บทความศึกษา 45
เพลง 138 ผมหงอกที่สวยงาม
เรียนจากคำพูดสุดท้ายของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์
“ยิ่งมีอายุ ยิ่งมีสติปัญญา และยิ่งอายุยืน ก็ยิ่งมีความเข้าใจไม่ใช่หรือ?”—โยบ 12:12
จุดสำคัญ
การเชื่อฟังพระยะโฮวาทำให้เราได้รับพรตั้งแต่ในตอนนี้และจะทำให้เราได้ชีวิตตลอดไปในอนาคต
1. ทำไมเราควรเรียนจากพี่น้องที่สูงอายุ?
เราทุกคนต้องการคำแนะนำดี ๆ เพื่อจะตัดสินใจได้อย่างฉลาด เราสามารถหาคำแนะนำดี ๆ ได้จากผู้ดูแลและพี่น้องคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ถ้าพวกเขาอายุมากแล้ว เราไม่ควรคิดว่าคำแนะนำของพวกเขาล้าสมัย พระยะโฮวาอยากให้เราเรียนจากพี่น้องที่สูงอายุเพราะพวกเขาผ่านอะไรมาเยอะก็เลยมีประสบการณ์ ความเข้าใจ และสติปัญญามากกว่าเรา—โยบ 12:12
2. เราจะเรียนอะไรในบทความนี้?
2 ในสมัยคัมภีร์ไบเบิล พระยะโฮวาใช้ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ในอดีต อย่างเช่น โมเสส ดาวิด และอัครสาวกยอห์นเพื่อให้กำลังใจและชี้นำประชาชนของพระองค์ พวกเขามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันและสภาพการณ์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ในช่วงท้าย ๆ ที่พวกเขามีชีวิตอยู่พวกเขาได้ให้คำแนะนำที่ฉลาดกับคนที่อายุน้อย ทั้ง 3 คนเน้นถึงความสำคัญของการเชื่อฟังพระยะโฮวา และพระองค์ก็ได้ให้มีบันทึกคำพูดของพวกเขาเพื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับเราในทุกวันนี้ ไม่ว่าเราจะอายุน้อยหรืออายุมากเราก็จะได้รับประโยชน์ถ้าเราดูคำแนะนำของพวกเขา (รม. 15:4; 2 ทธ. 3:16) ในบทความนี้เราจะมาดูคำพูดสุดท้ายของทั้ง 3 คนนี้ และดูว่าเราได้เรียนอะไรบ้างจากคำพูดของพวกเขา
“พระยะโฮวาจะทำให้คุณมีชีวิตยืนยาว”
3. โมเสสทำหน้าที่อะไรบ้าง?
3 โมเสสรับใช้พระยะโฮวาเต็มที่ตลอดชีวิตของเขา เขาทำหน้าที่เป็น ผู้พยากรณ์ ผู้พิพากษา ผู้บัญชาการ และนักประวัติศาสตร์ โมเสสมีประสบการณ์เยอะมากจริง ๆ เขาพาชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์เพื่อให้พ้นจากการเป็นทาส และเขาได้เห็นการอัศจรรย์ของพระยะโฮวาด้วยตาของตัวเอง พระยะโฮวาใช้เขาให้เขียนหนังสือ 5 เล่มแรกในคัมภีร์ไบเบิล หนังสือสดุดีบท 90 และเขาน่าจะเขียนหนังสือสดุดีบท 91 และหนังสือโยบด้วย
4. โมเสสให้กำลังใจใคร? และเพื่ออะไร?
4 โมเสสตายตอนอายุ 120 ปี ไม่นานก่อนที่เขาจะตาย เขาเรียกชาวอิสราเอลทุกคนมาเพื่อช่วยให้พวกเขาไม่ลืมสิ่งที่พระยะโฮวาเคยทำเพื่อพวกเขา บางคนเคยได้เห็นพระยะโฮวาทำการอัศจรรย์หลายอย่าง และได้เห็นพระองค์พิพากษาลงโทษชาวอียิปต์ (อพย. 7:3, 4) พวกเขาเคยเดินผ่านทะเลแดงที่ถูกแยกออกและเห็นกองทัพของฟาโรห์ถูกทำลาย (อพย. 14:29-31) ตอนที่อยู่ในที่กันดาร พวกเขาก็ได้เห็นว่าพระยะโฮวาคอยดูแลปกป้องพวกเขายังไงบ้าง (ฉธบ. 8:3, 4) ตอนนี้ชาวอิสราเอลกำลังจะเข้าสู่แผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา โมเสสเลยใช้โอกาสสุดท้ายนี้เพื่อจะให้กำลังใจพวกเขา a
5. คำพูดสุดท้ายของโมเสสที่เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19, 20 ให้คำรับรองอะไรกับชาวอิสราเอล?
5 โมเสสพูดอะไร? (อ่านเฉลยธรรมบัญญัติ 30:19, 20) โมเสสบอกกับชาวอิสราเอลว่าพวกเขามีความหวังที่ดีในอนาคต พระยะโฮวาจะอวยพรพวกเขาให้มีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่พระองค์สัญญา แผ่นดินนั้นสวยงามมากและอุดมสมบูรณ์ โมเสสบอกกับชาวอิสราเอลว่า “แผ่นดินนั้นมีเมืองที่ใหญ่โตและสวยงามที่คุณไม่ได้สร้าง มีบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยของมีค่าทุกอย่างซึ่งคุณไม่ได้หามาเอง มีบ่อเก็บน้ำซึ่งคุณไม่ได้ขุด มีสวนองุ่นและต้นมะกอกซึ่งคุณไม่ได้ปลูก”—ฉธบ. 6:10, 11
6. ทำไมพระเจ้ายอมให้ชาติอื่น ๆ เอาชนะชาติอิสราเอล?
6 โมเสสยังให้คำเตือนกับชาวอิสราเอลด้วย เขาบอกว่าถ้าชาวอิสราเอลอยากอยู่ในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาต่อไปเรื่อย ๆ พวกเขาต้องเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์ โมเสสกระตุ้นพวกเขาให้ “เลือกเอาชีวิต” โดยการฟังพระยะโฮวาและ “ซื่อสัตย์ต่อพระองค์เสมอ” แต่ชาวอิสราเอลไม่เชื่อฟังพระยะโฮวา ในที่สุดพระองค์ก็เลยปล่อยให้ชาวอัสซีเรียเอาชนะอิสราเอล 10 ตระกูลและต่อมาชาวบาบิโลนก็เอาชนะอีก 2 ตระกูลและจับพวกเขาไปเป็นเชลย—2 พก. 17:6-8, 13, 14; 2 พศ. 36:15-17, 20
7. เราได้เรียนอะไรจากคำพูดของโมเสส? (ดูภาพด้วย)
7 เราได้เรียนอะไร? การเชื่อฟังทำให้ได้ชีวิต เหมือนกับชาวอิสราเอลที่กำลังจะได้เข้าแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา เราก็กำลังจะได้เข้าโลกใหม่ที่พระเจ้าสัญญาด้วย ซึ่งในตอนนั้นเราจะได้เห็นทั้งโลกกลายเป็นสวนอุทยาน (อสย. 35:1; ลก. 23:43) มารซาตานและพรรคพวกของมันจะถูกทำลาย (วว. 20:2, 3) จะไม่มีศาสนาเท็จที่ทำให้คนห่างจากพระยะโฮวาอีกต่อไป (วว. 17:16) จะไม่มีรัฐบาลของมนุษย์ที่กดขี่ประชาชน (วว. 19:19, 20) และในสวนอุทยานจะไม่มีคนที่กบฏต่อต้านพระยะโฮวา (สด. 37:10, 11) ทุกคนจะเชื่อฟังกฎหมายของพระองค์ ซึ่งนี่จะทำให้ทั้งโลกมีแต่ความสงบสุขและเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนจะรักและไว้ใจกัน (อสย. 11:9) นี่เป็นความหวังที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ยิ่งกว่านั้นถ้าเราเชื่อฟังพระยะโฮวา เราจะได้อยู่ในสวนอุทยานไม่ใช่แค่เป็นร้อย ๆ ปีเท่านั้น แต่ตลอดไป—สด. 37:29; ยน. 3:16
8. คำสัญญาเรื่องชีวิตตลอดไปช่วยมิชชันนารีคนหนึ่งที่รับใช้มานานยังไง? (ยูดา 20, 21)
8 ถ้าเราคิดถึงคำสัญญาของพระเจ้าเรื่องชีวิตตลอดไปอยู่เสมอ เราก็จะอยากเชื่อฟังพระองค์ไม่ว่าเราจะเจอกับปัญหาอะไรก็ตาม (อ่านยูดา 20, 21) คำสัญญานั้นยังช่วยให้เราสู้กับความอ่อนแอของตัวเองด้วย มิชชันนารีคนหนึ่งที่รับใช้มานานในแอฟริกาต้องต่อสู้กับจุดอ่อนของตัวเองอยู่เรื่อย ๆ เขาบอกว่า “ผมคิดอยู่เสมอว่าถ้าผมไม่เชื่อฟังพระยะโฮวา ผมจะไม่ได้ชีวิตตลอดไป นี่ช่วยให้ผมตั้งใจแน่วแน่ที่จะต่อสู้กับจุดอ่อนของตัวเองและพึ่งพระยะโฮวาโดยการอธิษฐานอยู่เสมอ ถ้าพระองค์ช่วย ผมก็จะเอาชนะจุดอ่อนนี้ได้แน่นอน”
“ลูกจะประสบความสำเร็จ”
9. ดาวิดเจอกับปัญหาอะไรบ้างในชีวิต?
9 ดาวิดเป็นกษัตริย์ที่ดีมาก เขายังเป็นนักดนตรี นักกวี นักรบ และเป็นผู้พยากรณ์ด้วย เขาเจอกับปัญหาหลายอย่างในชีวิต เช่น เขาต้องหนีการตามล่าของกษัตริย์ซาอูลนานหลายปี และหลังจากที่ดาวิดได้เป็นกษัตริย์แล้ว เขาต้องหนีอีกครั้งตอนที่อับซาโลมลูกชายของเขาต้องการที่จะแย่งบัลลังก์ แม้ดาวิดต้องรับมือกับปัญหาหลายอย่างและเคยทำผิดพลาดร้ายแรง แต่เขาก็ยังซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาจนวันตาย พระองค์มองดาวิดว่าเป็น “คนที่ [พระองค์] พอใจ” ดังนั้น เราควรฟังคำแนะนำที่ฉลาดของดาวิด—กจ. 13:22; 1 พก. 15:5
10. ทำไมดาวิดให้คำแนะนำกับโซโลมอนก่อนที่เขาจะขึ้นเป็นกษัตริย์?
10 ให้เรามาดูคำแนะนำบางอย่างที่ดาวิดให้กับโซโลมอนลูกชายของเขาซึ่งจะเป็นกษัตริย์คนต่อไปของชาติอิสราเอล พระยะโฮวาเลือกโซโลมอนให้สร้างวิหารเพื่อประชาชนจะมานมัสการพระองค์ได้ (1 พศ. 22:5) โซโลมอนมีงานหลายอย่างที่ต้องทำ และเขายังต้องได้รับการช่วยเหลือจากพระยะโฮวาเพื่อจะนำหน้าชาวอิสราเอลได้ แล้วดาวิดพูดอะไรกับโซโลมอน? ให้เรามาดูด้วยกัน
11. อย่างที่บอกไว้ใน 1 พงศ์กษัตริย์ 2:2, 3 ดาวิดให้คำรับรองอะไรกับโซโลมอน? และคำพูดเหล่านั้นเป็นจริงยังไง? (ดูภาพด้วย)
11 ดาวิดพูดอะไร? (อ่าน 1 พงศ์กษัตริย์ 2:2, 3) ดาวิดบอกโซโลมอนว่าถ้าเขาเชื่อฟังพระยะโฮวา เขาจะประสบความสำเร็จ และเป็นเวลาหลายปีที่พระยะโฮวาช่วยโซโลมอนให้ประสบความสำเร็จอย่างมาก (1 พศ. 29:23-25) เขาสร้างวิหารที่สวยงามและเขียนหนังสือหลายเล่มในคัมภีร์ไบเบิล เขามีชื่อเสียงว่ามีสติปัญญาและร่ำรวยมาก (1 พก. 4:34) แต่เหมือนกับที่ดาวิดบอกไว้ โซโลมอนจะประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อเขาเชื่อฟังพระยะโฮวา น่าเศร้าที่ช่วงท้ายชีวิตของโซโลมอน เขา นมัสการพระเท็จ พระยะโฮวาเลยไม่พอใจเขาอีกต่อไป และพระองค์ไม่ได้ให้เขามีสติปัญญาที่จะปกครองอย่างยุติธรรมและถูกต้องชอบธรรม—1 พก. 11:9, 10; 12:4
12. เราได้เรียนอะไรจากคำพูดของดาวิด?
12 เราได้เรียนอะไร? การเชื่อฟังทำให้ประสบความสำเร็จ (สด. 1:1-3) แน่นอนว่าพระยะโฮวาไม่ได้สัญญาที่จะให้เราร่ำรวยและมีชื่อเสียงเหมือนกับโซโลมอน แต่ถ้าเราเชื่อฟังพระองค์ พระองค์จะให้สติปัญญาเพื่อเราจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง (สภษ. 2:6, 7; ยก. 1:5) คำแนะนำของพระยะโฮวาช่วยเราได้ตอนที่เราต้องตัดสินใจเรื่องงานอาชีพ การเรียนต่อ การเลือกความบันเทิง และเรื่องเงิน ถ้าเราเอาคำแนะนำของพระองค์มาใช้ก็จะช่วยปกป้องสายสัมพันธ์ที่เรามีกับพระยะโฮวาและเราจะได้ชีวิตตลอดไป (สภษ. 2:10, 11) นอกจากนี้ เราจะสนิทกับเพื่อนร่วมความเชื่อ และเราจะได้รับคำแนะนำที่ช่วยให้ครอบครัวมีความสุข
13. อะไรช่วยให้คาร์เมนประสบความสำเร็จในชีวิต?
13 คาร์เมนที่อยู่ในโมซัมบิกคิดว่าการเรียนสูง ๆ จะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต เธอเลยเข้ามหาวิทยาลัยและเรียนสาขาสถาปัตยกรรม เธอบอกว่า “ฉันชอบเรียนสถาปัตย์มาก แต่มันต้องใช้เวลาและกำลังเยอะ ฉันต้องไปเรียนตั้งแต่ 7 โมงครึ่งถึง 6 โมงเย็น มันยากมากที่จะไปประชุม และความเชื่อของฉันก็ค่อย ๆ อ่อนแอลง ฉันยอมรับว่าฉันกำลังรับใช้นายสองคน” (มธ. 6:24) เธออธิษฐานเกี่ยวกับสถานการณ์ของเธอและค้นคว้าในหนังสือขององค์การ เธอบอกต่ออีกว่า “หลังจากที่ฉันได้รับคำแนะนำที่ดีจากผู้ดูแลและจากแม่ ฉันก็ตัดสินใจที่จะออกจากมหาวิทยาลัยและรับใช้พระยะโฮวาเต็มเวลา นี่ช่วยฉันให้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ฉันไม่เสียใจเลยค่ะ”
14. จุดสำคัญของเรื่องที่โมเสสและดาวิดสอนคืออะไร?
14 โมเสสและดาวิดรักพระยะโฮวาและเห็นค่าการเชื่อฟังพระองค์มาก ในคำพูดสุดท้ายพวกเขาได้กระตุ้นคนอื่น ๆ ให้ทำตามตัวอย่างของพวกเขาและรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาเสมอ พวกเขายังเตือนด้วยว่าถ้าใครไม่เชื่อฟังพระยะโฮวา คนนั้นจะไม่ได้เป็นเพื่อนกับพระองค์และจะไม่ได้รับการอวยพรตามที่พระองค์สัญญาไว้ คำแนะนำของพวกเขาก็ใช้ได้กับเราในทุกวันนี้ ด้วย ต่อไปให้เรามาดูคำแนะนำของผู้รับใช้ของพระยะโฮวาอีกคนหนึ่งซึ่งอธิบายว่าการรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาสำคัญขนาดไหน
“สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด”
15. อัครสาวกยอห์นมีประสบการณ์อะไรบ้างในชีวิต?
15 ยอห์นเป็นอัครสาวกที่พระเยซูคริสต์รักมาก (มธ. 10:2; ยน. 19:26) ยอห์นทำงานรับใช้ร่วมกับพระเยซู ได้เห็นท่านทำการอัศจรรย์หลายอย่าง และอยู่เคียงข้างท่านตอนที่ท่านเจอความยากลำบาก ยอห์นเห็นพระเยซูถูกประหารและต่อมาก็มีโอกาสได้เจอกับพระเยซูที่ฟื้นขึ้นจากตายแล้ว เขายังได้เห็นประชาคมคริสเตียนเติบโตขึ้นและมีชีวิตอยู่นานพอจนได้เห็นว่าข่าวดีได้รับการ “ประกาศไปทุกแห่งทั่วใต้ฟ้า”—คส. 1:23
16. มีใครบ้างได้ประโยชน์จากจดหมายของยอห์น?
16 ตอนที่ยอห์นอายุมากแล้ว พระยะโฮวาให้เขามีสิทธิพิเศษได้เขียนหนังสือต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล เช่น เขาได้รับการดลใจให้เขียนหนังสือวิวรณ์ (วว. 1:1) เขายังได้เขียนหนังสือข่าวดีเล่มหนึ่งและเขียนจดหมายที่ได้รับการดลใจอีก 3 ฉบับ ในจดหมายฉบับที่ 3 เขาเขียนถึงคริสเตียนที่ซื่อสัตย์คนหนึ่งที่ชื่อกายอัสที่เขารักเหมือนลูก (3 ยน. 1) ตอนนั้นคงมีคริสเตียนหลายคนที่ยอห์นมองว่าเป็นเหมือนลูกของเขา สิ่งที่ยอห์นเขียนได้ให้กำลังใจสาวกของพระเยซูทุกคนรวมทั้งพวกเราในทุกวันนี้ด้วย
17. อย่างที่บอกไว้ใน 3 ยอห์น 4 อะไรทำให้มีความสุข?
17 ยอห์นเขียนอะไร? (อ่าน 3 ยอห์น 4) ยอห์นบอกว่าเขามีความสุขที่ได้เห็นพี่น้องเชื่อฟังพระยะโฮวา ตอนที่ยอห์นเขียนจดหมายฉบับที่ 3 มีบางคนเริ่มแพร่คำสอนเท็จและทำให้เกิดความแตกแยกในประชาคม แต่ก็มีคริสเตียนอีกหลายคนที่ยังคง “ใช้ชีวิตตามความจริง” พวกเขาเชื่อฟังพระยะโฮวาและ “ใช้ชีวิตตามกฎหมายของพระองค์” (2 ยน. 4, 6) คริสเตียนที่ซื่อสัตย์เหล่านี้ไม่เพียงทำให้ยอห์นมีความสุขเท่านั้น แต่ยังทำให้พระยะโฮวามีความสุขด้วย—สภษ. 27:11
18. เราได้เรียนอะไรจากคำพูดของยอห์น?
18 เราได้เรียนอะไร? การรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาทำให้มีความสุข (1 ยน. 5:3) ตัวอย่างเช่น เรามีความสุขที่รู้ว่าเราทำให้พระยะโฮวาดีใจ พระยะโฮวามีความสุขมากที่เห็นเราสามารถต้านทานการล่อใจจากโลกของซาตานได้และเชื่อฟังพระองค์เสมอ (สภษ. 23:15) และทูตสวรรค์ก็มีความสุขด้วยที่เห็นเรา ทำแบบนั้น (ลก. 15:10) นอกจากนั้น เราดีใจที่เห็นพี่น้องของเรารักษาความซื่อสัตย์แม้จะเจอความยากลำบากและการล่อใจ (2 ธส. 1:4) เมื่อเราอยู่ในโลกใหม่ เราจะภูมิใจที่เห็นว่าที่ผ่านมาเราได้ซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวาเสมอแม้จะอยู่ในโลกชั่วของซาตาน
19. พี่น้องหญิงที่ชื่อเรเชลรู้สึกยังไงกับการสอนความจริงให้คนอื่น? (ดูภาพด้วย)
19 นอกจากนั้น การสอนความจริงให้คนอื่นยิ่งทำให้เรามีความสุขมาก ให้เรามาดูตัวอย่างของพี่น้องหญิงคนหนึ่งที่ชื่อเรเชลซึ่งอาศัยอยู่ที่สาธารณรัฐโดมินิกัน เธอรู้สึกว่าการสอนคนอื่นเรื่องพระยะโฮวาเป็นสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่มาก เมื่อพูดถึงคนที่เธอช่วยให้เข้ามาเป็นพยานฯ เธอบอกว่า “ฉันอธิบายไม่ถูกเลยค่ะว่ามีความสุขขนาดไหนที่เห็นนักศึกษาค่อย ๆ รักพระยะโฮวามากขึ้นและไว้วางใจพระองค์ ฉันดีใจมากที่เห็นพวกเขาปรับเปลี่ยนชีวิตเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจ ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างที่ลงแรงและเสียสละมันคุ้มค่าจริง ๆ เพราะมันทำให้ฉันมีความสุขมาก”
ได้ประโยชน์จากคำพูดสุดท้ายของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์
20. เรามีอะไรที่เหมือนกับโมเสส ดาวิด และยอห์น?
20 แม้โมเสส ดาวิด และยอห์นอยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างจากเราและสภาพการณ์ในชีวิตของพวกเขาก็ไม่เหมือนกับเรา แต่พวกเขาก็มีหลายอย่างที่คล้ายกับเรา เช่น พวกเขารับใช้พระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้ พวกเขาอธิษฐาน ไว้วางใจพระองค์ และขอการชี้นำจากพระองค์เหมือนที่เราทำ นอกจากนั้น เราก็ยังเหมือนกับพวกเขาตรงที่เรามั่นใจว่าพระยะโฮวาจะอวยพรเรามากมายถ้าเราเชื่อฟังพระองค์
21. คนที่ทำตามคำแนะนำของโมเสส ดาวิด และยอห์นจะได้พรอะไร?
21 ดังนั้น ให้เราสนใจและทำตามคำพูดสุดท้ายของผู้ชายทั้ง 3 คนนี้โดยเชื่อฟังพระยะโฮวา แล้วทุกอย่างที่เราทำจะประสบความสำเร็จ เราจะ “มีชีวิตยืนยาว” ซึ่งก็คือตลอดไป (ฉธบ. 30:20) และเราจะมีความสุขที่ทำให้พระยะโฮวาพระเจ้าพอใจ พระองค์จะให้รางวัลเรามากมายเกินกว่าที่เราจะนึกภาพออกได้—อฟ. 3:20
เพลง 129 เราจะอดทนต่อ ๆ ไป
a ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ที่เห็นพระยะโฮวาทำการอัศจรรย์ที่ทะเลแดงไม่ได้มีชีวิตอยู่จนได้เข้าไปในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา (กดว. 14:22, 23) พระยะโฮวาบอกว่าทุกคนที่ได้ขึ้นทะเบียนซึ่งมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปจะต้องตายอยู่ในที่กันดาร (กดว. 14:29) แต่โยชูวา คาเลบ และคนรุ่นต่อมาของอิสราเอลตระกูลต่าง ๆ รวมทั้งตระกูลเลวี มีชีวิตอยู่จนได้เห็นพระยะโฮวาทำให้คำสัญญาเป็นจริงตอนที่พวกเขาข้ามแม่น้ำจอร์แดนเพื่อเข้าไปในเขตแดนคานาอัน—ฉธบ. 1:24-40
b คำอธิบายภาพ ภาพซ้าย ดาวิดให้คำแนะนำสุดท้ายกับโซโลมอนลูกชายของเขา ภาพขวา นักเรียนในโรงเรียนไพโอเนียร์ได้ประโยชน์จากโครงการสอนขององค์การของพระยะโฮวา