บทความศึกษา 41
เราเรียนอะไรได้จากจดหมาย 2 ฉบับของเปโตร?
“ผมจึงคอยเตือนพวกคุณอยู่เรื่อย ๆ ไม่ให้ลืมเรื่องเหล่านี้”—2 ปต. 1:12
เพลง 127 ฉันควรเป็นคนแบบไหน?
ใจความสำคัญ a
1. ไม่นานก่อนที่อัครสาวกเปโตรจะตาย เขาได้รับการดลใจให้ทำอะไร?
เปโตรรู้ว่าอีกไม่นานเขาจะตายแล้ว เปโตรรับใช้อย่างซื่อสัตย์มานานหลายปี เขามีโอกาสได้ทำงานประกาศกับพระเยซู ได้เริ่มประกาศกับคนต่างชาติ และได้เป็นสมาชิกคณะกรรมการปกครอง ไม่ใช่แค่นั้น ในช่วงท้าย ๆ ของชีวิตเปโตร พระยะโฮวาก็ยังให้งานเขาทำเพิ่มอีก ประมาณปี ค.ศ. 62-64 เขาได้รับการดลใจให้เขียนจดหมาย 2 ฉบับคือหนังสือ 1 เปโตร และ 2 เปโตร เขาหวังว่าจดหมายนี้จะช่วยพี่น้องคริสเตียนหลังจากที่เขาตายไปแล้ว—2 ปต. 1:12-15
2. ทำไมจดหมายของเปโตรถึงจำเป็นจริง ๆ สำหรับคริสเตียนในตอนนั้น?
2 เปโตรเขียนจดหมายของเขาตอนที่เพื่อนร่วมความเชื่อกำลัง “ทุกข์ใจ . . . เพราะเจอความลำบากต่าง ๆ” (1 ปต. 1:6) คนชั่วพยายามแพร่คำสอนเท็จในประชาคมและชักจูงคริสเตียนคนอื่น ๆ ให้ทำสิ่งที่ไม่สะอาดในสายตาของพระเจ้า (2 ปต. 2:1, 2, 14) นอกจากนั้น อีกไม่นานคริสเตียนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก็จะต้องเจอกับ “จุดจบของทุกสิ่ง” นั่นคือกองทัพโรมันจะมาทำลายกรุงเยรูซาเล็มและวิหารในกรุงนั้น (1 ปต. 4:7) แน่นอนว่าจดหมายของเปโตรคงต้องช่วยคริสเตียนให้รู้ว่าพวกเขาควรทำอะไรเพื่อจะอดทนกับความยากลำบากในตอนนั้นได้ และเตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับความยากลำบากที่จะเกิดขึ้นในอนาคต b
3. ทำไมเราควรสนใจจดหมายทั้ง 2 ฉบับของเปโตร?
3 แม้เปโตรจะเขียนจดหมายถึงคริสเตียนรุ่นแรก แต่พระยะโฮวาก็ให้จดหมายของเขาอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลด้วย ดังนั้น เราในทุกวันนี้ก็จะได้ ประโยชน์จากจดหมายของเปโตรเหมือนกัน (รม. 15:4) เราอยู่ในโลกที่มีแต่คนทำสิ่งที่ไม่สะอาดในสายตาพระยะโฮวา เลยไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะรับใช้พระองค์ นอกจากนั้น อีกไม่นานเราต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ที่หนักกว่าความลำบากที่คริสเตียนรุ่นแรกต้องเจอในช่วงที่กรุงเยรูซาเล็มและวิหารถูกทำลาย จดหมายของเปโตรทั้ง 2 ฉบับนี้จะช่วยให้เราเฝ้าคอยและคิดถึงวันของพระยะโฮวาเสมอ เอาชนะการกลัวคน และรักกันมากขึ้น นอกจากนั้น สิ่งที่เขียนในจดหมายของเปโตรจะช่วยผู้ดูแลให้รู้ว่าพวกเขาจะช่วยพี่น้องในประชาคมยังไงให้มีความเชื่อเข้มแข็ง
เฝ้าคอยและคิดถึงวันของพระยะโฮวาเสมอ
4. อย่างที่บอกไว้ใน 2 เปโตร 3:3, 4 อะไรอาจมีผลต่อความเชื่อของเรา?
4 คนทั่วไปในโลกทุกวันนี้ไม่เชื่อคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิล และผู้ต่อต้านก็อาจเยาะเย้ยว่าเรารอมานานมากแล้วที่จะให้จุดจบของโลกชั่วมาถึง บางคนถึงกับบอกว่าวันนั้นไม่มีทางมาถึงหรอก (อ่าน 2 เปโตร 3:3, 4) ถ้าเราได้ยินคำพูดแบบนั้นจากเจ้าของบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนในครอบครัว มันอาจมีผลต่อความเชื่อของเราและอาจทำให้เราเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจก็ได้ แต่เปโตรพูดถึงสิ่งที่ช่วยเราได้
5. อะไรจะช่วยให้เรามีความคิดที่ถูกต้องในเรื่องจุดจบของโลกชั่ว? (2 เปโตร 3:8, 9)
5 บางคนอาจรู้สึกว่าทำไมพระยะโฮวาถึงยังไม่ทำลายโลกชั่วสักที แต่จดหมายของเปโตรช่วยให้เรามีความคิดที่ถูกต้องโดยเตือนเราว่าพระยะโฮวามีความคิดที่แตกต่างจากเรามากในเรื่องของเวลา สำหรับพระองค์แล้วพันปีเป็นเหมือนแค่วันเดียว และพระยะโฮวาก็อดทนมาก พระองค์ไม่อยากให้ใครถูกทำลาย แต่เมื่อวันของพระยะโฮวามาถึง โลกชั่วจะต้องถึงจุดจบแน่นอน เรามีสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่ได้ใช้เวลาที่ยังเหลืออยู่ในตอนนี้เพื่อประกาศกับคนทั่วโลก—อ่าน 2 เปโตร 3:8, 9
6. อะไรจะช่วยให้เรา “คิดอยู่เสมอว่าวันของพระยะโฮวาใกล้เข้ามาแล้ว”? (2 เปโตร 3:11, 12)
6 เปโตรกระตุ้นให้เรา “คิดอยู่เสมอว่าวันของพระยะโฮวาใกล้เข้ามาแล้ว” (อ่าน 2 เปโตร 3:11, 12) เราจะทำแบบนั้นได้ยังไง? ถ้าเป็นไปได้เราควรคิดใคร่ครวญทุกวันว่าชีวิตในโลกใหม่จะเป็นยังไง ลองนึกภาพตอนที่คุณได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้กินอาหารอร่อย ๆ ที่มีประโยชน์ ได้ต้อนรับคนที่คุณรักที่ฟื้นขึ้นจากตาย และได้สอนคนที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีมาแล้วเกี่ยวกับคำพยากรณ์ที่เกิดขึ้นจริงในคัมภีร์ไบเบิล การคิดถึงสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเฝ้าคอยและคิดถึงวันของพระยะโฮวาเสมอ และมั่นใจว่าจุดจบของโลกชั่วจะมาถึงแน่นอน เมื่อเรารู้ว่าจะมีอนาคตดี ๆ อะไรรอเราอยู่ เราก็จะไม่ถูกคนที่ไม่เชื่อว่าวันของพระยะโฮวาใกล้เข้ามาแล้ว “ชักนำให้หลงไป”—2 ปต. 3:17
เอาชนะการกลัวคน
7. การกลัวคนมีผลกับเรายังไง?
7 เมื่อเราคิดถึงวันของพระยะโฮวาเสมอ มันจะทำให้เราทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อประกาศข่าวดีกับคนอื่น แต่บางครั้งเราก็อาจไม่กล้า เพราะอะไร? เราอาจรู้สึกกลัวคนหรือกลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรา เปโตรเองก็รู้สึกแบบนั้น ในคืนที่พระเยซูถูกพิจารณาคดีเขาไม่ยอมบอกว่าเขาเป็นสาวกของพระเยซู แถมยังปฏิเสธหลายครั้งว่าไม่รู้จักท่าน (มธ. 26:69-75) ถึงอย่างนั้น เปโตรเองนี่แหละที่ต่อมาสามารถพูดด้วยความมั่นใจว่า “อย่ากลัวสิ่งที่คนอื่นกลัวและอย่ากังวลไปเลย” (1 ปต. 3:14) คำพูดนี้ของเปโตรทำให้เรามั่นใจว่าเราก็เอาชนะการกลัวคนได้เหมือนกัน
8. อะไรจะช่วยให้เราเอาชนะการกลัวคนได้? (1 เปโตร 3:15)
8 อะไรจะช่วยให้เราเอาชนะการกลัวคนได้? เปโตรบอกว่า “ในใจพวกคุณ ให้เคารพนับถือพระคริสต์เป็นนาย” (อ่าน 1 เปโตร 3:15) นี่รวมถึงการคิดว่าตอนนี้พระเยซูเป็นกษัตริย์และมีอำนาจมากแค่ไหน ตอนที่คุณมีโอกาสที่จะประกาศกับคนอื่นแต่คุณรู้สึกกลัวหรือกังวลขึ้นมา ให้นึกภาพว่าตอนนี้พระเยซูกำลังปกครองเป็นกษัตริย์ในสวรรค์และมีทูตสวรรค์มากมายมหาศาลอยู่กับท่าน นอกจากนั้น ให้คิดว่าพระเยซูได้รับ “อำนาจ” ที่จะ “ปกครองทุกสิ่งในสวรรค์และบนโลกนี้แล้ว” และท่าน “จะอยู่กับ [คุณ] เสมอจนถึงสมัยสุดท้ายของโลกนี้” (มธ. 28:18-20) เปโตรสนับสนุนให้เรา “พร้อมเสมอ” ที่จะพูดถึงความเชื่อของเรา คุณอยากประกาศกับคนที่ทำงาน ที่โรงเรียน หรือประกาศแบบไม่เป็นทางการไหม? ให้คิดล่วงหน้าว่าตอนไหนบ้างที่คุณจะทำแบบนั้นได้ และให้เตรียมตัวไว้ก่อนว่าจะพูดอะไร ให้คุณอธิษฐานขอความกล้าและมั่นใจว่าพระยะโฮวาจะช่วยให้คุณเอาชนะการกลัวคนได้แน่นอน—กจ. 4:29
“รักกันให้มาก ๆ”
9. ครั้งหนึ่งเปโตรไม่ได้แสดงความรักยังไง? (ดูภาพด้วย)
9 เปโตรได้เรียนรู้ว่าการแสดงความรักคืออะไร เปโตรอยู่กับพระเยซูตอนที่ท่านพูดว่า “ผมให้กฎหมายใหม่กับพวกคุณ คือ ให้พวกคุณรักกัน ผมรักพวกคุณ อย่างไร ก็ให้พวกคุณรักกันอย่างนั้นด้วย” (ยน. 13:34) ถึงพระเยซูจะสอนแบบนั้น แต่พอเปโตรถูกกดดัน เขาก็ยอมแพ้และไม่ยอมกินข้าวกับพี่น้องต่างชาติ เปาโลเรียกสิ่งที่เปโตรทำว่าเป็นการ “เสแสร้ง” (กท. 2:11-14) เปโตรยอมรับผิดและเขาก็ได้บทเรียนจากความผิดพลาดครั้งนั้น เราเห็นเรื่องนี้ได้จากจดหมาย 2 ฉบับที่เปโตรเขียน เขาเน้นว่าเราไม่ควรแค่รู้สึกรักพี่น้องเท่านั้นแต่เราต้องแสดงออกด้วย
10. อะไรจะช่วยให้เรา “มีความรักอย่างจริงใจแบบพี่น้อง”? (1 เปโตร 1:22)
10 เปโตรบอกว่าเราต้อง “มีความรักอย่างจริงใจแบบพี่น้อง” (อ่าน 1 เปโตร 1:22) การ “เชื่อฟังความจริง” จะช่วยให้เรามีความรักแบบนี้ และความจริงที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ “พระเจ้าไม่ลำเอียง” (กจ. 10:34, 35) นอกจากนั้น เราจะบอกว่าเราเชื่อฟังคำสั่งของพระเยซูไม่ได้เลยถ้าเรารักแค่บางคนในประชาคม และถึงจะไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะสนิทกับบางคนมากกว่าเพราะพระเยซูเองก็สนิทกับสาวกบางคนมากเป็นพิเศษด้วย แต่เปโตรก็เตือนเราว่าเราต้อง “มีความรัก . . . แบบพี่น้อง” กับทุกคนในประชาคมเหมือนพวกเขาเป็นคนในครอบครัวของเรา—1 ปต. 2:17; ยน. 13:23; 20:2
11. การรักคนอื่น “อย่างสุดหัวใจ” หมายถึงอะไร?
11 เปโตรยังบอกให้เรา “รักกันอย่างสุดหัวใจ” ด้วย ในภาษาเดิมคำว่า “สุด” หัวใจในท้องเรื่องนี้หมายถึงการทำเกินจากที่ปกติเราจะทำ ตัวอย่างเช่น ถ้าพี่น้องทำให้เราเจ็บหรือทำบางอย่างที่เราไม่ชอบ ปกติแล้วเราคงไม่ได้รู้สึกอยากแสดงความรักกับเขาแต่คงอยากเอาคืนมากกว่า แต่เปโตรได้เรียนจากพระเยซูว่าถ้าเราเอาคืน พระเจ้าจะไม่พอใจเรา (ยน. 18:10, 11) เปโตรเขียนว่า “อย่าทำชั่วตอบแทนความชั่ว อย่าด่าตอบแทนการด่า แต่ให้ตอบแทนด้วยคำอวยพร” (1 ปต. 3:9) ดังนั้น ถ้าคุณรักอย่างสุดหัวใจ คุณก็จะทำดีและเห็นอกเห็นใจคนอื่นถึงแม้เขาอาจทำให้คุณเจ็บด้วยซ้ำ
12. (ก) ถ้าเรารักคนอื่นมาก ๆ เราจะทำอะไรอีก? (ข) เมื่อคุณได้ดูตัวอย่างของพี่น้องในวีดีโอเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นของขวัญที่มีค่ามาก คุณอยากทำอะไร?
12 นอกจากนั้น ในจดหมายฉบับแรกของเปโตร เขายังใช้อีกคำที่เกี่ยวข้องกันด้วย เขาบอกคริสเตียนว่า “รักกันให้มาก ๆ” ความรักนี้ไม่ได้ปิดคลุมบาปแค่ไม่กี่อย่าง แต่ปิดคลุม “บาปไว้มากมาย” (1 ปต. 4:8) เป็นไปได้ที่เปโตรคิดถึงตอนที่พระเยซูเคยสอนเขาเรื่องการให้อภัยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเปโตรคงคิดว่าเขาใจกว้างมากเพราะเขาจะให้อภัยพี่น้องถึง “7 ครั้ง” แต่พระเยซูสอนเขาและสอนเราด้วยว่าต้องให้อภัย “ถึง 77 ครั้ง” ซึ่งหมายถึงเราต้องให้อภัยอย่างไม่จำกัด (มธ. 18:21, 22) ถ้าบางครั้งคุณรู้สึกว่ายากมากที่จะให้อภัยคนอื่น อย่าเพิ่งยอมแพ้ ผู้รับใช้ของพระเจ้าทุกคนก็รู้สึกแบบนั้นเป็นบางครั้งเหมือนกัน ที่สำคัญก็คือคุณต้องพยายามทำมากที่สุดเท่าที่คุณทำได้ที่จะให้อภัยพี่น้องและพยายามรักษาสันติสุขกับเขา c
ผู้ดูแล ขอให้คุณดูแลแกะของพระเจ้า
13. ทำไมถึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ดูแลจะหาเวลาดูแลพี่น้องในประชาคม?
13 เปโตรต้องไม่มีวันลืมคำพูดของพระเยซูที่พูดกับเขาหลังจากท่านฟื้นขึ้นจากตายว่า “ให้คุณดูแลแกะตัวเล็ก ๆ ของผม” (ยน. 21:16) ถ้าคุณเป็นผู้ดูแล คุณก็คงรู้ว่าคุณต้องทำตามคำสั่งนี้ด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ดูแลจะหาเวลาดูแลพี่น้องในประชาคม อย่างแรกผู้ดูแลต้องดูแลครอบครัวก่อน เขาต้องดูแลครอบครัวทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ และต้องดูแลให้ครอบครัวมีความเชื่อที่เข้มแข็งและมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระยะโฮวา เขายังต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการประกาศและในเรื่องการเตรียมส่วนการประชุมด้วย นอกจากนั้น เขายังต้องทำส่วนในการประชุมประชาคมและการประชุมใหญ่ และยังมีผู้ดูแลอีกหลายคนที่เป็นสมาชิกคณะกรรมการประสานงานกับโรงพยาบาล ส่วนบางคนก็ช่วยงานในแผนกออกแบบ/ก่อสร้างท้องถิ่น เราเห็นว่าผู้ดูแลมีงานเยอะมากจริง ๆ
14. อะไรทำให้ผู้ดูแลต้องเอาใจใส่ฝูงแกะของพระเจ้า? (1 เปโตร 5:1-4)
14 เปโตรบอกเพื่อนผู้ดูแลของเขาว่า “ให้เอาใจใส่ฝูงแกะของพระเจ้า” (อ่าน 1 เปโตร 5:1-4) ถ้าคุณเป็นผู้ดูแล เรารู้ว่าคุณรักพี่น้องมากและอยากเอาใจใส่พวกเขา แต่อาจมีบางครั้งที่คุณยุ่งหรือเหนื่อยมากจนรู้สึกว่าไม่สามารถดูแลพี่น้องได้อย่างเต็มที่ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณควรทำอะไร? ให้บอกพระยะโฮวาเกี่ยวกับเรื่องที่คุณกังวลและบอกพระองค์ว่าคุณอยากช่วยพี่น้องมากแค่ไหน เปโตรเขียนว่า “ถ้าใครรับใช้ก็ให้เขารับใช้โดยพึ่งกำลังที่มาจากพระเจ้า” (1 ปต. 4:11) พี่น้องของคุณอาจเจอปัญหาหลายอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมดในตอนนี้ แต่ขอให้จำไว้ว่าพระเยซูซึ่งเป็น “ผู้เลี้ยงคนสำคัญ” จะช่วยพี่น้องได้มากกว่าที่คุณทำได้ ท่านสามารถช่วยได้ตั้งแต่ตอนนี้และในโลกใหม่ด้วย ดังนั้น สิ่งที่พระยะโฮวาขอให้ผู้ดูแลทำตอนนี้ก็มีแค่ ให้รักพี่น้อง เอาใจใส่พวกเขา และ “เป็นตัวอย่างให้ฝูงแกะ”
15. ผู้ดูแลคนหนึ่งเอาใจใส่พี่น้องยังไง? (ดูภาพด้วย)
15 วิลเลี่ยมซึ่งเป็นผู้ดูแลมานานหลายปีเข้าใจว่าการเอาใจใส่พี่น้องสำคัญมากแค่ไหน ตอนที่โควิด-19 เริ่มระบาด วิลเลี่ยมและเพื่อนผู้ดูแลคนอื่น ๆ พยายามติดต่อพี่น้องแต่ละคนในกลุ่มประกาศของพวกเขาทุกอาทิตย์ และพวกเขาก็ให้งานนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนั้น เขาเล่าว่า “มีพี่น้องหลายคนที่ต้องอยู่คนเดียวในบ้าน มันก็เลยอาจทำให้พวกเขาคิดลบได้ง่าย ๆ” ตอนที่พี่น้องเจอปัญหา วิลเลี่ยมตั้งใจฟังพวกเขาเพื่อจะรู้ว่าพวกเขากังวลเรื่องอะไรและจำเป็นต้องได้รับอะไรบ้าง และวิลเลี่ยมก็จะหาหนังสือ หรือวีดีโอจากเว็บไซต์ขององค์การที่สามารถช่วยให้กำลังใจพี่น้องได้ เขาบอกอีกว่า “การเอาใจใส่พี่น้องเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งกว่าที่ผ่าน ๆ มา ขนาดคนทั่วไปเรายังพยายามมากจริง ๆ ที่จะช่วยให้เขารู้จักพระยะโฮวา เราก็เลยต้องพยายามมากเหมือนกันที่จะเอาใจใส่พี่น้องให้มีความเชื่อเข้มแข็งต่อ ๆ ไป”
ยอมให้พระยะโฮวาฝึกอบรมคุณจนสำเร็จ
16. เราจะเอาสิ่งที่ได้เรียนจากจดหมาย 2 ฉบับของเปโตรมาใช้ยังไงบ้าง?
16 เราได้คุยกันเกี่ยวกับบทเรียนบางอย่างที่เราได้จากจดหมาย 2 ฉบับของเปโตร คุณอาจเห็นบางเรื่องที่คุณจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น คุณอยากคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับสิ่งดี ๆ ที่จะได้รับในโลกใหม่ให้บ่อยขึ้นไหม? คุณได้ตั้งเป้าหมายที่จะประกาศกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่โรงเรียน หรือประกาศแบบไม่เป็นทางการแล้วไหม? คุณนึกออกไหมว่ามีวิธีอะไรอีกบ้างที่จะแสดงความรักกับพี่น้องให้มากขึ้น? คุณที่เป็นผู้ดูแล คุณตั้งใจที่จะเอาใจใส่ฝูงแกะของพระยะโฮวาด้วยความเต็มใจและอย่างกระตือรือร้นไหม? การตรวจสอบตัวเองอย่างตรงไปตรงมาอาจทำให้คุณเห็นว่าต้องปรับปรุงตัวเอง แต่ขออย่าท้อใจ “[พระเยซู] ผู้เป็นนายกรุณา” และจะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองได้ (1 ปต. 2:3) เปโตรรับรองกับเราว่า “พระเจ้า . . . จะทำให้การฝึกอบรมพวกคุณสำเร็จลุล่วง . . . พระองค์จะทำให้พวกคุณมั่นคง พระองค์จะทำให้พวกคุณเข้มแข็งและไม่หวั่นไหว”—1 ปต. 5:10
17. ผลจะเป็นยังไง ถ้าเราไม่ยอมแพ้และยอมให้พระยะโฮวาฝึกอบรมเรา?
17 ตอนแรกเปโตรรู้สึกว่าไม่คู่ควรที่จะได้อยู่ใกล้พระเยซู (ลก. 5:8) แต่ด้วยความรักและการช่วยเหลือจากพระยะโฮวาและพระเยซู เขาเลยติดตามพระเยซูต่อ ๆ ไปอย่างซื่อสัตย์ ดังนั้น พระยะโฮวาเลยให้เปโตร “ได้เข้ารัฐบาลที่คงอยู่ตลอดไปของพระเยซูคริสต์ผู้เป็นนายและผู้ช่วยให้รอดของเรา” (2 ปต. 1:11) นั่นเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ถ้าคุณไม่ยอมแพ้เหมือนเปโตรและยอมให้พระยะโฮวาฝึกอบรมคุณ คุณเองก็จะได้รับรางวัลเป็นชีวิตตลอดไปด้วยเหมือนกัน เปโตรบอกว่า “ความเชื่อนั้นจะทำให้พวกคุณได้รับรางวัล คือความรอด”—1 ปต. 1:9
เพลง 109 รักสุดหัวใจ
a ในบทความนี้ เราจะมาดูบทเรียนที่ได้จากจดหมาย 2 ฉบับของเปโตรและดูว่าบทเรียนเหล่านี้ช่วยให้เราอดทนกับปัญหาได้ยังไง และผู้ดูแลจะทำหน้าที่ในการดูแลเอาใจใส่ฝูงแกะของพระเจ้าให้สำเร็จได้ยังไง
b คริสเตียนในปาเลสไตน์น่าจะได้จดหมายทั้ง 2 ฉบับของเปโตรก่อนกองทัพโรมันมาล้อมกรุงเยรูซาเล็มในปี ค.ศ. 66
c ดูวีดีโอเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นของขวัญที่มีค่ามาก ในเว็บไซต์ jw.org