บทความศึกษา 7
เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและทำให้พระยะโฮวาพอใจ
“ทุกคนในโลกที่ถ่อมตัว . . . ขอให้มาหาพระยะโฮวา . . . และเป็นคนถ่อมตัว”—ศฟย. 2:3
เพลง 80 “ลองชิมดู แล้วจะรู้ว่าพระยะโฮวาดีขนาดไหน”
ใจความสำคัญ *
1-2. (ก) คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าโมเสสเป็นคนแบบไหน? และเขาทำอะไรบ้าง? (ข) ทำไมเราต้องพัฒนาความอ่อนน้อมถ่อมตน?
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าโมเสสเป็น “คนอ่อนน้อมถ่อมตนที่สุดในโลก” (กดว. 12:3) นี่หมายความว่าเขาเป็นคนอ่อนแอ ไม่กล้าตัดสินใจ และกลัวการเผชิญหน้าไหม? บางคนอาจคิดว่าคนอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นแบบนั้น แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย โมเสสเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว และกล้าหาญ พระยะโฮวาช่วยเขาให้กล้าเผชิญหน้ากับกษัตริย์อียิปต์ที่แข็งแกร่งและช่วยเขาให้พาประชาชนประมาณ 3 ล้านคนเดินทางผ่านที่กันดาร โมเสสยังช่วยชาวอิสราเอลเอาชนะชาติต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูได้สำเร็จ
2 เราไม่ต้องเจอข้อท้าทายขนาดโมเสส ถึงอย่างนั้น ทุกวันเราก็ต้องเจอกับคนหรือสถานการณ์ที่อาจทำให้ยากที่จะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน แต่เรามีแรงจูงใจที่ดีที่ทำให้เราอยากพัฒนาคุณลักษณะนี้ พระยะโฮวาสัญญาว่า “คนที่อ่อนน้อมถ่อมตนจะได้อยู่ในโลก” (สด. 37:11) คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนไหม? คนอื่นบอกว่าคุณเป็นคนแบบนั้นไหม? ก่อนจะตอบคำถามสำคัญเหล่านี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่าการเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนหมายถึงอะไร
คนอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นแบบไหน?
3-4. (ก) คนอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นแบบไหน? (ข) เราต้องมีคุณลักษณะ 4 อย่างอะไรบ้างเพื่อช่วยให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน? และทำไม?
3 ความอ่อนน้อมถ่อมตน *เป็นเหมือนภาพวาดที่สวยงาม ตัวอย่างเช่น ศิลปินจะผสมสีต่าง ๆ เพื่อวาดภาพที่สวยงาม เราก็ต้องมีคุณลักษณะหลายอย่างรวมกันเพื่อจะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน คุณลักษณะต่าง ๆ ที่ว่าคือ ความถ่อม การเชื่อฟัง ความอ่อนโยน และความเข้มแข็ง ทำไมเราต้องมีคุณลักษณะเหล่านี้ถ้าเราอยากทำให้พระยะโฮวาพอใจ?
4 เฉพาะคนถ่อมตัวเท่านั้นที่จะทำตามความต้องการของพระเจ้าได้ และหนึ่งในความต้องการของพระเจ้าก็คือพระองค์อยากให้เราเป็นคนอ่อนโยน (มธ. 5:5; กท. 5:23) เมื่อเราทำตามความต้องการของพระเจ้า เราจะทำให้ซาตานโกรธมาก ดังนั้น แม้เราจะเป็นคนถ่อมและอ่อนโยน แต่หลายคนในโลกของซาตานเกลียดเรา (ยน. 15:18, 19) เราจึงต้องเข้มแข็งเพื่อจะต้านทานซาตานได้
5-6. (ก) ทำไมซาตานเกลียดคนอ่อนน้อมถ่อมตน? (ข) เราจะคุยกันเรื่องคำถามอะไร?
5 คนที่มีนิสัยตรงข้ามกับคนอ่อนน้อมถ่อมตนคือคนหยิ่ง เขาไม่ควบคุมความโกรธและไม่เชื่อฟังพระยะโฮวา ซาตานเป็นแบบนั้นแหละ! เราจึงไม่แปลกใจที่ซาตานเกลียดคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน คนแบบนั้นทำให้เห็นว่าซาตานชั่วร้ายขนาดไหนเพราะเขามีคุณลักษณะต่าง ๆ ที่ซาตานไม่มี และยิ่งกว่านั้นคือ เขาพิสูจน์ว่าซาตานโกหก ทำไม? เพราะไม่ว่าซาตานจะพูดหรือทำอะไร มันไม่สามารถทำให้คนอ่อนน้อมถ่อมตนเลิกรับใช้พระยะโฮวาได้—โยบ 2:3-5
6 เมื่อไรที่เรารู้สึกว่ายากที่จะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน? และทำไมเราจะต้องเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนต่อ ๆ ไป? เพื่อจะตอบ 2 คำถามนี้ เราจะดูตัวอย่างของโมเสส ตัวอย่างของเชลยชาวฮีบรู 3 คนในบาบิโลน และตัวอย่างของพระเยซู
เมื่อไรที่รู้สึกว่ายากที่จะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน?
7-8. โมเสสทำอย่างไรเมื่อมีคนไม่นับถือเขา?
7 เมื่อมีอำนาจ อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนมีอำนาจที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอโดยเฉพาะถ้าคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขาไม่ให้ความนับถือและถึงกับสงสัยการตัดสินใจของเขา คุณเคยเจอเรื่องนี้ด้วยตัวเองไหม? และถ้าสมาชิกครอบครัวของคุณทำแบบนั้นกับคุณล่ะ คุณจะทำอย่างไร? ลองดูว่าโมเสสทำอย่างไรเมื่อเจอสถานการณ์นี้
กดว. 12:1-13) ทำไมโมเสสทำแบบนั้น?
8 พระยะโฮวาแต่งตั้งโมเสสเป็นผู้นำชาวอิสราเอลและให้เขาเขียนกฎหมายสำหรับชาตินี้ แน่นอนว่าพระยะโฮวาสนับสนุนโมเสส ถึงจะเป็นอย่างนั้น มิเรียมกับอาโรนพี่สาวกับพี่ชายแท้ ๆ ของโมเสสเองกลับพูดไม่ดีกับเขาและสงสัยการตัดสินใจของเขาในเรื่องการเลือกภรรยา บางคนที่มีตำแหน่งแบบโมเสสคงโกรธมากที่เจอแบบนี้ แต่โมเสสไม่เป็นอย่างนั้น เขาไม่ใช่คนโมโหง่าย เขาถึงกับขอร้องพระยะโฮวาให้เลิกลงโทษมิเรียม (9-10. (ก) พระยะโฮวาช่วยโมเสสให้เข้าใจอะไร? (ข) หัวหน้าครอบครัวและผู้ดูแลเรียนอะไรได้จากโมเสส?
9 โมเสสยอมให้พระยะโฮวาฝึกเขา ประมาณ 40 ปีก่อนตอนที่เขายังเป็นสมาชิกของราชวงศ์อียิปต์ เขาไม่ใช่คนอ่อนน้อมถ่อมตน ที่จริง เขาโมโหง่ายเกินไปจนฆ่าผู้ชายคนหนึ่งเพราะคิดว่าคนนั้นทำสิ่งที่ไม่ดี โมเสสคิดเอาเองว่าพระยะโฮวาเห็นด้วยกับการกระทำของเขา พระยะโฮวาใช้เวลา 40 ปีช่วยโมเสสให้เข้าใจว่าพระองค์ไม่ใช่ต้องการแค่คนที่มีความกล้าเพื่อจะนำหน้าชาวอิสราเอล แต่พระองค์ต้องการคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนด้วย และเพื่อจะเป็นแบบนั้นได้ โมเสสต้องถ่อม เชื่อฟัง และอ่อนโยน ในที่สุด เขาก็ได้เรียนรู้และกลายเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม—อพย. 2:11, 12; กจ. 7:21-30, 36
10 ทุกวันนี้ หัวหน้าครอบครัวและผู้ดูแลต้องเลียนแบบโมเสส เมื่อมีบางคนทำอะไรบางอย่างที่แสดงว่าไม่นับถือคุณ ก็อย่าเพิ่งรีบโกรธ คุณต้องถ่อมตัวยอมรับว่าคุณทำผิดพลาดได้ (ปญจ. 7:9, 20) ให้เชื่อฟังคำแนะนำของพระยะโฮวาเมื่อจัดการกับปัญหา และพูดอย่างอ่อนโยน (สภษ. 15:1) หัวหน้าครอบครัวและผู้ดูแลที่ทำแบบนั้นจะทำให้พระยะโฮวาพอใจ เขาจะทำให้เกิดสันติสุขและเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนอื่นเห็นว่าคนอ่อนน้อมถ่อมตนควรเป็นแบบไหน
11-13. ชาวฮีบรู 3 คนเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเราอย่างไร?
11 เมื่อถูกข่มเหง ตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์ ผู้ปกครองที่เป็นมนุษย์ชอบข่มเหงประชาชนของพระยะโฮวา พวกเขากล่าวหาว่าเราเป็นพวกที่ “ทำผิดกฎหมาย” แต่ที่จริงเราเลือกที่จะ “เชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์” (กจ. 5:29) เราอาจถูกเยาะเย้ย ติดคุก หรือแม้แต่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่เพราะพระยะโฮวาช่วยเรา เราจึงไม่ตอบโต้ แต่จะสงบใจไว้แม้เจอการทดสอบ
12 ลองดูตัวอย่างของเด็กหนุ่มชาวฮีบรู 3 คนที่เป็นเชลยในบาบิโลน คือฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ * กษัตริย์บาบิโลนสั่งให้พวกเขาหมอบลงนมัสการรูปเคารพทองคำขนาดใหญ่ พวกเขาอธิบาย อย่างอ่อนน้อมให้กษัตริย์ฟังว่าทำไมพวกเขาไม่นมัสการรูปเคารพนั้น พวกเขาเชื่อฟังพระเจ้าแม้กษัตริย์ขู่ว่าจะเผาพวกเขาทั้งเป็นในเตาไฟ พระยะโฮวาเลือกที่จะช่วยชีวิต 3 คนนี้ทันที แต่พวกเขาก็ไม่ได้สรุปเอาเองว่าพระองค์จะต้องช่วยพวกเขา แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกเขาเต็มใจยอมรับทุกอย่างที่พระองค์ยอมให้เกิดขึ้น (ดนล. 3:1, 8-28) พวกเขาพิสูจน์ว่าคนอ่อนน้อมถ่อมตนคือคนที่กล้าหาญจริง ๆ ไม่ว่าผู้ปกครองที่เป็นมนุษย์ การข่มขู่ หรือการลงโทษก็ไม่สามารถทำให้เราเลิก ‘นมัสการพระยะโฮวาเพียงผู้เดียว’—อพย. 20:4, 5
13 เมื่อเราภักดีต่อพระยะโฮวาตอนเจอการทดสอบ เรากำลังเลียนแบบชาวฮีบรู 3 คนนี้อย่างไร? เราถ่อมตัวและไว้วางใจว่าพระยะโฮวาจะดูแลเรา (สด. 118:6, 7) เมื่อมีคนกล่าวหาเราว่าทำผิด เราจะตอบอย่างสุภาพและแสดงความนับถือ (1 ปต. 3:15) แต่เราจะไม่ยอมทำสิ่งที่ทำลายความสัมพันธ์ของเรากับพระยะโฮวาพระเจ้าผู้เป็นพ่อของเราแน่นอน
14-15. (ก) เมื่อเราเครียด เราอาจเป็นแบบไหน? (ข) ตามที่บอกไว้ในอิสยาห์ 53:7, 10 ทำไมเราบอกได้ว่าพระเยซูเป็นตัวอย่างที่ดีมากของคนที่แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนแม้เจอความเครียด?
14 เมื่อเจอความเครียด มีหลายอย่างที่ทำให้เราเครียด เราอาจรู้สึกเครียดก่อนสอบที่โรงเรียน หรือทำงานบางอย่างในที่ทำงาน หรือเราอาจรู้สึกเครียดเมื่อคิดว่าจะรับการรักษาแบบไหนที่โรงพยาบาล เมื่อเราเครียดก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะอ่อนน้อมถ่อมตน ถ้าอยู่ในภาวะปกติ เหตุการณ์บางอย่างอาจไม่ทำให้เราหงุดหงิด แต่ถ้าเครียดเราจะรับมือไม่ได้ เราอาจใช้คำพูดแรง ๆ หรือพูดเสียงแข็ง ถ้าคุณรู้สึกเครียด ขอให้คิดถึงตัวอย่างของพระเยซู
15 ช่วงเดือนท้าย ๆ ที่พระเยซูอยู่บนโลก ท่านเจอเรื่องที่เครียดมากหลายเรื่อง ท่านรู้ว่าจะต้องถูกประหารและตายอย่างทรมาน (ยน. 3:14, 15; กท. 3:13) ไม่นานก่อนที่ท่านจะตาย ท่านบอกว่าท่านทุกข์ใจจริง ๆ (ลก. 12:50) และไม่กี่วันก่อนที่ท่านจะตาย ท่านก็บอกว่า “ผมทุกข์ใจมาก” นอกจากนั้น คำอธิษฐานของท่านทำให้เรารู้เลยว่าท่านถ่อมและเชื่อฟังพระยะโฮวาขนาดไหน ท่านอธิษฐานระบายความรู้สึกว่า “พ่อครับ ขอช่วยผมให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ แต่ถึงยังไง ผมก็ต้องเจอกับความทุกข์ครั้งนี้ ที่ผมมาก็เพราะเหตุผลนี้ พ่อครับ ขอให้ชื่อของพระองค์ได้รับการยกย่อง” (ยน. 12:27, 28) เมื่อเวลานั้นมาถึง พระเยซูก็กล้าออกมาแสดงตัวกับศัตรูของพระเจ้าซึ่งจะประหารท่านในแบบที่เจ็บปวดและน่าอับอายที่สุด แม้พระเยซูจะเครียดและเป็นทุกข์มาก ท่านก็ทำตามความต้องการของพระเจ้าด้วยความถ่อม เราบอกได้เลยว่าพระเยซูเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของคนที่แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนเมื่อเจอความเครียด—อ่านอิสยาห์ 53:7, 10
16-17. (ก) เพื่อนสนิทของพระเยซูทำอะไรบ้างที่อาจทำให้เป็นเรื่องยากที่ท่านจะอ่อนน้อมถ่อมตน? (ข) เราจะเลียนแบบพระเยซูได้อย่างไร?
16 ในคืนสุดท้ายที่พระเยซูอยู่บนโลก พวกเพื่อนสนิทที่สุดของท่านทดสอบความอ่อนน้อมถ่อมตนของท่าน ลองคิดดูว่าคืนนั้นพระเยซูจะเครียดขนาดไหน ท่านจะสามารถรักษาความซื่อสัตย์จนตายได้ไหม? ชีวิตของหลายพันล้านคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย (รม. 5:18, 19) และที่สำคัญกว่านั้น ชื่อเสียงของพระยะโฮวาพ่อของท่านก็เกี่ยวข้องด้วย (โยบ 2:4) แต่ตอนที่ท่านกินอาหารมื้อสุดท้ายกับพวกอัครสาวกซึ่งเป็นเพื่อนสนิท พวกเขากลับ ‘เถียงกันว่าในพวกเขาใครเป็นใหญ่ที่สุด’ พระเยซูเคยแก้ไขพวกเขาในเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แม้แต่ในวันนั้นที่ท่านจะตายท่านก็สอนพวกเขาแล้วด้วย แต่น่าทึ่งที่พระเยซูไม่ได้โกรธ แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ท่านยังคงอ่อนโยนและอธิบายอีกครั้งอย่างหนักแน่นแต่ก็กรุณาว่าพวกเขาควรมีความคิดแบบไหน แล้วพระเยซูก็สั่งเพื่อนของท่านให้สนับสนุนท่านอย่างภักดี—ลก. 22:24-28; ยน. 13:1-5, 12-15
17 ถ้าคุณเจอสถานการณ์แบบพระเยซู คุณจะทำอย่างไร? คุณจะเลียนแบบท่านโดยยังคงสงบใจแม้จะเครียดไหม? ขอให้เชื่อฟังคำสั่งของพระยะโฮวาที่ให้ ‘ทนกันและกันต่อไป’ (คส. 3:13) เราจะเชื่อฟังคำสั่งนี้ได้ถ้าจำไว้ว่าเราเองก็เคยพูดหรือทำอะไรบางอย่างให้คนอื่นหงุดหงิดเหมือนกัน (สภษ. 12:18; ยก. 3:2, 5) ขอให้คุณพยายามพูดถึงข้อดีของคนอื่น—อฟ. 4:29
ทำไมต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ?
18. พระยะโฮวาช่วยคนอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างไรให้ตัดสินใจอย่างฉลาด? แต่พวกเขาต้องทำอะไร?
18 เพื่อเราจะตัดสินใจได้ดีขึ้น เมื่อเราตัดสินใจเรื่องยาก ๆ พระยะโฮวาจะช่วยเราให้ตัดสินใจได้ถูกต้องก็ต่อเมื่อเราเป็นคนอ่อนถ่อมตน พระองค์สัญญาว่าจะฟัง “คำขอของคนอ่อนน้อมถ่อมตน” (สด. 10:17) นอกจากนั้น พระองค์จะไม่แค่ฟังคำขอของเรา แต่คัมภีร์ไบเบิลสัญญาว่า “พระองค์จะชี้นำคนอ่อนน้อมให้เดินในทางที่ถูกต้องและจะสอนทางของพระองค์ให้กับคนถ่อมตน” (สด. 25:9) พระยะโฮวาให้คำแนะนำไว้ในคัมภีร์ไบเบิลกับหนังสือต่าง ๆ ขององค์การ * รวมทั้งวีดีโอและการประชุมต่าง ๆ ที่ “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” จัดเตรียมไว้ให้เรา (มธ. 24:45-47) เราต้องถ่อมใจยอมรับความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาโดยศึกษาค้นคว้าสิ่งต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาจัดเตรียมให้ และเอาสิ่งที่เราเรียนรู้ไปใช้
19-21. โมเสสทำผิดอะไรที่คาเดช? และเราได้บทเรียนอะไร?
19 เพื่อเราจะหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาด ลองคิดถึงตัวอย่างของโมเสสอีกครั้ง เขาเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและทำให้พระยะโฮวาพอใจตลอดหลายสิบปี แต่ช่วงท้ายของการเดินทาง 40 ปีที่ยากลำบากในที่กันดาร โมเสสกลับไม่ได้แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน ตอนนั้นพี่สาวของเขาซึ่งอาจเป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาในอียิปต์เพิ่งตายและถูกฝังไว้ที่คาเดช ตอนที่อยู่ที่นั่น ชาวอิสราเอลบ่นอีกครั้งว่าพวกเขาไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี และคราวนี้พวกเขา “บ่นต่อว่าโมเสส” กดว. 20:1-5, 9-11
เพราะไม่มีน้ำกิน แม้ชาวอิสราเอลจะได้เห็นการอัศจรรย์มากมายที่พระยะโฮวาทำเพื่อพวกเขาผ่านทางโมเสสซึ่งเป็นผู้นำที่ไม่เห็นแก่ตัว ประชาชนเหล่านั้นก็ยังบ่น พวกเขาไม่ใช่แค่บ่นว่าไม่มีน้ำกิน แต่บ่นเรื่องโมเสสด้วย เหมือนกับว่ามันเป็นความผิดของโมเสสที่พวกเขาหิวน้ำ—20 โมเสสโกรธมากจนไม่แสดงความอ่อนโยน แทนที่โมเสสจะแสดงความเชื่อและพูดกับหินอย่างที่พระยะโฮวาสั่ง เขากลับต่อว่าประชาชนและบอกว่าตัวเขาเองจะทำให้น้ำไหลออกมา แล้วเขาก็ตีหิน 2 ครั้งแล้วน้ำก็พุ่งออกมา ความหยิ่งและความโกรธทำให้เขาทำผิดพลาดร้ายแรง (สด. 106:32, 33) เป็นเพราะโมเสสไม่ได้แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนแค่ชั่วครู่ พระเจ้าเลยไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์สัญญา—กดว. 20:12
21 จากตัวอย่างนี้เราได้บทเรียนที่ดีมาก อย่างแรก เราต้องพยายามเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ ถ้าเราลืมตัวนิดเดียว เราก็จะแสดงความหยิ่งออกมาและทำให้พูดหรือทำอะไรแบบไม่ฉลาด อย่างที่ 2 ความเครียดทำให้เราอ่อนแอ ดังนั้น เราต้องพยายามที่จะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนแม้จะเจอความกดดัน
22-23. (ก) ทำไมเราต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ? (ข) คำพูดที่เศฟันยาห์ 2:3 กำลังบอกอะไร?
22 เพื่อเราจะได้รับการปกป้อง อีกไม่นานพระยะโฮวาจะทำให้คนชั่วหมดไปจากโลก มีแต่คนที่อ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้นที่ยังอยู่ แล้วโลกก็จะสงบสุขจริง ๆ (สด. 37:10, 11) คุณอยากอยู่ในโลกที่มีแต่คนแบบนั้นไหม? คุณทำได้ถ้าทำตามคำเชิญที่อบอุ่นของพระยะโฮวาซึ่งบันทึกไว้โดยผู้พยากรณ์เศฟันยาห์—อ่านเศฟันยาห์ 2:3
23 ทำไมเศฟันยาห์ 2:3 ถึงบอกว่า “เผื่อว่าพระยะโฮวาจะปกป้องคุณ”? คำพูดนี้ไม่ได้แปลว่าพระยะโฮวาไม่สามารถปกป้องคนที่อยากทำให้พระองค์พอใจและรักพระองค์ แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ข้อนี้กำลังบอกว่า ถ้าเราอยากให้พระยะโฮวาปกป้อง เราต้องทำอะไรบางอย่าง เราจะรอดผ่าน “วันที่พระองค์จะมาลงโทษ” และมีชีวิตตลอดไปได้ ถ้าเราพยายามตั้งแต่ตอนนี้ที่จะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและทำให้พระยะโฮวาพอใจ
เพลง 120 เลียนแบบความอ่อนโยนของพระคริสต์
^ วรรค 5 ในพวกเราไม่มีใครสักคนที่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนตั้งแต่เกิด เราต้องพยายามเป็นคนแบบนั้น เราอาจรู้สึกว่าเราอ่อนน้อมถ่อมตนได้ตอนที่อยู่กับคนที่อ่อนโยน แต่จะทำได้ยากถ้าอยู่กับคนที่หยิ่ง บทความนี้จะดูว่ามีข้อท้าทายอะไรบ้างที่เราต้องเอาชนะเพื่อจะมีความอ่อนน้อมถ่อมตนซึ่งเป็นคุณลักษณะที่ดีเยี่ยม
^ วรรค 3 อธิบายคำศัพท์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน คนที่อ่อนน้อมถ่อมตนจะเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและไม่โกรธแม้มีคนมายั่วโมโห เขาจะถ่อมตัว ไม่หยิ่งหรือทะนงตัว และมองคนอื่นว่าดีกว่าตัวเอง เขาจะแสดงความรักและเมตตาคนที่ต่ำต้อยกว่า
^ วรรค 18 ตัวอย่างเช่น ดูบทความ “จงตัดสินใจอย่างที่ทำให้พระเจ้าได้รับการสรรเสริญ” ในหอสังเกตการณ์ 15 เมษายน 2011
^ วรรค 59 คำอธิบายภาพ พระเยซูยังคงอ่อนโยนและค่อย ๆ แก้ไขพวกสาวกหลังจากที่พวกเขาเถียงกันว่าใครเป็นใหญ่ที่สุด