ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ใครมีอิทธิพลต่อความคิดคุณ?

ใครมีอิทธิพลต่อความคิดคุณ?

“เลิก​เลียน​แบบ​คน​ใน​โลก​นี้”—โรม 12:2

เพลง 88, 45

1, 2. (ก) ตอน​ที่​เปโตร​บอก​พระ​เยซู​ให้​สงสาร​ตัว​เอง ท่าน​ทำ​อย่าง​ไร? (ดู​ภาพ​แรก) (ข) ทำไม​พระ​เยซู​ตอบ​แบบ​นั้น?

พวก​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​เลย​ว่า​พระ​เยซู​จะ​พูด​อย่าง​นั้น ตอน​แรก​พวก​เขา​คิด​ว่า​พระ​เยซู​จะ​มา​กู้​เอกราช​ให้​อาณาจักร​อิสราเอล แต่​ท่าน​กลับ​บอก​ว่า​อีก​ไม่​นาน​ท่าน​จะ​ต้อง​ทน​ทุกข์​และ​ตาย เปโตร​เลย​พูด​ขึ้น​มา​ว่า “อาจารย์ สงสาร​ตัว​เอง​เถอะ ท่าน​จะ​ไม่​เจอ​เรื่อง​ร้าย ๆ อย่าง​นั้น​หรอก” แต่​พระ​เยซู​ตอบ​เปโตร​ว่า “หยุด​พูด​ได้​แล้ว ซาตาน! คุณ​กำลัง​ขัด​ขวาง​ผม ที่​คุณ​คิด​อยู่​นี้​ไม่​ใช่​ความ​คิด​ของ​พระเจ้า แต่​เป็น​ความ​คิด​ของ​มนุษย์”—มัทธิว 16:21-23; กิจการ 1:6

2 การ​ที่​พระ​เยซู​พูด​อย่าง​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​แตกต่าง​จาก​ความ​คิด​ของ​โลก​ที่​ซาตาน​ปกครอง (1 ยอห์น 5:19) เปโตร​อยาก​ให้​พระ​เยซู​ทำ​ตาม​ความ​คิด​ที่​เห็น​แก่​ตัว​เหมือน​ที่​หลาย​คน​ใน​โลก​ทำ​กัน แต่​ท่าน​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​ท่าน​เตรียม​พร้อม​ที่​จะ​ทน​ทุกข์​และ​ตาย ซึ่ง​เหตุ​การณ์​นี้​กำลัง​จะ​เกิด​ขึ้น​อีก​ไม่​นาน คำ​ตอบ​ของ​พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ชัดเจน​ว่า​ท่าน​เห็น​ด้วย​กับ​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​ไม่​เอา​ความ​คิด​ของ​โลก​เลย

3. ทำไม​การ​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา​และ​ไม่​ยอม​คิด​แบบ​คน​ทั่ว​ไป​ใน​โลก​จึง​เป็น​เรื่อง​ยาก?

3 แล้ว​เรา​ล่ะ? เรา​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา​หรือ​คิด​เหมือน​คน​ทั่ว​ไป​ใน​โลก? เนื่อง​จาก​เรา​เป็น​คริสเตียน เรา​เลย​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​พอ​ใจ แต่​วิธี​คิด​ของ​เรา​ล่ะ? เรา​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​คิด​และ​มอง​สิ่ง​ต่าง ๆ อย่าง​ที่​พระองค์​มอง​ไหม? การ​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา​ต้อง​ใช้​ความ​พยายาม​มาก ใน​ขณะ​ที่​การ​คิด​เหมือน​คน​ทั่ว​ไป​ใน​โลก​แทบ​ไม่​ต้อง​พยายาม​เลย เพราะ​น้ำใจ​ของ​โลก​มี​อยู่​รอบ​ตัว​เรา และ​คน​ทั่ว​ไป​ใน​โลก​ก็​ชอบ​สนใจ​แต่​ตัว​เอง เรา​เลย​อาจ​จะ​คิด​เหมือน​พวก​เขา​ได้​ง่าย ๆ (เอเฟซัส 2:2) เห็น​ได้​ชัด​ว่า​การ​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​เรื่อง​ยาก แต่​การ​คิด​เหมือน​คน​ทั่ว​ไป​ใน​โลก​เป็น​เรื่อง​ง่าย

4. (ก) จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​เรา​ยอม​ให้​โลก​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​เรา? (ข) เรา​จะ​เรียน​อะไร​ใน​บทความ​นี้?

4 ถ้า​เรา​ปล่อย​ให้​โลก​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​ของ​เรา เรา​อาจ​เป็น​คน​ที่​เห็น​แก่​ตัว​และ​อยาก​ตัดสิน​ใจ​เอง​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด (มาระโก 7:21, 22) ดัง​นั้น สิ่ง​สำคัญ​ก็​คือ​เรา​ต้อง​เรียน​ที่​จะ ‘คิด​แบบ​พระเจ้า’ ไม่​ใช่ ‘คิด​แบบ​มนุษย์’ บทความ​นี้​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ทำ​แบบ​นี้​ได้ และ​เรา​จะ​มา​ดู​ว่า​ทำไม​การ​มอง​เรื่อง​ต่าง ๆ แบบ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​เป็น​การ​จำกัด​เสรีภาพ​ของ​เรา​มาก​เกิน​ไป แต่​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​เรา​จริง ๆ นอก​จาก​นั้น เรา​จะ​คุย​กัน​ว่า​เรา​จะ​ไม่​ให้​ความ​คิด​ของ​โลก​มี​อิทธิพล​ต่อ​เรา​ได้​อย่าง​ไร ใน​บทความ​ถัด​ไป​เรา​จะ​เรียน​ว่า​เรา​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​พระ​ยะโฮวา​คิด​อะไร​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ และ​เรา​จะ​คิด​เหมือน​พระองค์​ได้​อย่าง​ไร

ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ประโยชน์​กับ​เรา

5. ทำไม​บาง​คน​ไม่​อยาก​ให้​คน​อื่น​มี​อิทธิพล​ต่อ​พวก​เขา?

5 บาง​คน​ไม่​ชอบ​ให้​ใคร​ก็​ตาม​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​ของ​พวก​เขา พวก​เขา​บอก​ว่า “ฉัน​คิด​เอง​ได้” ซึ่ง​มัน​อาจ​หมาย​ความ​ว่า​พวก​เขา​อยาก​ตัดสิน​ใจ​เอง​และ​คิด​ว่า​มี​สิทธิ์​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น พวก​เขา​ไม่​อยาก​ให้​ใคร​มา​ควบคุม​หรือ​บังคับ​ให้​ทำ​เหมือน​คน​อื่น *

6. (ก) พระ​ยะโฮวา​ให้​เรา​มี​อิสระ​อะไร​บ้าง? (ข) เรา​มี​อิสระ​แบบ​ไม่​จำกัด​ไหม?

6 เรา​แน่​ใจ​ได้​ว่า​ถ้า​เรา​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา เรา​ก็​ยัง​มี​ความ​คิด​เป็น​ของ​ตัว​เอง​ได้ 2 โครินธ์ 3:17 บอก​ว่า “คน​ที่​ได้​รับ​พลัง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก็​มี​อิสระ” พระ​ยะโฮวา​ให้​อิสระ​กับ​เรา​ที่​จะ​เลือก​เอง​ว่า​เรา​อยาก​เป็น​คน​แบบ​ไหน เรา​ยัง​มี​ความ​ชอบ​ส่วน​ตัว​ได้​และ​เลือก​สิ่ง​ที่​เรา​สนใจ​ได้ พระ​ยะโฮวา​สร้าง​เรา​มา​แบบ​นี้ แต่​นี่​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​เรา​จะ​มี​อิสระ​แบบ​ไม่​จำกัด (อ่าน 1 เปโตร 2:16) พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​พึ่ง​คัมภีร์​ไบเบิล​เพื่อ​จะ​รู้​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด แต่​นี่​เป็น​การ​จำกัด​เสรีภาพ​เกิน​ไป​ไหม​หรือ​จริง ๆ แล้ว​มัน​เป็น​ประโยชน์​กับ​เรา?

7, 8. การ​มอง​เรื่อง​ต่าง ๆ อย่าง​ที่​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​มอง​เป็น​การ​จำกัด​เสรีภาพ​มาก​เกิน​ไป​ไหม? ขอ​ยก​ตัว​อย่าง

7 ให้​เรา​เปรียบ​เทียบ​อย่าง​นี้ พ่อ​แม่​พยายาม​สอน​มาตรฐาน​การ​ใช้​ชีวิต​ที่​ดี​ให้​กับ​ลูก พวก​เขา​อาจ​สอน​ให้​ลูก​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์ ขยัน และ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​คน​อื่น การ​ทำ​แบบ​นี้​ไม่​ใช่​การ​เข้มงวด​กับ​ลูก​เกิน​ไป​หรือ​จำกัด​เสรีภาพ​เขา​มาก​เกิน​ไป แต่​พ่อ​แม่​กำลัง​ช่วย​ลูก​ให้​โต​ขึ้น​เป็น​ผู้​ใหญ่​ที่​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ใน​ชีวิต เมื่อ​ลูก​โต​ขึ้น​และ​ออก​จาก​บ้าน​ไป ลูก​ก็​มี​อิสระ​ที่​จะ​เลือก​ด้วย​ตัว​เอง ถ้า​เขา​เลือก​จะ​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ที่​ดี​แบบ​ที่​พ่อ​แม่​เคย​สอน มัน​ก็​เป็น​ไป​ได้​มาก​ที​เดียว​ว่า​พวก​เขา​จะ​ตัดสิน​ใจ​ได้​ถูก​ต้อง ไม่​เกิด​ปัญหา​มาก​มาย​ใน​ชีวิต และ​ไม่​ต้อง​กังวล​หรือ​เสียใจ​กับ​หลาย ๆ เรื่อง

8 พระ​ยะโฮวา​เป็น​เหมือน​พ่อ​แม่​ที่​อยาก​ให้​ลูก​มี​ชีวิต​ที่​ดี​และ​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​สุด (อิสยาห์ 48:17, 18) พระองค์​เลย​สอน​หลักการ​พื้น​ฐาน​เกี่ยว​กับ​ศีลธรรม​ที่​ดี​และ​สอน​เรา​ว่า​ควร​ทำ​กับ​คน​อื่น​อย่าง​ไร พระองค์​อยาก​ให้​เรา​มอง​แบบ​ที่​พระองค์​มอง​และ​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ของ​พระองค์ นี่​ไม่​ได้​จำกัด​เสรีภาพ​เรา​มาก​เกิน​ไป แต่​มัน​ช่วย​ให้​เรา​ฉลาด​ขึ้น​และ​ตัดสิน​ใจ​เรื่อง​ต่าง ๆ ได้​ดี​ขึ้น (สดุดี 92:5; สุภาษิต 2:1-5; อิสยาห์ 55:9) เรา​ยัง​เลือก​สิ่ง​ที่​ชอบ​ได้​แถม​ยัง​ตัดสิน​ใจ​ใน​แบบ​ที่​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข (สดุดี 1:2, 3) เมื่อ​เรา​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​มาก​จริง ๆ

ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​เหนือ​กว่า

9, 10. อะไร​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​เหนือ​กว่า​ความ​คิด​ของ​โลก?

9 มี​อีก​เหตุ​ผล​หนึ่ง​ที่​ว่า​ทำไม​เรา​อยาก​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น นั่น​คือ​ความ​คิด​ของ​พระองค์​เหนือ​กว่า​ความ​คิด​ของ​โลก โลก​พยายาม​บอก​ว่า​ความ​ประพฤติ​แบบ​ไหน​ถูก​ต้อง ทำ​อย่าง​ไร​ครอบครัว​ถึง​จะ​มี​ความ​สุข และ​ทำ​อย่าง​ไร​ถึง​จะ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ใน​หน้า​ที่​การ​งาน และ​ยัง​มี​คำ​แนะ​นำ​อีก​สารพัด​อย่าง แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว คำ​แนะ​นำ​ของ​โลก​ไม่​ตรง​กับ​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา เช่น โลก​ชอบ​สนับสนุน​ว่า​ผล​ประโยชน์​ตัว​เอง​ต้อง​มา​ก่อน และ​บอก​ว่า​การ​ผิด​ศีลธรรม​เป็น​เรื่อง​ที่​ยอม​รับ​ได้ บาง​ครั้ง​ถึง​กับ​บอก​ว่า แม้​จะ​มี​ปัญหา​เล็ก ๆ น้อย ๆ ใน​ชีวิต​คู่ แต่​ถ้า​พวก​เขา​แยก​กัน​อยู่​หรือ​หย่า​กัน​ก็​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​กว่า นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​ตรง​ข้าม​กับ​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน แต่​เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​คำ​แนะ​นำ​บาง​อย่าง​ของ​โลก​ใน​ทุก​วัน​นี้​อาจ​ดี​กว่า​คำ​แนะ​นำ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล?

10 พระ​เยซู​บอก​ว่า “สติ​ปัญญา​ที่​แท้​จริง​ก็​เห็น​ได้​จาก​ผล​ที่​ปรากฏ​ออก​มา” (มัทธิว 11:19) แม้​เทคโนโลยี​ต่าง ๆ ของ​โลก​ก้าว​หน้า​ไป​มาก​แต่​ก็​ไม่​สามารถ​แก้​ปัญหา​ใหญ่ ๆ ที่​ทำ​ให้​คน​เรา​ไม่​มี​ความ​สุข​ได้ เช่น ปัญหา​เรื่อง​สงคราม การ​เหยียด​ผิว และ​อาชญากรรม นอก​จาก​นั้น คน​ใน​โลก​มอง​ว่า​การ​ผิด​ศีลธรรม​เป็น​เรื่อง​ที่​ยอม​รับ​ได้ แต่​ก็​มี​หลาย​คน​บอก​ว่า​การ​ผิด​ศีลธรรม​ทำลาย​ครอบครัว ทำ​ให้​เกิด​ปัญหา​สุขภาพ และ​มี​ผล​เสีย​ตาม​มา​หลาย​อย่าง แล้ว​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ล่ะ? คริสเตียน​ที่​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา​มี​ครอบครัว​ที่​มี​ความ​สุข​มาก​กว่า มี​สุขภาพ​ที่​ดี​กว่า และ​มี​สันติ​สุข​กับ​พี่​น้อง​ทั่ว​โลก (อิสยาห์ 2:4; กิจการ 10:34, 35; 1 โครินธ์ 6:9-11) นี่​เป็น​ข้อ​พิสูจน์​ว่า​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​เหนือ​กว่า​ความ​คิด​ของ​โลก​จริง ๆ

11. ใคร​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​ของ​โมเสส? และ​ผล​เป็น​อย่าง​ไร?

11 ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระ​ยะโฮวา​สมัย​ก่อน​รู้​ว่า​ความ​คิด​ของ​พระองค์​เหนือ​กว่า​จริง ๆ เช่น แม้​โมเสส​จะ​ได้​รับ​การ​สอน​เกี่ยว​กับ “วิชา​ความ​รู้​ทุก​อย่าง​ของ​ชาว​อียิปต์” แต่​เขา​ก็​รู้​ว่า​สติ​ปัญญา​แท้​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา (กิจการ 7:22; สดุดี 90:12) เขา​เลย​บอก​พระองค์​ว่า “ขอ​โปรด​ให้​ผม​รู้​จัก​แนว​ทาง​ของ​พระองค์” (อพยพ 33:13) เพราะ​โมเสส​ยอม​ให้​พระ​ยะโฮวา​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​เขา พระองค์​เลย​ใช้​เขา​ใน​วิธี​ที่​น่า​ทึ่ง​เพื่อ​ทำ​ให้​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์​เป็น​จริง และ​พระองค์​ก็​ให้​เกียรติ​เขา​โดย​พูด​ถึง​เขา​ว่า​เป็น​ตัว​อย่าง​ของ​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​มาก—ฮีบรู 11:24-27

12. เปาโล​ตัดสิน​ใจ​โดย​อาศัย​อะไร?

12 อัครสาวก​เปาโล​เป็น​คน​ที่​ฉลาด เขา​มี​การ​ศึกษา​ดี และ​พูด​ได้​อย่าง​น้อย​สอง​ภาษา เช่น ภาษา​กรีก​และ​ฮีบรู (กิจการ 5:34; 21:37, 39; 22:2, 3) ถึง​อย่าง​นั้น เขา​ไม่​ยอม​รับ​ความ​คิด​แบบ​โลก แต่​ตัดสิน​ใจ​โดย​อาศัย​พระ​คัมภีร์ (อ่าน​กิจการ 17:2; 1 โครินธ์ 2:6, 7, 13) เขา​เลย​ประสบ​ความ​สำเร็จ​อย่าง​มาก​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​และ​รอ​คอย​รางวัล​ที่​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป—2 ทิโมธี 4:8

13. การ​ปรับ​ความ​คิด​เพื่อ​จะ​มอง​สิ่ง​ต่าง ๆ แบบ​ที่​พระ​ยะโฮวา​มอง​เป็น​ความ​รับผิดชอบ​ของ​ใคร?

13 เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​เหนือ​กว่า​ความ​คิด​ของ​โลก ถ้า​เรา​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ของ​พระองค์ เรา​จะ​มี​ความ​สุข​แท้​และ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​จริง ๆ แต่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​บังคับ​ให้​เรา​คิด​เหมือน​พระองค์ “ทาส​ที่​ซื่อ​สัตย์​และ​สุขุม” ก็​ไม่​ควบคุม​ความ​คิด​ของ​เรา และ​ผู้​ดู​แล​ก็​ไม่​ทำ​แบบ​นั้น​ด้วย (มัทธิว 24:45; 2 โครินธ์ 1:24) การ​ปรับ​ความ​คิด​เพื่อ​จะ​มอง​สิ่ง​ต่าง ๆ แบบ​ที่​พระ​ยะโฮวา​มอง​เป็น​ความ​รับผิดชอบ​ของ​เรา​เอง แล้ว​เรา​จะ​ทำ​แบบ​นั้น​ได้​อย่าง​ไร?

อย่า​ยอม​ให้​โลก​นี้​มี​อิทธิพล​ต่อ​คุณ

14, 15. (ก) เรา​ต้อง​คิด​ใคร่ครวญ​เรื่อง​อะไร​เพื่อ​จะ​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา? (ข) ทำไม​เรา​ต้อง​ไม่​ยอม​ให้​ความ​คิด​แบบ​โลก​เข้า​มา​ใน​หัว​เรา? ขอ​ยก​ตัว​อย่าง

14 โรม 12:2 บอก​ว่า “เลิก​เลียน​แบบ​คน​ใน​โลก​นี้ แต่​ให้​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง​โดย​เปลี่ยน​ความ​คิด​ของ​คุณ​ใหม่ เพื่อ​คุณ​จะ​ได้​ตรวจ​ดู​จน​แน่​ใจ​ว่า​อะไร​คือ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ต้องการ​ให้​เรา​ทำ​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี สมบูรณ์ และ​ทำ​ให้​พระองค์​พอ​ใจ” ข้อ​นี้​สอน​ว่า​ไม่​ว่า​ความ​คิด​เรา​จะ​เป็น​แบบ​ไหน​ก่อน​เรียน​ความ​จริง เรา​เปลี่ยน​ความ​คิด​และ​คิด​ให้​เหมือน​กับ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น​ได้ แม้​กรรมพันธุ์​และ​ประสบการณ์​ใน​ชีวิต​จะ​มี​ผล​ต่อ​ความ​คิด​ของ​เรา​ใน​ระดับ​หนึ่ง แต่​ความ​คิด​ของ​เรา​เปลี่ยน​ได้​ตลอด แต่​จะ​เป็น​แบบ​ไหน​นั้น​ส่วน​ใหญ่​ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​เรา​เลือก​ที่​จะ​คิด​อะไร ถ้า​เรา​คิด​ใคร่ครวญ​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​จะ​ได้​ข้อ​พิสูจน์​ด้วย​ตัว​เอง​ว่า​ความ​คิด​ของ​พระองค์​ถูก​ต้อง​เสมอ และ​จะ​ทำ​ให้​เรา​อยาก​มอง​เรื่อง​ต่าง ๆ แบบ​ที่​พระองค์​มอง

15 เพื่อ​จะ​เปลี่ยน​ความ​คิด​ของ​เรา​ใหม่​ให้​เป็น​เหมือน​กับ​พระ​ยะโฮวา เรา​ต้อง “เลิก​เลียน​แบบ​คน​ใน​โลก​นี้” โดย​ไม่​ให้​โลก​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​เรา นี่​หมาย​ความ​ว่า​เรา​ต้อง​เลิก​ดู เลิก​อ่าน และ​เลิก​ฟัง​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​ขัด​กับ​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา เพื่อ​ช่วย​ให้​เรา​เข้าใจ​ว่า​เรื่อง​นี้​สำคัญ​ขนาด​ไหน ขอ​ให้​นึก​ถึง​ตัว​อย่าง​นี้ คน​หนึ่ง​อยาก​มี​สุขภาพ​ดี​ขึ้น​เลย​เลือก​กิน​อาหาร​ที่​ดี​ต่อ​สุขภาพ แต่​จะ​ไม่​มี​ประโยชน์​เลย​ถ้า​เขา​ยัง​กิน​อาหาร​ที่​บูด​เน่า​เป็น​ประจำ​ด้วย คล้าย​กัน ไม่​ว่า​เรา​จะ​พยายาม​แค่​ไหน​ที่​จะ​คิด​แบบ​พระ​ยะโฮวา แต่​ถ้า​เรา​ยอม​ให้​ความ​คิด​แบบ​โลก​เข้า​มา​ใน​หัว​เรา ความ​พยายาม​ของ​เรา​ก็​จะ​สูญ​เปล่า

16. เรา​ต้อง​ป้องกัน​ตัว​เอง​จาก​อะไร?

16 เรา​จะ​หลีก​เลี่ยง​ความ​คิด​แบบ​โลก​ร้อย​เปอร์เซ็นต์​เลย​ได้​ไหม? เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​ได้ เพราะ​ไม่​อย่าง​นั้น​เรา​ต้อง​ไป​อยู่​นอก​โลก เรา​แต่​ละ​คน​ได้​รับ​อิทธิพล​จาก​ความ​คิด​แบบ​โลก​อยู่​บ้าง​ไม่​มาก​ก็​น้อย (1 โครินธ์ 5:9, 10) แม้​แต่​ตอน​ที่​เรา​ไป​ประกาศ เรา​ก็​อาจ​ได้​ยิน​ความ​คิด​ที่​ไม่​ดี​และ​ความ​เชื่อ​แบบ​ผิด ๆ ถึง​เรา​จะ​หลีก​เลี่ยง​ความ​คิด​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​ไม่​ได้​ร้อย​เปอร์เซ็นต์ แต่​เรา​ต้อง​ไม่​เก็บ​เรื่อง​นั้น​มา​คิด​อยู่​เรื่อย ๆ หรือ​ยอม​รับ​ความ​คิด​แบบ​นั้น เรา​ควร​รีบ​กำจัด​ความ​คิด​แบบ​ซาตาน​ออก​ไป​เหมือน​ที่​พระ​เยซู​ทำ นอก​จาก​นั้น เรา​จะ​ป้องกัน​ตัว​เอง​ได้​โดย​ไม่​เปิด​รับ​ความ​คิด​แบบ​โลก​โดย​ไม่​จำเป็น—อ่าน​สุภาษิต 4:23

17. เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ไม่​เปิด​รับ​ความ​คิด​แบบ​โลก​โดย​ไม่​จำเป็น?

17 ตัว​อย่าง​เช่น เรา​ควร​ระวัง​เรื่อง​การ​เลือก​คบ​เพื่อน คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​ว่า​ถ้า​เรา​สนิท​กับ​คน​ที่​ไม่​ได้​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา เรา​ก็​จะ​เริ่ม​คิด​แบบ​พวก​เขา (สุภาษิต 13:20; 1 โครินธ์ 15:12, 32, 33) เรา​ควร​ระวัง​เรื่อง​การ​เลือก​ความ​บันเทิง​ด้วย ถ้า​เรา​ไม่​เลือก​ความ​บันเทิง​ที่​ส่ง​เสริม​เรื่อง​วิวัฒนาการ ความ​รุนแรง และ​การ​ผิด​ศีลธรรม เรา​ก็​จะ​หลีก​เลี่ยง​ความ​คิด​ที่ “ขัด​กับ​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า” ซึ่ง​เป็น​พิษ​กับ​ความ​คิด​ของ​เรา—2 โครินธ์ 10:5

เรา​สอน​ลูก​ไม่​ให้​ดู​ความ​บันเทิง​ที่​เป็น​อันตราย​ไหม? (ดู​ข้อ 18, 19)

18, 19. (ก) ทำไม​เรา​ต้อง​ระวัง​ความ​คิด​ของ​โลก​แบบ​แอบ​แฝง? (ข) มี​คำ​ถาม​อะไร​บ้าง​ที่​เรา​ต้อง​ถาม​ตัว​เอง? และ​ทำไม?

18 นอก​จาก​นั้น ยัง​มี​ความ​คิด​แบบ​โลก​ที่​สอด​แทรก​อยู่​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ ซึ่ง​อาจ​เป็น​แบบ​แอบ​แฝง​หรือ​ดู​ไม่​ออก​ใน​ทันที แต่​เรา​ต้อง​มอง​ให้​ออก​และ​ต้อง​ไม่​ยอม​รับ​ความ​คิด​แบบ​นั้น ตัว​อย่าง​เช่น ข่าว​ที่​นำ​เสนอ​แบบ​เอียง​ไป​ทาง​ขั้ว​การ​เมือง​ฝั่ง​หนึ่ง หรือ​คอลัมน์​ข่าว​ที่​ส่ง​เสริม​เป้าหมาย​และ​ความ​สำเร็จ​แบบ​โลก หนัง​หรือ​หนังสือ​ที่​ส่ง​เสริม​ความ​คิด​ที่​ว่า “ฉัน​ก่อน” หรือ “ครอบครัว​ต้อง​มา​ก่อน” คน​ที่​ทำ​หนัง​หรือ​หนังสือ​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​ความ​คิด​แบบ​นี้​ดู​มี​เหตุ​ผล น่า​สนใจ และ​ถึง​กับ​เป็น​เรื่อง​ที่​ถูก​ต้อง แต่​ความ​คิด​แบบ​นี้​ขัด​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล ซึ่ง​บอก​ว่า​เรา​กับ​ครอบครัว​จะ​มี​ความ​สุข​จริง ๆ ก็​ต่อ​เมื่อ​เรา​รัก​พระ​ยะโฮวา​มาก​กว่า​ทุก​สิ่ง (มัทธิว 22:36-39) นอก​จาก​นั้น ยัง​มี​การ์ตูน หนัง และ​หนังสือ​สำหรับ​เด็ก​ที่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​ดู​เหมือน​ไม่​มี​พิษ​มี​ภัย​อะไร แต่​ก็​อาจ​สอด​แทรก​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เด็ก​ยอม​รับ​การ​ทำ​ผิด​ศีลธรรม

19 นี่​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​เรา​จะ​สนใจ​ความ​บันเทิง​ที่​ดี​ไม่​ได้​เลย แต่​เรา​ต้อง​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ฉัน​มอง​ออก​ไหม​ว่า​ความ​บันเทิง​นี้​มี​ความ​คิด​แบบ​โลก​แฝง​อยู่? ฉัน​จำกัด​การ​ดู​ทีวี​หรือ​อ่าน​หนังสือ​ของ​ฉัน​และ​ของ​ลูก ๆ ไหม หรือ​เรา​ดู​และ​อ่าน​ทุก​อย่าง​โดย​ไม่​เลือก? ไม่​ว่า​ลูก​จะ​ฟัง​หรือ​ดู​อะไร ฉัน​สอน​ลูก​ให้​มอง​สิ่ง​ต่าง ๆ แบบ​พระ​ยะโฮวา​ไหม​เพื่อ​ลูก​จะ​ไม่​ได้​รับ​อิทธิพล​จาก​ความ​คิด​ของ​โลก?’ ถ้า​เรา​แยก​ออก​ว่า​อัน​ไหน​เป็น​ความ​คิด​แบบ​พระเจ้า​หรือ​อัน​ไหน​เป็น​ความ​คิด​แบบ​โลก เรา​ก็​จะ​ไม่ “เลียน​แบบ​คน​ใน​โลก​นี้” และ​ความ​คิด​แบบ​โลก​ก็​จะ​ไม่​มี​อิทธิพล​ต่อ​เรา

ใคร​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​ของ​คุณ​ตอน​นี้?

20. เรา​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​ใคร​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​เรา?

20 เรา​ต้อง​จำ​ไว้​ว่า​ข้อมูล​ทุก​อย่าง​ใน​โลก​มา​จาก 2 แหล่ง​เท่า​นั้น แหล่ง​หนึ่ง​คือ​พระ​ยะโฮวา อีก​แหล่ง​คือ​ซาตาน​และ​โลก​ของ​มัน ใคร​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​คุณ? คำ​ตอบ​อยู่​ที่​ว่า​คุณ​รับ​ข้อมูล​มา​จาก​แหล่ง​ไหน ถ้า​เรา​รับ​ความ​คิด​แบบ​โลก โลก​ก็​จะ​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​เรา มัน​จะ​ทำ​ให้​เรา​เป็น​คน​เห็น​แก่​ตัว จึง​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​มาก​ที่​เรา​ต้อง​เลือก​สิ่ง​ต่าง ๆ อย่าง​ระมัดระวัง​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​สิ่ง​ที่​เรา​ดู อ่าน ฟัง และ​คิด

21. เรา​จะ​คุย​เรื่อง​อะไร​ใน​บทความ​ต่อ​ไป?

21 ใน​บทความ​นี้​เรา​ได้​เรียน​ไป​แล้ว​ว่า เพื่อ​จะ​คิด​เหมือน​พระ​ยะโฮวา เรา​ต้อง​หลีก​เลี่ยง​ความ​คิด​แบบ​โลก​และ​ต้อง​คิด​ใคร่ครวญ​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​จะ​คิด​เหมือน​พระองค์​มาก​ขึ้น ใน​บทความ​หน้า​จะ​เรียน​ว่า​เรา​จะ​ทำ​แบบ​นี้​ได้​อย่าง​ไร

^ วรรค 5 ที่​จริง แม้​แต่​คน​ที่​เป็น​ตัว​ของ​ตัว​เอง​ที่​สุด​ก็​ได้​รับ​อิทธิพล​จาก​คน​อื่น​ด้วย ตัว​อย่าง​เช่น ไม่​ว่า​เรา​จะ​คิด​เรื่อง​ที่​ลึกซึ้ง เช่น ชีวิต​เกิด​ขึ้น​มา​ได้​อย่าง​ไร หรือ​จะ​คิด​เรื่อง​ง่าย ๆ เช่น จะ​ใส่​เสื้อ​ผ้า​ชุด​ไหน คน​อื่น​ก็​มี​อิทธิพล​ต่อ​เรา​ทั้ง​นั้น​ไม่​มาก​ก็​น้อย ถึง​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น เรา​เลือก​ได้​ว่า​จะ​ให้​ใคร​มี​อิทธิพล​ต่อ​เรา