อว่าพวกเขาอยากทำดีและไม่อยากทำร้ายเรา เพราะความรัก “เชื่ออยู่เสมอ” (1 คร. 13:7) ข้อคัมภีร์นี้ไม่ได้หมายความว่าพระยะโฮวาอยากให้เราหลับหูหลับตาไว้ใจคนอื่น แต่พระองค์อยากให้เราไว้ใจพี่น้องเพราะพวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเราไว้ใจพวกเขาได้ *
8. คุณจะไว้ใจพี่น้องได้ยังไง?
8 การไว้ใจใครสักคนต้องใช้เวลา แล้วคุณจะไว้ใจพี่น้องได้ยังไง? คุณต้องพยายามรู้จักพวกเขาให้ดีขึ้น คุยกับพวกเขาที่การประชุมหรือทำงานรับใช้ด้วยกันก็ได้ ให้คุณอดทนกับพวกเขาและให้โอกาสพวกเขาแสดงให้เห็นว่าคุณไว้ใจพวกเขาได้ ถ้าคุณเพิ่งรู้จักพี่น้องบางคน คุณอาจไม่ได้เล่าเรื่องส่วนตัวให้เขาฟังว่าคุณคิดยังไงหรือรู้สึกยังไง แต่พอสนิทกันมากขึ้นคุณอาจสบายใจที่จะเล่าให้เขาฟังมากขึ้น (ลก. 16:10) แล้วถ้าพี่น้องคนหนึ่งทำลายความไว้ใจของคุณล่ะ? อย่าเพิ่งเลิกคบกับเขาทันที ให้ปล่อยเวลาผ่านไปก่อน ถ้าบางคนทำให้คุณผิดหวัง อย่าเลิกไว้ใจพี่น้องไปซะทุกคน ให้เรามาดูตัวอย่างของผู้รับใช้พระเจ้าที่ซื่อสัตย์ที่แม้บางคนจะทำให้พวกเขาผิดหวัง แต่พวกเขาก็ยังไว้ใจคนอื่น
เรียนจากคนที่ไว้ใจคนอื่น
9. (ก) ฮันนาห์ยังคงไว้ใจพระยะโฮวายังไงแม้ตัวแทนบางคนของพระองค์จะทำผิด? (ข) ประสบการณ์ของฮันนาห์สอนคุณยังไงเรื่องการไว้ใจคนที่พระยะโฮวาเลือกให้ดูแลคนของพระองค์ (ดูภาพ)
9 คุณเคยผิดหวังพี่น้องที่นำหน้าในองค์การไหม? ถ้าใช่ คงจะดีถ้าคุณจะดูตัวอย่างของฮันนาห์ มหาปุโรหิตเอลีเป็นผู้นำในการนมัสการของอิสราเอลในสมัยนั้น แต่เขามีลูกไม่ดี ลูกชายของเขาเป็นปุโรหิตแต่กลับทำผิดศีลธรรมและทำเรื่องน่าอายหลายอย่าง แต่เอลีก็เตือนลูกแค่นิดหน่อย พระยะโฮวาไม่ได้ปลดเอลีออกจากตำแหน่งทันที ถึงอย่างนั้น ฮันนาห์ไม่ได้บอกว่าถ้าเอลียังเป็นมหาปุโรหิตอยู่ เธอจะเลิกไปเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาตอนที่เอลีเห็นฮันนาห์อธิษฐานด้วยความทุกข์ใจอย่างหนัก เขากลับหาว่าเธอเมาเหล้า เขาตำหนิผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้โดยไม่ตรวจสอบให้ดีซะก่อน (1 ซม. 1:12-16) ฮันนาห์ปฏิญาณว่าถ้าเธอมีลูกชาย เธอจะถวายลูกให้รับใช้ที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และเธอก็เต็มใจที่จะทำตามคำปฏิญาณทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลูกของเธอคงจะต้องมาอยู่ภายใต้การดูแลของมหาปุโรหิตเอลี (1 ซม. 1:11) แล้วในที่สุด มีการจัดการกับลูกชายของเอลีที่ทำผิดไหม? แน่นอน พระยะโฮวาจัดการพวกเขาเมื่อถึงเวลา (1 ซม. 4:17) แต่ในระหว่างนั้น พระองค์ก็ให้ฮันนาห์มีลูกชายจริง ๆ ซึ่งก็คือซามูเอล—1 ซม. 1:17-20
10. แม้ดาวิดจะเคยถูกบางคนทรยศหักหลัง แต่เขายังคงไว้ใจคนอื่นยังไง?
10 คุณเคยถูกเพื่อนสนิทหักหลังไหม? ถ้าใช่ ขอให้ดูตัวอย่างของกษัตริย์ดาวิด ดาวิดมีเพื่อนคนหนึ่งชื่ออาหิโธเฟล แต่ตอนที่อับซาโลมลูกชายของดาวิดต้องการชิงบัลลังก์จากพ่อ อาหิโธเฟลกลับไปอยู่ฝ่ายอับซาโลม ดาวิดคงต้องเสียใจมากแน่ ๆ ที่ทั้งลูกชายและเพื่อนที่เขาไว้ใจมากกลับทรยศหักหลังเขา แต่เขาไม่ยอมให้เรื่องนี้มาทำให้เขาเลิกไว้ใจคนอื่น ดาวิดยังคงไว้ใจหุชัยเพื่อนอีกคนของเขาที่ไม่ยอมไปอยู่ฝ่ายกบฏ แล้วดาวิดก็ไว้ใจไม่ผิดคนจริง ๆ เพราะต่อมาหุชัยยอมเสี่ยงชีวิตช่วยดาวิด หุชัยเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ—2 ซม. 17:1-16
11. คนรับใช้คนหนึ่งของนาบาลไว้ใจคนอื่นยังไง?
11 ให้เรามาดูอีกตัวอย่างหนึ่งด้วย นั่นคือคนรับใช้คนหนึ่งของนาบาล ดาวิดกับคนของเขาคอยปกป้องพวกคนรับใช้ของชาวอิสราเอลคนหนึ่งที่ชื่อนาบาลซึ่งเป็นคนรวย ต่อมาดาวิดได้ไปขออาหารอะไรก็ได้จากนาบาลมาให้คนของเขากิน แต่นาบาลกลับไม่ให้ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะช่วยดาวิดเพราะดาวิดก็ช่วยเหลือเขาอยู่ ดาวิดโกรธมากจนบอกว่าจะฆ่าผู้ชายทุกคนในบ้านของนาบาล คนรับใช้คนหนึ่งรีบไปรายงานอาบีกายิลภรรยาของนาบาล คนรับใช้คนนี้รู้เลยว่าเขาจะรอดหรือไม่รอดก็ขึ้นอยู่กับอาบีกายิล และแทนที่เขาจะหนีเอาตัวรอดไปคนเดียว เขาไว้ใจว่าอาบีกายิลจะช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ เขามั่นใจเพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าอาบีกายิลเป็นผู้หญิงฉลาด และเขาก็ไว้ใจไม่ผิดคนจริง ๆ อาบีกายิลลงมือแก้ปัญหาอย่างกล้าหาญโดยพยายามพูด โน้มน้าวดาวิดให้เปลี่ยนใจ (1 ซม. 25:2-35) และอาบีกายิลเองก็ไว้ใจว่าดาวิดจะเป็นคนมีเหตุผล
12. พระเยซูไว้ใจสาวกของท่านยังไงแม้พวกเขาจะทำผิดพลาด?
12 พระเยซูไว้ใจสาวกของท่านแม้พวกเขาจะทำผิดพลาดหลายครั้ง (ยน. 15:15, 16) ตอนที่ยากอบกับยอห์น ขอตำแหน่งพิเศษจากท่าน ท่านก็ไม่ได้สงสัยว่าพวกเขารับใช้พระเจ้าด้วยเจตนาอะไร และไม่ได้ไล่พวกเขาออกจากกลุ่มอัครสาวก (มก. 10:35-40) ต่อมา พวกสาวกทุกคนของพระเยซูทิ้งพระเยซูไปในคืนที่ท่านถูกจับ (มธ. 26:56) แต่ท่านก็ไม่เคยหมดหวังในตัวพวกเขา ท่านรู้ดีว่าพวกเขาไม่สมบูรณ์แบบ และ “ท่านรักพวกเขาต่อไปจนถึงที่สุด” (ยน. 13:1) หลังจากที่พระเยซูฟื้นขึ้นจากตาย ท่านถึงกับให้หน้าที่มอบหมายสำคัญกับพวกอัครสาวกที่ซื่อสัตย์ 11 คนในการนำหน้างานสอนคนให้เป็นสาวก และดูแลฝูงแกะที่มีค่าของท่าน (มธ. 28:19, 20; ยน. 21:15-17) และพระเยซูก็ไว้ใจไม่ผิดคนจริง ๆ สาวกทุกคนรับใช้อย่างซื่อสัตย์จนจบชีวิตบนโลก จากที่เราได้เรียนมาทั้งหมดนี้เราเห็นเลยว่าฮันนาห์ ดาวิด คนรับใช้ของนาบาล และพระเยซูเป็นตัวอย่างที่ดีมากของคนที่ไว้ใจคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ
กลับมาไว้ใจพี่น้องอีกครั้ง
13. อะไรอาจทำให้เราไม่อยากไว้ใจคนอื่น?
13 คุณเคยไว้ใจพี่น้องและเล่าความลับให้เขาฟัง แต่เขากลับเอาเรื่องนั้นไปเล่าให้คนอื่นฟังไหม? คุณคงรู้สึกแย่มาก ๆ พี่น้องหญิงคนหนึ่งก็เคยเจอแบบนั้น เธอเล่าเรื่องส่วนตัวให้ผู้ดูแลคนหนึ่งฟัง แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นภรรยาของผู้ดูแลคนนั้นโทรมาให้กำลังใจเธอ เธอรู้เลยว่าผู้ดูแลต้องเอาเรื่องของเธอไปเล่าให้ภรรยาฟังแน่ ๆ เราเข้าใจเลยว่าพี่น้องหญิงคนนี้คงไม่อยากไว้ใจผู้ดูแลคนนั้นอีกต่อไป แต่เธอทำสิ่งที่ถูกต้อง เธอไปปรึกษาผู้ดูแลอีกคน แล้วผู้ดูแลคนนี้ก็ช่วยเธอให้กลับมาไว้ใจพวกผู้ดูแลอีกครั้ง
14. อะไรช่วยให้พี่น้องชายคนหนึ่งกลับมาไว้ใจพี่น้องอีกครั้ง?
14 พี่น้องชายคนหนึ่งมีปัญหากับผู้ดูแล 2 คนมานานแล้ว และเขารู้สึกไม่ไว้ใจผู้ดูแล 2 คนนี้เลย แต่มีอยู่วันหนึ่งเขาได้ยินพี่น้องคนหนึ่งที่เขานับถือมากพูดว่า “ศัตรูของเราคือซาตาน ไม่ใช่พี่น้อง” มันเป็นคำพูดสั้น ๆ แต่มีพลัง เขาเอาคำพูดนี้เก็บไปคิด แล้วก็อธิษฐานถึงพระยะโฮวาให้ช่วยเขา ในที่สุดเขาก็กลับไปคืนดีกับผู้ดูแล 2 คนนั้นได้
15. ทำไมการกลับมาไว้ใจพี่น้องอีกครั้งอาจต้องใช้เวลา? ขอยกตัวอย่าง
15 คุณเคยเสียสิทธิพิเศษในประชาคมไปไหม? ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณคงรู้สึกแย่มากแน่ ๆ ให้เรามาดูตัวอย่างของเกรเท เกรเทกับแม่เป็นพยานฯ ที่ซื่อสัตย์ในเยอรมนีช่วงสมัยนาซีที่งานของเราถูกสั่งห้าม เกรเทมีความสุขมากที่มีสิทธิพิเศษได้พิมพ์สำเนาวารสารหอสังเกตการณ์ ให้กับพี่น้อง แต่ต่อมาพอพี่น้องรู้ว่าพ่อของเธอต่อต้านพยานฯ พวกเขาก็ไม่ยอมให้เธอทำงานนี้ต่อเพราะกลัวว่าพ่อจะเอาเรื่องของประชาคมไปบอกพวกคนที่ต่อต้าน แต่ไม่ใช่แค่นั้น ตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่น้องไม่ยอมเอาวารสารของเราให้เกรเทกับแม่อ่านสักฉบับเดียว พอเจอกันข้างนอกพวกเขาก็ไม่ยอมคุยกับเธอและแม่เลย คิดดูสิว่าเกรเทกับแม่จะรู้สึกแย่และเจ็บปวดมากขนาดไหน เธอบอกว่าต้องใช้เวลานานมากกว่าเธอจะให้อภัยพี่น้องและกลับมาไว้ใจพวกเขาอีกครั้ง แต่เธอก็รู้ว่าพระยะโฮวาต้องให้อภัยพวกเขาแน่ ๆ เธอก็ควรจะทำเหมือนกัน *
“ศัตรูของเราคือซาตาน ไม่ใช่พี่น้อง”
16. ทำไมเราต้องพยายามกลับมาไว้ใจพี่น้องอีกครั้ง?
16 ถ้าคุณเจอประสบการณ์คล้าย ๆ กันนี้ ขอให้พยายามฝึกที่จะไว้ใจพี่น้องอีกครั้ง เรื่องนี้ต้องใช้เวลาและความพยายามมาก แต่มันคุ้มแน่นอน ลองเปรียบเทียบแบบนี้ ถ้าคุณเคยมีอาการอาหารเป็นพิษ ตอนนั้นคุณคงรู้สึกแย่มาก ๆ และคุณก็คงระวังเรื่องอาหารมากขึ้น แต่คุณคงไม่เลิกกินข้าวไปเลยใช่ไหม? เหมือนกัน ถึงเราอาจต้องเจอเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่กับพี่น้องบางคน เราก็ไม่ควรเลิกไว้ใจพี่น้องทุกคนไปเลยเพราะเรารู้อยู่ว่าทุกคนไม่สมบูรณ์แบบ ถ้าเราพยายามที่จะกลับมาไว้ใจพี่น้องอีกครั้ง เราจะมีความสุขมากขึ้น นอกจากนั้น เราจะพยายามหาวิธีที่จะช่วยให้พี่น้องในประชาคมไว้ใจกันมากขึ้นด้วย
17. ทำไมการไว้ใจกันถึงสำคัญมาก? และเราจะเรียนอะไรในบทความหน้า?
17 คนในโลกของซาตานไว้ใจกันยากมาก แต่ในสังคมพี่น้องของเรา เราไว้ใจกันได้เพราะเรารักกัน การที่เราไว้ใจกันได้แบบนี้ทำให้เรามีความสุขและเป็นหนึ่งเดียว และยังจะปกป้องเราตอนที่ต้องเจอความลำบากในวันข้างหน้าด้วย แต่ถ้าพี่น้องบางคนเคยทำให้คุณผิดหวังและคุณรู้สึกไว้ใจเขาไม่ได้อีกแล้วล่ะ คุณจะทำยังไง? ให้พยายามมองเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างที่พระยะโฮวามอง ทำตามหลักการในคัมภีร์ไบเบิล พยายามรักพี่น้องมากขึ้นและเรียนจากตัวอย่างต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล การทำอย่างนี้จะช่วยคุณให้รู้สึกเจ็บปวดน้อยลงและกลับมาไว้ใจคนอื่นได้อีกครั้ง ถ้าคุณทำแบบนั้นคุณก็จะมีเพื่อนมากมาย “ที่รักกันยิ่งกว่าพี่น้อง” (สภษ. 18:24) แต่การไว้ใจคนอื่นอย่างเดียวยังไม่พอ ตัวเราเองต้องทำให้คนอื่นไว้ใจด้วย ในบทความหน้าเราจะดูว่า เราต้องทำยังไงให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นคนที่ไว้ใจได้
เพลง 99 พี่น้องมากมายมหาศาล
^ เราต้องไว้ใจพี่น้องของเรา แต่บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะพี่น้องอาจทำให้เราผิดหวัง บทความนี้เราจะมาดูหลักการและบางตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิลด้วยกันที่จะช่วยให้เราไว้ใจพี่น้องมากขึ้น และยังช่วยให้เรากลับมาไว้ใจพี่น้องที่อาจเคยทำให้เราผิดหวัง
^ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าอาจมีบางคนในประชาคมที่เราไม่ควรไว้ใจซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย (ยูดา 4) พี่น้องจอมปลอมเหล่านี้อาจ “พูดบิดเบือนความจริง” เพราะอยากให้คนอื่นมีความเชื่อผิด ๆ (กิจการ 20:30) เราจะไม่ไว้ใจคนเหล่านี้และไม่ฟังพวกเขา
^ อ่านประสบการณ์ของพี่น้องเกรเทในหนังสือประจำปีของพยานพระยะโฮวา 1974 (ภาษาอังกฤษ) หน้า 129-131