บทความศึกษา 6
เพลง 10 สรรเสริญพระยะโฮวาพระเจ้าของเรา
“ขอให้สรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา”
“พวกคุณที่รับใช้พระยะโฮวา สรรเสริญพระองค์เถอะ ขอให้สรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา” —สด. 113:1
จุดสำคัญ
เพื่อเน้นถึงเหตุผลที่เราสรรเสริญชื่อที่บริสุทธิ์ของพระยะโฮวาให้มากที่สุดเท่าที่เราทำได้
1-2. พระยะโฮวารู้สึกยังไงตอนที่พระองค์ถูกใส่ร้าย? ขอยกตัวอย่าง
สมมุติว่าคนที่คุณรักพูดใส่ร้ายคุณ เรื่องที่เขาพูดมันโกหกชัด ๆ แต่ก็มีคนเชื่อที่เขาพูดด้วย และที่แย่กว่านั้นคือพวกเขาเอาเรื่องนั้นไปเล่าต่อ ๆ กันและก็ยิ่งมีคนเชื่อมากขึ้นไปอีก ถ้าเป็นแบบนี้คุณจะรู้สึกยังไง? ถ้าคุณเป็นห่วงคนที่ได้ยินเรื่องนั้นและเป็นห่วงชื่อเสียงของตัวเอง การใส่ร้ายแบบนี้คงทำให้คุณรู้สึกแย่มาก ๆ—สภษ. 22:1
2 นี่ทำให้เราเข้าใจว่าพระยะโฮวารู้สึกยังไงเมื่อชื่อเสียงของพระองค์ถูกใส่ร้าย ทูตสวรรค์องค์หนึ่งโกหกเอวาผู้หญิงคนแรก และเธอก็เชื่อมัน คำโกหกนั้นทำให้มนุษย์คู่แรกกบฏต่อพระยะโฮวา นี่เลยทำให้มนุษย์กลายเป็นคนบาปและต้องตาย (ปฐก. 3:1-6; รม. 5:12) การโกหกของซาตานครั้งนั้นแหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทุกอย่างในโลกตอนนี้ เช่น ความตาย สงคราม และความทุกข์ นี่ทำให้พระยะโฮวาเจ็บปวดไหม? แน่นอน แต่พระองค์ไม่ได้รู้สึกขมขื่นหรือเจ็บแค้นใจไม่หาย พระองค์ยังคงเป็น “พระเจ้าผู้มีความสุข”—1 ทธ. 1:11
3. เรามีสิทธิพิเศษอะไร?
3 เรามีสิทธิพิเศษที่ได้ทำให้ชื่อของพระยะโฮวาเป็นที่เคารพนับถืออยู่เสมอ เราทำอย่างนั้นได้โดยเชื่อฟังคำสั่งง่าย ๆ ที่ว่า “ขอให้สรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา” (สด. 113:1) เราสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวาได้โดยบอกความจริงเกี่ยวกับพระองค์ให้คนอื่นฟัง คุณจะสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวาไหม? ให้เรามาดูเหตุผล 3 อย่างที่กระตุ้นเราให้อยากสรรเสริญชื่อของพระองค์สุดหัวใจ
เมื่อเราสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา เราก็ทำให้พระองค์ดีใจ
4. ทำไมพระยะโฮวาดีใจเมื่อเราสรรเสริญพระองค์? ขอยกตัวอย่าง (ดูภาพด้วย)
4 เมื่อเราสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา เราก็ทำให้พ่อในสวรรค์ของเราพอใจ (สด. 119:108) แต่นี่หมายความว่าพระเจ้าผู้มีพลังอำนาจสูงสุดเป็นเหมือนมนุษย์ที่อยากให้คนมายกย่องเพราะขาดความมั่นใจในตัวเองไหม? ไม่ ขอให้คิดถึงตัวอย่างนี้ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ วิ่งไปกอดพ่อและบอกว่า “พ่อหนูเก่งที่สุดในโลกเลย!” พ่อคงจะรู้สึกดีใจมาก แต่เราควรสงสัยไหมว่าพ่อคนนี้ต้องอาศัยคำชมของลูกเพื่อจะทำให้ตัวเองมั่นใจมากขึ้น? ไม่ เราไม่คิดแบบนั้น แต่เราจะมองว่าเขาดีใจที่ลูกรักและรู้สึกขอบคุณเขา และเขารู้ว่าการที่ลูกทำแบบนี้จะเป็นผลดีต่อตัวลูกเองเมื่อโตขึ้น คล้ายกัน พระยะโฮวาพระเจ้าผู้เป็นพ่อองค์ยิ่งใหญ่สูงสุดก็ดีใจที่เราสรรเสริญพระองค์
5. เมื่อเราสรรเสริญพระยะโฮวา เราหักล้างคำโกหกอะไร?
5 เมื่อเราสรรเสริญพระยะโฮวาพ่อของเราในสวรรค์ เราก็พิสูจน์ว่าสิ่งที่ซาตานพูดไม่เป็นความจริงเลย ซาตานกล่าวหาว่าไม่มีมนุษย์คนไหนซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าเมื่อถูกทดสอบ และไม่มีใครจะภักดีและปกป้องชื่อของพระองค์ มันบอกว่าถ้ามนุษย์ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากการรับใช้พระเจ้า พวกเขาก็จะทิ้งพระองค์ไป (โยบ 1:9-11; 2:4) แต่โยบผู้รับใช้พระเจ้าที่ซื่อสัตย์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าซาตานโกหก แล้วคุณล่ะ? คุณจะซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าเสมอไหม? เราทุกคนมีสิทธิพิเศษที่จะปกป้องชื่อของพระยะโฮวาและทำให้พระองค์พอใจโดยรับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์ (สภษ. 27:11) เป็นเกียรติสำหรับเราจริง ๆ ที่ได้ทำอย่างนี้
6. เราจะเลียนแบบกษัตริย์ดาวิดกับชาวเลวีได้ยังไง? (เนหะมีย์ 9:5)
6 คนที่รักพระยะโฮวาอยากสรรเสริญชื่อของพระองค์สุดหัวใจ กษัตริย์ดาวิดบอกว่า “ขอให้ผมสรรเสริญพระยะโฮวาเถอะขอให้ทุกสิ่งในตัวผมสรรเสริญชื่อที่บริสุทธิ์ของพระองค์” (สด. 103:1) ดาวิดรู้ว่าการสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวาหมายถึงการสรรเสริญตัวของพระองค์เอง เมื่อเราได้ยินชื่อของพระยะโฮวา เราก็จะคิดว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแบบไหน คิดถึงคุณลักษณะที่ดีต่าง ๆ ของพระองค์ และคิดถึงสิ่งที่ยอดเยี่ยมทุกอย่างที่พระองค์ทำ ดาวิดอยากแสดงความนับถือชื่อที่บริสุทธิ์ของพระยะโฮวาและสรรเสริญชื่อนั้น เขาอยากให้ “ทุกสิ่งในตัวเขา” สรรเสริญพระองค์ ซึ่งหมายถึงสรรเสริญพระองค์สุดหัวใจ คล้ายกัน ชาวเลวีที่นำหน้าในการสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวายอมรับว่าชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ยิ่งใหญ่จนไม่มีคำสรรเสริญ ไหนจะคู่ควร (อ่านเนหะมีย์ 9:5) การสรรเสริญพระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจและถ่อมตัวแบบนี้ต้องทำให้พระองค์มีความสุขมากแน่ ๆ
7. เราจะสรรเสริญพระยะโฮวาในงานรับใช้และในชีวิตประจำวันของเราได้ยังไง?
7 ทุกวันนี้เราก็สามารถทำให้พระยะโฮวาดีใจได้โดยพูดกับคนอื่นว่าเรารู้สึกขอบคุณและรักพระองค์มากขนาดไหน ตอนที่เราทำงานรับใช้ เราต้องจำไว้เสมอว่าเราควรช่วยผู้คนให้มารู้จักพระยะโฮวาและมองพระองค์เหมือนที่เรามอง (ยก. 4:8) เราอยากช่วยคนอื่นให้รู้ว่าคัมภีร์ไบเบิลพูดถึงพระยะโฮวายังไง และช่วยพวกเขาให้รู้จักคุณลักษณะที่ดีของพระองค์ เช่น ความรัก ความยุติธรรม สติปัญญา และอำนาจ รวมถึงคุณลักษณะที่ดีอื่น ๆ ของพระยะโฮวา นอกจากนั้น เราสามารถสรรเสริญพระยะโฮวาและทำให้พระองค์ดีใจได้โดยการเลียนแบบพระองค์ (อฟ. 5:1) เมื่อเราทำแบบนี้ เราก็จะต่างจากคนอื่นในโลกชั่ว และอาจจะมีคนสังเกตเห็นความแตกต่างของเราและอาจอยากรู้ก็ได้ว่าทำไมเราถึงต่างจากพวกเขา (มธ. 5:14-16) ตอนที่เราใช้ชีวิตร่วมกับคนทั่วไป ในแต่ละวันเราอาจมีโอกาสที่จะอธิบายให้พวกเขารู้ว่าทำไมเราถึงทำบางอย่างไม่เหมือนคนอื่น เมื่อเราทำแบบนี้เราก็อาจทำให้คนที่มีหัวใจดีอยากรู้จักพระองค์ก็ได้ การทำแบบนี้จะทำให้พระยะโฮวาดีใจแน่ ๆ—1 ทธ. 2:3, 4
เมื่อเราสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา เราก็ทำให้พระเยซูดีใจ
8. ทำไมถึงบอกได้ว่าพระเยซูเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในการสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา?
8 ไม่มีใครในเอกภพอีกแล้วที่รู้จักพระยะโฮวาดีเท่ากับพระเยซู (มธ. 11:27) พระเยซูรักพระยะโฮวาพ่อของท่านมาก และท่านเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในการสรรเสริญชื่อของพระองค์ (ยน. 14:31) ในคืนก่อนที่พระเยซูจะตาย ท่านอธิษฐานถึงพระยะโฮวา ท่านพูดถึงสิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านได้ทำตอนอยู่บนโลกว่า “ผมทำให้พวกเขารู้จักชื่อของพระองค์แล้ว” (ยน. 17:26) พระเยซูหมายความว่าอะไร?
9. พระเยซูใช้ตัวอย่างเปรียบเทียบอะไรเพื่อช่วยให้ผู้คนรู้จักพระยะโฮวาดีขึ้น?
9 พระเยซูไม่ใช่แค่บอกคนอื่นว่าพระเจ้ามีชื่อว่าพระยะโฮวา ที่จริง ชาวยิวในสมัยพระเยซูก็รู้อยู่แล้วว่าพระเจ้าชื่ออะไร แต่พระเยซู “เป็นผู้ที่ทำให้ [พวกเขา] ได้มารู้จักพระองค์” (ยน. 1:17, 18) ตัวอย่างเช่น ในพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูบอกว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่เมตตาสงสาร (อพย. 34:5-7) แต่พระเยซูทำให้ความจริงนี้ชัดเจนขึ้นอีกโดยยกตัวอย่างเปรียบเทียบเกี่ยวกับลูกที่หลงหาย ในตัวอย่างนั้นพระเยซูบอกว่า คนที่เป็นพ่อมองเห็นลูกคนนี้ “ตอนที่เขายังอยู่แต่ไกล” แล้วพ่อก็วิ่งเข้าไปหาเขา กอดเขา และให้อภัยเขา ตัวอย่างนี้ทำให้เราเห็นเลยว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่มีความเมตตาสงสารมาก (ลก. 15:11-32) พระเยซูทำให้ผู้คนเห็นชัดเลยว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าแบบไหนจริง ๆ
10. (ก) เรารู้ได้ยังไงว่าพระเยซูใช้ชื่อของพระยะโฮวาและอยากให้คนอื่นทำเหมือนท่าน? (มาระโก 5:19) (ดูภาพด้วย) (ข) ทุกวันนี้พระเยซูอยากให้เราทำอะไร?
10 พระเยซูอยากให้คนอื่นใช้ชื่อของพระยะโฮวาพ่อของท่านไหม? แน่นอน แต่พวกผู้นำศาสนาในสมัยพระเยซูเชื่อว่าชื่อของพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าที่จะเอามาพูดถึงได้ แต่พระคัมภีร์ไม่ได้บอกแบบนี้ ท่านเลยไม่ยอมให้เรื่องนี้มาทำให้ท่านไม่ได้ยกย่องสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา เช่น หลังจากที่พระเยซูรักษาผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกปีศาจสิงในเขตแดนของชาวเกราซา ผู้คนที่นั่นพากันหวาดกลัวแล้วก็ขอร้องให้พระเยซูออกไป จากเมืองนั้น พระเยซูก็เลยต้องไป (มก. 5:16, 17) แต่เพราะท่านอยากให้คนที่นั่นรู้จักชื่อของพระยะโฮวา ท่านก็เลยมอบหมายให้ผู้ชายคนนั้นไปเล่าให้คนอื่น ๆ ฟังว่าพระยะโฮวาทำอะไรแทนที่จะบอกว่าท่านทำอะไร (อ่านมาระโก 5:19) a ทุกวันนี้พระเยซูก็อยากให้เราช่วยคนทั่วโลกรู้จักชื่อของพระยะโฮวา (มธ. 24:14; 28:19, 20) ถ้าเราทำแบบนี้ เราก็กำลังทำให้พระเยซูกษัตริย์ของเราพอใจ
11. พระเยซูสอนสาวกให้อธิษฐานเรื่องอะไรและทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ? (เอเสเคียล 36:23)
11 พระเยซูรู้ว่าความประสงค์ของพระยะโฮวาก็คือพระองค์อยากให้ชื่อของพระองค์เป็นที่เคารพนับถือและพ้นจากคำตำหนิทุกอย่าง พระเยซูก็เลยสอนให้สาวกอธิษฐานว่า “พระเจ้า พ่อของพวกเราในสวรรค์ ขอให้ชื่อของพระองค์เป็นที่เคารพนับถืออยู่เสมอ” (มธ. 6:9) พระเยซูรู้ว่านี่เป็นประเด็นสำคัญที่สุดและมีผลกระทบกับทุกสิ่งที่พระยะโฮวาสร้าง (อ่านเอเสเคียล 36:23) ที่จริง ไม่มีใครในเอกภพอีกแล้วที่ทำให้ชื่อของพระยะโฮวาเป็นที่เคารพนับถือได้มากเท่าพระเยซู แต่ตอนที่พระเยซูถูกจับ พวกศัตรูกล่าวหาท่านว่าอะไร? พวกเขากล่าวหาว่าท่านหมิ่นประมาทพระเจ้า พระเยซูรู้แน่นอนว่าการทำให้ชื่อที่บริสุทธิ์ของพระยะโฮวาแปดเปื้อนเป็นบาปที่ร้ายแรงที่สุด ท่านก็เลยทุกข์ใจมากที่โดนข้อกล่าวหานี้ นี่เลยอาจเป็นเหตุผลที่พระเยซู “รู้สึกเครียดมาก” ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ท่านจะถูกจับ—ลก. 22:41-44
12. พระเยซูทำให้ชื่อของพ่อท่านเป็นที่เคารพนับถืออยู่เสมอยังไง?
12 พระเยซูยอมทนกับการทดสอบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการถูกทรมาน ถูกด่าว่า และถูกใส่ร้าย เพื่อจะทำให้ชื่อของพระยะโฮวาเป็นที่เคารพนับถืออยู่เสมอ พระเยซูทำได้สำเร็จจริง ๆ และท่านก็รู้ว่าการที่ท่านเชื่อฟังอย่างครบถ้วนทำให้ท่านไม่มีอะไรต้องอาย (ฮบ. 12:2) ท่านรู้ด้วยว่าซาตานพยายามเล่นงานท่านตอนที่ท่านอยู่ในช่วงที่ยากลำบากที่สุด (ลก. 22:2-4; 23:33, 34) ซาตานอยากจะทำให้พระเยซูเลิกซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา แต่มันก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะพระเยซูได้พิสูจน์แล้วว่าซาตานโกหกและพิสูจน์ว่าพระยะโฮวาก็มี ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่พร้อมจะภักดีต่อพระองค์เสมอแม้จะต้องเจอกับการทดสอบที่ยากที่สุดในชีวิต
13. คุณจะทำให้พระเยซูกษัตริย์ของคุณดีใจได้ยังไง?
13 คุณอยากทำให้พระเยซูกษัตริย์ของคุณดีใจไหม? คุณทำได้โดยสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไปและช่วยคนอื่นให้มารู้ว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าแบบไหนจริง ๆ ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณก็กำลังเลียนแบบพระเยซู (1 ปต. 2:21) คุณทำให้พระยะโฮวาดีใจและพิสูจน์ว่าซาตานศัตรูของพระองค์เป็นจอมโกหกที่ไร้ยางอาย
เมื่อเราสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา เราก็ได้ช่วยชีวิตคน
14-15. เมื่อเราสอนผู้คนเกี่ยวกับพระยะโฮวา เราอาจได้เห็นสิ่งที่น่าประทับใจอะไรบ้าง?
14 เมื่อเราสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา เราก็ได้ช่วยชีวิตคน เป็นแบบนั้นได้ยังไง? ซาตาน “ได้ทำให้ใจ [ผู้คน] มืดไป” (2 คร. 4:4) ผลก็คือหลายคนหลงเชื่อคำโกหกที่ว่าพระเจ้าไม่มีจริง พระองค์อยู่ห่างไกล ไม่สนใจว่ามนุษย์จะเป็นยังไง โหดร้าย และทรมานคนที่ทำผิดตลอดไป คำโกหกเหล่านี้ทำให้ชื่อของพระยะโฮวาแปดเปื้อน ทำลายชื่อเสียงของพระองค์ และทำให้ผู้คนไม่อยากเข้าใกล้พระองค์ แต่งานที่เราทำขัดขวางเป้าหมายของซาตาน เราสอนผู้คนให้รู้ความจริงเกี่ยวกับพระยะโฮวาและสรรเสริญชื่อที่บริสุทธิ์ของพระองค์ แล้วสิ่งที่เราทำส่งผลยังไง?
15 ความจริงในคัมภีร์ไบเบิลมีพลังมาก เมื่อเราสอนผู้คนให้รู้จักพระยะโฮวาและสอนว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแบบไหน เราก็ได้เห็นสิ่งที่น่าประทับใจหลายอย่าง เราได้เห็นว่าคนที่เคยถูกปิดหูปิดตาเพราะคำโกหกของซาตานเริ่มเห็นว่า พระยะโฮวามีคุณลักษณะที่ดีอะไรบ้าง เช่น พวกเขารู้สึกประทับใจในพลังอำนาจของพระองค์ที่ไม่มีขีดจำกัด (อสย. 40:26) พวกเขาสามารถไว้วางใจพระยะโฮวาได้เพราะพระองค์แสดงความยุติธรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบ (ฉธบ. 32:4) และพวกเขารู้สึกทึ่งที่ได้เห็นว่าสติปัญญาของพระองค์ล้ำลึกจริง ๆ (อสย. 55:9; รม. 11:33) นอกจากนั้น พวกเขาได้รับกำลังใจที่รู้ว่าพระองค์เป็นความรัก (1 ยน. 4:8) เมื่อพวกเขาพยายามสนิทกับพระยะโฮวามากขึ้น ความหวังของพวกเขาที่จะได้เป็นลูกของพระองค์และมีชีวิตตลอดไปก็ยิ่งชัดเจนขึ้น พวกเรามีสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่ได้ช่วยหลายคนให้เข้ามาใกล้ชิดกับพระยะโฮวาพ่อในสวรรค์ของเรา เมื่อเราทำอย่างนี้พระยะโฮวาก็มองว่าเราเป็น “เพื่อนร่วมงานของ [พระองค์]”—1 คร. 3:5, 9
16. ชีวิตของบางคนเปลี่ยนไปยังไงเมื่อได้มารู้จักชื่อของพระยะโฮวา? ขอยกตัวอย่าง
16 ตอนแรกเราอาจแค่สอนผู้คนว่าพระเจ้าชื่อยะโฮวา ที่จริง นี่อาจมีผลกับคนที่มีหัวใจดีมากกกว่าที่เราคิด ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่ชื่ออารียาห์ b โตมาในครอบครัวที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ แต่เธอก็ไม่ได้ชอบศาสนาของตัวเองและไม่ได้รู้สึกเลื่อมใสพระในศาสนาของเธอ อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนไปหลังจากได้เรียนคัมภีร์ไบเบิลกับพยานฯ เธอเริ่มมองว่าพระเจ้าเป็นเพื่อนของเธอจริง ๆ นอกจากนั้น เธอแปลกใจมากที่เห็นว่าชื่อของพระเจ้าถูกเอาออกจากคัมภีร์ไบเบิลหลายฉบับและแทนที่ด้วยตำแหน่ง เช่น องค์พระผู้เป็นเจ้า การได้รู้ว่าพระเจ้ามีชื่อเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ เธอบอกว่า “พระเจ้าเป็นเพื่อนสนิทของฉัน และฉันก็เพิ่งรู้ว่าพระองค์มีชื่อด้วย” ผลเป็นยังไง? เธอบอกว่า “ตอนนี้ฉันรู้สึกสงบใจและเป็นเกียรติมากจริง ๆ ที่ได้มารู้จักชื่อของพระองค์” ผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อสตีฟเป็นนักดนตรี ครอบครัวของเขาเคร่งศาสนายิวมาก แต่ตัวเขาเองไม่อยากจะสังกัดอยู่ในศาสนาไหนเพราะได้เจอแต่คนที่หน้าไหว้หลังหลอก ถึงอย่างนั้น ตอนที่แม่ของเขาตาย เขาตัดสินใจศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานฯ เขารู้สึกประทับใจมากที่ได้รู้จักชื่อของพระเจ้า เขาบอกว่า “ผมไม่เคยได้รู้จักชื่อของพระเจ้าเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาเข้าใจว่าพระเจ้ามีตัวตนอยู่จริง ตอนนั้นผมรู้เลยว่าผมได้เจอเพื่อนแท้แล้ว”
17. ทำไมคุณถึงตั้งใจที่จะสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป? (ดูภาพด้วย)
17 ตอนที่คุณไปประกาศและสอนผู้คน คุณบอกพวกเขาให้รู้จักชื่อของพระยะโฮวาไหม? คุณสอนพวกเขาให้รู้ไหมว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าแบบไหน? ถ้าคุณทำแบบนั้น คุณก็กำลังสรรเสริญชื่อของพระองค์ ขอให้คุณสรรเสริญชื่อที่บริสุทธิ์ของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไปโดยช่วยผู้คนให้มารู้จักว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแบบไหนจริง ๆ ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณก็จะช่วยชีวิตผู้คน จะเลียนแบบพระเยซูซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด และที่สำคัญ คุณจะทำให้พระยะโฮวาพ่อในสวรรค์ของคุณพอใจ ขอให้คุณ “สรรเสริญชื่อของพระองค์ตลอดไป”—สด. 145:2
การสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวา . . .
-
ทำให้พระองค์ดีใจยังไง?
-
ทำให้พระเยซูดีใจยังไง?
-
ช่วยชีวิตผู้คนยังไง?
เพลง 2 ยะโฮวาคือชื่อพระองค์