บทความศึกษา 40
คุณก็พยายามต่อ ๆ ไปและไม่ยอมแพ้ได้เหมือนเปโตร
“นายครับ อย่าอยู่ใกล้ผมเลย ผมเป็นคนบาป”—ลก. 5:8
เพลง 38 พระองค์จะทำให้คุณเข้มแข็ง
ใจความสำคัญ a
1. หลังจากที่พระเยซูช่วยเปโตรจับปลาได้มากมายอย่างอัศจรรย์ เปโตรรู้สึกยังไง?
เปโตรใช้เวลาทั้งคืนเพื่อจะจับปลา แต่เขาจับไม่ได้เลยสักตัว แล้วพระเยซูก็บอกกับเขาว่า “เอาเรือออกไปตรงที่น้ำลึกหน่อย แล้วหย่อนอวนลงจับปลา” (ลก. 5:4) เปโตรสงสัยว่าเขาจะจับปลาได้จริง ๆ เหรอ แต่เขาก็ทำตามที่พระเยซูบอก พอเปโตรกับคนอื่น ๆ หย่อนอวนลงก็จับปลาได้มากมายจนอวนเริ่มจะขาด พวกเขารู้สึก “ตกตะลึง” เมื่อเห็นการอัศจรรย์นี้ เปโตรพูดกับพระเยซูว่า “นายครับ อย่าอยู่ใกล้ผมเลย ผมเป็นคนบาป” (ลก. 5:6-9) เขารู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรที่จะได้อยู่ใกล้พระเยซูด้วยซ้ำ
2. ทำไมการดูตัวอย่างของเปโตรถึงเป็นประโยชน์สำหรับเรา?
2 เปโตรพูดถูกแล้วว่าเขา “เป็นคนบาป” และเมื่อเราอ่านในคัมภีร์ไบเบิล เราก็เห็นว่าบางครั้งเปโตรก็พูดหรือทำสิ่งที่ทำให้เขาเสียใจทีหลัง คุณเองเป็นเหมือนเปโตรไหม? คุณมีจุดอ่อนหรือนิสัยที่ไม่ดีบางอย่างที่คุณอยากจะเลิกมานาน แต่ก็ทำไม่ได้สักทีไหม? ถ้าใช่ คุณจะได้กำลังใจเมื่อดูตัวอย่างของเปโตร ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? ลองคิดดูสิ พระยะโฮวาอาจไม่ให้บันทึกความผิดพลาดของเปโตรก็ได้แต่พระองค์ก็ยังให้มี เพราะอะไร? เพราะพระองค์อยากให้เรื่องราวของเขาเป็นบทเรียนสำหรับเรา (2 ทธ. 3:16, 17) การดูตัวอย่างของเปโตรซึ่งมีจุดอ่อนและมีความรู้สึกเหมือนกันกับเราจะช่วยให้เห็นว่าพระยะโฮวาไม่ได้คาดหมายความสมบูรณ์แบบจากเรา แต่พระองค์อยากให้เราพยายามต่อ ๆ ไปและไม่ยอมแพ้แม้จะมีจุดอ่อน
3. ทำไมเราต้องพยายามต่อ ๆ ไปและไม่ยอมแพ้?
3 ทำไมเราต้องพยายามต่อ ๆ ไปและไม่ยอมแพ้? ภาษิตหนึ่งบอกไว้ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ลองนึกถึงตัวอย่างของนักดนตรี คนที่เป็นนักดนตรีต้องพยายามฝึกซ้อมนานหลายปีถึงจะเล่นได้เก่ง แต่ตลอดหลายปีที่เขาฝึกฝนอย่างหนัก เขาอาจเล่นผิดนับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้าเขาอดทนฝึกต่อไป เขาก็จะเก่งขึ้นแน่ ๆ และถึงเขาจะเป็นนักดนตรีที่เก่งแล้ว บางครั้งเขาก็อาจเล่นผิดได้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้แต่จะพยายามซ้อมไปเรื่อย ๆ เพื่อจะเก่งขึ้นไปอีก เหมือนกันแม้เราจะคิดว่าเอาชนะจุดอ่อนบางอย่างได้แล้ว แต่เราก็อาจกลับไปทำอีก ดังนั้น เราต้องพยายามต่อ ๆ ไป จริง ๆ แล้วเราทุกคนอาจพูดหรือทำอะไรที่ทำให้เสียใจทีหลัง แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้ พระยะโฮวาจะช่วยให้เราปรับปรุงตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ (1 ปต. 5:10) ให้เรามาดูตัวอย่างของเปโตรที่พยายามต่อ ๆ ไปและไม่ยอมแพ้ และดูว่าการที่พระเยซูเมตตาเขาแม้เขาจะทำผิดพลาดจะทำให้เราได้กำลังใจยังไงที่จะรับใช้พระยะโฮวาต่อ ๆ ไป
เปโตรเอาชนะจุดอ่อนและได้พรยังไง?
4. อย่างที่บอกในลูกา 5:5-10 เปโตรพูดถึงตัวเองยังไง? และพระเยซูทำให้เขามั่นใจยังไง?
4 คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าทำไมเปโตรถึงพูดว่าเขา “เป็นคนบาป” และก็ไม่ได้บอกว่าเปโตรคิดถึงความผิดอะไรที่เขาเคยทำ (อ่านลูกา 5:5-10) แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่เปโตรเคยทำผิดร้ายแรงบางอย่าง พระเยซูรู้ว่าทำไมเปโตรถึงกลัว บางทีเขาอาจคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ พระเยซูรู้ด้วยว่าเปโตรจะซื่อสัตย์ต่อท่านเสมอได้แน่ ๆ ดังนั้น ท่านเลยพูดกับเปโตรว่า “ไม่ต้องกลัว” การที่พระเยซูมั่นใจในตัวเปโตรแบบนี้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปเลย เปโตรกับอันดรูว์น้องชายของเขาทิ้งอาชีพประมงและมาเป็นผู้ติดตามพระเยซูเต็มเวลา การตัดสินใจนี้ทำให้เปโตรได้รับพรมากมาย—มก. 1:16-18
5. เปโตรได้พรอะไรบ้างจากการที่เขาเอาชนะความรู้สึกในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเองและมาเป็นสาวกของพระเยซู?
5 ตอนที่เปโตรติดตามพระเยซู เขาได้ประสบการณ์ดี ๆ มากมาย เขาได้เห็นพระเยซูทำการอัศจรรย์หลายอย่าง เช่น รักษาคนป่วย ขับไล่ปีศาจ และถึงกับปลุกคนตายให้ฟื้น b (มธ. 8:14-17; มก. 5:37, 41, 42) นอกจากนั้น เปโตรยังมีโอกาสได้เห็นนิมิตที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับพระเยซูที่ได้เป็นกษัตริย์ในรัฐบาลของพระเจ้า ซึ่งเขาไม่เคยลืมนิมิตนี้เลยตลอดชีวิต (มก. 9:1-8; 2 ปต. 1:16-18) ถ้าเปโตรไม่ได้มาเป็นสาวกของพระเยซู เขาคงไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดนี้และได้รับพรมากมาย เขาต้องดีใจแน่ ๆ ที่สามารถเอาชนะความรู้สึกในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเองได้
6. เปโตรเอาชนะจุดอ่อนของเขาได้อย่างรวดเร็วไหม? ขออธิบาย
6 ถึงเปโตรจะได้ฟังพระเยซูสอนและเห็นสิ่งที่ท่านทำมากมายมาแล้ว เขาก็ยังต้องต่อสู้กับจุดอ่อนของตัว เอง ให้เรามาดูบางอย่างด้วยกัน ตอนที่พระเยซูอธิบายว่าท่านจะต้องทนทุกข์และตายเหมือนที่คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ เปโตรก็ทักท้วงว่าท่านจะไม่เจอแบบนั้นหรอก (มก. 8:31-33) นอกจากนั้น เปโตรกับอัครสาวกคนอื่น ๆ ก็เถียงกันบ่อย ๆ ว่าใครเป็นใหญ่ที่สุด (มก. 9:33, 34) และในคืนสุดท้ายที่พระเยซูมีชีวิตอยู่ เปโตรก็ไปตัดหูผู้ชายคนหนึ่งเพราะความวู่วามของเขา (ยน. 18:10) แถมในคืนเดียวกันนั้นเอง เปโตรกลัวมากจนถึงกับปฏิเสธพระเยซูถึง 3 ครั้ง (มก. 14:66-72) นี่ทำให้เปโตรร้องไห้เสียใจอย่างหนัก—มธ. 26:75
7. หลังจากที่พระเยซูฟื้นขึ้นจากตาย ท่านให้โอกาสอะไรกับเปโตร?
7 แม้เปโตรจะเสียใจและผิดหวังในตัวเองแต่พระเยซูก็ไม่หมดหวังในตัวเขา หลังจากที่พระเยซูฟื้นขึ้นจากตายท่านให้โอกาสเปโตรแสดงว่าเขารักท่านจริง ๆ พระเยซูเชิญเปโตรให้มาดูแลแกะของท่าน (ยน. 21:15-17) และเปโตรก็พร้อมจะทำทุกอย่างที่พระเยซูอยากให้เขาทำ ดังนั้น เปโตรเลยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มในวันเพ็นเทคอสต์ และอยู่ในคนกลุ่มแรกที่ได้รับการเจิมด้วยพลังบริสุทธิ์
8. เปโตรทำผิดพลาดร้ายแรงยังไงที่เมืองอันทิโอก?
8 ถึงแม้เปโตรจะได้รับการเจิมด้วยพลังบริสุทธิ์แล้ว แต่เขาก็ต้องรับมือกับจุดอ่อนของเขาอยู่ ในปี ค.ศ. 36 พระยะโฮวาส่งเปโตรไปหาโคร์เนลิอัสซึ่งเป็นคนต่างชาติที่ไม่ได้เข้าสุหนัต และเปโตรก็ได้เห็นโคร์เนลิอัสได้รับการเจิมด้วยพลังบริสุทธิ์ นี่เห็นได้ชัดเลยว่า “พระเจ้าไม่ลำเอียง” พระองค์ยอมรับคนต่างชาติทุกคนที่เกรงกลัวพระองค์ให้มาอยู่ในประชาคมคริสเตียน (กจ. 10:34, 44, 45) หลังจากเหตุการณ์นั้น เปโตรก็รู้สึกสบายใจที่จะกินข้าวกับคนต่างชาติซึ่งก่อนหน้านั้นเขาคงไม่มีทางทำแบบนี้แน่ ๆ (กท. 2:12) แต่คริสเตียนชาวยิวบางคนรู้สึกว่าชาวยิวกับคนต่างชาติไม่ควรกินข้าวด้วยกัน แล้วพอคนที่คิดแบบนั้นมาที่เมืองอันทิโอก เปโตรก็เลิกกินข้าวกับคริสเตียนที่เป็นคนต่างชาติไปเลยเพราะกลัวว่าจะทำให้คริสเตียนชาวยิวไม่พอใจ พออัครสาวกเปาโลเห็นแบบนี้ก็เลยว่าเปโตรต่อหน้าคนอื่น (กท. 2:13, 14) แม้เปโตรจะทำผิดพลาดในเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่หมดหวังในตัวเองและไม่ยอมแพ้ อะไรคือสิ่งที่ช่วยเขา?
อะไรช่วยให้เปโตรไม่ยอมแพ้?
9. ยอห์น 6:68, 69 ทำให้เราเห็นยังไงว่าเปโตรเป็นคนภักดี?
9 เปโตรเป็นคนที่ภักดี เขาไม่ยอมให้อะไรมาทำให้เขาเลิกติดตามพระเยซู เราเห็นเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนในตอนที่พระเยซูพูดบางอย่างที่พวกสาวกไม่เข้าใจ (อ่านยอห์น 6:68, 69) สาวกหลายคนเลิกติดตามพระเยซูทันทีโดยไม่คิดจะรอหรือขอคำอธิบายจากท่าน แต่เปโตรไม่ได้ทำแบบนั้น เขายังภักดีต่อพระเยซูและบอกว่าพระเยซูเท่านั้นที่มี “คำสอนที่ให้ชีวิตตลอดไป”
10. พระเยซูแสดงความมั่นใจในตัวเปโตรยังไง? (ดูภาพด้วย)
10 พระเยซูก็ไม่ทิ้งเปโตรด้วย ตัวอย่างเช่น ทั้ง ๆ ที่ในคืนสุดท้ายที่พระเยซูมีชีวิตอยู่ ท่านรู้อยู่แล้วว่าเปโตรกับพวกอัครสาวกจะทิ้งท่าน แต่ท่านก็ยังบอกเปโตรว่าท่านมั่นใจว่าเปโตรจะกลับมาและซื่อสัตย์กับท่านต่อ ๆ ไป (ลก. 22:31, 32) พระเยซูรู้ว่า “ใจสู้ก็จริง แต่ร่างกายยังอ่อนแอ” (มก. 14:38) ดังนั้น พอเปโตรปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระเยซู ท่านก็เลยไม่หมดหวังในตัวเปโตร และพอพระเยซูฟื้นขึ้นจากตาย ท่านก็ปรากฏตัวให้เปโตรเห็นซึ่งดูเหมือนว่าตอนนั้นเปโตรจะอยู่คนเดียวด้วย (มก. 16:7; ลก. 24:34; 1 คร. 15:5) ลองคิดดูว่าเปโตรที่ตอนนั้นคงกำลังเสียใจมากจะรู้สึกได้กำลังใจขนาดไหน และนั่นคงช่วยให้เขาไม่ยอมแพ้แน่ ๆ
11. พระเยซูช่วยเปโตรยังไงให้มั่นใจว่าพระยะโฮวาจะดูแลเขา?
11 พระเยซูช่วยเปโตรให้มั่นใจว่าพระยะโฮวาจะดูแลเขา ตัวอย่างเช่น ตอนที่ท่านฟื้นขึ้นจากตายแล้ว ท่านทำการอัศจรรย์ให้เปโตรกับพวกอัครสาวกจับปลาได้มากมายอีกครั้งหนึ่ง (ยน. 21:4-6) การอัศจรรย์นี้ต้องทำให้เปโตรมั่นใจแน่ ๆ ว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับพระยะโฮวาที่จะให้สิ่งจำเป็นกับเขา ตอนนั้นเปโตรอาจคิดถึงคำพูดของพระเยซูที่บอกว่าถ้าใคร “ทำให้การปกครองของพระเจ้า . . . เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต” พระองค์ก็จะให้สิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นกับพวกเขาแน่นอน (มธ. 6:33) เราเห็นว่าเรื่องนี้มีผลดีกับเปโตรจริง ๆ เปโตรให้งานรับใช้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาไม่ใช่งานจับปลา และในวันเพ็นเทคอสต์ปี 33 เปโตรก็ประกาศอย่างกล้าหาญและทำให้หลายพันคนเข้ามาเป็นสาวก (กจ. 2:14, 37-41) หลังจากนั้น เขายังช่วยคนสะมาเรียและคนต่างชาติหลายคนให้ติดตามพระเยซู (กจ. 8:14-17; 10:44-48) พระยะโฮวาใช้เปโตรในวิธีที่พิเศษมากจริง ๆ เพื่อช่วยคนทุกชนิดให้เข้ามาเป็นคริสเตียน
เราได้เรียนอะไร?
12. จากตัวอย่างของเปโตร เราต้องจำอะไรไว้ถ้าเรามีจุดอ่อนที่เลิกไม่ได้สักที?
12 พระยะโฮวาจะช่วยให้เราไม่ยอมแพ้ ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสู้ต่อ ๆ ไปโดยเฉพาะถ้าเรามีจุดอ่อนที่อยากเลิกมานานแต่ก็ทำไม่ได้สักที หรือจุดอ่อนของเราอาจดูเหมือนว่าหนักกว่าของเปโตรด้วยซ้ำ แต่พระยะโฮวาจะให้กำลังเพื่อที่เราจะสู้ต่อ ๆ ไปได้ (สด. 94:17-19) ให้เรามาดูตัวอย่างของพี่น้องชายคนหนึ่งที่เคยเป็นคนรักร่วมเพศหลายปี พอมาเป็นพยานฯ เขาก็เลิกใช้ชีวิตแบบนั้น แต่บางครั้งเขาก็ยังมีความต้องการผิด ๆ อยู่ อะไรช่วยให้เขาไม่ยอมแพ้? เขาบอกว่า “พระยะโฮวาให้กำลังกับเราจริง ๆ . . . ผมได้เรียนว่าเป็นไปได้ที่เราจะใช้ชีวิตตามที่พระยะโฮวาบอก [ต่อ ๆ ไป] ถ้าเราให้พลังของพระองค์ช่วย . . . ผมรู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ ที่พระยะโฮวาใช้ผม และถึงผมจะไม่สมบูรณ์แบบแต่พระองค์ก็ยังช่วยผมและให้กำลังกับผม”
13. อย่างที่เขียนไว้ในกิจการ 4:13, 29, 31 เราจะเลียนแบบตัวอย่างของเปโตรได้ยังไง? (ดูภาพด้วย)
13 อย่างที่เราได้เรียนไปแล้ว เปโตรทำผิดพลาดร้ายแรงหลายครั้งเพราะเขากลัวคน แต่ต่อมาเมื่อเปโตรอธิษฐานขอความกล้าจากพระยะโฮวา พระองค์ก็ช่วย ให้เขาแสดงความกล้าหาญได้จริง ๆ (อ่านกิจการ 4:13, 29, 31) เราเองก็เอาชนะความกลัวได้เหมือนกัน ให้เรามาดูตัวอย่างของวัยรุ่นคนหนึ่งที่ชื่อฮอสต์ เขาอยู่ที่เยอรมนีในช่วงที่พวกนาซีปกครองประเทศ ในตอนนั้นผู้คนถูกบังคับให้พูดว่า “ไฮล์ ฮิตเลอร์!” ซึ่งหมายถึงฮิตเลอร์จะช่วยเรา มีหลายครั้งที่ฮอสต์ยอมแพ้เพราะถูกเพื่อนและครูที่โรงเรียนกดดันจนต้องพูดออกมาว่า “ไฮล์ ฮิตเลอร์!” เมื่อพ่อแม่ของฮอสต์รู้ พวกเขาก็ไม่ได้ว่าฮอสต์แรง ๆ แต่พ่อแม่อธิษฐานกับเขาและขอพระยะโฮวาช่วยให้ฮอสต์กล้าหาญ พอฮอสต์พึ่งพระยะโฮวาและให้พ่อแม่ช่วย เขาก็เลยมีความกล้าที่จะยืนหยัดเพื่อความจริง ต่อมา ฮอสต์ยอมรับว่า “พระยะโฮวาไม่เคยทิ้งผมเลย” c
14. ผู้ดูแลจะช่วยคนที่ท้อใจได้ยังไง?
14 พระยะโฮวากับพระเยซูจะไม่หมดหวังในตัวเรา หลังจากที่เปโตรปฏิเสธพระเยซู เขาก็ต้องตัดสินใจเรื่องหนึ่งที่สำคัญในชีวิต นั่นก็คือ เขาจะเลิกเป็นสาวกของพระเยซูหรือจะไม่ยอมแพ้และติดตามท่านต่อ ๆ ไป? สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เปโตรตัดสินใจได้คือการนึกถึงคำพูดของพระเยซู ก่อนหน้านั้นพระเยซูบอกเปโตรว่าท่านอธิษฐานถึงพระยะโฮวาขอให้ความเชื่อของเปโตรไม่หมดไป และท่านก็มั่นใจว่าเขาจะช่วยพี่น้องของเขาให้มีความเชื่อเข้มแข็ง (ลก. 22:31, 32) เราก็เหมือนกัน ตอนที่เราต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิต พระยะโฮวาก็อาจใช้ผู้ดูแลที่เป็นผู้บำรุงเลี้ยงมาช่วยให้เรามั่นใจว่าเราจะซื่อสัตย์ต่อ ๆ ไปได้ (อฟ. 4:8, 11) พี่น้องคนหนึ่งที่ชื่อพอลซึ่งเป็นผู้ดูแลมานานแล้วก็พยายามช่วยพี่น้องให้ได้รับกำลังใจ เขาบอกคนที่กำลังจะยอมแพ้ให้คิดว่าพระยะโฮวาช่วยให้พวกเขารู้จักความ จริงได้ยังไง แล้วพอลก็ช่วยให้พวกเขามั่นใจว่าเพราะพระยะโฮวามีความรักที่มั่นคง พระองค์เลยไม่มีทางหมดหวังในตัวพวกเขา พอลสรุปว่า “ผมได้เห็นพี่น้องหลายคนท้อใจ แต่เพราะพระยะโฮวาช่วย พวกเขาก็เลยไม่ยอมแพ้แต่สู้ต่อ ๆ ไปได้”
15. ตัวอย่างของเปโตรและฮอสต์แสดงให้เห็นยังไงว่าสิ่งที่บอกไว้ในมัทธิว 6:33 เป็นความจริง?
15 เหมือนกับที่พระยะโฮวาดูแลให้เปโตรและอัครสาวกคนอื่น ๆ มีสิ่งจำเป็นในชีวิต พระองค์ก็จะดูแลเราด้วยถ้าเราให้งานรับใช้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต (มธ. 6:33) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮอสต์ที่พูดถึงก่อนหน้านี้ได้ลองคิดถึงการเป็นไพโอเนียร์ ฮอสต์จนมากและไม่แน่ใจว่าจะหาเลี้ยงตัวเองได้ไหมเมื่อรับใช้เต็มเวลา เขาเลยลองออกไปรับใช้ทั้งสัปดาห์ในช่วงที่ผู้ดูแลหมวดเยี่ยมเพื่อดูว่าพระยะโฮวาจะดูแลให้เขามีสิ่งจำเป็นรึเปล่า หลังจากสัปดาห์นั้นเขารู้สึกตกใจมากตอนที่ผู้ดูแลหมวดให้ซองจดหมายกับเขาที่มีเงินจำนวนหนึ่ง แต่ผู้ดูแลหมวดไม่ได้บอกว่าใครให้เงินนั้น ในซองนั้นมีเงินมากพอที่จะช่วยให้เขารับใช้เป็นไพโอเนียร์ได้หลายเดือน นี่ทำให้ฮอสต์เห็นหลักฐานที่ทำให้เขามั่นใจว่าพระยะโฮวาจะดูแลเขาได้แน่นอน เขาก็เลยให้งานรับใช้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตตั้งแต่นั้นมา—มลค. 3:10
16. ทำไมเราควรสนใจตัวอย่างของเปโตรและจดหมายที่เขาเขียน?
16 เปโตรเคยบอกพระเยซูว่า “อย่าอยู่ใกล้ผมเลย” แต่เปโตรคงดีใจที่พระเยซูไม่ได้ทำตามที่เขาขอ และพระเยซูไม่เคยทิ้งเขาเลย พระเยซูยังคงพยายามฝึกเปโตรต่อ ๆ ไปเพื่อเขาจะเป็นอัครสาวกที่ซื่อสัตย์และเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นสำหรับคริสเตียน และเราก็ได้เรียนหลายอย่างจากสิ่งที่พระเยซูฝึกเขา เปโตรได้บันทึกบทเรียนเหล่านั้นและเรื่องอื่น ๆ ด้วยไว้ในจดหมาย 2 ฉบับที่เขาเขียนถึงคริสเตียนรุ่นแรก บทความถัดไปจะพูดถึงสิ่งที่เปโตรเขียนไว้ในจดหมายของเขาและจะดูว่าเราจะเอามาใช้ได้ยังไงในทุกวันนี้
เพลง 126 ให้ตื่นตัว มั่นคง และเข้มแข็ง
a บทความนี้ช่วยให้คนที่มีจุดอ่อนหรือมีนิสัยที่ไม่ดีบางอย่างมั่นใจว่าพวกเขาจะเอาชนะได้ และสามารถรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ต่อ ๆ ไป
b ข้อคัมภีร์หลายข้อในบทความนี้มาจากหนังสือมาระโก ดูเหมือนว่ามาระโกเขียนสิ่งที่เขาได้ยินจากเปโตรซึ่งเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์
c ดูวีดีโอ “ฮอสต์ เฮนเชล—พระยะโฮวาเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งของผม” ในเว็บไซต์ jw.org และเรื่องราวชีวิตจริงของเขาในบทความ “ความภักดีของคนในครอบครัวที่มีต่อพระเจ้ากระตุ้นผมจริง ๆ” ในตื่นเถิด! (ภาษาอังกฤษ) 22 กุมภาพันธ์ 1998
d คำอธิบายภาพ ในภาพสมมุตินี้ พ่อกับแม่ของพี่น้องฮอสต์ เฮนเชลกำลังอธิษฐานกับเขาและให้กำลังใจเขาที่จะซื่อสัตย์ต่อ ๆ ไป