“ดิฉันเชื่อค่ะว่า เขาจะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตาย”
“ลาซารัสเพื่อนของพวกเราหลับอยู่ ผมจะไปปลุกเขา”—ยอห์น 11:11
1. มาร์ธามั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลาซารัส? (ดูภาพแรก)
มาร์ธาซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสนิทและสาวกของพระเยซูกำลังโศกเศร้าอยู่ มาร์ธากับลาซารัสเป็นพี่น้องกัน ลาซารัสเพิ่งตาย มาร์ธาเลยรู้สึกเสียใจมาก มีอะไรที่จะช่วยปลอบโยนเธอได้ไหม? มีสิ พระเยซูสัญญากับเธอว่า “เขาจะฟื้นขึ้นจากตาย” แม้ว่าคำพูดของพระเยซูไม่ได้ทำให้เธอหายเศร้าทันที แต่มาร์ธาก็มั่นใจในคำสัญญาของพระเยซูและพูดว่า “ดิฉันเชื่อค่ะว่า เขาจะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายในวันสุดท้าย” (ยอห์น 11:20-24) เธอมั่นใจว่าจะมีการฟื้นขึ้นจากตายในอนาคตแน่นอน แต่หลังจากนั้น พระเยซูก็ทำการอัศจรรย์โดยปลุกลาซารัสให้ฟื้นขึ้นจากตายในวันนั้นเลย
2. ทำไมคุณถึงอยากมีความมั่นใจเหมือนที่มาร์ธามี?
2 ไม่มีเหตุผลที่เราจะคาดหมายว่าพระเยซูกับพ่อของท่านจะปลุกคนที่เรารักให้ฟื้นขึ้นจากตายในตอนนี้ แต่คุณมั่นใจเหมือนมาร์ธาไหมว่าคนที่คุณรักจะฟื้นขึ้นจากตายในอนาคต? คุณอาจสูญเสียคู่ของคุณ สูญเสียพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หรือแม้แต่ลูกที่คุณรัก คุณคงแทบรอไม่ไหวที่จะได้กอด พูดคุย หรือหัวเราะกับพวกเขา
น่าดีใจที่คุณมีเหตุผลที่จะพูดได้เหมือนมาร์ธาว่า ‘ฉันเชื่อว่า คนที่ฉันรักจะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตาย’ ถึงอย่างนั้น คงจะดีถ้าเราแต่ละคนจะคิดถึงเหตุผลว่า ทำไมเราถึงมั่นใจในคำสัญญาเรื่องการฟื้นขึ้นจากตาย3, 4. ก่อนหน้านี้พระเยซูได้ทำอะไร และเรื่องนี้ทำให้มาร์ธามั่นใจมากขึ้นอย่างไร?
3 พระเยซูปลุกลูกชายของแม่ม่ายที่อยู่ใกล้เมืองนาอินในแคว้นกาลิลี และท่านก็ปลุกลูกสาวของไยรอสด้วย ทุกคนที่อยู่ในบ้านของไยรอส “รู้ว่าเด็กตายแล้วจริง ๆ” แต่พระเยซูจับมือเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า “หนูน้อย ลุกขึ้นมาเถอะ” ทันใดนั้น เธอก็ลุกขึ้นมาทันที เนื่องจากมาร์ธาอาศัยอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม เธอจึงอาจไม่ได้เห็น 2 เหตุการณ์นี้ แต่เธอคงจะได้ยินเรื่องเหล่านี้ (ลูกา 7:11-17; 8:41, 42, 49-55) ทั้งมาร์ธาและมารีย์ซึ่งเป็นน้องสาวรู้ว่าพระเยซูสามารถรักษาคนป่วยให้หายได้ พวกเขาจึงเชื่อว่าถ้าพระเยซูอยู่ที่นั่น ลาซารัสคงไม่ตาย แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้ว มาร์ธายังมีความหวังอะไรอีกไหม? ขอสังเกตว่ามาร์ธาบอกว่าลาซารัสจะกลับมามีชีวิตอีก “ในวันสุดท้าย” ในอนาคต ทำไมเธอถึงมั่นใจขนาดนั้น? และทำไมคุณสามารถมั่นใจได้ว่าในอนาคตจะมีการฟื้นขึ้นจากตายซึ่งอาจรวมคนที่คุณรักด้วย?
4 เรามีเหตุผลที่ดีหลายอย่างที่จะเชื่อเรื่องการฟื้นขึ้นจากตาย ตอนนี้ให้เรามาดูเหตุผลบางอย่างด้วยกัน ที่จริง คุณอาจพบบางจุดในคัมภีร์ไบเบิลที่คุณอาจไม่ค่อยได้นึกถึง แต่จุดเหล่านั้นจะช่วยคุณให้เชื่อมั่นมากขึ้นว่าจะได้เจอคนที่คุณรักอีกครั้ง
เรื่องราวที่ให้ความหวังกับเรา
5. ทำไมมาร์ธาถึงมั่นใจว่าลาซารัสจะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตาย?
5 ขอสังเกตว่ามาร์ธาไม่ได้พูดว่า ‘ดิฉันหวังค่ะว่า เขาจะถูกปลุก’ แต่เธอบอกว่า “ดิฉันเชื่อค่ะว่า เขาจะถูกปลุก” ทำไมเธอถึงมั่นใจขนาดนั้น? เพราะเธอเคยได้ยินเรื่องการฟื้นขึ้นจากตายที่เกิดขึ้นในอดีต เธอคงจะได้เรียนเรื่องนี้ที่บ้านและในที่ประชุมของชาวยิวตอนเป็นเด็ก ตอนนี้ให้เรามาคุยกันเกี่ยวกับตัวอย่างของ 3 คนที่ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล
6. การอัศจรรย์อะไรที่มาร์ธาต้องเคยได้ยินแน่ ๆ?
6 การฟื้นขึ้นจากตายครั้งแรกเกิดขึ้นตอนที่พระยะโฮวาให้พลังกับผู้พยากรณ์เอลียาห์เพื่อทำการอัศจรรย์ มีแม่ม่ายยากจนคนหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองศาเรฟัทของชาวฟีนิเซียที่อยู่ในอิสราเอลทางเหนือ เธอแสดงน้ำใจต้อนรับเอลียาห์ แล้วพระยะโฮวาก็ทำการอัศจรรย์โดยให้แป้งกับน้ำมันในบ้านไม่หมดไปเพื่อที่เธอกับลูกชายจะไม่อดตาย (1 พงศ์กษัตริย์ 17:8-16) ต่อมา ลูกชายของแม่ม่ายป่วยแล้วก็ตาย แต่เอลียาห์ช่วยเธอ เขา “นอนทับบนตัวเด็ก” และอธิษฐานบอกพระยะโฮวาว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าของผม โปรดทำให้เด็กคนนี้ฟื้นจากตายด้วย” แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง พระยะโฮวาฟังเอลียาห์และเด็กคนนั้นก็กลับมีชีวิตอีก นั่นคือการฟื้นขึ้นจากตายครั้งแรกที่มีการบันทึกในคัมภีร์ไบเบิล (อ่าน 1 พงศ์กษัตริย์ 17:17-24) มาร์ธาต้องเคยได้ยินเหตุการณ์ที่น่าทึ่งนี้แน่ ๆ
7, 8. (ก) เอลีชาทำอะไรให้แม่ของเด็กหายโศกเศร้า? (ข) การอัศจรรย์ของเอลีชาพิสูจน์อะไรเกี่ยวกับพระยะโฮวา?
7 การฟื้นขึ้นจากตายครั้งที่ 2 ที่บันทึกในคัมภีร์ไบเบิลเกิดขึ้นโดยผู้พยากรณ์เอลีชา ในเมืองชูเนมมีผู้หญิงชาวอิสราเอลคนหนึ่งไม่มีลูก เธอแสดงน้ำใจต้อนรับเอลีชา พระยะโฮวาจึงอวยพรเธอกับสามีที่อายุมากให้มีลูกชายคนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปีเด็กคนนั้นก็ตาย ลองนึกดูว่าแม่ของเด็กจะเสียใจขนาดไหน เธอถึงกับเดินทาง 30 กิโลเมตรเพื่อไปหาผู้พยากรณ์เอลีชาบนภูเขาคาร์เมล เอลีชา2 พงศ์กษัตริย์ 4:8-31
จึงส่งเกหะซีผู้ช่วยของเขาล่วงหน้าไปก่อนเพื่อปลุกเด็กคนนั้นที่เมืองชูเนม แต่เกหะซีไม่สามารถทำให้เด็กฟื้นขึ้นมาได้ หลังจากนั้น แม่ของเด็กกับเอลีชาก็มาถึง—8 เอลีชาเข้าไปในบ้านและอธิษฐานถึงพระยะโฮวา พระองค์ตอบคำอธิษฐานของเอลีชา และเด็กคนนั้นก็กลับมามีชีวิตอีกอย่างมหัศจรรย์ เมื่อแม่ของเด็กเห็นว่าลูกกลับมามีชีวิตอีกเธอก็ดีใจมาก (อ่าน 2 พงศ์กษัตริย์ 4:32-37) บางทีเธออาจนึกถึงคำอธิษฐานของฮันนาห์ ฮันนาห์เป็นหมันแต่พระยะโฮวาอวยพรให้เธอมีลูกซึ่งก็คือซามูเอล ฮันนาห์จึงสรรเสริญพระยะโฮวาเพราะพระองค์ “เอามนุษย์ลงไปในหลุมศพและเอาขึ้นมาได้” (1 ซามูเอล 2:6) โดยการที่พระเจ้าปลุกเด็กในเมืองชูเนมให้ฟื้นขึ้นจากตายจริง ๆ พระองค์พิสูจน์ว่ามีความสามารถที่จะทำให้คนตายกลับมามีชีวิตอีก
9. ขอให้เล่าเรื่องการฟื้นขึ้นจากตายครั้งที่ 3 ที่มีบันทึกในคัมภีร์ไบเบิล
9 การฟื้นขึ้นจากตายที่น่ามหัศจรรย์ครั้งถัดมาเกิดขึ้นหลังจากที่เอลีชาตายไปแล้ว หลังจากที่เอลีชาเป็นผู้พยากรณ์มากกว่า 50 ปี เขาก็ ‘ป่วยหนักและตาย’ พอเวลาผ่านไป ศพของเอลีชาเหลือแต่กระดูก วันหนึ่ง ตอนที่ชาวอิสราเอลกำลังฝังศพชายคนหนึ่ง พวกเขาเห็นกองโจรเข้ามา ชาวอิสราเอลกลุ่มนั้นพยายามจะหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงรีบโยนศพนั้นลงไปในที่ฝังศพของเอลีชา คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “เมื่อศพของชายคนนั้นไปโดนกระดูกของเอลีชา ชายคนนั้นก็ฟื้นขึ้นจากตายและลุกขึ้นยืน” (2 พงศ์กษัตริย์ 13:14, 20, 21) ทั้ง 3 ตัวอย่างนี้พิสูจน์ให้มาร์ธาเห็นว่าพระเจ้ามีอำนาจเหนือความตาย และตัวอย่างเหล่านี้ทำให้คุณมั่นใจด้วยแน่ ๆ ว่าพระเจ้ามีอำนาจมากมายมหาศาลอย่างไม่จำกัด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยอัครสาวก
10. เกิดอะไรขึ้นกับพี่น้องหญิงคริสเตียนคนหนึ่ง? แล้วเปโตรช่วยเธออย่างไร?
10 พระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกก็มีเรื่องราวของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้าที่ปลุกคนอื่นให้ฟื้นขึ้นจากตายด้วยเหมือนกัน เราได้คุยกันเกี่ยวกับการที่พระเยซูได้ปลุกคนให้ฟื้นขึ้นจากตายใกล้เมืองนาอินและที่บ้านของไยรอส ต่อมา อัครสาวกเปโตรได้ปลุกโดร์คัสที่มีอีกชื่อหนึ่งว่าทาบิธาให้ฟื้นขึ้นจากตาย ตอนนั้นเปโตรมาที่ห้องหนึ่งซึ่งเป็นที่วางศพของเธอ เขาอธิษฐานและพูดว่า “ทาบิธา ลุกขึ้นมาเถอะ” แล้วเธอก็ฟื้นขึ้นจากตายทันที เปโตรเรียกคริสเตียนคนอื่น ๆ เข้ามาและ “ให้พวกเขาเห็นว่าเธอฟื้นขึ้นมามีชีวิตแล้ว” เหตุการณ์นี้น่าเชื่อถือมากจนถึงกับทำให้หลายคนในเมืองนั้น “เข้ามาเป็นสาวกของผู้เป็นนาย” สาวกใหม่เหล่านี้สามารถบอกคนอื่นเรื่องข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูและเป็นพยานบอกคนอื่น ๆ ว่าพระยะโฮวาสามารถปลุกคนให้ฟื้นขึ้นจากตายได้—กิจการ 9:36-42
11. ลูกาที่เป็นหมอบอกอะไรเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เหตุการณ์นี้มีผลอย่างไรต่อคนอื่น ๆ?
11 นอกจากนั้น ยังมีการฟื้นขึ้นจากตายอีกครั้งหนึ่งที่มีหลายคนเห็นกับตาด้วย ครั้งหนึ่ง อัครสาวกเปาโลกำลังประชุมอยู่บนห้องชั้นบนในเมืองโตรอัสซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกีในปัจจุบัน เปาโลบรรยายจนถึงเที่ยงคืน เด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อยุทิกัสนั่งฟังบนขอบหน้าต่าง แล้วเขาก็หลับและหงายหลังตกลงมาจากชั้นสาม บางทีลูกาอาจเป็นคนแรกที่ไปถึงตัวเด็กหนุ่มคนนั้น เนื่องจากลูกาเป็นหมอก็เลยรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่แค่บาดเจ็บหรือสลบไป แต่เขาตายแล้ว! เปาโลจึงลงไปข้างล่างและกอดร่างของยุทิกัสไว้ เปาโลพูดสิ่งที่ทำให้หลายคนงงและแปลกใจมากว่า “เขามีชีวิตแล้ว” การอัศจรรย์นี้ทำให้หลายคนที่เห็นเหตุการณ์นั้นประทับใจมาก พวกเขาได้เห็นเด็กหนุ่มที่ตายกิจการ 20:7-12
ไปแล้วกลับมามีชีวิตอีก “เรื่องนี้ทำให้พวกเขามีกำลังใจขึ้นมาก”—ความหวังที่มั่นใจได้ว่าจะเป็นจริง
12, 13. จากที่เราคุยกันเกี่ยวกับตัวอย่างเรื่องการฟื้นขึ้นจากตาย เราอาจมีคำถามอะไร?
12 การฟื้นขึ้นจากตายที่เราได้คุยกันก่อนหน้านี้ควรทำให้เรามั่นใจเหมือนที่มาร์ธามั่นใจ เรามั่นใจว่าพระเจ้าผู้ให้ชีวิตสามารถทำให้คนที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีก แต่ที่น่าสังเกตก็คือทุกครั้งที่มีการฟื้นขึ้นจากตาย มันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่พระยะโฮวาให้ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์แต่ละคนมีอำนาจทำการอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นเอลียาห์ พระเยซู หรือเปโตร เราอาจมีคำถามว่า แล้วผู้รับใช้พระเจ้าที่ตายในช่วงเวลาอื่น ๆ ที่พระองค์ไม่ได้ให้อำนาจใครปลุกคนให้ฟื้นขึ้นจากตายล่ะ พวกเขาจะเป็นอย่างไร? พวกเขาจะมั่นใจได้ไหมว่าจะมีการปลุกคนให้ฟื้นขึ้นจากตายในอนาคต? พวกเขาสามารถมั่นใจเหมือนกับมาร์ธาได้ไหมที่บอกว่า “ดิฉันเชื่อค่ะว่า เขาจะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายในวันสุดท้าย”? ทำไมมาร์ธาถึงเชื่อว่าจะมีการฟื้นขึ้นจากตายในอนาคต? แล้วคุณล่ะ อะไรทำให้คุณเชื่อ?
13 ในคัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้าที่มั่นใจว่าจะมีการฟื้นขึ้นจากตายในอนาคต ให้เรามาดูกันบางตัวอย่าง
14. ตัวอย่างของอับราฮัมสอนอะไรเราเกี่ยวกับการฟื้นขึ้นจากตาย?
14 ขอให้คิดถึงสิ่งที่พระยะโฮวาบอกให้อับราฮัมทำกับอิสอัคลูกชายที่เขารอคอยมานาน พระองค์บอกว่า “ขอให้พาอิสอัคลูกชายคนเดียวที่เจ้ารักมากเดินทางไปแผ่นดินโมริยาห์ แล้วถวายเขาเป็นเครื่องบูชาเผา” (ปฐมกาล 22:2) คุณคิดว่าอับราฮัมรู้สึกอย่างไรตอนที่ได้ยินคำสั่งนั้น? พระยะโฮวาสัญญาว่าโดยทางลูกหลานของอับราฮัมคนทุกชาติจะได้รับพร (ปฐมกาล 13:14-16; 18:18; โรม 4:17, 18) และพระองค์ยังบอกด้วยว่าพรนั้น “จะมาทางอิสอัค” (ปฐมกาล 21:12) แต่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าอับราฮัมต้องถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา? เปาโลได้รับการดลใจให้อธิบายว่า อับราฮัมมีความเชื่อว่าพระเจ้าจะทำให้อิสอัคฟื้นขึ้นจากตาย (อ่านฮีบรู 11:17-19) แต่คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าอับราฮัมคิดว่าอิสอัคจะฟื้นตอนนั้นเลย หรืออาจจะ 1 หรือ 2 ชั่วโมง หนึ่งวัน หรือแม้แต่หนึ่งสัปดาห์หลังจากตาย อับราฮัมไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกชายของเขาจะฟื้นขึ้นจากตายเมื่อไร แต่เขาเชื่อว่าพระยะโฮวาจะทำให้อิสอัคฟื้นขึ้นมามีชีวิตอีกแน่นอน
15. โยบผู้ซื่อสัตย์มีความหวังอะไร?
15 โยบผู้ซื่อสัตย์เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ว่าจะมีการฟื้นขึ้นจากตายในอนาคต เขารู้ว่าถ้าต้นไม้ถูกตัดก็ยังมีหวังว่าจะงอกโยบ 14:7-12; 19:25-27) ถ้าคนเราตาย เขาไม่สามารถทำให้ตัวเองฟื้นขึ้นมาอีก (2 ซามูเอล 12:23; สดุดี 89:48) แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าจะปลุกคนให้ฟื้นขึ้นจากตายไม่ได้ จริง ๆ แล้วโยบเชื่อว่าเขาอยู่ในความทรงจำของพระยะโฮวา (อ่านโยบ 14:13-15) ถึงโยบไม่รู้ว่าการฟื้นขึ้นจากตายจะเกิดขึ้นเมื่อไรในอนาคต แต่โยบก็มั่นใจว่าพระเจ้าผู้สร้างมนุษย์มีความสามารถที่จะจดจำเขา พระองค์จะคิดถึงเขาและจะทำให้เขาฟื้นขึ้นจากตายแน่นอน
ขึ้นมาอีกและเป็นเหมือนต้นไม้ต้นใหม่ แต่คนเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น (16. ทูตสวรรค์ให้กำลังใจอะไรกับดาเนียล?
16 ขอให้คิดถึงดาเนียลผู้ซื่อสัตย์อีกคนหนึ่ง เขาเป็นผู้รับใช้ที่ภักดีของพระยะโฮวาตลอดชีวิตของเขา และพระองค์ก็สนับสนุนและช่วยเหลือเขา มีครั้งหนึ่ง ทูตสวรรค์ได้เรียกดาเนียลว่า “คนที่พระเจ้าถือว่ามีค่ามาก” และบอกเขาว่า “ใจเย็น ๆ” และ “เข้มแข็งเข้าไว้”—ดาเนียล 9:22, 23; 10:11, 18, 19
17, 18. พระยะโฮวาสัญญาอะไรกับดาเนียล?
17 พอดาเนียลอายุเกือบ 100 ปีและใกล้จะตาย เขาอาจคิดว่าจะเกิดขึ้นอะไรขึ้นกับเขา ดาเนียลหวังไหมว่าเขาจะกลับมามีชีวิตอีก? เขาหวังอย่างนั้นแน่ ๆ ตอนท้ายของหนังสือดาเนียล เราอ่านสิ่งที่พระเจ้าสัญญากับเขาว่า “ส่วนคุณ ขอให้มั่นคงจนถึงที่สุด คุณจะได้พักผ่อน” (ดาเนียล 12:13) ดาเนียลรู้ว่าความตายเป็นเหมือนการพักผ่อน และรู้ว่าอีกไม่นานเขาจะลงไปในหลุมศพซึ่งเป็นที่ที่ ‘ไม่มีโครงการ ความรู้ หรือสติปัญญาใด ๆ ทั้งสิ้น’ (ปัญญาจารย์ 9:10) แต่นี่ไม่ใช่จุดจบของดาเนียล พระยะโฮวาได้สัญญาสิ่งที่ดีเยี่ยมกับเขาในอนาคต
18 ทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาบอกเขาว่า “คุณจะลุกขึ้นมารับส่วนแบ่งของคุณเมื่อถึงเวลา” ดาเนียลไม่รู้เลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่สิ่งที่เขารู้ก็คือ เขาจะตายและได้พักผ่อน เมื่อดาเนียลได้ยินคำสัญญาที่ว่า “คุณจะลุกขึ้นมารับส่วนแบ่งของคุณ” เขาเข้าใจทันทีว่าจะมีการฟื้นขึ้นจากตาย “เมื่อถึงเวลา” ในอนาคต ซึ่งจะเกิดขึ้นอีกนานหลังจากที่เขาตาย
19, 20. (ก) เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับการฟื้นขึ้นจากตายที่เราได้คุยกันเกี่ยวข้องอย่างไรกับสิ่งที่มาร์ธาพูดกับพระเยซู? (ข) เราจะคุยกันเรื่องอะไรในบทความถัดไป?
19 เห็นได้ชัดว่ามาร์ธามีเหตุผลที่ดีที่จะมั่นใจว่าลาซารัสซึ่งเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้า “จะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายในวันสุดท้าย” คำสัญญาของพระยะโฮวาที่ให้กับดาเนียลและความเชื่อที่เข้มแข็งของมาร์ธาเกี่ยวกับการฟื้นขึ้นจากตายในอนาคตควรทำให้เรามั่นใจด้วยเหมือนกันว่าจะมีการฟื้นขึ้นจากตายแน่นอน
20 เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการฟื้นขึ้นจากตายที่เกิดจริงในอดีตมาแล้ว สิ่งนี้ให้หลักฐานว่าคนตายสามารถกลับมามีชีวิตอีก นอกจากนั้น เราได้เห็นแล้วว่าผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้าหวังที่จะเห็นการฟื้นขึ้นจากตายในอนาคต แต่มีหลักฐานอะไรไหมที่ทำให้เรามั่นใจว่า ถึงจะมีการสัญญาไว้นานแล้วแต่ก็จะมีการฟื้นขึ้นจากตายจริง ๆ? การที่เราเห็นหลักฐานก็จะยิ่งช่วยให้เรามีเหตุผลมากขึ้นที่จะรอคอยการฟื้นขึ้นจากตายในอนาคต การฟื้นขึ้นจากตายที่ว่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร? เราจะคุยกันเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ในบทความถัดไป